บทที่ 7 ดีที่ได้เขาช่วย
by จักรพรรดิTV
08:01,Feb 18,2021
ฮั่วปู้ฝานหัวเราะและคิดว่านี่เป็นคำชมหรือคำด่ากันนะ?
หลังจากนั้นไม่นานหนิงอี้หลินก็พาฮั่วปู้ฝานไปที่โกดังของโรงงาน
ประตูโกดังเปิดออกและมีลุงยามนั่งตากแดดอยู่ที่นั่น
หนิงอี้หลินดูนาฬิกาของตัวเองแล้วพูดกับฮั่วปู้ฝานว่า: "ฉันจะไปหาหัวหน้า นายรออยู่ที่นี่ก่อนนะ"
"แล้วถ้าลูกค้ามาล่ะ?" ฮั่วปู้ฝานถามเพราะที่นี่ไม่มีพนักงานเลยซักคน หรือจะให้ลุงที่อายุหกสิบเจ็ดสิบคนนั้นต้อนรับ?
"ถ้ามานายก็รับมือไปก่อน นายเคยเรียนจิตวิทยามานี่แค่ถ่วงเวลาก็น่าจะทำได้แหละนะ เอ้อแล้วก็อย่าพูดอะไรไม่รู้เรื่องกับลูกค้าละ ถ้ากลับมาแล้วนายทำพัง ฉันจะเอานายให้ถึงตายเลย!"หนิงอี้หลินพูดขู่
ฮั่วปู้ฝานมองเขาอย่างเอือมๆ หนิงอี้หลินไม่พูดอะไรมากมายและรีบไปที่สำนักงานของหัวหน้า
เมื่อไม่มีอะไรทำ ฮั่วปู้ฝานก็เดินไปรอบๆโกดัง ลุงยามที่เฝ้าประตูอาจจะเห็นว่าเขาเป็นคนที่หนิงอี้หลินพามาเลยไม่ได้สนใจอะไรนัก
ในโกดังมีสินค้าใหม่จำนวนมากกองอยู่และมีสินค้าคงคลังจำนวนมาก เครื่องจักรในโรงงานที่อยู่ไม่ไกลก็ทำงานอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าตอนนี้โรงงานมีแรงกดดันสูงมาก
เครื่องจักรหยุดทำงานไม่ได้และสินค้าก็ยังขายไม่ได้ ไม่แปลกใจที่การสัั่งซื้อหลายหมื่นสามารถทำให้หนิงอี้หลินดีใจมากขนาดนี้
ฮั่วปู้ฝานหยิบผลิตภัณฑ์ที่อยู่ข้างๆเขาออกมาจากกล่องที่ไม่ได้ปิดผนึกและดูมันอย่างละเอียดมันเป็นเครื่องทำน้ำอุ่น
ถึงแม้ว่าโรงงานแห่งนี้จะไม่ใหญ่ แต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็ค่อนข้างดีทีเดียว
งานละเอียดมากและวัสดุที่ใช้ก็ดีมากถ้าใส่ป้ายแบรนด์ใหญ่ดัง ราคาอาจจะเพิ่มเป็นสองเท่าหรือสามเท่าได้เลยทีเดียว
ในตอนนั้นเสียงของรถที่อยู่ด้านนอกโกดังดังเข้ามาในหู ฮั่วปู้ฝานจึงหันไปมองและเห็นชายวัยกลางคนในชุดสูทกำลังก้าวลงมาจากรถจี๊ปรุ่นเก่า
เพราะเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ฮั่วปู้ฝานจึงวางสินค้าในมือของเขากลับเข้าไปในกล่องและเดินออกไป
เมื่อชายคนนั้นเห็นเขาออกมาจากโกดังก็กวักมือเรียกและถามว่า:"สินค้าใหม่ของคุณอยู่ที่โกดังนี้หรือเปล่า?"
น้ำเสียงของอีกฝ่ายแข็งแกร่งมากและเขาไม่ได้ถามว่าฮั่วปู้ฝานเป็นใครหรือแนะนำว่าเขาเป็นใครเขาก็เข้าเรื่องโดยทันที
ฮั่วปู้ฝานสามารถเดาได้ว่าเขาคือใคร จึงพยักหน้าและพูดว่า: "ใช่ครับ"
"พาฉันไปดูซิ" ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนออกคำสั่ง
ฮั้วปู้ฝานไม่สนใจ พาเขาเข้าไปในโกดังและหยิบเครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้าแบบติดผนังออกจากกล่องเพื่อแสดงให้เขาเห็น
ชายวัยกลางคนมองมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้ววางมันลง จากการแสดงออกของเขาฮั่วปู้ฝานสามารถเห็นถึงความลังเลใจ
เห็นได้ชัดว่าลูกค้ามีบุคลิกแข็งแกร่งและไม่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของโรงงานเล็กๆแห่งนี้เท่าไหร่นัก สั่ง30ชิ้นเพื่อไปลองถือว่าใจกล้ามาก
ฮั่วปู้ฝานเหลือบไปเห็นกล่องเครื่องมือที่ไม่รู้ว่าใครลืมไว้ที่นี่ เขาจึงหยิบมันขึ้นมาจากนั้นเขาก็วางผลิตภัณฑ์ลงบนกล่องอีกครั้งและเริ่มถอดน็อตออก
ชายวัยกลางคนมองเขาด้วยความสนใจและไม่ได้ถามว่าเขากำลังจะทำอะไร เพราะฮั่วปู้ฝานไม่ถามคำถามอะไรเขาเลย
หลังจากถอดฝาครอบออกและเผยให้เห็นอะไหล่ที่อยู่ภายใน ตอนนัั้นฮั่วปู้ฝานถึงพูดกับผู้ชายวัยกลางคนว่า:"ผลิตภัณฑ์แบบนี้แบบไหนคือของดี คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ก็เหมือนกับชั้นแกนหลักที่สำคัญนี้มาตรฐานทั่วไปในประเทศคือ 0.35 มม. แต่เราล่ะ? "
ฮั่วปูฝานกล่าวโดยถือคาลิปเปอร์อยู่และพูดว่า: "0.5 มม. มาตรฐานของเราเข้มงวดกว่ามาตรฐานในประเทศ และก็ยังมีตรงนี้ เดี๋ยวผมจะใช้ตะไบตะไบสองสามครั้งคุณจะเห็นว่ามันเป็นทองแดงที่ปราศจากออกซิเจนที่ได้มาตรฐานพร้อมกับฝาปิดเซรามิก มาตรฐานสากลสำหรับการคำนวณคุณสมบัติทางไฟฟ้านี้คือ ... "
ในเวลาเดียวกันหนิงอี้หลินกำลังรีบมาที่นี่พร้อมกับหวางโยวซานผู้จัดการทั่วไปของโรงงาน
หวางโยวซานตำหนิในขณะทีกำลังเดิน: "นายกำลังพูดจาบ้าบออะไรกับฉัน?อยู่ดีดีก็พาใครไม่รู้มาด้วย แล้วมาพูดกับฉันว่าให้จ่ายเงินเขา นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ?"
หนิงอี้หลินก็เป็นคนที่อารมณ์ร้อนและพูดตรงเช่นกันแม้เมื่อเผชิญหน้ากับผู้จัดการเขาคิดยังไงก็พูดไปอย่างนัั้น: "ผู้จัดการหวางนี่ผมไม่ได้พูดเกินไปนะ แต่การที่ได้ลูกค้าคนนี้มามันเป็นความดีความชอบของเขาคนนี้จริงๆ อีกอย่างการสั่งซื้อยอดหลายหมื่น คิดค่าคอมมิชชันก็ไม่กี่ร้อยเอง ผมจะล้อเล่นกับคุณด้วยเรื่องแบบนี้เหรอ?"
หวางโยวซานจ้องมองเขาและพูดว่า: "ฉันไม่สนว่าสิ่งที่นายพูดจะเป็นจริงหรือเท็จ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คนจากโรงงานของเรา ทำไมฉันต้องให้โบนัสกับเขาด้วยล่ะ? ห่าเอ้ยไม่ต้องพูดมากแล้ว เป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วนายยังขายได้ไม่ถึง 20 ชิ้นเลย เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้จัดการกับนายนะ! "
แต่ละก้าวของหวางโยวซานก็ไม่ได้ชะลอความเร็วลงแม้แต่น้อย
โรงงานนี้รับทำงานให้คนอื่นมาก่อนและได้กำไรมากทีเดียว แต่หวางโยวซานเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานเขาเชื่อว่าฝีมือทางเทคนิคของเขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าโรงงานที่ดีดีเลยแม้ว่าขนาดจะเล็กไปหน่อย แต่ทำไมไม่สร้างแบรนด์ของตัวเองและพยายามสร้างความแตกต่างละ!"
ด้วยความคิดนี้หวางโยวซานจึงลงทุนเงินจำนวนมากเพื่อทำแบรนด์ของตัวเอง หลังจากการวิจัยและพัฒนาการผลิตเป็นเวลานานกว่าครึ่งปีผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ก็ผลิตเรียบร้อยแล้ว แต่เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนผลิตภัณฑ์เพิ่งขายได้เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น จึงทำให้หวางโยวซานร้อนรน
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเขาพึงเงินเก็บที่มีอยู่ในบัญชีก่อนหน้านี้และไม่ได้รับงานจากที่อื่น เมื่อเห็นว่าเงินถูกใช้ไปเกือบหมดแล้วหากเขายังไม่มีเส้นทางสร้างรายได้ เขาจะไม่แม้แต่เงินที่จ่ายค่าแรงคนงาน
ไม่เช่นนั้นนายใหญ่ที่มียอดขายปีละ 20-30 ล้านจะรีบมาเพียงเพื่อคำสั่งซื้อหลายหมื่นนี่ได้อย่างไร
หนิงอี้หลินคุยกับหวางโยวซานไม่สำเร็จ เขาไม่สบายใจอย่างมากแต่เขาไม่สามารถโกรธเจ้านายได้ ท้ายที่สุดสิ่งที่หวางโยวซานพูดก็ถูกว่าเขาไม่ได้มาจากโรงงานและทำไมต้องจ่ายเงินให้กับเขา
ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงประตูโกดังและเห็นฮั่วปู้ฝานถือฝาครอบของผลิตภัณฑ์ที่โดนถอดออกแล้วพูดกับชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆเขา: "และสิ่งสุดท้ายฝาครอบนี้มีความหนาเพียง 2.5 มม. และตัวฝายังใช้สแตนเลสที่ได้มาตรฐานซึ่งถ้าสามารถหาร่องรอยการเชื่อมได้ถือวาคุณเก่งมาก ฝีมือการทำงานแบบนี้เมื่อเทียบกับแบรนด์ชั้นนำในประเทศเหล่านั้นแทบไม่มีความแตกต่าง คุณก็จะรู้เองฉันไม่พูดอะไร"
หวางโยวซานและหนิงอี้หลินตะลึงเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า
"สองคนนี้เป็นใคร?" หวางโยวซานถามด้วยความสับสนเพราะทั้งสองดูไม่เหมือนคนงานในโรงงาน
"คนหนุ่มๆชื่อหลี่ซูเฮิงที่ฉันพูดถึง ส่วนคนที่อยู่ข้างๆ ... " หวางโยวซานยกมือขึ้นเพื่อดูเวลาและพูดว่า "อาจจะเป็นลูกค้าก็ได้"
"ถ้าเป็นลูกค้า งั้นนายทิ้งเขาไว้คนเดียวที่นี่ได้ยังไง อย่างนี้ก็แย่นะซิ!"หวางโยวซานพูดอย่างโมโหแล้วเดินไปที่โกดังอย่างรวดเร็ว
เขาเดินเข้าไปและยื่นมือไปที่ชายวัยกลางคน: "สวัสดีครับ ผมหวางโยวซานผู้จัดการของโรงงานคุณคือคุณเหลียวที่ติดต่อเรามาก่อนหน้านี้ใช่มั้ยครับ"
"อืมใช่" ชายวัยกลางคนวางฝาครอบผลิตภัณฑ์ในมือลงและจับมือกับหวางโยวซาน
หวางโยวซานมองไปที่ผลิตภัณฑ์ข้างๆที่โดนถอดแยกชิ้นส่วน ตาของเขาไม่เพียงแต่กระตุกและเขาสาปแช่งหนิงยู่หลินในใจอีกด้วย
ปล่อยให้คนที่ไม่มีประสบการณ์รื้อของตามอำเภอใจแล้วคุยกับลูกค้าเป็นเพราะสถานการณ์ในโรงงานยังไม่แย่พออีกเหรอ!
หนิงอี้หลินก็วิ่งไปคว้าตัวฮั่วปู้ฝานและกระซิบว่า "นายทำบ้าอะไรนะ ทำไมถึงถอดรื้อของล่ะ!"
ทันทีที่หนิงอี้หลินพูดจบชายวัยกลางคนก็ยิ้มและพูดว่า:"ถ้าเขาไม่แยกชิ้นส่วนฉันอาจจะไม่ซื้อของของคุณจริงๆสิ่งที่เขาพูดมันซับซ้อนและเป็นไปได้มากว่าภายนอกดูดีแต่ข้างในอาจจะไม่ใช่แบบนั้น แต่ตอนนี้ฉันไม่คิดอย่างนั้นสินค้าของคุณดีมากและคุณภาพเกินความคาดหมาย ฉันจึงตัดสินใจสั่งซื้อทีละพันชิ้น ซึา
ไม่รู้ว่าจะสามารถจัดส่งได้เมื่อไหร่?"
ทั้งหวางโยวซานและหนิงอี้หลินต่างจ้องตากันและสงสัยว่าพวกเขาได้ยินผิดหรือไม่
หนึ่งพันชิ้น?
รู้ไหมว่าต้นทุนของผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นค่อนข้างน่ากลัวมากเนื่องจากมาตรฐานทางเทคนิคชั้นนำของอุตสาหกรรมทำให้ราคาสูงกว่าที่คาดไว้มากถึงเกือบ 1,500 บาท
หากคุณต้องการสั่งซื้อหนึ่งพันชิ้นนั่นก็จะเท่ากับ 1.5 ล้าน!
ในปีที่แล้วยอดขายประจำปีของโรงงานอยู่ที่ 20 ถึง 30 ล้านและตอนนี้มียอดการสั่งซื้อถึงหนึ่งในยี่สิบของปีที่แล้ว
นาทีที่แล้วหวางโยวซานยังคงกังวลเกี่ยวกับเงินเดือนของพนักงานในเดือนหน้า ถ้าเขาได้ยอดออเดอร์ซื้อสองล้านนี้ ไม่ต้องกังวลการจ่ายเงินเดือนแม้ว่าเขาจะเพิ่มโบนัสเป็นสองเท่าก็ตาม!
เมื่อมองไปที่ชายวัยกลางคนตรงหน้าเขาอย่างตื่นเต้น หวางโยวซานก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า: "คุณ คุณพูดจริงดิ? หนึ่งพันชิ้น?"
"ใช่" ชายวัยกลางคนยิ้มและชำเลืองมองไปที่ฮั่วปู้ฝานและพูดว่า: "ชายหนุ่มคนนี้แนะนำฉันอย่างละเอียดและเป็นมืออาชีพมาก เป็นเพราะการแนะนำของเขาทำให้ฉันตัดสินใจที่จะเพิ่มจำนวนการสั่งซื้อ และนี่เป็นเพียงล็อตแรกเท่านั้น หากผลตอบรับของลูกค้าดี ฉันจะสั่งเพิ่มอีก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ฉันคิดว่าเราสามารถทำสัญญากันได้ "
หลังจากนั้นไม่นานหนิงอี้หลินก็พาฮั่วปู้ฝานไปที่โกดังของโรงงาน
ประตูโกดังเปิดออกและมีลุงยามนั่งตากแดดอยู่ที่นั่น
หนิงอี้หลินดูนาฬิกาของตัวเองแล้วพูดกับฮั่วปู้ฝานว่า: "ฉันจะไปหาหัวหน้า นายรออยู่ที่นี่ก่อนนะ"
"แล้วถ้าลูกค้ามาล่ะ?" ฮั่วปู้ฝานถามเพราะที่นี่ไม่มีพนักงานเลยซักคน หรือจะให้ลุงที่อายุหกสิบเจ็ดสิบคนนั้นต้อนรับ?
"ถ้ามานายก็รับมือไปก่อน นายเคยเรียนจิตวิทยามานี่แค่ถ่วงเวลาก็น่าจะทำได้แหละนะ เอ้อแล้วก็อย่าพูดอะไรไม่รู้เรื่องกับลูกค้าละ ถ้ากลับมาแล้วนายทำพัง ฉันจะเอานายให้ถึงตายเลย!"หนิงอี้หลินพูดขู่
ฮั่วปู้ฝานมองเขาอย่างเอือมๆ หนิงอี้หลินไม่พูดอะไรมากมายและรีบไปที่สำนักงานของหัวหน้า
เมื่อไม่มีอะไรทำ ฮั่วปู้ฝานก็เดินไปรอบๆโกดัง ลุงยามที่เฝ้าประตูอาจจะเห็นว่าเขาเป็นคนที่หนิงอี้หลินพามาเลยไม่ได้สนใจอะไรนัก
ในโกดังมีสินค้าใหม่จำนวนมากกองอยู่และมีสินค้าคงคลังจำนวนมาก เครื่องจักรในโรงงานที่อยู่ไม่ไกลก็ทำงานอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าตอนนี้โรงงานมีแรงกดดันสูงมาก
เครื่องจักรหยุดทำงานไม่ได้และสินค้าก็ยังขายไม่ได้ ไม่แปลกใจที่การสัั่งซื้อหลายหมื่นสามารถทำให้หนิงอี้หลินดีใจมากขนาดนี้
ฮั่วปู้ฝานหยิบผลิตภัณฑ์ที่อยู่ข้างๆเขาออกมาจากกล่องที่ไม่ได้ปิดผนึกและดูมันอย่างละเอียดมันเป็นเครื่องทำน้ำอุ่น
ถึงแม้ว่าโรงงานแห่งนี้จะไม่ใหญ่ แต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็ค่อนข้างดีทีเดียว
งานละเอียดมากและวัสดุที่ใช้ก็ดีมากถ้าใส่ป้ายแบรนด์ใหญ่ดัง ราคาอาจจะเพิ่มเป็นสองเท่าหรือสามเท่าได้เลยทีเดียว
ในตอนนั้นเสียงของรถที่อยู่ด้านนอกโกดังดังเข้ามาในหู ฮั่วปู้ฝานจึงหันไปมองและเห็นชายวัยกลางคนในชุดสูทกำลังก้าวลงมาจากรถจี๊ปรุ่นเก่า
เพราะเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ฮั่วปู้ฝานจึงวางสินค้าในมือของเขากลับเข้าไปในกล่องและเดินออกไป
เมื่อชายคนนั้นเห็นเขาออกมาจากโกดังก็กวักมือเรียกและถามว่า:"สินค้าใหม่ของคุณอยู่ที่โกดังนี้หรือเปล่า?"
น้ำเสียงของอีกฝ่ายแข็งแกร่งมากและเขาไม่ได้ถามว่าฮั่วปู้ฝานเป็นใครหรือแนะนำว่าเขาเป็นใครเขาก็เข้าเรื่องโดยทันที
ฮั่วปู้ฝานสามารถเดาได้ว่าเขาคือใคร จึงพยักหน้าและพูดว่า: "ใช่ครับ"
"พาฉันไปดูซิ" ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนออกคำสั่ง
ฮั้วปู้ฝานไม่สนใจ พาเขาเข้าไปในโกดังและหยิบเครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้าแบบติดผนังออกจากกล่องเพื่อแสดงให้เขาเห็น
ชายวัยกลางคนมองมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้ววางมันลง จากการแสดงออกของเขาฮั่วปู้ฝานสามารถเห็นถึงความลังเลใจ
เห็นได้ชัดว่าลูกค้ามีบุคลิกแข็งแกร่งและไม่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของโรงงานเล็กๆแห่งนี้เท่าไหร่นัก สั่ง30ชิ้นเพื่อไปลองถือว่าใจกล้ามาก
ฮั่วปู้ฝานเหลือบไปเห็นกล่องเครื่องมือที่ไม่รู้ว่าใครลืมไว้ที่นี่ เขาจึงหยิบมันขึ้นมาจากนั้นเขาก็วางผลิตภัณฑ์ลงบนกล่องอีกครั้งและเริ่มถอดน็อตออก
ชายวัยกลางคนมองเขาด้วยความสนใจและไม่ได้ถามว่าเขากำลังจะทำอะไร เพราะฮั่วปู้ฝานไม่ถามคำถามอะไรเขาเลย
หลังจากถอดฝาครอบออกและเผยให้เห็นอะไหล่ที่อยู่ภายใน ตอนนัั้นฮั่วปู้ฝานถึงพูดกับผู้ชายวัยกลางคนว่า:"ผลิตภัณฑ์แบบนี้แบบไหนคือของดี คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ก็เหมือนกับชั้นแกนหลักที่สำคัญนี้มาตรฐานทั่วไปในประเทศคือ 0.35 มม. แต่เราล่ะ? "
ฮั่วปูฝานกล่าวโดยถือคาลิปเปอร์อยู่และพูดว่า: "0.5 มม. มาตรฐานของเราเข้มงวดกว่ามาตรฐานในประเทศ และก็ยังมีตรงนี้ เดี๋ยวผมจะใช้ตะไบตะไบสองสามครั้งคุณจะเห็นว่ามันเป็นทองแดงที่ปราศจากออกซิเจนที่ได้มาตรฐานพร้อมกับฝาปิดเซรามิก มาตรฐานสากลสำหรับการคำนวณคุณสมบัติทางไฟฟ้านี้คือ ... "
ในเวลาเดียวกันหนิงอี้หลินกำลังรีบมาที่นี่พร้อมกับหวางโยวซานผู้จัดการทั่วไปของโรงงาน
หวางโยวซานตำหนิในขณะทีกำลังเดิน: "นายกำลังพูดจาบ้าบออะไรกับฉัน?อยู่ดีดีก็พาใครไม่รู้มาด้วย แล้วมาพูดกับฉันว่าให้จ่ายเงินเขา นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ?"
หนิงอี้หลินก็เป็นคนที่อารมณ์ร้อนและพูดตรงเช่นกันแม้เมื่อเผชิญหน้ากับผู้จัดการเขาคิดยังไงก็พูดไปอย่างนัั้น: "ผู้จัดการหวางนี่ผมไม่ได้พูดเกินไปนะ แต่การที่ได้ลูกค้าคนนี้มามันเป็นความดีความชอบของเขาคนนี้จริงๆ อีกอย่างการสั่งซื้อยอดหลายหมื่น คิดค่าคอมมิชชันก็ไม่กี่ร้อยเอง ผมจะล้อเล่นกับคุณด้วยเรื่องแบบนี้เหรอ?"
หวางโยวซานจ้องมองเขาและพูดว่า: "ฉันไม่สนว่าสิ่งที่นายพูดจะเป็นจริงหรือเท็จ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คนจากโรงงานของเรา ทำไมฉันต้องให้โบนัสกับเขาด้วยล่ะ? ห่าเอ้ยไม่ต้องพูดมากแล้ว เป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วนายยังขายได้ไม่ถึง 20 ชิ้นเลย เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้จัดการกับนายนะ! "
แต่ละก้าวของหวางโยวซานก็ไม่ได้ชะลอความเร็วลงแม้แต่น้อย
โรงงานนี้รับทำงานให้คนอื่นมาก่อนและได้กำไรมากทีเดียว แต่หวางโยวซานเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานเขาเชื่อว่าฝีมือทางเทคนิคของเขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าโรงงานที่ดีดีเลยแม้ว่าขนาดจะเล็กไปหน่อย แต่ทำไมไม่สร้างแบรนด์ของตัวเองและพยายามสร้างความแตกต่างละ!"
ด้วยความคิดนี้หวางโยวซานจึงลงทุนเงินจำนวนมากเพื่อทำแบรนด์ของตัวเอง หลังจากการวิจัยและพัฒนาการผลิตเป็นเวลานานกว่าครึ่งปีผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ก็ผลิตเรียบร้อยแล้ว แต่เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนผลิตภัณฑ์เพิ่งขายได้เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น จึงทำให้หวางโยวซานร้อนรน
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเขาพึงเงินเก็บที่มีอยู่ในบัญชีก่อนหน้านี้และไม่ได้รับงานจากที่อื่น เมื่อเห็นว่าเงินถูกใช้ไปเกือบหมดแล้วหากเขายังไม่มีเส้นทางสร้างรายได้ เขาจะไม่แม้แต่เงินที่จ่ายค่าแรงคนงาน
ไม่เช่นนั้นนายใหญ่ที่มียอดขายปีละ 20-30 ล้านจะรีบมาเพียงเพื่อคำสั่งซื้อหลายหมื่นนี่ได้อย่างไร
หนิงอี้หลินคุยกับหวางโยวซานไม่สำเร็จ เขาไม่สบายใจอย่างมากแต่เขาไม่สามารถโกรธเจ้านายได้ ท้ายที่สุดสิ่งที่หวางโยวซานพูดก็ถูกว่าเขาไม่ได้มาจากโรงงานและทำไมต้องจ่ายเงินให้กับเขา
ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงประตูโกดังและเห็นฮั่วปู้ฝานถือฝาครอบของผลิตภัณฑ์ที่โดนถอดออกแล้วพูดกับชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆเขา: "และสิ่งสุดท้ายฝาครอบนี้มีความหนาเพียง 2.5 มม. และตัวฝายังใช้สแตนเลสที่ได้มาตรฐานซึ่งถ้าสามารถหาร่องรอยการเชื่อมได้ถือวาคุณเก่งมาก ฝีมือการทำงานแบบนี้เมื่อเทียบกับแบรนด์ชั้นนำในประเทศเหล่านั้นแทบไม่มีความแตกต่าง คุณก็จะรู้เองฉันไม่พูดอะไร"
หวางโยวซานและหนิงอี้หลินตะลึงเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า
"สองคนนี้เป็นใคร?" หวางโยวซานถามด้วยความสับสนเพราะทั้งสองดูไม่เหมือนคนงานในโรงงาน
"คนหนุ่มๆชื่อหลี่ซูเฮิงที่ฉันพูดถึง ส่วนคนที่อยู่ข้างๆ ... " หวางโยวซานยกมือขึ้นเพื่อดูเวลาและพูดว่า "อาจจะเป็นลูกค้าก็ได้"
"ถ้าเป็นลูกค้า งั้นนายทิ้งเขาไว้คนเดียวที่นี่ได้ยังไง อย่างนี้ก็แย่นะซิ!"หวางโยวซานพูดอย่างโมโหแล้วเดินไปที่โกดังอย่างรวดเร็ว
เขาเดินเข้าไปและยื่นมือไปที่ชายวัยกลางคน: "สวัสดีครับ ผมหวางโยวซานผู้จัดการของโรงงานคุณคือคุณเหลียวที่ติดต่อเรามาก่อนหน้านี้ใช่มั้ยครับ"
"อืมใช่" ชายวัยกลางคนวางฝาครอบผลิตภัณฑ์ในมือลงและจับมือกับหวางโยวซาน
หวางโยวซานมองไปที่ผลิตภัณฑ์ข้างๆที่โดนถอดแยกชิ้นส่วน ตาของเขาไม่เพียงแต่กระตุกและเขาสาปแช่งหนิงยู่หลินในใจอีกด้วย
ปล่อยให้คนที่ไม่มีประสบการณ์รื้อของตามอำเภอใจแล้วคุยกับลูกค้าเป็นเพราะสถานการณ์ในโรงงานยังไม่แย่พออีกเหรอ!
หนิงอี้หลินก็วิ่งไปคว้าตัวฮั่วปู้ฝานและกระซิบว่า "นายทำบ้าอะไรนะ ทำไมถึงถอดรื้อของล่ะ!"
ทันทีที่หนิงอี้หลินพูดจบชายวัยกลางคนก็ยิ้มและพูดว่า:"ถ้าเขาไม่แยกชิ้นส่วนฉันอาจจะไม่ซื้อของของคุณจริงๆสิ่งที่เขาพูดมันซับซ้อนและเป็นไปได้มากว่าภายนอกดูดีแต่ข้างในอาจจะไม่ใช่แบบนั้น แต่ตอนนี้ฉันไม่คิดอย่างนั้นสินค้าของคุณดีมากและคุณภาพเกินความคาดหมาย ฉันจึงตัดสินใจสั่งซื้อทีละพันชิ้น ซึา
ไม่รู้ว่าจะสามารถจัดส่งได้เมื่อไหร่?"
ทั้งหวางโยวซานและหนิงอี้หลินต่างจ้องตากันและสงสัยว่าพวกเขาได้ยินผิดหรือไม่
หนึ่งพันชิ้น?
รู้ไหมว่าต้นทุนของผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นค่อนข้างน่ากลัวมากเนื่องจากมาตรฐานทางเทคนิคชั้นนำของอุตสาหกรรมทำให้ราคาสูงกว่าที่คาดไว้มากถึงเกือบ 1,500 บาท
หากคุณต้องการสั่งซื้อหนึ่งพันชิ้นนั่นก็จะเท่ากับ 1.5 ล้าน!
ในปีที่แล้วยอดขายประจำปีของโรงงานอยู่ที่ 20 ถึง 30 ล้านและตอนนี้มียอดการสั่งซื้อถึงหนึ่งในยี่สิบของปีที่แล้ว
นาทีที่แล้วหวางโยวซานยังคงกังวลเกี่ยวกับเงินเดือนของพนักงานในเดือนหน้า ถ้าเขาได้ยอดออเดอร์ซื้อสองล้านนี้ ไม่ต้องกังวลการจ่ายเงินเดือนแม้ว่าเขาจะเพิ่มโบนัสเป็นสองเท่าก็ตาม!
เมื่อมองไปที่ชายวัยกลางคนตรงหน้าเขาอย่างตื่นเต้น หวางโยวซานก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า: "คุณ คุณพูดจริงดิ? หนึ่งพันชิ้น?"
"ใช่" ชายวัยกลางคนยิ้มและชำเลืองมองไปที่ฮั่วปู้ฝานและพูดว่า: "ชายหนุ่มคนนี้แนะนำฉันอย่างละเอียดและเป็นมืออาชีพมาก เป็นเพราะการแนะนำของเขาทำให้ฉันตัดสินใจที่จะเพิ่มจำนวนการสั่งซื้อ และนี่เป็นเพียงล็อตแรกเท่านั้น หากผลตอบรับของลูกค้าดี ฉันจะสั่งเพิ่มอีก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ฉันคิดว่าเราสามารถทำสัญญากันได้ "
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved