บทที่ 10 การประจบประแจงของน้องเขย

ตอนที่หนิงอี้หลินเพิ่งเปิดร้านเถาเป่าแรกๆ หนิงอี้หลินก็มาช่วยด้วยและพอรู้วิธีการทำงานทั่วไป

เขาคลิกระบบการทำงาน ใช้สายตาแสกนและก็เห็นยอดเงินที่ทางร้านจ่ายให้มาในวันนี้

หนึ่งหมื่นหกพันบาท!

มียอดสั่งซื้อหลายสิบรายการและมีผู้เข้าชมเกือบ 300 คน

หนิงอี้หลินอึ้งมากที่ได้เห็นมันและมันเป็นความจริง ...

ตอนนี้ยังไม่ถึงเที่ยงด้วยซ้ำขายไปได้แล้วหนึ่งหมื่นหก ถ้าตามยอดนี้หนึ่งวันขายได้สามหมื่นไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!

ฮั่วปู้ฝานโดนเบียดจนไม่สามารถนั่งอยู่บนเก้าอี้ได้ เขากำลังจะขยับไปข้างหลังก็เห็นหนิงอี้หลินหันหน้ามาและถามด้วยใบหน้าตกใจ: "นายทำได้ยังไงนะ?"

คำถามนี้ฟังดูคุ้นเคย หนิงเสี่ยวฉินเพิ่งถามไปเมื่อคืนนี้

ฮั่วปู้ฝานพูดด้วยสีหน้านิ่งๆว่า: "ทำธุรกิจเถาเป่าไม่ใช่เรื่องยาก ที่นี่เทียบเท่ากับตลาดที่มีลูกค้าเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ปัญหาเดียวก็คือทำอย่างไรจึงจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าลูกค้าที่ไม่สามารถเห็นผลิตภัณฑ์จริงๆได้ ตัดสินใจจากรูปภาพและข้อความเท่านั้น ดังนั้นการแนะนำจะต้องทำให้ดีก็ไม่ยากที่จะรับคำสั่งซื้อ แน่นอนว่ายอดการเสั่งซื้อของร้านมมันมีกฏในตัวของมันไม่สามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนรูปภาพและแก้ไขคำแนะนำ ซึ่งตอนนี้ฉันอาศัยการดึงดูกจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก หลังจากสร้างผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายดีได้แล้วและเพิ่มน้ำหนักให้กับร้านค้าแล้วอัตราการค้นหาก็จะเพิ่มขึ้นของมันเอง"

หนิงอี้หลินจ้องเขาแปลกๆเป็นเวลานานจนกระทั่งฮั่วปู้ฝานชี้ไปที่หน้าต่างให้คำปรึกษาบนหน้าจอและพูดว่า: "ถ้าคุณไม่ให้ฉันตอบกลับลูกค้าล่ะก็เขาอาจจะออกไปเพราะรอนาน "

หนิงอี้หลินปล่อยเมาส์เขาลุกขึ้นและดูนิ้วเรียวของฮั่วปู้ฝานที่แตะบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว

ฮั่วปู้ฝานตอบกลับทีละหน้าต่างอย่างรวดเร็วและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการคำสั่งซื้อก็ปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราว

เพียงไม่นานก็มีการขายยี่สิบสามสิบขวด ราคาหนึ่งขวดหนึ่งร้อยห้า ซึ่งคิดเป็นยอดขายหลายพันบาท

ถ้าได้ยินจากคนอื่น แม้ว่าจะเป็นหนิงเสี่ยวฉินพูดก็ตาม หนิงอี้หลินก็ยังสงสัยว่าฮั่วปู้ฝานกำลังปลอมคำสั่งซื้อเพื่อเพิ่มยอดขาย

แต่เมื่อเห็นทั้งหมดนี้ด้วยตาของตัวเองเขาก็ไม่สงสัยอะไรเลย

เพราะเขาเห็นคำตอบของฮั่วปู้ฝานการตอบกลับแต่ละข้อความชี้ตรงไปยังส่วนที่สัมผัสได้ง่ายที่สุดในหัวใจของผู้คน แม้แต่เขาเองที่มองมานานแล้วก็อดไม่ได้ที่จะอยากซื้อมาลองซักสองขวดเพื่อดูว่ามันมีประสิทธิภาพจริงๆหรือไม่

ถ้าเป็นคำสั่งปลอมๆ ทำไมเขายังตอบกลับอย่างตั้งใจ ข้อความเอาชนะใจคนได้อย่างไรนะ?

ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือคำสั่งซื้อนั้นเป็นของจริงและยอดขายนับหมื่นต่อวันก็เป็นของจริงเช่นกัน

ไม่ว่าฮั่วปูฝานอธิบายได้ชัดเจนแค่ไหน หนิงอี้หลินก็มีคำถามอยู่ในใจเสมอ: "เขาทำได้ยังไงกัน?"

คนไม่เอาไหนที่ถูกญาติและเพื่อน ๆ ทิ้งไปเป็นเวลาหลายปีมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งในธุรกิจขนาดนี้ ทำไมไม่เคยมีใครสังเกตเห็นมาก่อน?

เขาไม่มีโอกาสที่จะแสดงมันหรือว่าไม่มีใครที่สนใจ?

ในตอนนี้จู่ๆฮั่วปู้ฝานก็พูดว่า: "อันที่จริงสินค้าของโรงงานของคุณมีคุณภาพตามมาตรฐก็สามารถเปิดร้านค้าบนเถาเป่าได้เหมือนกัน เท่าที่ฉันรู้ปีที่แล้วมีจำนวนคนที่มีประสบการณ์ในการช็อปปิ้งออนไลน์ในประเทศมีจำนวนเกิน 600 ล้านคน ซึ่งมากกว่า 70% ของคนใช้อินเตอร์เน็ตทั้งหมด เนื่องจากเถาเป่าเป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด การเปิดที่นี่จึงมากกว่าการพัฒนามากกว่าการทำออฟไลน์มากกว่าหลายเท่าและเร็วกว่ามาก"

หนิงอี้หลินไม่ได้ตอบกลับในทันที เมื่อก่อนเขาเคยคิดที่จะเปิดร้านค้าขายสินค้าในเถาเป่าเพื่อขายสินค้าจากโรงงาน แต่ความล้มเหลวของหนิงเสี่ยวฉินทำให้เขารู้ว่าธุรกิจนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด

คุณต้องเข้าใจกฎที่ซับซ้อนเหล่านี้อย่างถ่องแท้และใช้ให้ดี และต้องเข้าใจวิธีดึงดูดการเข้าชมและวิธีเพิ่มอัตราการซื้อด้วย

เพียงแค่ใช้คำสองสามคำก็เพียงพอที่จะเอาชนะใจผู้คนนับไม่ถ้วน

ผู้คนที่ยากจนเข้ามาพร้อมกับเงินหลายสิบล้านมีหลายคนล้มละลายและชีวิตของพวกเขาถูกทำลาย

ถ้าเป็นตอนอื่นมีคนมาพูดแบบนี้หนิงอี้หลินจะไม่เห็นด้วย

แต่ตอนนี้เมื่อมองไปที่หน้าต่างการให้คำปรึกษาในคอมพิวเตอร์ ในสมองของหนิงอี้หลินก็คิดอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นประมาณสองนาทีในที่สุดเขาก็พูดว่า: "ควรทำอย่างไร?"

ฮั่วปู้ฝานได้ตอบกลับลูกค้าคนสุดท้ายแล้วและสามารถพักผ่อนได้ เขาปล่อยเมาส์หันเก้าอี้กลับมาและพูดด้วยรอยยิ้ม: "ก่อนอื่นคุณต้องใช้เงินอย่างน้อย 100,000 บาทเพื่อเปิดแฟลชชิปสโตร์บนTmall สำหรับผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์เล็กๆที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แฟล็กชิปสโตร์สามคำนี้จะทำให้ผู้คนไว้วางใจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้สำหรับการออนไลน์ครั้งแรกของคุณ คุณต้องรวมข้อมูลผู้ใช้ออฟไลน์ก่อน ... "

ตอนแรกหนิงอี้หลินคิดว่าจะฟังไปงั้นงั้นแต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็รู้สึกหลงไปกับมัน

ฮั่วปู้ฝานอธิบายสิ่งที่ลึกซึ้งด้วยวิธีง่ายๆและอธิบายประเด็นสำคัญที่สุดอย่างละเอียดหากคำพูดของเขาถูกรวบรวมเป็นเอกสารถือเป็นแผนการเปิดร้านแฟลชชิปสโตร์ที่ได้มาตรฐาน

บางคนบอกว่าใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการไม่ชอบคนๆหนึ่งและเพียงแค่เห็นก็จะรู้สึกรำคาญ

แล้วการเกลียดคนๆหนึ่งจนเปลี่ยนเป็นชื่นชมคนๆนั้นต้องใช้เวลานานแค่ไหน?

ถ้าตัดสินจากการแสดงออกของหนิงอี้หลินก็ไม่ได้ใช้เวลานานเท่าไหร่

เมื่อหนิงเสี่ยวฉินเลิกงานและกลับบ้านมาพร้อมถังถัง เมื่อเปิดประตูเข้ามาเธอก็เห็นฮั่วปู้ฝานนั่งพิมพ์อยู่หน้าคอมพิวเตอร์และเสียงหม้อและกระทะในห้องครัว

ฮั่วปู้ฝานหันไปเห็นเธอกำลังเข้ามาจึงตะโกนเข้าไปในครัว: "อี้หลินพี่สาวของนายและถังถังกลับมาแล้ว เกี๊ยวต้มเสร็จแล้วหรือยัง?"

"เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว ฉันจะถือมันออกไป!"หนิงอี้หลินพูดและถือเกี๊ยวต้มถ้วยใหญ่ออกมาจากห้องครัว

เขาวางชามบนโต๊ะ เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วอุ้มถังถังขึ้นมา : "หลานสาวของน้า คิดว่าน้าไหม มาให้น้าหอมทีหนึ่ง"

"ไม่เอา หนวดทิ่มหนู!" ถังถังหลบพร้อมกับหัวเราะ

เมื่อมองหลิงอี้หลินเล่นกับลูกสาวของเธอหนิงเสี่ยวฉินก็รู้สึกงง

ถ้าฉันจำไม่ผิดทุกครั้งที่หนิงอี้หลินมาที่บ้านเขาต้องทะเลาะกับหลี่ซูเฮิงและบางครั้งเขาก็โกรธจนจะลงไม้ลงมือ บรรยากาศไม่ดีอย่างมาก

แม้ว่าจะไม่ทะเลาะกัน แต่หลี่ซูเฮิงก็จะออกไปข้างนอกเมื่อเจอเขา

แต่ตอนนี้แต่ตอนนี้ใบหน้าของหนิงอี้หลินดูมีความสุขมันเกิดอะไรขึ้น?

และเมื่อกี้เหมือนจะได้ยินว่าหลี่ซูเฮิงทำให้เขาถือต้มเกี๊ยวมา?

น้องชายอารมณ์ร้อนของฉันเขาฟังเชื่อฟังหลี่ซูเฮิงเมื่อไหร่กันนะ?

หนิงอี้หลินไม่อยากปล่อยถังถังและกล่าวด้วยรอยยิ้มกับหนิงเสี่ยวฉินว่า: "พี่รีบไปล้างมือและมากินข้าว ผมจะบอกว่าหลี่ซูเฮิงนะทำเกี๊ยวเก่งมากฉันลองชิมแล้ว อร่อยมาก!"

ดวงตาของหนิงเสี่ยวฉินพร่าเมื่อได้ยิน หนิงอี้หลินกำลังชมหลี่ซูเฮิง?

เขากินยาผิดเหรอ?

ก่อนที่หนิงเสี่ยวฉินจะตอบกลับ ฮั่วปู้ฝานก็พูดข้างๆเขาว่า: "จะเรียกนายคนนั้นนายคนนี้อะไรล่ะ? เรียกพี่เขย ถ้ายังไม่มีมารยาทแบบนี้ งานเอกสารนายก็ทำเองแล้วกัน"

หนิงอี้หลินกลัวจนรีบหันหน้าไปหาฮั่วปู้ฝานด้วยรอยยิ้มที่ประจบ: "โอเคโอเคโอเค พี่เขย พี่เขยของฉัน ฉันยอมรับผิดแล้วโอเคไหม นายรีบปริ้นเอกสารออกมาเร็วๆ คืนนี้ฉันจะดูให้ละเอียดๆและพรุ่งนี้ฉันจะไปหาผู้จัดการหวาง "

"ใกล้จะเสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันจะทำเอกสารประชาสัมพันธ์ให้นาย จะได้เอาไปรายงานพร้อมกันน่าจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มาก" ฮั่วปู้ฝานพูด

"เยี่ยมไปเลย! มามามา คุณดื่มน้ำ กินเกี๊ยวต้มไหมครับ? ผมตักจะให้คุณหนึ่งชามและรอให้มันเย็นก่อน?"

"ถ้านายกวนฉันให้น้อยลง ฉันก็จะทำมันเสร็จโดยเร็ว"

"โอเคโอเคโอเค ไม่ต้องพูดแล้ว ถังถัง ไปน้าจะพาไปกินข้าว นี่เป็นเกี๊ยวที่ปะป๊าของหนูทำ มีไส้หมูไส้กุ้งและก็ไส้ปลา อร่อยมากมากเลยล่ะ......"

เมื่อมองไปที่หนิงอี้หลินที่พาลูกสาวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างมือ หนิงเสี่ยวฉินถึงกับงง

นี่คือน้องชายแท้ๆของเขาเหรอ?

ชมว่าหลี่ซูเฮิงทำเกี๊ยวอร่อยก็หนึ่งอย่างแล้ว นี่คำพูดดีดีและท่าทางที่เคารพนี่มันคืออะไรกัน?

ฮั่วปู้ฝานรู้สึกได้ว่าหนิงเสี่ยวฉินยืนนิ่งอยู่ตรงนั่น ขณะที่พิมพ์เขาจึงหันไปมองเธอ: "ทำไมคุณไม่ไปล้างมือล่ะ?ไม่หิวเหรอ?"

"คุณให้ยาอะไรเขากิน?" หนิงเสวี่ยชิงแบบไม่รู้ตัว

ฮั่วปู้ฝานฟังและอึ้งไป และก็เข้าใจหลังจากนั้นว่าเธอหมายถึงอะไรและพูดด้วยรอยยิ้ม: "ฉันไม่ได้ให้กินยา ฉันแค่พูดกับเขาเรื่องควรจะเปิดเถาเป่ายังไง"

"เปิดร้านเถาเป่า?เขา?"หนิงเสี่ยวฉินรู้สึกสับสน

"ไม่ใช่เขาที่เปิด แต่เป็นโรงงานของพวกเขาที่เปิด เมื่อเช้าฉันไปโรงงานของพวกเขามา สินค้าคุณภาพดีพอที่จะเทียบเคียงได้กับแบรนด์ชั้นนำเลย หากพวกเขาสามารถทำได้ก็จะเป็นผลดีกับแบรนด์อย่างมาก"ฮั่วปู้ฝานตอบ

หนิงเสี่ยวฉินยิ่งสับสนมากขึ้นหลี่ซูเฮิงไปที่โรงงานของหนิงอี้หลิน?

ไปทำอะไรกัน?

หนิงอี้หลินให้เขาไปได้ยังไงกัน?

คำถามมากมายทำให้สมองของหนิงเสี่ยวหลินคิดตามไม่ค่อยทัน

เพียงครู่หนึ่งเธอก็สงสัยว่าหนิงอี้หลินถูกซื้อโดยฮั่วปู้ฝานแล้วและสมรู้ร่วมคิดช่วยกันหลอก แต่เมื่อคิดไปแล้วฉันก็คิดว่าเมื่อก่อนหนิงอี้หลินไม่ชอบเขาเหมือนเขาฆ่าพ่อของตัวเองซะอย่างนั้นและทั้งสองคนจะมาสมรู้ร่วมคิดกันได้อย่างไร






















Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

827