บทที่ 6 ความดีความชอบ
by จักรพรรดิTV
08:01,Feb 18,2021
ประมาณหนึ่งนาทีต่อมาข้อความตอบกลับของฝ่ายตรงข้ามก็ปรากฏขึ้น:"แฮะแฮะ ฉันรู้ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกคุณนะดีแต่ผมขอคิดอีกทีนะ"
แฮะแฮะหมายความว่าอะไรหนิงอี้หลินรู้ดีว่ามันคือการตอบไปอย่างงั้น
เมื่อลูกค้าพูดมาในรูปแบบนี้สมองเขาก็คิดอย่างรวดเร็ว คิดจนสมองจะระเบิด ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ต้องจนใจทำบางอย่างเขาเริ่มพิมพ์คำพูดดีดีอีกครั้งและให้โปรโมชั่นที่มากขึ้น
ขอเพียงแค่อีกฝ่ายสั่งซื้อให้เขาทำอะไรเขาก็ยอม
ในตอนนั้นฮั่วปู้ฝานก็พูดขึ้นว่า:"ก่อนหน้านี้มันเป็นการตอบตามมารยาท ถ้านายตอบกลับไปแบบนั้นอีก เขาคงจะไม่ตอบอะไรอีกเลย"
หนิงอี้หลินที่กำลังจะกดปุ่มส่งต้องหยุดชะงักในทันที เขาหันกลับมาและจ้องที่ฮั่วปู้ฝานอย่างไม่สบอารมณ์พูดว่า:"นายกำลังทำบ้าอะไร นายรู้วิธีทำธุรกิจเหรอ?อย่ามาทำเป็นเหมือนเก่งหน่อยเลย ถ้าอย่างนั้นพี่สาวฉันยังต้องอยู่ในห้องเก่าๆแบบนี้เหรอ?"
"ก่อนหน้านี้เป็นเพราะฉันที่ดูแลสองแม่ลูกไม่ดีเรื่องนี้ฉันยอมรับ แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแล้ว"เมื่อต้องเจอกับอารมณ์ร้อนของหนิงอี้หลิน ฮั่วปู้ฝานไม่โกรธและพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ:"ดูจากประวัติการสนทนาของนายก็รู้เลยว่าลูกค้าคนนี้เป็นคนที่ไม่ชอบคำพูดประสบสอพอ ตำแหน่งของเขาน่าจะสูงกว่าที่นายคิด คนแบบนี้ฟังคำพูดเยินยอจนเบื่อแล้ว ถ้านายอยากจะให้เขาเชื่อนายต้องไม่สนใจเขาก่อนเพราะคนประเภทนี้มีความอยากเอาชนะสูง หากนายอ่อนแอเกินไปเขาจะไม่มีความรู้สึกอยากเอาชนะจะทำให้เขาไม่สนใจนาย แต่ถ้าเขารู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับคนระดับเดียวกับเขาถึงจะมีโอกาสสำเร็จ"
หนิงอี้หลินฟังและตะลึง เมื่อก่อนถ้าเขาพูดหยาบคายกับหลี่ซูเฮิงคนไม่เอาไหนคนนี้ถ้าไม่โมโหจนกระถีบเท้าและพูดจาเหมือนนักเลง ก็เปลี่ยนกางเกงแล้วออกไปข้างนอกทันที
ใช้การหนีเพื่อพิสูจน์ความกล้าหาญซึ่งเป็นการกระทำของคนขี้ขลาด ดังนั้นหนิงอี้หลินจึงไม่ชอบหลี่ซูเฮิงมาโดยตลอดเพราะเขาคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย
แม้ว่านายจะขึ้นมาต่อยตีโดนต่อยจนหัวแตกก็สามารถถือได้ว่าเป็นลูกผู้ชาย
แต่ตอนนี้ฮั่วปู้ฝานไม่โกรธ ไม่กระถีบเท้า และยังไม่หนีไปไหนอีก เขาพูดเกี่ยวกับความคิดเห็นของเขาอย่างสงบและความคิดนั้นแตกต่างกับหลี่ซูเฮิงคนก่อนอย่างสิ้นเชิง
ถ้าหากไม่รู้ว่าคนนี้เป็นใครหนิงอี้หลินคงคิดว่าเขาเจอกับบุคคลสำคัญในสังคมชั้นสูง
ไม่ใช่ ไม่ใช่นี่ไม่ใช่บุคคลสำคัญในสังคมชั้นสูงอะไรทั้งนั้น เขาเป็นเพียงคนไม่เอาไหนคนหนึ่ง!
"พูดอะไรมากมาย คิดว่าจะหลอกฉันกับคำพูดมั่วๆซั่วๆพวกนี้ได้เหรอ?แม้แต่สนามธุรกิจก็ไม่เคยเข้ายังจะมาสอนฉันว่าควรทำธุรกิจยังไงอย่างนั้นเหรอ?"หนิงอี้หลินพูดอย่างสบประมาท
ฮั่วปู้ฝานตอบกลับ:"นายไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่ก่อนที่นายจะตอบไปนายลองไปดูการประวัติการสนทนาก่อนหน้านี้ แล้วลองดูว่าหลังจากประโยคไหนที่ลูกค้าคนนี้ค่อยๆแสดงออกว่าไม่อยากจะซื้อ"
"ฉันจะไปดูห่าเหวอะไรละ!"หนิงอี้หลินโวยวายแต่ก็ไม่ได้กดปุ่มส่งไป
การสั่งซื้อนี้มีความสำคัญมากเขาโดนฮั่วปู้ฝานพูดจนไม่มีความมั่นใจ ถ้าฝ่ายตรงข้ามเขาไม่ชอบคำสรรเสริญเยินยอขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง?
หลังผ่านไปไม่นานหนิงอี้หลินก็ทนต่อความอึดอัดนี้ไม่ได้จึงไปย้อนดูประวัติการสนทนาก่อนหน้า ระหว่างที่ดูเขาก็ด่าตัวเองในใจ อยู่ๆเขาก็กลัวกับคำพูดของคนไม่เอาไหนซะอย่างนั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาตรวจสอบประวัติการสนทนาอีกครั้งด้วยความคิดแบบอื่นเขาก็พบสิ่งบ่งชี้บางอย่างจริงๆ
เมื่อพิจารณาจากคำพูดในประวัติการสนทนาของลูกค้าชื่อเหลียวในตอนแรกตอบในเชิงบวกและมีความตั้งใจที่ดีมาก แต่หลังจากที่พนักงานขายเสี่ยวจางชมเชยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของเขาและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแล้ว การตอบของลูกค้าก็เริ่มเปลี่ยนไป และเมื่อเสี่ยวจางยิ่งกล่าวชมมากเท่าไหร่ลูกค้าก็จะยิ่งแสดงว่าเขาไม่ต้องการซื้อเท่านั้น
หนิงอี้หลินขมวดคิ้ว หากตัดปัจจัยภายนอกทั้งหมดออกไปสถานการณ์ปัจจุบันก็น่าจะเป็นอย่างที่คนไม่เอาไหนนั่นพูด
แม้ว่าจะมองไม่เห็นการสีหน้าของหนิงอี้หลินแต่ฮั่วปู้ฝานก็สามารถมั่นใจได้จากการดูจุดที่หยุดและเวลาที่หยุดในการดูประวัติการสนทนาน้องเขยเจอสิ่งนั้นแล้วอย่างแน่นอน
เขาพูดขึ้นอีกครั้งว่า:"ลูกค้าที่มีบุคลิกแข็งแกร่งเช่นนี้เขาจะมีความคิดเป็นของตัวเองหรือเรียกได้ว่าเป็นคนที่หัวรั้นมากๆ ถึงแม้ว่าเขาจะคิดว่าผลิตภัณฑ์ของคุณดี แต่นายก็ไม่สามารถพูดอะไรที่เห็นด้วยกับวิสัยทัศน์ของเขาได้ เพราะต้องการอยากจะให้เขาเห็นวิสัยทัศน์แบบนี้แค่เพียงคนเดียว ถ้าคนอื่นชมเชยเขาจะทำให้เขารู้สึกอึดอัด แม้ว่าเขาอยากจะซื้อแค่ไหนเขาก็จะไม่ซื้อมัน"
หนิงอี้หลินดูประวัติการสนทนาแล้วสับสนอย่างมากเพราะข้อบ่งชี้ทั้งหมดพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ ฮั่วปู้ฝานพูดนั้นถูกต้อง
แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไรโดยปกติเขาจะสื่อสารกับลูกค้าแบบเยินยอสรรเสริญ พวกเขาถึงจะให้เงิน จะเท่าเทียมกับเขาได้ยังไงกัน?
ภายในใจของเขามีคำถามากมาย หนิงอี้หลินรู้สึกอายเกินกว่าที่จะเป็นฝ่ายเริ่มถาม เป็นเรื่องหน้าอายสำหรับเขาที่จะถามคนไม่เอาไหนที่เขาดูถูกมาโดยตลอด!
ฮั่วปู้ฝานสามารถรู้ความคิดของลูกค้าผ่านสองสามประโยคในประวัติการสนทนา ดังนั้นเขาจริงรู้ว่าตอนนี้นน้องเขยกำลังสับสนเรื่องอะไร
เขาเริ่มพูด:"ในเวลานี้นายควรแสดงความจริงใจให้ลูกค้าเห็น ผลิตภัณฑ์ดีหรือไม่ดีลูกค้าเขาตัดสินใจได้เอง นายไม่ต้องไปพูดอะไร เพียงแค่ให้เขาสัมผัสได้ถึงความจริงใจของนาย ธุรกิจก็จะสำเร็จได้ด้วยตัวของมันเอง การตอบอย่างจริงใจคืออะไร นายทำงานด้านนี้มานานไม่น่าจะเข้าใจยาก?"
คำพูดของฮั่วปู้ฝานเหมือนกับสิ่งที่ทำให้เขาตื่นทำให้หนิงอี้หลินคิดได้ในทันที
มีความคิดผุดขึ้นมาในหัวเขาและเขารีบลงมือพิมพ์ข้อความลงไปทันที แต่ในขณะที่เขาพิมพ์ไป เขาก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า:"นายมันพูดมาก ถ้าหากว่าลูกค้าหนีไปละก็คอยดูละกันว่าฉันจะจัดการกับนายยังไง!"
เมื่อเห็นข้อความที่หนิงอี้หลินกำลังพิมพ์อยู่ ฮั่วปู้ฝานก็ยิ้มๆและพูดว่า:"ถ้าหากว่าเขาหนีไปจริงๆนายค่อยมาจัดการกับฉันตอนนั้นก็ยังไม่สาย นายทำงานไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้"
เข้าไปในห้องครัวเพื่อล้างแก้วน้ำและรินน้ำร้อนออกมาแก้วหนึ่ง เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นก็เห็นหนิงอี้หลินยกไม่ยกมือตะโกนด้วยความดีใจว่า:"YES!Yes!"
เมื่อเห็นท่าทางของหนิงอี้หลินฮั่วปู้ฝานก็รู้ว่าสำเร็จแล้ว เอาน้ำไปให้แล้วพูดว่า:"ดื่มน้ำหน่อยเถอะ"
"วันนี้ลูกค้าจะเข้ามาเอาสินค้าที่โรงงาน!"หนิงอี้หลินหมุนตัวมารับแก้วน้ำ และดื่มเข้าไปฮึกใหญ่ๆ หลังจากนั้นก็เอาแก้วน้ำไปวางไว้บบนโต๊ะ แล้วรีบเดินออกไป:"เขาอยู่ไม่ไกลจากโรงงาน ฉันต้องรีบไปแล้ว!"
"งั้นนายไปเถอะ ถ้าเรียบร้อยแล้วก็กลับมากินข้าวที่นี่นะ"ฮั่วปู้ฝานพูดอย่างสุภาพ
หนิงอี้หลินหยุดเดินหันศีรษะและมองไปที่ฮั่วปู้ฝานอย่างแปลกใจ : "นายชวนฉันมากินข้าว?นายกินยาอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย?"
เมื่อก่อนหลี่ซูเฮิงเจอเขาประหนึ่งเหมือนเจอหมาป่าเจอสิงโต รีบหนีออกไปให้ไกลที่สุด ตอนนี้อยู่ๆก็มาชวนให้มากินข้าวที่บ้าน?
ฮั่วปู้ฝานหัวเราะแฮะแฮะพูดว่า:"นายเป็นน้องเขยฉัน ยังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกัน มากินข้าวด้วยกันมันผิดตรงไหน"
"ไม่ใช่นายกินยาผิดก็เป็นฉันที่ยังไม่ตื่น......."หนิงอี้หลินพึมพำพึมพำและหันกลับไป แต่ต้องชะงักเมื่อเปิดประตู
ดูเหมือนว่าเขาจะลังเลอะไรอยู่ ไม่กี่วิเขาก็วิ่งกลับมาลากฮั่วปู้ฝานและพูดว่า:"ไป นายไปกับฉัน!"
ฮั่วปู้ฝานถามอย่างสงสัย:"ไปไหน?"
"ไปโรงงานนะซิ!"หนิงอี้หลินกรอกตามองบนพูดว่า:"ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ค่อยโอเคกับนายเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้นายเรียกลูกค้ากลับมาให้ได้นายต้องได้เครดิตด้วย ฉันหนิงอี้หลินไม่ชอบให้ใครช่วยโดยไม่ได้อะไร นายไปโรงงานกับฉันถ้าเสร็จงานเจ้านายให้เงินนายก็จะได้รับไปเลย ต่อไปนายจะได้พูดไม่ได้ว่าฉันเอาเปรียบนาย"
ฮั่วปู้ฝานหัวเราะทั้งน้ำตาเขาแค่ช่วยเพราะอีกฝ่ายเป็นน้องเขยของเขา เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะหาเงินจากเรื่องนี้
แต่หนิงอี้หลินกลับเพิกเฉยต่อเขาโดยไม่สนใจว่าเขาต้องการหรือไม่ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาคิดจะทำก็จะต้องทำให้ได้! ถ้าพูดอีกสองสามคำเป็นไปได้ว่าอาจจะทะเลาะกันได้
ฮั่วปู้ฝานต้องออกไปข้างนอกกับน้องเขยอารมณ์ร้อนอย่างไม่มีทางเลือก
ไม่ต้องพูดถึงเกี่ยวกับรายได้ของหนิงอี้หลินดีกว่ามากถ้าเทียบกับหนิงเสี่ยวฉิน อย่างน้อยๆเขาก็มีรถราคามูลค่าหลายแสนแล้ว
ระหว่างทางหนิงอี้หลินอดไม่ได้ที่จะสงสัยและถามว่า: "นายเคยเรียนจิตวิทยามาเหรอ?"
"เคยเรียนอยู่ช่วงหนึ่งจริงๆแล้วว่าจะสอบเอาใบรับรอง แต่การสอบนักจิตวิทยาถูกยกเลิกไปซะก่อน"ฮั่วปู้ฝานตอบกลับ
คำพูดนี้ไม่ถือเป็นการโกหกเขาเคยศึกษากับนักจิตวิทยาหลายคนและเขาก็นำไปใช้จนประสบความสำเร็จมากในตลาด
หนิงอี้หลินตอบอื้มกลับไป และทำหน้ามุ่ยพูดว่า:"หลายปีมานี้เพิ่งจะได้เห็นนายเอาความรู้มาใช้ประโยชน์นี่แหละ"
แฮะแฮะหมายความว่าอะไรหนิงอี้หลินรู้ดีว่ามันคือการตอบไปอย่างงั้น
เมื่อลูกค้าพูดมาในรูปแบบนี้สมองเขาก็คิดอย่างรวดเร็ว คิดจนสมองจะระเบิด ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ต้องจนใจทำบางอย่างเขาเริ่มพิมพ์คำพูดดีดีอีกครั้งและให้โปรโมชั่นที่มากขึ้น
ขอเพียงแค่อีกฝ่ายสั่งซื้อให้เขาทำอะไรเขาก็ยอม
ในตอนนั้นฮั่วปู้ฝานก็พูดขึ้นว่า:"ก่อนหน้านี้มันเป็นการตอบตามมารยาท ถ้านายตอบกลับไปแบบนั้นอีก เขาคงจะไม่ตอบอะไรอีกเลย"
หนิงอี้หลินที่กำลังจะกดปุ่มส่งต้องหยุดชะงักในทันที เขาหันกลับมาและจ้องที่ฮั่วปู้ฝานอย่างไม่สบอารมณ์พูดว่า:"นายกำลังทำบ้าอะไร นายรู้วิธีทำธุรกิจเหรอ?อย่ามาทำเป็นเหมือนเก่งหน่อยเลย ถ้าอย่างนั้นพี่สาวฉันยังต้องอยู่ในห้องเก่าๆแบบนี้เหรอ?"
"ก่อนหน้านี้เป็นเพราะฉันที่ดูแลสองแม่ลูกไม่ดีเรื่องนี้ฉันยอมรับ แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแล้ว"เมื่อต้องเจอกับอารมณ์ร้อนของหนิงอี้หลิน ฮั่วปู้ฝานไม่โกรธและพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ:"ดูจากประวัติการสนทนาของนายก็รู้เลยว่าลูกค้าคนนี้เป็นคนที่ไม่ชอบคำพูดประสบสอพอ ตำแหน่งของเขาน่าจะสูงกว่าที่นายคิด คนแบบนี้ฟังคำพูดเยินยอจนเบื่อแล้ว ถ้านายอยากจะให้เขาเชื่อนายต้องไม่สนใจเขาก่อนเพราะคนประเภทนี้มีความอยากเอาชนะสูง หากนายอ่อนแอเกินไปเขาจะไม่มีความรู้สึกอยากเอาชนะจะทำให้เขาไม่สนใจนาย แต่ถ้าเขารู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับคนระดับเดียวกับเขาถึงจะมีโอกาสสำเร็จ"
หนิงอี้หลินฟังและตะลึง เมื่อก่อนถ้าเขาพูดหยาบคายกับหลี่ซูเฮิงคนไม่เอาไหนคนนี้ถ้าไม่โมโหจนกระถีบเท้าและพูดจาเหมือนนักเลง ก็เปลี่ยนกางเกงแล้วออกไปข้างนอกทันที
ใช้การหนีเพื่อพิสูจน์ความกล้าหาญซึ่งเป็นการกระทำของคนขี้ขลาด ดังนั้นหนิงอี้หลินจึงไม่ชอบหลี่ซูเฮิงมาโดยตลอดเพราะเขาคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย
แม้ว่านายจะขึ้นมาต่อยตีโดนต่อยจนหัวแตกก็สามารถถือได้ว่าเป็นลูกผู้ชาย
แต่ตอนนี้ฮั่วปู้ฝานไม่โกรธ ไม่กระถีบเท้า และยังไม่หนีไปไหนอีก เขาพูดเกี่ยวกับความคิดเห็นของเขาอย่างสงบและความคิดนั้นแตกต่างกับหลี่ซูเฮิงคนก่อนอย่างสิ้นเชิง
ถ้าหากไม่รู้ว่าคนนี้เป็นใครหนิงอี้หลินคงคิดว่าเขาเจอกับบุคคลสำคัญในสังคมชั้นสูง
ไม่ใช่ ไม่ใช่นี่ไม่ใช่บุคคลสำคัญในสังคมชั้นสูงอะไรทั้งนั้น เขาเป็นเพียงคนไม่เอาไหนคนหนึ่ง!
"พูดอะไรมากมาย คิดว่าจะหลอกฉันกับคำพูดมั่วๆซั่วๆพวกนี้ได้เหรอ?แม้แต่สนามธุรกิจก็ไม่เคยเข้ายังจะมาสอนฉันว่าควรทำธุรกิจยังไงอย่างนั้นเหรอ?"หนิงอี้หลินพูดอย่างสบประมาท
ฮั่วปู้ฝานตอบกลับ:"นายไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่ก่อนที่นายจะตอบไปนายลองไปดูการประวัติการสนทนาก่อนหน้านี้ แล้วลองดูว่าหลังจากประโยคไหนที่ลูกค้าคนนี้ค่อยๆแสดงออกว่าไม่อยากจะซื้อ"
"ฉันจะไปดูห่าเหวอะไรละ!"หนิงอี้หลินโวยวายแต่ก็ไม่ได้กดปุ่มส่งไป
การสั่งซื้อนี้มีความสำคัญมากเขาโดนฮั่วปู้ฝานพูดจนไม่มีความมั่นใจ ถ้าฝ่ายตรงข้ามเขาไม่ชอบคำสรรเสริญเยินยอขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง?
หลังผ่านไปไม่นานหนิงอี้หลินก็ทนต่อความอึดอัดนี้ไม่ได้จึงไปย้อนดูประวัติการสนทนาก่อนหน้า ระหว่างที่ดูเขาก็ด่าตัวเองในใจ อยู่ๆเขาก็กลัวกับคำพูดของคนไม่เอาไหนซะอย่างนั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาตรวจสอบประวัติการสนทนาอีกครั้งด้วยความคิดแบบอื่นเขาก็พบสิ่งบ่งชี้บางอย่างจริงๆ
เมื่อพิจารณาจากคำพูดในประวัติการสนทนาของลูกค้าชื่อเหลียวในตอนแรกตอบในเชิงบวกและมีความตั้งใจที่ดีมาก แต่หลังจากที่พนักงานขายเสี่ยวจางชมเชยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของเขาและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแล้ว การตอบของลูกค้าก็เริ่มเปลี่ยนไป และเมื่อเสี่ยวจางยิ่งกล่าวชมมากเท่าไหร่ลูกค้าก็จะยิ่งแสดงว่าเขาไม่ต้องการซื้อเท่านั้น
หนิงอี้หลินขมวดคิ้ว หากตัดปัจจัยภายนอกทั้งหมดออกไปสถานการณ์ปัจจุบันก็น่าจะเป็นอย่างที่คนไม่เอาไหนนั่นพูด
แม้ว่าจะมองไม่เห็นการสีหน้าของหนิงอี้หลินแต่ฮั่วปู้ฝานก็สามารถมั่นใจได้จากการดูจุดที่หยุดและเวลาที่หยุดในการดูประวัติการสนทนาน้องเขยเจอสิ่งนั้นแล้วอย่างแน่นอน
เขาพูดขึ้นอีกครั้งว่า:"ลูกค้าที่มีบุคลิกแข็งแกร่งเช่นนี้เขาจะมีความคิดเป็นของตัวเองหรือเรียกได้ว่าเป็นคนที่หัวรั้นมากๆ ถึงแม้ว่าเขาจะคิดว่าผลิตภัณฑ์ของคุณดี แต่นายก็ไม่สามารถพูดอะไรที่เห็นด้วยกับวิสัยทัศน์ของเขาได้ เพราะต้องการอยากจะให้เขาเห็นวิสัยทัศน์แบบนี้แค่เพียงคนเดียว ถ้าคนอื่นชมเชยเขาจะทำให้เขารู้สึกอึดอัด แม้ว่าเขาอยากจะซื้อแค่ไหนเขาก็จะไม่ซื้อมัน"
หนิงอี้หลินดูประวัติการสนทนาแล้วสับสนอย่างมากเพราะข้อบ่งชี้ทั้งหมดพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ ฮั่วปู้ฝานพูดนั้นถูกต้อง
แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไรโดยปกติเขาจะสื่อสารกับลูกค้าแบบเยินยอสรรเสริญ พวกเขาถึงจะให้เงิน จะเท่าเทียมกับเขาได้ยังไงกัน?
ภายในใจของเขามีคำถามากมาย หนิงอี้หลินรู้สึกอายเกินกว่าที่จะเป็นฝ่ายเริ่มถาม เป็นเรื่องหน้าอายสำหรับเขาที่จะถามคนไม่เอาไหนที่เขาดูถูกมาโดยตลอด!
ฮั่วปู้ฝานสามารถรู้ความคิดของลูกค้าผ่านสองสามประโยคในประวัติการสนทนา ดังนั้นเขาจริงรู้ว่าตอนนี้นน้องเขยกำลังสับสนเรื่องอะไร
เขาเริ่มพูด:"ในเวลานี้นายควรแสดงความจริงใจให้ลูกค้าเห็น ผลิตภัณฑ์ดีหรือไม่ดีลูกค้าเขาตัดสินใจได้เอง นายไม่ต้องไปพูดอะไร เพียงแค่ให้เขาสัมผัสได้ถึงความจริงใจของนาย ธุรกิจก็จะสำเร็จได้ด้วยตัวของมันเอง การตอบอย่างจริงใจคืออะไร นายทำงานด้านนี้มานานไม่น่าจะเข้าใจยาก?"
คำพูดของฮั่วปู้ฝานเหมือนกับสิ่งที่ทำให้เขาตื่นทำให้หนิงอี้หลินคิดได้ในทันที
มีความคิดผุดขึ้นมาในหัวเขาและเขารีบลงมือพิมพ์ข้อความลงไปทันที แต่ในขณะที่เขาพิมพ์ไป เขาก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า:"นายมันพูดมาก ถ้าหากว่าลูกค้าหนีไปละก็คอยดูละกันว่าฉันจะจัดการกับนายยังไง!"
เมื่อเห็นข้อความที่หนิงอี้หลินกำลังพิมพ์อยู่ ฮั่วปู้ฝานก็ยิ้มๆและพูดว่า:"ถ้าหากว่าเขาหนีไปจริงๆนายค่อยมาจัดการกับฉันตอนนั้นก็ยังไม่สาย นายทำงานไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้"
เข้าไปในห้องครัวเพื่อล้างแก้วน้ำและรินน้ำร้อนออกมาแก้วหนึ่ง เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นก็เห็นหนิงอี้หลินยกไม่ยกมือตะโกนด้วยความดีใจว่า:"YES!Yes!"
เมื่อเห็นท่าทางของหนิงอี้หลินฮั่วปู้ฝานก็รู้ว่าสำเร็จแล้ว เอาน้ำไปให้แล้วพูดว่า:"ดื่มน้ำหน่อยเถอะ"
"วันนี้ลูกค้าจะเข้ามาเอาสินค้าที่โรงงาน!"หนิงอี้หลินหมุนตัวมารับแก้วน้ำ และดื่มเข้าไปฮึกใหญ่ๆ หลังจากนั้นก็เอาแก้วน้ำไปวางไว้บบนโต๊ะ แล้วรีบเดินออกไป:"เขาอยู่ไม่ไกลจากโรงงาน ฉันต้องรีบไปแล้ว!"
"งั้นนายไปเถอะ ถ้าเรียบร้อยแล้วก็กลับมากินข้าวที่นี่นะ"ฮั่วปู้ฝานพูดอย่างสุภาพ
หนิงอี้หลินหยุดเดินหันศีรษะและมองไปที่ฮั่วปู้ฝานอย่างแปลกใจ : "นายชวนฉันมากินข้าว?นายกินยาอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย?"
เมื่อก่อนหลี่ซูเฮิงเจอเขาประหนึ่งเหมือนเจอหมาป่าเจอสิงโต รีบหนีออกไปให้ไกลที่สุด ตอนนี้อยู่ๆก็มาชวนให้มากินข้าวที่บ้าน?
ฮั่วปู้ฝานหัวเราะแฮะแฮะพูดว่า:"นายเป็นน้องเขยฉัน ยังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกัน มากินข้าวด้วยกันมันผิดตรงไหน"
"ไม่ใช่นายกินยาผิดก็เป็นฉันที่ยังไม่ตื่น......."หนิงอี้หลินพึมพำพึมพำและหันกลับไป แต่ต้องชะงักเมื่อเปิดประตู
ดูเหมือนว่าเขาจะลังเลอะไรอยู่ ไม่กี่วิเขาก็วิ่งกลับมาลากฮั่วปู้ฝานและพูดว่า:"ไป นายไปกับฉัน!"
ฮั่วปู้ฝานถามอย่างสงสัย:"ไปไหน?"
"ไปโรงงานนะซิ!"หนิงอี้หลินกรอกตามองบนพูดว่า:"ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ค่อยโอเคกับนายเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้นายเรียกลูกค้ากลับมาให้ได้นายต้องได้เครดิตด้วย ฉันหนิงอี้หลินไม่ชอบให้ใครช่วยโดยไม่ได้อะไร นายไปโรงงานกับฉันถ้าเสร็จงานเจ้านายให้เงินนายก็จะได้รับไปเลย ต่อไปนายจะได้พูดไม่ได้ว่าฉันเอาเปรียบนาย"
ฮั่วปู้ฝานหัวเราะทั้งน้ำตาเขาแค่ช่วยเพราะอีกฝ่ายเป็นน้องเขยของเขา เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะหาเงินจากเรื่องนี้
แต่หนิงอี้หลินกลับเพิกเฉยต่อเขาโดยไม่สนใจว่าเขาต้องการหรือไม่ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาคิดจะทำก็จะต้องทำให้ได้! ถ้าพูดอีกสองสามคำเป็นไปได้ว่าอาจจะทะเลาะกันได้
ฮั่วปู้ฝานต้องออกไปข้างนอกกับน้องเขยอารมณ์ร้อนอย่างไม่มีทางเลือก
ไม่ต้องพูดถึงเกี่ยวกับรายได้ของหนิงอี้หลินดีกว่ามากถ้าเทียบกับหนิงเสี่ยวฉิน อย่างน้อยๆเขาก็มีรถราคามูลค่าหลายแสนแล้ว
ระหว่างทางหนิงอี้หลินอดไม่ได้ที่จะสงสัยและถามว่า: "นายเคยเรียนจิตวิทยามาเหรอ?"
"เคยเรียนอยู่ช่วงหนึ่งจริงๆแล้วว่าจะสอบเอาใบรับรอง แต่การสอบนักจิตวิทยาถูกยกเลิกไปซะก่อน"ฮั่วปู้ฝานตอบกลับ
คำพูดนี้ไม่ถือเป็นการโกหกเขาเคยศึกษากับนักจิตวิทยาหลายคนและเขาก็นำไปใช้จนประสบความสำเร็จมากในตลาด
หนิงอี้หลินตอบอื้มกลับไป และทำหน้ามุ่ยพูดว่า:"หลายปีมานี้เพิ่งจะได้เห็นนายเอาความรู้มาใช้ประโยชน์นี่แหละ"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved