บทที่ 234 ลบหลู่ดูถูก
by จักรพรรดิTV
08:01,Mar 31,2021
"แต่ว่าคุณขับรถเป็นหรือเปล่า?"ถังจงเว่ยถาอย่างเป็นห่วงถ้าทักษะการขับรถไม่ค่อยดีแม้ว่าขับรถธรรมดาก็ง่ายที่จะเกิดอุบัติเหตุ
โดยเฉพาะที่นี่ยังเป็นสนามที่เป็นระดับมืออาชีพมีทางเลี้ยวมากมายแถมยังเป็นปอร์เช่911ที่มีแรงม้าใหญ่มากไม่คุ้นเคยกับส่วนประกอบของรถและก็ไม่คุ้นเคยกับสนามแม้ว่าแรกเริ่มไปชนกำแพงก็ไม่แปลก
"เป็นนิดนึง"ฮั่วปู้ฝานตอบด้วยรอยยิ้ม
ถังจงเวยมองไปที่เขารับรู้ถึงความมั่นใจบางอย่างฮั่วปู้ฝานพูดย่างถ่อนตัวแต่เธอมองออกว่าผู้ชายคนนี้น่าจะมีความคุ้นเคยกับรถ
ตามจริงแล้วเรื่องที่ฮั่วปู้ฝานเชี่ยวชาญมีแค่คนจำนวนน้อยที่รู้เรื่องส่วนใหญ่เขาล้วนไปฝึกโดยการปกปิดตัวตนที่แท้จริงในมุมมองของหลายคนเขาเป็นคุณชายใหญ่ที่มีสติรอบคอบอยู่ตลอดไม่ใช่คนเก่งที่เป็นทั้งแข่งรถทำอาหารและยังเล่นหุ้นเป็นด้วย
แม้กระทั่งเป็นถังจงเว่ยก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้
เวลานี้หลินเฉี่ยวเมิ่งเดินมาพูดพร้อมยิ้มกริ่ม"อย่าว่าพวกเรารังแกคุณนะให้เวลาคุณสองรอบสนามเพื่อทำการคุ้นเคยกับสนามและนอกจากนี้หาอีกคนมาปกป้องคุณด้วย
ระหว่างที่พูดหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาอุ้มแขนของฮั่วปู้ฝานเอาไว้พูดด้วยรอยยิ้ม"พี่คะคุณหล่อขนาดนี้จะต้องเก่งกว่าพวกเขาแน่ๆฉันเป็นกำลังใจให้คุณนะ!"
เมื่อเห็นท่าทางที่ใกล้ชิดของหญิงสาวคนนั้นอยู่ดีๆถังจงเว่ยก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
อาจจะเป็นเพราะผู้ชายต่อหน้าคนนี้มันคล้ายกับคู่หมั้นของตัวเองจนเกินไปทำให้เธอเกิดความปรารถนาที่จะครอบครอง
สิ่งที่ทำให้ถังจงเว่ยสบายใจหน่อยนึงก็คือฮั่วปู้ฝานไม่ได้หลงใหลในความสวยเขาดึงแขนออกมาจากอ้อมแขนของฝ่ายตรงข้ามโดยตรงและพูดว่า"ขอโทษครับกลิ่นน้ำหอมบนร่างกายของคุณทำให้ฉันเกิดความฟุ้งซ่านฉันชอบกลิ่นที่เบาบางตัวอย่างเช่นกลิ่นบนร่างของคุณหนูถัง"
คำพูดนี้ทำให้หลายคนล้วนอึ้งทันทีจากนั้นมองไปทางถังจงเว่ยด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด
ใบหน้าของถังจงเว่ยแดงขึ้นเล็กน้อยตามแนวคิดทางศีลธรรมทั่วไปของผู้คนการชื่นชมว่ากลิ่นบนร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งมันหอมเป็นการแสดงความรู้สึกที่ดี
แน่นอนว่าถ้าคุณมีความรู้สึกที่เดียวกันกับเขานั่นถึงจะเรียกว่าเป็นความรู้สึกที่ดีไม่อย่างนั้นก็จะถูกเรียกว่าลวนลามหรือเหลาะแหละ
ถังจงเว่ยไม่เกลียดคำพูดแบบนี้ของฮั่วปู้ฝานแถมยังเกิดความดีใจขึ้นมาบางอย่างด้วย
ความดีใจของเธอเกิดจากการที่ถูกชื่นชมเท่านั้นไม่ใช่ว่าเกิดความรักบางอย่างต่อฮั่วปู้ฝาน
หัวใจของผู้หญิงคนนี้ล้วนอยู่บนร่างของคู่หมั้นเต็มๆผู้ชายคนอื่นดีเช่นไหนเพียงแค่จะทำให้เธอรู้สึกอยากรู้อยากเห็นไม่เกิดความคิดอย่างอื่นหรอก
แม้ว่ามีก็จะถูกระงับลงมาเพราะว่าตั้งแต่เด็กความใฝ่ฝันที่สูงที่สุดของเธอก็คือการแต่งงานกับฮั่วปู้ฝาน
ในเมื่อฮั่วปู้ฝานปฏิเสธผู้หญิงคนนี้ในฐานะที่เป็นรางวัลถังจงเว่ยเลยพูดว่า"งั้นฉันอยู่คันเดียวกับคุณละกัน"
ทำแบบนี้เป็นการไว้หน้าฮั่วปู้ฝานและสามารถให้คนพวกนั้นมีความห่วงเพราะตัวเองก็อยู่บนรถด้วยเพื่อมิให้พวกเขาทำจนเกินไป
ฮั่วปู้ฝานไม่ได้ปฏิเสธส่วนหลินเฉี่ยวเมิ่งทำปากยื่นและพูดว่า"คุณต้องระวังนะลัดเข็มขัดนิรภัยให้ดีถ้าหากเขาชนรถ......"
"โว้ย......"
เมื่อเห็นถังจงเว่ยทำปากมุ่ยแสดงความไม่พอใจหลินเฉี่ยวเมิ่งถึงหุบปาก
ไม่ทราบว่าเพื่อเป็นการตาต่อตาฟันต่อฟันหรือว่าพูดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วถังจงเว่ยขึ้นรถของฮั่วปู้ฝานส่วนหลินเฉี่ยวเมิ่งก็ขึ้นรถเฟอร์รารีคันนั้น
ส่วนผู้หญิงที่ถูกปฏิเสธก็ขึ้นบนรถของลัมบอร์กินี
รอจนกว่าฮั่วปู้ฝานขึ้นมาบนรถถังจงเว่ยก็ลัดเข็มขัดนิรภัยเสร็จแล้วเธอมีความประหม่าเล็กน้อยแต่ได้พยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองให้มันฟังดีหน่อย"เดี๋ยวขับช้าๆฉันกลัวว่าตัวเองจะเมารถ"
ตั้งแต่เด็กจนโตถ้าถังจงเว่ยออกเดินมางล้วนนั่งรถหรูการขี่จักรยานสำหรับลูกสาวตระกูลร่ำรวยอย่างเธอมันหายากกว่าการที่คนปกตินั่งเครื่องบินอีก
ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเมารถอย่างน้อยฮั่วปู้ฝานไม่เคยได้ยินมาก่อน
"ไม่ต้องประหม่าเช่นนี้ฉันขับรถมั่นคงอยู่"ฮั่วปู้ฝานยิ้และพูดในขณะเดียวกันก็ปลดเบรกมือและสตาร์ทเข้าเกียร์
รถสปอร์ตเกียร์ธรรมดาที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในประเทศค่อยๆเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องขับเข้าไปในทางเข้าสนาม
เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังมาจากด้านหลังและลัมบอร์กินีLP750ก็พุ่งออกไปเหมือนจรวดอย่างรวดเร็วแม้แต่กระจกยังสั่นอยู่เลย
จากนั้นเฟอร์รารีที่หลินเฉี่ยวเมิ่งนั่งก็ขับออกไปอย่างเร็วและน่ากลัวไม่แพ้กัน
พูดตามหลักแล้วทั้งสนามมีแค่ฮั่วปู้ฝานขับช้าที่สุดตอนนี้เพียงเข้าเกียร์สามวิ่งด้วยความเร็วที่ไม่เกิน40กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เขาขับได้ช้าถังจงเว่ยกลับวางใจลงมาได้อย่าน้อยความเร็วนี้จะไม่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
แต่หลังจากหลายนาทีผ่านมาลัมบอร์กินีวิ่งพุ่งออกไปจากข้างๆอีกครั้งในขณะเดียวกันหน้าต่างรถเปิดลงยื่นมือออกมามือหนึ่ง
แต่นิ้วโป้งของมือนั้นไปทิศใต้แสดงข้อความที่ชัดเจน"แกขยะหรือเกิน!"
ถังจงเว่ยมองไปทางฮั่วปู้ฝานโดยจิตสำนึกสังเกตเห็นว่าแม้เขาจะเฟลือบไปมองมือนั้นตาหนึ่งแต่ไม่มีปฏิกิริยามากนักยังคงค่อยๆขับรถหรูบนสนามอย่างช้าๆ
จากนั้นเฟอร์รารี่ตามมารอบที่สองมันไม่ได้เร็วเหมือนลัมบอร์กินีกลับลดลงไปอยู่ในระดับความเร็วที่เท่ากันกับฮั่วปู้ฝาน
หน้าต่างของเบาะข้างคนขับเปิดลงโผล่ให้เห็นใบหน้าของหลินเฉี่ยวเมิ่งเธอตะโกนใส่ฮั่วปู้ฝาน"เฮ้ยทำไมแดขับช้าอย่างกัจคนแก่กลัวไฟดับหรือยัง?"
หวังหมิงไห่ที่นั่งอยู่เบาะคนขับก็โผล่หัวออกมามองฮั่วปู้ฝานหัวเราะเยาะออกมาอย่างเห็นได้ชัดพูดว่า"ฉันยังนึกว่าแหเก่งขนาดไหนเลยแค่นี้?ถ้ารู้ล่วงหน้าก็เรียกคุณไปเล่นรถโกคาร์ทสำหรับเด็ก"
"นี่ก็ไม่ได้รถโกคาร์ทก็เร็วกว่าเขาอีก"หลินเฉี่ยวเมิ่งพูดพร้อมยิ้มกริ่ม
หน้าต่างปิดลงเฟอร์รารีเร่งแซงฮั่วปู้ฝานและในช่วงเวลาที่แซงเขายังขับเอียงไปทางขวาอย่างตั้งใจ
ฮั่วปู้ฝานมีแต่ต้องรีบหมุนพวงมาลัยในขณะเดียวกันก็ลดความเร็วรถเพื่อมิให้ชนกันจริง
ถังจงเว่ยตกใจมากแต่กลับเห็นรถเฟอร์รารี่คันนั้นได้ขับออกไปไกลอย่างหยิ่ง
เธอโกรธมาก"คนนี้ขับรถยังไงวะเกินไปจริงๆ!"
แต่เธอก็รู้ว่าคนพวกนี้ไม่ใส่ใจรถสปอร์ตราคา7หลักที่เป็นระดับเบื้องต้นหรอกชนก็ชนเถอะไม่มีอะไรมากเมื่อเทียบกับการหยอกล้อฮั่วปู้ฝานอย่างอื่นล้วนไม่สำคัญ
พูดได้เพียงว่าลูกคนรวยพวกนี้ว่างเกินและก็รวยเกิน
พวกเขาไม่รู้ความลำบากในการหาเงินเรียนแต่ว่าใช่เงินอย่างฟุ่มเฟือยจึงจะกลายเป็นนิสัยที่ไม่กลัวใครแบบนี้
ดูจากกระจกมุมหลังเห็นว่ารถปอร์เช่911จอดอยู่บนท้องสนามหลินเฉี่ยวเมิ่งขำจนจับท้องเอาไว้เอียงไปทางแกหน่อยแกก็จอดรถเลยทีเดียวขยะจริงๆ!
ส่วนหวังหมิงไห่ดูถูกฮั่วปู้ฝานถึงขีดสุดในมุมมองของเขาคนนี้เป็นการหาความอัปยศอดสูใส่ตัว
ยอมแพ้อย่างซื่อๆก็พอแล้วมารนหาที่ตายทำไมล่ะ
บนสนามนอกจากพวกหวังหมิงไห่ยังมีรถคันอื่นเจ้าของรถบางคนนิสัยหงุดหงิดง่ายขับมาถึงระยะใกล้เห็นว่ามีรถคันหนึ่งจอดอยู่มีแต่ต้องลดความเร็วเวลาที่ขับผ่านก็เปิดหน้าต่างลงมาด่าด้วยคำหยาบคาย
พวกเขาไม่สนใจว่าคุณเป็นใครยังไงคนที่มาที่นี่ล้วนเป็นคนวงการเดียวกันไม่รู้จักคุณก็ไม่ต้องไว้หน้าใดๆหรอก
คนพวกนั้นด่าอย่างแรงมากแม้กระทั่งถังจงเว่ยยังฟังไม่ลงเลย
โดยเฉพาะรถลัมบอร์กินีคันนั้นเมื่อวิ่งรอบสองเสร็จก็วิ่งตามขึ้นมาแล้วจอดอยู่ข้างฮั่วปู้ฝานผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะคนขับเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองชูนิ้วกลางใส่ฮั่วปู้ฝาน"ไอ้ขยะ!ไม่มีความสามารถแกมาขายหน้าทำไม!'
หญิงสาวที่ถูกฮั่วปู้ฝานปฏิเสธก็ปรากฏสีหน้าที่เหยียดหยามเช่นกันตะโกนใส่ฮั่วปู้ฝาน"คุณพี่คะดูแล้วคุณใช้ไม่ได้เลยต้องบำรุงร่างกายแล้วมั้ง?"
คำพูดอะไรรุนแรงสองคนนี้ก็พูดอันนั้นอาจจะเป็นเพราะฮั่วปู้ฝานไม่ตอบทำให้พวกเขารู้สึกฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอยิ่งไม่มีความเกรงใจใดๆ
จนในที่สุดด่าทั้งพ่อแม่ของฮั่วปู้ฝานเลย
คำพูดเหล่านั้นรุนแรงจนถังจงเว่ยอดไม่ได้ที่จะเถียงกลับแต่เมื่อเธอมองมาที่ฮั่วปู้ฝานถึงจะพบว่าผู้ชายคนนี้กำลังมองตัวเองอยู่
สายตาของเขาไม่มีความโกรธมากนักแต่สายตาของเขาทำให้ถังจงเว่ยเข้าใจอะไรบางอย่างได้
ใครๆพบสถานการณ์แบบนี้ล้วนจะคิดโต้เถียงกลับแม้ว่านิสัยดีขนาดไหนก็ไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นด่าอย่างรุนแรงหรอก
เมื่อสังเกตถึงความคิดของฮั่วปู้ฝานถังจงเว่ยลังเลสักพักจากนั้นจับหัวเข็มขัดนิรภัยหลังจากเสียงเรียบร้อยแล้วเธอยกมือขึ้นจับที่จับเสริมด้านบน
ฮั่วปู้ฝานรู้ว่าเธอรู้ความหมายของตัวเองแล้วมือซ้ายกดปุ่มปิดหน้าต่างหน้าต่างรถค่อยๆปิดลงกั้นเสียงพวกนั้นที่ฟังแล้วทำให้เกิดความโกรธ
โดยเฉพาะที่นี่ยังเป็นสนามที่เป็นระดับมืออาชีพมีทางเลี้ยวมากมายแถมยังเป็นปอร์เช่911ที่มีแรงม้าใหญ่มากไม่คุ้นเคยกับส่วนประกอบของรถและก็ไม่คุ้นเคยกับสนามแม้ว่าแรกเริ่มไปชนกำแพงก็ไม่แปลก
"เป็นนิดนึง"ฮั่วปู้ฝานตอบด้วยรอยยิ้ม
ถังจงเวยมองไปที่เขารับรู้ถึงความมั่นใจบางอย่างฮั่วปู้ฝานพูดย่างถ่อนตัวแต่เธอมองออกว่าผู้ชายคนนี้น่าจะมีความคุ้นเคยกับรถ
ตามจริงแล้วเรื่องที่ฮั่วปู้ฝานเชี่ยวชาญมีแค่คนจำนวนน้อยที่รู้เรื่องส่วนใหญ่เขาล้วนไปฝึกโดยการปกปิดตัวตนที่แท้จริงในมุมมองของหลายคนเขาเป็นคุณชายใหญ่ที่มีสติรอบคอบอยู่ตลอดไม่ใช่คนเก่งที่เป็นทั้งแข่งรถทำอาหารและยังเล่นหุ้นเป็นด้วย
แม้กระทั่งเป็นถังจงเว่ยก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้
เวลานี้หลินเฉี่ยวเมิ่งเดินมาพูดพร้อมยิ้มกริ่ม"อย่าว่าพวกเรารังแกคุณนะให้เวลาคุณสองรอบสนามเพื่อทำการคุ้นเคยกับสนามและนอกจากนี้หาอีกคนมาปกป้องคุณด้วย
ระหว่างที่พูดหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาอุ้มแขนของฮั่วปู้ฝานเอาไว้พูดด้วยรอยยิ้ม"พี่คะคุณหล่อขนาดนี้จะต้องเก่งกว่าพวกเขาแน่ๆฉันเป็นกำลังใจให้คุณนะ!"
เมื่อเห็นท่าทางที่ใกล้ชิดของหญิงสาวคนนั้นอยู่ดีๆถังจงเว่ยก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
อาจจะเป็นเพราะผู้ชายต่อหน้าคนนี้มันคล้ายกับคู่หมั้นของตัวเองจนเกินไปทำให้เธอเกิดความปรารถนาที่จะครอบครอง
สิ่งที่ทำให้ถังจงเว่ยสบายใจหน่อยนึงก็คือฮั่วปู้ฝานไม่ได้หลงใหลในความสวยเขาดึงแขนออกมาจากอ้อมแขนของฝ่ายตรงข้ามโดยตรงและพูดว่า"ขอโทษครับกลิ่นน้ำหอมบนร่างกายของคุณทำให้ฉันเกิดความฟุ้งซ่านฉันชอบกลิ่นที่เบาบางตัวอย่างเช่นกลิ่นบนร่างของคุณหนูถัง"
คำพูดนี้ทำให้หลายคนล้วนอึ้งทันทีจากนั้นมองไปทางถังจงเว่ยด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด
ใบหน้าของถังจงเว่ยแดงขึ้นเล็กน้อยตามแนวคิดทางศีลธรรมทั่วไปของผู้คนการชื่นชมว่ากลิ่นบนร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งมันหอมเป็นการแสดงความรู้สึกที่ดี
แน่นอนว่าถ้าคุณมีความรู้สึกที่เดียวกันกับเขานั่นถึงจะเรียกว่าเป็นความรู้สึกที่ดีไม่อย่างนั้นก็จะถูกเรียกว่าลวนลามหรือเหลาะแหละ
ถังจงเว่ยไม่เกลียดคำพูดแบบนี้ของฮั่วปู้ฝานแถมยังเกิดความดีใจขึ้นมาบางอย่างด้วย
ความดีใจของเธอเกิดจากการที่ถูกชื่นชมเท่านั้นไม่ใช่ว่าเกิดความรักบางอย่างต่อฮั่วปู้ฝาน
หัวใจของผู้หญิงคนนี้ล้วนอยู่บนร่างของคู่หมั้นเต็มๆผู้ชายคนอื่นดีเช่นไหนเพียงแค่จะทำให้เธอรู้สึกอยากรู้อยากเห็นไม่เกิดความคิดอย่างอื่นหรอก
แม้ว่ามีก็จะถูกระงับลงมาเพราะว่าตั้งแต่เด็กความใฝ่ฝันที่สูงที่สุดของเธอก็คือการแต่งงานกับฮั่วปู้ฝาน
ในเมื่อฮั่วปู้ฝานปฏิเสธผู้หญิงคนนี้ในฐานะที่เป็นรางวัลถังจงเว่ยเลยพูดว่า"งั้นฉันอยู่คันเดียวกับคุณละกัน"
ทำแบบนี้เป็นการไว้หน้าฮั่วปู้ฝานและสามารถให้คนพวกนั้นมีความห่วงเพราะตัวเองก็อยู่บนรถด้วยเพื่อมิให้พวกเขาทำจนเกินไป
ฮั่วปู้ฝานไม่ได้ปฏิเสธส่วนหลินเฉี่ยวเมิ่งทำปากยื่นและพูดว่า"คุณต้องระวังนะลัดเข็มขัดนิรภัยให้ดีถ้าหากเขาชนรถ......"
"โว้ย......"
เมื่อเห็นถังจงเว่ยทำปากมุ่ยแสดงความไม่พอใจหลินเฉี่ยวเมิ่งถึงหุบปาก
ไม่ทราบว่าเพื่อเป็นการตาต่อตาฟันต่อฟันหรือว่าพูดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วถังจงเว่ยขึ้นรถของฮั่วปู้ฝานส่วนหลินเฉี่ยวเมิ่งก็ขึ้นรถเฟอร์รารีคันนั้น
ส่วนผู้หญิงที่ถูกปฏิเสธก็ขึ้นบนรถของลัมบอร์กินี
รอจนกว่าฮั่วปู้ฝานขึ้นมาบนรถถังจงเว่ยก็ลัดเข็มขัดนิรภัยเสร็จแล้วเธอมีความประหม่าเล็กน้อยแต่ได้พยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองให้มันฟังดีหน่อย"เดี๋ยวขับช้าๆฉันกลัวว่าตัวเองจะเมารถ"
ตั้งแต่เด็กจนโตถ้าถังจงเว่ยออกเดินมางล้วนนั่งรถหรูการขี่จักรยานสำหรับลูกสาวตระกูลร่ำรวยอย่างเธอมันหายากกว่าการที่คนปกตินั่งเครื่องบินอีก
ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเมารถอย่างน้อยฮั่วปู้ฝานไม่เคยได้ยินมาก่อน
"ไม่ต้องประหม่าเช่นนี้ฉันขับรถมั่นคงอยู่"ฮั่วปู้ฝานยิ้และพูดในขณะเดียวกันก็ปลดเบรกมือและสตาร์ทเข้าเกียร์
รถสปอร์ตเกียร์ธรรมดาที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในประเทศค่อยๆเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องขับเข้าไปในทางเข้าสนาม
เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังมาจากด้านหลังและลัมบอร์กินีLP750ก็พุ่งออกไปเหมือนจรวดอย่างรวดเร็วแม้แต่กระจกยังสั่นอยู่เลย
จากนั้นเฟอร์รารีที่หลินเฉี่ยวเมิ่งนั่งก็ขับออกไปอย่างเร็วและน่ากลัวไม่แพ้กัน
พูดตามหลักแล้วทั้งสนามมีแค่ฮั่วปู้ฝานขับช้าที่สุดตอนนี้เพียงเข้าเกียร์สามวิ่งด้วยความเร็วที่ไม่เกิน40กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เขาขับได้ช้าถังจงเว่ยกลับวางใจลงมาได้อย่าน้อยความเร็วนี้จะไม่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
แต่หลังจากหลายนาทีผ่านมาลัมบอร์กินีวิ่งพุ่งออกไปจากข้างๆอีกครั้งในขณะเดียวกันหน้าต่างรถเปิดลงยื่นมือออกมามือหนึ่ง
แต่นิ้วโป้งของมือนั้นไปทิศใต้แสดงข้อความที่ชัดเจน"แกขยะหรือเกิน!"
ถังจงเว่ยมองไปทางฮั่วปู้ฝานโดยจิตสำนึกสังเกตเห็นว่าแม้เขาจะเฟลือบไปมองมือนั้นตาหนึ่งแต่ไม่มีปฏิกิริยามากนักยังคงค่อยๆขับรถหรูบนสนามอย่างช้าๆ
จากนั้นเฟอร์รารี่ตามมารอบที่สองมันไม่ได้เร็วเหมือนลัมบอร์กินีกลับลดลงไปอยู่ในระดับความเร็วที่เท่ากันกับฮั่วปู้ฝาน
หน้าต่างของเบาะข้างคนขับเปิดลงโผล่ให้เห็นใบหน้าของหลินเฉี่ยวเมิ่งเธอตะโกนใส่ฮั่วปู้ฝาน"เฮ้ยทำไมแดขับช้าอย่างกัจคนแก่กลัวไฟดับหรือยัง?"
หวังหมิงไห่ที่นั่งอยู่เบาะคนขับก็โผล่หัวออกมามองฮั่วปู้ฝานหัวเราะเยาะออกมาอย่างเห็นได้ชัดพูดว่า"ฉันยังนึกว่าแหเก่งขนาดไหนเลยแค่นี้?ถ้ารู้ล่วงหน้าก็เรียกคุณไปเล่นรถโกคาร์ทสำหรับเด็ก"
"นี่ก็ไม่ได้รถโกคาร์ทก็เร็วกว่าเขาอีก"หลินเฉี่ยวเมิ่งพูดพร้อมยิ้มกริ่ม
หน้าต่างปิดลงเฟอร์รารีเร่งแซงฮั่วปู้ฝานและในช่วงเวลาที่แซงเขายังขับเอียงไปทางขวาอย่างตั้งใจ
ฮั่วปู้ฝานมีแต่ต้องรีบหมุนพวงมาลัยในขณะเดียวกันก็ลดความเร็วรถเพื่อมิให้ชนกันจริง
ถังจงเว่ยตกใจมากแต่กลับเห็นรถเฟอร์รารี่คันนั้นได้ขับออกไปไกลอย่างหยิ่ง
เธอโกรธมาก"คนนี้ขับรถยังไงวะเกินไปจริงๆ!"
แต่เธอก็รู้ว่าคนพวกนี้ไม่ใส่ใจรถสปอร์ตราคา7หลักที่เป็นระดับเบื้องต้นหรอกชนก็ชนเถอะไม่มีอะไรมากเมื่อเทียบกับการหยอกล้อฮั่วปู้ฝานอย่างอื่นล้วนไม่สำคัญ
พูดได้เพียงว่าลูกคนรวยพวกนี้ว่างเกินและก็รวยเกิน
พวกเขาไม่รู้ความลำบากในการหาเงินเรียนแต่ว่าใช่เงินอย่างฟุ่มเฟือยจึงจะกลายเป็นนิสัยที่ไม่กลัวใครแบบนี้
ดูจากกระจกมุมหลังเห็นว่ารถปอร์เช่911จอดอยู่บนท้องสนามหลินเฉี่ยวเมิ่งขำจนจับท้องเอาไว้เอียงไปทางแกหน่อยแกก็จอดรถเลยทีเดียวขยะจริงๆ!
ส่วนหวังหมิงไห่ดูถูกฮั่วปู้ฝานถึงขีดสุดในมุมมองของเขาคนนี้เป็นการหาความอัปยศอดสูใส่ตัว
ยอมแพ้อย่างซื่อๆก็พอแล้วมารนหาที่ตายทำไมล่ะ
บนสนามนอกจากพวกหวังหมิงไห่ยังมีรถคันอื่นเจ้าของรถบางคนนิสัยหงุดหงิดง่ายขับมาถึงระยะใกล้เห็นว่ามีรถคันหนึ่งจอดอยู่มีแต่ต้องลดความเร็วเวลาที่ขับผ่านก็เปิดหน้าต่างลงมาด่าด้วยคำหยาบคาย
พวกเขาไม่สนใจว่าคุณเป็นใครยังไงคนที่มาที่นี่ล้วนเป็นคนวงการเดียวกันไม่รู้จักคุณก็ไม่ต้องไว้หน้าใดๆหรอก
คนพวกนั้นด่าอย่างแรงมากแม้กระทั่งถังจงเว่ยยังฟังไม่ลงเลย
โดยเฉพาะรถลัมบอร์กินีคันนั้นเมื่อวิ่งรอบสองเสร็จก็วิ่งตามขึ้นมาแล้วจอดอยู่ข้างฮั่วปู้ฝานผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะคนขับเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองชูนิ้วกลางใส่ฮั่วปู้ฝาน"ไอ้ขยะ!ไม่มีความสามารถแกมาขายหน้าทำไม!'
หญิงสาวที่ถูกฮั่วปู้ฝานปฏิเสธก็ปรากฏสีหน้าที่เหยียดหยามเช่นกันตะโกนใส่ฮั่วปู้ฝาน"คุณพี่คะดูแล้วคุณใช้ไม่ได้เลยต้องบำรุงร่างกายแล้วมั้ง?"
คำพูดอะไรรุนแรงสองคนนี้ก็พูดอันนั้นอาจจะเป็นเพราะฮั่วปู้ฝานไม่ตอบทำให้พวกเขารู้สึกฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอยิ่งไม่มีความเกรงใจใดๆ
จนในที่สุดด่าทั้งพ่อแม่ของฮั่วปู้ฝานเลย
คำพูดเหล่านั้นรุนแรงจนถังจงเว่ยอดไม่ได้ที่จะเถียงกลับแต่เมื่อเธอมองมาที่ฮั่วปู้ฝานถึงจะพบว่าผู้ชายคนนี้กำลังมองตัวเองอยู่
สายตาของเขาไม่มีความโกรธมากนักแต่สายตาของเขาทำให้ถังจงเว่ยเข้าใจอะไรบางอย่างได้
ใครๆพบสถานการณ์แบบนี้ล้วนจะคิดโต้เถียงกลับแม้ว่านิสัยดีขนาดไหนก็ไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นด่าอย่างรุนแรงหรอก
เมื่อสังเกตถึงความคิดของฮั่วปู้ฝานถังจงเว่ยลังเลสักพักจากนั้นจับหัวเข็มขัดนิรภัยหลังจากเสียงเรียบร้อยแล้วเธอยกมือขึ้นจับที่จับเสริมด้านบน
ฮั่วปู้ฝานรู้ว่าเธอรู้ความหมายของตัวเองแล้วมือซ้ายกดปุ่มปิดหน้าต่างหน้าต่างรถค่อยๆปิดลงกั้นเสียงพวกนั้นที่ฟังแล้วทำให้เกิดความโกรธ
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved