บทที่ 3 สร้างปัญหา

หลังจากเสียงเคาะประตูอย่างรีบร้อน ก็มีเสียงโมโหของอาจารย์ฉังเล่อดังมาจากนอกประตู

เวลานี้พี่ชิงยังอยู่ในสภาพที่สติเลอะเลือนอยู่ ทั้งตัวของเธอกลายเป็นสีชมพู โดยเฉพาะใบหน้าที่งดงามนั้นยิ่งดูราวกับกำลังเมา ทำให้ปรากฏเป็นความงดงามของคนเมาออกมา

ในสถานการณ์แบบนี้สิ่งแรกที่ผมนึกถึงไม่ใช่การไปเปิดประตู แต่เป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวของพี่ชิง

พี่ชิงก็ถูกเสียงของอาจารย์ฉังเล่อทำให้ตกใจเช่นกัน แต่เนื่องจากเพิ่งถึงจุดสูงสุดไปเมื่อกี้ เธอจึงยังคงเชื่องช้าอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

"นายไปหยิบผ้าขนหนูมาให้ฉัน แล้วก็ออกไปได้แล้ว"

ผมไม่เข้าใจว่าพี่ชิงหมายความว่ายังไง และมีความรู้สึกว่าเห็นท่าจะไม่ดี แต่ผมก็ยังไปหยิบผ้าขนหนูมาคลุมให้พี่ชิงตามคำสั่ง

พี่ชิงพันผ้าขนหนูด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเธอก็หยิบบุหรี่สำหรับสุภาพสตรีขึ้นมาจากโต๊ะข้าง ๆ หัวเตียงและจุดไฟ

แต่ทว่าพริบตาที่พี่ชิงลุกขึ้นมาผมก็ต้องรู้สึกตกตะลึง สีแดงเข้มเส้นหนึ่งปรากฏอยู่บนเตียงที่ขาวสะอาด และมันก็สะดุดตามาก ๆ

"นี่คือ......"

ผมยังพูดไม่ทันจบ พี่ชิงก็มองไปตามสายตาของผม เมื่อเธอเห็นสีแดงเข้มบนเตียง เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเธอสั่นไปชั่วขณะหนึ่ง

"นายไสหัวไปได้แล้ว และให้คนที่อยู่ข้างนอกไสหัวออกไปให้หมด!"

ท่าทางของพี่ชิงเปลี่ยนไปทันที กลายเป็นเมินเฉยมาก ๆ ถึงขนาดที่พูดได้ว่าเย็นเยือกได้เลย

สีแดงเข้มบนเตียงจะต้องไม่ใช่ประจำเดือนของผู้หญิงอย่างแน่นอน ฉันรู้ดีว่าหากมันเป็นประจำเดือนจะไม่มีทางน้อยขนาดนี้ ถ้ามันไม่ใช่ประจำเดือน เช่นนั้นนี่ก็คือเลือดของสาวพรหมจรรย์

ทันใดนั้นผมก็รู้สึกกลัวขึ้นมา และเปิดประตูออกไปด้วยความงุนงง

ผมเพิ่งจะออกมา อาจารย์ฉังเล่อก็ด่าอย่างสาดเสียเทเสียใส่หน้าผมจัง ๆ

......

ภายในออฟฟิศ ฉังเล่อพยายามบีบผมให้ออกอย่างถึงที่สุดต่อหน้าเถ้าแก่ โดยบอกว่าผมทำเรื่องที่เกินไปจากการนวด

สำหรับเถ้าแก่โจวฉังเซิง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขาทำหน้าตาเย็นชา แต่ผมไม่ได้ทำเรื่องที่สกปรกกับพี่ชิงเลย ดังนั้นผมจึงไม่กลัวคำพูดใส่ร้ายของอาจารย์ฉังเล่อ

"สืออี ฉันขอถามนายแค่ประโยคเดียว คำพูดของฉังเล่อจริงหรือไม่?"

ในสายตาของโจวฉังเซิงมีไอสังหารอยู่ด้วย

ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับภูมิหลังของโจวฉังเซิงมาก่อน ด้านสว่างเขาเป็นเถ้าแก่ของคลับเฟยเทียน ส่วนด้านมืดเขาเป็นพี่ใหญ่ในสังคมนอกกฎหมาย

"ไม่จริง ผมไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับพี่ชิงเลย"

สีหน้าของผมเรียบเฉยมาก ๆ แต่ภายในใจกลับรู้สึกกลัวเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสีแดงฉานบนเตียง ก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับตัวเองทำอะไรผิด

"พูดจาเหลวไหล ฉันอยู่นอกประตูยังได้เสียงร้องโหยหวนของชิงชิงเลย ถ้าสามีของชิงชิงรู้เรื่องนี้เขา นายคงจะมีชีวิตอยู่อีกได้ไม่นาน แม้แต่ตายก็ไม่รู้ว่าจะตายยังไง"

เมื่อโจวฉังเซิงได้ยินคำพูดของอาจารย์ฉังเล่อ เขาก็ถามโดยเก็บงำความโกรธเอาไว้ว่า "แม้แต่ฉันก็ยังไม่สามารถหาเรื่องสามีของชิงชิงได้ เด็กน้อยอย่างนายทำให้เธอร้องโหยหวนเหรอ? นายใช้มือข้างไหนนวดก็กำจัดมือข้างนั้นทิ้งไปเสียเถอะ แต่ถ้านายใช้ขาที่สามของนาย เช่นนั้นนายก็ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ในคลับแห่งนี้แล้ว"

ผมคิดไม่ถึงว่าการนวดที่เรียบง่ายครั้งนี้จะสร้างปัญหาที่ใหญ่มาก ๆ ให้กับตัวเอง ถึงขนาดที่อาจจะคร่าชีวิตของตัวเองได้

หลังจากมองบอดี้การ์ดสองคนตรงหน้าประตู ผมคิดว่าตัวเองน่าจะสามารถหนีออกไปได้ และจริง ๆ แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าผมใช้เทคนิคการจับจุดเป็น

ก๊อก ๆ......

"เถ้าแก่ พี่ชิงมาแล้ว เธอบอกว่าต้องการพบคุณ คุณคิด......"

"ให้เธอเข้ามาสิ"

เสียงพูดของโจวฉังเซิงเพิ่งจะเงียบลง พี่ชิงก็ปรากฏตัวตรงหน้าประตูแล้ว เธอได้ฟื้นคืนความเย่อหยิ่งและความเยือกเย็นแต่ก่อนของเธอแล้ว และสายตาก็เย็นชาจนสามารถฆ่าคนให้ตายได้

หลังจากพี่ชิงมองผมแค่แว็บเดียวเธอก็เดินเข้าไปหาฉังเล่อ

เพียะ!

เธอตบลงไปบนใบหน้าของฉังเล่อตรง ๆ จนเกิดเสียงดังกังวาน

ที่น่าประหลาดใจก็คือโจวฉังเซิงไม่ได้ยื่นมือออกมาห้าม แต่ก็เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเขาไม่น่ามอง ตีหมายังต้องดูเจ้าของ นับประสาอะไรกับหมาแก่ที่ติดตามเขามาหลายปี

ฉังเล่อถูกพี่ชิงตบจนรู้สึกวิงเวียน แต่เมื่อเห็นท่าทางของพี่ชิง เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

"ฉังเล่อ ฉันเคารพคุณเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่ง ดังนั้นฉันจึงสามารถอดกลั้นกับคุณมาได้ครั้งสองครั้ง แต่คุณกลับสาดโคลนใส่ฉัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันสามารถอดกลั้นได้ ฉันคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจหลักการที่ว่ามือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง ฉันเป็นใคร คุณก็น่าจะเข้าใจเช่นกัน!"

ฉังเล่อถูกตบไปครั้งนี้ เขาจึงไม่กล้าเรียกพี่ชิงว่าชิงชิงอีก เขาทำหน้าบึ้งและพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า "ฉันเข้าใจเรื่องนี้ผิดไปแล้ว แต่เจ้าหมอนี้ล่วงเกินคุณ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกำจัดแขนสองข้างเขาทิ้ง"

ผมคิดไม่ถึงว่าฉังเล่อจะมีด้านที่อำมหิตเช่นนี้ แต่ผมก็ไม่ได้แสดงความโกรธออกไปในทันที เพราะอยากรู้ว่าโจวฉังเซิงจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไง

"ชิงชิง ให้คุณเป็นคนตัดสินเรื่องนี้ จะจัดการไอ้หมอนี่ยังไง คุณแค่พูดมาประโยคเดียวก็ได้แล้ว"

เวลานี้ใบหน้าของโจวฉังเซิงเต็มไปด้วยการยึดถือสัจจะ ปิดบังความรู้สึกไม่ยินยอมได้อย่างสมบูรณ์

"มือสองข้างของเขาเป็นมือที่นวดให้ฉัน หากการนวดให้ฉันถือเป็นการล่วงเกิน เช่นนั้นตอนนี้ฉังเล่อก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้แล้วใช่หรือไม่?"

พูดประโยคนี้จบพี่ชิงก็เดินไปหาฉังเล่ออย่างช้า ๆ

"ต่อไปฉันจะคุ้มครองเด็กคนนี้เอง และฉันก็รู้จักสไตล์การทำงานตามปกติของฉังเล่อดี แต่ถ้าครั้งนี้คุณทำให้สืออีลำบากใจอีก เช่นนั้นก็อย่ามาโทษฉันว่าไม่รู้จักให้อภัย"

ผมคิดไม่ถึงว่าพี่ชิงจะพูดแบบนี้ออกมาเพื่อผม ผมทั้งรู้สึกตื้นตันและตกใจไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ในเวลาเดียวกันสมองก็ยังคงคิดถึงเส้นสีแดงเข้มบนเตียงในห้องอยู่

"โอเค ในเมื่อชิงชิงพูดเช่นนี้ เด็กคนนี้ก็จะไม่มีปัญหา เพียงหวังว่าคุณจะพูดประโยคสวยงามให้กับคลับของพวกเราต่อผู้กำกับสักสองสามประโยค อาหารการกินของพวกเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย"

น้ำเสียงในประโยคนี้ของโจวฉังเซิงไม่ได้อ่อนลงเลย กลับกันยังแฝงไปด้วยการบีบบังคับเบา ๆ

"เถ้าแก่โจววางใจเถอะ สามีของฉันไม่มีเวลาว่างมาก่อความวุ่นวายให้กับเถ้าแก่โจวหรอก"

พูดประโยคนี้จบพี่ชิงก็เดินออกไปพร้อมกับเสียงกุก ๆ ของรองเท้าส้นสูง แต่ผมกลับไม่รู้ว่าต้องทำยังไงไปชั่วขณะหนึ่ง

โจวฉังเซิงมองผมกับฉังเล่อหนึ่งครั้ง และพูดอย่างเข้มงวดกับฉังเล่อว่า "ยังไม่พาลูกศิษย์ของนายออกไปอีก ต่อไปถ้าสร้างปัญหาให้ฉันอีก พวกนายสองคนก็จะต้องตายไปด้วยกัน"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

365