บทที่ 13 แสดงความสามารถ
by เจ๋อปี่เฟิงหัว
10:06,Nov 10,2021
"หรงหรง ดูท่าปากของเธอควรจะหยุดพูดได้แล้ว ตอนนี้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็กล้าพูดออกมามั่ว ๆ" เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเธอทำให้พี่ชิงโมโหแล้ว และสีหน้าของพี่ชิงก็อึมครึมขึ้นมาในทันที
"ฉันพูดตรงไหนผิดเหรอ? พี่ชิง ช่วงนี้ฉันได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับพี่มาไม่น้อย ฉันเห็นพี่เป็นพี่สาวคนหนึ่งถึงได้พูดแบบนี้กับพี่ ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงไม่สนใจเรื่องไร้สาระนี้หรอก"
ดูออกว่าฐานะของหญิงสาวแต่ละคนนั้นไม่ได้ด้อยกว่าพี่ชิง
"พี่หรง พี่ไม่เข้าใจอาชีพของผมก็ไม่เป็นไร แต่หวังว่าพี่จะไม่ใส่ร้ายป้ายสีพี่ชิงเช่นนี้ ถ้าหากพี่ไม่เชื่อ เช่นนั้นผมก็สามารถลองนวดให้พี่ดูได้"
ผมเห็นพี่ชิงโกรธจนหน้าเขียว และมีท่าทางใกล้จะระเบิดเต็มที ผมจึงรับเดินออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง และพูดกับหรงหรงอย่างไม่ถ่อมตัวและไม่เย่อหยิ่ง
ผมไม่ได้อยากออกหน้าออกตา แต่ว่าพี่ชิงช่วยผมมาแล้วหลายครั้ง การที่ผมเอาแต่หลบอยู่ข้างหลังเธอ นั่นไม่ใช่ท่าทางที่ผู้ชายคนหนึ่งควรจะมี
"นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงกล้าพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนี้ นายคิดว่าใครก็สามารถแตะต้องร่างกายของฉันได้เหรอ?"
เห็นได้ชัดว่าบุคคลระดับสูงที่อยู่ดีกินดีแบบพวกเธอดูถูกชาวเมืองตัวเล็ก ๆ แบบผม การแสดงออกอย่างรังเกียจนั้นทำให้ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนจากก้นบึ้งของหัวใจ
"พี่หรง ผมเห็นว่าผิวพรรณของพี่ดูหยาบเล็กน้อย ดวงตามีสภาพที่อ่อนเพลีย ฝ้าที่ลิ้นก็มีสีเหลือง คิดว่าระยะนี้คงจะนอนไม่หลับทุกคืน และรู้สึกขมที่ลิ้นใช่หรือไม่"
เมื่อผมพูดประโยคนี้ออกไป สายตาที่มองผมของเหล่าหญิงสาวในที่แห่งนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลง หรงหรงเห็นผมพูดอาการป่วยของเธอออกมา ใบหน้าของเธอจึงมีทั้งความตกใจและความขุ่นเคืองเล็กน้อย
"นายรู้อาการป่วยของฉันได้ยังไง? นายเข้าใจวิชาแพทย์เหรอ?"
"แม้ว่าผมจะเป็นเพียงหมอนวดคนหนึ่ง แต่ก็เป็นวิธีการที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ เป็นการนวดที่อาศัยจุดบนร่างกายโดยเฉพาะ เพื่อมารักษาอาการของโรคที่ปรากฏบนร่างกาย อย่างเช่นอาการของโรคที่เห็นได้ชัดเจนแบบนี้ ผมก็ยังสามารถดูออกได้บางส่วน"
จริง ๆ แล้วผมไม่เพียงสามารถใช้เทคนิคการนวดได้อย่างเดียวเท่านั้น บรรพบุรุษของผมศึกษาจุดบนร่างกายโดยเฉพาะ ไม่เพียงศึกษาจนเกิดเทคนิคการนวดออกมาเท่านั้น พวกเรายังมีวิธีการที่ใช้จุดบนร่างกายมารักษาโรคอย่างเช่นการฝังเข็มและอังความร้อนอีกด้วย ดังนั้นในด้านการรักษาโรค ผมจึงพอมีความรู้อยู่บ้างเล็กน้อย
"หึ โอ้อวดให้มันน้อย ๆ หน่อย คนที่มีตาล้วนดูออกว่าระยะนี้สีหน้าของฉันดูไม่ค่อยดี"
หรงหรงส่งเสียงหึออกมาเบา ๆ ครั้งหนึ่ง เธอยังคงดูถูกผมอยู่ ท่าทางที่คิดว่าตัวเองถูกของเธอทำให้ผมรู้สึกไม่พอใจจริง ๆ
"โอ้อวดหรือไม่ พี่หรงแค่ลองดูก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ? หรือพี่กลัวว่าเมื่อถึงเวลาแล้วมันจะได้ผล กลัวว่าจะเป็นการตบหน้าตัวเองเหรอ?"
"นาย! ลองก็ลอง! ถ้านายทำให้ฉันรู้สึกพึงพอใจไม่ได้ นายก็เตรียมตัวไปอยู่ในคุกได้เลย"
เมื่อถูกคำพูดของผมยั่วยุ หรงหรงก็รู้สึกโมโหมาก ๆ ไม่นึกเลยว่าเธอจะยอมให้ผมนวดให้เธอจริง ๆ
ในห้องส่วนตัวนี้มีการสร้างห้องแยกไว้ให้ลูกค้าพักผ่อนโดยเฉพาะ และในห้องแยกก็มีเตียงที่นุ่มสบายวางไว้ด้วย
"พี่ชิง พี่จะไม่ขอร้องให้เด็กคนนี้เหรอ? หรงหรงไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องกันได้ง่าย ๆ นะ"
ผมที่เดินอยู่ด้านหน้า แต่ก็ยังได้ยินคำพูดของหญิงสาวด้านหลังที่คุยกับพี่ชิงเบา ๆ ผมจึงอดที่จะหูผึ่งขึ้นมาไม่ได้ อยากรู้ว่าพี่ชิงจะตอบยังไง
"ฉันเชื่อเขา"
ประโยคที่แสนจะธรรมดาแต่กลับเต็มความเชื่อใจที่มีต่อผม ผมจึงอดที่จะยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ และความมั่นใจก็เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
เพราะคนมากมายกำลังมุงดูอยู่ ผมจึงไม่ได้ให้หรงหรงถอดเสื้อผ้าออก ทำได้เพียงลงมือนวดโดยมีเสื้อผ้ากั้นกลางเท่านั้น โชคดีที่วัสดุของเสื้อผ้าที่เธอสวมนั้นบาง ความรู้สึกก็ดีด้วยเช่นกัน มันจึงไม่มีผลต่อการนวดของผมมากนัก
เป็นธรรมดาที่ผมจะไม่กล้าแตะต้องจุดที่ไวต่อความรู้สึกบนร่างกายเหล่านั้น วิธีการนวดที่ส่วนตัวแบบนั้นไม่เหมาะที่จะใช้ในโอกาสแบบนี้ แต่ถึงจะมีข้อจำกัดของเงื่อนไขมากมายขนาดนี้ ผมก็ยังสามารถทำให้เธอมีประสบการณ์ที่ชวนฝันได้โดยอาศัยจุดที่คอและขา
หลังจากล้างมือจนสะอาดแล้ว ผมก็ลูบไปบนเท้าเรียวคู่นั้น
จริง ๆ แล้วรูปร่างและผิวพรรณของหรงหรงถือว่าดีมาก แต่หลังจากที่ได้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของพี่ชิงกับซุนน่า ผมจึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับรูปร่างที่สวยงามของเธอเลย
จุดแรงที่นวดก็คือจุดซานอินเจียวซึ่งอยู่เหนือตาตุ่มด้านในขึ้นไปสามชุ่นและอยู่ตรงขอบด้านหลังของกระดูกหน้าแข้ง ตรงนี้เป็นจุดที่ไวต่อความรู้สึกของคนจำนวนมาก แต่ที่ทำให้ผมตกใจก็คือตอนที่ผมนวดลงตรงนี้หรงหรงกลับไม่มีการตอบสนองแม้แต่นิดเดียว
ผมอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ หรือว่ายังออกแรงไม่พอ?
ผมพิจารณาว่ามีปัญหาตรงไหนไปพลาง ค่อย ๆ เพิ่มแรงตรงฝ่ามือไปพลาง และตอนที่ผมกำลังจะหยุดนวดตรงจุดนี้ จู่ ๆ หรงหรงก็สะดุ้งขึ้นมาทั้งตัว และส่งเสียงเตือนออกมาครั้งหนึ่งผ่านโพรงจมูก
เดิมทีผมยังคิดว่าตัวเองฟังผิด แต่ต่อมาก็ได้ยินเสียงหายใจแรง ๆ ของเธอ ผมจึงอดที่จะยิ้มออกมาน้อย ๆ ไม่ได้
ดูท่าไม่ใช่เพราะเธอไม่มีการตอบสนอง แต่เป็นเพราะเธอพยายามอดกลั้นความรู้สึกดี ๆ เอาไว้
"หยุด......หยุดนะ......ฉัน ฉันไม่อยากนวดแล้ว!"
ตอนที่ผมกำลังจะนวดลงไปบนจุดที่ไวต่อความรู้สึกจุดหนึ่ง ทันใดนั้นหรงหรงก็ตะโกนบอกว่าให้หยุดด้วยเสียงที่แหบแห้ง
ผมหยุดมือลงอย่างว่าง่าย ถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว และรอให้หรงหรงลุกขึ้นมาจากเตียง
"พี่หรง พี่พอใจกับการนวดของผมไหม?"
เมื่อเห็นแก้มที่แดงเล็กน้อยของหรงหรง ผมก็รู้ว่าผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการนั้นบรรลุผลแล้ว ผมจึงมองเธอด้วยรอยยิ้ม
"นายมีความสามารถอยู่นิดหน่อยจริง ๆ เป็นฉันเองที่ดูถูกนาย ฉัน......ฉันรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำนิดหน่อย ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
หรงหรงมองผมด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็ตั้งใจตัดจบหัวข้อสนทนา และไม่ได้เย้ยหยันอะไรผมอีก
เมื่อเห็นท่าทางการเดินที่แปลกเล็กน้อยของเธอ ผมก็ยิ้มออกมา ดูท่าหรงหรงจะไวต่อความรู้สึกมากกว่าที่ผมจินตนาการไว้เสียอีก
"สืออี ทำได้ดีมาก"
ตอนที่พี่ชิงเดินผ่านตัวผมไปก็มีเสียงที่ขำขันดังเข้ามาในหูของผม
หญิงสาวคนอื่นล้วนเห็นการตอบสนองของหรงหรง เห็นได้ชัดท่าทางของพวกเธอที่มีต่อผมจึงดีขึ้นไม่น้อย หลังจากงานเลี้ยงเริ่มขึ้น ถึงขนาดที่พวกเธอยังหวังว่าผมจะนวดให้พวกเธอด้วยเช่นกัน
ผมยินดีตอบรับการค้าที่มาถึงหน้าบ้านแบบนี้เป็นธรรมดา เพราะพวกเธอต่างเป็นคนที่ร่ำรวย
"เช่นนั้น พี่ชิง ฉันขอโทษนะเมื่อกี้ พูดประโยคที่ทำให้พี่รู้สึกโกรธไปมากมาย หวังว่าพี่จะไม่เก็บเอาไปใส่ใจ"
เพียงครู่เดียวหรงหรงก็จัดการตัวเองจนสะอาดและกลับมายังโต๊ะ เธอเพียงหยิบไวน์แดงขึ้นมาหนึ่งแก้วและพูดกับพี่ชิงด้วยใบหน้าที่เต็มใบด้วยความรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไร แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็มีนิสัยแบบนี้ ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รู้เสียหน่อย"
จากน้ำเสียงที่พูดประโยคนี้ของพี่ชิง ผมฟังอารมณ์ของเธอไม่ออก และไม่รู้ว่าเธอยกโทษให้หรงหรงจริง ๆ หรือว่าเป็นการคืนกันแค่ภายนอก แต่ในโลกของคนที่ร่ำรวยแบบพวกเธอ ไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร มีเพียงแค่ผลประโยชน์เท่านั้น
"ฉันพูดตรงไหนผิดเหรอ? พี่ชิง ช่วงนี้ฉันได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับพี่มาไม่น้อย ฉันเห็นพี่เป็นพี่สาวคนหนึ่งถึงได้พูดแบบนี้กับพี่ ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงไม่สนใจเรื่องไร้สาระนี้หรอก"
ดูออกว่าฐานะของหญิงสาวแต่ละคนนั้นไม่ได้ด้อยกว่าพี่ชิง
"พี่หรง พี่ไม่เข้าใจอาชีพของผมก็ไม่เป็นไร แต่หวังว่าพี่จะไม่ใส่ร้ายป้ายสีพี่ชิงเช่นนี้ ถ้าหากพี่ไม่เชื่อ เช่นนั้นผมก็สามารถลองนวดให้พี่ดูได้"
ผมเห็นพี่ชิงโกรธจนหน้าเขียว และมีท่าทางใกล้จะระเบิดเต็มที ผมจึงรับเดินออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง และพูดกับหรงหรงอย่างไม่ถ่อมตัวและไม่เย่อหยิ่ง
ผมไม่ได้อยากออกหน้าออกตา แต่ว่าพี่ชิงช่วยผมมาแล้วหลายครั้ง การที่ผมเอาแต่หลบอยู่ข้างหลังเธอ นั่นไม่ใช่ท่าทางที่ผู้ชายคนหนึ่งควรจะมี
"นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงกล้าพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนี้ นายคิดว่าใครก็สามารถแตะต้องร่างกายของฉันได้เหรอ?"
เห็นได้ชัดว่าบุคคลระดับสูงที่อยู่ดีกินดีแบบพวกเธอดูถูกชาวเมืองตัวเล็ก ๆ แบบผม การแสดงออกอย่างรังเกียจนั้นทำให้ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนจากก้นบึ้งของหัวใจ
"พี่หรง ผมเห็นว่าผิวพรรณของพี่ดูหยาบเล็กน้อย ดวงตามีสภาพที่อ่อนเพลีย ฝ้าที่ลิ้นก็มีสีเหลือง คิดว่าระยะนี้คงจะนอนไม่หลับทุกคืน และรู้สึกขมที่ลิ้นใช่หรือไม่"
เมื่อผมพูดประโยคนี้ออกไป สายตาที่มองผมของเหล่าหญิงสาวในที่แห่งนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลง หรงหรงเห็นผมพูดอาการป่วยของเธอออกมา ใบหน้าของเธอจึงมีทั้งความตกใจและความขุ่นเคืองเล็กน้อย
"นายรู้อาการป่วยของฉันได้ยังไง? นายเข้าใจวิชาแพทย์เหรอ?"
"แม้ว่าผมจะเป็นเพียงหมอนวดคนหนึ่ง แต่ก็เป็นวิธีการที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ เป็นการนวดที่อาศัยจุดบนร่างกายโดยเฉพาะ เพื่อมารักษาอาการของโรคที่ปรากฏบนร่างกาย อย่างเช่นอาการของโรคที่เห็นได้ชัดเจนแบบนี้ ผมก็ยังสามารถดูออกได้บางส่วน"
จริง ๆ แล้วผมไม่เพียงสามารถใช้เทคนิคการนวดได้อย่างเดียวเท่านั้น บรรพบุรุษของผมศึกษาจุดบนร่างกายโดยเฉพาะ ไม่เพียงศึกษาจนเกิดเทคนิคการนวดออกมาเท่านั้น พวกเรายังมีวิธีการที่ใช้จุดบนร่างกายมารักษาโรคอย่างเช่นการฝังเข็มและอังความร้อนอีกด้วย ดังนั้นในด้านการรักษาโรค ผมจึงพอมีความรู้อยู่บ้างเล็กน้อย
"หึ โอ้อวดให้มันน้อย ๆ หน่อย คนที่มีตาล้วนดูออกว่าระยะนี้สีหน้าของฉันดูไม่ค่อยดี"
หรงหรงส่งเสียงหึออกมาเบา ๆ ครั้งหนึ่ง เธอยังคงดูถูกผมอยู่ ท่าทางที่คิดว่าตัวเองถูกของเธอทำให้ผมรู้สึกไม่พอใจจริง ๆ
"โอ้อวดหรือไม่ พี่หรงแค่ลองดูก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ? หรือพี่กลัวว่าเมื่อถึงเวลาแล้วมันจะได้ผล กลัวว่าจะเป็นการตบหน้าตัวเองเหรอ?"
"นาย! ลองก็ลอง! ถ้านายทำให้ฉันรู้สึกพึงพอใจไม่ได้ นายก็เตรียมตัวไปอยู่ในคุกได้เลย"
เมื่อถูกคำพูดของผมยั่วยุ หรงหรงก็รู้สึกโมโหมาก ๆ ไม่นึกเลยว่าเธอจะยอมให้ผมนวดให้เธอจริง ๆ
ในห้องส่วนตัวนี้มีการสร้างห้องแยกไว้ให้ลูกค้าพักผ่อนโดยเฉพาะ และในห้องแยกก็มีเตียงที่นุ่มสบายวางไว้ด้วย
"พี่ชิง พี่จะไม่ขอร้องให้เด็กคนนี้เหรอ? หรงหรงไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องกันได้ง่าย ๆ นะ"
ผมที่เดินอยู่ด้านหน้า แต่ก็ยังได้ยินคำพูดของหญิงสาวด้านหลังที่คุยกับพี่ชิงเบา ๆ ผมจึงอดที่จะหูผึ่งขึ้นมาไม่ได้ อยากรู้ว่าพี่ชิงจะตอบยังไง
"ฉันเชื่อเขา"
ประโยคที่แสนจะธรรมดาแต่กลับเต็มความเชื่อใจที่มีต่อผม ผมจึงอดที่จะยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ และความมั่นใจก็เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
เพราะคนมากมายกำลังมุงดูอยู่ ผมจึงไม่ได้ให้หรงหรงถอดเสื้อผ้าออก ทำได้เพียงลงมือนวดโดยมีเสื้อผ้ากั้นกลางเท่านั้น โชคดีที่วัสดุของเสื้อผ้าที่เธอสวมนั้นบาง ความรู้สึกก็ดีด้วยเช่นกัน มันจึงไม่มีผลต่อการนวดของผมมากนัก
เป็นธรรมดาที่ผมจะไม่กล้าแตะต้องจุดที่ไวต่อความรู้สึกบนร่างกายเหล่านั้น วิธีการนวดที่ส่วนตัวแบบนั้นไม่เหมาะที่จะใช้ในโอกาสแบบนี้ แต่ถึงจะมีข้อจำกัดของเงื่อนไขมากมายขนาดนี้ ผมก็ยังสามารถทำให้เธอมีประสบการณ์ที่ชวนฝันได้โดยอาศัยจุดที่คอและขา
หลังจากล้างมือจนสะอาดแล้ว ผมก็ลูบไปบนเท้าเรียวคู่นั้น
จริง ๆ แล้วรูปร่างและผิวพรรณของหรงหรงถือว่าดีมาก แต่หลังจากที่ได้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของพี่ชิงกับซุนน่า ผมจึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับรูปร่างที่สวยงามของเธอเลย
จุดแรงที่นวดก็คือจุดซานอินเจียวซึ่งอยู่เหนือตาตุ่มด้านในขึ้นไปสามชุ่นและอยู่ตรงขอบด้านหลังของกระดูกหน้าแข้ง ตรงนี้เป็นจุดที่ไวต่อความรู้สึกของคนจำนวนมาก แต่ที่ทำให้ผมตกใจก็คือตอนที่ผมนวดลงตรงนี้หรงหรงกลับไม่มีการตอบสนองแม้แต่นิดเดียว
ผมอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ หรือว่ายังออกแรงไม่พอ?
ผมพิจารณาว่ามีปัญหาตรงไหนไปพลาง ค่อย ๆ เพิ่มแรงตรงฝ่ามือไปพลาง และตอนที่ผมกำลังจะหยุดนวดตรงจุดนี้ จู่ ๆ หรงหรงก็สะดุ้งขึ้นมาทั้งตัว และส่งเสียงเตือนออกมาครั้งหนึ่งผ่านโพรงจมูก
เดิมทีผมยังคิดว่าตัวเองฟังผิด แต่ต่อมาก็ได้ยินเสียงหายใจแรง ๆ ของเธอ ผมจึงอดที่จะยิ้มออกมาน้อย ๆ ไม่ได้
ดูท่าไม่ใช่เพราะเธอไม่มีการตอบสนอง แต่เป็นเพราะเธอพยายามอดกลั้นความรู้สึกดี ๆ เอาไว้
"หยุด......หยุดนะ......ฉัน ฉันไม่อยากนวดแล้ว!"
ตอนที่ผมกำลังจะนวดลงไปบนจุดที่ไวต่อความรู้สึกจุดหนึ่ง ทันใดนั้นหรงหรงก็ตะโกนบอกว่าให้หยุดด้วยเสียงที่แหบแห้ง
ผมหยุดมือลงอย่างว่าง่าย ถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว และรอให้หรงหรงลุกขึ้นมาจากเตียง
"พี่หรง พี่พอใจกับการนวดของผมไหม?"
เมื่อเห็นแก้มที่แดงเล็กน้อยของหรงหรง ผมก็รู้ว่าผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการนั้นบรรลุผลแล้ว ผมจึงมองเธอด้วยรอยยิ้ม
"นายมีความสามารถอยู่นิดหน่อยจริง ๆ เป็นฉันเองที่ดูถูกนาย ฉัน......ฉันรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำนิดหน่อย ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
หรงหรงมองผมด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็ตั้งใจตัดจบหัวข้อสนทนา และไม่ได้เย้ยหยันอะไรผมอีก
เมื่อเห็นท่าทางการเดินที่แปลกเล็กน้อยของเธอ ผมก็ยิ้มออกมา ดูท่าหรงหรงจะไวต่อความรู้สึกมากกว่าที่ผมจินตนาการไว้เสียอีก
"สืออี ทำได้ดีมาก"
ตอนที่พี่ชิงเดินผ่านตัวผมไปก็มีเสียงที่ขำขันดังเข้ามาในหูของผม
หญิงสาวคนอื่นล้วนเห็นการตอบสนองของหรงหรง เห็นได้ชัดท่าทางของพวกเธอที่มีต่อผมจึงดีขึ้นไม่น้อย หลังจากงานเลี้ยงเริ่มขึ้น ถึงขนาดที่พวกเธอยังหวังว่าผมจะนวดให้พวกเธอด้วยเช่นกัน
ผมยินดีตอบรับการค้าที่มาถึงหน้าบ้านแบบนี้เป็นธรรมดา เพราะพวกเธอต่างเป็นคนที่ร่ำรวย
"เช่นนั้น พี่ชิง ฉันขอโทษนะเมื่อกี้ พูดประโยคที่ทำให้พี่รู้สึกโกรธไปมากมาย หวังว่าพี่จะไม่เก็บเอาไปใส่ใจ"
เพียงครู่เดียวหรงหรงก็จัดการตัวเองจนสะอาดและกลับมายังโต๊ะ เธอเพียงหยิบไวน์แดงขึ้นมาหนึ่งแก้วและพูดกับพี่ชิงด้วยใบหน้าที่เต็มใบด้วยความรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไร แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็มีนิสัยแบบนี้ ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รู้เสียหน่อย"
จากน้ำเสียงที่พูดประโยคนี้ของพี่ชิง ผมฟังอารมณ์ของเธอไม่ออก และไม่รู้ว่าเธอยกโทษให้หรงหรงจริง ๆ หรือว่าเป็นการคืนกันแค่ภายนอก แต่ในโลกของคนที่ร่ำรวยแบบพวกเธอ ไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร มีเพียงแค่ผลประโยชน์เท่านั้น
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved