บทที่ 12 การพบปะของเหล่าหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว
by เจ๋อปี่เฟิงหัว
10:06,Nov 10,2021
ภายนอกนั้นดูเหมือนอาจารย์คังชิ่งกำลังช่วยฉังเล่อพูด แต่เขากลับเสียดสีฉังเล่อไปด้วยเช่นกัน ฉังเล่อที่คนอื่นต่างเคารพนับถือมาโดยตลอดจะสามารถทนความอับอายแบบนี้ได้ยังไงกัน ดังนั้นเขาจึงตอบโต้กลับไปโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว
"ช่างไม่รู้ดีเลวจริง ๆ ลูกศิษย์กำลังจะแย่งงานของนายไปแล้วแท้ ๆ มีอะไรให้อวดเก่งหนักหนา!"
คำพูดของฉังเล่อทำให้อาจารย์คังชิ่งโกรธจนหน้าเขียว หลังจากที่พูดประโยคนี้ด้วยความโกรธแล้ว เขาก็เดินจากไปพร้อมกับใบหน้าที่ไม่พอใจ
"อาจารย์......"
"อย่าเรียกฉันว่าอาจารย์อีก ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่มีลูกศิษย์ที่พึ่งพาผู้หญิงไปสู่ที่สูง และเกาะผู้หญิงกินแบบนาย"
เดิมทีผมคิดว่าประโยคนั้นของฉังเล่อเป็นการปกป้องผมอยู่บ้าง ผมจึงอยากจะพูดขอบคุณ แต่ก็กลับถูกเขาตัดบทอย่างไร้เยื่อใย
ผมมองเงาหลังของเขาที่จากไปด้วยความโกรธ และรู้สึกคับข้องใจมาก ๆ ไม่นึกเลยว่าคนอื่นจะไม่เชื่อเขา แม้แต่อาจารย์ของตัวเองก็ยังรู้สึกรังเกียจเขาเลย
เพราะปรนนิบัติซุนน่านานขนาดนั้น ร่างกายจึงรู้สึกอ่อนเพลียไปตั้งนานแล้ว บวกกับการไม่ได้รับความเป็นธรรมที่คลับ ผมจึงตัดสินใจเลิกงานก่อนเวลา พอกลับถึงบ้านก็นอนคลุมโปงหลับไปตลอดทั้งคืน
เช้าตรู่วันถัดมาผมก็ถูกเสียงโทรศัพท์ทำให้ตื่น ผมยื่นมือออกมาจากผ้าห่มข้างหนึ่ง ควานหาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ และกดรับสายด้วยความมึนงง
"ฮัลโหล......"
"เยี่ยสืออี นายรีบจัดการตัวเองตอนนี้เลย เที่ยงครึ่งฉันจะไปรับนายที่บ้าน ออกไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนฉัน"
เสียงผู้หญิงที่คุ้นหูดังออกมาจากโทรศัพท์ แต่เพราะผมที่กำลังมึนงงอยู่จึงฟังไม่ออกว่าเป็นใคร
"คุณเป็น......"
ผมทำตาหยี และตอนที่กำลังจะถามว่าเธอเป็นใคร ในโทรศัพท์ก็มีเสียงตู๊ด ๆ ดังออกมาแล้ว
"น่าประหลาดใจจริง ๆ ไม่นึกเลยว่าเช้าขนาดนี้จะมีผู้หญิงโทรมานัดฉันออกไปกินข้าวด้วยกัน"
ผมโยนโทรศัพท์ลงบนเตียง บ่นไปเบา ๆ หนึ่งประโยค คว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงและนอนต่อ
"โอ้พระเจ้า! พี่ชิงนัดฉันกินข้าว!"
ไม่นานหลังจากที่ผมนอนลงไปอีกครั้ง ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าใครเป็นคนโทรมา ราวกับถูกฟ้าผ่า ผมจึงกระโดดขึ้นมาจากเตียงในทันที
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำทันที
แม้ผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชิงถึงได้นัดผมออกไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน แต่ในเมื่ออีกฝ่ายโทรมาด้วยตัวเอง จึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ผมก็เลยทำตามอย่างว่าง่าย
แต่งตัวหน้ากระจกอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็ตั้งใจเลือกเสื้อผ้าแฟชั่นชุดหนึ่งมาโดยเฉพาะ นี่ก็เพื่อสร้างความประทับใจที่ดีให้กับพี่ชิง
เมื่อถึงเวลาเที่ยงครึ่งก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นมาจากข้างล่างตึก
"นายจะรีบร้อนไปไหน? ดูนายสิวิ่งจนหอบแฮกแล้ว"
ที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจก็คือพี่ชิงที่ตามปกติจะให้คนคอยมารับมาส่ง ไม่นึกเลยว่าในครั้งนี้เธอจะขับรถมาด้วยตัวเอง หลังจากเห็นผมวิ่งลงมาจากตึก เธอก็ยังใช้น้ำเสียงที่สนิทสนมมาแสดงความห่วงใยผมอีก นี่ทำให้ผมรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยจริง ๆ
"ผมกลัวพี่ชิงจะรอนาน ดังนั้นพอได้ยินเสียงแตรรถผมก็เลยรีบวิ่งลงมาในทันที"
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ เธอถึงมีท่าทางที่ดีแบบนี้กับผม ผมจึงทำได้เพียงตอบไปตามความจริง
"ฮา ๆ นายนี่ปากหวานตลอดเลยนะ"
พี่ชิงหัวเราะออกมาเบา ๆ สองสามครั้ง หลังจากนั้นก็พูดด้วยความสบายอกสบายใจ
"ได้ยินน่าน่าบอกว่าเมื่อวานนายปรนนิบัติจนเธอรู้สึกพึงพอใจมาก ทำให้เธอได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อไหร่นายจะทำให้ฉันบ้างล่ะ?"
เมื่อเห็นใบหน้าที่งดงามราวกับดอกไม้ของพี่ชิง ผมก็กลืนน้ำลายลงไปหนึ่งอึก แต่ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
"พี่น่าเป็นแขกที่พี่ชิงแนะนำมา และพี่ยังกำชับผมอีกว่าให้ปรนนิบัติเธอให้ดี ผมจึงไม่กล้าสะเพร่า ถ้าพี่ชิงอยากจะสัมผัสความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนจริง ๆ ผมพร้อมเสมอ ขอแค่พี่พูดมันออกมา"
"นายรู้จักกาลเทศะมาก ๆ และด้วยสติปัญญาของนาย การที่ฉันสนับสนุนนายจึงไม่ถือว่าสูญเปล่า เมื่อถึงเวลางานเลี้ยง ก็จะมีหญิงสาวที่แต่งงานแล้วเหมือนกันกับฉันและน่าน่าอยู่มากมาย ฉันได้ให้โอกาสกับนายแล้ว นายก็คว้าไว้ให้ดีล่ะ"
พี่ชิงรู้สึกพอใจกับคำตอบของผมมาก ๆ เธอจึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มบาง ๆ และบอกเป้าหมายที่นัดผมกินข้าวในครั้งนี้ให้ผมฟัง นั่นก็คือการแนะนำลูกค้าให้ผม
"ขอบคุณพี่ชิง ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอน!"
ผมมองพี่ชิงด้วยสายตาที่แน่วแน่ หลังจากนั้นก็ตบอกเพื่อรับประกันกับเธอ
ผมพูดคุยกับพี่ชิงอย่างสบายใจไปตลอดทาง แป๊บเดียวพวกเราก็มาถึงประตูโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในเขตคนรวย
ภายใต้การนำทางของบริกร เดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาจนมาถึงห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาในสถานที่แบบนี้ จึงอดที่จะมองหลายครั้งไม่ได้ การประดับตกแต่งของห้องส่วนตัวห้องนี้ประณีตและสวยงามมาก ๆ ราวกับพระราชวังในทวีปยุโรปเลย
"พี่ชิง ในพี่สุดพี่ก็มาถึงแล้ว แต่พี่เป็นคนที่มาช้าที่สุด พี่จะชดเชยอะไรให้พี่สาวน้องสาวหน่อยไหม?"
ตอนที่ผมรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อยเพราะการประดับตกแต่งที่สวยหรูนี้ ทันใดนั้นก็มีเสียงหวานดังขึ้นมาไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีรูปร่างอวบอั๋น สวมชุดเดรสสีเหลืองอ่อนและมีหน้าตาที่ค่อนข้างสวยกำลังเดินเข้ามาหาพวกเรา
และบนโซฟาหนังแท้ที่อยู่ข้างหลังเธอไม่ไกลก็มีสาวสวยที่แต่งกายอย่างสง่างามนั่งอยู่สี่ห้าคน
"อ้อ นี่เป็นของขวัญของฉันในการขอโทษพวกเธอ"
พี่ชิงมองหญิงสาวคนนั้นและหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ หลังจากนั้นเธอก็ใช้มือข้างหนึ่งผลักผมออกไปเบา ๆ ให้ผมไปอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวคนนั้น
"ฉันคิดว่านะพี่สาว พี่ไม่จริงใจเกินไปแล้ว ถึงพี่จะส่งผู้ชายให้พวกเราจริง ๆ ก็ไม่ควรจะส่งมาแค่คนเดียว ผู้หญิงแบบพวกเรา เกรงว่าน้องชายคนนี้จะรับไม่ไหว"
ดวงตาดองท้อคู่นั้นประเมินผมก่อนหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นเธอจึงใช้มือปิดปาก พูดออกมาพร้อมกับหัวเราะคิก ๆ
"เธอเห็นฉันเป็นคนแบบไหนกัน คิดว่าฉันจะทำเรื่องต่ำ ๆ อย่างการส่งผู้ชายได้เหรอ?"
พี่ชิงมองหญิงสาวคนนั้นหนึ่งครั้งด้วยความโกรธ หลังจากนั้นเธอก็พาผมเดินไปยังโซฟาอย่างช้า ๆ
เมื่อผู้หญิงคนอื่นเห็นเธอเดินเข้ามาก็ทยอยกันลุกขึ้นทักทายเธอ
"เอ๊ เช่นนั้นพี่ก็อธิบายมาสิ ส่งผู้ชายคนนี้ให้พวกเราแท้จริงแล้วหมายความว่ายังไง?"
หญิงสาวคนที่สวมชุดเดรสสีเหลืองทนท่าทางการอุบไว้ของพี่ชิงไม่ไหว เธอจึงถามออกมาตรง ๆ
"พวกเธออยากรู้มาตลอดไม่ใช่เหรอว่าทำไมรูปร่างหน้าตาของฉันกับน่าน่าในช่วงนี้ถึงดีขึ้นมาไม่น้อย? เขาก็คือคำตอบ"
พี่ชิงมองหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตายิ้ม ๆ และประคองถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาจิบ
"โอ้พระเจ้า พี่สาวคงจะไม่ได้ทำอะไรกับผู้ชายคนนี้ลับหลังผู้กำกับจริง ๆ หรอกใช่ไหม? ถ้าผู้กำกับรู้เข้าจะไม่ฆ่าเขาตายเหรอ?"
คำพูดประโยคนี้ทำให้พี่ชิงพ่นน้ำชาออกมาในทันที เธอกลอกตาอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตรงมุมปากจนสะอาด แล้วจึงค่อยเปิดปากพูดออกมาเบา ๆ
"ใครบอกพวกเธอกันว่าผู้หญิงใบหน้าเปล่งปลั่ง รูปร่างเปลี่ยนแปลงจะต้องทำเรื่องแบบนั้น? ฉันกับน่าน่าแค่ให้เขานวดให้สองสามครั้งเท่านั้น"
"พี่ชิง พี่อย่ามาหลอกพวกเราเลย เมื่อก่อนพี่ก็ไปนวดที่คลับบ่อย ๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมเมื่อก่อนไม่เห็นได้ผลแบบนี้ล่ะ ฉันขอแนะนำพี่นะว่าให้ระวังตัวหน่อยก็ดี เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้กำกับรู้เข้าจนไปทำร้ายเด็กคนนี้"
เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนี้ไม่เชื่อคำพูดของพี่ชิง และในสายตาของเธอที่มองผมเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม บางทีในมุมมองของเธอ ผมอาจจะเป็นคนประเภทพึ่งพาผู้หญิงขึ้นสู่ที่สูงก็ได้
"ช่างไม่รู้ดีเลวจริง ๆ ลูกศิษย์กำลังจะแย่งงานของนายไปแล้วแท้ ๆ มีอะไรให้อวดเก่งหนักหนา!"
คำพูดของฉังเล่อทำให้อาจารย์คังชิ่งโกรธจนหน้าเขียว หลังจากที่พูดประโยคนี้ด้วยความโกรธแล้ว เขาก็เดินจากไปพร้อมกับใบหน้าที่ไม่พอใจ
"อาจารย์......"
"อย่าเรียกฉันว่าอาจารย์อีก ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่มีลูกศิษย์ที่พึ่งพาผู้หญิงไปสู่ที่สูง และเกาะผู้หญิงกินแบบนาย"
เดิมทีผมคิดว่าประโยคนั้นของฉังเล่อเป็นการปกป้องผมอยู่บ้าง ผมจึงอยากจะพูดขอบคุณ แต่ก็กลับถูกเขาตัดบทอย่างไร้เยื่อใย
ผมมองเงาหลังของเขาที่จากไปด้วยความโกรธ และรู้สึกคับข้องใจมาก ๆ ไม่นึกเลยว่าคนอื่นจะไม่เชื่อเขา แม้แต่อาจารย์ของตัวเองก็ยังรู้สึกรังเกียจเขาเลย
เพราะปรนนิบัติซุนน่านานขนาดนั้น ร่างกายจึงรู้สึกอ่อนเพลียไปตั้งนานแล้ว บวกกับการไม่ได้รับความเป็นธรรมที่คลับ ผมจึงตัดสินใจเลิกงานก่อนเวลา พอกลับถึงบ้านก็นอนคลุมโปงหลับไปตลอดทั้งคืน
เช้าตรู่วันถัดมาผมก็ถูกเสียงโทรศัพท์ทำให้ตื่น ผมยื่นมือออกมาจากผ้าห่มข้างหนึ่ง ควานหาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ และกดรับสายด้วยความมึนงง
"ฮัลโหล......"
"เยี่ยสืออี นายรีบจัดการตัวเองตอนนี้เลย เที่ยงครึ่งฉันจะไปรับนายที่บ้าน ออกไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนฉัน"
เสียงผู้หญิงที่คุ้นหูดังออกมาจากโทรศัพท์ แต่เพราะผมที่กำลังมึนงงอยู่จึงฟังไม่ออกว่าเป็นใคร
"คุณเป็น......"
ผมทำตาหยี และตอนที่กำลังจะถามว่าเธอเป็นใคร ในโทรศัพท์ก็มีเสียงตู๊ด ๆ ดังออกมาแล้ว
"น่าประหลาดใจจริง ๆ ไม่นึกเลยว่าเช้าขนาดนี้จะมีผู้หญิงโทรมานัดฉันออกไปกินข้าวด้วยกัน"
ผมโยนโทรศัพท์ลงบนเตียง บ่นไปเบา ๆ หนึ่งประโยค คว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงและนอนต่อ
"โอ้พระเจ้า! พี่ชิงนัดฉันกินข้าว!"
ไม่นานหลังจากที่ผมนอนลงไปอีกครั้ง ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าใครเป็นคนโทรมา ราวกับถูกฟ้าผ่า ผมจึงกระโดดขึ้นมาจากเตียงในทันที
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำทันที
แม้ผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชิงถึงได้นัดผมออกไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน แต่ในเมื่ออีกฝ่ายโทรมาด้วยตัวเอง จึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ผมก็เลยทำตามอย่างว่าง่าย
แต่งตัวหน้ากระจกอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็ตั้งใจเลือกเสื้อผ้าแฟชั่นชุดหนึ่งมาโดยเฉพาะ นี่ก็เพื่อสร้างความประทับใจที่ดีให้กับพี่ชิง
เมื่อถึงเวลาเที่ยงครึ่งก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นมาจากข้างล่างตึก
"นายจะรีบร้อนไปไหน? ดูนายสิวิ่งจนหอบแฮกแล้ว"
ที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจก็คือพี่ชิงที่ตามปกติจะให้คนคอยมารับมาส่ง ไม่นึกเลยว่าในครั้งนี้เธอจะขับรถมาด้วยตัวเอง หลังจากเห็นผมวิ่งลงมาจากตึก เธอก็ยังใช้น้ำเสียงที่สนิทสนมมาแสดงความห่วงใยผมอีก นี่ทำให้ผมรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยจริง ๆ
"ผมกลัวพี่ชิงจะรอนาน ดังนั้นพอได้ยินเสียงแตรรถผมก็เลยรีบวิ่งลงมาในทันที"
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ เธอถึงมีท่าทางที่ดีแบบนี้กับผม ผมจึงทำได้เพียงตอบไปตามความจริง
"ฮา ๆ นายนี่ปากหวานตลอดเลยนะ"
พี่ชิงหัวเราะออกมาเบา ๆ สองสามครั้ง หลังจากนั้นก็พูดด้วยความสบายอกสบายใจ
"ได้ยินน่าน่าบอกว่าเมื่อวานนายปรนนิบัติจนเธอรู้สึกพึงพอใจมาก ทำให้เธอได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อไหร่นายจะทำให้ฉันบ้างล่ะ?"
เมื่อเห็นใบหน้าที่งดงามราวกับดอกไม้ของพี่ชิง ผมก็กลืนน้ำลายลงไปหนึ่งอึก แต่ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
"พี่น่าเป็นแขกที่พี่ชิงแนะนำมา และพี่ยังกำชับผมอีกว่าให้ปรนนิบัติเธอให้ดี ผมจึงไม่กล้าสะเพร่า ถ้าพี่ชิงอยากจะสัมผัสความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนจริง ๆ ผมพร้อมเสมอ ขอแค่พี่พูดมันออกมา"
"นายรู้จักกาลเทศะมาก ๆ และด้วยสติปัญญาของนาย การที่ฉันสนับสนุนนายจึงไม่ถือว่าสูญเปล่า เมื่อถึงเวลางานเลี้ยง ก็จะมีหญิงสาวที่แต่งงานแล้วเหมือนกันกับฉันและน่าน่าอยู่มากมาย ฉันได้ให้โอกาสกับนายแล้ว นายก็คว้าไว้ให้ดีล่ะ"
พี่ชิงรู้สึกพอใจกับคำตอบของผมมาก ๆ เธอจึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มบาง ๆ และบอกเป้าหมายที่นัดผมกินข้าวในครั้งนี้ให้ผมฟัง นั่นก็คือการแนะนำลูกค้าให้ผม
"ขอบคุณพี่ชิง ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอน!"
ผมมองพี่ชิงด้วยสายตาที่แน่วแน่ หลังจากนั้นก็ตบอกเพื่อรับประกันกับเธอ
ผมพูดคุยกับพี่ชิงอย่างสบายใจไปตลอดทาง แป๊บเดียวพวกเราก็มาถึงประตูโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในเขตคนรวย
ภายใต้การนำทางของบริกร เดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาจนมาถึงห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาในสถานที่แบบนี้ จึงอดที่จะมองหลายครั้งไม่ได้ การประดับตกแต่งของห้องส่วนตัวห้องนี้ประณีตและสวยงามมาก ๆ ราวกับพระราชวังในทวีปยุโรปเลย
"พี่ชิง ในพี่สุดพี่ก็มาถึงแล้ว แต่พี่เป็นคนที่มาช้าที่สุด พี่จะชดเชยอะไรให้พี่สาวน้องสาวหน่อยไหม?"
ตอนที่ผมรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อยเพราะการประดับตกแต่งที่สวยหรูนี้ ทันใดนั้นก็มีเสียงหวานดังขึ้นมาไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีรูปร่างอวบอั๋น สวมชุดเดรสสีเหลืองอ่อนและมีหน้าตาที่ค่อนข้างสวยกำลังเดินเข้ามาหาพวกเรา
และบนโซฟาหนังแท้ที่อยู่ข้างหลังเธอไม่ไกลก็มีสาวสวยที่แต่งกายอย่างสง่างามนั่งอยู่สี่ห้าคน
"อ้อ นี่เป็นของขวัญของฉันในการขอโทษพวกเธอ"
พี่ชิงมองหญิงสาวคนนั้นและหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ หลังจากนั้นเธอก็ใช้มือข้างหนึ่งผลักผมออกไปเบา ๆ ให้ผมไปอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวคนนั้น
"ฉันคิดว่านะพี่สาว พี่ไม่จริงใจเกินไปแล้ว ถึงพี่จะส่งผู้ชายให้พวกเราจริง ๆ ก็ไม่ควรจะส่งมาแค่คนเดียว ผู้หญิงแบบพวกเรา เกรงว่าน้องชายคนนี้จะรับไม่ไหว"
ดวงตาดองท้อคู่นั้นประเมินผมก่อนหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นเธอจึงใช้มือปิดปาก พูดออกมาพร้อมกับหัวเราะคิก ๆ
"เธอเห็นฉันเป็นคนแบบไหนกัน คิดว่าฉันจะทำเรื่องต่ำ ๆ อย่างการส่งผู้ชายได้เหรอ?"
พี่ชิงมองหญิงสาวคนนั้นหนึ่งครั้งด้วยความโกรธ หลังจากนั้นเธอก็พาผมเดินไปยังโซฟาอย่างช้า ๆ
เมื่อผู้หญิงคนอื่นเห็นเธอเดินเข้ามาก็ทยอยกันลุกขึ้นทักทายเธอ
"เอ๊ เช่นนั้นพี่ก็อธิบายมาสิ ส่งผู้ชายคนนี้ให้พวกเราแท้จริงแล้วหมายความว่ายังไง?"
หญิงสาวคนที่สวมชุดเดรสสีเหลืองทนท่าทางการอุบไว้ของพี่ชิงไม่ไหว เธอจึงถามออกมาตรง ๆ
"พวกเธออยากรู้มาตลอดไม่ใช่เหรอว่าทำไมรูปร่างหน้าตาของฉันกับน่าน่าในช่วงนี้ถึงดีขึ้นมาไม่น้อย? เขาก็คือคำตอบ"
พี่ชิงมองหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตายิ้ม ๆ และประคองถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาจิบ
"โอ้พระเจ้า พี่สาวคงจะไม่ได้ทำอะไรกับผู้ชายคนนี้ลับหลังผู้กำกับจริง ๆ หรอกใช่ไหม? ถ้าผู้กำกับรู้เข้าจะไม่ฆ่าเขาตายเหรอ?"
คำพูดประโยคนี้ทำให้พี่ชิงพ่นน้ำชาออกมาในทันที เธอกลอกตาอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตรงมุมปากจนสะอาด แล้วจึงค่อยเปิดปากพูดออกมาเบา ๆ
"ใครบอกพวกเธอกันว่าผู้หญิงใบหน้าเปล่งปลั่ง รูปร่างเปลี่ยนแปลงจะต้องทำเรื่องแบบนั้น? ฉันกับน่าน่าแค่ให้เขานวดให้สองสามครั้งเท่านั้น"
"พี่ชิง พี่อย่ามาหลอกพวกเราเลย เมื่อก่อนพี่ก็ไปนวดที่คลับบ่อย ๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมเมื่อก่อนไม่เห็นได้ผลแบบนี้ล่ะ ฉันขอแนะนำพี่นะว่าให้ระวังตัวหน่อยก็ดี เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้กำกับรู้เข้าจนไปทำร้ายเด็กคนนี้"
เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนี้ไม่เชื่อคำพูดของพี่ชิง และในสายตาของเธอที่มองผมเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม บางทีในมุมมองของเธอ ผมอาจจะเป็นคนประเภทพึ่งพาผู้หญิงขึ้นสู่ที่สูงก็ได้
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved