บทที่ 232 สนามแข่งรถ

แต่ก่อนที่ถังจงเว่ยจะพบตัวตนของตัวเองฮั่วปู้ฝานก็จะไม่เปิดเผยตัวตนอย่างง่ายๆเพราะว่าเรื่องการเกิดใหม่นั้นพูดออกมาแล้วมันก็มหัศจรรย์เกินง่ายที่จะก่อให้เกิดเรื่องที่มันไม่จำเป็น

น้ำเสียงของฮั่วปู้ฝานทำให้ถังจงเว่ยยิ่งมีความรู้สึกที่คุ้นเคย

ตอนที่เจอหน้าครั้งแรกเธอก็เห็นด้วยกับคำพูดของฮั่วเจียหมิงผู้ชายคนนี้มีสไตล์ที่คล้ายกับคู่หมั้นของตัวเองจริงๆ

โดยเฉพาะลักษณะที่เป็นห่วงในตอนนี้ท่ามกลางความนุ่มนวลก็มีความเข้มแข็งอยู่เกือบเท่ากับว่าเหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์

ในเมื่อที่เป็นเช่นนี้เธอเลยไม่ได้ตอบทันทีเพราะมัวแต่เหม่อลอยอยู่

หลินเฉี่ยวเมิ่งที่อยู่บนที่นั่งคนขับฟังจนไม่สบายใจอะไรคือเป็นหวัดแล้วยังมาเที่ยวที่ไกลพูดแบบว่าฉันไม่เป็นห่วงเธอเลย

"คุณชายคะคุณคุ้นเคยมากกับเว่ยเว่ยหรือ?"หลินเฉี่ยวเมิ่งถาม

ฮั่วปู้ฝานเหลือบไปมองเธอตาหนึ่งตอบว่า"ไม่ถือว่าคุ้นเคยมาก"

"อ๋อฉันยังนึกว่าคุณเป็นลุงของเธอเลยพูดเหมือนเป็นผู้อาวุโสกว่า"หลินเฉี่ยวเมิ่งพูด

ฮั่วปู้ฝายรู้ควาหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเธอถังจงเว่ยก็ฟังออกเลยเรียกหลินเสี่ยวเมิ่งเสียงหนึ่งจากนั้นพูดกับฮั่วปู้ฝานว่า"คุณหลี่คุณอย่าซีเรียสนะคะเมิ่งเมิ่งเธพูดตรงไปตรงมาแต่เธอไม่ได้หวังร้ายค่ะ"

ฮั่วปู้ฝานรู้ว่าคำพูดในเมื่อกี้นี้ของตัวเองอาจทำให้หญิงสาวคนนี้เกิดความไม่พอใจแม้รู้สึกว่าความไม่พอใจแบบนี้มันค่อนข้างจะไร้สาระแต่เขาก็ยังคงพูดตามคำพูดของถังจงเว่ย"ไม่เป็นไรฉันไม่ได้เป็นคนจิตใจคับแคบ"

"แกว่าใครใจคับแคบวะ!"เสียงของหลินเฉี่ยวเมื่อจู่ๆก็ดังขึ้นมา

เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าใจผิดนึกว่าฮั่วปู้ฝานเป็นการตีวัวกระทบคราดและตกลงฮั่วปู้ฝานเป็นควาหมายนี้หรือเปล่าหบิวเฉี่ยวเมิ่งก็ขี้เกียดจะยุ่งยังไงตั้งแต่คำพูดแรกที่ฮั่วปู้ฝานใส่ใจถังจงเว่ยเธอก็เริ่มไม่พอใจคนนี้แล้ว

ผู้หญิงคนนี้ที่เติบโตในสภาพครอบครัวที่ร่ำรวยตั้งแต่เด็กน้อยมากที่จะไปคำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่นใครทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจก็จะเถียงกลับทันที

เนื่องด้วยเหตุของครอบครัวก็ไม่มีใครกล้ามาเถียงกับเธอแถมยังเป็นหญิงสาวที่สวยด้วยยิ่งได้เปรียบอีก

ถังจงเว่ยรีบอธิบายว่า"เมิ่งเมิ่งคุณหลี่ไม่ได้ว่าคุณอยู่ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ล่ะ"

หลินเฉี่ยวเมิ่งไม่ไว้หน้าฮั่วปู้ฝานแต่ยังไงก็ต้องเห็นแก่หน้าถังจงเว่ยบ้าง

ถ้าพูดจากเบื้องหลังของวงศ์ตระกูลถังจงเว่ยจะเก่งกว่าเธอคู่หมั้นก็เป็นผู้มีพรสวรรค์ทางด้านการค้าที่โด่งดังในทั่วประเทศไม่ว่าด้านไหนล้วนเป็นคนที่คนอื่นอิจฉา

ถึงแม้เป็นหลินเฉี่ยวเมิ่งก็รู้อย่างชัดเจนว่าตัวเองจะอ่อนกว่าเพื่อนสนิทคนนี้หน่อยนึง

และรวมไปถึงถังจงเว่ยเป็นคนที่ง่ายที่จะทำให้คนอื่นรักใคร่หลินเฉี่ยวเมิ่งก็ไม่อยากให้เธอต้องลำบากเลยเอ่ยเสียงเย็นชาออกมาเสียงหนึ่งแล้วไม่ได้พูดเรื่องที่มันม่น่าฟังกว่าเดิม

ส่วนถังจงเว่ยก็มองไปทางฮั่วปู้ฝานสีหน้าเต็มไปด้วยความขอโทษ

ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้งั้นไม่เชิญฮั้วปู้ฝานขึ้นรถก่อนยังดีกว่าเลยก็จะไม่เป็นสถานการณ์ที่เก้อเขินขนาดนี้แล้ว

ฮั่วปู้ฝานรู้ว่าเธคิดอะไรอยู่ในใจเพียงแค่ส่ายหน้าเพื่อให้เธอรู้ว่าตัวเองจะไม่ซีเรียสหรอกการใจกว้างของเขากลับยิ่งทำให้ถังจงเว่ยอับอายขึ้นกว่าเดิม

"คุณหลี่กลับบ้านพรุ่งนี้หรือ?ไม่นั้นคืนนี้ฉันเลี้ยงคุณละกันอารยธรรมโบราณที่คุณกับเจียหมิงเล่าในครั้งก่อนฉันสนใจอยู่"ถังจงเว่ยพูด

เธอไม่เหมือนฮั่วเจียหมิงสนใจต่อเรื่องทุกอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนพูดแบบนี้เพียงแค่จะหาเหตุผลที่มันเหมาะสมเพื่อแสดงความขอโทษของตัวเอง

แต่ฮั่วปู้ฝานยังไม่ทันได้พูดหลินเฉี่ยวเมิ่งก็พูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ"แกนี่เจอผู้ชายก็ลืมเพื่อนแล้วเนอะ!บอกแล้วว่าจะไปหาพวกไห่จื่อจากนั้นไปกินข้าวด้วยกันไง!"

ถังจงเว่ยพูดว่า"ฉันก็ไม่ใช่ว่าไปพรุ่งนี้เวลาไหนล้วนสามารถกินข้าวได้แต่คุณหลี่มีแค่พรุ่งนี้มีเวลาเดี๋ยวรบกวนคุณช่วยบอกขอโทษกับพวกเขาแทนฉันหน่อยละกันพรุ่งนี้ฉันเลี้ยงพวกเขากินมื้อใหญ่เป็นสิ่งชดเชยได้ไหมล่ะ?'

หลินเฉี่ยวเมิ่งพึมพำอยู่สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจแต่จากนั้นลูกตาหมุนไปรอบหนึ่งเหมือนจะนึกความคิดอะไรได้

ไม่ว่าเป็นถังจงเว่ยหรือฮั่วปู้ฝานล้วนยังไม่ถือว่าคุ้นเคยกับเมืองนี้แน่นอนไม่รู้ว่าหลินเฉี่ยวเมิ่งขับไปทิศทางตรงข้ามกับโรงแรม7DaysInn

เนื่องจากหลินเฉี่ยวเมิ่งอยู่ทั้งสองคนจึงไม่ได้พูดคุยอีกมากมายหลังจากเงียบขรึมสักครู่หนึ่งถังจงเส่ยเห็นสิ่งบางอย่างจากนอกหน้าต่างจึงถามอย่างมึนงง"เมิ่งเมิ่งคุณจับผิดทิศทางหรือเปล่า?"

"ไม่เดี๋ยวก็ถึงแล้ว"หลินเฉี่ยวเมิ่งปรากฏรอยยิ้มที่มีเล่ห์เหลี่ยมพูดว่า"แกไม่ฟังฉันงั้นฉันก็ไม่ฟังคุณอย่างนี้เราสองคนก็ถือว่าชดเชยกัน"

ถังจงเว่ยถึงเข้าใจว่าเธอไม่ได้จับผิดทิศทางคือตั้งใจที่จะขับมาทางนี้นั่นเอง

นี่ทำให้เธอไม่ค่อยสบายใจพูดว่า"ทำไมคุณทำแบบนี้ล่ะ......"

"ยังไงก็มาแล้วและอีกอย่างหนึ่งคุณจะเลี้ยงข้าวคุณผู้ชายคนนี้ก็ไม่ขัดต่อการกินข้าวด้วยกันกับพวกเราไง"หลินเฉี่ยวเมิ่งพูดและมองไปดูฮั่วปู้ฝานจากกระจกมุมองหลังพูดว่า"คุณหลี่พวกเรายังได้นัดเพื่อนอีกหลายครั้งคุณหลี่คงต้องการรู้จักคนพวกนี้ด้วยเนอะ?หรือว่าคุณจะรู้สึกต่ำกว่าพวกเขาไม่กล้าพบหน้ากับพวกเขาใช่ไหม?"

"เมิ่งเมิ่งแกนี่เกินไปแล้วนะ!"ครั้งนี้ถังจงเว่ยโมโหขึ้นมาจริงๆพูดว่า"จอดรถฉันจะลงรถ!"

หลินเฉี่ยวเมิ่งไม่สนใจเธอเพียงรอคำตอบจากฮั่วปู้ฝาน

ฮั่วปู้ฝานรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งใจที่จะมาทำให้เขาโกรธแน่นอนว่าเธอมีแผนอะไรสักอย่างอยากจะให้เขาหน้าแตก

ถ้าเป็นเวลาอื่นฮั่วปู้ฝานขี้เกลียดพูดมากกับคนแบบนี้ด้วยซ้ำ

คุณอยากเห็นฉันหน้าแตกอย่าไปพูดถึงว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่าต้องดูว่าฉันยอมให้โอกาสนี้แก่คุณหรือเปล่า

แต่วันนี้ต่อหน้าถังจงเว่ยไม่ว่ายังไงฮั่วปู้ฝานล้วนไม่สามารถแสดงความอ่อนกว่าออกมา

หนุ่มสาวที่ไม่มีความสามารถมากนักจะทำให้คุณชายใหญ่ของตระกูลฮั่วกลัวได้ไงล่ะ?

เขายิ้มเบาๆพูด"ได้สิฉันอยากรู้จักกับหลายๆคนจริงๆในเมื่อมีคนยอมนำทางให้นั้นก็เป็นสิ่งที่ดี"

"คุณหลี่......"

ถังจงเว่ยหันหน้าไปยังคิดจะพูดอะไรแต่กลับถูกหลินเฉี่ยวเมิ่งแย่งพูดก่อน"เว่ยเว่ยคุณหลี่ยังยอมรับแล้วคุณยังจะห้ามอีกคนเขามีอุดมการณ์ของตัวเองคุณก็อย่าห้ามสิรู้จักเพิ่มอีกหลายคนก็มีประโยชน์ต่อเขาฉันนี่ช่วยอนาคตของเขานะ"

ถังจงเว่ยมองไปดูฮั่วปู้ฝานที่ยิ้และมีสติอยู่และก็มองไปที่หลินเฉี่ยวเมิ่งในที่สุดจ้องไปที่เพื่อนสนิทตัวเองคนนี้ที่มีนิสัยแข็งแกร่งมากและพูดกับเธอว่า"ถ้าคุณหาเรื่องแบบนี้อีกทีหลังฉันก็ไม่มาหาคุณอีกแล้ว!"

"อย่าสิฉันใจดีจริงคุณอย่าเข้าใจผิดไม่นั้นฉันจะเสียใจมากนะ"สีหน้าของหลินเฉี่ยวเมิ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มไม่ได้สนใจการคุกคามของถังจงเว่ยเลย

ระหว่างที่พูดรถก็จอดลงมา

เห็นว่าหลินเฉี่ยวเมิ่งและถังจงเว่ยล้วนลงรถฮั่วปู้ฝานก็เปิดประตูรถตามจากนั้นก็เห็นว่าที่นี่เป็นสนามแข่งรถแห่งหนึ่ง

อยู่ที่ไกลก็สามารถได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตข้างในทำให้อึกทึก

เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นสถานที่บันเทิงสำหรับพวกลูกคนรวยโดยเฉพาะรถหรูระดับหลักล้านแม้กระทั่งหลัก10ล้านมีอยู่มากมายทุกรุ่น

เมื่อก่อนฮั่วปู้ฝานก็เคยมาเล่นที่สถานที่แบบนี่แม้กระทั่งยังเคยปกปิดตัวตนเข้าร่วมการแข่งขันรถบางประเภท

น้อยมากที่จะมีคนรู้ว่าเทพแห่งการแข่งรถที่สวมหน้ากากและเคยชนะการแข่งรถระดับมืออาชีพหลายสนามติดต่อกันภายในครึ่งปีนั้นก็คือคุณชายใหญ่ของตระกูลฮั่ว

ผู้ชายมักจะชอบเรื่องที่สามารถทำให้ตัวเองตื่นเต้น

แต่ว่ายังไงฮั่วปู้ฝานก็ต้องคำนึงถึงธุรกิจเป็นหลักเพียงแค่เคยลองก็ไม่อยากเล่นต่อแล้ว

ก็เหมือนหุ้นเขาแค่จะสัมผัสกับธุรกิจนี้สะสมประสบการณ์ชีวิตเท่านั้นเอง

พูดขึ้นมาแล้วนี่เป็นเรื่องที่ทำให้คนน่าโกรธ

ฮั่วปู้ฝานเป็นเยอะแต่ล้วนไม่เชี่ยวชาญส่วนฮั่วปู้ฝานเป็นได้เยอะและเกือบจะ"เชี่ยวชาญ"ทุกอย่างด้วยไม่อย่างนั้นจะถูกเรียกว่าปีศาจได้ยังไงล่ะ

สนามการแข่งรถแบบนี้เป็นความทรงจำอดีตแล้วถือแม้อนาคตจะมีรายได้มากมายฮั่วปู้ฝานก็จะไม่มาอีกแล้ว

เขาผ่านอายุที่แสวงหาความตื่นเต้นยิ่งไม่อยากไปแข่งเพื่อเป็นจุดเด่น

ดังนั้นเมื่อเห็นสนามแข่งรถฮั่วปู้ฝานเกิดความทรงจำและถอดถอนใจมากกว่า

แต่ลักษณะของเขาในมุมมองของหลินเฉี่ยวเมิ่งเหมือนเป็นคนต่างจังหวัดเข้าเมือง

ผู้หญิงคนนี้ที่เกิดในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยหัวเราะเยาะในใจแต่บนใบหน้าไม่ได้แสดงออกมากลับแสดงตัวอย่างมีมารยาทกว่าตอนอยู่ในรถ

"คุณหลี่ที่นี่เป็นสนามแข่งรถมืออาชีพคุณขับรถเป็นใช่ไหม?จะเข้าไปดูไหม?แน่นอนแล้วถ้าไม่เคยผ่านพวกนี้มาก่อนหรือว่ามีความประหม่าฉันก็เข้าใจได้"หลินเฉี่ยวเมิ่งพูด

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

827