บทที่ 231 เจอกับถังจงเว่ยอีก

หลังจากเอาเช็คเสร็จฮั่วปู้ฝานก็ออกจากที่นี่ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ใดๆ

สีหน้าของเฟิงยาโชวเต็มไปด้วยความไม่สบายใจพูดกับเมียวยี่เกอว่า"ท่านประธานคะคนนี้ช่างไม่มีมารยาทหรือเกินท่านทำไมถึงให้เขาอีก2ล้านล่ะ?"

"เพราะว่าเขากล้าหาญฉันชอบคนแบบนี้"เฟิงยาโชวสะบัดฝุ่นซิการ์ออกใช้คางสะกิดไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์"และเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว"

"ไม่แน่เขาอาจโชคดีเฉยๆ"เฟิงยาโชวพูด

"การที่โชคดีก็เป็นความสามารถอีกอย่างหนึ่งและมันอาจสำคัญกว่าการพยายามด้วยซ้ำความสำเร็จก็พึ่งความพยายามในตัวเอง30%อีก30%เป็นการช่วยเหลือจากคนอื่นและยังมีอีก60%ต้องพึ่งความโชคดีล้วนๆ"เมียวยี่เกอพูดเสร็จก็ส่ายมือและพูดอีก"พูดแล้วคุณก็ไม่เข้าใจหรอกไปชงกาแฟให้ฉันแก้วหนึ่งสิ"

เฟิงยาโชวจากไปตามคำสั่งของเขาส่วนเมียวยี่เกอยังคงิยู่ในท่ามกลางของหมอกควันมองไปดูหุ้นในหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ถึงขีดจำกัดของขาขึ้นปรากฏสีหน้าที่สนใจขึ้นมา"สนุกจริง......"

หลังจากออกจากบริษัทฮั่วปู้ฝานเปิดโทรศัพท์มาดูตั๋วเครื่องบิน

สายการบินที่ใกล้สุดล้วนจำหน่ายหมดแล้วเร็วสุดก็ต้องรอถึงแปดโมงเช้าของวันพรุ่งนี้

นี่ทำให้ฮั่วปู้ฝานไม่พใจกับระบบของบริษัทสายการบินทำไมหลังเที่ยงคืนก็ไม่บินแล้วล่ะ?

แต่ไม่พอใจเป็นอีกเรื่องหนึ่งฮั่วปู้ฝานยังเข้าใจอยู่

หลายปีก่อนเกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินในช่วงกลางคืนสองครั้งในเดือนเดียวกันทำให้ฝ่ายการบริหารการบินพลเรือนออกกฎใหม่หลังเที่ยงคืนห้ามออกบินเด็ดขาด

ไม่อย่างนั้นฮั่วปู้ใานสามารถกลับได้ในคืนนี้เลย

ส่วนถ้านั่งรถไฟเวลาก็ค่อนข้างจะนานหน่อยและอีกอย่างหนึ่งเขาไปตรวจดูตั๋วของรถไฟที่ยังมีตั๋วเหลือมีเพียงแต่เที่ยวของตีสามครึ่ง

ถ้านั่งรถไฟเที่ยวนี้กลับกลับถึงบ้านก็คือเช้าของวันที่สองอยู่ดีนั่งเครื่องบินไม่ดีกว่าหรือ

ครุ่นคิดไปสักพักฮั่วปู้ฝานได้โทรไปให้หนิงเสี่ยวฉินบอกกับเธอว่าเนื่องจากไม่มีตั๋วเครื่องบินแล้วดังนั้นพรุ่งนี้ค่อยกลับไป

หนิงเสี่ยวฉินก็ไม่ได้พูดอะไรรู้ว่าเขามาเพื่องานหลักเลยเตือนเขาว่าอยู่ข้างนอกต้องระมัดระวังเวลานอนอย่าลืมต้องล็อคประตูด้วย

ฮั่วปฝานฟังจนอยากหัวเราะเขาเป็นผู้ชายและก็พักอยู่ในโรงแรมที่มาตราฐานใครจะกล้ามางัดประตูและอีกอย่างหนึ่งนี่ยังอยู่ในประเทศยังปลอดภัยอยู่

แต่นี่เป็นความห่วงใยจากภรรยาแน่นอนว่าฮั่วปู้ฝานจะไม่ทำให้เธอหน้าแตกตอบเธอว่ารับทราบอย่างเชื่อฟัง

หลังจากวางสายแล้วฮั่วปู้ฝานยืนรอรถอยู่ริมถนนในขณะเดียวกันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาโรงแรมที่ใกล้สนามที่สุดและบรรยากาศดีสุดด้วย

เศรษฐกิจในตอนนี้แม้ว่าพักอยู่โรงแรมห้าดาวก็ไม่มีอะไรมากแต่ฮั่วปู้ฝานไม่ค่อยซีเรียสกับที่พักมากนัก

ตอนนั้นที่ออกไปทำธุรกิจเองแม้กระทั่งม้านั่งหินในสวนสาธารณะเขาก็เคยนอนการที่สามารถพักอยู่โรงแรมปกติถือว่าดีแล้ว

เสื้อผ้าอาหารการกินที่พักอาศัยและการท่องเที่ยวสี่อย่างนี้ฮั่วปู้ฝานใส่ใจกับอาหารการกินมากที่สุด

เขานึกอยู่ตลอดว่าการที่คนมีชีวิตอยู่ก็เพื่อหารายได้การหารายได้ก็เพื่อที่จะได้กินของอร่อยๆโดยไม่ต้องไปคำนึงถึงราคาของมัน

และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำไมฮั่วปู้ฝานถึงไปหาchefจากทุกที่และเรียนรู้วิธีการทำอาหารอยู่บ่อยๆ

แน่นอนแล้วตอนนี้เขาก็เริ่มมีข้อกำหนดบางประการกับที่พักอาศัยแล้วแต่ไม่ได้เป็นเพราะตัวเองเป็นเพราะแม่ลูกคู่นั้นที่อยู่ในบ้าน

ฮั่วปู้ฝานไม่อยากให้แม่ลูกคู่นี้ต้องอยู่ในบ้านที่มันเก่าๆอีกต่อไปบ้านที่ซื้อใหม่ได้เหมาให้บริษัทตกแต่งบ้านแห่งนี้ไปจัดการแล้วเริ่มจากการตกแต่งจนถึงการกำจัดอัลดีไฮด์เสร็จต้องใช้เวลาประมาณ3เดือนก่อนฤดูหนาวจะถึงก็น่าจะสามารถย้ายเข้าบ้านใหม่ได้แล้ว

เดิมทีฮั่วปู้ฝานรู้สึกว่ารายได้ในตอนนี้มากอยู่เตรียมที่จะซื้อดินที่หนึ่งในฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองพอถึงเวลาแล้วก็สามารถสร้างวิลล่าหรือลายรูปแบบโบราณเป็นส่วนตัว

ไม่มีใครมารบกวนเมื่อไปอยู่แล้วจะเพลิดเพลินไปโดยธรรมชาติ

แต่บ้านหลังแบบนี้อย่างน้อยต้องประมาณ10กว่า20ล้าน

หนิงเสี่ยวฉินที่รู้สึกว่า1แสนบาทก็คือเงินมหาศาลใน1ปีก่อนจะยอมหรูหราเช่นนี้ยังไงได้ล่ะในที่สุดภายใต้การโน้มน้าวใจของฮั่วปู้ฝานเธอก็ยอมซื้อที่ดินก่อนส่วนบ้านนั้นจะสร้างเมื่อไหร่เดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง

เรื่องของที่ดินฟางชางเซิ่งเสนอว่าจะรับเหมาให้ฮั่วปู้ฝานก็ไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีของเขา

มีเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในท้องถิ่นคนนี้ช่วยไม่ว่าเป็นเรื่องการต่อรองราคาหรือทำบัตรต่างๆล้วนจะง่ายขึ้นเยอะเลน

เวลาที่ฮั่วปู้ฝานใช้โทรศัพท์เลือกโรงแรมอยู่รถมาเซราติคันหนึ่งจอดอยู่ข้างๆ

ต่อมาหน้าต่างของรถเก๋งเปิดลงมาใบหน้าที่สวยของถังจงเว่ยปรากฏออกมา"เป็นคุณหลี่จริงด้วยฉันยังนึกว่าจำผิดคนเลย"

เมื่อได้เห็นถังจงเว่ยฮั่วปู้ฝานก็ค่อนข้างจะแปลกใจคาดไม่ถึงว่าจะพบเธอในที่นี่

ตามหลักแล้วที่นี่ไม่ใช่พื้นที่ครอบครองของถังซื่อกรุ๊ปถังจงเว่ยมาทำอเไรที่นี่ล่ะ?

หรือว่าไอ้ตัวปลอมคนนั้นอยู่ฝั่งนี้หรือ?

ถ้าเป็นอย่างนี้งั้นถังจงเว่ยตามมาก็เป็นเรื่องปกตื

เนื่องด้วยเช่นนี้ฮั่วปู้ฝานจึงมองเข้าไปในรถเก๋งด้วยจิตสำนึกแต่กลับเห็นหญิงสาวที่แต่งกายทันสมัยคนหนึ่งนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับไม่ใช่คนที่ตัวเองอยากจะเห็น

รู้สึกว่าค่อนข้างจะผิดหวังถ้าสามารถพบกับตัวปลอมสักครั้งหนึ่งฮั่วปู้ฝานก็จะยืนยันได้ว่าตกลงเขามีความสามารถมากไปถึงไหนไม่แน่อาจจะเดินทางลัดเข้าใกล้คนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังได้ด้วย

ตอนนี้ความหวังมันล่มสลายเขามีแต่ต้องยิ้มให้ถังจงเว่ยและตอบว่า"คุณหนูถังบังเอิญจริงๆทำไมคุณมาที่นี่ล่ะ?"

"เพื่อนสนิทนัดฉันมาเที่ยว"ถังจงเว่ยมองไปดูประตูบริษัทที่อยู่ข้างๆและถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น"คุณหลี่มาทำธุระหรือมาหาคน?"

"ได้รับการมอบหมายจากคนอื่นมาทำเรื่องเล็กๆแต่ตอนนี้ทำเสร็จแล้วเตรียมจะหาโรงแรมเข้าพักพรุ่งนี้กลับบ้าน"

อยู่ต่อหน้าถังจงเว่ยฮั่วปู้ฝานง่ายที่จะวางความระมัดระวังในใจลงคำพูดก็ค่อนข้างจะละเอียดหน่อย

ถังจงเว่ยตอบด้วยเสียงอ่อคิดไปสักครู่หนึ่งแล้วพูดว่า"ในเมื่อที่บังเอิญพบกันงั้นพวกเราพาคุณหลี่ไปส่งที่โรงแรมละกัน"

"จะรบกวนหรือเปล่า?"ฮั่วปู้ฝานถาอย่างมีมารยาท

ถังจงเว่ยมองไปดูหญิงสาวที่อยู่ในที่นั่งคนขับถามว่า"เมิ่งเมิ่งมีเวลาไปส่งเขาเที่ยวหนึ่งไหม?"

หญิงสาวคนนั้นชื่อว่าหลินเฉี่ยวเมิ่งเป็นลูกคนรวยที่มีฐานะทางครอบครัวที่ร่ำรวยสนิทกับถังจงเว่ย

เพื่อนสนิทอ้าปากพูดแม้แต่เธอรู้สึกว่ายุ่งยากก็ยังคงรับปากลงมา

ถังจงเว่ยดีใจมากสะกิดให้ฮั่วปู้ฝานขึ้นรถ

ถ้าเป็นคนอื่นฮั่วปู้ฝานอาจจะปฏิเสธแต่ความหวังดีของถังจงเว่ยเขาไม่อยากปฏิเสธ

น้องสาวข้างบ้านคนนี้ที่ใกล้ชิดดับเขามากมาตั้งแต่เด็กเป็นคนที่มีจิตใจดีการที่ปฏิเสธเธอเป็นเรื่องที่ง่ายที่จะทำให้ฮั่วปู้ฝานเกิดควารู้สึกที่อับอาย

เปิดประตูรถแล้วขึ้นไปบนรถรถเก๋งขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ามากกว่าหลักล้านเบาะหลังกว้างขวางมาก

ถังจงเว่ยหันมาถามว่า"คุณหลี่พักอยู่โรงแรมไหน?"

ฮั่วปู้ฝานก้หน้าไปดูโทรศัพท์จากนั้นพูดว่า"7DaysInn"

ถังจงเว่ยรู้สึกประหลาดใจคาดไม่ถึงว่าผู้ชายที่ฮั่วเจียหมิงให้ความสำคัญและแม้กระทั่งตัวเองก็มีความรู้สึกที่ดีต่อเขาหน่อยได้พักอาศัยอยู่ในโรงแรมที่ราคาถูกเช่นนั้น

หลินเฉี่ยวเมิ่งมองไปที่ฮั่วปู้ฝานผ่านกระจกมุมหลังจากนั้นถาม"เว่ยเว่ยนี่เป็นเพื่อนคุณหรือ?"

ถังจงเว่ยลังเลสักครู่จากนั้นถึงพูดว่า"ใช่"

กินชากันไปครั้งหนึ่งเองไม่ถือว่าเป็นเพื่อนแต่ถังจงเว่ยก็ไม่ดีที่จะปฏิเสธว่าไม่ในเมื่อที่ได้ชวนเขาขึ้นบนรถแล้วไม่ดีที่จะทำให้เขาหน้าแตก

หลินเฉี่ยวเมิ่งดูจากการตอบสนองขิงเธอแล้วรู้ว่าสองคนนี้น่าจะไม่ค่อยคุ้นเคย

เพราะว่าถังจงเว่ยเป็นลูกสาวเดียวของประธานถังซื่อกรุ๊ปทรัพย์สินมหาศาลส่วนฮั่วปู้ฝานหน้าตาพอใช้ได้อยู่แต่เครื่องแต่งกายทั้งหมดรวมกันคงไม่ถึงหนึ่งพันด้วยซ้ำสิ่งสำคัญที่สุดคือเขายังพักอยู่ในโรงแรมระดับต่ำอย่าง7DaysInn

โรงแรมแบบนี้ปกติหบินเฉี่ยวเมิ่งจะไม่มองแม้แต่ตาเดียว

แม้ว่าเธอไม่ค่อยเห็นถึงคุณค่าของเงินเหมือนคนปกติแต่ความแตกต่างมันปรากฏให้เห็นอย่างชัดๆยังคงให้หลินเฉี่ยวเมิ่งเกิดความรู้สึกเหนือกว่าขึ้นมาจากใจและก็ไม่มีความสนใจต่อฮั่วปู้ฝานอีก

คนยากจนคนหนึ่งอาจจะได้เจอกับถังจงเว่ยเพราะความบังเอิญเฉยๆทีหลังคงไม่มีอะไรกันอีกจะถามมากขนาดนั้นไปทำไรล่ะ

"ขอที่อยู่หน่อย"หลินเฉี่ยวเมิ่งพูด

จากน้ำเสียงของเธอฮั่วปู้ฝานได้รับรู้ถึงควาห่างไกลอย่างหนึ่งเขาไม่ได้ใส่ใจบอกที่อยู่ออกมาตามสบาย

จากนั้นเขามองไปที่ถังจงเว่ยพูดว่า"ฟังจากเสียงที่คุณพูดแล้วไม่ค่อยปกติเป็นหวัดหรือเปล่า?"

ถังจงเว่ยนึกได้ทันทีว่าหลายวันก่อนเขายังเตือนตัวเองให้รักษาสุขภาพให้ดีรู้สึกเขินอายเล็กน้อยจากนั้นพูดว่า"แค่จามเท่านั้นเองไม่มีอะไรมาก"

"บอกกับคุณให้รักษาสุขภาพให้ดีแล้วไม่ใช่หรือในเมื่อเป็นหวัดทำไมยังมาเที่ยวไกลขนาดนี้ล่ะ"น้ำเสียงที่เป็นห่วงของฮั่วปู้ฝานได้มีความตำหนิที่เกิดจากสัญชาตญาณผสมอยู่ด้วย

ในความรับรู้ชั้นลึกสุดของเขาไม่จำเป็นต้องปกปิดต่อถังจงเส่ยมากเกินไปถ้าหากผู้หญิงคนนี้จำตัวเองได้งั้นกลับเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งด้วยซ้ำ

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

827