บทที่ 6 กฎของป่า ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ไม่นานเขาก็นั่งขัดสมาธิ และค่อยๆฝึก "รังสรรค์หวนจุติ" ภายในร่างกายของเขาอย่างช้าๆ

ทันใดนั้น พลังทางจิตวิญญาณจากต้นไม้ ดอกไม้ และแม้แต่พลังทางจิตวิญญาณจากดินก็ค่อยๆ พุ่งเข้าหาฉินเฟิงอย่างช้าๆ

จากนั้นมันก็ถูกดูดซับโดยร่างกายอันเงียบงันของเขา...

เป็นค่ำคืนที่เงียบสนิท!

เมื่อฉินเฟิงลืมตาขึ้นในตอนเช้าตรู่ เขาก็พบว่าตนเองได้ผ่านไปถึงระดับสองของการฝึกลลมปราณแล้ว
“ความเข้มข้นของพลังทางจิตวิญญาณในที่แห่งนี้อยู่ในระดับสูง ซึ่งทำให้การฝึกตนนั้นรวดเร็วไม่ต่างจากการฝึกในสำนักเซียวเหยา”

เขาไม่คาดคิดว่าในสภาพแวดล้อมที่ดูเหมือนวันสิ้นโลกนี้ พลังทางจิตวิญญาณจะช่วยให้ก้าวหน้าในการฝึกตนได้เร็วมาก

แม้ว่าสิ่งนี้จะเกี่ยวข้องกับการกลับชาติมาเกิด แต่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า "รังสรรค์หวนจุติ" นั้นเป็นทักษะที่ท้าทายสวรรค์

ฉินเฟิงหายใจเข้ายาว ยืนขึ้น ค่อยๆ ยืดแขนขาของเขา และร่างกายของเขาก็ส่งเสียง "แคร็ก" ออกมาอย่างช้าๆ

เขากำหมัดแน่นและทันใดนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังมหาศาล

เขาเดินไปด้านข้างและชกเข้ากับต้นไม้ต้นใหญ่ด้วยความเร็ว

ส่งเสียง “ครืน” ดังสนั่น!

ต้นไม้ใหญ่หักกลางและล้มลงไปในพุ่มไม้ทันที

ฉินเฟิงถอนกำปั้นของเขาออก มองดูมัน และแสดงรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ

"ไม่เลว ไม่เลวเลย!"

ไม้ของต้นไม้ต้นนี้ หนาและทนทานกว่าต้นไม้ทั่วไป

แต่ถึงอย่างนั้น ฉินเฟิงก็ยังคงซัดเข้าไปด้วยหมัดที่ทรงพลัง

หากหมัดดังกล่าวชกต่อยคนธรรมดาแล้วล่ะก็กระดูกคงจะหักทันที

หากหมัดนั้นกระทบถึงจุดตาย คู่ต่อสู้คงจะถูกสังหารในหมัดเดียว

และด้วยหมัดนี้ ฉินเฟิงยังค้นพบบางสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ

นั่นคือการฝึกตนด้วยวิธี "รังสรรค์หวนจุติ" มันไม่เพียงแต่ปรับปรุงพลัง แต่ยังทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

แต่ในความเป็นจริง เขาไม่ได้ใช้พลังอะไรมากนัก การออกหมัดในครั้งนี้ เขาอาศัยเพียงความความแข็งแกร่งของร่างกายตนเองเท่านั้น

มันแสดงให้เห็นว่าร่างกายของเขาในเวลานี้แข็งแกร่งถึงเพียงไหน

"สมชื่อ "รังสรรค์หวนจุติ" จริงๆ

มีพลังอย่างกับสวรรค์สรรสร้าง! "

ฉินเฟิงพึมพำอยู่คนเดียวด้วยท่าทีที่มีความสุข

อย่างหนึ่งที่ต้องรู้ ความจริงพวกนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วพิภพเซียนว่า:ฝึกลมปราณนั้นง่าย แต่การออกกำลังกายนั้นยาก!

ซึ่งหมายความว่าการออกกำลังกายนั้นยากกว่าการดูดซับพลังทางจิตวิญญาณ

ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรเป็นเซียน นักพรตส่วนใหญ่เพียงแค่ดูดซับพลังทางจิตวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังของพวกเขา และแทบจะไม่เคยฝึกฝนร่างกายของตนเองเลย

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการ แต่เพราะด้วยเหตุบางอย่างทำให้พวกเขาล้มเลิกกันไป

ประการแรก เป็นเพราะวิธีการฝึกที่ดีนั้นหาได้ยาก วิธีง่ายๆ ทั่วไปก็ไม่ได้ทำให้เห็นผลมากนัก

อาจกล่าวได้ว่าหากเลือกวิธีทั่วไปในการฝึก สภาพร่างกายก็ไม่ได้ต่างจากคนธรรมดามากนัก

ประการที่สอง ต้องเสียเวลาในการควบคุมร่างกาย บางครั้งอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าการนั่งสมาธิเพื่อดูดซับพลังทางจิตวิญญารเสียด้วยซ้ำ

เพราะเป้าหมายสูงสุดของบำเพ็ญเพียรเป็นเซียนคือการเป็นอมตะ

ดังนั้นการออกกำลังกายไม่ได้ช่วยยืดอายุขัย มันจึงไม่คุ้มค่าที่จะเสียเวลาไปกับสิ่งนั้น

ประการที่สาม โดยปกติแล้ว กายออกกำลังกายนั้นต้องพึ่งสิ่งอำนวยควาสะดวกจากทางโลก ซึ่งนักพรตที่ฝึกตนเป็นเซียนไม่สามารถทำได้

สำหรับนักพรตธรรมดา ในขั้นฝึกลมปราณ ต่อให้พวกเขาจะออกกำลังกายด้วยการวิ่งหรือทำงานหนัก ผลลัพธ์ที่ได้มาก็ไม่เพียงพอ


เป็นเหตุให้พวกเขาไม่สามารถหาวิธีการใดๆที่จะเหมาะสม

ซึ่งมันทำให้เราได้เห็นว่า "รังสรรค์หวนจุติ" เพียงพอต่อการฝึกฝนร่างกายอย่างสูงสุด

ฉินเฟิงเดินไปที่ขอบหน้าผาอีกครั้ง มองดูเหวลึกที่ปกคลุมไปด้วยหมอก และพึมพำบางอย่างออกมา

“ได้เวลาลงไปแล้ว เป็นไงเป็นกัน”

หลังจากตัดสินใจ เขาก็ไม่รีรอ ค่อยๆไต่เถาวัลย์ที่อยู่ริมผาลงไป

ในขณะที่เขาค่อยๆลงไป เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่หนาแน่นรอบตัวเขา

โชคดีที่หน้าผานี้ไม่ได้เป็นแนวดิ่งลงไปจนสุด

ฉินเฟิงลงมาหลายสิบหรือหลายร้อยเมตร ความลาดชันก็ค่อยๆปรากฏขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทุ่นแรงและช่วยรักษาความแข็งแกร่งทางร่างกายได้อย่างมาก

หลังจากใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเขาก็มาถึงก้นเหว

ความเข้มข้นของพลังทางจิตวิญญาณในที่แห่งนี้ เข้มข้นกว่าบนหน้าผาถึงสามเท่า

“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าสภาพแวดล้อมบนโลกที่พลังทางจิตวิญาณแทบไม่มีหลงเหลือยังมีสถานที่ที่มีพลังทางจิตวิญญาณที่สูงเช่นนี้อยู่”

ฉินเฟิงมองไปรอบ ๆ และเผยรอยยิ้มออกมา

ยิ่งความเข้มข้นของพลังทางจิตวิญญาณสูงเท่าใด ก็จะยิ่งฝึกฝนได้เร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตามความเข้มข้นทางจิตวิญญาณในสถานที่แห่งนี้ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าพิภพเซียนในชาติที่แล้วได้

แต่เพียงเท่านี้ ฉินเฟิงก็พอใจเป็นอย่างมากแล้ว

ในขณะที่ฉินเฟิงกำลังพึงพอใจอยู่นั้น หญ้าวิญญาณที่อยู่ไม่ไกลก็ดึงดูดความสนใจของเขาทันที

“หญ้าเผยหยวน!”

นี่คือหญ้าเผยหยวนที่ใช้ในการทำยาเม็ดเผยหยวน

เดิมทีฉินเฟิงคิดว่าสภาพแวดล้อมบนโลก เป็นไปไม่ได้ที่จะพบหญ้าเผยหยวน

แต่คาดไม่ถึงสมุนไพรแรกที่เขาพบเจอกลับเป็นหญ้าเผยหยวน

ซึ่งมันหมายความว่า ฉินเฟิงจะสามารถทำยาเม็ดเผยหยวนหรือว่าน้ำรวมวิญญาณเผยหยวนได้แล้ว

เขาเดินไปยังหญ้าสีเขียวที่อยู่ด้านหน้าเขาอย่างรวดเร็ว มองดูมันอย่างระมัดระวังด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“หญ้าเผบหยวนนี้จริงๆ คงมีอายุมากกว่าสิบปีแล้ว!”

แม้ว่าจะไม่มีข้อกำหนดสำหรับอายุหญ้าเผยหยวนที่ใช้ในการทำยาเม็ดเผยหยวน

แต่หญ้าเผยหยวนที่ใช้สำหรับทำน้ำรวมวิญญาณเผยหยวน ยิ่งมีอายุมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะยิ่งดีเท่านั้น

“การพบหญ้าเผยหยวนในสถานที่แห่งนี้ ถือว่าการเดินทางในครั้งนี้คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง”

จากนั้นฉินเฟิงก็เอื้อมมือไปหยิบหญ้าเผยหยวนอย่างระมัดระวัง

แต่ฉินเฟิงก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น

จากนั้น เขายังคงสำรวจเข้าไปในส่วนลึกของเหว ทำให้พบสมุนไพรและยาอายุวัฒนะที่มีประโยชน์มากมาย

“ดอกหยี่โล่ว สามารถนำมาทำเป็นยาเม็ดเพื่อชำระล้างจิตใจได้”

“เครือฉางชิง สามารถบรรเทาอากาปวดเมื่อยของนักพรตที่บำเพ็ญเพียรเป็นอมตะได้”

“ผลหยกขาว สามารถบำรุงจิตวิญญาณ ชำระล้างจิตใจ ทำให้มีสทาธิเพิ่มขึ้น และผลของมันยังสามารถนำไปทำเป็นยาเม็ดได้อีกด้วย”



“หญ้าเมฆาม่วง! โอ้พระเจ้า ไม่อยากจะเชื่อว่าหญ้าเมฆาม่วงขึ้นอยู่ที่นี้ด้วย!”

หลังจากที่ฉินเฟิงได้เลือกสมุนไพรและยาอายุวัฒนะทางจิตวิญญาณไปมากกว่าสิบอย่าง เขาก็มุ่งความสนใจไปยังหญ้าเมฆาม่วงขนาดเท่าฝ่ามือ

หญ้าเมฆาม่วงเป็นยาอายุวัฒนะที่สามารถนำไปทำเป็นยาเม็ดเมฆาม่วงได้

ยาเม็ดเมฆาม่วงเป็นยาอายุวัฒนะที่สามารถเพิ่มพลังของเหล่านักพรตที่ฝึกตนในขั้นก่อกำเนิด และผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็ถือว่าดีเป็นอย่างมาก

แม้แต่ในพิภพเซียน หญ้าเมฆาม่วงก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

หากหญ้าเมฆาม่วงปรากฏขึ้น ณ ที่แห่งใดในพิภพเซียน เหล่านักพรตผู้ต่ำต้อยนับไม่ถ้วนก็จะไปแย่งชิงมันอย่างเอาเป็นเอาตาย

แม้ว่ามันจะหมายถึงการทรยศหักหลัง และฆ่าฟันกันเพื่อให้ได้มา พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะลงมือ

ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด นี้ถือเป็นกฎของป่า ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงในพิภพเซียน

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

817