บทที่ 9 ข้อตกลงหน้าเลือด กับเงินห้าล้าน

ปรมาจารย์!

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ฉินเฟิงก็สะดุ้งทันที แต่เขาค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นว่า คนที่เป็นปรมาจารย์จะต้องมีความสามารถแบบไหนกัน?

เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้ชื่อแบบนี้ได้

หลังจากที่ฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สาวสวยที่ชื่อโม่เฉิงเฉิงที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นด้วยท่าทีลังเลว่า:

“คุณคะ ผลสีขาวในมือของคุณ มันจำเป็นสำหรับเรามาก คุณจะขายให้เราได้ไหมคะ?

ถ้าคุณเต็มใจที่จะขายให้ เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา เรียกราคามาได้เลยค่ะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินเฟิงก็ล้มเลิกความคิดที่อยู่ภายในใจและมองตรงไปยังโม่เฉิงเฉิง

“ในเมื่อคุณต้องการผลสีขาวอันนี้ เสนอราคามาก่อนว่าคุณสามารถจ่ายได้เท่าไหร่?”

ผลหยกขาวนั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อฉินเฟิงสักเท่าไหร่

เพราะถึงยังไง ในชาติที่แล้วเขาบำเพ็ญจนผ่านขั้นผ่านความทุกข์ยากไปแล้ว ถึงเขาจะกลับมาเกิดใหม่ จิตใจของเขาก้ไม่ได้อ่อนแอเหมือนคนทั่วไป

ต่อให้จะสกัดผลหยกขาวเป็นยาอายุวัฒนะ มันก็ไม่มีผลอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย

ก่อนหน้านี้ ฉินเฟิงคิดแค่ว่าเขาจะต้องมีสมุนไพรเสริมเพื่อช่วยในการฝึกของเขา

แต่ในตอนนี้เขามีสมุนไพรมากมาย และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้มันหมด

วิธีที่ดีที่สุดคือการขายมันเเลกเงิน

เพราะตอนนี้เขาสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าตัวเขาไม่มีเงินเลยสักแดงเดียว



ดังนั้น หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็มองลงไปที่ผลหยกขาว

จากนั้นก็มองไปที่คนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าเขา ท่าทางของพวกเขาดูเหมือนจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงและร่ำรวยน่าดู

เขามองไปที่ผลหยกขาวอีกรอบ ประกอบกับความคิดที่อยู่ในหัว ฉินเฟิงเชื่อว่าคนพวกนี้เต็มใจที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อมันอย่างแน่นอน

และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อฉินเฟิงถามคำถามออกไป ใบหน้าของโม่เฉิงเฉิงก็แสดงความยินดีออกมาทันที

“คุณคะ ฉันยินดีจ่ายหนึ่งล้านเพื่อผลหยกศักดิ์สิทธ์นี้ ถ้าคุณคิดว่ามันน้อยเกินไป เราสามารถต่อรองกันได้”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉินเฟิงก็รับรู้ได้ถึงความกระตือรือร้นที่อีกฝ่ายมีต่อผลหยกขาว

เขาเผยรอยยิ้มออกมา และยกมือขึ้นมาชูนิ้วออกไปห้านิ้ว:

"ห้าล้านขาดตัว"

ก่อนที่โม่เฉิงเฉิงจะตอบ โม่ชิงเฉิน น้องชายของเธอก็พูดเสียงดังขึ้นทันที:

“อะไรนะ ห้าล้าน นี้จะปล้นกันรึไง?”

ฉินเฟิงเหลือบมองโม่ชิงเฉินและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:

“หึ! ก็ไม่ถึงกับปล้นซะทีเดียว แต่ถ้าไม่อยากได้แล้วก็ลืมไปซะเถอะ”

เมื่อพูดจบเขาก็ก้าวขาออกไปทันที

พูดจริงๆ ราคาห้าล้าน สำหรับฉินเฟิงก็ไม่ถือว่าเกินไป

ในพิภพเซียนผลหยกขาวที่มีอายุแค่สิบปี ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพบเจอ แต่ในสถานที่อยากโลก ถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่หายากทีเดียว

ฉินเฟิงคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอผลหยกขาวผลที่สองบนโลก

ดังนั้นราคาห้าล้านจึงสมเหตุสมผล

ขณะเดียวกัน โม่เฉิงเฉิงก็หันไปมองหน้าน้องชายของเธอ

และออกไปขวางหน้าฉินเฟิง จากนั้นตอบออกไปว่า:

“โอเค ห้าล้าน ฉันตกลง! แต่เราต้องออกไปก่อน ตอนนี้ฉันไม่มีมากขนาดนั้น”

ก่อนที่ฉินเฟิงจะพูดอะไรออกมา โม่เฉิงเฉิงก็ยื่นบัตรธนาคารให้พร้อมพูดว่า:

“คุณคะ บัตรนี้มีเงินสามล้าน อีกสองล้านฉันจะโอนให้คุณทันทีที่ฉันถึงบ้าน”

“พี่ครับ พี่...”

โม่ชิงเฉินที่อยู่ด้านหลังเห็นทุกการกระทำและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่โม่เฉิงเฉิงกลับหันไปถลึงตาใส่

ในยุคที่การชำระเงินผ่านมือถือยังไม่เป็นที่นิยม จึงไม่ใช่เรื่องปกติที่ผู้คนจะพกเงินหลายล้านติดตัวไปด้วย

แต่มันก็เป็นไปตามที่ฉินเฟิงคิด ภูมิหลังของพวกเขาร่ำรวยทีเดียว

จากนั้นอีกฝ่ายก็มอบบัตรธนาคารให้ฉินเฟิงโดยไม่รีรอ

“ตกลง แต่จำไว้นะ! ว่าคุณยังคงเป็นหนี้ผมอีกสองล้าน ส่วนผมชื่อฉินเฟิง”

ด้วยความสามารถของฉินเฟิง เขาไม่กลัวว่าตนเองจะถูกหลอกด้วยคำพูดพวกนี้

ถ้าโม่เฉิงเฉิงกล้าที่จะโกหกเขาจริงๆล่ะก็ ฉินเฟิงก็จะทำให้พวกเขาต้องชดใช้ในราคาที่จ่ายไม่ได้

ท่าทางของฉินเฟิงก็ทำให้โม่เฉิงเฉิงตกตะลึงเช่นกัน

เพราะสุดท้ายคำพูดของเธอก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือมากนัก

ถึงเธอจะบอกว่าในบัตรนี้สามล้าน แต่นั้นก็เป็นเพียงคำพูด

มีสามล้านจริงหรือเปล่าใครจะรู้?

ในความคิดของโม่เฉิงเฉิง เธอคิดว่าฉินเฟิงจะต้องตรวจสอบอะไรบางอย่างเป็นแน่

ตัวอย่างเช่น ขอดูยอดในบัตร หรือขอข้อมูลติดต่อ หรือแม้แต่ตามออกไปด้วยกันเพื่อถอนเงินสด...เป็นต้น

แต่ฉินเฟิงกลับไม่ได้ทำอะไรตาที่เธอคิดไว้เลย

ดูเหมือนว่าเงินห้าล้านไม่ได้สำคัญในสายตาของเขาเลยด้วยซ้ำ

เมื่อมองดูใบหน้าที่สงบนิ่งและสายตาที่ไม่แยแสของฉินเฟิง โม่เฉิงเฉิงก็ระงับความอยากรู้อยากให้ไว้ในใจ

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอกลับมองเห็นบางอย่างที่คลุมเครืองในสายตาของคนที่อยู่ตรงข้ามเธอได้

เธอระงับข้อสงสัยของเธอ และหยิบนามบัตรของเธอออกมาพร้อมพูดว่า:

"คุณฉิน โปรดมั่นใจว่าเราจะไม่หลอกลวงคุณ

นี้เป็นนามบัตรของฉัน หากมีอะไร ติดต่อฉันมาได้ตลอดเวลาเลยนะคะ

คุณฉินคะ คุณพอจะให้เบอร์โทรติดต่อฉันไว้ได้ไหมคะ?

หากว่ามีอะไรคืบหน้าฉันจะได้ติดต่อคุณไป"

ในความคิดของเธอ การผูกมิตรกับยอดฝีมืออย่างฉินเฟิงจะมีประโยชน์อย่างมาก

เมื่อโม่เฉิงเฉิงพูดออกมาเช่นนั้น ความกังวลเล็กน้อยของฉินเฟิงก็หายไป เขาบอกเบอร์โทรติดต่อให้อีกฝ่ายทราบทันที

จากนั้นฉินเฟิงก็ได้ยื่นผลหยกขาวให้โม่เฉิงเฉิงโดยตรง

เมื่อเห็นท่าทีของฉินเฟิง แม้แต่โม่ชิงเฉินที่มีอคติกับเขาในตอนแรก ก็ดูมีความสุขขึ้นมา

"ขอบคุณ! คุณฉิน ขอบคุณมาก!"

โม่เฉิง เฉิงหยิบผลหยกขาวจากมือของเขาและขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

ในเวลานี้ความสุขภายในใจของเธอมันเอ่อล้นจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้

เมื่อมองไปยังรอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้าสวยราวกับเทพธิดาของโม่เฉิง เฉิง หัวใจของฉินเฟิงก็สั่นไหวเล็กน้อย

จู่ๆ ความรู้สึกคุ้นเคยก็พุ่งเข้าใส่หัวใจของฉินเฟิง

เขาหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความรู้สึกแปลก ๆ ภายในใจแล้วถามออกไปว่า:

“คุณโม่ ผมสงสัยว่าคุณจะทำอะไรกับผลหยกขาวผลนี้”

เมื่อได้ยินคำถามของฉินเฟิง โม่เฉิง เฉิงก็ดึงสติตัวเองกลับมาและพูดออกไปด้วยความสงสัย:

“คุณฉิน ผลหยกขาวที่คุณกำลังพูดถึงคืออะไรงั้นหรอ? สิ่งนี้ไม่ใช่ผลหยกศักดิ์สิทธ์งั้นเหรอ?”

หลังจากพูดจบ โม่เฉิง เฉิงก็มองไปที่ผลสีขาวในมือของเธอ

“ผลหยกศักดิ์สิทธ์?”

ฉินเฟิงยิ้มและพูดออกไปว่า :

“ผมไม่เคยได้ยินชื่อนั้นมาก่อนเลย ส่วนผลที่อยู่ในมือของคุณ ผมเรียกมันว่าผลหยกขาว

หากคุณไม่ต้องการมัน เรื่องที่ตกลงกันไว้ก็ยกเลิกได้

ผมจะคืนบัตรนี้ให้คุณ ส่วนคุณก็ส่งผลหยกขาวมาให้ผม"

หลังจากฟังคำพูดของฉินเฟิงจบแล้ว คิ้วเรียวยาวของโม่เฉิง เฉิงก็ขมวดเป็นปมทันที

เธอมองดูผลหยกขาวในมือของเธอ และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

เธอคิดว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ได้มีการหลอกลวงใดๆ

หากฉินเฟิงต้องการหลอกลวงเธอ เขาคงไม่พูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาหรอก

“พี่สาว ผลนี้ เรียกต่างกันเพราะอยู่ต่างถิ่นงั้นหรอ?”

ขณะเดียวกัน โม่ชิงเฉินที่อยู่ข้างๆ ก็ถามด้วยคำถามของผู้ชาญฉลาด

เมื่อได้ยินสิ่งที่โม่ชิงเฉินพูด ดวงตาของโม่เฉิง เฉิงก็เป็นประกายขึ้นมา

ใช่ ไม่ใช่เรื่องเเปลกที่จะมีหลายชื่อหากมาจากต่างถิ่น

ในสถานที่ต่างกัน ชื่อเรียกขานก็จะต่างกันไปด้วย

ฉินเฟิงจึงพูดขึ้นอีกครั้งว่า:

“ผลหยกขาวมีฤทธิ์บำรุงจิตวิญญาณและทำให้จิตใจแจ่มใส

คุณโม่ หากคุณยืนยันที่จะจ่าย ก็อย่าเสียใจทีหลังล่ะ

อย่าลืมว่าคุณยังเป็นหนี้ผมอยู่อีกสองล้าน แม้ว่าสุดท้ายผลหยกขาวนี้จะไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับคุณ แต่คุณก็ยังต้องจ่ายเงินอยู่ดี "

เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินเฟิงพูด โม่เฉิง เฉิงก็มองเขาด้วยความประหลาดใจและถามว่า:

“คุณฉิน รู้ด้วยหรอว่ามันมีสรรพคุณอะไร? ถ้าเป็นไปตามที่คุณฉินพูด ก็ไม่มีอะไรผิดปกติกับผลหยกนี้

ผลของการบำรุงจิตวิญญาณและการทำจิตใจให้ผ่องใสคือสิ่งที่เราต้องการ"

“ถ้าอย่างนั้น คุณจะเอาผลนี้ไปช่วยใครอย่างนั้นหรอ?” ฉินเฟิงคาดเดาบางอย่างออกมา

โม่เฉิง เฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า:


“พูดตามตรงนะคุณฉิน ไม่นานมานี้ จู่ๆ คุณปู่ของฉันก็ล้มป่วย อาการของท่านโคม่า และหมอก็ไม่สามารถช่วยได้

เราบังเอิญไปรู้มาว่ามีผลหยกศักดิ์สิทธ์ชนิดหนึ่งที่ขึ้นอยู่ในหุบเขาลึกของภูเขาตงจิ่ง ซึ่งมันสามารถรักษาโรคที่คุณปู่ฉันเป็นได้"

“อ๋อ อย่างนั้นหรอ” ฉินเฟิงเพียงพยักหน้าเล็กน้อยและไม่ได้ถามอะไรออกไปเพิ่มเติม

แต่เขาก็ยังคงได้ยินรายละเอียดมากมายผ่านคำพูดของโม่เฉิง เฉิง

เช่น ปู่ของเธอเป็นโรคอะไร? ใครเป็นคนนำทางพวกเขามายังภูเขาตงจิ่ง? ทำไมคนนั้นถึงรู้ว่ามีผลหยกขาวในหุบเขาตงจิ่ง...แต่เดี๋ยวก่อน

เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉินเฟิงเลย และเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะรับรู้เรื่องราวเลยแม้เเต่นิดเดียว

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

817