บทที่ 9 ข้อตกลงหน้าเลือด กับเงินห้าล้าน
by ซีเย่ซีเยว่
08:01,Dec 24,2023
ปรมาจารย์!
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ฉินเฟิงก็สะดุ้งทันที แต่เขาค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นว่า คนที่เป็นปรมาจารย์จะต้องมีความสามารถแบบไหนกัน?
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้ชื่อแบบนี้ได้
หลังจากที่ฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สาวสวยที่ชื่อโม่เฉิงเฉิงที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นด้วยท่าทีลังเลว่า:
“คุณคะ ผลสีขาวในมือของคุณ มันจำเป็นสำหรับเรามาก คุณจะขายให้เราได้ไหมคะ?
ถ้าคุณเต็มใจที่จะขายให้ เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา เรียกราคามาได้เลยค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินเฟิงก็ล้มเลิกความคิดที่อยู่ภายในใจและมองตรงไปยังโม่เฉิงเฉิง
“ในเมื่อคุณต้องการผลสีขาวอันนี้ เสนอราคามาก่อนว่าคุณสามารถจ่ายได้เท่าไหร่?”
ผลหยกขาวนั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อฉินเฟิงสักเท่าไหร่
เพราะถึงยังไง ในชาติที่แล้วเขาบำเพ็ญจนผ่านขั้นผ่านความทุกข์ยากไปแล้ว ถึงเขาจะกลับมาเกิดใหม่ จิตใจของเขาก้ไม่ได้อ่อนแอเหมือนคนทั่วไป
ต่อให้จะสกัดผลหยกขาวเป็นยาอายุวัฒนะ มันก็ไม่มีผลอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย
ก่อนหน้านี้ ฉินเฟิงคิดแค่ว่าเขาจะต้องมีสมุนไพรเสริมเพื่อช่วยในการฝึกของเขา
แต่ในตอนนี้เขามีสมุนไพรมากมาย และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้มันหมด
วิธีที่ดีที่สุดคือการขายมันเเลกเงิน
เพราะตอนนี้เขาสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าตัวเขาไม่มีเงินเลยสักแดงเดียว
ดังนั้น หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็มองลงไปที่ผลหยกขาว
จากนั้นก็มองไปที่คนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าเขา ท่าทางของพวกเขาดูเหมือนจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงและร่ำรวยน่าดู
เขามองไปที่ผลหยกขาวอีกรอบ ประกอบกับความคิดที่อยู่ในหัว ฉินเฟิงเชื่อว่าคนพวกนี้เต็มใจที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อมันอย่างแน่นอน
และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อฉินเฟิงถามคำถามออกไป ใบหน้าของโม่เฉิงเฉิงก็แสดงความยินดีออกมาทันที
“คุณคะ ฉันยินดีจ่ายหนึ่งล้านเพื่อผลหยกศักดิ์สิทธ์นี้ ถ้าคุณคิดว่ามันน้อยเกินไป เราสามารถต่อรองกันได้”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉินเฟิงก็รับรู้ได้ถึงความกระตือรือร้นที่อีกฝ่ายมีต่อผลหยกขาว
เขาเผยรอยยิ้มออกมา และยกมือขึ้นมาชูนิ้วออกไปห้านิ้ว:
"ห้าล้านขาดตัว"
ก่อนที่โม่เฉิงเฉิงจะตอบ โม่ชิงเฉิน น้องชายของเธอก็พูดเสียงดังขึ้นทันที:
“อะไรนะ ห้าล้าน นี้จะปล้นกันรึไง?”
ฉินเฟิงเหลือบมองโม่ชิงเฉินและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:
“หึ! ก็ไม่ถึงกับปล้นซะทีเดียว แต่ถ้าไม่อยากได้แล้วก็ลืมไปซะเถอะ”
เมื่อพูดจบเขาก็ก้าวขาออกไปทันที
พูดจริงๆ ราคาห้าล้าน สำหรับฉินเฟิงก็ไม่ถือว่าเกินไป
ในพิภพเซียนผลหยกขาวที่มีอายุแค่สิบปี ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพบเจอ แต่ในสถานที่อยากโลก ถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่หายากทีเดียว
ฉินเฟิงคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอผลหยกขาวผลที่สองบนโลก
ดังนั้นราคาห้าล้านจึงสมเหตุสมผล
ขณะเดียวกัน โม่เฉิงเฉิงก็หันไปมองหน้าน้องชายของเธอ
และออกไปขวางหน้าฉินเฟิง จากนั้นตอบออกไปว่า:
“โอเค ห้าล้าน ฉันตกลง! แต่เราต้องออกไปก่อน ตอนนี้ฉันไม่มีมากขนาดนั้น”
ก่อนที่ฉินเฟิงจะพูดอะไรออกมา โม่เฉิงเฉิงก็ยื่นบัตรธนาคารให้พร้อมพูดว่า:
“คุณคะ บัตรนี้มีเงินสามล้าน อีกสองล้านฉันจะโอนให้คุณทันทีที่ฉันถึงบ้าน”
“พี่ครับ พี่...”
โม่ชิงเฉินที่อยู่ด้านหลังเห็นทุกการกระทำและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่โม่เฉิงเฉิงกลับหันไปถลึงตาใส่
ในยุคที่การชำระเงินผ่านมือถือยังไม่เป็นที่นิยม จึงไม่ใช่เรื่องปกติที่ผู้คนจะพกเงินหลายล้านติดตัวไปด้วย
แต่มันก็เป็นไปตามที่ฉินเฟิงคิด ภูมิหลังของพวกเขาร่ำรวยทีเดียว
จากนั้นอีกฝ่ายก็มอบบัตรธนาคารให้ฉินเฟิงโดยไม่รีรอ
“ตกลง แต่จำไว้นะ! ว่าคุณยังคงเป็นหนี้ผมอีกสองล้าน ส่วนผมชื่อฉินเฟิง”
ด้วยความสามารถของฉินเฟิง เขาไม่กลัวว่าตนเองจะถูกหลอกด้วยคำพูดพวกนี้
ถ้าโม่เฉิงเฉิงกล้าที่จะโกหกเขาจริงๆล่ะก็ ฉินเฟิงก็จะทำให้พวกเขาต้องชดใช้ในราคาที่จ่ายไม่ได้
ท่าทางของฉินเฟิงก็ทำให้โม่เฉิงเฉิงตกตะลึงเช่นกัน
เพราะสุดท้ายคำพูดของเธอก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือมากนัก
ถึงเธอจะบอกว่าในบัตรนี้สามล้าน แต่นั้นก็เป็นเพียงคำพูด
มีสามล้านจริงหรือเปล่าใครจะรู้?
ในความคิดของโม่เฉิงเฉิง เธอคิดว่าฉินเฟิงจะต้องตรวจสอบอะไรบางอย่างเป็นแน่
ตัวอย่างเช่น ขอดูยอดในบัตร หรือขอข้อมูลติดต่อ หรือแม้แต่ตามออกไปด้วยกันเพื่อถอนเงินสด...เป็นต้น
แต่ฉินเฟิงกลับไม่ได้ทำอะไรตาที่เธอคิดไว้เลย
ดูเหมือนว่าเงินห้าล้านไม่ได้สำคัญในสายตาของเขาเลยด้วยซ้ำ
เมื่อมองดูใบหน้าที่สงบนิ่งและสายตาที่ไม่แยแสของฉินเฟิง โม่เฉิงเฉิงก็ระงับความอยากรู้อยากให้ไว้ในใจ
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอกลับมองเห็นบางอย่างที่คลุมเครืองในสายตาของคนที่อยู่ตรงข้ามเธอได้
เธอระงับข้อสงสัยของเธอ และหยิบนามบัตรของเธอออกมาพร้อมพูดว่า:
"คุณฉิน โปรดมั่นใจว่าเราจะไม่หลอกลวงคุณ
นี้เป็นนามบัตรของฉัน หากมีอะไร ติดต่อฉันมาได้ตลอดเวลาเลยนะคะ
คุณฉินคะ คุณพอจะให้เบอร์โทรติดต่อฉันไว้ได้ไหมคะ?
หากว่ามีอะไรคืบหน้าฉันจะได้ติดต่อคุณไป"
ในความคิดของเธอ การผูกมิตรกับยอดฝีมืออย่างฉินเฟิงจะมีประโยชน์อย่างมาก
เมื่อโม่เฉิงเฉิงพูดออกมาเช่นนั้น ความกังวลเล็กน้อยของฉินเฟิงก็หายไป เขาบอกเบอร์โทรติดต่อให้อีกฝ่ายทราบทันที
จากนั้นฉินเฟิงก็ได้ยื่นผลหยกขาวให้โม่เฉิงเฉิงโดยตรง
เมื่อเห็นท่าทีของฉินเฟิง แม้แต่โม่ชิงเฉินที่มีอคติกับเขาในตอนแรก ก็ดูมีความสุขขึ้นมา
"ขอบคุณ! คุณฉิน ขอบคุณมาก!"
โม่เฉิง เฉิงหยิบผลหยกขาวจากมือของเขาและขอบคุณอย่างสุดซึ้ง
ในเวลานี้ความสุขภายในใจของเธอมันเอ่อล้นจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
เมื่อมองไปยังรอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้าสวยราวกับเทพธิดาของโม่เฉิง เฉิง หัวใจของฉินเฟิงก็สั่นไหวเล็กน้อย
จู่ๆ ความรู้สึกคุ้นเคยก็พุ่งเข้าใส่หัวใจของฉินเฟิง
เขาหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความรู้สึกแปลก ๆ ภายในใจแล้วถามออกไปว่า:
“คุณโม่ ผมสงสัยว่าคุณจะทำอะไรกับผลหยกขาวผลนี้”
เมื่อได้ยินคำถามของฉินเฟิง โม่เฉิง เฉิงก็ดึงสติตัวเองกลับมาและพูดออกไปด้วยความสงสัย:
“คุณฉิน ผลหยกขาวที่คุณกำลังพูดถึงคืออะไรงั้นหรอ? สิ่งนี้ไม่ใช่ผลหยกศักดิ์สิทธ์งั้นเหรอ?”
หลังจากพูดจบ โม่เฉิง เฉิงก็มองไปที่ผลสีขาวในมือของเธอ
“ผลหยกศักดิ์สิทธ์?”
ฉินเฟิงยิ้มและพูดออกไปว่า :
“ผมไม่เคยได้ยินชื่อนั้นมาก่อนเลย ส่วนผลที่อยู่ในมือของคุณ ผมเรียกมันว่าผลหยกขาว
หากคุณไม่ต้องการมัน เรื่องที่ตกลงกันไว้ก็ยกเลิกได้
ผมจะคืนบัตรนี้ให้คุณ ส่วนคุณก็ส่งผลหยกขาวมาให้ผม"
หลังจากฟังคำพูดของฉินเฟิงจบแล้ว คิ้วเรียวยาวของโม่เฉิง เฉิงก็ขมวดเป็นปมทันที
เธอมองดูผลหยกขาวในมือของเธอ และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เธอคิดว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ได้มีการหลอกลวงใดๆ
หากฉินเฟิงต้องการหลอกลวงเธอ เขาคงไม่พูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาหรอก
“พี่สาว ผลนี้ เรียกต่างกันเพราะอยู่ต่างถิ่นงั้นหรอ?”
ขณะเดียวกัน โม่ชิงเฉินที่อยู่ข้างๆ ก็ถามด้วยคำถามของผู้ชาญฉลาด
เมื่อได้ยินสิ่งที่โม่ชิงเฉินพูด ดวงตาของโม่เฉิง เฉิงก็เป็นประกายขึ้นมา
ใช่ ไม่ใช่เรื่องเเปลกที่จะมีหลายชื่อหากมาจากต่างถิ่น
ในสถานที่ต่างกัน ชื่อเรียกขานก็จะต่างกันไปด้วย
ฉินเฟิงจึงพูดขึ้นอีกครั้งว่า:
“ผลหยกขาวมีฤทธิ์บำรุงจิตวิญญาณและทำให้จิตใจแจ่มใส
คุณโม่ หากคุณยืนยันที่จะจ่าย ก็อย่าเสียใจทีหลังล่ะ
อย่าลืมว่าคุณยังเป็นหนี้ผมอยู่อีกสองล้าน แม้ว่าสุดท้ายผลหยกขาวนี้จะไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับคุณ แต่คุณก็ยังต้องจ่ายเงินอยู่ดี "
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินเฟิงพูด โม่เฉิง เฉิงก็มองเขาด้วยความประหลาดใจและถามว่า:
“คุณฉิน รู้ด้วยหรอว่ามันมีสรรพคุณอะไร? ถ้าเป็นไปตามที่คุณฉินพูด ก็ไม่มีอะไรผิดปกติกับผลหยกนี้
ผลของการบำรุงจิตวิญญาณและการทำจิตใจให้ผ่องใสคือสิ่งที่เราต้องการ"
“ถ้าอย่างนั้น คุณจะเอาผลนี้ไปช่วยใครอย่างนั้นหรอ?” ฉินเฟิงคาดเดาบางอย่างออกมา
โม่เฉิง เฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า:
“พูดตามตรงนะคุณฉิน ไม่นานมานี้ จู่ๆ คุณปู่ของฉันก็ล้มป่วย อาการของท่านโคม่า และหมอก็ไม่สามารถช่วยได้
เราบังเอิญไปรู้มาว่ามีผลหยกศักดิ์สิทธ์ชนิดหนึ่งที่ขึ้นอยู่ในหุบเขาลึกของภูเขาตงจิ่ง ซึ่งมันสามารถรักษาโรคที่คุณปู่ฉันเป็นได้"
“อ๋อ อย่างนั้นหรอ” ฉินเฟิงเพียงพยักหน้าเล็กน้อยและไม่ได้ถามอะไรออกไปเพิ่มเติม
แต่เขาก็ยังคงได้ยินรายละเอียดมากมายผ่านคำพูดของโม่เฉิง เฉิง
เช่น ปู่ของเธอเป็นโรคอะไร? ใครเป็นคนนำทางพวกเขามายังภูเขาตงจิ่ง? ทำไมคนนั้นถึงรู้ว่ามีผลหยกขาวในหุบเขาตงจิ่ง...แต่เดี๋ยวก่อน
เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉินเฟิงเลย และเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะรับรู้เรื่องราวเลยแม้เเต่นิดเดียว
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ฉินเฟิงก็สะดุ้งทันที แต่เขาค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นว่า คนที่เป็นปรมาจารย์จะต้องมีความสามารถแบบไหนกัน?
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้ชื่อแบบนี้ได้
หลังจากที่ฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สาวสวยที่ชื่อโม่เฉิงเฉิงที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นด้วยท่าทีลังเลว่า:
“คุณคะ ผลสีขาวในมือของคุณ มันจำเป็นสำหรับเรามาก คุณจะขายให้เราได้ไหมคะ?
ถ้าคุณเต็มใจที่จะขายให้ เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา เรียกราคามาได้เลยค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินเฟิงก็ล้มเลิกความคิดที่อยู่ภายในใจและมองตรงไปยังโม่เฉิงเฉิง
“ในเมื่อคุณต้องการผลสีขาวอันนี้ เสนอราคามาก่อนว่าคุณสามารถจ่ายได้เท่าไหร่?”
ผลหยกขาวนั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อฉินเฟิงสักเท่าไหร่
เพราะถึงยังไง ในชาติที่แล้วเขาบำเพ็ญจนผ่านขั้นผ่านความทุกข์ยากไปแล้ว ถึงเขาจะกลับมาเกิดใหม่ จิตใจของเขาก้ไม่ได้อ่อนแอเหมือนคนทั่วไป
ต่อให้จะสกัดผลหยกขาวเป็นยาอายุวัฒนะ มันก็ไม่มีผลอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย
ก่อนหน้านี้ ฉินเฟิงคิดแค่ว่าเขาจะต้องมีสมุนไพรเสริมเพื่อช่วยในการฝึกของเขา
แต่ในตอนนี้เขามีสมุนไพรมากมาย และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้มันหมด
วิธีที่ดีที่สุดคือการขายมันเเลกเงิน
เพราะตอนนี้เขาสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าตัวเขาไม่มีเงินเลยสักแดงเดียว
ดังนั้น หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็มองลงไปที่ผลหยกขาว
จากนั้นก็มองไปที่คนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าเขา ท่าทางของพวกเขาดูเหมือนจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงและร่ำรวยน่าดู
เขามองไปที่ผลหยกขาวอีกรอบ ประกอบกับความคิดที่อยู่ในหัว ฉินเฟิงเชื่อว่าคนพวกนี้เต็มใจที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อมันอย่างแน่นอน
และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อฉินเฟิงถามคำถามออกไป ใบหน้าของโม่เฉิงเฉิงก็แสดงความยินดีออกมาทันที
“คุณคะ ฉันยินดีจ่ายหนึ่งล้านเพื่อผลหยกศักดิ์สิทธ์นี้ ถ้าคุณคิดว่ามันน้อยเกินไป เราสามารถต่อรองกันได้”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉินเฟิงก็รับรู้ได้ถึงความกระตือรือร้นที่อีกฝ่ายมีต่อผลหยกขาว
เขาเผยรอยยิ้มออกมา และยกมือขึ้นมาชูนิ้วออกไปห้านิ้ว:
"ห้าล้านขาดตัว"
ก่อนที่โม่เฉิงเฉิงจะตอบ โม่ชิงเฉิน น้องชายของเธอก็พูดเสียงดังขึ้นทันที:
“อะไรนะ ห้าล้าน นี้จะปล้นกันรึไง?”
ฉินเฟิงเหลือบมองโม่ชิงเฉินและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:
“หึ! ก็ไม่ถึงกับปล้นซะทีเดียว แต่ถ้าไม่อยากได้แล้วก็ลืมไปซะเถอะ”
เมื่อพูดจบเขาก็ก้าวขาออกไปทันที
พูดจริงๆ ราคาห้าล้าน สำหรับฉินเฟิงก็ไม่ถือว่าเกินไป
ในพิภพเซียนผลหยกขาวที่มีอายุแค่สิบปี ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพบเจอ แต่ในสถานที่อยากโลก ถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่หายากทีเดียว
ฉินเฟิงคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอผลหยกขาวผลที่สองบนโลก
ดังนั้นราคาห้าล้านจึงสมเหตุสมผล
ขณะเดียวกัน โม่เฉิงเฉิงก็หันไปมองหน้าน้องชายของเธอ
และออกไปขวางหน้าฉินเฟิง จากนั้นตอบออกไปว่า:
“โอเค ห้าล้าน ฉันตกลง! แต่เราต้องออกไปก่อน ตอนนี้ฉันไม่มีมากขนาดนั้น”
ก่อนที่ฉินเฟิงจะพูดอะไรออกมา โม่เฉิงเฉิงก็ยื่นบัตรธนาคารให้พร้อมพูดว่า:
“คุณคะ บัตรนี้มีเงินสามล้าน อีกสองล้านฉันจะโอนให้คุณทันทีที่ฉันถึงบ้าน”
“พี่ครับ พี่...”
โม่ชิงเฉินที่อยู่ด้านหลังเห็นทุกการกระทำและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่โม่เฉิงเฉิงกลับหันไปถลึงตาใส่
ในยุคที่การชำระเงินผ่านมือถือยังไม่เป็นที่นิยม จึงไม่ใช่เรื่องปกติที่ผู้คนจะพกเงินหลายล้านติดตัวไปด้วย
แต่มันก็เป็นไปตามที่ฉินเฟิงคิด ภูมิหลังของพวกเขาร่ำรวยทีเดียว
จากนั้นอีกฝ่ายก็มอบบัตรธนาคารให้ฉินเฟิงโดยไม่รีรอ
“ตกลง แต่จำไว้นะ! ว่าคุณยังคงเป็นหนี้ผมอีกสองล้าน ส่วนผมชื่อฉินเฟิง”
ด้วยความสามารถของฉินเฟิง เขาไม่กลัวว่าตนเองจะถูกหลอกด้วยคำพูดพวกนี้
ถ้าโม่เฉิงเฉิงกล้าที่จะโกหกเขาจริงๆล่ะก็ ฉินเฟิงก็จะทำให้พวกเขาต้องชดใช้ในราคาที่จ่ายไม่ได้
ท่าทางของฉินเฟิงก็ทำให้โม่เฉิงเฉิงตกตะลึงเช่นกัน
เพราะสุดท้ายคำพูดของเธอก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือมากนัก
ถึงเธอจะบอกว่าในบัตรนี้สามล้าน แต่นั้นก็เป็นเพียงคำพูด
มีสามล้านจริงหรือเปล่าใครจะรู้?
ในความคิดของโม่เฉิงเฉิง เธอคิดว่าฉินเฟิงจะต้องตรวจสอบอะไรบางอย่างเป็นแน่
ตัวอย่างเช่น ขอดูยอดในบัตร หรือขอข้อมูลติดต่อ หรือแม้แต่ตามออกไปด้วยกันเพื่อถอนเงินสด...เป็นต้น
แต่ฉินเฟิงกลับไม่ได้ทำอะไรตาที่เธอคิดไว้เลย
ดูเหมือนว่าเงินห้าล้านไม่ได้สำคัญในสายตาของเขาเลยด้วยซ้ำ
เมื่อมองดูใบหน้าที่สงบนิ่งและสายตาที่ไม่แยแสของฉินเฟิง โม่เฉิงเฉิงก็ระงับความอยากรู้อยากให้ไว้ในใจ
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอกลับมองเห็นบางอย่างที่คลุมเครืองในสายตาของคนที่อยู่ตรงข้ามเธอได้
เธอระงับข้อสงสัยของเธอ และหยิบนามบัตรของเธอออกมาพร้อมพูดว่า:
"คุณฉิน โปรดมั่นใจว่าเราจะไม่หลอกลวงคุณ
นี้เป็นนามบัตรของฉัน หากมีอะไร ติดต่อฉันมาได้ตลอดเวลาเลยนะคะ
คุณฉินคะ คุณพอจะให้เบอร์โทรติดต่อฉันไว้ได้ไหมคะ?
หากว่ามีอะไรคืบหน้าฉันจะได้ติดต่อคุณไป"
ในความคิดของเธอ การผูกมิตรกับยอดฝีมืออย่างฉินเฟิงจะมีประโยชน์อย่างมาก
เมื่อโม่เฉิงเฉิงพูดออกมาเช่นนั้น ความกังวลเล็กน้อยของฉินเฟิงก็หายไป เขาบอกเบอร์โทรติดต่อให้อีกฝ่ายทราบทันที
จากนั้นฉินเฟิงก็ได้ยื่นผลหยกขาวให้โม่เฉิงเฉิงโดยตรง
เมื่อเห็นท่าทีของฉินเฟิง แม้แต่โม่ชิงเฉินที่มีอคติกับเขาในตอนแรก ก็ดูมีความสุขขึ้นมา
"ขอบคุณ! คุณฉิน ขอบคุณมาก!"
โม่เฉิง เฉิงหยิบผลหยกขาวจากมือของเขาและขอบคุณอย่างสุดซึ้ง
ในเวลานี้ความสุขภายในใจของเธอมันเอ่อล้นจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
เมื่อมองไปยังรอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้าสวยราวกับเทพธิดาของโม่เฉิง เฉิง หัวใจของฉินเฟิงก็สั่นไหวเล็กน้อย
จู่ๆ ความรู้สึกคุ้นเคยก็พุ่งเข้าใส่หัวใจของฉินเฟิง
เขาหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความรู้สึกแปลก ๆ ภายในใจแล้วถามออกไปว่า:
“คุณโม่ ผมสงสัยว่าคุณจะทำอะไรกับผลหยกขาวผลนี้”
เมื่อได้ยินคำถามของฉินเฟิง โม่เฉิง เฉิงก็ดึงสติตัวเองกลับมาและพูดออกไปด้วยความสงสัย:
“คุณฉิน ผลหยกขาวที่คุณกำลังพูดถึงคืออะไรงั้นหรอ? สิ่งนี้ไม่ใช่ผลหยกศักดิ์สิทธ์งั้นเหรอ?”
หลังจากพูดจบ โม่เฉิง เฉิงก็มองไปที่ผลสีขาวในมือของเธอ
“ผลหยกศักดิ์สิทธ์?”
ฉินเฟิงยิ้มและพูดออกไปว่า :
“ผมไม่เคยได้ยินชื่อนั้นมาก่อนเลย ส่วนผลที่อยู่ในมือของคุณ ผมเรียกมันว่าผลหยกขาว
หากคุณไม่ต้องการมัน เรื่องที่ตกลงกันไว้ก็ยกเลิกได้
ผมจะคืนบัตรนี้ให้คุณ ส่วนคุณก็ส่งผลหยกขาวมาให้ผม"
หลังจากฟังคำพูดของฉินเฟิงจบแล้ว คิ้วเรียวยาวของโม่เฉิง เฉิงก็ขมวดเป็นปมทันที
เธอมองดูผลหยกขาวในมือของเธอ และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เธอคิดว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ได้มีการหลอกลวงใดๆ
หากฉินเฟิงต้องการหลอกลวงเธอ เขาคงไม่พูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาหรอก
“พี่สาว ผลนี้ เรียกต่างกันเพราะอยู่ต่างถิ่นงั้นหรอ?”
ขณะเดียวกัน โม่ชิงเฉินที่อยู่ข้างๆ ก็ถามด้วยคำถามของผู้ชาญฉลาด
เมื่อได้ยินสิ่งที่โม่ชิงเฉินพูด ดวงตาของโม่เฉิง เฉิงก็เป็นประกายขึ้นมา
ใช่ ไม่ใช่เรื่องเเปลกที่จะมีหลายชื่อหากมาจากต่างถิ่น
ในสถานที่ต่างกัน ชื่อเรียกขานก็จะต่างกันไปด้วย
ฉินเฟิงจึงพูดขึ้นอีกครั้งว่า:
“ผลหยกขาวมีฤทธิ์บำรุงจิตวิญญาณและทำให้จิตใจแจ่มใส
คุณโม่ หากคุณยืนยันที่จะจ่าย ก็อย่าเสียใจทีหลังล่ะ
อย่าลืมว่าคุณยังเป็นหนี้ผมอยู่อีกสองล้าน แม้ว่าสุดท้ายผลหยกขาวนี้จะไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับคุณ แต่คุณก็ยังต้องจ่ายเงินอยู่ดี "
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินเฟิงพูด โม่เฉิง เฉิงก็มองเขาด้วยความประหลาดใจและถามว่า:
“คุณฉิน รู้ด้วยหรอว่ามันมีสรรพคุณอะไร? ถ้าเป็นไปตามที่คุณฉินพูด ก็ไม่มีอะไรผิดปกติกับผลหยกนี้
ผลของการบำรุงจิตวิญญาณและการทำจิตใจให้ผ่องใสคือสิ่งที่เราต้องการ"
“ถ้าอย่างนั้น คุณจะเอาผลนี้ไปช่วยใครอย่างนั้นหรอ?” ฉินเฟิงคาดเดาบางอย่างออกมา
โม่เฉิง เฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า:
“พูดตามตรงนะคุณฉิน ไม่นานมานี้ จู่ๆ คุณปู่ของฉันก็ล้มป่วย อาการของท่านโคม่า และหมอก็ไม่สามารถช่วยได้
เราบังเอิญไปรู้มาว่ามีผลหยกศักดิ์สิทธ์ชนิดหนึ่งที่ขึ้นอยู่ในหุบเขาลึกของภูเขาตงจิ่ง ซึ่งมันสามารถรักษาโรคที่คุณปู่ฉันเป็นได้"
“อ๋อ อย่างนั้นหรอ” ฉินเฟิงเพียงพยักหน้าเล็กน้อยและไม่ได้ถามอะไรออกไปเพิ่มเติม
แต่เขาก็ยังคงได้ยินรายละเอียดมากมายผ่านคำพูดของโม่เฉิง เฉิง
เช่น ปู่ของเธอเป็นโรคอะไร? ใครเป็นคนนำทางพวกเขามายังภูเขาตงจิ่ง? ทำไมคนนั้นถึงรู้ว่ามีผลหยกขาวในหุบเขาตงจิ่ง...แต่เดี๋ยวก่อน
เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉินเฟิงเลย และเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะรับรู้เรื่องราวเลยแม้เเต่นิดเดียว
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved