บทที่ 1 กูไม่ทําแล้ว

"เยว่เฟิง ย้ายเหล้าลังนั้นมาที่นี้สิ!”

"เยว่เฟิง รีบไปทำความสะอาดที่หลังเวทีเร็ว ยังยืนงงอยู่ตรงนั้นอีก อย่างกับคนโง่เลย !"

ชายหนุ่มโยนไม้กวาดใส่ตัวของเยว่เฟิง และดุด่าด้วยความหยิ่งผยอง

"พี่เฉิน ป้าสามขอให้ผมย้ายเหล้าลังนี้ พี่ใจเย็นๆก่อนได้ไหม"

อยู่ดีๆก็โดนโยนไม้ใส่ เยว่เฟิงรู้สึกไม่พอใจ ก็เลยตอบสวนกลับไป

แต่เพราะประโยชน์นี้เลยทำให้เเขาโดนตบไปที่หน้าอย่างจังหนี่งที

"มึงกำลังคุยกับใครว่ะ ก้าวร้าวแบบนี้ ขอให้ทำแค่นี้อย่างกับจะเอาชีวิตมึง"

หลิวจือเฉินเข้ามาตบหน้าเยว่เฟิงอย่างจัง ในปากก็ยังดุด่าไม่หยุด:"มึงเป็นแค่ลูกเขยที่มาอาศัย ข้าวก็กินของบ้านตระกูลหลิว บ้านก็นอนบ้านตระกูลหลิว ใครให้ท้ายมึงให้มาพูดแบบนี้กับคนตระกูลหลิวว่ะ !”

เยว่เฟิงถูกตบหน้าอย่างอย่างไม่เป็นธรรม และยังโดนหยามเกียรติแบบนี้ ทันใดนั้น เขาโยนลังเหล้าที่ถืออยู่ทิ้ง แล้วพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของหลิวจือเฉิน และตะโกนด้วยความโกรธ:

"หลิวจือเฉิน มึงกำลังหาที่ตาย!"

เหล้าฝรั่งลังนั้นตกกระแทกแตกกระจายทั่วพื้น

ในเวลานี้ เยว่เฟิงไม่มีสนใจราคาเหล้าแล้ว แม้ว่าเขาจะแต่งเข้าเป็นลูกเขยตระกูลหลิว แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นมนุษย์มีเลือดมีเนื้อ

ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา ไม่มีใครในตระกูลหลิวมองเขาเป็นคนเลยสักคน แม้แต่หลิวจือเฉินที่เป็นรุ่นราวคราวเดียวกันก็กลั่นแกล้งเขาเป็นประจำ แม้แต่ตอนนี้ในที่สาธารณะ ที่นี้คือห้องจัดเลี้ยง ทุกที่เต็มไปด้วยแขก หลิวจือเฉินตบหน้าเขาต่อหน้าทุกคน

ชั่วขณะนั้น หลิวจือเฉินตกใจทที่เยว่เฟิงที่โกรธขึ้นมาอย่างไม่คาดคิดแบบนี้ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเยว่เฟิงเชื่อฟังทุกอย่างไม่เคยบ่น แต่วันนี้ อะไรที่ทำให้เขาโกรธขนาดนี้?

"เยว่เฟิง มึง ... มึงจะทำอะไรว่ะ มึงกล้าลงมือ นี้มึงจะทรยศหรือยังไง !" เขาพูดอย่างใจดีสู้เสือ

ในตอนนี้ คนในบ้านตระกูลหลิวตกใจกันไปหมด ทุกคนต่างเขามาต่อว่าเยว่เฟิง แม้แต่ป้าสาม ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีพ่อตาและแม่ยาย ก็ยังเขามาต่อว่าเขากันทุกคน

"เยว่เฟิง บ้าไปแล้วใช่ไหม วันนี้เป็นวันเกิดของคุณปู่ ยังกล้าลงไม้ลงมือกับจือเฉิน!"

"คนชั่ว ปล่อยจือเฉินเดี๋ยวนี้นะ มึงทำให้เราเสียหน้ามากแล้ว ยังจะทำอะไรอีก !" หลิวเฟิงพ่อตาของเยว่เฟิงโกธรจนเอาเท้ากระแทกพื้น

หลิวเฟิงเป็นลูกชายคนเล็กของคุณปู่ และเป็นคนที่ตระกูลหลิวให้ความสนใจหน่อยที่สุด เพราะหลิวเฟิงเองไม่มีความสามารถอะไร บวกกับลูกเขยที่ไม่ได้เรื่อง เขากลายเป็นตัวตลกในสายตาของพี่น้องทุกคน

"เยว่เฟิง ไอ้คนไรประโยค รีบปล่อยจื่อเฉินไปโดยเร็ว เขาเป็นลูกชายของคุณลุงนะ แกรู้สึกว่าเรามาอาศัยตระกูลหลิวทั้งครอบครัวยังขายหน้าไม่พอใช่ไหม แกจะทำให้ลูกสาวฉันไม่มีที่ยืนในตระกูลหลิวอีกต่อไปใช่ไหม !”

เสี่ยวฮุ่ยแม่ยายของเยว่เฟิง ก็ไม่ได้ไว้หน้าเยว่เฟิงเลยแม้แต่น้อย และดุเขาต่อหน้าทุกคน

เพราะเยว่เฟิงเป็นลูกเขยที่ไม่มีความสามารถ ครอบครัวของเขาในบ้านตระกูลหลิวแทบจะไม่มีที่ยืน และเหมือนกับว่าใครก็สามารถกลั่นแกล้งพวกเขาได้ ของใช้ในครอบครัวพวกเขาก็แทบไม่ได้ใช้อะไรเลย สิ่งที่พวกเขาได้ใช้คือของที่คนในบ้านไม่ได้ใช่หรือไม่ใช้แล้วเท่านั้น

หยูเสี่ยวฮุ่ยเลี้ยงสุนัขไว้หนึ่งตัว สุนัขตัวนั้นกินดีอยู่ดีมากกว่าเยว๋เฟิงด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าสถานะในบ้านของสุนัขยังอยู่สูงกว่าเขา

"เยว่เฟิงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ มึงจะตีกูหลิวจือเฉินในบ้านตระกูลหลิวงั้นหรือ"

เมื่อเห็นว่าเยว่เฟิงถูกทุกคนต่อว่า หลิวจือเฉินก็แสดงรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ และมองคนไร้ประโยชน์แบบเขาอย่างดูถูก

ดวงตาของเยว่เฟิงขยายใหญ่ขึ้น เขามองดูคนตระกูลหลิวด้วยความเจ็บใจ

ในขณะนี้มีมือใครบ้างคนตบเขาไปที่หน้าของเยว่เฟิงอีกครั้ง เยว่เฟิถึงกลับมึนงง มือนั้นเป็นมือของภรรยาเขา หลิวรูหยาน

"เยว่เฟิง ตอนนี้แกกล้ากำแหงแล้วใช่ไหม ยังกล้าลงไม้ลงมือกับพี่ฉันแล้วหรือ แกบ้าไปแล้วใช่ไหม!”

หลิวรูหยานว่าทางนี้มีเรื่องกัน พอเขามาดูก็เห็นเยว่เฟิงกำลังคว้าคอเสื้อหลิวจือเฉิน และยังตะโกนต่อว่า

วันนี้เป็นวันเกิดของคุณปู่ เยว่เฟิงยังกล้าก่อเรื่อง เขากำลังสร้างปัญหาให้ครอบครัวตัวเอง? นอกจากนี้ครอบครัวของพวกเขาก็ไม่มีที่ยืนในระกูลอยู่แล้ว ถ้าเสียหน้าอีก ก็คงไม่มีหน้ามีตาอีกต่อไปแล้ว

เยว่เฟิง ไอ้คนสวะ ไม่เคยให้นางได้สบายใจสักวันเลย

การตบครั้งนี้ ถือว่าทำให้เยว่เฟิงมึนงง แล้วดึงสติกลับมาได้

เขางงที่ว่า หลิวรูหยานตบเขาโดยที่ไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด ทำให้คนอื่นเหยียบหยามเขา เคยคิดว่าเขาเป็นคนในครอบครัว เคยคิดว่าเขาเป็นสามีหรือไม่ เขาคิดได้ ว่าเขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเยว่ที่ร่ำรวยในเมืองจิงตู แต่เพราะความรักเลยทำให้เขาโดนเหยียบหยามศักดิ์ศรีถถึงสองปี ชีวิตเขาเทียบสุนัขยังไม่ได้

ใช่แล้ว จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าตัวเองโง่แค่ไหน ทำไมต้องทนกับความอัปยศอดสูเช่นนี้

ตระกูลหลิวนับอะไร เป็นแค่ครอบครัวชั้นสามในมลรัฐชู่ มลรัฐชู่เมืองเล็กๆ เทียบกกับจิงตูได้หรือ? เป็นแค่ตระกูลเล็ก ๆ เทียบกับตระกูลเล็ก ๆ ในจิงตูยังไม่ได้เลย ตระกูลเยว่เป็นถึงสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหัว

เยว่เฟิง ยังเป็นลูกชายคนโตและหลานคนโตของตระกูลเยว่

ปู่ของเขาเย่วเจิ้งถิงถูกขนานว่ายมบาลแห่งตระกูลเยว่ เขาก็เข้มงวดกับลูกหลานทุกคนมาก เย่วเจิ้งถิงยิ่นานชื่นชอบเยว่เฟิงเป็นอย่างมาก ตอนเขายังอยู่เขาได้มอบตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวและมรดกให้พ่อของเยว่เฟิงดูแล

เขาบอกกับพ่อของเยว่เฟิงว่า ตอนฝึกฝน สั่งสอนเยว่เฟิงให้ดี แม้ว่าเยว่เฟิงจะเป็นหลานชายคนโตของตระกูลเยว่ แต่ว่าตั้งแต่ตอนเข้าเรียนมัธยมปลาย เขาไม่ได้มีชีวิตสุขสบายอีกเลย เกือบต้องจบทุกอย่างด้วยน้ำมือของพ่อตัวเอง

แต่ไม่ว่าบททดสอบจะใหญ่แค่ไหน เยว่เฟิงก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง

สำหรับหลิวรูหยาน เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเยว่เฟิง ตอนที่เยว่เฟิงอยู่ในโรงเรียน หลิวรูหยานเป็นคนที่ทำดีกับเขามากที่สุด ในเวลานั้นเขาไม่คุ้นเคยกับเมืองนี้โรงเรียน และพ่อก็ไม่ได้ให้เงินเยว่เฟิง เยว่เฟิงต้องหาเวลาว่างไปทำงานรับจ้าง เงินที่หามาก็ไม่พอใช้เลย

หลิวรูหยานมักจะนำอาหารไปให้จากที่บ้านไปให้เยว่เฟิง หลิวรูหยานในตอนนั้น ราวกับว่าในโลกนี้นอกจากแม่ของตัวเองแล้วหลิวรูหยานเป็นผู้หญิงที่ดีกับเขาที่สุด

นับว่าเป็นพรหมลิขิต ย่าของหลิวรูหยานยังเป็นรักแรกของเยว่เจิ้งถิงปู่ของเยว่เฟิง ดังนั้นยายของหลิวรูหยานจึงเป็นคนเดียวในตระกูลหลิวที่รู้จักตัวตนของเยว่เฟิง ก่อนจะเสียชีวิตเขายังบอกเยว่เฟิงให้ดูแลหลิวรูหยานด้วย เยว่เฟิงก็ชอบหลิวรุหยานเช่นกัน เขาเลยตอบตกลง หลังจากเรียนจบเขาก็แต่งและเข้าเป็นเขยบ้านตระกูลหลิว

เหตุผลที่เขาแต่งเข้าเป็นเขยบ้านตระกูลหลิวก็เพื่ออยากช่วยตระกูลนี้ ยังไงตระกูลเยว่ก็เป็นสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหัว ตระกูลหลิวนั้นไม่คู่ควรกับตระกูลเยว่ เขาไม่อยากให้ใครมานินทาตระกูลหลิวว่า เป็นพวกมักใหญ่ใฝ่สูง ไม่เจียมเนื้อเจียมตัว

หลังจากที่บททดสอบในตระกูลของเยว่เฟิงจบลง เขาก็ได้ใช้เงินก้อนหนึ่งที่พ่อเขาให้เปิดกลุ่มบริษัทเฟิงซิงในเมืองชูโจ ขนาดของบริษัทนั้น เทียบกับกลุ่มบริษัทของตระกูลเยว่แล้วเล็กมาก แต่ในเมืองจูโจ กลุ่มบริษัทนี้เป็นกลุ่มบริษัทอันดับหนึ่งเลยทีเดียว

เยว่เฟิงค่อยช่วยเหลือตระกูลหลิวผ่านกลุ่มบริษัทเฟิงซิงตลอด แต่คนในตระกูลหลิวกับไม่รู้เลย

อย่างที่พ่อเคยบอก การทดสอบจบแล้ว แต่บททดสอบที่แท้จริงเพิ่งเริ่มต้นหลังจากที่ออกจากโรงเรียน

สันดานมนุษย์นั้น น่ากลัวยิ่งนัก ต้องทนรับกับบททดสอบแบบนี้ให้ได้ตลอดชีวิต

เยว่เฟิงอยู่ในตระกูลหลิวมาสองปี เขาผิดหวังมาก

"ไม่ทําแล้ว กูไม่ทำแล้วโว้ย"

เยว่เฟิงซึ่งถูกหลิวรูหยานตบเขาหน้า ฟางเส้นสุดท้ายขาดแล้ว ความแค้นและความอัปยศอดสูที่สะสมมานานถึงสองปี ได้ระเบิดออกมาแล้วในตอนนี้

เขาคว้าเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆแล้วกระแทกลงกับพื้น เก้าอี้ก็ถูกกระแทกแตกหักเป็นชิ้นๆ ทุกคนที่มุงดูอยู่แม้แต่หลิวรูหยานก็ตกใจจนถอยหลัง

"เยว่เฟิง คุณ ... " หลิวรูหยานถึงกับหน้าซีด และอยากไม่เชื่อสายตาตัวเองกับสิ่งที่เห็น

ไอ้คนสวะ ทำไมวันนี้มันโกรธขนาดนี้นะ

"คนตระกูลหลิวอย่างพวกคุณ เป็นพวกใจไม้ไส้ระกําหรืออย่างไร !” เยว่เฟิงชี้ไปกลุ่มตระกูลหลิวโดยไม่ไว้หน้า และด่าว่า:“ต่อให้เป็นหมา ถ้าเลี้ยงมาสองปี ก็ควรมีความรู้สึกกลับมันแล้วมั่ง! ผมแต่งเข้ามาเป็นเขยตระกูลหลิว มีงานสกปรกงานไหนบ้างที่กูไม่เคยทำ! ปู่เข้าโรงพยาบาลผมดูแล ท่อระบายน้ำในบ้านตันผมก็ไปทำให้ กลางดึกแค่เปลี่ยนก๊อกน้ำก็ยังต้องโทรหาผม ผมปฏิบัติกับคุณเหมือนคนในครอบครัว แต่พวกคุณมองผมเป็นอะไร เป็นเพียงหมารับใช้ !"

เยว่เฟิงไม่สนใจว่าจะคนนอกเท่าไหร่ แขกกี่คน ในตอนนี้ ความน้อยเนื้อต่ำใจตลอดทั้งสองปี ได้ระเบิดออกมาแล้ว

คนตระกูลหลิวที่ปกติจะทำตัวเย่อหยิ่งต่อเขา ในตอนนี้ความโกรธที่เขาแสดงออกมาทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก ไม่มีใครกล้าออกเสียง หลิวเฟิงและเสี่ยวหุ้ยมองไปที่เขาด้วยความตกใจ คล้ายกับคนใบ้ไปพักใหญ่

หลิวรูหยานร้องไห้ออกมา และมองเยว่เฟิงพร้อมน้ำตาที่รินไหลออกมา:"เยว่เฟิง คุณบ้าพอหรือยัง คนในบ้านทำไม่ดีกับคุณหรือ ให้กินให้อยู่ แถมยังว่าร้ายเราอีก คุณยังรู้สึกว่าฉันหลิวรุหยานยังขายหน้าไม่พอใช่ไหม คุณรู้ไหมว่าวันนี้มันวันอะไร! ใสหัวออกไป! จะไปที่ไหนก็ไปเลย!"

หลิวรูหยานยิ่งพูดยิ่งโกรธ ชี้ไปที่ประตูพร้อมกับตะโกนใส่เยว่เฟิง

เมื่อเยว่เฟิงเห็นเช่นนี้ หัวใจของเขาชินชา เขามองหลิวรูหยานด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา

"หลิวรูหยาน สองปีนี้ผมดูแลคุณดีกว่ายิ่งกว่าแม่ของผมอีก คุณทำกับผมแบบนี้หรือ ได้ คุณเยี่ยมมาก ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ตระกูลหลิวของคุณ กูไม่อยู่แล้ว พรุ่งนี้ที่สำนักงานเขต เราจดทะเบียนหนย่ากันให้เรียบร้อย ต่อไปทางใครทางมัน!"

คำนี้ทำให้หลิวรูหยานปรอทแตก และตะโกนว่า: "หย่า! ใครไม่หย่าเป็นควาย !"

เยว่เฟิงพูดอย่างเย็นชา ด้วยสีหน้าหนักแน่น และพูดแบบไม่แคร์ว่า:"ลาก่อน!"

ในขณะที่เขากำลังจะเดินออกไป ก็ได้มีเสียงที่มีพลังและความเข้มแข็งดังออกมาว่า: "หยุด!"

เมื่อทุกคนมอง ทันใดนั้นตากระตุก เยว่เฟิงทำให้คุณปู่รู้สึกตกใจ

หลิวหงชิงผู้อาวุโสของตระกูลหลิว แม้อายุมากแล้ว แต่เรื่องต่างๆของตระกูลหลิว เขาเท่านั้นที่ติดสินใจได้ ทุกคนไม่กล้าแม้แต่หายใจเสียงหาย พ่อตาแม่ยายของเยว่เฟิงถึงก้มหน้าต่ำไม่กล้าที่จะมอง

เยว่เฟิงหันกลับมาและมองไปที่หลิวหงชิง ในตอนนี้เขาไม่ต้องแสร้งทำเป็นทาสรับใช้ที่แสงดีอีกต่อไป เขายืดอกและเชิดหน้า

"เยว่เฟิง แกกล้ามาก ในวันเกิดของฉันแกยังกล้าหาเรื่อง ถ้าแกจากไป ก็คือโดนตระกูลหลิวไล่ออกจากบ้าน สองปีนี้ แกไม่ได้ทำงานอะไรเลย ตระกูลหลิวเป็นคนเลี้ยงแก ต่อไปแกจะเชิดหน้าชูตาในเมืองชูโจได้หรือ"?

ปู่มองเยว่เฟิงด้วยสายตาเย็นชา กระแทกไม้เท้าไปที่พื้นอย่างแรง

เยว่เฟิงก็มองปู่ด้วยสายตาที่เย็นชา และใช้คำพูดที่เย็นชาว่า: "หลิวหงชิง ก่อนที่คุณยายของผมจะจากไปเธอบอกกับผมว่า คุณไม่มีความสามารถอะไรเลย นิสัยก็ก้าวร้าว ขอให้ผมใจกว้างหน่อย แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า คุณไม่เพียงจะไม่มีความสามารถ ยังแก่จนเลอะเลือนอีก ตระกูลหลิวจะล่มจมด้วยน้ำมือของคุณเอง พรุ่งนี้คนในตระกูลหลิวต้องเสียใจไปตลอดกาล วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ ผมขอให้คุณมีอายุยืนยาวร้อยปี ลาก่อน!"

หลังจากพูดคำเหล่านี้ เยว่เฟิงไม่แม้แต่จะหันกลับมามองแล้วเดินจากไปอย่างสงบ

หลิวหงชิงโกรธจนจุอก กระแทกไม้เท้าไปที่พื้นสามที แล้วตะโกนว่า:"ไอ้สันดานหมา สารเลว!"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

545