บทที่ 9 ให้หลิวรูหยานไปนอนกับดวนเทียนซิงหนึ่งคืน

ณ โรงพยาบาล

หลิวจือเฉิน และ หลิวหงชิง ทั้งคู่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล

เดิมทีหลิวหงชิงที่เดินไม่สะดวกอยู่แล้วยังถูกบอดี้การ์ดของดวนเทียนซิงผลักล้ม หมอบอกเขาว่าไม่ถึงครึ่งปีเขาจะไม่มีทางลุกได้

ถ้าสมมุติว่าเป็นคนอื่น คนตระกูลหลิวต้องฟ้องเขาจนล้มละลายแน่ แต่เขาคือดวนเทียนซิง พวกเขาจะไปเอาอะไรกับเขาได้

"รูหยาน......"

หลิวหงชิง นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เรียกชื่อของ หลิวรูหยาน

ในเวลานี้ หลิวหงชิง ดูเหมือนจะแก่ลงไปอีกสิบปี ครอบครัวหลิวประสบกับหายนะ และเขาก็ล้มลงอีก  ไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจของหลิวหงชิงตอนนี้นั้นช่างอ่อนแอเหลือเกิน

"คุณปู่ หนูอยู่นี้ค่ะ"

หลิวรูหยาน รีบวิ่งเข้ามา

"ดวนเทียนซิงรับปากว่าจะเจอกับเธอในคืนนี้ นี้คือการเริ่มต้นที่ดี เธอต้องรักษาโอกาสนี้ไว้นะ ตระกูลหลิวเขาเราจะยืนหยัดได้ในเมืองชูโจวหรือไม่ ความหวังทั้งหมดอยู่ฝากไว้ที่เธอแล้ว”

หลิวหงชิงมองไหลิวรูหยาน และกล่าวอย่างจริงจัง

ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลิวเซียหรือจงหง ก็ไม่กล้าที่จะดุด่าหลิวรูหยานแบบไม่มีเหตุผลอีกแล้ว เพราะคืนนี้หลิวรูหยานจะเป็นกุญแจที่จะนำตระกูลหลิวสู่ความสำเร็จหรือความล้มก็ขึ้นอยู่กับหลิวรูหยานแล้ว

"คุณปู่ ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้เกี่ยวกับความอยู่รอดของครอบครัวเรา  แม้ว่าวันนี้จะต้องคุกเข่าขอร้อง ก็จะขอให้เขาอย่ายกเลิกความร่วมมือกับเรา " หลิวรูหยาน รู้ดีว่าเธอมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่รออยู่ เธอต้องไม่วอกแวก

"ดีๆ มิเสียทีที่เป็นหลานตระกูลหลิว” หลิวชิงหงยกย่องหลิวรู่หยานแบบที่ไม่ค่อยจะบ่อยนัก

เขาเรียกพ่อแม่ของ หลิวรูหยาน หลิวเฟิงและหยูเสี่ยวฮุ่ย และพูดว่า:

"ถ้า รูหยานเปลี่ยนใจดวนเทียนซิงได้สำเร็จ  อาเฟิง บริษัทของพี่รอง เธอเป็นคนดูแลเลยนะ

เมื่อ หลิวเฟิง และ หยูเสี่ยวฮุ่ย ได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็ดีใจมาก ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาตื่นเต้นแค่ไหน

มันยากมาก!  ในฐานะลูกชายคนเล็ก หลิวเฟิง  ไม่มีความสามารถและไม่มีสถานะในตระกูลหลิว ครอบครัวของพวกเขาถือว่ายากจนที่สุดในตระกูล  ตอนนี้พวกเขาสามารถมีบริษัทเป็นของตัวเอง หลิวเฟิงก็ถือว่า ได้เชิดหน้าชูตากะเขาสักที

"ขอบคุณคุณพ่อ ไม่ต้องกังวล  รูหยาน จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังอย่างแน่นอน" หยูเสี่ยวฮุ่ย รู้สึกตื่นเต้นมากกว่า หลิวเฟิง และรีบพูดกับพ่อของเธอ

แต่พี่รองหลิวเฉิงเจียงกลับไม่พอใจ บริษัทของเขา มันเรื่องอะไรต้องให้น้องสี่หลิงเฟิง

"พ่อ บริษัทนั้นผม ... ”

หลิวเฉิงเจียง กำลังบ่น แต่ หลิวเฉิงเฟิง ขัดจังหวะเขาก่อนที่เขาจะพูดจบเขามองไป หลิวเฉิงเจียง อย่างเย็นชา:

"น้องรอง พ่อพูดยังไงก็ตามนั้น"

"ถ้า รูหยาน สามารถชักชวน ดวนเทียนซิง ให้เปลี่ยนใจได้ ทำความดีความชอบ บริษัทของนายมันเรื่องเล็กไปเลย”

"อย่าสายตาสั้นไปหน่อยเลย ความร่วมมือของ ดวนเทียนซิง กับตระกูล หลิว ของเราสำคัญที่สุด"

หลิวเฉิงเจียง ไม่ใช่คนโง่ แม้แต่พี่ชายคนโตของเขายังพูด เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

"แต่ว่ารูหยาน ... " จู่ๆ หลิวหงชิง ก็พูดอีกครั้ง: "ดวนเทียนซิง ไม่ใช่คนที่เจรจาง่าย ถ้าจำเป็น ... "

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลิวหงชิง ก็หยุดชะงัก และดูเหมือนว่าเขาจะไม่สะดวกที่จะพูดในสิ่งต่อไป

แต่ในที่สุดเขาก็พูดออกมา:

"ถ้าจำเป็น ก็นอนกับเขาคือหนึ่ง เธอก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร ฉันเชื่อว่าเขาจะไม่ปฏิเสธแน่”

เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมา หลิวรูหยาน, หลิวเฟิง และ หยูเสี่ยวฮุ่ย ต่างก็ตกตะลึง

น้ำตาของ หลิวรูหยาน ไหลออกเป็นทาง  คำพูดของหลิวหงชิง คือการใช้ร่างกายไปล่อดวนเทียนซิงมิใช่หรือ?

แม้ว่าเธอเคยหย่าร้าง แต่ เยว์เฟิง ก็ไม่เคยแตะต้องเธอเลย เขายังเป็นสาวอยู่ ต่อให้ไม่ใช่ แต่หลิวหงชิงในฐานะผู้อาวุโสก็ไม่ควรจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอแบบนี้!

"คุณปู่ จะทำแบบนี้ได้ยังไง เราต้องมีข้อจำกัดบ้างสิ!”

หลิวรูหยานขอบตาแดงก่ำ พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

หลิวเฟิงก็ทนไม่ไหวแล้ว ต่อให้เขาจะเสาะแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้ลูกสาวของเขาได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้มั่ง?

"พ่อ ผมคิดว่าเงื่อนไขนี้เกินไปแล้ว จะปล่อยให้ รูหยาน ทำแบบนี้ได้อย่างไร" หลิวเฟิง กล่าวด้วยเสียงเบาๆ

ปัง!หลิวหงชิงใช้มือตบไปที่เตียน แล้วพูดว่า:

"พวกแกคิดว่าฉันอยากทำแบบนี้หรือ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องสำคัญ ฉันจะปล่อยให้หลานของฉันไปทำเรื่องแบบนี้หรือไง?"

"ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนใจดวนเทียนซิงได้ ตระกูลหลิวของพวกเราจบเห่แน่นอน พวกแกรู้หรือไม่!"

คำพูดของ หลิวหงชิง เตือนให้ทุกคนได้เข้าใจอีกครั้ง ในเวลานี้นอกใจพ่อแม่ของหลิวรูหยานแล้ว ทุกคนในครอบครัวกำลังร้องขอหลิวรูหยาน

"รูหยาน เธอก็เสียสละหน่อยนะ เพื่อครอบครัวและตระกูล เพื่อทุกคน"

"นอกใจนี้ เธอก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยแต่งงาน จะสนใจเรื่องนี้ทำไม"

"ใช่ รูหยาน ถ้าเธอเปลี่ยนใจดวนเทียนซิงได้ คุณจะเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของตระกูล หลิว ของเรา!"

ทุกคนพูดสิ่งเดียวกันต่อหน้าหลิวรุหยาน รูหยานใจสลายไม่มีชิ้นดี ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าในตระกูลหลิวเธอเป็นอะไร ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฐานะของเธอในครอบครัวเลย

เพียงแค่ตระกูลหลิวต้องการ สามารถให้เธอไปทำอะไรก็ได้ แม้แต่เรื่องต่ำช้า

หลิวรูหยาน ล้อมรอบไปด้วยคนในบ้าน น้ำตาเธอไหลและเธฮวิ่งออกจากห้องคนไข้

เมื่อเหลิวเฟิง และ หยูเสี่ยวฮุ่ยเห็น ก็รีบวิ่งตามเธอออกไป

"รูหยาน ลูกจะไปไหน รูหยาน?"

หลิวรูหยาน วิ่งออกจากโรงพยาบาลและถูก หลิวเฟิง และ หยูเสี่ยวฮุ่ย ห้ามไว้ที่ทางเข้าโรงพยาบาล

"รูหยาน ปู่ของเธอเขาไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะครอบครัวต้องเจอกับหายนะ ปู่ของลูกคงไม่ให้ลูกไปทำอะไรแบบนี้อย่างแน่นอน" หยูเสี่ยวฮุ่ยคอยปลอบ

หลิวรูหยานได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เธอหัวเราะเยาะและพูดว่า:

"ทำไมถึงประสบกับหายนะเช่นนี้ ก็ตระกูลหลิวไม่มีเอาไหนไม่ใช่หรือ คิดว่ามีคำหนุนหลังแล้วก็ไม่ต้องพยายามอะไรอีก”

"พอเกิดเรื่องร้ายแรง ก็ให้หนูหลิวรุหยานไปทำแบบนี้ หรือยังหนูหลิวรุหยานเป็นคนสารเลวอย่างนั้นหรือ!"

เมื่อเห็นหลิวรูหยานอารมณ์ขนาดนี้ หยูเสี่ยวฮุ่ย รีบดึง หลิวเฟิง ออกไปและพูดว่า:

"ที่รัก พ่อบอกว่าจะยกบริษัทของพ่อรองให้ บริษัทนั้นกำไรไม่น้อยเลยนะ"

"อันที่จริงฉันก็ไม่อยากให้รูหยานต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่คุณคิดดู ไม่ใช่ว่าครอบครัวเราจะมีโอกสแบบนี้ตลอดนะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิวเฟิงแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ภรรยาพูดออกมา:

"คุณบ้าไปแล้วใช่ไหม ให้ลูกของเราไปทำอะไรแบบนี้”

"เราคือพ่อแม่ของเธอนะ!”

เมื่อเห็นว่าหลิวเฟิงไม่เต็มใจ หยูเสี่ยวฮุ่ยโกรธจนขว้างกระเป๋าใส่ตัวเขา และพูดว่า:

"ถ้าไม่ทําแบบนี้ ดวนเทียนซิงจะยอมไหม ถ้าไม่จัดการดวนเทียนซิงให้เรียบร้อย พวกเราจะมีปัญญามีบริษัทแบบนั้นไหม”

"คุณมันก็เศษสวะเหมือนเยว์เฟิงเลย ถ้ามีปัญญาก็หาเงินกลับสิ เมียคนอื่นเขาใส่แก้วแหวนเงินทอง แล้วฉันล่ะ คุณดูสิ แหวนวงนี้ ยังเป็นแหวนที่คุณให้ฉันตอนแต่งงาน"

"ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีของอย่างอื่นบ้างไหม จะไปของร้องลูกไหม ถ้าไม่ขอกูหย่ากับมึง!"

หลิวเฟิงถูกหยูเสี่ยวฮุ่ยด่าจนพูดอะไรไม่ออก ถ้าหยูเสี่ยวฮุ่ยหย่ากับเขาจริงๆเขาจะไม่สามารถมองหน้าคนในตระกูลหลิวได้อีก

ทุกอย่างก็เพราะตัวเขานั้นไร้น้ำยา

เขากัดฟันเดินไปหา หลิวรูหยาน และลังเลที่จะพูดว่า:

"ลูก พวกเราไม่ใจไม้ไส้ระกําให้ลูกไปทำแบบนั้นหรอก"

"แต่มันไม่มีทางแล้ว ลูกก็เห็นแล้ว ถ้าลูกไม่สามารถเปลี่ยนใจดวนเทียนซิงได้ ครอบครัวเราที่อยู่ตระกูลหลิวจะยิ่งไม่มีสถานะอะไรอีกแล้ว เพื่อบริษัทนั้น... ”

หลิวเฟิง กำลังพูด แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ หลิวรูหยาน มองไปที่พ่อแม่ของเธออย่างหมดหวัง และส่ายหัว

ในแววตาของเธอ เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

"รูหยาน พวกเราเลี้ยงดูลูกจนโตมันง่ายไหม ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ลูกจะต้องตอบแทนพวกเราแล้ว"

"รูหยาน ลูกต้องจัดการดวนเทียนซิงให้อยู่หมัดรู้ไหม!"

เมื่อเห็นหลิวรูหยานเงียบหยูเสี่ยวฮุ่ยก็รีบพูดอีกครั้ง

"ฉันมีพ่อแม่แบบนี้ได้ยังไงกัน พวกคุณเป็นพ่อแม่ฉันไหม!” หลิวรูหยานใจสลายไม่เหลือชิ้นดี แม้แต่พ่อแม่ของเธอเองก็ยังบังคับเธอแบบนี้

"ฉันมองทะลุคนตระกูลหลิวแล้ว!"

เธอตะโกนใส่หยูเสี่ยวฮุ่ยและหลิวเฟิงด้วยน้ำเสียงดังสุดชีวิต พูดจบก็วิ่งไปด้วยร้องไห้ไปด้วย

ในตอนนี้ เธอถึงได้เข้าใจว่าอะไรคือความโดดเดี่ยว อะไรคือความสิ้นหวัง ถ้าหากเยว์เฟิงอยู่ตรงนี้ เขาจะยอมให้เธอได้พอกับความเจ็บช้ำน้ำใจแบบนี้ได้อย่างไร

แม้ว่าเยว์เฟิงจะไม่เอาไหน แต่เขาก็มีขอบเขตของตัวเอง อย่างน้อยเขาก็ตามใจเธอทุกอย่าง และทะนุถนอมเธออย่างมาก

"เยว่เฟิง คุณอยู่ที่ไหน ... "

หลิวรูหยานร้องไห้ไปด้วยเรียกชื่อเยว์เฟิงไปด้วย

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

545