บทที่14 พ่อแม่ของเยว่เฟิงจะมาเมืองชูโจว
by ต้าเต่าสามพัน
14:47,Dec 07,2020
หลังจากออกมาจากโรงแรม เยว่เฟิงก็ตรงไปที่บาร์คนเดียวจองห้องพรีเมี่ยม * สั่งไวน์XO มาสองขวดราคา19,000 เตรียมเมา
เมื่อพนักงานเสิร์ฟบาร์เห็นลูกค้ามาแปลก ๆและใจกว้างขนาดนี้ เขาจึงรีบไปแจ้งผู้จัดการ
ผู้จัดการบาร์เป็นหญิงวัยกลางคน อายุประมาณสี่สิบ แต่เธอไฃการดูแลผิวดีจึงดูสวยและอ่อนเยาว์ มีผิวไม่แพ้กับผู้หญิงวัยยี่สิบ
"หนุ่มหล่อ ไม่ค่อยคุ้นหน้าเลย เป็นลูกค้าตระกูลไหนจ๊ะเนี่ย"
นานๆ จะมีลูกค้าที่รวยขนาดนี้มา เธอเองก็อยากจะตีสนิทไว้
"ตระกูลเยว่! ”
เยว่เฟิงยิ้มเบา ๆ มองไปที่ผู้จัดการที่มีเสน่ห์คนนี้และพูดเบาๆ:
"เยว่......ตระกลูเยว่" ผู้จัดการบาร์ตกใจเล็กน้อย แต่หลังจากตั้งตัวได้ ก็แซวเยว่เฟิงกลับว่า : "หนุ่มหล่อชอบแกล้งกันจริง ๆ เมืองหวาก็มีแค่ตระกูลเยว่แค่ตระกูลเดียว ถ้าคุณเป็นลูกชายของตระกูลเยว่จริงๆแล้วจะมาอยู่ในเมืองชูโจวเล็กๆ ของเราได้ยังไง?”
เยว่เฟิงหัวเราะอย่างขมขื่นเมื่อได้ยินคำนั้น ถึงกับพูดไม่ออก
เขาแค่อยากแกล้งผู้จัดการบาร์สักหน่อย แต่คำพูดของผู้จัดการ ทำเอาเขาคิดหนัก เยว่เฟิงลูกชายคนโตและหลานชายคนโตของตระกูลเยว่ควรจะพัฒนาในเมืองจิงตู เป็นที่อิจฉาของชายอื่นๆ
แต่เขาเสียเวลาสองปีในเมืองชูโจวเพื่อผู้หญิงที่ไม่ได้รักเขา และทำอะไรไม่สำเร็จเลย
ทั้งๆ ที่หย่ากันไปแล้ว แต่กลับยังไ่ลืมผู้หญิงคนนั้นอีก
"ฉันมันโง่จริงๆ ... ”
เยว่เฟิงบ่นเบาๆ
"หนุ่มหล่อ คุณกำลังพูดอะไรอยู่ อารมณ์ไม่ดีเหรอ?" ผู้จัดการบาร์เป็นคนที่มีประสบการณ์ ดูออกว่าว่าเยว่เฟิงอกหักมา เธออมยิ้มให้พนักงานเสริร์ฟไวน์มา
"ไวน์นี้พี่เลี้ยง ไม่ต้องเกรงใจนะ”
เมื่อเห็นเช่นนี้เย่วเฟิงก็เหลือบมอง จากนั้นส่ายหัว ยิ้มและพูดกับผู้จัดการว่า:
"ขอบคุณครับผู้จัดการ แต่ฉันไม่ดื่มไวน์ปลอม คุณเอาไปเก็บเถอะ "
"อีกอย่าง ช่วยเปลี่ยนไวน์XOนี้ให้ด้วย เปลี่ยนเป็นของแท้นะครับ "
เยว่เฟิงค่อยๆยื่นไวน์ XO สองขวดที่เขาสั่งไว้หน้าผู้จัดการ และมองเธอเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
ตาของผู้จัดการก็กระตุกไปทีหนึ่ง เธอก็ยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ:
"หนุ่มหล่อตลกจริงๆ บาร์ของเราเป็นระดับไฮเอนด์ ไม่ขายไวน์ปลอมนะ"
"เราขายไวน์นี้ตามราคาตลาด อย่างมากแค่หากำไรไม่กี่ร้อยเอง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้เยว่เฟิงเก็บหน้านิ่ง พูดว่า :
"วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย เปลี่ยนไวน์แท้ให้ฉัน"
"ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณได้กำไรน้อย คุณเอางไวน์XOที่แพงที่สุดมา ฉันจ่ายได้"
"ถ้าของที่แพงที่สุดยังเป็นไวน์ปลอมล่ะก็ ฉันจะทุบบาร์นี้"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ราวกับกำลังพูดชิวๆกับผู้จำการอยู่
ธออยากจะเถียงกลับไป แต่ผู้จัดการรู้สึกหายใจไม่ออกด้วยน้ำเสียงและออร่าของเยว่เฟิงทำได้แค่กลืนน้ำลายลงไป แล้วพยักหน้าตอบตกลง:
"โอ.... โอเค คุณชายมีความรู้มากจริงๆ ฉันจะรีบ.. รีบให้คนเปลี่ยนให้คุณทันที "
สามารถในการจัดการสถานที่ที่วุ่นวายบาร์ได้ ผู้จัดการคนนี้เป็นคนที่มีประสบการณ์มากพอ ชายหนุ่มตรงหน้าเธอไม่ธรรมดาแน่ๆ และเป็นตระกูลใหญ่พอสมควร
เขาสามารถดูออกได้อย่างรวดเร็วว่าไวน์ราคา10,000กว่า เป็นไวน์ปลอม ถ้าไม่ใช่เพราะดื่มบ่อย ไม่มีใครดูออกได้
หรือเขาจะเป็นลูกชายของตระกูลเยว่จริง ... "
จู่ๆผู้จัดการก็มีความคิดเช่นนั้น แต่ก็ไม่นาความคิดนี้ก็หายไป ตระกูลเยว่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหวานะ ลูกชายของตระกูลเยว่คงไม่มาสถานที่เล็ก ๆ แห่งนี้ในชูโจวได้หรอก
ในท้ายที่สุดผู้จัดการก็เสิร์ฟไวน์XO ที่แพงที่สุดให้เยว่เฟิงและเยว่เฟิง ก็จ่ายเงินค่าไวน์ที่เหลือซึ่งมีราคากว่า30,000หยวน
"ฉันขอโทษจริงๆมันคือกฎของอาชีพ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะโกงคุณจริงๆนะ " ผู้จัดการรีบขอโทษเยว่เฟิง และพูดว่า "ถ้าคุณไม่รังเกลียดฉันสามารถดื่มกับคุณได้ ฉันก็เป็นที่เคยผ่านมาในด้านความรัก ไม่แน่ฉันอาจจะช่วยคุณได้ "
เยว่เฟิงพยักหน้า:"ได้ ฉันเบื่ออยู่พอดีเลย"
พูดแล้ว เขารินไวน์ยื่นให้ผู้จัดการ
ผู้จัดการรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยแม้ว่าเธอจะได้สัมผัสกับหนุ่มไฮโซอยู่บ่อยครั้ง แต่ไฮโซพวกนั้นไม่เหมือนชายที่อยู่ตรงหน้าเลย เป็นครั้งแรกที่เธอได้ดื่มไวน์XOราคาสามหมื่นกว่า
สักพัก ผู้จัดการและเยว่เฟิงดื่มไวน์XOหมดไปขวดหนึ่ง จากนั้นสั่งวอดก้าอีกหนึ่งขวด
หลังจากดื่มไวน์ไปสองขวดแล้วเยว่เฟิงยังเหมือนเดิม แต่ผู้จัดการเริ่มมีอาการเมาเล็กน้อย
"คุณชาย คุณเลิกคิดถึงผู้หญิงคนนั้นเถอะ เธอไม่คู่ควรกับความรักของคุณเลย"
"ตอนที่ฉันยังวัยรุ่นถ้าฉันเจอผู้ชายดีๆแบบคุณ ฉันคงไม่ต้องขนาดนี้ อายุปานนี้แล้วยังต้องทำงาน มีเรื่องอะไรก็ต้องเก็บไว้เอง "
ตอนนี้ผู้จัดการเหมือนผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เชื่องซบ อกเยว่เฟิงอยู่
เธอเอนตัวไปที่หูของเยว่เฟิงหายใจเบาๆ และพูดว่า :"ในค่ำคืนที่มีความหมายนี้ เราไปต่อโรงแรมกันเถอะ"
จมูกของเธอเตะทั่วบางหน้าของเยว่เฟิง พร้อมกลิ่นน้ำหมอราคาถูก เยว่เฟิงยิ้มจางๆ พูดว่า: "ขอบคุณที่ดื่มกับผม แต่ผมจะไปแล้ว"
"เดี๋ยวผมจะให้พนักงานมาดูแลคุณ ฝันดีครับ ”
หลังจากพูดเสร็จ เยว่เฟิงก็วางตัวเธอลงเบา ๆ แล้วออกจากที่นี่โดยไม่หันกลับไปมอง
เมื่อมองไปเงาที่กำลังจากไปของเยว่เฟิง ผู้จัดการรู้สึกว่างเปล่าในใจเล็กน้อยและน้ำตาก็ไหลมองมา
"ผู้ชายดีๆ แบบนี้ คงจะดีมากถ้าฉันเกิดก่อนยี่สิบปี ... "
...
ทันทีที่เยว่เฟิงออกมาจากบาร์ เขาก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยเขากำลังจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านแต่โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นก่อน
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเห็นว่าเป็นพ่อของเขาที่โทรมา
"ซวยแล้ว! "
เยว่เฟิงสะดุ้งทันทีและรีบเดินออกห่างจากบาร์จากนั้น แล้วรับสาย
"ฮัลโหลครับพ่อ!" เยว่เฟิงรู้สึกเกรงเล็กน้อยเมื่อคุยกับเยว่เทียนเซีอง
"ทำไมแกรับสายฉันนานจัง ทำอะไรอยู่" เสียงปลายทางเป็นเสียงชายวัยกลางคน น้ำเสียงทุ้มต่ำ
"ผม ... ผมกำลังช้อปปิ้งเสียงดังเกินไป ผมไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังครับ" เยว่เฟิงพูโกหกไป เพราะถ้าเขาบอกว่าเขาเพิ่งออกมาจากบาร์ เยว่เทียนเซีองจะว่าเขามั่วซุ่มแน่ๆ
"ช่วงนี้เป็นไงบ้าง ไปเป็นลูกเขขยเขาสบายไหม? " เยว่เทียนเซีองเยาะเย้ยเยว่เฟิง
เขายังไม่รู้ว่าเยว่เฟิงโดยไล่ออกจากตระกูลหลิวแล้ว ตอนเขารู้ว่าเยว่เฟิงจะไปเป็นลูกเขยบ้านตระกูลหลิว แทบจะเป็นลมไปในตอนนั้น
"ก็...ก็ชิวดี..ก็โอเค..."เยว่เฟิงพูดให้ผ่านๆไป เขาไม่กล้าพูดว่าตัวเองโดนไล่ออกจากตระกลูหลิวแล้ว และไม่กล้าบอกว่าตัวเองถูกครอบครัวหลิวรังแก
"โอเคบ้าอะไร! " เยว่เทียนเซีองด่าอย่างแรง: "คำสัญญาสองปีจะมาถึง ฉันให้ตรวจสอบการพัฒนาของตระกูลหลิวในเมืองชูโจว ที่ผ่านมาฉันคิดว่าตระกูลเขาพัฒนาได้ดี ยังพอคู่คสรกับตระเยว่หน่อย ฉันและแม่แกเตรียมตัวไปเมืองชูโจวในสองวันนี้ ไปดูลูกสะใภ้ของตระกูลเราด้วย”
"ไปแจ้งตระกูลหลิวทราบด้วย"
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาเยว่เฟิงก็อึ้งไปสักพัก รู้สึกหายเมาทันที เขาเพิ่งหย่ากันไป แต่เยว่เทียนเซีองจะมาเยี่ยมเขาตอนนี้ มาได้ตรงเวลาจริงๆ!
"พ่อครับ ... พ่อค่อยมาวันอื่นไหมครับ ช่วงนี้ผมยุ่งๆ รอผมว่างแล้วพ่อค่อยมาดีกว่า" เยว่เฟิงรีบพูดไป
"แกยุ่งเหรอ?" เยว่เทียนเซีองพูดอย่างเย็นชา: "แกยุ่งเท่าฉันหรือเปล่า ฉันอุตส่าห์วางงานเพื่อไปหา แกกล้าบอกฉันว่าแกยุ่งั้นเหรอ"
"ฉันไม่สน ตามนี้แหละ สัปดาห์วันจันทร์ฉันจะไปหา ช่วงนี้เครื่องบินส่วนตัวฉันเอาไปซ่อมอยู่ ไม่ฉะนั้นฉันไปหาแกตั้งแต่พรุ่งนี้แล้ว"
เยว่เทียนเซีองพูดเสร็จก็วางสายไป
เยว่เฟิงยังคงอึ้งอยู่ และงงกับเรื่องเกิดชึ้น ...
"ซวยแล้ว เอาไงดีวะ นี้ฉันต้องคืนดีกับเธอเพื่อรับมือกับพ่อแม่ฉันจริงๆเหรอ..."
เมื่อพนักงานเสิร์ฟบาร์เห็นลูกค้ามาแปลก ๆและใจกว้างขนาดนี้ เขาจึงรีบไปแจ้งผู้จัดการ
ผู้จัดการบาร์เป็นหญิงวัยกลางคน อายุประมาณสี่สิบ แต่เธอไฃการดูแลผิวดีจึงดูสวยและอ่อนเยาว์ มีผิวไม่แพ้กับผู้หญิงวัยยี่สิบ
"หนุ่มหล่อ ไม่ค่อยคุ้นหน้าเลย เป็นลูกค้าตระกูลไหนจ๊ะเนี่ย"
นานๆ จะมีลูกค้าที่รวยขนาดนี้มา เธอเองก็อยากจะตีสนิทไว้
"ตระกูลเยว่! ”
เยว่เฟิงยิ้มเบา ๆ มองไปที่ผู้จัดการที่มีเสน่ห์คนนี้และพูดเบาๆ:
"เยว่......ตระกลูเยว่" ผู้จัดการบาร์ตกใจเล็กน้อย แต่หลังจากตั้งตัวได้ ก็แซวเยว่เฟิงกลับว่า : "หนุ่มหล่อชอบแกล้งกันจริง ๆ เมืองหวาก็มีแค่ตระกูลเยว่แค่ตระกูลเดียว ถ้าคุณเป็นลูกชายของตระกูลเยว่จริงๆแล้วจะมาอยู่ในเมืองชูโจวเล็กๆ ของเราได้ยังไง?”
เยว่เฟิงหัวเราะอย่างขมขื่นเมื่อได้ยินคำนั้น ถึงกับพูดไม่ออก
เขาแค่อยากแกล้งผู้จัดการบาร์สักหน่อย แต่คำพูดของผู้จัดการ ทำเอาเขาคิดหนัก เยว่เฟิงลูกชายคนโตและหลานชายคนโตของตระกูลเยว่ควรจะพัฒนาในเมืองจิงตู เป็นที่อิจฉาของชายอื่นๆ
แต่เขาเสียเวลาสองปีในเมืองชูโจวเพื่อผู้หญิงที่ไม่ได้รักเขา และทำอะไรไม่สำเร็จเลย
ทั้งๆ ที่หย่ากันไปแล้ว แต่กลับยังไ่ลืมผู้หญิงคนนั้นอีก
"ฉันมันโง่จริงๆ ... ”
เยว่เฟิงบ่นเบาๆ
"หนุ่มหล่อ คุณกำลังพูดอะไรอยู่ อารมณ์ไม่ดีเหรอ?" ผู้จัดการบาร์เป็นคนที่มีประสบการณ์ ดูออกว่าว่าเยว่เฟิงอกหักมา เธออมยิ้มให้พนักงานเสริร์ฟไวน์มา
"ไวน์นี้พี่เลี้ยง ไม่ต้องเกรงใจนะ”
เมื่อเห็นเช่นนี้เย่วเฟิงก็เหลือบมอง จากนั้นส่ายหัว ยิ้มและพูดกับผู้จัดการว่า:
"ขอบคุณครับผู้จัดการ แต่ฉันไม่ดื่มไวน์ปลอม คุณเอาไปเก็บเถอะ "
"อีกอย่าง ช่วยเปลี่ยนไวน์XOนี้ให้ด้วย เปลี่ยนเป็นของแท้นะครับ "
เยว่เฟิงค่อยๆยื่นไวน์ XO สองขวดที่เขาสั่งไว้หน้าผู้จัดการ และมองเธอเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
ตาของผู้จัดการก็กระตุกไปทีหนึ่ง เธอก็ยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ:
"หนุ่มหล่อตลกจริงๆ บาร์ของเราเป็นระดับไฮเอนด์ ไม่ขายไวน์ปลอมนะ"
"เราขายไวน์นี้ตามราคาตลาด อย่างมากแค่หากำไรไม่กี่ร้อยเอง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้เยว่เฟิงเก็บหน้านิ่ง พูดว่า :
"วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย เปลี่ยนไวน์แท้ให้ฉัน"
"ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณได้กำไรน้อย คุณเอางไวน์XOที่แพงที่สุดมา ฉันจ่ายได้"
"ถ้าของที่แพงที่สุดยังเป็นไวน์ปลอมล่ะก็ ฉันจะทุบบาร์นี้"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ราวกับกำลังพูดชิวๆกับผู้จำการอยู่
ธออยากจะเถียงกลับไป แต่ผู้จัดการรู้สึกหายใจไม่ออกด้วยน้ำเสียงและออร่าของเยว่เฟิงทำได้แค่กลืนน้ำลายลงไป แล้วพยักหน้าตอบตกลง:
"โอ.... โอเค คุณชายมีความรู้มากจริงๆ ฉันจะรีบ.. รีบให้คนเปลี่ยนให้คุณทันที "
สามารถในการจัดการสถานที่ที่วุ่นวายบาร์ได้ ผู้จัดการคนนี้เป็นคนที่มีประสบการณ์มากพอ ชายหนุ่มตรงหน้าเธอไม่ธรรมดาแน่ๆ และเป็นตระกูลใหญ่พอสมควร
เขาสามารถดูออกได้อย่างรวดเร็วว่าไวน์ราคา10,000กว่า เป็นไวน์ปลอม ถ้าไม่ใช่เพราะดื่มบ่อย ไม่มีใครดูออกได้
หรือเขาจะเป็นลูกชายของตระกูลเยว่จริง ... "
จู่ๆผู้จัดการก็มีความคิดเช่นนั้น แต่ก็ไม่นาความคิดนี้ก็หายไป ตระกูลเยว่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหวานะ ลูกชายของตระกูลเยว่คงไม่มาสถานที่เล็ก ๆ แห่งนี้ในชูโจวได้หรอก
ในท้ายที่สุดผู้จัดการก็เสิร์ฟไวน์XO ที่แพงที่สุดให้เยว่เฟิงและเยว่เฟิง ก็จ่ายเงินค่าไวน์ที่เหลือซึ่งมีราคากว่า30,000หยวน
"ฉันขอโทษจริงๆมันคือกฎของอาชีพ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะโกงคุณจริงๆนะ " ผู้จัดการรีบขอโทษเยว่เฟิง และพูดว่า "ถ้าคุณไม่รังเกลียดฉันสามารถดื่มกับคุณได้ ฉันก็เป็นที่เคยผ่านมาในด้านความรัก ไม่แน่ฉันอาจจะช่วยคุณได้ "
เยว่เฟิงพยักหน้า:"ได้ ฉันเบื่ออยู่พอดีเลย"
พูดแล้ว เขารินไวน์ยื่นให้ผู้จัดการ
ผู้จัดการรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยแม้ว่าเธอจะได้สัมผัสกับหนุ่มไฮโซอยู่บ่อยครั้ง แต่ไฮโซพวกนั้นไม่เหมือนชายที่อยู่ตรงหน้าเลย เป็นครั้งแรกที่เธอได้ดื่มไวน์XOราคาสามหมื่นกว่า
สักพัก ผู้จัดการและเยว่เฟิงดื่มไวน์XOหมดไปขวดหนึ่ง จากนั้นสั่งวอดก้าอีกหนึ่งขวด
หลังจากดื่มไวน์ไปสองขวดแล้วเยว่เฟิงยังเหมือนเดิม แต่ผู้จัดการเริ่มมีอาการเมาเล็กน้อย
"คุณชาย คุณเลิกคิดถึงผู้หญิงคนนั้นเถอะ เธอไม่คู่ควรกับความรักของคุณเลย"
"ตอนที่ฉันยังวัยรุ่นถ้าฉันเจอผู้ชายดีๆแบบคุณ ฉันคงไม่ต้องขนาดนี้ อายุปานนี้แล้วยังต้องทำงาน มีเรื่องอะไรก็ต้องเก็บไว้เอง "
ตอนนี้ผู้จัดการเหมือนผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เชื่องซบ อกเยว่เฟิงอยู่
เธอเอนตัวไปที่หูของเยว่เฟิงหายใจเบาๆ และพูดว่า :"ในค่ำคืนที่มีความหมายนี้ เราไปต่อโรงแรมกันเถอะ"
จมูกของเธอเตะทั่วบางหน้าของเยว่เฟิง พร้อมกลิ่นน้ำหมอราคาถูก เยว่เฟิงยิ้มจางๆ พูดว่า: "ขอบคุณที่ดื่มกับผม แต่ผมจะไปแล้ว"
"เดี๋ยวผมจะให้พนักงานมาดูแลคุณ ฝันดีครับ ”
หลังจากพูดเสร็จ เยว่เฟิงก็วางตัวเธอลงเบา ๆ แล้วออกจากที่นี่โดยไม่หันกลับไปมอง
เมื่อมองไปเงาที่กำลังจากไปของเยว่เฟิง ผู้จัดการรู้สึกว่างเปล่าในใจเล็กน้อยและน้ำตาก็ไหลมองมา
"ผู้ชายดีๆ แบบนี้ คงจะดีมากถ้าฉันเกิดก่อนยี่สิบปี ... "
...
ทันทีที่เยว่เฟิงออกมาจากบาร์ เขาก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยเขากำลังจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านแต่โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นก่อน
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเห็นว่าเป็นพ่อของเขาที่โทรมา
"ซวยแล้ว! "
เยว่เฟิงสะดุ้งทันทีและรีบเดินออกห่างจากบาร์จากนั้น แล้วรับสาย
"ฮัลโหลครับพ่อ!" เยว่เฟิงรู้สึกเกรงเล็กน้อยเมื่อคุยกับเยว่เทียนเซีอง
"ทำไมแกรับสายฉันนานจัง ทำอะไรอยู่" เสียงปลายทางเป็นเสียงชายวัยกลางคน น้ำเสียงทุ้มต่ำ
"ผม ... ผมกำลังช้อปปิ้งเสียงดังเกินไป ผมไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังครับ" เยว่เฟิงพูโกหกไป เพราะถ้าเขาบอกว่าเขาเพิ่งออกมาจากบาร์ เยว่เทียนเซีองจะว่าเขามั่วซุ่มแน่ๆ
"ช่วงนี้เป็นไงบ้าง ไปเป็นลูกเขขยเขาสบายไหม? " เยว่เทียนเซีองเยาะเย้ยเยว่เฟิง
เขายังไม่รู้ว่าเยว่เฟิงโดยไล่ออกจากตระกูลหลิวแล้ว ตอนเขารู้ว่าเยว่เฟิงจะไปเป็นลูกเขยบ้านตระกูลหลิว แทบจะเป็นลมไปในตอนนั้น
"ก็...ก็ชิวดี..ก็โอเค..."เยว่เฟิงพูดให้ผ่านๆไป เขาไม่กล้าพูดว่าตัวเองโดนไล่ออกจากตระกลูหลิวแล้ว และไม่กล้าบอกว่าตัวเองถูกครอบครัวหลิวรังแก
"โอเคบ้าอะไร! " เยว่เทียนเซีองด่าอย่างแรง: "คำสัญญาสองปีจะมาถึง ฉันให้ตรวจสอบการพัฒนาของตระกูลหลิวในเมืองชูโจว ที่ผ่านมาฉันคิดว่าตระกูลเขาพัฒนาได้ดี ยังพอคู่คสรกับตระเยว่หน่อย ฉันและแม่แกเตรียมตัวไปเมืองชูโจวในสองวันนี้ ไปดูลูกสะใภ้ของตระกูลเราด้วย”
"ไปแจ้งตระกูลหลิวทราบด้วย"
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาเยว่เฟิงก็อึ้งไปสักพัก รู้สึกหายเมาทันที เขาเพิ่งหย่ากันไป แต่เยว่เทียนเซีองจะมาเยี่ยมเขาตอนนี้ มาได้ตรงเวลาจริงๆ!
"พ่อครับ ... พ่อค่อยมาวันอื่นไหมครับ ช่วงนี้ผมยุ่งๆ รอผมว่างแล้วพ่อค่อยมาดีกว่า" เยว่เฟิงรีบพูดไป
"แกยุ่งเหรอ?" เยว่เทียนเซีองพูดอย่างเย็นชา: "แกยุ่งเท่าฉันหรือเปล่า ฉันอุตส่าห์วางงานเพื่อไปหา แกกล้าบอกฉันว่าแกยุ่งั้นเหรอ"
"ฉันไม่สน ตามนี้แหละ สัปดาห์วันจันทร์ฉันจะไปหา ช่วงนี้เครื่องบินส่วนตัวฉันเอาไปซ่อมอยู่ ไม่ฉะนั้นฉันไปหาแกตั้งแต่พรุ่งนี้แล้ว"
เยว่เทียนเซีองพูดเสร็จก็วางสายไป
เยว่เฟิงยังคงอึ้งอยู่ และงงกับเรื่องเกิดชึ้น ...
"ซวยแล้ว เอาไงดีวะ นี้ฉันต้องคืนดีกับเธอเพื่อรับมือกับพ่อแม่ฉันจริงๆเหรอ..."
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved