บทที่ 13 คำสัญญาสองปี

หลังจากเยว่เฟิงนำตัวหลิวรูหยานออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว เขาก็พาเธอตรงไปที่โรงแรม

หลังวางตัวหลิวรูหยานลงบนเตียงแล้ว เยว่เฟิงก็ห่มผ้าให้เธอ เมื่อเห็นใบหน้าของหลิวรูหยานเต็มไปด้วยน้ำตาและความเหนื่อยล้า เยว่เฟิงรู้สึกไม่สบายใจเลย

แม้ว่าหลิวรูหยานจะหย่ากับเขาแล้ว แม้ว่าหลิวรูหยานจะเคยทำไม่ดีกับเขาก็ตาม และถึงในวันที่หย่า เธอก็ไม่ลืมที่จะดูถูกเขา

แต่เขาก็ลืมหลิวรูหยานไปไม่ได้ และไม่อยากเห็นเธอโดนคนอื่นรังแกแบบนี้

เขาหวังว่าหลังจากการหย่ากันไป แม้ว่าหลิวรูหยานจะไม่มีเขาอยู่ข้างๆอย่างน้อยเธอสามารถมีชีวิตที่ดี ดูแลตัวเองได้

แต่นี้แค่หย่ากันไปไม่นาน เธอดูผอมลงไปมาก

"ยัยโง่ ทำไมไม่ถนอมร่างกายตัวเองบ้าง ทำไมต้องมาทนอะไรขนาดนี้! ”

"คุ้มหรอที่ต้องทำเพื่อตระกูลหลิวจนาดนี้ คุณอยากได้อะไร ฉันสามารถให้ได้หมด! "

เยว่เฟิงมองไปที่หลิวรูหยานที่กำลังหลับอยู่

แต่คำพูดพวกนี้เขาทำได้พูดในใจ เพราในตอนนี้หลิวรูหยานไม่ใช่ภรรยาของเขาอีกต่อไป และเขาไม่มีสิทธิที่จะพูดคำเหล่านี้ออกมาด้วยซ้ำ

เขาเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของหลิวรูหยาน เธอมีไข้ขึ้น

"ทำไมมันร้อนขนาดนี้ ... ”

เยว่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย รีบลงไปชั้นล่างและไปที่ร้านขายยาใกล้ๆเพื่อซื้อยาลดไข้

เขาวางยาลดไข้ไว้ข้างเตียงเพื่อรอให้หลิวรูหยานตื่น

แต่เดิมเขาอยากไปก่อนเพราะกลัวว่าถ้าหลิวรูหยานตื่นมา ทั้งคู่จะทำตัวไม่ถูกแต่ตอนนี้หลิวรูหยานมีไข้ เขาเป็นห่วงหลิวรูหยาน

เขาถอนหายใจ เดินไปนั่งอยู่บนโซฟาเหมือนเดิม เพื่อรอให้หลิวรู่หยานตื่นก่อน

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ท้องฟ้าเริ่มมืด

เยว่เฟิงหลับบนโซฟาโดยไม่รู้ตัว ช่วงนี้เขานอนไม่ดีเลย หย่ากับหลิวรูหยานมีผลกระทบกับเขามาก ในตอนแรกพ่อแม่ของเขาไม่เห็นด้วยกับเขาและหลิวรูหยาน งานแต่งก็ไม่ได้มาร่วมด้วย

และพ่อของเขาเยว่เทียนเซืองให้เวลาเขาสองปี ถ้าหากเขาไม่สามารถนำพาตระกูลหลิวเป็นที่หนึ่งในเมืองชู่โจวในเวลาสองปี เขาต้องหย่ากับหลิวรูหยานและกลับบ้านบริหารธุรกิจของตระกูล

ในตอนแรกเยว่เฟิงสัญญากับเยว่เทียนเซีองว่าเขาจะประคองตระหลิวให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน และหลิวรูหยานจะเป็นลูกสะใภ้เต็มตัวของตระกูลเยว่

ตอนนี้เลยกำหนดเวลาสองปีมาแล้ว แต่กลับแย่กว่าเดิม ไม่ต้องให้พ่อแม่เขาบังคับ เธอสองคนก็หย่ากับไปแล้ว เหมือนกำลังตบหน้าตัวเอง

ตอนนี้เขากลับไปที่ตระกูลเยว่ แล้วเขาควรเผชิญหน้ากับคนอื่นอย่างไร คนในตระกูลเยว่ต้องเยาะเย้ยเขาแน่ๆ

เวลาผ่านไปสักพัก หลิวรูหยานตื่นขึ้นมาประมาณสองทุ่มกว่า

เธอขยี้ตาแล้วลูบหัวที่มึน ๆของตัวเอง เธอยังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในโรงแรม

เมื่อเธอเริ่มได้สติแล้ว ทันใดนั้นเธอก็เห็นเยว่เฟิงหลับอยู่บนโซฟาและพึ่งรู้ตัวว่าเธออยู่ในโรงแรม

"เยว่เฟิง ... ”

"ฉันฝันไปหรือเปล่า……”

หลิวรูหยานสูดลมหายใจเ และมองไปที่เยว่เฟิงนอนบนโซฟาอย่างประหลาดใจ

เธอพยายามคิด แต่จำได้ว่าวันนี้เธอเป็นลมอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วก็มีคนพยุงเธอออกมา

"หรือเป็นเยว่เฟิง ... เขาไปโรงพยาบาลเพื่ออะไร เขาส่งฉันมาที่นี่หรือ?”

หลิวรูหยานรู้สึกสับสนเล็กน้อย ตอนเธอล้มลงไม่นานก็หมดสติไป เธอจึงจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

แต่ดูจากยาลดไข้ข้างเตียงเธอก็พอเข้าใจแล้วบ้าง น่าจะเป็นเยว่เฟิงที่เห็นเธอถูกตระกูลรังแกในโรงพยาบาล จึงพาเธอออกมา และยาลดไข้นี้ก็คือเยว่เฟิงซื้อ

เพราะยาชนิดนี้ เป็นยาที่เยว่เฟิงซื้อประจำ ก่อนหน้านี้ที่หลิวรูหยานไม่สบาย เป็นหวัดมีไข้บ่อย เขามักจะซื้อยาชนิดนี้

ถือยาไว้ในมือของเธอ มองไปที่เยว่เฟิงที่กำลังหลับอยู่หลิวรูหยานรู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย

เมื่อก่อนเยว่เฟิงยังอยู่ มองหน้าเยว่เฟิงยังไงก็ไม่ถูกชะตา มักรวมหัวกับหยู่เสี่ยวฮุ่ยกลั่นแกล้งเยว่เฟิง

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเยว่เฟิโดฯตระกูลหลิวเรียกใช้อย่างกับทาส เธอไม่เคยพูดอะไร เพื่อเยว่เฟิงเลย

เมื่อเยว่เฟิงหย่ากับเธอไป เธอมีความสุขมากดีใจที่ไม่ต้องทนกับคนไร้ประโยชน์

เธอกลับรู้สึกไม่ชิน เมื่อเยว่เฟิงไม่อยู่

เธอไม่อยากเผชิญกับสิ่งเหล่านี้คนเดียวและไม่ชอบเวลาไม่มีคนดูแลไม่ชอบป่ว ยังต้องแบกรับทุกอย่างเอง

รู้สึกดีเวลาป่วยมีคนคอยเอายามาให้ถึงบนเตียง ก็เหมือนตอนนี้

"ฉันผิดจริงๆเหรอ ... ”

"ฉันไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณใช่ไหม ... ”

หลิวรูหยานมองไปที่เยว่เฟิงและรู้สึกผิดขึ้นมา

ในขณะนี้เยว่เฟิงตื่นขึ้นมา และหาว

หลิวรูหยานเห็นแบบนี้ จงรีบเก็บอารมณ์ของตนเองอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอก็กลับมาเย็นชาอีกครั้ง

เยว่เฟิงลูบใบหน้าตัวเองแล้วยืนขึ้นมองไปที่หลิวรูหยาน:

"ตื่นแล้วหรือ? "

หลิวรูหยานพยักหน้าพร้อมมองไปที่เยว่เฟิงอย่างหน้านิ่ง และถามว่า:

"คุณส่งฉันมาที่นี่คุณได้รับอนุญาตจากฉันหรือยัง เราหย่ากันไปแล้ว คุณไม่มีสิทธิพาฉันมาโรงแรม!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยว่เฟิงเกาหัวของเขาและพูดว่า:

"ถ้าฉันไม่พาคุณไป ฉันคิดว่าตระกูลหลิวคงไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆหรอก”

"ฉันได้ยินบทสนทนาของพวกคุณแล้ว ... "

ขณะที่เขาพูด เยว่เฟิงขมวดคิ้วเดินไปที่หลิวรูหยานและถามว่า:

"หลิวรูหยาน แม้ว่าเราจะหย่ากันแล้ว แต่ฉันก็หวังว่าคุณจะดูแลตัวเองดีๆ"

"ทำไมตระกูลหลิวขอให้คุณทำอะไรก็ทำตาม พวกเขานับคุณเป็นครอบครัวของพวกเขาเหรอ ทำไมคุณไม่มีสมองคิดเลย!”

หลิวรูหยานหน้าแดงทันที กัดริมฝีปากแน่น เรื่องที่ให้ไปยั่วยวนดวนเทียนชิงกลายเป็นแผลในใจของเธอ และเธอไม่อยากพูดถึงมัน

เธอจ้องมองไปที่เยว่เฟิงและพูดอย่างเย็นชา:

"มันไม่ใช่เรื่องของคุณ! "

"เราหย่ากันแล้ว ฉันจะทำมีอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณดูแลตัวเองให้ดีเถอะ คุณถูกทิ้งไปแล้วยังไม่รีบไปหางานทำอีก หรือคิดจะให้ตระกลูเลี้ยงไปตลอดหรือ "

เมื่อเห็นเช่นนี้เยว่เฟิงก็โกรธขึ้นมา เขาช่วยหลิวรูหยาน แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่มีขอบคุณสักคำ เธอยังพูดทำร้ายจิตใจเขาเหมือนเดิม

"ใช่ มันไม่ใช่เรื่องของฉัน!"

"ถ้าไม่ใช่ฉันตอนนี้คุณยังไม่รู้จะอยู่ไหนเลย! ตระกูลหลิวเกือบฆ่าคุณให้ตายไม่รู้หรือ! ”

จู่ๆเยว่เฟิงก็สูญเสียการควบคุมอารมณ์และตะคอกใส่หลิวรูหยานอย่างเกรี้ยวกราด

ลิวรูหยานถึงกับผงัก

เยว่เฟิงเองก็รู้ตัวเองเมื่อกี้ขาดสติ จึงก้มหัวลงพูดเองว่า :"ใช่ เราสองคนหย่าไปแล้ว คุณจะเป็นยังไงมันไม่เกี่ยวกับฉันขอโทษที่ฉันคิดไปเอง ยาฉันซื้อมาให้แล้วนะ คุณอย่าลืมกินยาให้ตรงเวลา ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยุ่งอะไรกับคุณอีก ฉันไปล่ะ"

พูดจบเยว่เฟิงเตรียมตัวจะเดินจากไป แต่ก่อนจะออกจากห้องเขาก็ยังไม่ลืมเตือนหลิวรูหยานว่า

"อย่างน้อยครั้งหนึ่งเราเคยอยู่ด้วยกัน ฉันขอเตือนคุณนะ ตระกลูหลิวไม่เห็นคุณเป็นคนในครอบครัว คุณไม่จำเป็นต้องไปทำเพื่อเขาขนาดนี้ ตระกลูหลิวยังไงก็จบแน่ "

หลิวรูหยานไม่ฟังคำเตือนของเขา เถียงกลับไปว่า :"แค่ตระกลูหลิวงั้นเหรอ ถึงแม้ตระกลูหลิวจะล้มละลายแต่ก็ดีกว่าคุณ คุณเป็นใคร คุณมันก็แค่คนที่ตระหลิวเลี้ยงมา2ปี! "

เยว่เฟิงพูดอย่างเย็นชา:"คุณพูดถูก ฉันไม่ใช่ตัวอะไรหรอก"

"ฉันไปล่ะ คุณระวังตัวให้ดีล่ะ"

พูดจบ เยว่เฟิงก็เดินออกไปพร้อมปิดประตู

เห็นเยว่เฟิงห้าวขนาดนี้ หลิวรูหยานอารมณ์เสีย โยนหมอนลงไปกับพื้น พร้อมด่าว่า:"เยว่เฟิง แกมันบ้า! "

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

545