บทที่ 3 หย่า

ที่ประตูสำนักเขต เยว่เฟิงและหลิวรูหยานได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการหย่าร้าง

นับจากนี้เป็นต้นไป พวกเขาไม่ใช่สามีภรรยาอีกต่อไปพวกเขาเป็นเหมือนศัตรู ยิ่งกว่าคนแปลกหน้า

แววตาของหลิวรูหยานแดงก่ำ และเธอมองไปที่ชายที่ไม่เคยสัมผัสเขาด้วยความรังเกียจและพูดอย่างเย็นชาว่า:"เยว่เฟิง ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคุณจะกล้าขนาดนี้ กล้าหย่าร้างกับฉัน คุณมากเก่ง ฉันอยากรู้จริงๆถ้าคุณออกจากบ้านตระกูลหลิวจะเป็นยังไง ตลอดสองปีที่ผ่านมา คุณไม่เคยทำอะไรเลย ถ้าไม่ใช่ตระกูลหลิวของฉันรับเลี้ยงคุณ คุณก็คงอดตายไปนานแล้ว คุณเป็นถึงลูกผู้ชายอกสามศอก แต่วันๆกลับทำงานบ้านเหมือนผู้หญิง ค่อยรับใช้คนอื่น โดนคนอื่นเรียกใช้เหมือนสุนัข คุณทำให้เกียรติของฉันหลิวรูหยานเสื่อมเสียไปหมดแล้ว หย่าแล้วก็ดี ต่างคนต่างไป ไม่มีคุณ ชีวิตของฉันหลิวรูหยานคงจะดีขึ้น!"

เยว่เฟิงมองไปที่หลิวรูหยานที่ มองอดีตคนเคยรัก มองคนที่เขาไม่เคยแตะต้องตัว ความผิดหวังราวกับสายน้ำที่พุ่งเข้ามาในใจ เขาคิดว่าหลิวรูหยานคงจะคิดได้และกลับใจ แต่นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ...

"หลิวรูหยาน ตระกูลหลิวของคุณทุกคนก็เหมือนกันหมด กล่าวว่าคนที่เสียสละให้ไร้ค่า ทำร้ายคนอื่นแล้วยังตีหน้าซื่อ ฉันมองคนตระกูลหลิวทะลุปรุโปร่งแล้ว คุณย่าจากไปเร็วไปหน่อย ถ้าเธอยังอยู่ ตระกูลหลิวของคุณจะไม่เป็นแบบนี้ หลิวหงชิงมันช่างน่าเวทนา สั่งสอนลูกหลานให้เป็นคนแบบนี้ ฉันเยว่เฟิงเห็นแกคุณยาย จะไม่กำจัดตระกูลหลิวให้สิ้นซาก ค่อยเตือนตัวเองเถอะ ต่อไปเก็บหางไว้บ้าง ซื่อสัตย์กับคนอื่นเข้าบ้างนะ ในโลกนี้ ไม่มีใครเป็นหนี้ตระกูลหลิว ฉันเยว่เฟิง ก็ไม่เป็นหนี้ของตระกูลหลิวสักแดงเดียว!"

สองปีนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเยว่เฟิง หลังจากที่คุณยายหลิวเสียไปครึ่งปี ตระกูลหลิวเกือบจะล่มจมแล้ว เขาค่อยช่วยเหลืออย่างลับๆ ช่วยพยุงตระกูลหลินให้มีวันนี้

สำหรับสิ่งเหล่านี้ เขาไม่เคยพูดต่อหน้าหลิวรูหยานเลย เพราะเขาเองได้สัญญากับยายหลิวเอง ว่าจะช่วยเหลือตระกูลหลิว เขาจะไม่แบกภาระนี้อีก และไม่จำเป็นที่จะต้องแบกภาระนี้อีกต่อไป

ครอบครัวหลิว เขาจะไม่รับเครดิตสำหรับการมีส่วนร่วมของตัวเองและไม่จำเป็นต้องรับเครดิตสำหรับมัน

เยว่เฟิง ไม่มีอะไรที่ทำไม่ดีต่อตระกูลหลิว เข้าไม่ติดอะไรแล้ว เขาทำดีที่สุดแล้ว

หลิวรูหยานหัวเราะอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินสิ่งนี้:"คุณจะกำจัดตระกูลหลิวเรอะ วันนี้คุณตื่นเช้าไปยังตื่นจากความฝันใช่ไหม?เยว่เฟิง คุณเป็นใครยังไม่รู้ตัวเองอีกเรอะ คนที่ต้องเตือนตัวเองคือคนต่างหาก ของร้องช่วยพัฒนาตัวเองหน่อยได้ไหม ไม่ใช่ว่าออกจากบ้านฉันแล้ว ข้าวยังไม่มีเงินซื้อกิน "

พูดจบ หลิวรูหยานหยิบธนบัตรสีแดงออกมาหลายใบจากกระเป๋าของเธอ และฟาดไปที่ใบหน้าของเยว่เฟิงอย่างบ้าคลั่ง

เยว่เฟิงผู้ซึ่งไม่ได้สนใจเงิน เป็นครั้งแรกที่ถูกเงินฟาดหน้า

หลิวรูหยานทำลายจิตนาการและความคาดหวังของเขาจนหมดสิ้น เยว่เฟิงนิ่งไปสักพัก แล้วหัวเราะออกมา เสียวหัวเราะที่บ้างคลั่งได้ซ่อนความผิดหวังและความเจ็บปวดไว้ภายใน

เมื่อเห็นเยว่เฟิงเป็นเหมือนคนบ้า หลิวรูหยานรู้สึกว่าเขารู้สึกเสียหน้ามากขึ้น

เยว่เฟิงหยิบเงินใส่กระเป๋า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สะอื้นว่า:"ผมจะเก็บเงินนี้ไว้ และจะใช้มันค่อยเตือนตัวเอง ว่านี้คือผลตอบแทนของความรักที่ผมทุ่มเท่ให้ สุดท้ายได้กลับมาเพียงความอัปยศที่ไม่สิ้นสุดและเงินพวกนี้ หลิวรูหยานคุณจำไว้ ผมเยว่เฟิงจากไปแล้ว จะไม่มีใครรักคุณได้เท่าผมอีก จะไม่มีใครที่ยอมให้คุณทุกอย่างและดูแลคุณอย่างดี ขอให้คุณมีความสุข”

หลังจากพูดแล้ว เยว่เฟิงก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง

เมื่อมองหลังที่ไร้เยื่อใยของเยว่เฟิง หลิวรูหยานรู้สึกเจ็บจิ๊ดกลางอก รู้สึกเหมือนว่ามีของสำคัญหายไปจากชีวิต

……

ในเวลาเดียวกัน ในสำนักงานใหญ่ของตระกูลหลิวกลุ่มหงเซิง

คุณปู่หลิวหงชิงเรียกทุกคนเข้าไปในห้องเพื่อประชุม วันนี้เป็นวันที่สำคัญมาก กลุ่มหงเซิงและกลุ่มเฟิงซิงมีความร่วมมือในโครงการขนาดใหญ่ กลุ่มเฟิงซิงไม่ให้ตระกูลหลิวออกทุนสักบาท และสนับสนุนตระกูลหลิวอย่างเต็มที่ในการทำโครงการขนาดใหญ่นี้

หากตระกูลหลิวสามารถทำผลงานได้ดีในโครงการนี้ ต่อไปในเมืองชู่โจว นอกจากกลุ่มเฟิงซิงแล้วบริษัทของตระกูลเราก็จะกลายเป็นบริษัทอันดับสองของเมืองชู่โจวเลยทีเดียว

หลิวหงชิงกล่าวกับทุกคนอย่างตื่นเต้นว่า:"วันนี้เราจะเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการสำหรับโครงการนี้กับดวนเทียนซิงประธานกลุ่มเฟิงซิง ตระกูลหลิวของเราจะกลายเป็นตระกูลใหญ่ที่สุดในชู่โจวได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับวันนี้"

ทุกคนในตระกูลหลิวรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อคืน พวกเขาก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ

"ผมคิดอย่างรอบคอบแล้ว เราจะส่งรูหยานเป็นตัวแทนกลุ่มหงเซิงไปเซ็นสัญญากับคุณดวน แต่โครงการนี้สำคัญมาก ผมกังวลที่จะส่งรูหยานไปคนเดียว จือเฉินคุณไปกับรูหยาน จำไว้ห้ามให้มีอะไรผิดพลาดเป็นอันขาด!”

หลิวหงชิงมองไปที่หลิวจือเฉินอย่างจริงจัง

พ่อของหลิวจือเฉิน หลิวเฉิงเฟิง เป็นลูกชายคนโตของหลิวหงชิง ในตระกูลหลิวนอกเหนือจากปู่แล้ว ตอนนี้เขามีอำนาจมากที่สุด ครอบครัวของเขาอยู่ในตระกูลหลิวได้รับความเคารพจากทุกคน

หลิวเฉิงเฟิงไม่เข้าใจว่าพ่อทำแบบนี้ทำไหม พ่อต้องการให้หลิวจือเฉินได้พบกับดวนเทียนซิง หลิวจือเฉินมีความสามารถและทักษะการเข้าสังคม แผนการคือจะให้หลิวจือเฉินแทนที่หลิวรูหยาน เพื่อง่ายต่อการร่วมมือกับกลุ่มเฟิงซิงได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามหลิวรูหยานเป็นแค่ผู้หญิง

"ไอ้หนู ยังไม่ขอบคุณคุณปู่อีก คุณปู่จะให้เธอได้พบกับคุณดวนนะ"

หลิวเฉิงเฟิงรีบเตือนด้วยเสียงเบาๆ

หลังจากที่หลิวจือเฉินเข้าใจแล้ว ก็ดีใจมาก และพยักหน้าหลายครั้ง :"ใช่ ขอบคุณปู่ ผมสัญญาว่าจะทำงานให้เสร็จ ไม่ต้องห่วง ผมจะเอาสัญญากับมาให้เรียบร้อยเลยครับ!”

หลิวหงชิงยิ้มและพยักหน้าเพราะเขาเชื่อใจหลิวจือเฉินมาก ครอบครัวของหลิวจือเฉินทำผลงานได้ดีมาตลอด

"น้องสี ทำไมคุณไม่ได้เห็นคุณรูหยานเลย ตอนนี้เธอกล้ามากนะ เธอไม่ได้มาประชุมด้วยซ้ำ"

หลิวเซียมองดูพ่อของหลิวรูหยานหลิวเฟิง พูดแบบแปลกๆ

หลิวเฟิงห้อยหัวนั่งที่ด้านหลังของโต๊ะประชุมและพูดอย่างอึดอักว่า:"รูหยานและไอ้สวะเยว่เฟิงได้ไปทำเรื่องหย่าร้างกัน เดี๋ยวเธอก็กลับมาแล้ว ไม่ต้องห่วง วันสำคัญแบบนี้ เธอจะไม่มาสายแน่นอน”

ในใจของหลิวเฟิง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอึดอักแค่ไหน เขาเป็นลูกคนสุดท้องในตระกูล มีเพียงลูกสาว ทำให้สถานะในตระกูลหลิวของเขานั้้นเทียบไม่ได้แม้กระทั้งพี่สาวคนที่สามอย่างหลิวเซียด้วยซ้ำ

"พอแล้ว จือเฉินเธอไปรอรูหยานที่ประตู ทันทีที่เธอกลับมา พวกเธอรีบไปที่กลุ่มเฟิงซิงทันทีเพื่อพบกับคุณดวน"

หลิวหงชิงไม่ใยดีหลิงเฟิง และหักไปพูดกับหลิวจือเฟิง

......

บนถนน หลิวจือเฉินขับรถ หลิวรูหยานนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร ทันใดนั้นก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับความร่วมมือกับกลุ่มเฟิงซิงในครั้งนี้

เพราะยังไงนี้มันก็เป็นโครงการใหญ่ หลิวรูหยานเองก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่า โครงการใหญ่นี้สามารถทำเงินได้มากน้อยเพียงใด กลุ่มเฟิงซิงได้มอบโครงการนี้ให้กับพวกเขาโดยตรง และยังให้ทุนสนับสนุนพวกเขาด้วย มีข่าวลือมากมายว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลิวและกลุ่มเฟิงซิงไม่ธรรมดา และยังอาจมีความสัมพันธ์กับตระกูลเยว่ด้วย

ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งนี้จะมีกี่คนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของหลิวหงชิง?

"คุณกังวลอะไร ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณเซ็นสัญญากับกลุ่มเฟิงซิงซ่ะหน่อย และไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงโชคดีแบบนี้ ประธานของกลุ่มเฟิงซิงดูแลคุณแบบนี้"

หลิวจือเฉินขับรถและหัวเราะเยาะไปด้วย

"เจ้านายดวน มีจิตใจเมตตาใช่ไหม" หลิวรูหยานกัดริมฝีปากของเธอและบอกว่า "ด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มเฟิงซิงในครั้งนี้ครอบครัวหลิวของเราสามารถก้าวไปสู่อีกระดับ"

ไม่นานนักรถก็ขับไปถึงที่ประตูกลุ่มเฟิงซิง

หลิวรูหยานและหลิวจือเฉินจัดเสื้อผ้าหน้าผมของพวกเขา ราวกับว่าพวกเขาไปพบกับจักรพรรดิยังไงอย่างนั้น หายใจเข้าลึก ๆ และเดินขึ้นบันไดของบริษัท

เมื่อหลิวรูหยานทั้งสองคนใฝ่ฝันที่จะเซ็นสัญญาอย่างราบรื่น แม้ทั้งฝันว่าตระกูลหลิวกลายเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชู่โจว ก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไปในประตู เขาถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหยุดที่อยู่ประตู

"สวัสดีนค่ะฉันคือหลิวรูหยาน และพวกเป็นคนของตระกูลหลิว พวกเรามาที่นี่เพื่อเซ็นสัญญากับคุณดวนค่ะ"

หลิวรูหยานถึงกลับตกตะลึง และอธิบายให้ยามรักษาความปลอดภัยฟัง

เธอไม่ได้สังเกตว่า เครื่องแบบที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสวมใส่นั้นดูแปลก และได้เปลี่ยนจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดาเป็นหัวหน้ารักษาความปลอดภัย

"ตระกูลหลิว?" หัวหน้ารักษาความปลอดภัยหัวเราะเยาะหลังจากได้ยินคำว่า "โทษที เจ้านายดวนและคุณฮันมีคำสั่ง คนตระกูลหลิวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในอาคารบริษัท รวมถึงคุณด้วย คุณหลิวรูหยาน"

หลิวรูหยานรู้สึกสับสนทันทีเมื่อเธอได้ยินเรื่องนี้ หลิวจือเฉินจึงกล่าวว่า:

"พี่ชาย เข้าใจผิดอะไรรึเปล่า รูหยานของเราและคุณดวนของคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก และยังเคยทานอาหารด้วยกันถึงสองครั้งด้วย คุณรีบไปรายงานให้คุณดวนทราบด้วย"

หัวหน้ารักษาความปลอดภัยมองไปที่หลิวจือเฉินขึ้นและลงและถามว่า:"คุณเป็นคนในตระกูลหลิวด้วยหรือ คุณชื่ออะไร”

หลิวจือเฉินยิ้มอย่างสุภาพ และส่งนามบัตรของเขาอย่างรวดเร็ว แนะนำตัวเองหย่างสุดชีวิต:"ผมชื่อหลิวจือเฉิน ผมเป็นหลานชายของหลิวหงชิงและลูกชายของหลิวเฉิงเฟิง ตอนนี้ผมเป็นพี่ชายคนโตในตระกูลหลิว"

กัปตันรักษาความปลอดภัยหยิบนามบัตร แล้วเหลือบมองไปที่หลิวจือเฉินด้วยรอยยิ้ม

เขาหัวเราะออกมา และหยิบวอขึ้นมา ประกาศกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนว่า:"ทุกคนฟังทางนี้ ขอให้ทุกคนมาร่วมตัวที่ผมนี้! หลิวจือเฉินมาแล้ว!"

เมื่อหลิวจือเฉินเห็นเช่นนี้ เขาก็รู้สึกสับสน เขาเป็นเพียงลูกของตระกูลหลิว ไม่ใช่หลิวหงชิงซ่ะหน่อย เขาไม่จำเป็นต้องตอบรับยิ่งใหญ่แบบนี้ก็ได้มั่ง?

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

545