บทที่ 5 ตระกูลหลิวใกล้สิ้น
by ต้าเต่าสามพัน
14:46,Dec 07,2020
"เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!"
"เป็นไปไม่ได้ที่กลุ่มเฟิงซิงจะยุติความสัมพันธ์และความร่วมมือกับเรา!"
หลังจากได้ยินสิ่งที่หลิวจือเฉินพูด หลิวหงชิงราวกับถูกไฟช็อตไปชุดใหญ่ เขาหยิบไม้เท้าขึ้นจากพื้น แล้วทุบไปหลายครั้ง แล้วกล่าวออกไปอย่างตัวสั่น
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่ทุกคนในตระกูลหลิวก็รับไม่ได้กับเรื่องร้ายที่ถาโถมเข้ามาในครั้งนี้
ถ้ากลุ่มเฟิงซิงไม่ร่วมมือกับพวกเขา ครอบครัวในตระกูลหลิวของพวกเขาทุกคน คงต้องล้มลงไปถึงจุดต่ำสุดใช่หรือไม่? หากปราศจากการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากกลุ่มเฟิงซิง ตระกูลหลิวของพวกเขา จะเหลืออะไร?
"คุณปู่ มันเป็นเรื่องจริง" ในตอนนี้ หลิวรูหยานยอมอดทนจากความคับแค้นหลังจากถูกจงหงทำให้อับอาย และกล่าวกับทุกคนว่า: "แม้แต่ฉันยังเข้าไปในอาคารกลุ่มเฟิงซิงไม่ได้ ฉันโทรหาคุณดวน แต่เขาบล็อกเบอร์มือถือของฉันแล้ว”
"พนักงานที่นั้นพูดออกมาจากปากเขาเองว่า กลุ่มเฟิงซิงต้องการยุติความสัมพันธ์และร่วมมือทั้งหมดกับตระกูลหลิวของเรา"
หลังจากได้ยินคำยืนยันอีกครั้ง หลิวหงชิงปวดร้าวยิ่งหนัก เขาก้าวไปหลายเก้า เกือบล้มลง
"พ่อ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ สุขภาพสำคัญกว่า!" หลิวเฉิงเฟิงรีบลุกขึ้นมาประคองตัวปู่ และกล่าวว่า: "ต้องมีความเข้าใจผิดในเรื่องนี้เป็นแน่แท้ กลุ่มเฟิงซิงไม่มีทางจะยุติความสัมพันธ์และร่วมมือกับเราโดยไม่มีเหตุผลแน่ "
"เมื่อสองวันก่อน คุณดวนบอกว่าจะเซ็นสัญญากับเราสำหรับโครงการนี้ ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในสองสามวันนี้แน่ เลยทำให้คุณดวนเข้าใจผิดตระกูลหลิวของเรา ผมคิดว่า ถ้าเราไปอธิบายให้รู้เรื่อง คุณดวนคงไม่ใจร้ายกับเราขนาดนั้นแน่นอน”
ต้องพูดว่า หลิวเฉิงเฟิงนี้เป็นคนที่ตั้งสติได้ดีมาก เพียงครู่เดียวเขาก็มองเห็นปัญหาในเรื่องนี้ทันที
"ใช่ๆ ต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ๆ พ่อ ใจเย็นก่อน พวกเราร่วมมือกับกลุ่มเฟิงซิงมาสองปีแล้ว พวกเขาคงไม่ยกเลิกทุกอย่างกับเราแบบไม่ใยดีแน่"
"ใช่แล้ว ตอนนี้ตระกูลหลิวของเราก็เป็นตระกูลต้นๆในเมืองชู่โจว แม้ว่าเราจะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเฟิงซิง แต่เราก็มีความมั่งคงและยิ่งใหญ๋ด้วยตัวเองและมีชื่อเสียง ไม่มีทางที่กลุ่มเฟิงซิงจะไม่ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียและยกเลิกทุกอย่างกับเราง่ายๆแบบนี้แน่”
ตอนนี้คนอื่นๆก็ตั้งสติได้แล้ว และกล่าวออกมา
ได้ยินเช่นนี้แล้ว หลิวรูหยานถึงกับอดขำไม่ได้ คนพวกนี้คิดว่าตัวเองนี้ดีเลิศวิเศษแค่ไหน กลุ่มเฟิงซิงเขาได้ให้ความช่วยเหลือและสร้างทรัพย์สินกับความสามารถของตระกูลหลิวขึ้นมากับมือ คิดว่าเขาจะสนใจตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลหลิวงั้นหรือ
กล่าวอีกอย่างว่า ถึงตระกูลหลิวจะเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชูโจวแล้วยังไง ต่อหน้ากลุ่มเฟิงซิงแม้แต่ตดยังไม่ใช่เลย กลุ่มเฟิงซิงเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในหลายๆเมืองรอบๆนี้ และยังมีความสัมพันธ์กับตระกูลเยว่ซึ่งเป็นสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหัวอีกด้วย
ถึงกับมีคนลือกันว่า กลุ่มเฟิงซิงเป็นบริษัทลูกของตระกูลเยว่
ตระกูลเยว่นั้นร่ำรวยเท่ากับประเทศหนึ่งเลย แค่ตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลหลิว นับประสาอะไร?
ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย!
"มีเหตุผล มีเหตุผล พี่ใหญ่ยังไงก็ยังฉลาดที่สุด !” หลังจากที่หลิวหงชิงตั้งสติได้ เขาก็ตบไหล่หลิวเฉิงเฟิงและกล่าวด้วยความชื่นชม
ในเวลานี้ จงหงรู้สึกไม่พอใจ ตัวเธอนั้นรักลูกชายของเธอเป็นอย่างมาก ตอนนี้หลิวจือเฉินถูกทำร้ายขนาดนี้ คนเพวกนี้ยังเอาแต่พูดเรื่องความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัท เธอที่เป็นแม่ รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจเป็นอย่างมาก
"เดี๋ยวก่อนนะ เรื่องที่จื่อเฉินโดนทำร้ายจะให้จบแค่นี้หรือ?”
"จือเฉินของเราไม่ควรโดนทำร้ายฟรีๆแบบนี้นะ!"
เสียงฉุนเฉียวที่ไม่พอใจของจงหงดังขึ้นภายในห้อง ทันใดนั้นเสียงในห้องทั้งหมดก็โดนคำพูดของเธอทำให้เงียบลงทันที
เมื่อหลิวหงชิง ด้ยินคำนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่เธอ จงหงรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันที
หลิวเฉิงเฟิงเห็นว่าแววตาของผู้เฒ่าเปลี่ยนไป เขายกมือและตบไปที่หน้าของจงหงที่หนึ่ง แล้วดุด่าว่า:
"คุณรู้เชี่ยไร!”
"คุณต้องการอะไร จะไปหากลุ่มเฟิงซิงแล้วแก้แค้นหรือ? เขาจะเอาเถ้ากระดูกของคุณไปลอยอังคารแทน คุณยังคิดจะแก้แค้น!"
จงหงถูกที่รักของเธอตบไปหนึ่งที่ เธอโกรธจนดวงตาแดงก่ำ
แต่เมื่อได้เห็นแววตาของหลิวหงชิงแล้ว เธอก็ไม่กล้าที่จะโต้แย้งต่อไป เขาหันหลังแล้วเดินจากไปห้องพักคนไข้พร้อมเสียง 'ต๊อกๆๆ’จากร้องเท้าส้นสูงที่เธอใส่อยู่
หลิวรูหยานรู้สึกสะใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนตบด้วยตัวเอง แต่เธอก็รู้สึกได้ระบายอารมณ์ไม่น้อย ในตระกูลหลิว ผู้เดียวที่สามารถเอาจงหงได้อยู่หมัดนอกจากหลิวหงชิงแล้ว มีแต่หลิวเฉิงเฟิงสามีของเธอเท่านั้น
"จื่อเฉิน ลำบากเธอแล้ว แต่ครั้งนี้เพื่อครอบครัวของเรา ขอให้อดกลั่นความโกรธนี้ไว้นะ"
หลิวหงชิงเดินมาหาหลิวจือเฉิน และพูดกับเขาอย่างจริงจัง
"ไม่ต้องกังวลคุณปู่ ผมไม่มีทางไม่เข้าใจการใหญ่ของเรา ตราบใดที่ยังสามารถร่วมมือกับกลุ่มเฟิง ต่อให้ผมถูกรุมทำร้ายยังไงก็ไม่เป็นไรครับ"
หลิวจือเฉิน สมกับเป็นลูกของพี่ใหญ่ในบ้าน รู้จักพลิกแพลงสถานการณ์ปัจจุบัน และรู้จักมองสีหน้าของผู้ใหญ่
ยอมเสียสละตัวเองเพื่อส่วนรวมแบบนี้ เขาชนะใจและได้รับความชื่นชมจากทุกคน
"มีแต่จือเฉินที่คิดแทนทุกคน ไม่เหมือนใครบางคน ทำผลประโยชน์ให้แต่บริษัทตัวเอง ไม่เคยจะนึกถึงผู้อาวุโสอย่างพวกเราเลย"
หลิวเซี่ยลูกคนที่สามพูดลอยๆ
ที่เธอพูดว่าใครบางนั้น ไม่ต้องพูดชื่อทุกคนก็มองไปที่ตัวของหลิวรูหยานสองปีที่ผ่านมามีแต่หลิวรูหยานได้เซ็นสัญญาและทำข้อตกลงกับดวนเทียนซิง บริษัทลูกของตระกูลหลิวแทบทุกครั้งบริษัทของหลิวรูหยานได้รับประโยชน์มากที่สุด
ทุกๆครั้ง ดวนเทียนซิงจะส่งคนไปให้เงินทุนและทรัพยากรต่างๆกับหลิวรูหยานเป็นการส่วนตัว
นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ เห็นได้ชัดว่าเมื่อหลิวรูหยานทำข้อตกลงกับดวนเทียนซิง เธอใช้ความเป็นเพื่อนกับดวนเทียนซิง เพื่อแสวงหาผลประโยชน์อย่างอื่นให้กับตัวเธอเอง
หลิวรูหยาน ก้มศีรษะลงกัดริมฝีปาก เธอจะแก้ตัวยังไงก็ไม่ได้แล้ว เธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ทุกครั้งที่เธอทำข้อตกลง เขาไปในนามของตระกูลหลิว เขาไม่เคยไปในนามของตัวเองเลย
นอกจากนี้ดวนเทียนซิงก็ยังใจกว้างมาก เพียงแค่หลิวรูหยานร้องขออะไรก็ตาม ดวนเทียนซิงก็ไม่เคยพูดคำว่าไม่ แม้กระทั้งไม่เคยมีแต่จะตั้งคำถามหรือสงสัยเลย แบบนี้ หลิวรูหยาน ก็ไม่เคยเข้าใจว่าทำไม
"เอาล่ะ ทุกคนลองนึกดู ว่าสองสามวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำให้ดวนเทียนซิงเข้าใจผิดในตระกูลหลิวของเรา"
"ลองนึกดูดีๆ แล้วจะได้ไปอธิบายกับเขาได้ง่ายๆ ครั้งนี้ ฉันจะไปด้วยตัวเอง จะพาทุกคนไปด้วย ไม่ว่าเราทำผิดหรือไม่ เราต้องยอมรับผิดกับคุณดวน ห้ามให้เขายกเลิกสัญญากับเราอย่างเด็ดขาด”
หลิวหงชิงคิดอยู่นาน ก่อนที่จะพูดกับทุกคนอย่างเคร่งขรึม
ในขณะนี้ทุกคนสงบลง และนึกคิดว่าสองสามวันนี้บริษัททำผิดพลาดอะไรตรงไหนยังไง หลิวรูหยานเองก็กำลังนึกคิดด้วย
แต่หลังจากคิดอยู่นาน ก็ไม่มีใครได้ข้อสรุป
มีแต่หลิวรูหยาน เขานึกถึงคำพูดของเยว่เฟิง ตอนที่เธอและเยว่เฟิงเพิ่งเสร็จสิ้นขั้นตอนการหย่าร้างและเยว่เฟิงพูดว่า:
"ผม เยว่เฟิงเห็นแก่หน้าของยาย จะไม่ขอกำจัดตระกูลหลิวให้สิ้นซาก ค่อยเตือนตัวเองเถอะ"
ในเวลานั้น หลิวรูหยานคิดว่าเยว่เฟิงแค่โมโหแล้วขู่เธอเท่านั้น
ในเวลานี้ หลิวรูหยานรู้สึกแปลกๆ ทำไมเยว่เฟิงเพิ่งพูดตอนเช้า กลุ่มเฟิงซิงก็เลิกกับพวกเขาในตอนบ่าย?
"ไม่ เป็นไปไม่ได้ ไม่ได้เกี่ยวกับเขาอย่างแน่นอน เขามันแค่เศษสวะเท่านั้น เขากินของเรา นอนที่บ้านเรา... "
"เขาไม่มีปัญญาทำอะไรแบบนี้แน่นอน ... "
หลิวรูหยาน เหงื่อแตกออกมา เขาไม่ยอมเชื่อความเป็นไปได้ในเรื่องนี้
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อ แต่เยว่เฟิง เขาไม่สามารถจะมาสั่งกลุ่มเฟิงซิงได้แน่นอน เขาเป็นใคร มีความพิเศษอะไร?
ในเวลาเดียวกัน จู่ๆ หลิวหงชิง ก็จำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในงานเลี้ยงวันเกิดของเขาเมื่อวานนี้
ถ้าจะพูดว่าสองสามวันนี้มีเรื่องใหญ่อะไร ก็คงมีแต่เรื่องนี้เท่านั้น
เยว่เฟิง!
"เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นมันแน่!"
ใบหน้าของหลิวหงชิงถึงกับถอดสี คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน และพูดออกมาอย่างตกใจ
หลังจากได้ยินดังนั้น ทุกคนก็รีบถามคุณปู่ว่าเขาเป็นใคร
หลิวหงชิง มองไปที่ทุกคน แล้วรู้สึกชาไปทั้งหัว:
"เป็นไปได้ไหม ... เพราะเยว่เฟิง ... "
"เป็นไปไม่ได้ที่กลุ่มเฟิงซิงจะยุติความสัมพันธ์และความร่วมมือกับเรา!"
หลังจากได้ยินสิ่งที่หลิวจือเฉินพูด หลิวหงชิงราวกับถูกไฟช็อตไปชุดใหญ่ เขาหยิบไม้เท้าขึ้นจากพื้น แล้วทุบไปหลายครั้ง แล้วกล่าวออกไปอย่างตัวสั่น
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่ทุกคนในตระกูลหลิวก็รับไม่ได้กับเรื่องร้ายที่ถาโถมเข้ามาในครั้งนี้
ถ้ากลุ่มเฟิงซิงไม่ร่วมมือกับพวกเขา ครอบครัวในตระกูลหลิวของพวกเขาทุกคน คงต้องล้มลงไปถึงจุดต่ำสุดใช่หรือไม่? หากปราศจากการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากกลุ่มเฟิงซิง ตระกูลหลิวของพวกเขา จะเหลืออะไร?
"คุณปู่ มันเป็นเรื่องจริง" ในตอนนี้ หลิวรูหยานยอมอดทนจากความคับแค้นหลังจากถูกจงหงทำให้อับอาย และกล่าวกับทุกคนว่า: "แม้แต่ฉันยังเข้าไปในอาคารกลุ่มเฟิงซิงไม่ได้ ฉันโทรหาคุณดวน แต่เขาบล็อกเบอร์มือถือของฉันแล้ว”
"พนักงานที่นั้นพูดออกมาจากปากเขาเองว่า กลุ่มเฟิงซิงต้องการยุติความสัมพันธ์และร่วมมือทั้งหมดกับตระกูลหลิวของเรา"
หลังจากได้ยินคำยืนยันอีกครั้ง หลิวหงชิงปวดร้าวยิ่งหนัก เขาก้าวไปหลายเก้า เกือบล้มลง
"พ่อ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ สุขภาพสำคัญกว่า!" หลิวเฉิงเฟิงรีบลุกขึ้นมาประคองตัวปู่ และกล่าวว่า: "ต้องมีความเข้าใจผิดในเรื่องนี้เป็นแน่แท้ กลุ่มเฟิงซิงไม่มีทางจะยุติความสัมพันธ์และร่วมมือกับเราโดยไม่มีเหตุผลแน่ "
"เมื่อสองวันก่อน คุณดวนบอกว่าจะเซ็นสัญญากับเราสำหรับโครงการนี้ ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในสองสามวันนี้แน่ เลยทำให้คุณดวนเข้าใจผิดตระกูลหลิวของเรา ผมคิดว่า ถ้าเราไปอธิบายให้รู้เรื่อง คุณดวนคงไม่ใจร้ายกับเราขนาดนั้นแน่นอน”
ต้องพูดว่า หลิวเฉิงเฟิงนี้เป็นคนที่ตั้งสติได้ดีมาก เพียงครู่เดียวเขาก็มองเห็นปัญหาในเรื่องนี้ทันที
"ใช่ๆ ต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ๆ พ่อ ใจเย็นก่อน พวกเราร่วมมือกับกลุ่มเฟิงซิงมาสองปีแล้ว พวกเขาคงไม่ยกเลิกทุกอย่างกับเราแบบไม่ใยดีแน่"
"ใช่แล้ว ตอนนี้ตระกูลหลิวของเราก็เป็นตระกูลต้นๆในเมืองชู่โจว แม้ว่าเราจะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเฟิงซิง แต่เราก็มีความมั่งคงและยิ่งใหญ๋ด้วยตัวเองและมีชื่อเสียง ไม่มีทางที่กลุ่มเฟิงซิงจะไม่ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียและยกเลิกทุกอย่างกับเราง่ายๆแบบนี้แน่”
ตอนนี้คนอื่นๆก็ตั้งสติได้แล้ว และกล่าวออกมา
ได้ยินเช่นนี้แล้ว หลิวรูหยานถึงกับอดขำไม่ได้ คนพวกนี้คิดว่าตัวเองนี้ดีเลิศวิเศษแค่ไหน กลุ่มเฟิงซิงเขาได้ให้ความช่วยเหลือและสร้างทรัพย์สินกับความสามารถของตระกูลหลิวขึ้นมากับมือ คิดว่าเขาจะสนใจตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลหลิวงั้นหรือ
กล่าวอีกอย่างว่า ถึงตระกูลหลิวจะเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชูโจวแล้วยังไง ต่อหน้ากลุ่มเฟิงซิงแม้แต่ตดยังไม่ใช่เลย กลุ่มเฟิงซิงเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในหลายๆเมืองรอบๆนี้ และยังมีความสัมพันธ์กับตระกูลเยว่ซึ่งเป็นสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหัวอีกด้วย
ถึงกับมีคนลือกันว่า กลุ่มเฟิงซิงเป็นบริษัทลูกของตระกูลเยว่
ตระกูลเยว่นั้นร่ำรวยเท่ากับประเทศหนึ่งเลย แค่ตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลหลิว นับประสาอะไร?
ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย!
"มีเหตุผล มีเหตุผล พี่ใหญ่ยังไงก็ยังฉลาดที่สุด !” หลังจากที่หลิวหงชิงตั้งสติได้ เขาก็ตบไหล่หลิวเฉิงเฟิงและกล่าวด้วยความชื่นชม
ในเวลานี้ จงหงรู้สึกไม่พอใจ ตัวเธอนั้นรักลูกชายของเธอเป็นอย่างมาก ตอนนี้หลิวจือเฉินถูกทำร้ายขนาดนี้ คนเพวกนี้ยังเอาแต่พูดเรื่องความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัท เธอที่เป็นแม่ รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจเป็นอย่างมาก
"เดี๋ยวก่อนนะ เรื่องที่จื่อเฉินโดนทำร้ายจะให้จบแค่นี้หรือ?”
"จือเฉินของเราไม่ควรโดนทำร้ายฟรีๆแบบนี้นะ!"
เสียงฉุนเฉียวที่ไม่พอใจของจงหงดังขึ้นภายในห้อง ทันใดนั้นเสียงในห้องทั้งหมดก็โดนคำพูดของเธอทำให้เงียบลงทันที
เมื่อหลิวหงชิง ด้ยินคำนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่เธอ จงหงรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันที
หลิวเฉิงเฟิงเห็นว่าแววตาของผู้เฒ่าเปลี่ยนไป เขายกมือและตบไปที่หน้าของจงหงที่หนึ่ง แล้วดุด่าว่า:
"คุณรู้เชี่ยไร!”
"คุณต้องการอะไร จะไปหากลุ่มเฟิงซิงแล้วแก้แค้นหรือ? เขาจะเอาเถ้ากระดูกของคุณไปลอยอังคารแทน คุณยังคิดจะแก้แค้น!"
จงหงถูกที่รักของเธอตบไปหนึ่งที่ เธอโกรธจนดวงตาแดงก่ำ
แต่เมื่อได้เห็นแววตาของหลิวหงชิงแล้ว เธอก็ไม่กล้าที่จะโต้แย้งต่อไป เขาหันหลังแล้วเดินจากไปห้องพักคนไข้พร้อมเสียง 'ต๊อกๆๆ’จากร้องเท้าส้นสูงที่เธอใส่อยู่
หลิวรูหยานรู้สึกสะใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนตบด้วยตัวเอง แต่เธอก็รู้สึกได้ระบายอารมณ์ไม่น้อย ในตระกูลหลิว ผู้เดียวที่สามารถเอาจงหงได้อยู่หมัดนอกจากหลิวหงชิงแล้ว มีแต่หลิวเฉิงเฟิงสามีของเธอเท่านั้น
"จื่อเฉิน ลำบากเธอแล้ว แต่ครั้งนี้เพื่อครอบครัวของเรา ขอให้อดกลั่นความโกรธนี้ไว้นะ"
หลิวหงชิงเดินมาหาหลิวจือเฉิน และพูดกับเขาอย่างจริงจัง
"ไม่ต้องกังวลคุณปู่ ผมไม่มีทางไม่เข้าใจการใหญ่ของเรา ตราบใดที่ยังสามารถร่วมมือกับกลุ่มเฟิง ต่อให้ผมถูกรุมทำร้ายยังไงก็ไม่เป็นไรครับ"
หลิวจือเฉิน สมกับเป็นลูกของพี่ใหญ่ในบ้าน รู้จักพลิกแพลงสถานการณ์ปัจจุบัน และรู้จักมองสีหน้าของผู้ใหญ่
ยอมเสียสละตัวเองเพื่อส่วนรวมแบบนี้ เขาชนะใจและได้รับความชื่นชมจากทุกคน
"มีแต่จือเฉินที่คิดแทนทุกคน ไม่เหมือนใครบางคน ทำผลประโยชน์ให้แต่บริษัทตัวเอง ไม่เคยจะนึกถึงผู้อาวุโสอย่างพวกเราเลย"
หลิวเซี่ยลูกคนที่สามพูดลอยๆ
ที่เธอพูดว่าใครบางนั้น ไม่ต้องพูดชื่อทุกคนก็มองไปที่ตัวของหลิวรูหยานสองปีที่ผ่านมามีแต่หลิวรูหยานได้เซ็นสัญญาและทำข้อตกลงกับดวนเทียนซิง บริษัทลูกของตระกูลหลิวแทบทุกครั้งบริษัทของหลิวรูหยานได้รับประโยชน์มากที่สุด
ทุกๆครั้ง ดวนเทียนซิงจะส่งคนไปให้เงินทุนและทรัพยากรต่างๆกับหลิวรูหยานเป็นการส่วนตัว
นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ เห็นได้ชัดว่าเมื่อหลิวรูหยานทำข้อตกลงกับดวนเทียนซิง เธอใช้ความเป็นเพื่อนกับดวนเทียนซิง เพื่อแสวงหาผลประโยชน์อย่างอื่นให้กับตัวเธอเอง
หลิวรูหยาน ก้มศีรษะลงกัดริมฝีปาก เธอจะแก้ตัวยังไงก็ไม่ได้แล้ว เธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ทุกครั้งที่เธอทำข้อตกลง เขาไปในนามของตระกูลหลิว เขาไม่เคยไปในนามของตัวเองเลย
นอกจากนี้ดวนเทียนซิงก็ยังใจกว้างมาก เพียงแค่หลิวรูหยานร้องขออะไรก็ตาม ดวนเทียนซิงก็ไม่เคยพูดคำว่าไม่ แม้กระทั้งไม่เคยมีแต่จะตั้งคำถามหรือสงสัยเลย แบบนี้ หลิวรูหยาน ก็ไม่เคยเข้าใจว่าทำไม
"เอาล่ะ ทุกคนลองนึกดู ว่าสองสามวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำให้ดวนเทียนซิงเข้าใจผิดในตระกูลหลิวของเรา"
"ลองนึกดูดีๆ แล้วจะได้ไปอธิบายกับเขาได้ง่ายๆ ครั้งนี้ ฉันจะไปด้วยตัวเอง จะพาทุกคนไปด้วย ไม่ว่าเราทำผิดหรือไม่ เราต้องยอมรับผิดกับคุณดวน ห้ามให้เขายกเลิกสัญญากับเราอย่างเด็ดขาด”
หลิวหงชิงคิดอยู่นาน ก่อนที่จะพูดกับทุกคนอย่างเคร่งขรึม
ในขณะนี้ทุกคนสงบลง และนึกคิดว่าสองสามวันนี้บริษัททำผิดพลาดอะไรตรงไหนยังไง หลิวรูหยานเองก็กำลังนึกคิดด้วย
แต่หลังจากคิดอยู่นาน ก็ไม่มีใครได้ข้อสรุป
มีแต่หลิวรูหยาน เขานึกถึงคำพูดของเยว่เฟิง ตอนที่เธอและเยว่เฟิงเพิ่งเสร็จสิ้นขั้นตอนการหย่าร้างและเยว่เฟิงพูดว่า:
"ผม เยว่เฟิงเห็นแก่หน้าของยาย จะไม่ขอกำจัดตระกูลหลิวให้สิ้นซาก ค่อยเตือนตัวเองเถอะ"
ในเวลานั้น หลิวรูหยานคิดว่าเยว่เฟิงแค่โมโหแล้วขู่เธอเท่านั้น
ในเวลานี้ หลิวรูหยานรู้สึกแปลกๆ ทำไมเยว่เฟิงเพิ่งพูดตอนเช้า กลุ่มเฟิงซิงก็เลิกกับพวกเขาในตอนบ่าย?
"ไม่ เป็นไปไม่ได้ ไม่ได้เกี่ยวกับเขาอย่างแน่นอน เขามันแค่เศษสวะเท่านั้น เขากินของเรา นอนที่บ้านเรา... "
"เขาไม่มีปัญญาทำอะไรแบบนี้แน่นอน ... "
หลิวรูหยาน เหงื่อแตกออกมา เขาไม่ยอมเชื่อความเป็นไปได้ในเรื่องนี้
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อ แต่เยว่เฟิง เขาไม่สามารถจะมาสั่งกลุ่มเฟิงซิงได้แน่นอน เขาเป็นใคร มีความพิเศษอะไร?
ในเวลาเดียวกัน จู่ๆ หลิวหงชิง ก็จำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในงานเลี้ยงวันเกิดของเขาเมื่อวานนี้
ถ้าจะพูดว่าสองสามวันนี้มีเรื่องใหญ่อะไร ก็คงมีแต่เรื่องนี้เท่านั้น
เยว่เฟิง!
"เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นมันแน่!"
ใบหน้าของหลิวหงชิงถึงกับถอดสี คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน และพูดออกมาอย่างตกใจ
หลังจากได้ยินดังนั้น ทุกคนก็รีบถามคุณปู่ว่าเขาเป็นใคร
หลิวหงชิง มองไปที่ทุกคน แล้วรู้สึกชาไปทั้งหัว:
"เป็นไปได้ไหม ... เพราะเยว่เฟิง ... "
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved