บทที่ 6 ฮันเสี่ยวชิสารภาพ

ณ สำนักงานใหญ่ของ กลุ่มเฟิงซิงในตึกที่สูงที่สุด

อาคารนี้ทั้งหมดมี 36 ชั้น ห้องทำงานของประธานบริษัทอยู่ที่ชั้น 35 ซึ่งเป็นห้องทำงานของดวนเทียนซิง

คนที่มีตำแหน่งสูงก็ควรยืนอยู่บนจุดที่สูงเช่นกัน เพื่อมองทุกคนจากมองสูง แต่ไม่มีใครรู้ว่าชั้นที่สามสิบหกมีไว้ทำอะไร และไม่เคยมีใครขึ้นไปที่นั่น  เนื่องจากดวนเทียนซิงส่งห้ามอย่างชัดเจน นอกจากเขาและฮันเสี่ยวซิไม่มีใครสามารถขึ้นไปชั้น 36 ได้โดยพลการได้

เนื่องจากชั้นบนสุดเป็นห้องทำงานของพี่ใหญ๋เของเขา เยว่เฟิง และยังเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนและอ่านหนังสือ ห้ามใครขึ้นไปรบกวนเยว่เฟิงเด็ดขาด

แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่แท้จริงของกลุ่มเฟิงซิงว่าเป็น เยว่เฟิง ดวนเทียนซิงถือหุ้นในกลุ่มเฟิ่งซิง 40% ในจำนวน 40%นั้น มีถึง30% ที่เยว่เฟิงมอบให้เขา

ดังนั้น ดวนเทียนซิงจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเยว่เฟิงดูแลกลุ่มบริษัทนี้ กล่าวได้ว่าเยว่เฟิงและ
ดวนเทียนซิงสร้างกลุ่มเฟิงซิงขึ้นมากับมือร่วมกัน กลุ่มเฟิงซิงก็ได้สร้างดวนเทียนซิงขึ้นมาด้วย  ใครจะไม่รู้ว่า ดวนเทียนซิงประธานกลุ่มเฟิงซิง เป็นผู้ประกอบการที่อายุน้อยที่สุดหลายๆเมืองในย่านนี้

"เยว่เฟิง คุณยอดเยี่ยมมาก คุณบอกว่าหลิวจื่อเฉินจะมาพร้อมกับหลิวรูหยาน และเขามาจริงๆด้วยเมื่อวานนี้"

"ผมทำตามที่คุณสั่งแล้ว ให้ยามที่เฝ้าอยู่ข้างล่างจัดการมันไปทีหนึ่ง ไอ้เด็กคนนั้นโดนสั่งสอนไปชุดใหญ่"

วันนี้ฮันเสี่ยวชิสวมเสื้อเชิ้ตผู้หญิงสีขาว และกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำ ขาที่ยาวและเรียวของเธอทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าหลงใหล  เธอถือถาดผลไม้ที่หั่นแล้ว ป้อนให้เยว่เฟิงทีละชิ้น

เยว่เฟิงวางหนังสือเรื่องสามก๊กที่เขาเคยดูหลายครั้งแล้ว และพูดเบา ๆ :

"ผมอยู่กับตระกูลหลิวมาสองปีแล้ว และผมก็รู้ว่าสันดานของพวกเขาแต่ละคนมันเป็นยังไง”

"ครั้งนี้โครงการไม่เล็ก หลิวหงชิงต้องใช้โอกาสนี้เพื่อให้หลิวจือเฉินมาแทนรูหยานในการติดต่อกับเทียนซิง ดังนั้นครั้งนี้หลิวจือเฉินเลยตามมา  หากในสองปีที่ผ่านมาไม่ใช่เพราะรูหยานและเทียนซิงรักษาความสัมพันธ์และร่วมมือกัน  สถานการณ์ครอบครัวตระกูลหลิวของเธอนั้น คงลำบากกว่านี้อย่างแน่นอน”

เมื่อฮันเสี่ยวซิได้ยินเยว่เฟิงพูดถึงหลิวรูหยาน น้ำเสียงยังรู้สึกดีกับเธอ เขาขมวดคิ้วทันที:

"คุณยังหลิวรูหยานและครอบครัวของเขาหรือ? พวกเขาปฏิบัติต่อคุณแบบนี้ ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปแม้แต่คนเดียว"

เยว่เฟิง ยืนขึ้นและเดินไปที่ขอบหน้าต่าง มองเห็นลงไปยังทิวทัศน์ของเมืองชูโจว แล้วถอนหายใจ:

"พ่อตาและแม่ยายของผม ผมไม่เป็นห่วงพวกเขาเลย ถ้าพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ของหลิวรูหยาน พวกเขาก็จะเหมือนกับหลิวจือเฉินในตอนนี้"

"ผมแค่เป็นห่วง รูหยาน ... เธอไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ  เธอเป็นใสซื่อบริสุทธิ์และมีนิสัยอ่อนแอ เธอมักจะถูกรังแกในครอบครัวหลิว และไม่ต่อต้าน พ่อแม่ของเธอก็ยิ่งไร้ประโยชน์ ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย"

คิ้วของฮันเซียวชิวขมวดลึกขึ้นเรื่อย ๆ เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่หลังสูงของเยว่เฟิงและพูดว่า:

"แต่เธอทําต่อคุณเป็นแบบนี้ นับประสาอะไรกับพ่อแม่ของเธอ แม้แต่ฉันก็รักเห็นใจคุณ"

"เธอไร้ซึ่งน้ำใจ ทำไมคุณต้องแคร์เธอด้วย"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยว่เฟิงก็ส่ายหัวและหัวเราะ

"ใช่ ทำไมผมต้องแคร์เธอด้วย" เขาถอนหายใจ: "ก็แค่ครั้งนี้เท่านั้น ต่อไปนี้ฉันกับเขาขาดจากกัน เราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันอีกต่อไป แต่ในฐานะอดีตสามีภรรยา ผมจะช่วยเธอเป็นครั้งสุดท้าย”

"ผมได้ยกเลิกความร่วมมือทั้งหมดกับตระกูลหลิวแล้ว เหลือเพียงบริษัทของเธอเท่านั้นที่ยังไม่ยกเลิก
ต่อจากนี้ไป เธอจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตของตระกูลหลิว ผมหวังว่าเธอจะได้รับความเคารพจากทุกคนในตระกูลหลิวในอนาคต"

"สำหรับอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมอีกต่อไป"

เมื่อได้ยินคำพูดของเยว่เฟิง ฮันเสี่ยวซิก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป เธอรู้ว่าเยว่เฟิงเป็นคนที่หนักแน่นเรื่องน้ำใจและไมตรี

"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ให้ฉันรักษารอยแผลเป็นในใจของคุณ ได้ไหม?" ฮันเซียวซิงเดินมาใกล้หลังของเยว่เฟิง เหยียดแขนของเธอออกและกอดเขาแน่นๆจากด้านหลัง รู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของชายตรงหน้า

"คุณก็รู้ว่า ฉันรักคุณมานานแล้ว เมื่อเทียบกับหลิวรูหยานผู้หญิงที่ไร้น้ำใจแบบนั้น ฉันสามารถตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ทั้งหมดของคุณ ร่วมถึง ... ความต้องการทางร่างกาย" มิเสียทีที่ฮันเสี่ยวซิเป็นผู้หญิงที่ถูกตามจีบโดยลูกหลานคนร่ำรวยหลายคนในเมืองจิงตู เกิดมาเพื่อมาพร้อมและมีเสน่ ร่างกายทุกส่วนของเธอนั้นมีแต่กลิ่นไอของความเป็นผู้หญิง

"หยุดเดี๋ยวนี้นะ" เยว่เฟิงยืนอยู่ข้างหน้าต่าง และไม่รู้สีกหวั่นไหวเลยสักนิด และขมวดคิ้วเล็กน้อย

"หัวใจของคุณไม่ได้รู้สึกอะไรเลยหรือ" ดวงตาของฮันเซียวซิงน้ำตาคลอ หัวใจของเธอก็ร้อนรุ่ม: "บางครั้งฉันก็สงสัยจริงๆว่าคุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า ทำไมฉันทุ่มเทให้คุณขนาดนี้ แต่คุณกลับปฎิเสธฉัน"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยว่เฟิงก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า:

"ตอนนี้ผมเพิ่งยุติความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่ง หันกับมาผมก็ไปคบกับผู้หญิงอีกคน"

"คุณกล้าคบผู้ชายแบบนี้หรือ? คุณไม่กลัวว่าถ้าผมหันกลับไป ยังไปมีคนใหม่อีกคน หรือแม้แต่ไปคบกับผู้หญิงอีกนับไม่ถ้วน?

ฮันเซี่ยวซิงยืนอยู่ตรงหน้าเยว่เฟิง ดวงตาใสๆคู่นั้นเห็นเขาด้วยน้ำตาน้ำตาคลอเบ้า

"ฉันในมั่นใจมากว่าฉันจะทำให้คุณตกหลุมรักฉันแน่ๆ เพียงแค่คุณกล้า มีหรือที่ฉันจะไม่กล้า”

เยว่เฟิงส่ายหัว สีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แล้วพูดว่า:

"ลืมไปเถอะ ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะยอมรับความสัมพันธ์ครั้งที่สองอีกต่อไปแล้ว ผมต้องการตัดความสัมพันธ์กับตระกูลหลิวโดยเร็วที่สุด”

"ต่อจากนั้นก็จะกลับเมืองจิงตู กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ก่อน ผมไม่ได้กลับไปเยี่ยมพวกท่านมานานมากแล้ว”

ฮันเสี่ยวซิรู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ถอดใจ คนอย่างเยว่เฟิงมีคุณธรรมแรงกล้า เขาไม่ใช่คนลังเลแน่นอน เพียงแต่เขาถูกหลิวรูหยานทำร้าย เลยทำให้ใจของเขาต่อต้านความสัมพันธ์กับผู้หญิง

"หลิวรูหยานนางตัวร้าย ... " ฮันเสี่ยวซิอดไม่ได้ที่จะเกลียดหลิวรูหยานยิ่งขึ้นไปอีก

เยว่เฟิงดูเวลาและพูดกับฮันเสี่ยวซิง:

"เอาล่ะ คุณลงไปก่อน"

"ผมเดาว่า หลิวหงชิงจะพาคนตระกูลหลิวมาหาเทียนซิงเร็วๆนี้แน่ เดี๋ยวคุณช่วยรับหน้าแทนเทียนซิงหน่อย เขายุ่งมาก ไม่ใช่ใครหน้าไหนอยากพบเขาก็ได้

"จำสิ่งที่ผมพูดเมื่อวานนี้ไว้ อยากให้คนตระกูลหลิวเข้ามาในบริษัทเฟิงซิงของผมแม้แต่คนเดียว"

 ...

ตามที่เยว่เฟิงคาดไว้ หลิวหงชิงพาครอบครัวหลิวทั้งหมดมาขอเข้าพบดวนเทียนซิง และขอโทษดวนเทียนซิง

แม้ว่าไม่รู้ว่าควรขอโทษในเรื่องอะไร ก็แค่ขอโทษก็ถูกแล้ว เพียงปรับความเข้าใจกัน ขอเพียงกลุ่มเฟิงซิงไม่ยกเลิกความร่วมมือ จะให้ตระกูลหลิวทุกคนมาคุกเข่าพวกเขาก็ยอม

เมื่อวานนี้หลิวหงชิงและหลิวรูหยานคาดเดาได้ถูกต้องว่าเกี่ยวกับเยว่เฟิง ถึงทำให้ดวนเทียนซิง ยกเลิกความร่วมมือทั้งหมด

แต่เมื่อพูดออกมา ทุกคนต่างพากันปฎิเสธว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน หลิวหงชิงและหลิวรูหยานเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน  เยว่เฟิงเป็นลูกเขยมาอาศัยบ้าน อยู่ในบ้านตระกูลหลิว ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย เป็นแค่เศษสวะที่ไม่มีแม้แต่งานทำ เขาจะมีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มเฟิงซิงได้หรือ?

ตลกสิ้นดี!

เพื่อแสดงความจริงใจ หลิวหงชิง ได้พาหลิวจือเฉินซึ่งยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมาด้วย  ในแง่หนึ่ง เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ สอง กลุ่มเฟิงเซิงได้รุมทำร้ายคนแบบไม่มีเหตุผลเช่นนี้ ดวนเทียนซิงที่เป็นประธานก็ควรที่จะรู้สึกผิดบ้าง บางทีถ้าเขารู้สึกผิด เขาจะไม่ยกเลิกความสัมพันธ์และความร่วมมือกับตระกูลหลิวแน่

ทุกๆคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่งใจ เดินเข้าอย่างยืดอกจนถึงประตูของกลุ่มเฟิงซิง

หลังจากนั้น……

จากนั้นทุกคนก็ถูกหยุดโดยหน่วยรักษาความปลอดภัยที่วิ่งออกมาจากอาคาร

"ทำอะไรกัน ที่นี้มันที่ไหน พวกคุณกล้าบุกเข้ามา! ครอบครัวของคุณจะมาก่อจารจลหรือไง!"

หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคนนั้น มือถือไม้กระบองสีดำ ชี้ไปที่จมูกของหลิวหงชิง แล้วตะโกนด่า

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

545