บทที่ 6 ฮันเสี่ยวชิสารภาพ
by ต้าเต่าสามพัน
14:46,Dec 07,2020
ณ สำนักงานใหญ่ของ กลุ่มเฟิงซิงในตึกที่สูงที่สุด
อาคารนี้ทั้งหมดมี 36 ชั้น ห้องทำงานของประธานบริษัทอยู่ที่ชั้น 35 ซึ่งเป็นห้องทำงานของดวนเทียนซิง
คนที่มีตำแหน่งสูงก็ควรยืนอยู่บนจุดที่สูงเช่นกัน เพื่อมองทุกคนจากมองสูง แต่ไม่มีใครรู้ว่าชั้นที่สามสิบหกมีไว้ทำอะไร และไม่เคยมีใครขึ้นไปที่นั่น เนื่องจากดวนเทียนซิงส่งห้ามอย่างชัดเจน นอกจากเขาและฮันเสี่ยวซิไม่มีใครสามารถขึ้นไปชั้น 36 ได้โดยพลการได้
เนื่องจากชั้นบนสุดเป็นห้องทำงานของพี่ใหญ๋เของเขา เยว่เฟิง และยังเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนและอ่านหนังสือ ห้ามใครขึ้นไปรบกวนเยว่เฟิงเด็ดขาด
แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่แท้จริงของกลุ่มเฟิงซิงว่าเป็น เยว่เฟิง ดวนเทียนซิงถือหุ้นในกลุ่มเฟิ่งซิง 40% ในจำนวน 40%นั้น มีถึง30% ที่เยว่เฟิงมอบให้เขา
ดังนั้น ดวนเทียนซิงจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเยว่เฟิงดูแลกลุ่มบริษัทนี้ กล่าวได้ว่าเยว่เฟิงและ
ดวนเทียนซิงสร้างกลุ่มเฟิงซิงขึ้นมากับมือร่วมกัน กลุ่มเฟิงซิงก็ได้สร้างดวนเทียนซิงขึ้นมาด้วย ใครจะไม่รู้ว่า ดวนเทียนซิงประธานกลุ่มเฟิงซิง เป็นผู้ประกอบการที่อายุน้อยที่สุดหลายๆเมืองในย่านนี้
"เยว่เฟิง คุณยอดเยี่ยมมาก คุณบอกว่าหลิวจื่อเฉินจะมาพร้อมกับหลิวรูหยาน และเขามาจริงๆด้วยเมื่อวานนี้"
"ผมทำตามที่คุณสั่งแล้ว ให้ยามที่เฝ้าอยู่ข้างล่างจัดการมันไปทีหนึ่ง ไอ้เด็กคนนั้นโดนสั่งสอนไปชุดใหญ่"
วันนี้ฮันเสี่ยวชิสวมเสื้อเชิ้ตผู้หญิงสีขาว และกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำ ขาที่ยาวและเรียวของเธอทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าหลงใหล เธอถือถาดผลไม้ที่หั่นแล้ว ป้อนให้เยว่เฟิงทีละชิ้น
เยว่เฟิงวางหนังสือเรื่องสามก๊กที่เขาเคยดูหลายครั้งแล้ว และพูดเบา ๆ :
"ผมอยู่กับตระกูลหลิวมาสองปีแล้ว และผมก็รู้ว่าสันดานของพวกเขาแต่ละคนมันเป็นยังไง”
"ครั้งนี้โครงการไม่เล็ก หลิวหงชิงต้องใช้โอกาสนี้เพื่อให้หลิวจือเฉินมาแทนรูหยานในการติดต่อกับเทียนซิง ดังนั้นครั้งนี้หลิวจือเฉินเลยตามมา หากในสองปีที่ผ่านมาไม่ใช่เพราะรูหยานและเทียนซิงรักษาความสัมพันธ์และร่วมมือกัน สถานการณ์ครอบครัวตระกูลหลิวของเธอนั้น คงลำบากกว่านี้อย่างแน่นอน”
เมื่อฮันเสี่ยวซิได้ยินเยว่เฟิงพูดถึงหลิวรูหยาน น้ำเสียงยังรู้สึกดีกับเธอ เขาขมวดคิ้วทันที:
"คุณยังหลิวรูหยานและครอบครัวของเขาหรือ? พวกเขาปฏิบัติต่อคุณแบบนี้ ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปแม้แต่คนเดียว"
เยว่เฟิง ยืนขึ้นและเดินไปที่ขอบหน้าต่าง มองเห็นลงไปยังทิวทัศน์ของเมืองชูโจว แล้วถอนหายใจ:
"พ่อตาและแม่ยายของผม ผมไม่เป็นห่วงพวกเขาเลย ถ้าพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ของหลิวรูหยาน พวกเขาก็จะเหมือนกับหลิวจือเฉินในตอนนี้"
"ผมแค่เป็นห่วง รูหยาน ... เธอไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ เธอเป็นใสซื่อบริสุทธิ์และมีนิสัยอ่อนแอ เธอมักจะถูกรังแกในครอบครัวหลิว และไม่ต่อต้าน พ่อแม่ของเธอก็ยิ่งไร้ประโยชน์ ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย"
คิ้วของฮันเซียวชิวขมวดลึกขึ้นเรื่อย ๆ เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่หลังสูงของเยว่เฟิงและพูดว่า:
"แต่เธอทําต่อคุณเป็นแบบนี้ นับประสาอะไรกับพ่อแม่ของเธอ แม้แต่ฉันก็รักเห็นใจคุณ"
"เธอไร้ซึ่งน้ำใจ ทำไมคุณต้องแคร์เธอด้วย"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยว่เฟิงก็ส่ายหัวและหัวเราะ
"ใช่ ทำไมผมต้องแคร์เธอด้วย" เขาถอนหายใจ: "ก็แค่ครั้งนี้เท่านั้น ต่อไปนี้ฉันกับเขาขาดจากกัน เราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันอีกต่อไป แต่ในฐานะอดีตสามีภรรยา ผมจะช่วยเธอเป็นครั้งสุดท้าย”
"ผมได้ยกเลิกความร่วมมือทั้งหมดกับตระกูลหลิวแล้ว เหลือเพียงบริษัทของเธอเท่านั้นที่ยังไม่ยกเลิก
ต่อจากนี้ไป เธอจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตของตระกูลหลิว ผมหวังว่าเธอจะได้รับความเคารพจากทุกคนในตระกูลหลิวในอนาคต"
"สำหรับอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมอีกต่อไป"
เมื่อได้ยินคำพูดของเยว่เฟิง ฮันเสี่ยวซิก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป เธอรู้ว่าเยว่เฟิงเป็นคนที่หนักแน่นเรื่องน้ำใจและไมตรี
"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ให้ฉันรักษารอยแผลเป็นในใจของคุณ ได้ไหม?" ฮันเซียวซิงเดินมาใกล้หลังของเยว่เฟิง เหยียดแขนของเธอออกและกอดเขาแน่นๆจากด้านหลัง รู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของชายตรงหน้า
"คุณก็รู้ว่า ฉันรักคุณมานานแล้ว เมื่อเทียบกับหลิวรูหยานผู้หญิงที่ไร้น้ำใจแบบนั้น ฉันสามารถตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ทั้งหมดของคุณ ร่วมถึง ... ความต้องการทางร่างกาย" มิเสียทีที่ฮันเสี่ยวซิเป็นผู้หญิงที่ถูกตามจีบโดยลูกหลานคนร่ำรวยหลายคนในเมืองจิงตู เกิดมาเพื่อมาพร้อมและมีเสน่ ร่างกายทุกส่วนของเธอนั้นมีแต่กลิ่นไอของความเป็นผู้หญิง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ" เยว่เฟิงยืนอยู่ข้างหน้าต่าง และไม่รู้สีกหวั่นไหวเลยสักนิด และขมวดคิ้วเล็กน้อย
"หัวใจของคุณไม่ได้รู้สึกอะไรเลยหรือ" ดวงตาของฮันเซียวซิงน้ำตาคลอ หัวใจของเธอก็ร้อนรุ่ม: "บางครั้งฉันก็สงสัยจริงๆว่าคุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า ทำไมฉันทุ่มเทให้คุณขนาดนี้ แต่คุณกลับปฎิเสธฉัน"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยว่เฟิงก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า:
"ตอนนี้ผมเพิ่งยุติความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่ง หันกับมาผมก็ไปคบกับผู้หญิงอีกคน"
"คุณกล้าคบผู้ชายแบบนี้หรือ? คุณไม่กลัวว่าถ้าผมหันกลับไป ยังไปมีคนใหม่อีกคน หรือแม้แต่ไปคบกับผู้หญิงอีกนับไม่ถ้วน?
ฮันเซี่ยวซิงยืนอยู่ตรงหน้าเยว่เฟิง ดวงตาใสๆคู่นั้นเห็นเขาด้วยน้ำตาน้ำตาคลอเบ้า
"ฉันในมั่นใจมากว่าฉันจะทำให้คุณตกหลุมรักฉันแน่ๆ เพียงแค่คุณกล้า มีหรือที่ฉันจะไม่กล้า”
เยว่เฟิงส่ายหัว สีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แล้วพูดว่า:
"ลืมไปเถอะ ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะยอมรับความสัมพันธ์ครั้งที่สองอีกต่อไปแล้ว ผมต้องการตัดความสัมพันธ์กับตระกูลหลิวโดยเร็วที่สุด”
"ต่อจากนั้นก็จะกลับเมืองจิงตู กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ก่อน ผมไม่ได้กลับไปเยี่ยมพวกท่านมานานมากแล้ว”
ฮันเสี่ยวซิรู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ถอดใจ คนอย่างเยว่เฟิงมีคุณธรรมแรงกล้า เขาไม่ใช่คนลังเลแน่นอน เพียงแต่เขาถูกหลิวรูหยานทำร้าย เลยทำให้ใจของเขาต่อต้านความสัมพันธ์กับผู้หญิง
"หลิวรูหยานนางตัวร้าย ... " ฮันเสี่ยวซิอดไม่ได้ที่จะเกลียดหลิวรูหยานยิ่งขึ้นไปอีก
เยว่เฟิงดูเวลาและพูดกับฮันเสี่ยวซิง:
"เอาล่ะ คุณลงไปก่อน"
"ผมเดาว่า หลิวหงชิงจะพาคนตระกูลหลิวมาหาเทียนซิงเร็วๆนี้แน่ เดี๋ยวคุณช่วยรับหน้าแทนเทียนซิงหน่อย เขายุ่งมาก ไม่ใช่ใครหน้าไหนอยากพบเขาก็ได้
"จำสิ่งที่ผมพูดเมื่อวานนี้ไว้ อยากให้คนตระกูลหลิวเข้ามาในบริษัทเฟิงซิงของผมแม้แต่คนเดียว"
...
ตามที่เยว่เฟิงคาดไว้ หลิวหงชิงพาครอบครัวหลิวทั้งหมดมาขอเข้าพบดวนเทียนซิง และขอโทษดวนเทียนซิง
แม้ว่าไม่รู้ว่าควรขอโทษในเรื่องอะไร ก็แค่ขอโทษก็ถูกแล้ว เพียงปรับความเข้าใจกัน ขอเพียงกลุ่มเฟิงซิงไม่ยกเลิกความร่วมมือ จะให้ตระกูลหลิวทุกคนมาคุกเข่าพวกเขาก็ยอม
เมื่อวานนี้หลิวหงชิงและหลิวรูหยานคาดเดาได้ถูกต้องว่าเกี่ยวกับเยว่เฟิง ถึงทำให้ดวนเทียนซิง ยกเลิกความร่วมมือทั้งหมด
แต่เมื่อพูดออกมา ทุกคนต่างพากันปฎิเสธว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน หลิวหงชิงและหลิวรูหยานเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน เยว่เฟิงเป็นลูกเขยมาอาศัยบ้าน อยู่ในบ้านตระกูลหลิว ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย เป็นแค่เศษสวะที่ไม่มีแม้แต่งานทำ เขาจะมีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มเฟิงซิงได้หรือ?
ตลกสิ้นดี!
เพื่อแสดงความจริงใจ หลิวหงชิง ได้พาหลิวจือเฉินซึ่งยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมาด้วย ในแง่หนึ่ง เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ สอง กลุ่มเฟิงเซิงได้รุมทำร้ายคนแบบไม่มีเหตุผลเช่นนี้ ดวนเทียนซิงที่เป็นประธานก็ควรที่จะรู้สึกผิดบ้าง บางทีถ้าเขารู้สึกผิด เขาจะไม่ยกเลิกความสัมพันธ์และความร่วมมือกับตระกูลหลิวแน่
ทุกๆคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่งใจ เดินเข้าอย่างยืดอกจนถึงประตูของกลุ่มเฟิงซิง
หลังจากนั้น……
จากนั้นทุกคนก็ถูกหยุดโดยหน่วยรักษาความปลอดภัยที่วิ่งออกมาจากอาคาร
"ทำอะไรกัน ที่นี้มันที่ไหน พวกคุณกล้าบุกเข้ามา! ครอบครัวของคุณจะมาก่อจารจลหรือไง!"
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคนนั้น มือถือไม้กระบองสีดำ ชี้ไปที่จมูกของหลิวหงชิง แล้วตะโกนด่า
อาคารนี้ทั้งหมดมี 36 ชั้น ห้องทำงานของประธานบริษัทอยู่ที่ชั้น 35 ซึ่งเป็นห้องทำงานของดวนเทียนซิง
คนที่มีตำแหน่งสูงก็ควรยืนอยู่บนจุดที่สูงเช่นกัน เพื่อมองทุกคนจากมองสูง แต่ไม่มีใครรู้ว่าชั้นที่สามสิบหกมีไว้ทำอะไร และไม่เคยมีใครขึ้นไปที่นั่น เนื่องจากดวนเทียนซิงส่งห้ามอย่างชัดเจน นอกจากเขาและฮันเสี่ยวซิไม่มีใครสามารถขึ้นไปชั้น 36 ได้โดยพลการได้
เนื่องจากชั้นบนสุดเป็นห้องทำงานของพี่ใหญ๋เของเขา เยว่เฟิง และยังเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนและอ่านหนังสือ ห้ามใครขึ้นไปรบกวนเยว่เฟิงเด็ดขาด
แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่แท้จริงของกลุ่มเฟิงซิงว่าเป็น เยว่เฟิง ดวนเทียนซิงถือหุ้นในกลุ่มเฟิ่งซิง 40% ในจำนวน 40%นั้น มีถึง30% ที่เยว่เฟิงมอบให้เขา
ดังนั้น ดวนเทียนซิงจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเยว่เฟิงดูแลกลุ่มบริษัทนี้ กล่าวได้ว่าเยว่เฟิงและ
ดวนเทียนซิงสร้างกลุ่มเฟิงซิงขึ้นมากับมือร่วมกัน กลุ่มเฟิงซิงก็ได้สร้างดวนเทียนซิงขึ้นมาด้วย ใครจะไม่รู้ว่า ดวนเทียนซิงประธานกลุ่มเฟิงซิง เป็นผู้ประกอบการที่อายุน้อยที่สุดหลายๆเมืองในย่านนี้
"เยว่เฟิง คุณยอดเยี่ยมมาก คุณบอกว่าหลิวจื่อเฉินจะมาพร้อมกับหลิวรูหยาน และเขามาจริงๆด้วยเมื่อวานนี้"
"ผมทำตามที่คุณสั่งแล้ว ให้ยามที่เฝ้าอยู่ข้างล่างจัดการมันไปทีหนึ่ง ไอ้เด็กคนนั้นโดนสั่งสอนไปชุดใหญ่"
วันนี้ฮันเสี่ยวชิสวมเสื้อเชิ้ตผู้หญิงสีขาว และกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำ ขาที่ยาวและเรียวของเธอทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าหลงใหล เธอถือถาดผลไม้ที่หั่นแล้ว ป้อนให้เยว่เฟิงทีละชิ้น
เยว่เฟิงวางหนังสือเรื่องสามก๊กที่เขาเคยดูหลายครั้งแล้ว และพูดเบา ๆ :
"ผมอยู่กับตระกูลหลิวมาสองปีแล้ว และผมก็รู้ว่าสันดานของพวกเขาแต่ละคนมันเป็นยังไง”
"ครั้งนี้โครงการไม่เล็ก หลิวหงชิงต้องใช้โอกาสนี้เพื่อให้หลิวจือเฉินมาแทนรูหยานในการติดต่อกับเทียนซิง ดังนั้นครั้งนี้หลิวจือเฉินเลยตามมา หากในสองปีที่ผ่านมาไม่ใช่เพราะรูหยานและเทียนซิงรักษาความสัมพันธ์และร่วมมือกัน สถานการณ์ครอบครัวตระกูลหลิวของเธอนั้น คงลำบากกว่านี้อย่างแน่นอน”
เมื่อฮันเสี่ยวซิได้ยินเยว่เฟิงพูดถึงหลิวรูหยาน น้ำเสียงยังรู้สึกดีกับเธอ เขาขมวดคิ้วทันที:
"คุณยังหลิวรูหยานและครอบครัวของเขาหรือ? พวกเขาปฏิบัติต่อคุณแบบนี้ ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปแม้แต่คนเดียว"
เยว่เฟิง ยืนขึ้นและเดินไปที่ขอบหน้าต่าง มองเห็นลงไปยังทิวทัศน์ของเมืองชูโจว แล้วถอนหายใจ:
"พ่อตาและแม่ยายของผม ผมไม่เป็นห่วงพวกเขาเลย ถ้าพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ของหลิวรูหยาน พวกเขาก็จะเหมือนกับหลิวจือเฉินในตอนนี้"
"ผมแค่เป็นห่วง รูหยาน ... เธอไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ เธอเป็นใสซื่อบริสุทธิ์และมีนิสัยอ่อนแอ เธอมักจะถูกรังแกในครอบครัวหลิว และไม่ต่อต้าน พ่อแม่ของเธอก็ยิ่งไร้ประโยชน์ ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย"
คิ้วของฮันเซียวชิวขมวดลึกขึ้นเรื่อย ๆ เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่หลังสูงของเยว่เฟิงและพูดว่า:
"แต่เธอทําต่อคุณเป็นแบบนี้ นับประสาอะไรกับพ่อแม่ของเธอ แม้แต่ฉันก็รักเห็นใจคุณ"
"เธอไร้ซึ่งน้ำใจ ทำไมคุณต้องแคร์เธอด้วย"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยว่เฟิงก็ส่ายหัวและหัวเราะ
"ใช่ ทำไมผมต้องแคร์เธอด้วย" เขาถอนหายใจ: "ก็แค่ครั้งนี้เท่านั้น ต่อไปนี้ฉันกับเขาขาดจากกัน เราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันอีกต่อไป แต่ในฐานะอดีตสามีภรรยา ผมจะช่วยเธอเป็นครั้งสุดท้าย”
"ผมได้ยกเลิกความร่วมมือทั้งหมดกับตระกูลหลิวแล้ว เหลือเพียงบริษัทของเธอเท่านั้นที่ยังไม่ยกเลิก
ต่อจากนี้ไป เธอจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตของตระกูลหลิว ผมหวังว่าเธอจะได้รับความเคารพจากทุกคนในตระกูลหลิวในอนาคต"
"สำหรับอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมอีกต่อไป"
เมื่อได้ยินคำพูดของเยว่เฟิง ฮันเสี่ยวซิก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป เธอรู้ว่าเยว่เฟิงเป็นคนที่หนักแน่นเรื่องน้ำใจและไมตรี
"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ให้ฉันรักษารอยแผลเป็นในใจของคุณ ได้ไหม?" ฮันเซียวซิงเดินมาใกล้หลังของเยว่เฟิง เหยียดแขนของเธอออกและกอดเขาแน่นๆจากด้านหลัง รู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของชายตรงหน้า
"คุณก็รู้ว่า ฉันรักคุณมานานแล้ว เมื่อเทียบกับหลิวรูหยานผู้หญิงที่ไร้น้ำใจแบบนั้น ฉันสามารถตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ทั้งหมดของคุณ ร่วมถึง ... ความต้องการทางร่างกาย" มิเสียทีที่ฮันเสี่ยวซิเป็นผู้หญิงที่ถูกตามจีบโดยลูกหลานคนร่ำรวยหลายคนในเมืองจิงตู เกิดมาเพื่อมาพร้อมและมีเสน่ ร่างกายทุกส่วนของเธอนั้นมีแต่กลิ่นไอของความเป็นผู้หญิง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ" เยว่เฟิงยืนอยู่ข้างหน้าต่าง และไม่รู้สีกหวั่นไหวเลยสักนิด และขมวดคิ้วเล็กน้อย
"หัวใจของคุณไม่ได้รู้สึกอะไรเลยหรือ" ดวงตาของฮันเซียวซิงน้ำตาคลอ หัวใจของเธอก็ร้อนรุ่ม: "บางครั้งฉันก็สงสัยจริงๆว่าคุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า ทำไมฉันทุ่มเทให้คุณขนาดนี้ แต่คุณกลับปฎิเสธฉัน"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยว่เฟิงก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า:
"ตอนนี้ผมเพิ่งยุติความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่ง หันกับมาผมก็ไปคบกับผู้หญิงอีกคน"
"คุณกล้าคบผู้ชายแบบนี้หรือ? คุณไม่กลัวว่าถ้าผมหันกลับไป ยังไปมีคนใหม่อีกคน หรือแม้แต่ไปคบกับผู้หญิงอีกนับไม่ถ้วน?
ฮันเซี่ยวซิงยืนอยู่ตรงหน้าเยว่เฟิง ดวงตาใสๆคู่นั้นเห็นเขาด้วยน้ำตาน้ำตาคลอเบ้า
"ฉันในมั่นใจมากว่าฉันจะทำให้คุณตกหลุมรักฉันแน่ๆ เพียงแค่คุณกล้า มีหรือที่ฉันจะไม่กล้า”
เยว่เฟิงส่ายหัว สีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แล้วพูดว่า:
"ลืมไปเถอะ ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะยอมรับความสัมพันธ์ครั้งที่สองอีกต่อไปแล้ว ผมต้องการตัดความสัมพันธ์กับตระกูลหลิวโดยเร็วที่สุด”
"ต่อจากนั้นก็จะกลับเมืองจิงตู กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ก่อน ผมไม่ได้กลับไปเยี่ยมพวกท่านมานานมากแล้ว”
ฮันเสี่ยวซิรู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ถอดใจ คนอย่างเยว่เฟิงมีคุณธรรมแรงกล้า เขาไม่ใช่คนลังเลแน่นอน เพียงแต่เขาถูกหลิวรูหยานทำร้าย เลยทำให้ใจของเขาต่อต้านความสัมพันธ์กับผู้หญิง
"หลิวรูหยานนางตัวร้าย ... " ฮันเสี่ยวซิอดไม่ได้ที่จะเกลียดหลิวรูหยานยิ่งขึ้นไปอีก
เยว่เฟิงดูเวลาและพูดกับฮันเสี่ยวซิง:
"เอาล่ะ คุณลงไปก่อน"
"ผมเดาว่า หลิวหงชิงจะพาคนตระกูลหลิวมาหาเทียนซิงเร็วๆนี้แน่ เดี๋ยวคุณช่วยรับหน้าแทนเทียนซิงหน่อย เขายุ่งมาก ไม่ใช่ใครหน้าไหนอยากพบเขาก็ได้
"จำสิ่งที่ผมพูดเมื่อวานนี้ไว้ อยากให้คนตระกูลหลิวเข้ามาในบริษัทเฟิงซิงของผมแม้แต่คนเดียว"
...
ตามที่เยว่เฟิงคาดไว้ หลิวหงชิงพาครอบครัวหลิวทั้งหมดมาขอเข้าพบดวนเทียนซิง และขอโทษดวนเทียนซิง
แม้ว่าไม่รู้ว่าควรขอโทษในเรื่องอะไร ก็แค่ขอโทษก็ถูกแล้ว เพียงปรับความเข้าใจกัน ขอเพียงกลุ่มเฟิงซิงไม่ยกเลิกความร่วมมือ จะให้ตระกูลหลิวทุกคนมาคุกเข่าพวกเขาก็ยอม
เมื่อวานนี้หลิวหงชิงและหลิวรูหยานคาดเดาได้ถูกต้องว่าเกี่ยวกับเยว่เฟิง ถึงทำให้ดวนเทียนซิง ยกเลิกความร่วมมือทั้งหมด
แต่เมื่อพูดออกมา ทุกคนต่างพากันปฎิเสธว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน หลิวหงชิงและหลิวรูหยานเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน เยว่เฟิงเป็นลูกเขยมาอาศัยบ้าน อยู่ในบ้านตระกูลหลิว ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย เป็นแค่เศษสวะที่ไม่มีแม้แต่งานทำ เขาจะมีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มเฟิงซิงได้หรือ?
ตลกสิ้นดี!
เพื่อแสดงความจริงใจ หลิวหงชิง ได้พาหลิวจือเฉินซึ่งยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมาด้วย ในแง่หนึ่ง เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ สอง กลุ่มเฟิงเซิงได้รุมทำร้ายคนแบบไม่มีเหตุผลเช่นนี้ ดวนเทียนซิงที่เป็นประธานก็ควรที่จะรู้สึกผิดบ้าง บางทีถ้าเขารู้สึกผิด เขาจะไม่ยกเลิกความสัมพันธ์และความร่วมมือกับตระกูลหลิวแน่
ทุกๆคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่งใจ เดินเข้าอย่างยืดอกจนถึงประตูของกลุ่มเฟิงซิง
หลังจากนั้น……
จากนั้นทุกคนก็ถูกหยุดโดยหน่วยรักษาความปลอดภัยที่วิ่งออกมาจากอาคาร
"ทำอะไรกัน ที่นี้มันที่ไหน พวกคุณกล้าบุกเข้ามา! ครอบครัวของคุณจะมาก่อจารจลหรือไง!"
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคนนั้น มือถือไม้กระบองสีดำ ชี้ไปที่จมูกของหลิวหงชิง แล้วตะโกนด่า
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved