บทที่10 พบกับดวนเทียนซิง
by ต้าเต่าสามพัน
14:47,Dec 07,2020
ภายในคฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชูโจว
ดวนเทียนซิงส่งกุญแจให้เยว่เฟิงให้กับมือและพูดกับเขาว่า:
"คฤหาสน์นี้เพิ่งปรับปรุงใหม่ ตอนนี้ผมให้กุญแจให้คุณแล้วนะ"
"คุณช่างกล้าใช้เงินนะ เป็นสิบล้านเลยนะ ผมยังไม่กล้าจะซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่ขนาดนี้เลย แค่ค่าตกแต่งก็ปาเข้าไปเกือบสองล้านแล้ว คุณชายเยว่ คุณกำลังคิดอะไรอยู่?"
วิลล่าแห่งนี้ถูกซื้อโดย เยว่เฟิงในราครที่สูงมากเมื่อปลายปีที่แล้ว คฤหาสน์แห่งนี้ดังมากในเมืองชูโจว ถูกขนานนามว่าคฤหาสน์อันดับหนึ่งแห่งเมืองชูโจว เศรษฐีหลายคนมีเงินแต่ซื้อไม่ได้ เนื่องจากเยว่เฟิงรู้จักเจ้าของเดิมของคฤหาสน์แห่งนี้ และมีศักดิ์เป็นน้าของเขา
ต่อให้เป็นแบบนั้น เยว์เฟิงก็ต้องใช้เงินถึงสิบล้านในการซื้อ
"ตอนแรกอยากจะตกแต่งใหม่ทั้งหมด รอให้เสร็จเรียบร้อยแล้วจะเซอร์ไพรส์หลิวรูหยานหน่อย แต่ยังไม่ทันรอถึงวันนั้น พวกเราก็เลิกกันแล้ว"
เยว่เฟิง รับกุญแจและกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น
"ช่างมันเถอะ ฉันอยู่คนเดียวก็ได้ บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ อยากนอนที่ไหนก็นอนที่นั้น ไม่ต้องนอนในห้องหนังสืออีกต่อไปแล้ว”
ดวนเทียนซิงได้ยินดังนี้ ลังเลสักพัก และพูดกับเยว่เฟิง:
"อันที่จริงหลิวรูหยานนัดผมให้เจอกันในคืนนี้ ทั้งหมดก็เพื่อเรื่องในตระกูลหลิว"
"ตอนแรกผมไม่อยากไป แต่เธอก็เอาแต่ขอร้อง ผมก็เลยตกลง”
เยว่เฟิงหยุดชะงัก แล้วคิดถึงภาพที่หลิวรูหยานต้องก้มหัวเพื่อขอร้องคนอื่น เขาก็รู้สึกเจ็บที่หัวใจ
"ตระกูลหลิวต้องบังคับเธอแน่นนอน คุณติดต่อกับเธอมาตลอด ดังนั้นตระกูลหลิวต้องฝากความหวังไว้ที่เธอ" เยว่เฟิงพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
ดวนเทียนซิง ถอนหายใจ:
"แต่ผมจะไม่รับปากเธอแน่นอน ตระกูลหลิวไม่สมควรได้รับความช่วยเหลือจากคุณอีกต่อไป”
"พี่ใหญ๋ อย่าใจอ่อน พวกพี่ไม่ใช่สามีภรรยาอีกต่อไป ไม่ต้องพูดถึงว่าคุณไม่เคยอยู่ขึ้นเตียงของเธอมาก่อน ผมรู้สึกไม่พอใจแทนพี่
เยว่เฟิง ถอนหายใจอย่างหนัก อันที่จริงเขาอยากช่วยหลิวรูหยานจริงๆ แต่เขาไม่อยากช่วยครอบครัวหลิวอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นความร่วมมือกับบริษัทส่วนตัวของหลิวรูหยานยังไม่ยุติลง เขาได้ทำทุกอย่างแล้ว
เมื่อนึกถึงสิ่งต่างๆที่ตระกูลหลิวปฏิบัติต่อเขา รวมถึงสิ่งต่างๆที่หลิวรูหยานปฏิบัติต่อเขา เขาไม่อยากช่วยใครในตระกูลหลิวรวมถึงหลิวรูหยานอีกแล้ว
"ไปเถอะ แม้ว่าจะไม่ยอมก็ตาม อย่าใจร้ายต่อเธอมากเลย"
"ตอนนี้เธอคงหมดหนทาง ฉันเดาว่าพวกปลิงดูดเลือดตระกูลหลิวกำลังบังคับเธอแน่ๆ พ่อของเธอก็เป็นไก่อ่อน แม่ของเธอก็พวกปลิงดูดเลือด”
เยว่เฟิงตบไหล่ดวนเทียนซิง และพูดอย่างทุกข์ใจ
ดวนเทียนซิง ส่ายหัวเล็กน้อยและถอนหายใจ:
"พี่ก็แบบนี้แหละ ใจอ่อนทุกที"
"ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ทำให้เธอลำบากใจมากเกินไป"
หลังจากพูดแล้ว ดวนเทียนซิง ก็ออกจากคฤหาสน์
เยว่เฟิงนั่งอยู่บนโซฟาคนเดียว มองไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ คฤหาสน์แห่งนี้ตกแต่งในสไตล์อบอุ่น ครั้งหนึ่ง เขารู้สึกเต็มไปด้วยความหวังกับที่นี้
เพราะในความฝันของเขา ที่นี่คือบ้านของเขาและหลิวรูหยาน
แต่ตอนนี้ เขาเหลือตัวคนเดียว บ้านก็ตกแต่งเสร็จแล้ว แต่ครอบครัว หายไปแล้ว ...
...
หลิวรูหยานวิ่งไปที่สะพานและร้องไห้เกือบครึ่งวัน เธอเป็นเด็กผู้หญิงและครอบครัวของเธอบังคับให้เธอทำเรื่องแบบนี้ นี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งอีกต่อไป แต่เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ
ทันใดนั้น เธอก็คิดถึงเยว่เฟิงแม้ว่าเยว่เฟิงจะไม่มีความสามารถ และอ่อนแอไม่มีอะไร แต่อย่างน้อยเยว่เฟิงก็จะปกป้องเธอและรักเธอ เขาจะปล่อยให้เธอทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร
ตอนนี้หลิวรูหยานได้นึกถึงสิงที่ยว่เฟิงได้ทำดีต่อเธอก่อนหน้านี้ เธอยังจำได้ว่าครั้งหนึ่ง ธออยากกินบาร์บีคิวในคืนฤดูหนาวที่หนาวมาก เยว่เฟิงวิ่งเป็นระยะทางหลายกิโลเพื่อซื้อมันให้เธอ ในเวลานั้น อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศา เยว่เฟิงเอาใจเธอทุกอย่าง รักและเอ็นดูเธอ ในสายตาตระกูลหลิว เธอเป็นแค่คนชั้นต่ำในสายตาพวกเขา
"ฉันคิดเกี่ยวกับเขาได้อย่างไร เขาหายไป เขาต้องการหย่าตัวเอง"
"คนไร้ประโยชน์แบบนั้น ฉันคิดถึงเขาทำไหม"
หลิวรูหยาน ซับน้ำตาและให้กำลังใจตัวเอง:
"ฉันสามารถเกลี้ยกล่อมดวนเทียนซิงได้อย่างแน่นอน ฉันเป็นผู้หญิง จะเอาร่างกายไปแลกได้ยังไง”
"หลิวรูหยานเธฮทำได้!"
เธอยืนอยู่บนสะพานหยิบกระจกออกมาจากกระเป๋าและแต่งหน้า จากนั้นก็เรียกรถแท็กซี่แล้วรีบไปที่โรงแรมจุ๋ยเซียน
สองวันที่ผ่านมา หลิวรูหยาน รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว
แต่ในเวลานี้เมื่อพบหน้ากับดวนเทียนซิง เธอยังคงต้องแสดงรอยยิ้ม และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ตระกูลของเธอยืนหยัดได้ในเมืองชูโจว
"คุณหลิวรูหยาน ผมคิดว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของผมและผมได้แจ้งให้ครอบครัวหลิวของคุณอย่างชัดเจนแล้วว่า กลุ่มเฟิงซิง ของเราไม่มีธุระอะไรที่จะต้องสนับสนุนพวกคุณอีกแล้ว"
ที่โต๊ะอาหาร ดวนเทียนซิงนั่งอยู่ในท่าทางอย่างเรียบเฉย และพูดอย่างเย็นชา:
"ผมไม่เคยเห็นตระกูลไหนหมือนตระกูลหลิวของคุณแบบนี้ ไม่โหยหาความก้าวหน้า ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่โหยหาความก้าวหน้า"
"แน่นอน ผมรับรู้ถึงความสามารถของคุณ คุณหลิว และผมก็รู้ด้วยว่าคุณเป็นคนที่ขยันที่สุดในตระกูลหลิว"
"แต่แค่คุณคนเดียวคงไม่พอ กลุ่มเฟิงซิง ของผมได้เลี้ยงดูพวกคุณมาสองปีแล้วทำไมผมต้องเลี้ยงดูพวกคุณต่อไปอีกล่ะ?”
หลิวรูหยานนั่งฟังอย่างเงียบๆ รอจนดวนเทียนซิงพูดจบ เธอถึงจะกล้าพูด:
"เคุณดวน ฉันขอโทษจริงๆ ฉันขอโทษแทนทุกคนในตระกูลหลิว"
"เรารู้ว่าเราผิด แต่ฉันหวังว่าคุณจะให้โอกาสเราอีกครั้ง คุณรู้ว่าหาก กลุ่มเฟิงซิง ยืนยันที่จะยกเลิกเป็นพันธมิตรกับเรา เราคงจะหมดหนทางทุกอย่างแน่นอน"
ดวนเทียนซิง หยิบถ้วยชาขึ้นจิบอย่างใจเย็นและพูดอย่างเฉยชา:
"ตระกูลหลิวของพวกคุณ มันไม่มีค่าที่ผมจะช่วยอีกต่อไป"
"พอแค่นี้เถอะ คุณหลิวควรจะยอมรับมันเถอะ อย่างไรก็ตาม ... ความร่วมมือระหว่าง บริษัทของคุณและกลุ่มเฟิงซิงยังไม่จบ อย่างน้อยคุณที่อยู่ในบ้านของตะกูลหลิว ก็ยังสามารถให้ตระกูลหลิวพึ่งพาเพื่อให้มีที่ยืนได้บ้างนะ"
ในเวลานี้ หลิวรูหยาน ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เธอทำได้เพียงก้มหน้าลงและสะอึนสะอื้นด้วยเสียงต่ำ
เมื่อเห็นเธอเช่นนี้ ดวนเทียนซิง ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ ควรจะมีชีวิตที่ดีที่สุดในโลก และกลายเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเยว่ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ นี่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนไม่สามารถจะฝันได้ได้ แต่หลิวรูหยานกลับทิ้งทุกอย่างไป
ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสมนํ้าหน้าเธอดี
"คุณหลิว ผมจำได้ว่าอดีตสามีของคุณชื่อเยว่เฟิงใช่ไหม” ดวนเทียนซิงถามขึ้นมา
หลิวรูหยานชะงักไปชั่วขณะ เธอเช็ดน้ำตาและเงยหน้าขึ้น:
"คุณดวน คุณรู้จักเยว่เฟิงหรอ”
ดวนเทียนซิงส่ายหัว เขาสัญญากับเยว่เฟิง ว่าเขาจะไม่เปิดเผยตัวตนของเขา
ผมไม่รู้ ผมได้ยินมาว่าตระกูลหลิวของคุณมีลูกเขยคนหนึ่ง เขาดีกับทุกคนมากโดยเฉพาะคุณ"
"แต่ดูเหมือนว่าครอบครัวของพวกคุณเอาแต่รังแกเขา ผมอยากรู้ว่าทำไม?”
ดวนเทียนซิง มองไปที่ หลิวรูหยาน และถามคำถามนี้อย่างจริงจัง
"ไม่ ... ไม่จริงค่ะ ครอบครัวหลิวของเราปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดี"
"คุณดวน อย่าฟังข่าวลือแบบนั้นเด็ดขาย เยว่เฟิงเป็นลูกเขยมาอาศัยอยู่ที่บ้าน และเขาไม่มีงานทำครอบครัวหลิวของเราที่เลี้ยงดูเขามา ถือว่ามีเมตตาต่อเขามากแล้ว
หลิวรูหยาน ตอบอย่างละอายใจ
ในความเป็นจริง เธอรู้ว่าครอบครัวของพวกเขาปฏิบัติต่อ เยว่เฟิง อย่างไร เธอเองก็ไม่ค่อยดีกับ เยว่เฟิง นับประสาอะไรกับคนอื่น
"โกหก!"
ดวนเทียนซิง กำหมัดแน่นและมองไปที่หลิวรูหยานอย่างเย็นชา
หลิวรูหยานสั่นไปทั้งตัว เธอมองดวนเทียนซิงด้วยความสงสัย เหตุใดดวนเทียนซิงจึงสนใจคนชั้นผู้น้อยอย่างเยว่เฟิง?
"คุณดวน ที่ฉันพูดเป็นความจริง อีกอย่าง ... เยว่เฟิงเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรากำลังคุยกันหรือค่ะ?" หลิวรุยยานถามอย่างระมัดระวัง
ดวนเทียนซิง ตอบอย่างเย็นชา:
"ไม่เกี่ยวข้อง แค่รู้สึกไม่พอใจแทนเขา ได้เจอกับพวกคุณก็ถือว่าเขาซวยเอง”
"ตระกูลหลิวจะปฏิบัติต่อเขาแบบนั้นก็ช่างเถอะ แต่คุณที่เป็นภรรยาของเขาก็ปฏิบัติกับเขาแบบเดียวกัน คุณไม่รู้ว่าในชาตินี้คุณได้พลาดผู้ชายผู้ชายที่ดีแค่ไหน ไม่น่าแปลกใจที่ครอบครัวหลิวของคุณต้องมีวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญด้วย ความเคารพ ตระกูลหลิวของคุณควรพิจารณาตัวเองให้ดีๆนะ "
หลังจากพูดเสร็จแล้ว ดวนเทียนซิง ก็ลุกขึ้นยืนและเตรียมพร้อมที่จะออกไป
"ผมจะไปแล้ว พวกคุณดูแลตัวเองให้ดีๆเถอะ"
ในขณะนี้หลิวรูหยาน เรียกดวนเทียนซิงให้อยุดก่อน:
"คุณดวน เดี๋ยวก่อน!”
ร่างกายของหลิวรูหยานสั่นสะเทือนครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธ น้ำตาคลอเป้า
ถ้าเธอเปลี่ยนใจดวนเทียนซิงไม่ได้ในวันนี้ กลับไปเธอจะต้องจมน้ำลายของคนตระกูลหลิวตายแน่ ไม่เพียงเท่านี้ ตามสันดานของคนตระกูลหลิว เขาจะเป็นคนบาปของบ้านตระกูลหลิวแน่นอน
"จะทำยังไงดี ฉันต้องใช้ร่ายกายของฉันแลกอย่างนั้นหรือ ... "
"ฉันจะทำแบบนี้ได้ยังไง ... ”
หลิวรูหยาน กังวลมากจนเธอร้องไห้
เมื่อเห็นหลิวรูหยานผิดสังเกต ดวนเทียนซิง ก็ขมวดคิ้วและถามเธอว่า:
"เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?"
ดวนเทียนซิงส่งกุญแจให้เยว่เฟิงให้กับมือและพูดกับเขาว่า:
"คฤหาสน์นี้เพิ่งปรับปรุงใหม่ ตอนนี้ผมให้กุญแจให้คุณแล้วนะ"
"คุณช่างกล้าใช้เงินนะ เป็นสิบล้านเลยนะ ผมยังไม่กล้าจะซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่ขนาดนี้เลย แค่ค่าตกแต่งก็ปาเข้าไปเกือบสองล้านแล้ว คุณชายเยว่ คุณกำลังคิดอะไรอยู่?"
วิลล่าแห่งนี้ถูกซื้อโดย เยว่เฟิงในราครที่สูงมากเมื่อปลายปีที่แล้ว คฤหาสน์แห่งนี้ดังมากในเมืองชูโจว ถูกขนานนามว่าคฤหาสน์อันดับหนึ่งแห่งเมืองชูโจว เศรษฐีหลายคนมีเงินแต่ซื้อไม่ได้ เนื่องจากเยว่เฟิงรู้จักเจ้าของเดิมของคฤหาสน์แห่งนี้ และมีศักดิ์เป็นน้าของเขา
ต่อให้เป็นแบบนั้น เยว์เฟิงก็ต้องใช้เงินถึงสิบล้านในการซื้อ
"ตอนแรกอยากจะตกแต่งใหม่ทั้งหมด รอให้เสร็จเรียบร้อยแล้วจะเซอร์ไพรส์หลิวรูหยานหน่อย แต่ยังไม่ทันรอถึงวันนั้น พวกเราก็เลิกกันแล้ว"
เยว่เฟิง รับกุญแจและกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น
"ช่างมันเถอะ ฉันอยู่คนเดียวก็ได้ บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ อยากนอนที่ไหนก็นอนที่นั้น ไม่ต้องนอนในห้องหนังสืออีกต่อไปแล้ว”
ดวนเทียนซิงได้ยินดังนี้ ลังเลสักพัก และพูดกับเยว่เฟิง:
"อันที่จริงหลิวรูหยานนัดผมให้เจอกันในคืนนี้ ทั้งหมดก็เพื่อเรื่องในตระกูลหลิว"
"ตอนแรกผมไม่อยากไป แต่เธอก็เอาแต่ขอร้อง ผมก็เลยตกลง”
เยว่เฟิงหยุดชะงัก แล้วคิดถึงภาพที่หลิวรูหยานต้องก้มหัวเพื่อขอร้องคนอื่น เขาก็รู้สึกเจ็บที่หัวใจ
"ตระกูลหลิวต้องบังคับเธอแน่นนอน คุณติดต่อกับเธอมาตลอด ดังนั้นตระกูลหลิวต้องฝากความหวังไว้ที่เธอ" เยว่เฟิงพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
ดวนเทียนซิง ถอนหายใจ:
"แต่ผมจะไม่รับปากเธอแน่นอน ตระกูลหลิวไม่สมควรได้รับความช่วยเหลือจากคุณอีกต่อไป”
"พี่ใหญ๋ อย่าใจอ่อน พวกพี่ไม่ใช่สามีภรรยาอีกต่อไป ไม่ต้องพูดถึงว่าคุณไม่เคยอยู่ขึ้นเตียงของเธอมาก่อน ผมรู้สึกไม่พอใจแทนพี่
เยว่เฟิง ถอนหายใจอย่างหนัก อันที่จริงเขาอยากช่วยหลิวรูหยานจริงๆ แต่เขาไม่อยากช่วยครอบครัวหลิวอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นความร่วมมือกับบริษัทส่วนตัวของหลิวรูหยานยังไม่ยุติลง เขาได้ทำทุกอย่างแล้ว
เมื่อนึกถึงสิ่งต่างๆที่ตระกูลหลิวปฏิบัติต่อเขา รวมถึงสิ่งต่างๆที่หลิวรูหยานปฏิบัติต่อเขา เขาไม่อยากช่วยใครในตระกูลหลิวรวมถึงหลิวรูหยานอีกแล้ว
"ไปเถอะ แม้ว่าจะไม่ยอมก็ตาม อย่าใจร้ายต่อเธอมากเลย"
"ตอนนี้เธอคงหมดหนทาง ฉันเดาว่าพวกปลิงดูดเลือดตระกูลหลิวกำลังบังคับเธอแน่ๆ พ่อของเธอก็เป็นไก่อ่อน แม่ของเธอก็พวกปลิงดูดเลือด”
เยว่เฟิงตบไหล่ดวนเทียนซิง และพูดอย่างทุกข์ใจ
ดวนเทียนซิง ส่ายหัวเล็กน้อยและถอนหายใจ:
"พี่ก็แบบนี้แหละ ใจอ่อนทุกที"
"ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ทำให้เธอลำบากใจมากเกินไป"
หลังจากพูดแล้ว ดวนเทียนซิง ก็ออกจากคฤหาสน์
เยว่เฟิงนั่งอยู่บนโซฟาคนเดียว มองไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ คฤหาสน์แห่งนี้ตกแต่งในสไตล์อบอุ่น ครั้งหนึ่ง เขารู้สึกเต็มไปด้วยความหวังกับที่นี้
เพราะในความฝันของเขา ที่นี่คือบ้านของเขาและหลิวรูหยาน
แต่ตอนนี้ เขาเหลือตัวคนเดียว บ้านก็ตกแต่งเสร็จแล้ว แต่ครอบครัว หายไปแล้ว ...
...
หลิวรูหยานวิ่งไปที่สะพานและร้องไห้เกือบครึ่งวัน เธอเป็นเด็กผู้หญิงและครอบครัวของเธอบังคับให้เธอทำเรื่องแบบนี้ นี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งอีกต่อไป แต่เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ
ทันใดนั้น เธอก็คิดถึงเยว่เฟิงแม้ว่าเยว่เฟิงจะไม่มีความสามารถ และอ่อนแอไม่มีอะไร แต่อย่างน้อยเยว่เฟิงก็จะปกป้องเธอและรักเธอ เขาจะปล่อยให้เธอทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร
ตอนนี้หลิวรูหยานได้นึกถึงสิงที่ยว่เฟิงได้ทำดีต่อเธอก่อนหน้านี้ เธอยังจำได้ว่าครั้งหนึ่ง ธออยากกินบาร์บีคิวในคืนฤดูหนาวที่หนาวมาก เยว่เฟิงวิ่งเป็นระยะทางหลายกิโลเพื่อซื้อมันให้เธอ ในเวลานั้น อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศา เยว่เฟิงเอาใจเธอทุกอย่าง รักและเอ็นดูเธอ ในสายตาตระกูลหลิว เธอเป็นแค่คนชั้นต่ำในสายตาพวกเขา
"ฉันคิดเกี่ยวกับเขาได้อย่างไร เขาหายไป เขาต้องการหย่าตัวเอง"
"คนไร้ประโยชน์แบบนั้น ฉันคิดถึงเขาทำไหม"
หลิวรูหยาน ซับน้ำตาและให้กำลังใจตัวเอง:
"ฉันสามารถเกลี้ยกล่อมดวนเทียนซิงได้อย่างแน่นอน ฉันเป็นผู้หญิง จะเอาร่างกายไปแลกได้ยังไง”
"หลิวรูหยานเธฮทำได้!"
เธอยืนอยู่บนสะพานหยิบกระจกออกมาจากกระเป๋าและแต่งหน้า จากนั้นก็เรียกรถแท็กซี่แล้วรีบไปที่โรงแรมจุ๋ยเซียน
สองวันที่ผ่านมา หลิวรูหยาน รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว
แต่ในเวลานี้เมื่อพบหน้ากับดวนเทียนซิง เธอยังคงต้องแสดงรอยยิ้ม และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ตระกูลของเธอยืนหยัดได้ในเมืองชูโจว
"คุณหลิวรูหยาน ผมคิดว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของผมและผมได้แจ้งให้ครอบครัวหลิวของคุณอย่างชัดเจนแล้วว่า กลุ่มเฟิงซิง ของเราไม่มีธุระอะไรที่จะต้องสนับสนุนพวกคุณอีกแล้ว"
ที่โต๊ะอาหาร ดวนเทียนซิงนั่งอยู่ในท่าทางอย่างเรียบเฉย และพูดอย่างเย็นชา:
"ผมไม่เคยเห็นตระกูลไหนหมือนตระกูลหลิวของคุณแบบนี้ ไม่โหยหาความก้าวหน้า ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่โหยหาความก้าวหน้า"
"แน่นอน ผมรับรู้ถึงความสามารถของคุณ คุณหลิว และผมก็รู้ด้วยว่าคุณเป็นคนที่ขยันที่สุดในตระกูลหลิว"
"แต่แค่คุณคนเดียวคงไม่พอ กลุ่มเฟิงซิง ของผมได้เลี้ยงดูพวกคุณมาสองปีแล้วทำไมผมต้องเลี้ยงดูพวกคุณต่อไปอีกล่ะ?”
หลิวรูหยานนั่งฟังอย่างเงียบๆ รอจนดวนเทียนซิงพูดจบ เธอถึงจะกล้าพูด:
"เคุณดวน ฉันขอโทษจริงๆ ฉันขอโทษแทนทุกคนในตระกูลหลิว"
"เรารู้ว่าเราผิด แต่ฉันหวังว่าคุณจะให้โอกาสเราอีกครั้ง คุณรู้ว่าหาก กลุ่มเฟิงซิง ยืนยันที่จะยกเลิกเป็นพันธมิตรกับเรา เราคงจะหมดหนทางทุกอย่างแน่นอน"
ดวนเทียนซิง หยิบถ้วยชาขึ้นจิบอย่างใจเย็นและพูดอย่างเฉยชา:
"ตระกูลหลิวของพวกคุณ มันไม่มีค่าที่ผมจะช่วยอีกต่อไป"
"พอแค่นี้เถอะ คุณหลิวควรจะยอมรับมันเถอะ อย่างไรก็ตาม ... ความร่วมมือระหว่าง บริษัทของคุณและกลุ่มเฟิงซิงยังไม่จบ อย่างน้อยคุณที่อยู่ในบ้านของตะกูลหลิว ก็ยังสามารถให้ตระกูลหลิวพึ่งพาเพื่อให้มีที่ยืนได้บ้างนะ"
ในเวลานี้ หลิวรูหยาน ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เธอทำได้เพียงก้มหน้าลงและสะอึนสะอื้นด้วยเสียงต่ำ
เมื่อเห็นเธอเช่นนี้ ดวนเทียนซิง ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ ควรจะมีชีวิตที่ดีที่สุดในโลก และกลายเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเยว่ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ นี่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนไม่สามารถจะฝันได้ได้ แต่หลิวรูหยานกลับทิ้งทุกอย่างไป
ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสมนํ้าหน้าเธอดี
"คุณหลิว ผมจำได้ว่าอดีตสามีของคุณชื่อเยว่เฟิงใช่ไหม” ดวนเทียนซิงถามขึ้นมา
หลิวรูหยานชะงักไปชั่วขณะ เธอเช็ดน้ำตาและเงยหน้าขึ้น:
"คุณดวน คุณรู้จักเยว่เฟิงหรอ”
ดวนเทียนซิงส่ายหัว เขาสัญญากับเยว่เฟิง ว่าเขาจะไม่เปิดเผยตัวตนของเขา
ผมไม่รู้ ผมได้ยินมาว่าตระกูลหลิวของคุณมีลูกเขยคนหนึ่ง เขาดีกับทุกคนมากโดยเฉพาะคุณ"
"แต่ดูเหมือนว่าครอบครัวของพวกคุณเอาแต่รังแกเขา ผมอยากรู้ว่าทำไม?”
ดวนเทียนซิง มองไปที่ หลิวรูหยาน และถามคำถามนี้อย่างจริงจัง
"ไม่ ... ไม่จริงค่ะ ครอบครัวหลิวของเราปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดี"
"คุณดวน อย่าฟังข่าวลือแบบนั้นเด็ดขาย เยว่เฟิงเป็นลูกเขยมาอาศัยอยู่ที่บ้าน และเขาไม่มีงานทำครอบครัวหลิวของเราที่เลี้ยงดูเขามา ถือว่ามีเมตตาต่อเขามากแล้ว
หลิวรูหยาน ตอบอย่างละอายใจ
ในความเป็นจริง เธอรู้ว่าครอบครัวของพวกเขาปฏิบัติต่อ เยว่เฟิง อย่างไร เธอเองก็ไม่ค่อยดีกับ เยว่เฟิง นับประสาอะไรกับคนอื่น
"โกหก!"
ดวนเทียนซิง กำหมัดแน่นและมองไปที่หลิวรูหยานอย่างเย็นชา
หลิวรูหยานสั่นไปทั้งตัว เธอมองดวนเทียนซิงด้วยความสงสัย เหตุใดดวนเทียนซิงจึงสนใจคนชั้นผู้น้อยอย่างเยว่เฟิง?
"คุณดวน ที่ฉันพูดเป็นความจริง อีกอย่าง ... เยว่เฟิงเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรากำลังคุยกันหรือค่ะ?" หลิวรุยยานถามอย่างระมัดระวัง
ดวนเทียนซิง ตอบอย่างเย็นชา:
"ไม่เกี่ยวข้อง แค่รู้สึกไม่พอใจแทนเขา ได้เจอกับพวกคุณก็ถือว่าเขาซวยเอง”
"ตระกูลหลิวจะปฏิบัติต่อเขาแบบนั้นก็ช่างเถอะ แต่คุณที่เป็นภรรยาของเขาก็ปฏิบัติกับเขาแบบเดียวกัน คุณไม่รู้ว่าในชาตินี้คุณได้พลาดผู้ชายผู้ชายที่ดีแค่ไหน ไม่น่าแปลกใจที่ครอบครัวหลิวของคุณต้องมีวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญด้วย ความเคารพ ตระกูลหลิวของคุณควรพิจารณาตัวเองให้ดีๆนะ "
หลังจากพูดเสร็จแล้ว ดวนเทียนซิง ก็ลุกขึ้นยืนและเตรียมพร้อมที่จะออกไป
"ผมจะไปแล้ว พวกคุณดูแลตัวเองให้ดีๆเถอะ"
ในขณะนี้หลิวรูหยาน เรียกดวนเทียนซิงให้อยุดก่อน:
"คุณดวน เดี๋ยวก่อน!”
ร่างกายของหลิวรูหยานสั่นสะเทือนครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธ น้ำตาคลอเป้า
ถ้าเธอเปลี่ยนใจดวนเทียนซิงไม่ได้ในวันนี้ กลับไปเธอจะต้องจมน้ำลายของคนตระกูลหลิวตายแน่ ไม่เพียงเท่านี้ ตามสันดานของคนตระกูลหลิว เขาจะเป็นคนบาปของบ้านตระกูลหลิวแน่นอน
"จะทำยังไงดี ฉันต้องใช้ร่ายกายของฉันแลกอย่างนั้นหรือ ... "
"ฉันจะทำแบบนี้ได้ยังไง ... ”
หลิวรูหยาน กังวลมากจนเธอร้องไห้
เมื่อเห็นหลิวรูหยานผิดสังเกต ดวนเทียนซิง ก็ขมวดคิ้วและถามเธอว่า:
"เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved