บทที่ 226 ชนะ

พนักงานใหม่อีกคนหนึ่งก็มองมาทางหนิงเฮ่าปิงเขารู้สึกได้ถึงสายตาของฝ่ายตรงข้ามจึงได้จ้องและตะโกนไปว่า"มองอะไร!"

คนคนนั้นรู้ว่าหนิงเฮ่าปิงและเจียนซือซือได้รับความชื่นชอบจากเจ้านายมากกว่าตนประกอบกับนิสัยเดิมที่ไม่ชอบทะเลาะเบาะแว้งกับใครจึงได้ก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไร

ส่วนหนิงเฮ่าปิงที่ไม่รู้จะไประบายที่ไหนจึงได้แต่กัดฟันกรอดๆ

เขารู้สึกต่ำต้อยมาก!

ก็แค่คนที่ไม่มีวุฒิการศึกษาสูงเท่าเขาวิทยานิพนธ์ก็ไม่ได้เขียนดีไปมากกว่าเขาได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ยังเกาะเมียกินกล้าดียังไงมากล่าวว่าแผนงานของเขาไร้ประโยชน์!

รู้หรือเปล่าว่าเศรษฐกิจทางการตลาดคืออะไร?

รู้หรือเปล่าว่าการบริหารการเงินคืออะไร?

รู้หรือเปล่าว่าอะไรคือFMSอะไรคือADM!

อะไรก็ไม่รู้!แล้วกล้าดียังไงมาตำหนิเขา!เพียงเพราะแต่ละเดือนมีรายได้หลายล้านเท่านั้นเหรอ?

เหอะๆก็แค่โชคดีเท่านั้นเองทำเย่อหยิ่งอะไร!

วินาทีหนึ่งหนิงเฮ่าปิงอยากจะปัดเมาส์ลงจากโต๊ะแล้วเดินออกไปทันที

แต่เขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขายังไม่อยากไปหรือเพราะเสียดายงานนี้แต่เป็นเพราะในใจของเขามันอึดอัดเขาจะต้องทำให้ให้หมอนั่นรู้ให้ได้ว่าคนที่มีความสามารถจริงๆเป็นอย่างไร!จะต้องทำให้เขารู้ว่าการที่ดูถูกเขาในตอนนี้เป็นความผิดมหาศาล!

หลังจากที่เขาพิสูจน์สิ่งเหล่านี้เรียบร้อยแล้วหนิงเฮ่าปิงก็จะจากไปอย่างไม่ไยดีทำให้ไอ้คนที่มีตาหามีแววไม่เสียดายที่ทำกับเขาแบบนี้!

อารมณ์โกรธของหนิงเฮ่าปิงนั้นฮั่วปู้ฝานสังเกตได้และคล้ายกับได้ยินว่าเขาตัดพ้อต่อว่าเจียนซือซือ

ฮั่วปู้ฝานส่ายหัวเล็กน้อยด้วยท่าทางผิดหวัง

แม้ว่าเขาจะมีอุดมการณ์ที่ไม่เลวแต่นิสัยใจร้อนเกินไปหากว่าเป็นกรณีอื่นบางทีฮั่วปู้ฝานอาจจะให้โอกาสเขาอีกครั้งให้เขาไปฝึกฝนในพื้นที่ซัก2-3ปีขัดเกลาให้เรียบร้อยแต่ในตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์และไม่มีเวลามากขนาดนั้น

เจ้าตัวปลอมนั่นมันใกล้จะลงมือแล้วตนจะมีเวลาที่ไหนไปขัดเกลาใครอีกในเมื่อชอบวิธีแหลมคมเช่นนี้ก็ปล่อยให้เขาพุ่งเข้าชนไปเถอะ

ความเป็นจริงจะสอนเขาเองว่าทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง

ฮั่วปู้ฝานเดินไปยังคอมพิวเตอร์ที่หนิงเสี่ยวฉินใช้จากนั้นป้อนรหัสเข้าไปแล้วเปิดตารางรายงานช่วง2-3วันนี้ขึ้นมาดู

ด้านในคือข้อมูลปริมาณการขายในแต่ละวันยอดของกำไรและต้นทุนถูกจัดการโดยหนิงเฮ่าปิงและทีมงานข้อมูลรวมไปถึงจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากทั่วประเทศบันทึกน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงไปต่างๆล้วนปรากฏอยู่ในตาราง

ตัวอักษรตัวเลขรูปภาพและกราฟต่างๆยิ่งดูยิ่งตาลาย

แต่สำหรับฮั่วปู้ฝานแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นแค่ข้อมูลที่ง่ายๆ

อ้างอิงจากตารางที่เขาดูเมื่อสักครู่ช่วงนี้กำไรพุ่งขึ้นสูงกว่าเดิมมากหากเปรียบเทียบกับเมื่อ2สัปดาห์ก่อนตอนนี้พูดได้ว่าเพิ่มขึ้นเป็น2เท่า

โดยเฉพาะสองสามวันนี้ยอดขายเฉลี่ยวันละ4-5แสนหยวนดูจากสถานการณ์ตอนนี้ภายใน2-3วันก็น่าจะทะลุเป้าห้าแสน!

และหนึ่งในนั้นยอดขายของอาหารลดน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นถือได้ว่าเป็นตัวกระตุ้นสำคัญ

เป็นไปดังที่ฮั่วปู้ฝานคาดการณ์ไว้ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักซื้อครั้งหนึ่งสามารถกินได้นานแต่อาหารมื้อสำหรับลดน้ำหนักนั้นจะต้องกินทุกวันอย่างน้อย1มื้อหรือ2มื้อ

ดังนั้นโปรโมชั่นในตอนแรกที่ซื้อผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักบวกเพิ่ม1หยวนจะสามารถแลกซื้ออาหารมื้อลดน้ำหนักในราคา10หยวนได้จึงไม่ใช่กำไรในการขายอีกต่อไป

ในแต่ละวันมีผู้คนที่สั่งซื้อเฉพาะอาหารมื้อลดน้ำหนักเกินกว่า6,000คนและเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวันเป็นหลักร้อย

พวกเขาทำความร่วมมือกับบริษัทขนส่งค่อนข้างประสบความสำเร็จการขนส่งโดยรถไฟความเร็วสูงนั้นให้ผลลัพธ์ดีกว่าการจัดส่งแบบธรรมดาซึ่งสามารถจัดส่งสินค้าได้ภายใน12ชั่วโมงทั่วประเทศ

จากสถานการณ์ตอนนี้แทบจะไม่มีกรณีชดเชยเงินเนื่องจากส่งสินค้าช้ากว่ากำหนดเลย

อีกอย่างหนึ่งการชดเชยเมื่อจัดส่งล่าช้าเขาได้ทำสัญญากับบริษัทขนส่งแล้วว่าจะให้พวกเขาเป็นคนรับผิดชอบ

แม้ว่าจัดส่งช้ากว่า1ชั่วโมงจะเสียเงินไม่มากเท่าไหร่แต่ขายุงยังไงก็ยังมีเนื้อบริษัทขนส่งไม่อยากจะต้องไปเสียเล็กเสียน้อยแบบนี้

เนื่องจากออเดอร์อาหารมื้อลดน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆทางบริษัทขนส่งได้ทำความร่วมมือกับไปรษณีย์ในท้องที่ให้จัดทีมเพื่อจัดส่งสินค้าโดยเฉพาะและมีการจัดส่งทุกวันเพื่อรับประกันว่าจะไม่มีการเลยเวลาจัดส่งล่าช้า

ในหนังสือสัญญาหนิงเสี่ยวฉินได้เพิ่มข้อตกลงเข้าไปว่าแต่ละเดือนกรณีจัดส่งล่าช้าต้องไม่เกิน10,000ละ5ไม่เช่นนั้นจะต้องชดเชยคำสั่งซื้อละ2,000หยวน

อาหารลดน้ำหนัก1มื้อราคาแพงสุดคือ20หยวนแต่จะต้องชดเชยเป็นเงินถึง2,000หยวน

ข้อตกลงนี้ฮั่วปู้ฝานเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งแต่เขารู้สึกว่าเงินชดเชยนั้นค่อนข้างต่ำ

เนื่องจากหากการจัดส่งล่าช้าลูกค้าของเขาไม่ได้โทษบริษัทขนส่งแต่กลับคิดว่าร้านtaobaoนั้นไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้

ไหนบอกว่าจัดส่งทั่วประเทศภายใน12ชั่วโมงทำไมตนถึงไม่ได้รับการบริการนี้?

นี่อาจทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงและชื่อเสียงนี้มิอาจชดเชยได้ด้วยเงินทองผู้คนสมัยนี้ค่อนข้างหยิ่งผยองอีกทั้งการแข่งขันในอาชีพเดียวกันก็ค่อนข้างสูงหากทำให้พวกเขาไม่พอใจครั้งหนึ่งเพราะเขาอาจจะไม่มาซื้อสินค้าคุณเลยตลอดชีวิต

อย่าว่าแต่คำสั่งซื้อละ2,000หยวนเลยคำสั่งซื้อและ200,000หยวนฮั่วปู้ฝานก็ไม่คิดว่ามาก

เมื่อดูอยู่สักพักหนิงเสี่ยวฉินจึงได้เดินมาแล้วถามว่า"เป็นยังไงบ้างคะ?"

"ไม่เลวเลยครับแต่ในเรื่องของต้นทุนนั้นผมคิดว่าน่าจะลดลงอีกสักหน่อยรบกวนคุณลองหาบริษัทแปรรูปอาหารมืออาชีพแล้วต่อราคากับพวกเขาสักหน่อยตอนนี้พวกเราใช้กล่องอาหารเดลิเวอรี่แต่ละเดือนจำนวนไม่น้อยก่อนหน้านี้เราซื้อโดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าราคาค่อนข้างสูงถ้าหากสามารถนำเข้าสินค้าจากโรงงานโดยตรงน่าจะลดต้นทุนการผลิตได้แต่เรื่องของคุณภาพก็ต้องได้มาตรฐานเรื่องนี้จะต้องทำให้ดีขึ้นลดลงไม่ได้เด็ดขาดอีกอย่างเรื่องของบริษัทบริการลูกค้าคุณก็ลองคุยกับพวกเขาดูว่าสามารถเพิ่มพนักงานได้หรือไม่แต่เงินเดือนที่เราให้นั้นจะต้องลดลงและในขณะเดียวกันต้องรับประกันว่าเงินเดือนของพนักงานเหล่านั้นจะต้องไม่น้อยไปกว่าเดิมให้บริษัทบริการลูกค้าเป็นคนชดเชย"

"เรื่องนี้ฉันเคยคุยกับพวกเขาแล้วตอนนี้พนักงานคอลเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นเป็น150คนพวกเราจ่ายเงินเดือนจำนวนร้อยละ80ส่วนอีก20เปอร์เซ็นต์ที่เหลือภายในบริษัทของพวกเขาจัดการกันเองแต่เพื่อรับประกันว่าเงินเดือนของพนักงานเหล่านั้นไม่น้อยลงพวกเราจะทำการเข้าตรวจสอบในทุกเดือนโดยไม่แจ้งล่วงหน้า"หนิงเสี่ยวฉินพูด

ฟังไปแล้วข้อเสนอนี้ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก

ทางบริษัทหาพนักงานมาให้แต่จะให้พวกเขาช่วยจ่ายเงินเดือนนี่มันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ?

ถ้ามีพนักงานคอลเซ็นเตอร์เพียงแค่1-2คนหรือแม้แต่20คนก็แทบจะไม่มีบริษัทไหนยินยอมที่จะทำตามข้อเสนอนี้แล้ว

จากเงินเดือนพนักงานคอลเซ็นเตอร์มาตรฐานในตอนนี้อยู่ที่เดือนละประมาณ7000หยวน100คนก็คือ1ล้านหยวนในแต่ละปีต้องจ่ายเงินเดือนหลายสิบล้าน

บริษัทบริการลูกค้านี้หักค่านายหน้าของพนักงานร้อยละประมาณ30ซึ่งหมายความว่าหนิงเสี่ยวฉินให้เงินเดือนพวกเขาคนละ7000หยวนแต่เงินเดือนที่พนักงานได้รับจริงๆไม่ถึง5000หยวน

ตอนนี้หนิงเสี่ยวฉินให้พวกเขาชำระเงินเดือนแก่พนักงานเองร้อยละ20ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะหักค่านายหน้าได้แค่ร้อยละ10เท่านั้น

ฟังไปแล้วอัตราส่วนของค่านายหน้าลดลงถึง2ใน3ดูเหมือนจะมากไปสักหน่อย

แต่อย่าลืมไปว่าแม้พวกเขาจะหักเพียงร้อยละ10ในแต่ละเดือนก็ได้จำนวนถึง100,000หยวนปี1ก็คือ1ล้านหยวน

ที่สำคัญก็คือตอนนี้โปรโมชั่นยังไม่ได้ถึงจุดอิ่มตัว

ตามแผนที่ฮั่วปู้ฝานวางไว้แล้วนั้นช่วงอิ่มตัวอาจจะต้องใช้จำนวนคอลเซ็นเตอร์อย่างน้อย300หรือ400คนจึงจะเพียงพอ

เนื่องจากตอนนี้ในแต่ละวันมีผู้เลือกซื้อถึงหลายพันคนจำนวนคอลเซ็นเตอร์เพียงแค่100กว่าคนอาจจะต้องตอบข้อมูลของลูกค้าในเวลาพร้อมกันถึง10คนเพราะเขาจึงวุ่นจนแทบไม่มีเวลา

คอลเซ็นเตอร์3-400คนนั่นหมายความว่าพวกเขามีรายได้ถึงเดือนละหลายแสนตัน

สำหรับบริษัทบริการลูกค้าแล้วนี่คือลูกค้ารายใหญ่ของแท้

ในเมื่อเป็นลูกค้ารายใหญ่แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องพยายามทำตามที่ลูกค้าต้องการให้มากที่สุด

อย่าว่าแต่เรื่องที่หนิงเสี่ยวฉินบอกว่าให้พวกเขาจ่ายเงินเดือนให้พนักงานเองร้อยละ20ถ้าเธอบอกจำนวนที่เยอะกว่านั้นทางบริษัทก็ยินดีตอบรับ

พวกเขาไม่ได้ลงมืออะไรสักหน่อยเพียงแค่นอนรอรับเงินเท่านั้น

บริษัทแบบนี้พวกเขารับสมัครพนักงานจากตามเว็บไซต์แต่ละบริษัทมีจำนวนคอลเซ็นเตอร์อยู่หลายพันหรือหลายหมื่นคนก็เป็นได้ที่กำลังรอคอยงาน

"ได้ครับมองดูแล้วคุณน่าจะเคยชินกับงานผู้จัดการใหญ่แล้วดีมากครับ"ฮั่วปู้ฝานยิ้มแล้วพูดขึ้น

หนิงเสี่ยวฉินจูบที่ใบหน้าของเขาอย่างไม่อายใครแล้วพูดว่า"นั่นก็เพราะว่าคุณเก่งไงคะ"

เธอช่างใจกล้าจนฮั่วปู้ฝานไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี"ตรงนั้นมีคนอยู่นะครับ"

"ฉันยังไม่กลัวคุณกลัวอะไรกัน?"หนิงเสี่ยวฉินพูดจบก็เอามือโอบไปที่คอของเขา"ก็ฉันชอบที่จะตัวติดกับคุณแบบนี้นี่คะทั้งชีวิตฉันขอเป็นแบบนี้ตลอดไปจะไม่มีใครสามารถมาแยกเราจากกันได้!"

คำบอกรักที่ได้ยินโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ฮั่วปู้ฝานตกตะลึงและสัมผัสได้ถึงความรักของภรรยาเขาไม่ได้พยายามขัดขืนแต่ปล่อยให้เธอโอบคอเขาต่อไปแล้วพูดว่า"ครับไม่มีใครมาแยกเราจากกันได้!"

ในห้องทำงานเจียนซือซือแอบมองภาพข้างหน้านี้ด้วยความอิจฉา

หลังจากนั้นเธอก็เหลือบมองไปยังหนิงเฮ่าปิงที่ยังคงหน้าเขียวหน้าเหลืองจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตาเขม็งราวกับมันเป็นศัตรูเธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

และในวินาทีนี้จู่ๆเธอก็มีความคิดขึ้นมาว่า"ถ้ามีผู้ชายเหมือนท่านประธานมาเป็นแฟนก็คงจะดีสินะ"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

827