บทที่15 เจ้าเสือน้อยพวกนี้ น่าเกลียดน่าชังเสียจริง

ซากศพของเหล่าราชองครักษ์ที่ไม่ทันได้มีโอกาสหนี ถูกขย้ำจนแหลกกระจายไปทั่วทั้งผืนป่า แต่จะว่าไป เหล่าราชองครักษ์พวกนี้ก็จงรักและภักดีต่อผู้นำของตนกันเสียจริง

ทางด้านเจ้าเสือภูเขาหิมะเองก็รีบหลบหนีไปพร้อมกับบาดแผลฉกรรจ์ เหลิ่งเทียนหมิงเห็นดังนั้น จึงแอบย่องตามไปทันทีอย่างไม่ลังเล จนกระทั่งเจ้าเสือเดินมาถึงหน้าหุบเขาหินแห่งหนึ่ง และได้เดินหายเข้าไปในถ้ำมืดบริเวณตีนเขา เหลิ่งเทียนหมิงเฝ้าดูอยู่นาน และคิดว่าเจ้าเสือภูเขาหิมะอาจจะหนีเข้าไปตายอย่างเดียวดายในถ้ำมืดแห่งนั้น

เหลิ่งเทียนหมิงกัดฟันแน่น พลางคิดในใจว่า บางที...นี่อาจจะเป็นโอกาสที่ทำให้เขาได้พิสูจน์ตนเองต่อคนทั้งวังหลวงก็ได้ เขาจึงตัดสินใจย่องเข้าไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเขาได้เห็นร่างของเจ้าเสือใหญ่อย่างเต็มตา แต่สิ่งที่ทำให้ตาทั้งสองข้างของเขาต้องเบิกโพลง ก็คือก้อนขนเล็ก ๆ สองก้อนที่กำลังแดดิ้นอยู่ใต้พุงเจ้าเสือตัวใหญ่…

แม่เจ้า นั่นมันลูกเสือนี่นา ดูเหมือนเพิ่งคลอดออกมาหมาด ๆ เสียด้วย แสดงว่าร่างกายของเจ้าเสือใหญ่ในตอนนี้ เป็นช่วงที่กำลังอ่อนแอและต้องการการบำรุงมากที่สุด แต่มันก็ยังแข็งใจปกป้องลูกน้อยในครรภ์ จนสามารถรอดชีวิตกลับมาได้ รักของแม่...ช่างเป็นรักที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ

เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนแม่เสือกับลูกน้อย เหลิ่งเทียนหมิงจึงทำได้แค่เฝ้ามองมันอยู่ห่าง ๆ และเขารู้ดีว่า ถ้าหากแม่เสือยังสามารถลุกขึ้นมาได้ ชีวิตของเขาก็คงจะจบลงอย่างง่ายดายในป่าลึกแห่งนี้…

ถึงแม้ว่าเจ้าเสือน้อยจะยังไม่ประสีประสา แต่พวกมันก็ยังช่วยกันเลียบาดแผลของแม่ผู้ให้กำเนิด สลับกับการดูดนมจากเต้าตามสัญชาตญาณ และคราใดที่ลูกเสือส่งเสียงคำรามเจื้อยแจ้วขึ้นมา แม่เสือก็จะส่งเสียงคำรามขานรับอยู่เป็นระยะ จนกระทั่งเสียงของมันค่อย ๆ แหบหายไปกับความอ่อนล้า

เหลิ่งเทียนหมิงจึงรวบรวมความกล้า และเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ดวงตาของแม่เสือก็เบิกกว้างขึ้น พร้อมกับปลายจมูกที่เคลื่อนไหวไปมาตามสัญชาตญาณของสัตว์นักล่า และทันทีที่มันเห็นเหลิ่งเทียนหมิงใกล้เข้ามา มันก็เริ่มส่งเสียงคำราม พร้อมทำท่าจะลุกขึ้นมาจัดการกับเหลิ่งเทียนหมิง แต่ไม่ว่ามันจะพยายามแข็งใจลุกขึ้นมาอย่างไร ร่างกายของมันก็ไม่ยอมตอบสนองต่อคำสั่งของมันอีกแล้ว

มันจึงทำได้เพียงแค่จ้องมองเหลิ่งเทียนหมิงด้วยสายตาดุร้าย แต่เหลิ่งเทียนหมิงกลับพุ่งความสนใจไปยังเจ้าเสือน้อยน่ารักสองตัว ที่กำลังร้องเรียกแม่ของมันอย่างไม่ยอมหยุดปาก เพราะขนของเจ้าเสือน้อยสองตัวนั้น เป็นสีเหลืองทองอร่ามแปลกตา แบบที่เขาเองก็ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน

“นี่ เจ้าเสือ ตัวเจ้าหนะ บาดเจ็บจนเสียเลือดมากเกินไป จะรอดคืนนี้ไปได้หรือไม่ ข้าก็ไม่รู้... ต่อให้ข้าไม่พาลูกของเจ้าหนี ลูก ๆ ของเจ้าก็อาจจะตายตามแม่ของมันไปในไม่ช้า และที่ยิ่งไปกว่านั้น หากมีกลุ่มนักล่าบุกเข้ามาเจอพวกเจ้าที่นี่ พวกเจ้าทั้งสามแม่ลูกก็คงจะหนีไม่รอดกันหรอกนะ เพราะฉะนั้น ให้ข้าช่วยพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายเถิด”

แม่เสือจ้องมองเหลิ่งเทียนหมิง จนกระทั่งลมหายใจของมันเริ่มรวยริน เมื่อเหลิ่งเทียนหมิงมั่นใจแล้วว่าแม่เสือไม่สามารถลุกขึ้นมาได้จริง เขาจึงค่อย ๆ ยื่นมือเข้าไปลูบหัวเจ้าเสือน้อยทั้งสองตัวอย่างเบามือ

ช่างน่าเกลียดน่าชังเสียจริง ถ้าฉันอุ้มเจ้าเสือน้อยกลับไปให้เสี่ยวหลัน นางต้องชอบใจมากแน่ ๆ แต่ถ้าหากฉันอุ้มเจ้าเสือน้อยกลับไปให้องค์ชายรอง ชะตากรรมของเจ้าเสือพวกนี้จะเป็นเช่นไรนะ?

เหลิ่งเทียนหมิงจินตนาการถึงเสือใหญ่หลายตัวที่ถูกฝึกให้เป็นทาสอยู่ในคณะละครสัตว์ ก่อนจะก้มลงมองเสือน้อยสองตัวที่กำลังเงยหน้ามองเขาตาปริบ ๆ

“เฮ้อ… พวกเจ้าอย่าโกรธเคืองข้าเลยนะ ข้าเองก็อับจนหนทางแล้วเช่นกัน เห็นข้าใจดีแบบนี้ ข้าก็รักตัวกลัวตายเหมือนกันนะ”

พูดจบ เหลิ่งเทียนหมิงก็สอดมือเข้าไปใต้ท้องแม่เสือ เพื่อจะอุ้มลูกเสือทั้งสองตัวออกมา

“โฮกกก…”

แม่เสือใช้กำลังเฮือกสุดท้ายส่งเสียงคำรามทั้งน้ำตา เพื่ออ้อนวอนเหลิ่งเทียนหมิงอย่างสุดชีวิต

“แม่เจ้า นี่น้ำตาของเสือใหญ่จริง ๆ หรือนี่? ปัดโธ่...ช่างเถอะ ข้าเองก็ทำไม่ลงจริง ๆ เพราะฉะนั้น...ให้ฟ้าดินเป็นผู้ลิขิตชีวิตของพวกเจ้าเองก็แล้วกัน ข้าไปล่ะ”

พูดจบ เหลิ่งเทียนหมิงก็หันหลังให้กับครอบครัวเสือใหญ่ และพร้อมจะเดินจากไปในทันที แต่ทว่า แม่เสือกลับร้องเรียกเหลิ่งเทียนหมิงอีกครั้ง พร้อมกับส่งสายตาวิงวอนต่อเขาอย่างเดิม…

เจ้าเสือตัวนี้ รู้จักร้องขอความช่วยเหลือเหมือนอย่างมนุษย์เลยแฮะ แต่ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าจะช่วยพวกเจ้าได้ยังไง...

โอ้! จริงสิ…พวกพลทหารที่อยู่ข้างนอกนั่น ขนยากับเสบียงเข้าป่ามาด้วยนี่นา ยาพวกนั้นจะต้องช่วยรักษาชีวิตของเจ้าเสือได้แน่ แต่ถ้าหากฟ้าดินลิขิตให้แม่เสือต้องตาย ฉันเองก็คงจะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของแม่เสือไม่ได้ เหลิ่งเทียนหมิงครุ่นคิดอยู่นาน จนในที่สุด...เขาก็เลือกที่จะทำตามใจตัวเอง

“เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้นะ ข้าจะต้องไปเอายามารักษาเจ้าให้ได้ การที่ข้าได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในโลกของเจ้า มันก็น่าขันมากพอแล้ว แค่ต้องไปขโมยยาจากค่ายของท่านอ๋องมา มันคงไม่หนักหนาอะไรแล้วล่ะ ขอให้ผลบุญที่ข้าทำในโลกนี้ ส่งผลให้ข้าได้ดีในโลกเดิมด้วยเถอะ…”

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

528