บทที่ 16 พี่เสือใหญ่ อยากผูกมิตรด้วย

เมื่อมาถึงด้านนอกของสนามรบ ศพเหล่านั้นยังคงอยู่ที่นั่น เหลิ่งเทียนหมิงรีบเก็บสัมภาระที่กระจัดกระจายตกอยู่เกลื่อนกลาด แล้ววิ่งกลับไปที่ถ้ำ เวลานี้เลือดของเสือภูเขาหิมะตัวนั้น เกือบจะหยุดไหลแล้ว และลมหายใจก็น้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน

เหลิ่งเทียนหมิงหยิบยาห้ามเลือดออกมา แล้วช่วยทาให้เสือภูเขาหิมะตัวนั้น พร้อมทั้งนำผ้าพันแผลมาพันแผลให้มัน ท้ายที่สุดแล้ว ลูกธนูบนขาของเสือภูเขาหิมะนั้น มันทรงพลังอย่างมาก เพราะว่ามันสามารถทะลุผ่านขาหน้าไปได้ทั้งหมดเลย

เหลิ่งเทียนหมิงใช้มีดตัดลูกธนูออกก่อน จากนั้นก็ลองดึงออกมา แต่ก็คิดเตรียมการอยู่หลายครั้ง เพราะกลัวว่าด้วยความเจ็บปวดของเสือภูเขาหิมะมันอาจจะกระโจนเข้าใส่ได้ แต่ความเป็นจริงก็คือคิดมากเกินไป เพราะตลอดขบวนการขั้นตอนเสือภูเขาหิมะได้หมดสติไปแล้ว

รอจนกระทั่งพันแผลเสร็จเรียบร้อย เหลิ่งเทียนหมิงก็วิ่งออกไปด้านนอกอีกครั้ง ใช้กิ่งไม้มาปกปิดร่องรอยคราบเลือดของเสือภูเขาหิมะ และทำอำพรางตรงทางเข้าถ้ำด้วย

ที่นี่มีคนตายมากมายขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะมีคนมา ก็น่าจะเดาไม่ออก ว่าเสือภูเขาหิมะยังคงอยู่ที่นี่ อีกทั้งทางเข้าถ้ำนี้ก็ค่อนข้างอำพรางซ่อนเร้น ตามคำกล่าวที่ว่า ที่อันตรายที่สุด ก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด

หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เหลิ่งเทียนหมิงก็เหนื่อยล้าหมดแรง มองดูลูกเสือสองตัวที่หลับสนิท ก็ไม่สนใจอะไรอีก จึงล้มตัวลงแล้วนอนหลับไปข้างๆ

ทางด้านนอกนั้นมีเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้น เหลิ่งเทียนหมิงจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ทางด้านนอกเป็นกองกำลังทหารที่กำลังค้นหาผู้บาดเจ็บล้มตายอยู่

และยังได้ยินเสียงตะโกนอย่างรางๆ ว่า

"ยังมีคนอีกหรือไม่? มีผู้รอดชีวิตไหม?"

"องค์ชายหก! องค์ชายเจ็ด"

"ตรงนี้...ตรงนี้พบองค์ชายหกแล้ว เพียงแต่...พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว...”

"จบสิ้น จบสิ้นแล้ว ครั้งนี้ต้องจบสิ้นแล้วจริงๆ องค์ชายสิ้นพระชนม์ไปหนึ่งพระองค์ ยังสูญหายไปอีกหนึ่งพระองค์ บรรดาราชวงศ์ก็ล้มตายไปนับไม่ถ้วน กองทัพทหารคุ้มกันของเราจะต้องจบสิ้นแล้วเป็นแน่ ฮือๆๆ...”

พูดจบก็ร้องไห้ออกมา

เหลิ่งเทียนหมิงอดคิดไม่ได้ว่า องค์ชายหกสิ้นพระชนม์แล้วหรือ? น่าเสียดายจัง เสด็จพี่หกคนนี้ของข้า รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรข้าจำไม่ได้หรอก แต่คาดเดาว่าครั้งนี้เหล่าเฉิงคงจะต้องซวยแน่ๆ เขามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลกองทัพทหารคุ้มกันพันครัวเรือนของเรา ก็ไม่รู้ว่าจุดจบคืออะไร กำลังครุ่นคิดอยู่ จู่ๆ เหลิ่งเทียนหมิงก็หันไปมองเสือภูเขาหิมะข้างๆ

"เชี่ย...”

เห็นเสือภูเขาหิมะที่บาดเจ็บสาหัสตัวนั้น ไม่รู้ว่าลืมตาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมันกำลังจ้องมองมาที่ตน

ชั่วพริบตาเหลิ่งเทียนหมิงก็เหงื่อออกเต็มไปหมด พูดด้วยตัวสั่นงันงกว่า : "แหะๆ พี่เสือใหญ่ ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ เห็นว่าเจ้าบาดเจ็บข้าเลยพันแผลให้ เจ้าอย่าจ้องมองข้าอย่างนี้สิ ข้าเพียงแค่...เพียงแค่อยากผูกมิตรด้วยเท่านั้น"

เวลาพูดเหลิ่งเทียนหมิงยังทำท่าทำทางพันแผลให้ดูด้วย

ก็น่าแปลก หลังจากที่เหลิ่งเทียนหมิงพูดจบ คาดไม่ถึงว่าเสือภูเขาหิมะจะหลับตาลงอย่างเงียบๆ

เหลิ่งเทียนหมิงในเวลานี้ ในใจนั้นรู้สึกหวั่นไหวอย่างมาก จะออกไปก็กลัวถูกคนพบเห็น ว่าตนเองอยู่ด้วยกันกับเสือ แล้วจะอธิบายอย่างไรดี? แต่ถ้าไม่ออกไปตนเองก็รู้สึกกลัว อยากจะนอนหลับก็ไม่กล้านอน ไม่นอนก็รู้สึกอ่อนล้ามากเหลือเกิน...

ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เหลิ่งเทียนหมิงได้รู้สึกจั๊กจี้บนใบหน้า เมื่อลืมตาขึ้น ก็ต้องตกใจ ที่แท้เจ้าเสือหิมะตัวน้อยก็มาอยู่ที่ใบหน้าของตน แล้วถูไปถูมา เหลิ่งเทียนหมิงทนไม่ไหวจึงอุ้มลูกเสือขึ้นมา

"เจ้าเด็กน้อย กล้ามารบกวนการพักผ่อนของข้ารึ ว้าว…วู้…"

จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันไปมองข้างๆ เห็นว่าเวลานี้ เสือภูเขาหิมะตัวใหญ่ยังคงนอนมองตนเองอยู่ตรงนั้น แต่ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บจะดีขึ้นบ้างแล้ว และสามารถขยับหัวได้แล้ว

เหลิ่งเทียนหมิงยิ้มเจื่อนๆ และวางลูกเสือลงข้างๆ เสือภูเขาหิมะตัวนั้น

"พี่ใหญ่ ทำเพื่อความสนุกสนาน เพื่อความบันเทิง อย่าเข้าใจผิดเลยนะ แหะๆ...”

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวันของวันที่สองแล้ว เหลิ่งเทียนหมิงหยิบอาหารในห่อผ้าออกมา แล้วเริ่มแบ่งปันให้เสือทั้งสามตัว และตนเองก็กินอย่างอิ่มอกอิ่มใจ

เวลานี้องค์ชายรองที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังคงหมดสติอยู่ เหลิ่งเลี่ยอ๋องก็ทรงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จึงสั่งให้จับขังกองกำลังคุ้มกันที่ติดตามไปเมื่อวานนี้ทั้งหมด

ณ กองบัญชาการใหญ่ ในกระโจมหลัก

เหลิ่งเลี่ยอ๋องมองผู้คนที่คุกเข่าอยู่เบื้องล่าง แล้วทรงเอ่ยถามว่า : "เป็นอย่างไรบ้าง?"

คนด้านล่างก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น พูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า "ค้น…ค้นหาตลอดทั้งคืนแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์…องค์ชายหกสิ้นพระชนม์แล้ว ส่วน…องค์ชายเจ็ดสูญหายไปพ่ะย่ะค่ะ"

"ปัง...”

เสียงตบโต๊ะดังสนั่นหวั่นไหว

"ไร้ประโยชน์ คนจำนวนมากมายขนาดนี้ไม่สามารถดูแลองค์ชายเพียงไม่กี่พระองค์ได้ อีกทั้งเจ้าหกยังถูกทำร้ายจนสิ้นพระชนม์ แล้วก็…”

เหลิ่งเลี่ยอ๋องคิดจะพูดว่าแล้วก็เจ้าเจ็ดอีก แต่ฉับพลันก็ทรงได้สติกลับมา เดิมทีแล้วตนเองก็นึกไม่ออกว่าเจ้าเจ็ดคือใครกัน?

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

528