บทที่ 4 ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย

หลังจากส่งทั้งสามคนขึ้นรถออกไปด้วยสายตา

พวกของชายหัวโล้น ค่อยได้สติคืนมา

“หัวหน้า เราจะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้เหรอ?”

เหล่าลูกน้องได้เข้าไปช่วยพยุงชายหัวโล้นขึ้น ทั้งยังลังเลอยู่ว่าจะตามไปดีหรือไม่ตามไปดี?

“เหลวไหล!ถ้าไม่ปล่อยพวกเขาไป แกคิดว่าจะสู้กับชายผู้นั้นได้เหรอ?”

ชายหัวโล้นเอามือกุมแก้มฝั่งที่บวมปูดออกมาด้วยความหวาดผวา

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาถูกคนทุบตีจนน่าอนาถขนาดนี้

ที่ยิ่งไปกว่านั้น ในมือชายผู้นั้นยังถือประกาศิตราชามังกรอยู่

“ไป!พวกเรารีบกลับกัน!”

ชายหัวโล้นรู้ถึงความหนักหนาของเรื่องนี้ดี

ต้องรีบเอาเรื่องของประกาศิตมังกร ไปแจ้งหัวหน้ามังกรดำ

ประกาศิตมังกรได้กลับมาสู่โลกอีกครั้ง ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการใต้ดินแน่นอน

……

“ฮีโร่ คุณเก่งมากเลย!”

บนรถ

หัวกั๋วต้งมือหนึ่งจับพวงมาลัย อีกมือหนึ่งยกนิ้วโป้งให้เย่เฟิง

เพียงหนึ่งหมัดก็สามารถหยุดลูกน้องของมังกรดำได้ นี่ไม่ใช่แค่เก่งแล้ว

ถ้าไม่ใช่ว่าเพิ่งเจอกันครั้งแรก ยังไม่คุ้นเคยกันดีนั้น หัวกั๋วต้งเกือบจะได้กราบกรานเขาเป็นอาจารย์แล้ว

คุณเย่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณนายจริงๆ ที่เข้ามาช่วย ในใจของจ้าวว่านถิงรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก

ถ้าไม่ได้เจอกับเย่เฟิง รอบนี้พวกเขาน่าจะต้องเสียทั้งเงินทั้งของ

เมื่อเจอกับคำขอบคุณของทั้งสองคน เย่เฟิงกลับไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณ

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เย่เฟิงสงสัย

“พวกเขาต้องการของอะไร?”

จ้าวว่านถิงหยิบพระพุทธรูปหยกออกมาจากกระเป๋าเป้

“พวกนั้นต้องการพระพุทธรูปหยกไง”

“เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ฉันถูกใจพระพุทธรูปหยกองค์นี้เลยไปประมูลมา ตั้งใจว่าจะเอาไปให้เป็นของขวัญวันเกิดของปู่ แต่ประมูลสู้มังกรดำหัวหน้าแก๊งใต้ดิน ไม่ได้”

“ไม่กี่วันก่อน มังกรดำติดต่อฉันมา บอกว่าจะยอดขายให้ฉันในราคาเท่ากับตอนประมูลมา แต่ต้องมารับของในถิ่นของเขา”

“ฉันไม่กล้ามาคนเดียวเลยชวนนายหัวมาด้วย แต่ไม่คิดเลยว่าจะตกหลุมพรางของมังกรดำ”

หัวกั๋วต้งทุบพวงมาลัยรถด้วยความโกรธ “มังกรดำผู้นี้ ไม่รู้จักกฎระเบียบเลยจริงๆ ถ้ารู้อย่างนี้น่าจะพาคนของพ่อมาด้วย ถ้าอยู่ในเยี่ยนจิง ต่อให้มีความกล้ามากกว่านี้สิบเท่าก็คงไม่กล้าทำเช่นนี้!”

เย่เฟิงมองดูพระพุทธรูปหยกองค์นี้ พบว่าถึงแม้จะทำมาจากหยกชั้นดี แต่มีคนลงคาถาซ่อนความลึกลับเอาไว้

“พระพุทธรูปหยกองค์นี้ เป็นของชั่วร้าย ทางที่ดีควรจะเอาไปทำลายซะ เพื่อไม่ให้ทำอันตรายกับตัวเองและคนอื่น” เย่เฟิงเตือนด้วยความหวังดี。

อะไรกัน?

ของชั่วร้าย?

เมื่อทั้งสองได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกยากที่จะเชื่อลง

“ในที่ประมูลบอกว่าพระพุทธรูปหยกนี้ได้รับการปลุกเสกจากพระอาจารย์ชื่อดัง!” จ้าวว่านถิงพูดเสริม

เมื่อเย่เฟิงเห็นว่าพวกเขาไม่เชื่อจึงไม่พูดอะไรอีก

ทั้งสองเห็นว่าเย่เฟิงเงียบลง จึงคิดว่าเย่เฟิงแค่ล้อเล่น ถึงแม้เขาจะต่อยตีเก่ง แต่ก็ไม่น่าจะเก่งไปซะทุกเรื่อง เขาจะมามีความรู้เรื่องพระพุทธรูปหยกได้ยังไง?

แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าอาจารย์ในคุกคนที่สามสิบสามของเย่เฟิงนั้น เป็นนักสะสมของโบราณ ถึงตัดสินโทษเพราะไปปล้นสุสานจักรพรรดิแล้วนำสมบัติชาติไปขาย

เย่เฟิงได้เรียนรู้วิชาเนตรของคำจากเขามา

เย่เฟิงจึงสามารถมองออกว่าถึงความประหลาดของพระพุทธรูปหยกนี้

“อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้โชคดีที่ได้เจอคุณเย่” จ้าวว่านถิงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณยังไงดี”

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอก”

เย่เฟิงไม่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ทั้งสองไม่ยอมให้เขาลงจากรถ

“แต่ฉันไม่ได้ช่วยฟรีหรอกนะ” เย่เฟิงกล่าว “เมื่อซักครู่เพิ่งช่วยไปสองรอบ ต้องเพิ่มเงินให้ด้วย!”

“เอ่อ……” ทันใดนั้นในรถก็กลายเป็นเงียบงัน

หัวกั๋วต้งและจ้าวว่านถิง ทั้งสองคนไม่คิดว่าเย่เฟิงจะพูดตรงๆ ขนาดนี้

“ฮ่าฮ่า!ฮีโร่ของเราเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ!” หัวกั๋วต้งหัวเราะ

“อืม คุณเย่ก็พูดไม่ผิด พวกเราไม่สามารถให้คุณออกแรงไปฟรีๆ” จ้าวว่านถิงพูด “คุณเย่ต้องการค่าตอบแทนเท่าไหร่?”

เรื่องเงินเป็นเรื่องที่ทั้งสองตระกูลนั้นไม่ได้ขาดแคลน

เย่เฟิงคิด ตนออกมาคนเดียว เงินซักแดงก็ไม่มี จึงเปิดปากบอกตัวเลขไป

“งั้นก็ซักสองล้าน!”

จ้าวว่านถิงหยิบการ์ดออกมาทันที โดยไม่พูดอะไรซักคำ

“ในบัตรนี้มีเงินอยู่หนึ่งล้าน รอบหน้าเจอกันเอาเงินที่เหลือมาชดใช้ให้”

จ้าวว่านถิงเห็นเย่เฟิงทั้งมีฝีทือทั้งยังลึกลับ จึงเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก อยากจะหาโอกาสทำความรู้จัก

เดิมทีเงินหนึ่งล้านในการ์ดนี้ เตรียมเอาไว้เผื่อมังกรดำจะขึ้นราคา

แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะเลยเถิดไปขนาดนี้ แต่ก็ยังสมเหตุสมผลที่จะเอาเงินนี้ให้นาย

แน่นอน เธอไม่จ่ายเงินก้อนเดียวเพื่อหาโอกาสได้เจอกันอีก

ในไม่ช้า หัวกั๋วต้งก็ขับรถมาถึงคฤหาสน์ของอวี้หลงซานวิลล่า

“ฮีโร่ นายอยู่ที่นี่เหรอ?” หัวกั๋วต้งหยุดรถ。

เบ่เฟิงมองออกไปนอกหน้าต่าง วิวที่คุ้นเคย

ผ่านมาห้าปีแล้ว แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย!

ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นบ้านของเขา

แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว

จ้าวว่านถิงมองแผ่นหลังของเย่เฟิงค่อยๆห่างออกไป ก็นึกขึ้นมาได้ “อา——ฉันจำได้แล้ว!”

เมื่อพูดเสร็จ จ้าวว่านถิงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาข่าวของเมื่อเช้า

——เย่เฟิง คุณชายของตระกูลเย่แห่งเยี่ยนจิง ออกจากคุกวันนี้ ครอบครัวของเขาประกาศวันนี้ว่าจะไล่เขาออกจากตระกูลและตัดขาดกัน!

“ที่แท้เขาคือ……คุณชายตระกูลเย่ที่เพิ่งออกมาจากคุก” จ้าวว่านถิงเพิ่งตระหนักได้

……

ในขณะนี้ที่คฤหาสน์สุดหรูในวิลล่าอวี้หลงซาน

หญิงวัยกลางคนรูปงาม กำลังดูข่าวอยู่ด้วยความสนใจ

——จากสถานีข่าวของเรา:พบรถยนต์ตกหน้าตาในบริเวณชานเมืองของเยี่ยนจิง ใกล้ๆกับหวงหยาซาน。

“พวกอาเป้าทำงานได้เยี่ยมจริงๆ!” สวีหรูอวิ๋นพยักหน้าด้วยความพอใจ “กลับมาจะตบรางวัลให้อย่างงาม!”

ผู้นี้ก็คือภรรยาใหม่ที่พ่อของเย่เฟิงแต่งงานด้วย สวีหรูอวิ๋น

“ฮี่ฮี่ พี่ใหญ่แข็งแกร่งจริงๆ รอดจากการอยู่ในคุกมาตั้งห้าปี แต่ว่าครั้งนี้โชคคงไม่ดีขนาดนั้นแล้ว!”

ข้างๆ เด็กวัยรุ่นกำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ รอยยิ้มอันพึงพอใจปรากฏบนหน้าของเขา——เพราะจากนี้จะไม่มีใครมาแย่งมรดกกับเขาอีกแล้ว

คนนี้ก็คือน้องชายที่เกิดจากแม่เลี้ยงของเย่เฟิง——เย่เจ๋อ

แต่ตอนนี้ ในทีวีได้กลับมาโฟกัสกับอุบัติเหตุรถยนต์

นักข่าวรายงานว่า:ในรถยนต์พบศพเจ็ดคน เสียชีวิตทั้งหมด

“อะไรกัน?”สวีหรูอวิ๋นพุ่งไปที่หน้าทีวี มองรูปหน้าของบุคคลที่เสียชีวิต “เป็นไปได้อย่างไร!?”

ใบหน้าคุ้นเคยในสภาพตายตาไม่หลับ ได้ทิ่มแทงใจเธอ

เธอไม่คิดไม่ฝันว่าบุคคลที่เสียชีวิตจะเป็นคนของเธอทั้งหมด!?

“พวกลุงเป้าตายหมดแล้ว!?”เย่เจ๋อทำโทรศัพท์หลุดมือ “แล้วพี่ใหญ่ล่ะ!?”

——ตู้ม!

ในตอนนั้นเอง ประตูบ้านได้ถูกถีบจนเปิดออก

ลมได้กรรโชกเข้ามา

นอกประตูเหล่าคนรับใช้ขวางเขาไม่อยู่ ได้แต่พูดว่า “คุณชายใหญ่ ได้โปรดระงับความโกรธด้วย มีเรื่องอะไรให้รอนายท่านกลับมาก่อน……”

คุณชายใหญ่!?

ได้ยินเช่นนั้น แม่ลูกคู่นี้ก็สะดุ้งประหนึ่งโดนสายฟ้าฟาด หันหน้ากลับไปด้วยความผวา

เห็นเย่เฟิงปรากฏตัวขึ้นหน้าบ้านราวกับภูตผี อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นงันงก

“แกใช่มั๊ย!?”สวีหรูอวิ๋นถลึงตาใส่ “แกยังมีชีวิตอยู่จริงๆ?”

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

2069