บทที่ 9 ชนแก้วด้วยตัวเอง

"คุณเย่คะ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะคะ ที่ฉันมาช้า"

จ้าวว่านถิงขอโทษเย่เฟิง

คืนนี้เป็นวันเกิดปีที่แปดสิบของปู่ของเธอ และมีงานเลี้ยงอยู่ชั้นบน

และที่จ้าวว่านถิงเชิญเย่เฟิงมาทานอาหารที่นี่ ก็เพื่อที่จะได้ให้เขาได้ร่วมงานวันเกิดของคุณปู่ของเธอ ให้คุณปู่ได้เจอ

ท้ายที่สุดแล้ววันนี้ต้องขอบคุณเย่เฟิง เธอถึงสามารถนําพระพุทธรูปหยกชิ้นนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย

คุณปู่ชอบพระพุทธรูปหยกชิ้นนั้นมากจนแทบไม่อยากวาง หลังจากที่ได้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทางแล้ว เขาก็อยากขอบคุณ

"คุณเย่คะ ตระกูลจ้าวของเรากำลังจัดงานเลี้ยงที่นี่คืนนี้ เพื่อฉลองวันเกิดปู่ของฉัน"

"คุณปู่อยูข้างบน เขาอยากเจอนายมาก อยากจะขอบคุณนายต่อหน้า"

"เชิญมากับฉันเถอะ"

จ้าวว่านถิงออกตัวเชิญ

การได้รับการเรียนเชิญจากตระกูลจ้าว สำหรับคนส่วนใหญ่ถือเป็นเกียรติสูงสุด เพราะวงการแบบนั้น ไม่ใช่ใครจะเบียดเข้าไปได้

เมื่อแขก ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ได้ยินดังนั้น ต่างก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจ ตกลงทั้งสองคนมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร?

คุณชายคนโตของตระกูลเย่คนนี้ ไม่ใช่ถูกตัดชื่อออกจากวงศ์ตระกูลแล้วเหรอ? แล้วทำไมคุณหนูคนโตของตระกูลจ้าว ดูเหมือนยังประจบสอพลอเขาอยู่?

นี่มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!

"ไม่เป็นไรครับ" เย่เฟิงปฏิเสธ "คืนนี้บังเอิญเจอเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่นี่ พวกเราจะกินข้าวที่นี่กันสักมื้อ ไม่ขึ้นไปรบกวนดีกว่า"

เมื่อได้ยินดังนั้น จ้าวว่านถิงก็หันไปมองซูซาน พบว่าความงดงามของอีกฝ่ายไม่ได้ด้อยกว่าตนเอง เลยคิดในใจว่าบางทีเธออาจจะเป็นแฟนของคุณเย่หรือเปล่า?

"งั้นก็ได้" จ้าวว่านถิงพยักหน้า ไม่ยื้ออีกต่อไป "พวกนายสั่งอาหารตามสบายเลยนะ ฉันจ่ายเองเอง อ้อ ใช่แล้ว——"

ในขณะที่พูด เหมือนจ้าวว่านถิงนึกอะไรได้ขึ้นมา เธอหยิบบัตรใบหนึ่งออกมา แล้วยื่นไป

"นี่หนึ่งล้านที่เหลือ"

เย่เหิงหันไปมอง แต่ไม่ได้รับ กลับนึกถึงอีกเรื่องหนึ่ง

"คุณชายเซี่ยคนเมื่อกี้ เธอรู้จักไหม?"

"จ้าวว่านถิงพยักหน้า เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทเรา เมื่อครู่ไม่รู้ว่าเขาล่วงเกินอะไรขึ้นหรือเปล่า? ฉันต้องขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ"

"เงินนี่ ผมไม่เอาแล้ว" เย่เฟิงคืนบัตรธนาคารกลับไป "แต่ฉันหวังว่าเธอจะสามารถช่วยฉันเรื่องหนึ่ง"

"คุณเย่เชิญพูดมาได้เลยค่ะ"

"ไล่คุณชายเซี่ยคนนั้นออกจากบริษัทของเธอ แล้วให้เพื่อนของฉันคนนี้ไปทำงานตำแหน่งผู้จัดการแทนคุณชายเซี่ย เธอลองดูว่าได้ไหม?"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ จ้าวว่านถิงตกตลึง หลังจากนั้นก็หันไปมองซูซานอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน ซูซานเองก็ตกตลึงเช่นกัน เธอยังไม่ทันได้หายใจหายคอจากสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นด้วยซ้ำ ปรากฏว่าได้ยินเย่เฟิง จัดแจงงานให้ตนเอง?

แถมยังให้เข้าไปแทนที่ตำแหน่งของคุณชายเซี่ยในบริษัท?

รู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่

"คุณสำเร็จการศึกษาระดับไหน? คุณมีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่? คุณอยากร่วมงานกับเราไหม?"

จ้าวว่านถิงถามคำถามง่าย ๆ สองสามคำถาม

ซูซาน ตอบทุกคำถาม

"ได้ งั้นพรุ่งนี้คุณมารายงานตัวที่บริษัทของเราแล้วกัน"

จ้าวว่านถิงตอบตกลงความต้องการของเย่เฟิง แล้วหยิบบัตรธนาคารกลับคืนไป

ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเธอเสียดายเงินหนึ่งล้านนี้ แต่เธอรู้หลักการของเย่เฟิงดี ในเมื่อเขาคืนบัตรนี้แล้ว เขาก็จะไม่ยอมรับมันอีก

"ในเมื่อคุณเย่เอ่ยปาก การช่วยเหลือเล็กน้อยแค่นี้ แน่นอนว่าไม่มีปัญหา"

"ขอบคุณมากครับ" เย่เฟิงเพิ่งออกจากคุก ในที่สุดก็สามารถช่วยซูซานได้เล็กน้อย ง่ายจนแทบไม่ต้องออกแรง

หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็พูดคุยเรื่อยเปื่อย จ้าวว่านถิงก็กลับขึ้นไปชั้นบน

จนกระทั่งหลังจากที่จ้าวว่านถิงจากไป ห้องโถงที่เงียบสงบ ในที่สุดก็มีเสียงดังขึ้น

ทุกคนหันกลับไปมองเย่เฟิงบ่อยครั้งด้วยความตกใจ และยังคงรู้สึกไม่น่าเชื่อ

"คุณชายเย่คนนี้ ถูกขับไล่ออกจากวงศ์ตระกูลแล้วจริง ๆ เหรอ? ทำไมถึงได้รู้สึกว่าเขายังสุดยอดอยู่เลยล่ะ! แม้แต่คุณหนูจ้าว ยังต้องไว้หน้าเขาเลย"

"สุดยอดจริง ๆ แค่คำเดียวก็สามารถไล่คุณชายเซี่ยออกได้แล้ว! ?

"คุณชายเซี่ยยังคิดว่าได้บีบลูกพลับอ่อน ๆ ลูกหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะเจอตอแข็งเข้าแล้ว"

ทุกคนต่างกระซิบกระซาบกันด้วยความประหลาดใจ

"เย่เฟิง นาย.....คุณรู้จักคุณหนูจ้าวได้ยังไง?" ซูซานเองก็ตกใจเหมือนกัน "พวกนายสนิทกันเหรอ? เธอบอกว่าให้ฉันไปรายงานตัวที่บริษัทพรุ่งนี้ ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?"

เย่เฟิงพูดยิ้ม ๆ : "ในเมื่อเป็นบริษัทของตระกูลจ้าวเอง เขาไม่ได้ล้อเล่นแน่นอน พรุ่งนี้เธอไปทำให้เต็มที่ก็พอแล้ว"

ในระหว่างที่พูด พนักงานเสิร์ฟยังได้ทยอยเสิร์ฟอาหารอร่อย ๆ มีหลายอย่างในนั้นที่เย่เฟิงไม่ได้สั่ง เห็นได้ชัดว่าจ้าวว่านถิงเป็นคนไปจัดการ

ในระหว่างที่ทั้งสองคนพูดคุยเรื่อยเปื่อยไปด้วย กินอาหารไปด้วย

จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง

"พระเจ้า! ? ดูเร็วว่าใครมา?"

"ผู้นำตระกูลจ้าว....นายท่านจ้าว!?"

"เป็นเขาจริง ๆ ด้วยสิ!"

เย่เฟิงเงยหน้าขึ้นมามอง

เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง

ผู้นำเป็นชายชราคนหนึ่ง ที่มีผมขาวดุจขนกระเรียน ใบหน้าเปล่งปลั่งดุจทารก มีชีวิตชีวา ถือไวน์แดงแก้วหนึ่ง เดินนําฝูงชนมาที่เย่เฟิง

"นายก็คือเย่เฟิงใช่ไหม?"

"ต้องขอบคุณมาก ๆ ที่วันนี้นายช่วยหลานสาวของฉัน"

"ฉันมาดื่มให้นาย เพื่อแสดงความขอบคุณ"

นายท่านตระกูลจ้าว ลงมาชั้นล่างด้วยตนเอง เพื่อมาชนแก้วกับเย่เฟิง! ?

เหตุการณ์นี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกตะลึงทันที อ้าปากค้างจนคางแทบจะร่วงลงกับพื้น

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

2069