บทที่ 11 วิลล่าเหนือเมฆ
by โชวหวู่เจียง
09:17,Jun 27,2024
ซวยแล้ว!
เมื่อเห็นสองคนนี้ซูซานตกใจมากทันที
เมื่อกี้ยังเป็นกังวลเรื่องตระกูลจ้าวอยู่เลย สุดท้ายต้องมาเจอปัญหาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด
เห็นได้ชัดว่า คนที่แจ้งความต้องเป็นคุณชายเซี่ยอย่างแน่นอน
และพ่อของคุณชายเซี่ยผู้นั้น ก็คือรองผู้ว่าศาลาว่าการเมือง สองคนนี้ต้องเป็นคนที่พ่อของคุณชายเซี่ยส่งมาแน่ ๆ
ถ้าถูกจับขึ้นมาจริง ๆ เกรงว่าต่อให้มีเหตุผลก็อธิบายไม่ถูก
อีกอย่างเย่เฟิงก็เป็นคนลงมือก่อนด้วย ยิ่งจัดการยากไปใหญ่
"พี่ชายทั้งสอง เรื่องนี้อาจจะเกิดความเข้าใจผิด" ซูซานยังอยากช่วยอธิบาย
"จะเข้าใจถูกหรือเข้าใจผิด เราไม่สนใจ อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ใดแจ้งความ เราก็มีหน้าที่จับกุมเท่านั้น"
"หากเป็นความเข้าใจผิด หลังจากซักถาม ก็ย่อมคืนความบริสุทธิ์ให้กับคุณอยู่แล้ว"
"เบื้องบนมีสามกรม เบื้องล่างมีข้าราชการผู้ซื่อสัตย์ ยังกลัวจะถูกใส่ความอีกเหรอ?"
ชายสองคนนั้นไม่ฟังคำอธิบาย ใช้อำนาจจะจับกุมท่าเดียว
"ซูซาน เธอกลับไปก่อนแล้วกัน" เย่เฟิงพูดขึ้นมาด้วยความสงบนิ่ง "เดี๋ยวฉันจะไปกับพวกเขา อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก็พอแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีอะไรหรอก"
เมื่อเห็นว่าเย่เฟิงไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหา ซูซานก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น
คิดในใจว่า : จะไม่มีอะไรได้ยังไง? นี่เป็นกับดักที่คุณชายเซี่ยสองพ่อลูกวางไว้ให้นายโดยเฉพาะ ถ้านายถูกจับเข้าไป ก็ยากที่จะออกมาได้อีก
โดนทุบจนตายอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่ซูซานไม่สามารถพูดคำเหล่านี้ได้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นเธอเองก็อาจถูกจับกุมไปด้วย
สุดท้าย ซูซานก็ทำได้เพียงเฝ้าดูเย่เฟิงถูกนำตัวขึ้นรถสายตรวจ และส่งไปยังศาลาว่าการเมือง
"ทำไงดี...ทำไงดี.............."
ซูซานเดินหมุนด้วยความกังวล
เธออยากจะกลับไปที่ภัตรคารมาก เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลจ้าว
ถ้าหากตระกูลจ้าวยอมช่วยละก็ ก็แค่โทรกริ๊งเดียวตระกูลเซี่ยไม่กล้าไม่ปล่อยตัวเขาแน่นอน
แต่ทว่า คำพูดของเย่เฟิงเมื่อสักครู่ กลับสร้างความบาดหมางให้กับตระกูลจ้าวอย่างมาก
ตอนนี้เขาต้องลงเอยแบบนี้ เกรงว่าตระกูลจ้าวจะไม่ช่วยอีกแล้ว
"เห้อ ดูท่าทางคงต้องไปขอให้คุณพ่อช่วยแล้ว............"
คุณพ่อของซูซานก็ทำงานในศาลาว่าการเมืองด้วยเช่นกัน แต่เป็นเพียงข้าราชการตัวเล็ก ๆ
แม้ว่าความหวังจะริบหรี่ แต่ซูซานก็ทําได้แค่กลับบ้านก่อนเพื่อดูว่าพ่อสามารถขอช่วยใครได้บ้างไหม
อีกด้านหนึ่ง
เย่เฟิงนั่งรถสายตรวจ และถูกพาไปที่สถานีตำรวจอย่างรวดเร็ว
"รีบเข้าไป!"
"หึ่ย! กล้ามาทำร้ายคุณชายเซี่ย เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่!"
ทั้งสามคนเดินเข้ามาทางประตูด้านข้าง
ทันใดนั้น ก็ปะทะหน้ากับคุณชายผู้หนึ่ง
"โอ้ว พี่ชาย ดึกขนาดนี้แล้วยังทำงานอยู่อีกเหรอ?"
เมื่อทั้งสองคนนั้นเห็นเขา ต่างก็รีบโค้งคำนับและกล่าวทักทาย : "นายท่าน สวัสดีครับ!"
"เราจับผู้ต้องสงสัยที่ทำร้ายคนได้ และกำลังจะส่งตัวไปสอบปากคำ"
คุณชายพยักหน้าและพูดว่า : "ได้ รีบเข้าไปเถอะ!"
ในระหว่างที่ทั้งสองฝ่านเดินสวนกัน
คุณชายผู้นั้นมองผู้ต้องสงสัยด้วยความอยากรู้ จู่ ๆ เท้าก็สะดุด ตกใจจนเกือบล้มลง
"จอมยุทธเย่! ? นายจริง ๆ เหรอ?"
คุณชายก้าวไปข้างหน้า และยืนขวางตรงหน้าเย่เฟิง
"เห่อ ๆ คุณชายหัว ไม่เจอกันนานเลยนะ!"
เย่เฟิงจําได้นานแล้ว ว่าคุณชายคนนั้นก็คือหัวกั๋วต้งที่ขับรถมาส่งตนเมื่อตอนบ่าย
"ฮ่า ๆ จอมยุทธ เป็นนายจริง ๆ ด้วย!" หัวหั๋วต้งดีใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้
เมื่อสองคนนั้นเห็นเข้าก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ ไม่คิดว่าผู้ต้องสงสัยคนนี้จะรู้จักกับนายท่าน แบบนี้แย่แน่
"ห่าย จอมยุทธ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"
หลังจากทักทายไม่กี่คำ หัวกั๋วต้งก็ถามถึงสาเหตุ
"อ้อ เป็นแบบนี้" เย่เฟิงบอกตามความจริง : "เมื่อกี้มีคนยื่นหน้าเข้ามาให้ฉันต่อย ฉันก็เลยต่อ คิดไม่ถึงว่าเขาจะใจแคบขนาดนี้ ไปแจ้งความให้มาจับฉันกับอีเรื่องแค่นี้"
หัวกั๋วต้งรับฟังด้วยความสนใจ และคิดในใจว่าจอมยุทธยังคงเหมือนเดิมจริง ๆ และไม่รู้ว่าใครโชคร้ายขนาดนี้ถึงได้ตกไปอยู่ในน้ำมือของเขา
แต่เมื่อได้ยินว่าคนที่เย่เฟิงไปทำร้ายก็คือลูกชายของรองผู้ว่าเซี่ย และการจับเย่เฟิงมาที่นี่ เป็นการตัดสินใจโดยไม่ได้รับอนุญาตของรองผู้ว่าเซี่ย และไม่ได้ผ่านการอนุมัติกระบวนการอย่างเป็นทางการ
หัวกั๋วต้งโกรธจัด : " รองผู้ว่าเซี่ยคนนี้กล้าดีจริง ๆ ถึงกล้าใช้ระบบราชการในเรื่องส่วนตัว ใช้อํานาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน! ?"
"ผมจะแจ้งเรื่องนี้ให้คุณพ่อทราบ และสั่งพักงานเขา!"
ต่อมา หัวกั๋วต้งก็หันไพูดกับชายสองคนนั้นว่า : "กลับไปบอกรองผู้ว่าเซี่ย คนนี้ฉันปกป้องไว้เอง มีปัญหาอะไรให้มาหาฉัน!"
"ครับ นายท่าน" เมื่อเห็นหัวกั๋วต้งพูดมาขนาดนี้แล้ว ทั้งสองคนจะกล้าพูดอะไรได้อีก ทำได้เพียงปล่อยตัวเขา
"จอมยุทธใจเย็น ๆ ฉันจะไปส่งนายก่อน" หัวกั๋วต้งคุ้มกันเย่เฟิงด้วยตัวเองและเดินออกไปข้างนอก
เมื่อตอนบ่ายหัวกั๋วต้งเคารพและเลื่อมใสในทักษะฝีมือของเย่เฟิง และเต็มไปด้วยความอิจฉา แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือเย่เฟิงเล็กน้อย
"ยังคงกลับไปที่อวี้หลงซานวิลล่าใช่ไหม?"
ทั้งสองคนเข้าไปนั่งในรถ หัวกั๋วต้งถามขึ้น
"ไม่" เย่เฟิงบอกชื่ออีกที่หนึ่ง "ไปเฟิงหัวซานวิลล่า"
"ว๊าว จอมยุทธ ที่ที่นายไปแต่ละที่ หรูหรากว่าเดิมอีกนะ" หัวกั๋วต้งประหลาดใจ
เฟิงหัวซานวิลล่าตั้งอยู่ที่เชิงเขาเฟิงหัว ซึ่งเป็นกลุ่มวิลล่าที่สร้างขึ้นใกล้ภูเขาและแม่น้ำ เป็นย่านของคนรวยที่มีชื่อเสียงในเยี่ยนจิง
เมื่อเปรียบเทียบอวี้หลงซานวิลล่ากับที่นั่น ก็เหมือนกับสลัม
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา หัวกั๋วต้งก็ขับรถมาถึงเขตวิลล่าที่ล้อมรอบด้วยภูเขา
"จอมยุทธที่นี่เป็นบ้านของนายจริง ๆ เหรอ?" หัวกั๋วต้งลงจากรถตามไปยืนที่เชิงเขา และมองไปที่วิลล่าแต่ละหลังด้วยความประหลาดใจ "นายพักอยู่หลังไหน"
เย่เฟิงมองไปรอบๆ และจำได้ว่าอาจารย์สามบอกว่าวิลล่าที่อยู่ด้านบนสุดเป็นของเขา
เย่เฟิงก็เลยชี้ออกไป และพูดว่า : "น่าจะเป็นหลังนั้นมั้ง"
"หลังนั้น! ?" หัวกั๋วต้งสังเกตเห็นวิลล่าเดี่ยวที่ดูเหมือนอยู่เหนือเมฆ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่านั่นไม่ใช่วิลล่าเหนือเมฆที่อดีตมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกเคยอาศัยอยู่เหรอ?
ไม่รู้ว่าเย่เฟิงกำลังล้อเล่น หรือเป็นเรื่องจริง?
"ขอบใจนะ"
หลังจากเย่เฟิงโบกมือลาหัวกั๋วต้งแล้ว ก็เดินไปที่ไหล่เขาคนเดียว
ในขณะที่หัวกั๋วต้งกำลังขับรถกลับ จู่ ๆ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากจ้าวว่านถิง
"คุณหนูจ้าว ต้องขอโทษด้วยนะ เมื่อคืนผมทำงาน เลยไม่ได้ไปร่วมงานวันเกิดคุณปู่ของคุณ............."
เมื่อรับสาย หัวกั๋วต้งก็กล่าวขอโทษทันที และยังอยากจะกล่าวอวยพรวันเกิดให้นายท่านจ้าวผ่านทางโทรศัพท์ด้วยซ้ำ
แต่จ้าวว่านถิงกลับถามขึ้นด้วยความร้อนใจว่า : "คุณชายหัว คุณรู้ไหมว่าเย่เฟิงอยู่ที่ไหน? เมื่อกี้เขายังกินข้าวอยู่ที่นี่อยู่เลย สรุปพอลงมาหาเขา เขาก็ไม่อยู่แล้ว คุณช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ ๆ ให้หน่อยได้ไหม ดูว่าเย่เฟิงเขาไปที่ไหน?"
"เห่อ ๆ ไม่ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดหรอก ถือว่าคุณมาถามถูกคนแล้ว" หัวกั๋วต้งพูดยิ้ม ๆ "ผมเพิ่งจะไปส่งจอมยุทธกลับบ้าน มีอะไร ดึกขนาดนี้ คุณจะไปหาจอมยุทธมีเรื่องเร่งด่วนอะไร?"
หรือว่ามังกรดําส่งคนมาก่อกวนและปล้นพระพุทธรูปหยกชิ้นนั้นไปเหรอ?
ไม่หรอกมั้ง ในเยี่ยนจิงและในเมือง มังกรดำไม่น่าจะกล้าอวดดีขนาดนี้
"เมื่อกี้เย่เฟิงพูดจาแปลกประหลาด......พวกเรายังไม่ทันได้ฟัง....ปรากฏว่า....ปรากฏว่า....."
จ้าวว่านถิงยิ่งพูดยิ่งร้อนใจ สุดท้ายก็ร้องไห้เสียงดังงออกมา
"งานเลี้ยงวันเกิดยังไม่ทันสิ้นสุด จู่ ๆ คุณปู่ของฉันก็หมดสติไปแล้ว..........."
"คุณชายหัว! เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณเพิ่งไปส่งเย่เฟิงเหรอ? รีบบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าเขาอยู่ที่ไหน!"
เมื่อเห็นสองคนนี้ซูซานตกใจมากทันที
เมื่อกี้ยังเป็นกังวลเรื่องตระกูลจ้าวอยู่เลย สุดท้ายต้องมาเจอปัญหาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด
เห็นได้ชัดว่า คนที่แจ้งความต้องเป็นคุณชายเซี่ยอย่างแน่นอน
และพ่อของคุณชายเซี่ยผู้นั้น ก็คือรองผู้ว่าศาลาว่าการเมือง สองคนนี้ต้องเป็นคนที่พ่อของคุณชายเซี่ยส่งมาแน่ ๆ
ถ้าถูกจับขึ้นมาจริง ๆ เกรงว่าต่อให้มีเหตุผลก็อธิบายไม่ถูก
อีกอย่างเย่เฟิงก็เป็นคนลงมือก่อนด้วย ยิ่งจัดการยากไปใหญ่
"พี่ชายทั้งสอง เรื่องนี้อาจจะเกิดความเข้าใจผิด" ซูซานยังอยากช่วยอธิบาย
"จะเข้าใจถูกหรือเข้าใจผิด เราไม่สนใจ อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ใดแจ้งความ เราก็มีหน้าที่จับกุมเท่านั้น"
"หากเป็นความเข้าใจผิด หลังจากซักถาม ก็ย่อมคืนความบริสุทธิ์ให้กับคุณอยู่แล้ว"
"เบื้องบนมีสามกรม เบื้องล่างมีข้าราชการผู้ซื่อสัตย์ ยังกลัวจะถูกใส่ความอีกเหรอ?"
ชายสองคนนั้นไม่ฟังคำอธิบาย ใช้อำนาจจะจับกุมท่าเดียว
"ซูซาน เธอกลับไปก่อนแล้วกัน" เย่เฟิงพูดขึ้นมาด้วยความสงบนิ่ง "เดี๋ยวฉันจะไปกับพวกเขา อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก็พอแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีอะไรหรอก"
เมื่อเห็นว่าเย่เฟิงไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหา ซูซานก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น
คิดในใจว่า : จะไม่มีอะไรได้ยังไง? นี่เป็นกับดักที่คุณชายเซี่ยสองพ่อลูกวางไว้ให้นายโดยเฉพาะ ถ้านายถูกจับเข้าไป ก็ยากที่จะออกมาได้อีก
โดนทุบจนตายอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่ซูซานไม่สามารถพูดคำเหล่านี้ได้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นเธอเองก็อาจถูกจับกุมไปด้วย
สุดท้าย ซูซานก็ทำได้เพียงเฝ้าดูเย่เฟิงถูกนำตัวขึ้นรถสายตรวจ และส่งไปยังศาลาว่าการเมือง
"ทำไงดี...ทำไงดี.............."
ซูซานเดินหมุนด้วยความกังวล
เธออยากจะกลับไปที่ภัตรคารมาก เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลจ้าว
ถ้าหากตระกูลจ้าวยอมช่วยละก็ ก็แค่โทรกริ๊งเดียวตระกูลเซี่ยไม่กล้าไม่ปล่อยตัวเขาแน่นอน
แต่ทว่า คำพูดของเย่เฟิงเมื่อสักครู่ กลับสร้างความบาดหมางให้กับตระกูลจ้าวอย่างมาก
ตอนนี้เขาต้องลงเอยแบบนี้ เกรงว่าตระกูลจ้าวจะไม่ช่วยอีกแล้ว
"เห้อ ดูท่าทางคงต้องไปขอให้คุณพ่อช่วยแล้ว............"
คุณพ่อของซูซานก็ทำงานในศาลาว่าการเมืองด้วยเช่นกัน แต่เป็นเพียงข้าราชการตัวเล็ก ๆ
แม้ว่าความหวังจะริบหรี่ แต่ซูซานก็ทําได้แค่กลับบ้านก่อนเพื่อดูว่าพ่อสามารถขอช่วยใครได้บ้างไหม
อีกด้านหนึ่ง
เย่เฟิงนั่งรถสายตรวจ และถูกพาไปที่สถานีตำรวจอย่างรวดเร็ว
"รีบเข้าไป!"
"หึ่ย! กล้ามาทำร้ายคุณชายเซี่ย เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่!"
ทั้งสามคนเดินเข้ามาทางประตูด้านข้าง
ทันใดนั้น ก็ปะทะหน้ากับคุณชายผู้หนึ่ง
"โอ้ว พี่ชาย ดึกขนาดนี้แล้วยังทำงานอยู่อีกเหรอ?"
เมื่อทั้งสองคนนั้นเห็นเขา ต่างก็รีบโค้งคำนับและกล่าวทักทาย : "นายท่าน สวัสดีครับ!"
"เราจับผู้ต้องสงสัยที่ทำร้ายคนได้ และกำลังจะส่งตัวไปสอบปากคำ"
คุณชายพยักหน้าและพูดว่า : "ได้ รีบเข้าไปเถอะ!"
ในระหว่างที่ทั้งสองฝ่านเดินสวนกัน
คุณชายผู้นั้นมองผู้ต้องสงสัยด้วยความอยากรู้ จู่ ๆ เท้าก็สะดุด ตกใจจนเกือบล้มลง
"จอมยุทธเย่! ? นายจริง ๆ เหรอ?"
คุณชายก้าวไปข้างหน้า และยืนขวางตรงหน้าเย่เฟิง
"เห่อ ๆ คุณชายหัว ไม่เจอกันนานเลยนะ!"
เย่เฟิงจําได้นานแล้ว ว่าคุณชายคนนั้นก็คือหัวกั๋วต้งที่ขับรถมาส่งตนเมื่อตอนบ่าย
"ฮ่า ๆ จอมยุทธ เป็นนายจริง ๆ ด้วย!" หัวหั๋วต้งดีใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้
เมื่อสองคนนั้นเห็นเข้าก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ ไม่คิดว่าผู้ต้องสงสัยคนนี้จะรู้จักกับนายท่าน แบบนี้แย่แน่
"ห่าย จอมยุทธ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"
หลังจากทักทายไม่กี่คำ หัวกั๋วต้งก็ถามถึงสาเหตุ
"อ้อ เป็นแบบนี้" เย่เฟิงบอกตามความจริง : "เมื่อกี้มีคนยื่นหน้าเข้ามาให้ฉันต่อย ฉันก็เลยต่อ คิดไม่ถึงว่าเขาจะใจแคบขนาดนี้ ไปแจ้งความให้มาจับฉันกับอีเรื่องแค่นี้"
หัวกั๋วต้งรับฟังด้วยความสนใจ และคิดในใจว่าจอมยุทธยังคงเหมือนเดิมจริง ๆ และไม่รู้ว่าใครโชคร้ายขนาดนี้ถึงได้ตกไปอยู่ในน้ำมือของเขา
แต่เมื่อได้ยินว่าคนที่เย่เฟิงไปทำร้ายก็คือลูกชายของรองผู้ว่าเซี่ย และการจับเย่เฟิงมาที่นี่ เป็นการตัดสินใจโดยไม่ได้รับอนุญาตของรองผู้ว่าเซี่ย และไม่ได้ผ่านการอนุมัติกระบวนการอย่างเป็นทางการ
หัวกั๋วต้งโกรธจัด : " รองผู้ว่าเซี่ยคนนี้กล้าดีจริง ๆ ถึงกล้าใช้ระบบราชการในเรื่องส่วนตัว ใช้อํานาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน! ?"
"ผมจะแจ้งเรื่องนี้ให้คุณพ่อทราบ และสั่งพักงานเขา!"
ต่อมา หัวกั๋วต้งก็หันไพูดกับชายสองคนนั้นว่า : "กลับไปบอกรองผู้ว่าเซี่ย คนนี้ฉันปกป้องไว้เอง มีปัญหาอะไรให้มาหาฉัน!"
"ครับ นายท่าน" เมื่อเห็นหัวกั๋วต้งพูดมาขนาดนี้แล้ว ทั้งสองคนจะกล้าพูดอะไรได้อีก ทำได้เพียงปล่อยตัวเขา
"จอมยุทธใจเย็น ๆ ฉันจะไปส่งนายก่อน" หัวกั๋วต้งคุ้มกันเย่เฟิงด้วยตัวเองและเดินออกไปข้างนอก
เมื่อตอนบ่ายหัวกั๋วต้งเคารพและเลื่อมใสในทักษะฝีมือของเย่เฟิง และเต็มไปด้วยความอิจฉา แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือเย่เฟิงเล็กน้อย
"ยังคงกลับไปที่อวี้หลงซานวิลล่าใช่ไหม?"
ทั้งสองคนเข้าไปนั่งในรถ หัวกั๋วต้งถามขึ้น
"ไม่" เย่เฟิงบอกชื่ออีกที่หนึ่ง "ไปเฟิงหัวซานวิลล่า"
"ว๊าว จอมยุทธ ที่ที่นายไปแต่ละที่ หรูหรากว่าเดิมอีกนะ" หัวกั๋วต้งประหลาดใจ
เฟิงหัวซานวิลล่าตั้งอยู่ที่เชิงเขาเฟิงหัว ซึ่งเป็นกลุ่มวิลล่าที่สร้างขึ้นใกล้ภูเขาและแม่น้ำ เป็นย่านของคนรวยที่มีชื่อเสียงในเยี่ยนจิง
เมื่อเปรียบเทียบอวี้หลงซานวิลล่ากับที่นั่น ก็เหมือนกับสลัม
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา หัวกั๋วต้งก็ขับรถมาถึงเขตวิลล่าที่ล้อมรอบด้วยภูเขา
"จอมยุทธที่นี่เป็นบ้านของนายจริง ๆ เหรอ?" หัวกั๋วต้งลงจากรถตามไปยืนที่เชิงเขา และมองไปที่วิลล่าแต่ละหลังด้วยความประหลาดใจ "นายพักอยู่หลังไหน"
เย่เฟิงมองไปรอบๆ และจำได้ว่าอาจารย์สามบอกว่าวิลล่าที่อยู่ด้านบนสุดเป็นของเขา
เย่เฟิงก็เลยชี้ออกไป และพูดว่า : "น่าจะเป็นหลังนั้นมั้ง"
"หลังนั้น! ?" หัวกั๋วต้งสังเกตเห็นวิลล่าเดี่ยวที่ดูเหมือนอยู่เหนือเมฆ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่านั่นไม่ใช่วิลล่าเหนือเมฆที่อดีตมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกเคยอาศัยอยู่เหรอ?
ไม่รู้ว่าเย่เฟิงกำลังล้อเล่น หรือเป็นเรื่องจริง?
"ขอบใจนะ"
หลังจากเย่เฟิงโบกมือลาหัวกั๋วต้งแล้ว ก็เดินไปที่ไหล่เขาคนเดียว
ในขณะที่หัวกั๋วต้งกำลังขับรถกลับ จู่ ๆ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากจ้าวว่านถิง
"คุณหนูจ้าว ต้องขอโทษด้วยนะ เมื่อคืนผมทำงาน เลยไม่ได้ไปร่วมงานวันเกิดคุณปู่ของคุณ............."
เมื่อรับสาย หัวกั๋วต้งก็กล่าวขอโทษทันที และยังอยากจะกล่าวอวยพรวันเกิดให้นายท่านจ้าวผ่านทางโทรศัพท์ด้วยซ้ำ
แต่จ้าวว่านถิงกลับถามขึ้นด้วยความร้อนใจว่า : "คุณชายหัว คุณรู้ไหมว่าเย่เฟิงอยู่ที่ไหน? เมื่อกี้เขายังกินข้าวอยู่ที่นี่อยู่เลย สรุปพอลงมาหาเขา เขาก็ไม่อยู่แล้ว คุณช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ ๆ ให้หน่อยได้ไหม ดูว่าเย่เฟิงเขาไปที่ไหน?"
"เห่อ ๆ ไม่ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดหรอก ถือว่าคุณมาถามถูกคนแล้ว" หัวกั๋วต้งพูดยิ้ม ๆ "ผมเพิ่งจะไปส่งจอมยุทธกลับบ้าน มีอะไร ดึกขนาดนี้ คุณจะไปหาจอมยุทธมีเรื่องเร่งด่วนอะไร?"
หรือว่ามังกรดําส่งคนมาก่อกวนและปล้นพระพุทธรูปหยกชิ้นนั้นไปเหรอ?
ไม่หรอกมั้ง ในเยี่ยนจิงและในเมือง มังกรดำไม่น่าจะกล้าอวดดีขนาดนี้
"เมื่อกี้เย่เฟิงพูดจาแปลกประหลาด......พวกเรายังไม่ทันได้ฟัง....ปรากฏว่า....ปรากฏว่า....."
จ้าวว่านถิงยิ่งพูดยิ่งร้อนใจ สุดท้ายก็ร้องไห้เสียงดังงออกมา
"งานเลี้ยงวันเกิดยังไม่ทันสิ้นสุด จู่ ๆ คุณปู่ของฉันก็หมดสติไปแล้ว..........."
"คุณชายหัว! เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณเพิ่งไปส่งเย่เฟิงเหรอ? รีบบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าเขาอยู่ที่ไหน!"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved