บทที่ 5 ตบหน้าห้าครั้ง

สวีหรูอวิ๋นไม่คิดไม่ฝันว่า เย่เฟิงจะมีชีวิตรอดกลับมา!

ติดคุกห้าปีก็ยังไม่สามารถทำให้เขาตายได้ ส่งคนไปจัดการก็ล้มเหลว

เจ้าเด็กนี่ ดวงแข็งจริงๆ!?

“ไม่ใช่แค่ยังมีชีวิตอยู่” เย่เฟิงค่อยๆเดินเข้าไปในห้องโถง “แต่ยังมีชีวิตอยู่ดีเลยแหละ!”

“แกฆ่าพวกลุงเป้าเหรอ?” เย่เจ๋อถาม

“แกหมายถึงพวกที่พาฉันออกจากคุกใช่มั๊ย?” เย่เฟิงถามกลับอย่างสงบ “สบายใจเถอะ พวกมันไปสบายแล้ว”

ปาดคอในมีดเดียว พวกมันยังไม่ทันได้รู้สึกเจ็บหรอก

“แก——!” เย่เจ๋อกัดเกรี้ยวเคี้ยวฟัน

แม้ว่าพวกอาเป้าจะเป็นอันธพาล แต่ก็สามารถช่วยเย่เจ๋อขยายอิทธิพลในโรงเรียนได้ ดังนั้นเย่เจ๋อจำเป็นต้องพึ่งพาพวกอาเป้าถึงขั้นที่เรียกด้วยความสนิทว่าลุงเป้าด้วยซ้ำ

สวีหรูอวิ๋นสงบจิตใจลงอย่างรวดเร็ว ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วตะโกนออกไป “แกจะกลับมาทำไม?แกมันเป็นตัวอัปยศของบ้านนี้!เจ้าสวะ!”

สวีหรูอวิ๋นโยนหนังสือพิมพ์แล้วพูดว่า “เช้านี้ตระกูลเย่ได้ออกแถลงข่าวว่าจะไล่แกออกจากตระกูลแบบถาวร ต่อไปนี้แกไม่ใช่คนตระกูลเย่อีก พวกเราก็ไม่มีลูกชายแบบแก รู้แล้วก็รีบไสหัวไปซะ!”

สวีหรูอวิ๋นเชิดหน้าขึ้นอย่างดูถูกพร้อมกับใช้สายตามองเย่เฟิงราวกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง

ไม่ว่าเจ้าเด็กนี่จะดวงแข็งขนาดไหน?ถ้าหากขาดตระกูลคุ้มครอง ก็ไม่ต่างจากมดในกำมือ!

“รีบไสหัวไป ฉันไม่มีพี่ชายขี้คุกอย่างแก น่าขายหน้ายิ่งนัก!” เย่เจ๋อก็ไล่ตะเพิดด้วยความเหยียดหยาม

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการดูถูกของทั้งสองแม่ลูกนั้น เย่เฟิงก็ยังควบคุมสติอารมณ์ได้

“ฉันมาที่นี่ เพราะมีเรื่องที่ยังไม่ได้เคลียร์ ” เย่เฟิงพูดจบพร้อมกับเดินไปข้างหน้า。

“แก……แกจะทำอะไร?” เมื่อเย่เฟิงเดินเข้ามา สวีหรูอวิ๋นก็เริ่มรู้สึกผวา

“คุณชายใหญ่ รีบไปเถอะ อย่าก่อเรื่องเลย”

“ใช่ คุณเคยติดคุกไปแล้วครั้งหนึ่ง อยากจะกลับไปอีกรอบเหรอ?”

“พ่อบ้านอยู่ที่ไหน รีบหยิบเงิน แล้วส่งคุณชายใหญ่ออกไป”

เมื่อเหล่าคนใช้เห็นเช่นนั้น ก็รุมกันไปขวางเย่เฟิง ช่วยเหลือเจ้านายของพวกเขา

“ไสหัวไป!” เย่เฟิงตะโกนออกไปด้วยความโกรธ ทำให้กลุ่มคนเริ่มถอยออก

ในเวลานี้ เย่เฟิงเหมือนกลายร่างเป็นกระบี่คมกริบเล่มหนึ่ง ทำให้ผู้คนโดยรอบไม่กล้าเข้าใกล้

“แกจะทำอะไร?” เย่เจ๋อยืนขวางแม่ของตัวเองไว้ ชี้หน้าด่าทอเย่เฟิง “แกไม่ใช่คนตระกูลเย่แล้ว ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของแกอีกต่อไป!”

เย่เฟิงยื่นมือออกมาบีบคอเย่เจ๋อไว้แน่น ด้วยท่าทางราวกับยมทูต

“พี่ชายก็เปรียบได้กับพ่อ!”เย่เฟิงพูดด้วยเสียงเย็นชา “แกพูดอย่างนั้นต่อหน้าฉันได้ยังไง?”

——ฉัวะ!

เย่เฟิงสะบัดมือออก เหวี่ยงเย่เจ๋อลอยออกไปราวกับขยะชิ้นหนึ่ง

“ลูกเจ๋อ!?” สวีหรูอวิ๋นเห็นเช่นนั้นก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า “แกกล้าตีลูกชั้นเหรอ!?”

“ฉันไม่ใช่แค่กล้าตีมัน” เย่เฟิงลงมือด้วยความเร็วดุจสายฟ้า “ถึงเป็นแก ฉันก็กล้าตี!”

——เพี้ยะ!

เย่เฟิงตบหน้า แล้วเหวี่ยงออกไป

ทำให้สวีหรูอวิ๋นกระแทกพื้นอย่างแรง

“ฝ่ามือนี้ สำหรับแกที่ไม่สั่งสอนลูกให้รู้จักสัมมาคารวะ!”

เสียงตบดังสนั่นจนผู้คนตรงนั้นตะลึง

ไม่มีใครคาดคิดว่า เย่เฟิงที่เพิ่งออกจากคุกมา จะกล้าลงมือกับแม่บุญธรรม

นี่มันพลิกฟ้าแล้ว!

แต่เย่เฟิงที่กลับมาตั้งไกล ไม่ได้มาเพื่อกลับมารวมตัวกับครอบครัวแน่

ลูกผู้ชาย แก้แค้นสิบชาติก็ยังไม่สาย!

เย่เฟิงไม่สามารถรอถึงสิบชาติได้ และไม่จำเป็นต้องรอนานขนาดนั้น

ต้องแก้แค้นในชาตินี้!

“แก……แกกล้าตบฉันเหรอ!?” สวีหรูอวิ๋นหลังจากโดนตบไปก็ตกตะลึง ใช้มือปิดหน้าด้วยความไม่เชื่อ

——เพี้ยะ!!

คำตอบก็คือ การตบอย่างแรงเป็นครั้งที่สอง

ทำให้เธอต้องกลิ้งไปบนพื้นอีกรอบ

“ฝ่ามือนี้ สำหรับที่แกทำให้ตระกูลเย่แตกคอกัน!”

สวีหรูอวิ๋นรู้สึกมึนงงไปหมด

“เดรัจฉานน้อย,แก——”

——เพี้ยะ!!!

เสียงตบดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง

“ฝ่ามือนี้ สำหรับที่แกทำให้ฉันต้องไปอยู่ในคุกตั้งห้าปี!”

สวีหรูอวิ๋น กระเด็นกลิ้งไปบนพื้นอีกครั้ง ถูกเย่เฟิงกำราบจนพูดไม่ออก

——เพี้ยะ!!!!

“ฝ่ามือนี้……”

เย่เฟิงนึกถึงจินหลี่ว์อี เหยื่อที่ถูกรถชนในปีนั้น

“ฝ่ามือนี้ สำหรับผู้เสียชีวิตหนึ่งคนและบาดเจ็บเจ็ดคนในอุบัติเหตุรถยนต์ปีนั้น!”

เลือดไหลออกจากมุมปากสวีหรูอวิ๋นเป็นทาง

——เพี้ยะ!!!!!

“ฝ่ามือนี้ ให้แกจำไว้ว่าฉันเย่เฟิง——กลับมาแล้ว!!!”

แก้มของสวีหรูอวิ๋นลวดเป่ง

เธอถูกลูกเลี้ยงทุบตีครั้งแล้วครั้งเล่าท่ามกลางสายตาของทุกคน เป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่มาจากตระกูลร่ำรวยอย่างสวีหรูอวิ๋น

เธอโกรธจนตัวสั่น พูดอะไรไม่ออก

“แกทำให้ฉันต้องไปอยู่ในคุกถึงห้าปี ฉันตบแกคืนแค่ห้าครั้งก่อน!”

“อย่าคิดว่าจะจบแล้ว……นี่มันเพิ่งเริ่มต้น!”

“แกจะกล้าทำอะไรอีก!?” สวีหรูอวิ๋นมองเย่เฟิงด้วยความแค้น:“ถ้าแน่จริงก็ฆ่าฉันสิ!”

เธออยากตายหลังจากที่ถูกลูกเลี้ยงเหยียดหยาม

“ฆ่าแก?ฮ่าฮ่า……” เย่เฟิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ฉันในตอนนี้สามารถฆ่าแกได้ราวกับฆ่าหมูฆ่าหมา!”

ให้ฆ่าเธอตอนนี้ มันคงง่ายเกินไป

“ฉันจะทวงทุกอย่างที่เป็นของฉันและของตระกูลเย่คืน!”

“ฉันจะเอาความทุกข์ทรมารที่เคยได้สัมผัส มาคืนให้แกเป็นสิบเป็นร้อยเท่า!”

“แกคอยดูดีๆแล้วกัน!”

ห้าปีที่แล้ว เย่เฟิงยอมทิ้งทุกอย่าง แต่สวีหรูอวิ๋นก็ยังต้องการที่จะฆ่าให้สิ้น

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อย่างนั้นเย่เฟิงก็จะทำจนถึงที่สุด เอาทุกอย่างที่อยู่ในมือเธอกลับ แล้วคืนให้เป็นร้อยเท่า

หลังจากพูดเสร็จ เย่เฟิงก็หมุนตัวเดินจากไป

ทิ้งกลุ่มคนไว้ด้านหลัง มองหน้ากันและกันอย่างหวาดผวา ไม่กล้าที่จะหายใจแรง

“คุณชายใหญ่……ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน……”

“ท่าทางของเขาเมื่อซักครู่ช่างน่ากลัวจริงๆ……”

“นายหญิง……คุณชายน้อย!ไม่เป็นไรใช่ไหม!”

สองแม่ลูกถูกพลุงขึ้นมา

“แม่……มันตีลูก……” เย่เจ๋อรู้สึกปวดไปทั้งตัว น้ำตานองหน้า “ตั้งแต่เล็กจนโต……ไม่เคยมีใครกล้าตีฉัน!”

สวีหรูอวิ๋นเอามือปิดหน้าที่ยังแสบร้อนอยู่ทั้งโกรธทั้งตกใจ

“ไสหัวไป!ไสหัวไปให้หมด!”

“เรื่องในวันนี้พวกแกกล้าเอาไปพูด ฉันจะติดลิ้นพวกแกทิ้งซะ!”

สวีหรูอวิ๋นตวาด แล้วไล่เหล่าคนใช้ออกไป

จากนั้น สวีหรูอวิ๋นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรไปหาหมายเลขหนึ่ง แล้วร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล

“พี่ใหญ่!ไอ้เดรัจฉานน้อยมันกลับมาแล้ว!มันกล้าตบฉัน……พี่ต้องแกแค้นให้ฉันนะ!!!”

“มันคือเจ้าเดรัจฉานน้อย เย่เฟิง!มันยังมีชีวิตอยู่!พี่หาคนโฉดหาฆ่ามันแทนฉันที!”

สวีหรูอวิ๋นพูดไปกัดฟันไป

ขณะนี้ ที่ปลายสายอีกฝั่งของโทรศัพท์

ชายวัยกลางคน นอนอยู่บนเตียงหรูหราขนาดใหญ่ ข้างกายขนาบไปด้วยสาวงามสองคน

ชายผู้นี้ก็คือพี่ชายของสวีหรูอวิ๋น สวีหรูไห่

ตระกูลสวี อยู่อันดับหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของเยี่ยนจิง สวีหรูไห่เป็นผู้สืบทอดคนเดียวของตระกูล ทั้งยังมีหูตาอยู่ทุกที่

หลังจากที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องสาว สีหน้าของสวีหรูไห่กลายเป็นมืดมน ทำให้สาวงามทั้งสองกลัวจนต้องถอยออกห่าง

“เดรัจฉานน้อยนั่นยังไม่ตายเหรอ?ช่างดวงดีจริงๆ!”

“น้องสาว ไม่ต้องร้อง เดี๋ยวพี่จะจัดการแทนเธอเอง!พี่จะส่งคนไปจับตัวมันมาแล้วเฉือนเนื้อมันออกทีละน้อย!”

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

2069