บทที่ 7 รีบไสหัวออกไป

ในขณะที่ทุกคนกำลังรอหัวเราะเยาะเย่เฟิงอยู่นั้น

พนักงานเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน

"เป็นไงบ้าง? บัตรของเขามีเงินไม่เท่าไหร่ใช่ไหม? ไม่มีคุณสมบัติในการชำระค่าสมาชิกด้วยซ้ำ?" คุณชายเซี่ยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "รีบมาเอาไอหมอนี่ออกไปเดี๋ยวนี้!"

คาดไม่ถึงว่า พนักงานคนนี้ไม่ได้สนใจความไม่มีเหตุผลของคุณชายเซี่ย แต่กลับยื่นบัตรธนาคารด้วยมือทั้งสองข้างคืนให้เย่เฟิง

"คุณเย่ครับ นี่บัตรธนาคารของคุณครับ นี่เมนูครับ เมื่อสักครู่เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด กรุณายกโทษให้ด้วยครับ ทั้งสองท่านสามารถสั่งอาหารได้แล้ว ขอให้ทานอย่างมีความสุขนะครับ"

เมื่อคนรอบข้างเห็นสิ่งนี้ ก็แอบประหลาดใจ นี่มันไม่เหมือนกับที่พวกเขาที่คาดเอาไว้นี่นา?

"เกิดอะไรขึ้น?" คุณชายเซี่ยจ้องพนักงานแล้วถามขึ้น "นายตรวจสถานะเงินของเขาเสร็จแล้ว ไม่ใช่ต้องรีบไล่เขาออกไปเหรอ? ทำไมดันมาปรนนิบัติเขาล่ะ?"

พนักงานพูดขึ้นว่า : "คุณชายเซี่ยครับ ผมเกรงว่าคุณจะเข้าใจผิดแล้ว ยอดคงเหลือในบัตรของคุณผู้ชายท่านนี้เพียงพอที่จะใช้จ่ายที่นี่ครับ "

"เขามีเงินเท่าไหร่?" คุณชายเซี่ยไม่เชื่อ

"หนึ่งล้าน!" พนักงานตอบตามความจริง

เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ และพวกเขาก็แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เป็นที่รู้กันดีว่า เงินหนึ่งล้านถึงแม้จะไม่มากมาย แต่ก็ไม่น้อย แม้ว่าที่นี่จะมีเศรษฐีร่ำรวยหลายคน แม้จะมีมูลค่าหลายร้อยล้านก็ตาม แต่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ของพวกเขาอยู่ในอสังหาริมทรัพย์หรือหุ้น และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มียอดคงเหลือเป็นล้านในบัตรของพวกเขา

อย่างเช่นคุณชายเซี่ย จะให้เข้าเอาเงินหนึ่งล้านออกมาตอนนี้ เขาก็เอาออกมาไม่ได้ เพราะไม่ได้มีเงินสำรองมากมายขนาดนั้น

ชายยากจนในสายตาของคุณชายเซี่ย คิดไม่ถึงเลยว่าเงินที่เขาเอาออกมาจะมีมากกว่าของตัวเองเสียอีก

นี่มันน่าอายเหลือเกิน

"ไม่มีทางเป็นไปได้มั้ง? นายเช็คดีแล้วยัง?"

คุณชายเซี่ยจ้องเขม็งไปที่เย่เฟิง ยังคงไม่เชื่อ

ตกลงไอ้หมอนี่เป็นใครกันแน่?

ครอบครัวได้เวนคืนที่ดิน?

"เอ๋? ไม่ใช่สิ ทำไมฉันถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าไอ้หมอนี่จังเลยนะ?"

คุณชายเซี่ยสังเกตเย่เฟิงอย่างละเอียด ยิ่งมองยิ่งรู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

"อ้อ ฉันนึกออกแล้ว!"

"นายคือ........นายคือคนที่ข่าวพูดถึงเมื่อเช้านี้ ลูกชายคนโตของตระกูลเย่ที่เพิ่งออกจากคุกแล้วถูกครอบครัวขับไล่ ที่ชื่อเย่เฟิง!"

ลูกชายคนโตของตระกูลเย่!

เย่เฟิง?

ทันทีที่พูดชื่อนี้ออกไป ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที

ต่อให้ไม่ได้ดูข่าวเมื่อเช้า แต่คนที่อยู่ที่เยี่ยนจิง มีใครบ้างที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเลียงนามของตระกูลเย่?

นับตั้งแต่เป็นทองแผ่นเดียวกันกับหนึ่งในสิบตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆอย่างตระกูลสวี่ ตระกูลเย่ก็ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่ตระกูลที่ร่ำรวยสิบอันดับแรก มีชื่อเสียงมาก ไม่มีใครไม่รู้จัก

คุณชายเซี่ยเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเงินในบัตรของเย่เฟิง

ก็เลยหัวเราะเจื่อนๆแล้วพูดว่า : "ดูท่าทางเงินหนึ่งล้านในบัตรของนาย เป็นค่าแยกบ้านที่ถูกไล่ออกมาสินะ? ล้านเดียวก็ไล่นายออกมาได้แล้ว ราคาถูกมากเลยนะ!"

หากเย่เฟิงยังคงเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเย่ ต่อให้คุณชายเซี่ยมีความกล้าหาญนับร้อย เขาก็ไม่กล้ายั่วยุเย่เฟิงเช่นนี้

แต่เย่เฟิงในตอนนี้ ในเมื่อถูกวงศ์ตระกูลลบชื่ออกแล้ว ในสายตาของคุณชายเซี่ย ใครๆก็สามารถเหยียบย่ำเขาได้

"มา! แนะนำตัวอย่างเป็นทางการให้ทุกคนรู้จักเสียหน่อย!"

"ลูกค้าที่ในบัตรมีเงินหนึ่งล้านคนนี้ ก็คือเย่เฟิง อดีตลูกชายคนโตของตระกูลเย่ "

"ว่ากันว่าเมื่อห้าปีที่แล้ว เขาขับรถชนคนตาย และถูกจำคุกห้าปีในข้อหานี้ วันนี้เขาเพิ่งออกจากคุก แต่ทันทีที่ได้รับการปล่อยตัว เขาก็ถูกไล่ออกจากบ้านและถือเป็นความอับอายของครอบครัว!"

คุณชายเซี่ยเผยแพร่เรื่องอื้อฉาวของเย่เฟิงต่อหน้าสาธารณะ และได้รับเสียงคล้อยตามจากคนจำนวนมากทันที

"ที่แท้เขาก็คือคุณชายคนโตของตระกูลเย่ที่ขับรถชนคนตายตอนนั้นนี่เอง เรื่องนั้นเป็นเรื่องฮือฮาเลยนะ!"

"เห่อ ๆ มีเงินก็ดีแบบนี้แหละ ชนคนตายได้รับโทษแค่ห้าปีเองเหรอ? ทำไมไม่ประหารเขาด้วยการยิงเป้าล่ะ?"

ชั่วขณะหนึ่ง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่พุ่งเป้าไปที่เย่เฟิงก็ค่อยๆ ดังขึ้นอีกครั้ง

"คุณชายเซี่ย คุณก่อกวนพอแล้วยัง?" ซูซานทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว รีบพูดห้ามขึ้นทันที "ฉันต้องการกินข้าวกับเพื่อนของฉัน เชิญคุณออกไป"

เมื่อเห็นว่าซูซานปกป้องเย่เฟิง คุณชายเซี่ยยิ่งโกรธมากและนำความคับข้องใจไปที่เย่เฟิง

"ซูซาน ทางที่ดีคุณควรต้องคิดให้ดีนะ ว่าผู้ชายที่นั่งตรงหน้าคุณตอนนี้เขาไม่ได้เป็นคุณชายคนโตของตระกูลเย่อีกแล้ว แต่ถูกวงศ์ตระกูลขับไล่ และยังชนคนตาย เป็นนักโทษติดคุกตั้งห้าปี!"

"คุณคบค้าสมาคมกับคนพวกนี้ ไม่รู้สึกอับอายหรือไง?"

"ต่อให้คุณเห็นแก่เงินหนึ่งล้านของเขา นั่นก็เป็นเพียงการนั่งกินนอนกินสมบัติเก่าจนหมด ลูกหลานคนรวยอย่างเขา ไม่นานก็ผลาญเงินจนหมดตัว!"

ซูซานพูดขึ้นมาว่า : "ฉันจะคบค้าสมาคมกับคนแบบไหน มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ กรุณาออกไป!"

"หึ่ย! ให้ผมออกไปงั้นเหรอ?" คุณชายเซี่ยสบถด้วยความไม่พอใจ "ซูซาน คุณอย่าลืมนะ คืนนี้เป็นวันดูตัวของเราสองคน!"

เดิมทีซูซานไม่เต็มใจมาดูตัว แต่พ่อแม่ของเธอกดดันเธออย่างหนักจนเธอไม่มีทางเลือก

เมื่อเห็นทัศนคติที่ก้าวร้าวขนาดนี้ของคุณชายเซี่ย งั้นก็เปิดเผยกับเขาไปเลยแล้วกัน

"การที่มาดูตัวกับคุณ ก็เพียงเพื่อรับมือกับพ่อแม่ของฉันเท่านั้นเอง" ซูซานพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ฉันไม่มีทางชอบคุณหรอก!"

อะไรนะ! ?

หลังจากฟังความจริงของซูซานแล้ว สำหรับคนที่หลงตัวเองอย่างคุณชายเซี่ย ก็เหมือนถูกตีแสกหน้า

"คุณกล้าปฏิเสธผมเพื่อไอ้หมอนี่! ?"

คุณชายเซี่ยโกรธจัด

"อย่าลืมนะว่าพ่อแม่ของคุณมาขอร้องให้ผมช่วย ให้คุณได้ทำงานที่สำนักงานใหญ่ของจ้าวซื่อกรุ๊ป!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของซูซานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอเม้มริมฝีปากแน่น และค่อนข้างรู้สึกเสียใจกับคำพูดและการกระทำของตัวเองเล็กน้อย

วันนี้ที่มาดูตัว นอกจากเพื่อรับมือกับพ่อแม่แล้ว ยังมีเหตุผลหลักอีกอย่างก็คือ คุณชายเซี่ยเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัทที่เธอต้องการสมัครด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถทำให้เขาขุ่นเคืองมากเกินไป

แต่คำพูดเมื่อสักครู่ กลับทําให้งานในอนาคตของตนพังทลายลงหมด

มีที่ไหนกัน ยังไม่ทันได้เข้าบริษัท ก็ทำให้ผู้บริหารแผนกขุ่นเคืองใจแล้ว และเขายังเป็นผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลด้วย?

ต่อให้ซูซานจะเก่งมากขนาดไหน การสมัครงานหลังจากนี้ อย่าคิดว่าจะผ่านได้เลย

"ไม่ไปก็ไม่ไปสิ!" ซูซานพูดอย่างดื้อรั้น "เยี่ยนจิงมีบริษัทมากมาย! ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าจะหางานทำไม่ได้?"

เมื่อเย่เฟิงได้ยินคำว่า จ้าวซื่อกรุ๊ป ในใจก็นึกถึงจ้าวว่านถิง ไม่รู้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้หรือไม่ จะพอช่วยได้ไหม?

"ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องงานของเธอ ฉันช่วยได้" เย่เฟิงพูดปลอบใจ

เพราะยังไง ซูซานมีปัญหากับเขาก็เพื่อตน

อีกทั้งหลังจากนี้ เย่เฟิงก็จะก่อตั้งบริษัทของตัวเอง

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องงานแต่อย่างใด

แต่เมื่อคุณชายเซี่ยที่อยู่ข้างๆได้ยินสิ่งนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะแล้วพูดว่า : "นายจะช่วย? นายจะช่วยอะไรได้?"

"นายคิดว่า นายยังเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเย่เหมือนเมื่อก่อนอีกเหรอ? แม้ว่าน้องชายต่างแม่ของนายจะอยู่ที่นี่ ก็ไม่กล้าพูดอะไรแบบนี้ เพราะตระกูลจ้าว ยอดเยี่ยมกว่าตระกูลเย่ของพวกนายมาก!"

เย่เฟิงเห็นแก่หน้าของซูซาน พยายามอดกลั้นความโกรธ แต่อีกฝ่ายก็พยายามพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เขาพูดถึงเย่เจ๋อน้องชายต่างแม่ของเขาอีกแล้ว

"พูดพอแล้วยัง?" เย่เฟิงถามขึ้น

"ทำไม? นายเกี่ยวอะไร?" คุณชายเซี่ยไม่พอใจ

"ถ้าพูดจบแล้ว ก็ไสหัวออกไป!" เย่เฟิงเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา "วันนี้ผมไม่อยากทำร้ายคน"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

2069