บทที่ 7 คุณไม่มีสิทธิ์

เมื่อได้ยินแบบนี้บวกกับเห็นความรู้สึกช็อกนั่นของโม่ฝาน ปฏิกิริยาแรกของหญิงสาวคนนั้นคือรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง เจ๊เป็นคนที่มีต้นทุนสูงมากๆเชียวนะ!!

แต่ทันใดนั้นเองเธอก็ตระหนักได้ถึงปัญหาอย่างนึง ก่อนที่เธอจะรีบก้มหน้าลงไปมองเรือนร่างของตัวเอง

"อ๊ายยย!! เมื่อกี้แกมองเห็นทั้งหมดเลยหรอ?!"

โม่ฝานแบมือทั้งสองข้างออกมาอย่างรู้สึกน้อยใจ "ฉันไม่ได้ตาบอดสักหน่อย ก็ต้องมองเห็นอยู่แล้วสิ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยนะว่าเธอแต่งตัวได้ดูดีมากๆเลย!!"

"ไอ้สาระเลว!! ถ้าเกิดแกยังไม่หยุดมอง ฉันจะฆ่าแก!!"

"เธอเป็นคนเปิดให้ฉันดูเอง นี่จะมาโทษฉันไม่ได้นะ!!"

"......"

และในตอนนี้เองมู่ชิงเอ๋อร์ก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกับใบเสร็จในมือ เมื่อกี้เธอเพิ่งลงไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟมา แต่ทันทีที่เดินมาถึงหน้าบ้านเธอก็ได้ยินเสียงโวยวายทันที

เห็นเพียงหญิงสาวคนนั้นที่กำลังพันผ้าขนหนูอยู่บนตัวไล่ตีโม่ฝาน

"พอได้แล้ว!! ทำอะไรกันน่ะ?!" มู่ชิงเอ๋อร์ใช้เท้าย่ำกับพื้นแล้วพูดอย่างตะลึง

เมื่อได้ยินเสียงดังกล่าวทั้งสองจึงหยุดลงแล้วรีบหันกลับมา จ้องมองมาทางมู่ชิงเอ๋อร์ที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว

"คุณภรรยา คุณกลับมาแล้วหรอครับ!! ผมก็คิดว่าผมเข้าผิดบ้านซะอีก!!" โม่ฝานยิ้มอย่างมีเลศนัยพลางพูด

ณ ตอนนี้ หญิงสาวคนนั้นรู้สึกโกรธมากจนใบหน้าแดงเถือกไปทั้งหน้าแล้ว โม่ฝานนั่นเหมือนปลาไหลตัวหนึ่งชัดๆ จับยังไงก็จับไม่ได้

"แกเรียกเธอว่าภรรยางั้นหรอ?! พี่ชิงเอ๋อร์ไอ้หื่นนี่…..เป็นสามีพี่?!"

โม่ฝานยิ้มอย่างร้ายๆ "ตัวจริงเสียงจริงเลยแหละ!!"

"ถุ้ย ฉันไม่ใช่! ซืออวี่ ฉันลืมบอกแกน่ะ ไอ้หมอนี่อาจจะมาพักอยู่กับเราประมาณ 1 เดือน แต่ว่าแกไม่ต้องเป็นห่วง ให้มันนอนชั้นล่าง เรานอนชั้นบน!!" มู่ชิงเอ๋อร์ใช้มือเกาๆหัวพลางพูดอย่างเก้อเขิน

หญิงสาวที่กำลังพันผ้าขนหนูอยู่บนตัวนั่นมีนามว่าซ่งซืออวี่ เป็นเพื่อนสมัยมหาลัยของมู่ชิงเอ๋อร์ เธอรีบดึงตัวมู่ชิงเอ๋อร์มาข้างๆแล้วพูดกระซิบเสียงเบา "พี่ให้ไอ้หื่นนี่อยู่ในบ้านเรา มันอันตรายเกินไปหรือเปล่า?! พี่คิดดูนะมีสาวสวยอย่างเราสองคนทำทุกอย่างต่อหน้ามันทุกวัน ไม่ช้าก็เร็วมันต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่นอน!"

แม้เสียงพูดของพวกเธอจะเบามากๆ แต่สุดท้ายพวกเธอก็ดูถูกความสามารถในการได้ยินของโม่ฝานมากเกินไป

"เธอเป็นคนอยากจะโชว์ต้นทุนของเธอให้ฉันดูเอง ทำไมตอนนี้ฉันถึงกลายเป็นไอ้หื่นคนนั้นไปแล้วล่ะ?!"

ฟึ่บบ!!

ทันใดนั้นเองก็มีสิ่งของสีดำอะไรบางอย่างตกลงมาจากด้านหลังเขา แล้วของสิ่งนั้นก็คือกางเกงในลายลูกไม้…..

จู่ ๆ ใบหน้าที่เรียวบางของมู่ชิงเอ๋อร์ก็เยือกเย็นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วว่าของสิ่งนี้ต้องเป็นของเธอแน่นอน

"ถ้าผมบอกว่าผมไม่ใช่ไอ้หื่น…..พวกคุณจะเชื่อไหม?!" โม่ฝานมองหน้าหญิงสาวทั้งสองคนด้วยสายตาที่ใสซื่อมากกว่าเดิมแล้วพูด

"แกคิดว่ายังไงล่ะ!!" ทั้งสองคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน

มู่ชิงเอ๋อร์รีบเดินขึ้นไปเก็บของที่ตกอยู่บนพื้น ถลึงตาใส่โม่ฝานแล้วพูดว่า "ในเมื่อพักอาศัยอยู่ที่นี่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ ในบ้านมีผู้หญิง 2 คน ปกติทำอะไรนายก็ระมัดระวังหน่อย อีกอย่างงานกวาดบ้านถูบ้านซักผ้าต่างๆ นายล้วนต้องเป็นคนรับผิดชอบ รดน้ำต้นไม้ชงชาทุกอย่างก็เป็นหน้าที่ของนายเหมือนกัน ต้องดูแลพวกเราดีๆ ปกติถ้าสั่งให้นายทำอะไร นายห้ามบ่นแม้แต่คำเดียว ฉันบอกให้นายทำอะไรได้ก็ต้องทำ ถ้าเกิดทำตามที่บอกไม่ได้ละก็ นายสามารถจากไปตอนนี้ได้เลย!!"

"ได้เลยครับคุณภรรยา เรื่องทั้งหมดนี้น่ะจิ๊บจ๊อย!! งั้นแบบนี้ตอนกลางคืนคุณต้องนอนกอดผมด้วยไหมครับ?!" โม่ฝานยิ้มอย่างกวนบาทาพลางพูด

"ไสหัวไป!!"

"ได้เล้ย!!"

โม่ฝานยิ้มกรุ้มกริ่มพลางยกของที่เพิ่งซื้อกลับมาจากห้างสรรพสินค้าเข้าไปในห้องครัว และในตอนนี้หมาพิทบลูตัวนั้นก็ได้เดินบิดตูดตามเข้ามาเช่นกัน

และสิ่งที่ทำให้คนคิดไม่ถึงคือหมาตัวนั้นถึงกับนอนกลิ้งอยู่บนพื้นเพื่อขอให้คนอื่นมาเล่นด้วยงั้นหรอ เมื่อมู่ชิงเอ๋อร์เห็นแบบนี้แล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา "คนก็เสเพลหมาก็เสเพลเหมือนกัน!! แกก็อยู่ที่นี่พร้อมกับเขาแล้วกัน"

"อย่าไปจับมัน ระวังมันกัด!!" โม่ฝานรีบหันหน้ากลับมาเตือน

‘เฮียรอง’ เดินตามหลังมาโดยตลอด โม่ฝานไม่มีทางไม่รู้ เขาแค่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเพื่อที่จะได้พามันเข้ามาในคฤหาสน์ การที่มันจะสามารถอยู่ต่อได้หรือไม่นั้น คงต้องดูที่การประพฤติของมันอีกทีแล้วล่ะ

แต่มู่ชิงเอ๋อร์และซ่งซืออวี่ไม่สนใจคำเตือนของโม่ฝานเลยแม้แต่น้อย พวกเธอเอื้อมมือไปลูบหัวของมันโดยตรง!

และสิ่งที่ทำให้โม่ฝานคิดไม่ถึงคือไอ้หมาตัวนั้นถึงกับอ้อนเลียมือของหญิงสาวทั้งสองอย่างนั้นหรอ

ให้ตายเถอะ นี่ช่วยรักษาภาพลักษณ์หน้าตาหน่อยได้ไหม!

"ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย!!" โม่ฝานอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวอย่างเอือมระอา

ตอนแรกเริ่มหมาตัวนี้ดูดุมากๆ ต่อมาหลังจากที่เล่นกับมันไปได้สักพัก ผู้หญิงทั้งสองคนนั้นกลับรู้สึกว่ามันค่อนข้างน่ารักเลย ซ่งซืออวี่อุ้มตัวมันขึ้นไปนอนตักแล้วดูทีวี หน้าอกของเธอวางทับอยู่บนหัวของ‘เฮียรอง’พอดี

เมื่อโม่ฝานที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในห้องครัวมองเห็นภาพเหตุการณ์นี้แล้ว จึงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ซีรีส์ตอน ชีวิตหมาเลิศหรูกว่าคน!!"

หลังจากที่ผ่านไปสักพัก เสียงตะหลิวและกระทะชนกันก็ได้ดังขึ้น ก่อนจะลอยตามมาด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ

ทั้งสองคนที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่นอดไม่ได้ที่จะใช้จมูกสูดดมแรงๆ

"หอมจังเลย ไอ้หมอนั่นทำอะไรเนี่ย?!" ซ่งซืออวี่ที่ได้กลิ่นอาหารแล้วเริ่มน้ำลายแตก

ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวเท่านั้น แม้แต่มู่ชิงเอ๋อร์เองก็กำลังแอบกลืนน้ำลายอยู่เหมือนกัน ตัวเองกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาได้สักพักแล้ว เธอมักจะรู้สึกมาโดยตลอดเลยว่าพวกอาหารหรูๆตามร้านอาหารเทียบเคียงกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเธอไม่ได้เลย

มากไปกว่านั้นคือเธอเริ่มมีอาการเบื่ออาหาร แต่ตอนนี้เมื่อได้กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากห้องครัวแล้ว เธอจึงมีความวู่วามที่อยากจะวิ่งเข้าไปดูว่าโม่ฝานทำอะไรกันแน่

โม่ฝานเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับอาหารหนึ่งจาน เป็ดตัวนึงที่ผ่านการแยกกระดูกและเอ็นออกหมดแล้วได้ถูกโม่ฝานยกออกมาเสิร์ฟ

"อาหารจานนี้ชื่อว่าอะไรหรอ?!" ซ่งซืออวี่ถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตะลึง

"เป็ดเปลวไฟอสนีบาต เป็นเมนูอาหารที่สืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษตระกูลฉัน ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเป็นห่วงภรรยาฉัน ฉันไม่มีวันทำเองหรอกนะ!!"

โม่ฝานพูดได้ใบหน้าที่จริงจัง

มู่ชิงเอ๋อร์ที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟากลอกตามองบนใส่เขารอบนึง "กะล่อนปลิ้นปล้อน!!"

"วู้ววว พี่ชิงเอ๋อร์อร่อยมากเกินไปแล้ว พี่ก็รีบมากินหน่อยสิ….." ซ่งซืออวี่เป็นคนแรกที่ลงมือเปิดฉากกินก่อน กินจนปากเลอะเต็มไปด้วยน้ำมัน

เมื่อเห็นว่าเธอกินได้ดูเอร็ดอร่อยเช่นนั้นแล้ว มู่ชิงเอ๋อร์จึงเลียๆริมฝีปากตัวเอง "งั้น…..ฉันจะลองชิมดูหน่อยแล้วกัน….."

แต่หลังจากที่เธอเพิ่งกินคำแรกเข้าไป เธอก็ถึงกับตาค้างไปเลย

"ค่อยๆกิน ในหม้อยังมีอีก สาวนมโต เธอเหลือไว้ให้ภรรยาฉันหน่อยสิ!!"

"....."

ตกดึก

ทั้งสองคนกินอิ่มจนเดินกลับขึ้นตึกไปแล้ว

โม่ฝานนั่งอยู่ข้างหน้าต่างพลางเงยหน้าเหมอมองพระจันทร์ที่สว่างไสว วันนี้ตัวเองทำกับข้าวไปเยอะขนาดนั้น แต่ตัวเขาเองกลับไม่ได้กินเลยแม้แต่คำเดียว

"คุ้นชินกับชีวิตที่อยู่ใต้ฝนกระสุน จู่ๆฉันก็รู้สึกว่าการใช้ชีวิตแบบธรรมดาเรียบง่ายมันไม่คุ้นชินเอาซะเลย!!" เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะถอนหายใจออกแล้วพูด

และในตอนนี้เองหมาพิทบูลตัวนั้นก็ได้เดินออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วมาหยุดอยู่ข้างกายโม่ฝาน มันไม่ได้พูดอะไรเลยแค่นอนคลานอยู่ตรงหน้าเขา

"จะออกไปดื่มเหล้าหน่อยไหม?!" โม่ฝานแสยะยิ้มพลางพูด

"ฮ่องง!!"

หลังจากที่พูดจบ ทั้งตัวคนละตัวหมาก็ค่อยๆกลืนหายไปพร้อมกับความมืด

ณ ชั้น 2 ของคฤหาสน์

"ข้อมูลที่ฉันให้เธอไปตรวจสอบ ตรวจเจออะไรบ้างไหม?!" มู่ชิงเอ๋อร์นั่งพิงอยู่ขอบหน้าต่างพลางถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง

มีเสียงอันเย้ายวนของผู้หญิงคนนึงดังออกมาจากปลายสาย "ข้อมูลระเบียนของเขาง่ายมากๆค่ะ ง่ายจนสามารถใช้คำพูดเดียวมาอธิบายให้ครอบคลุมได้"

"คำว่าอะไร?!"

"คุณไม่มีสิทธิ์ค่ะ….."

"......"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1