บทที่ 15 นาย! ผ่านการทดสอบแล้ว
by หงสู่เฉียวเอ้อเหยีย
15:47,Jun 13,2022
“ลุกขึ้น!” ซูเยว่เบิกตากว้างจนดวงตากลมโตพลางตวาดเสียงดังใส่โม่ฝาน
แต่ทว่าโม่ฝานกลับใช้มือจัแขนของเธอเอาไว้ ทำให้ระยะห่างของทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงแค่ประมาณ 5 มิลลิเมตรเท่านั้น
ราวกับสามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้นของฝ่ายตรงข้าม ซูเยว่มองดูชายหนุ่มที่กำลังกดทับอยู่ด้านบนตัวเอง ทำให้จังหวะในการหายใจของเธอยิ่งถี่ขึ้น
โม่ฝานอมยิ้มมุมปาก “งั้นแบบนี้ก็ถือว่าผมผ่านแล้วใช่ไหมครับ?!”
“นาย!” ไฟโกรธที่อยู่ในใจซูเยว่ลุกโชนหนักมาก ก่อนหน้านี้เธอไม่อยากให้โม่ฝานเข้ามาทำงานในบริษัท
แต่ตอนนี้เธอกลับอยากให้ไอ้หมอนี่มาทำงานในบริษัทมากๆ เพราะถ้าเกิดเป็นแบบนี้ต่อไปเธอจะได้มีโอกาสอบรมสั่งสอนเขาดีๆสักตั้ง!
“นาย! ผ่านการทดสอบแล้ว!” ซูเยว่พูดกดเสียงต่ำอย่างโกรธเคือง
มู่ชิงเอ๋อร์ลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้แล้วตำหนิว่า “รีบลุกขึ้นมา แล้วไปรายงานตัวที่ห้องรปภเดี๋ยวนี้!”
“....”
ไอ้สาระเลวนี่ เดิมทีเธอกะจะให้ซูเยว่อบรมสั่งสอนเขาดีๆสักตั้งแล้วค่อยไล่เขาออกไปจากบริษัท ให้เขาเข้าใจว่าระหว่างเขาและตัวเองนั่นแตกต่างกันมากเกินไป
แต่กลับยังไม่ถึงเลยว่าโม่ฝานไม่เพียงสามารถเอาชนะซูเยว่ได้ แถมเขายังแต๊ะอั๋งซูเยว่ไปอีกด้วย
มู่ชิงเอ๋อร์ในตอนนี้สามารถสัมผัสได้ถึงไฟโกรธที่อยู่ในใจซูเยว่ได้
โม่ฝานค่อยๆลุกขึ้นมา เมื่อมองหน้าซูเยว่แล้ว ก็มีภาพเหตุการณ์ที่ร้อนแรงอย่างเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัวเขาอย่างควบคุมไม่ได้
“สีม่วง เหมาะสมกับเธอมาก!” เขาเลียริมฝีปากพลางพูดอย่างทะเล้น
ตอนนี้มู่ชิงเอ๋อร์รีบใช้นิ้วชี้มาตรงสายเสื้อในของตัวเองแล้วย้ำเตือนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “เยว่เยว่ สายเสื้อในตกแล้ว…..”
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วซูเยว่ถึงจะก้มลงไปมองบริเวณไหล่ของตัวเอง ก่อนที่เธอจะพบว่าสายเสื้อในของตัวเองตกลงมาแล้วจริงๆด้วย มากไปกว่านั้นคือพวกผู้ชายที่อยู่ในห้องเริ่มหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปด้วย
ทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้ ต้องรีบบันทึกไว้!
แชว็ก เสียงแฟลชดังขึ้น
“ไอ้สาระเลว ลบให้หมด ไม่งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะทำให้พวกแกรู้ซึ้งถึงคำว่าหายนะไปตลอดชีวิต!” ซูเยว่หันหน้ากลับมาขมวดคิ้วแน่น ภายในแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟโกรธที่ลุกโชน
ผู้สมัครเหล่านั้นต่างหลับตาปี๋ลงไปโดยสัญชาตญาณ และนีบขาทั้งสองข้างเอาไว้แน่นๆ
ถ้าเกิดแววตาสามารถฆ่าคนได้ละก็ ตอนนี้โม่ฝานคงตายเป็นล้านแปดพันครั้งแล้ว
“พอได้แล้ว มัวยืนบื้อทำไม ตอนนี้นายเป็นหนึ่งในรปภของจินซือหย่ากรุ๊ปอย่างเป็นทางการแล้ว รีบไปรายงานตัวเถอะ!” เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ทั้งสองคนนี้ได้ทะเลาะกันอีกครั้ง มู่ชิงเอ๋อร์จึงรีบไล่ให้โม่ฝานไปรายงานตัว
แต่ซูเยว่กลับก้าวเท้ายาวไปตรงหน้าโม่ฝาน “ในเมื่อฉันเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งมัน! ด้วยตัวฉันเอง!”
คำพูดสองคำสุดท้าย เธอแทบจะกัดฟันพูดเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกัดแรงเกินไปหรือเปล่า ทำให้ริมฝีปากของเธอเริ่มมีเลือดไหลซิบออกมา
นี่เธอรู้สึกเกลียดโม่ฝานจนเข้าไส้ไปแล้ว เมื่อคืนทำไมตัวเองถึงได้ขึ้นเตียงกับคนหน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้นะ หลังเมานี่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันพังทลายลงไปได้จริงๆ!
ถึงกลับทำให้เธอต้องขายหน้าต่อสาธารณชน คอยดูเลยนะว่าต่อไปเธอจะสั่งสอนเขายังไง!
“งั้นก็ต้องรบกวนผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลด้วยนะครับ~” โม่ฝานยักไหล่อย่างชิลล์สบายพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ไอ้หมอนี่ยิ่งรู้สึกได้ใจ ซูเยว่ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากจนคันไม้คันมือ เธอใกล้จะอกแตกตายแล้ว
เมื่อเห็นว่าซูเยว่พาโม่ฝานจากไปแล้ว มู่ชิงเอ๋อร์ก็ได้ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้เหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ยังไงอย่างนั้น “ไอ้หมอนั่นนี่ทำให้ฉันสบายใจไม่ได้เลยนะ!”
นึกย้อนไปถึงตอนที่โม่ฝานกระทืบรปภทั้งหมดในบริษัทจนล้มนอนกองอยู่บนพื้น แถมยังเอารองเท้าเหม็นๆยัดเข้าไปในปากพวกเขาอีก วันนี้ถ้าเกิดรปภกลุ่มนั้นรู้ว่าโม่ฝานจะได้เป็นเพื่อนร่วมงานของพวกเขา คาดว่าชีวิตของโม่ฝานที่อยู่ในแผนกรปภก็คงจะไม่ได้ดีไปถึงไหนหรอกมั้ง!
เมื่อคิดแบบนี้ได้ มู่ชิงเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างสะใจ รอพวกรปภคนเก่าๆกีดกันโม่ฝานเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นตัวเองค่อยลงไปช่วยไกล่เกลี่ยแล้วกัน หึ ดูซิว่านายจะเก่งได้ถึงไหนกันเชียว!
……….
เดินออกมาจากห้องประชุม ซูเยว่และโม่ฝานคนนึงเดินอยู่ด้านหน้าคนนึงเดินอยู่ด้านหลัง
แต่ทันใดนั้นเองซูเยว่ก็ได้หยุดฝีเท้าลง ทำให้โม่ฝานเดินชนเข้ากับเธออย่างจัง กลิ่นหอมอ่อนๆได้กระแทกเข้ามาในจมูกอีกครั้ง
“เธอเดินอยู่ดีๆ ทำไมถึงหยุดเดินอย่างกะทันหันแบบนี้ล่ะ” เขาลูบๆจมูกตัวเองพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
ซูเยว่หันหน้ากลับมาลากตัวโม่ฝานแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที
“เห้ยย นี่คือห้องน้ำหญิงนะ!” โม่ฝานอุทานอย่างตะลึง
ทันทีที่สิ้นเสียง โม่ฝานก็ถูกซูเยว่ผลักเข้าไปในห้องน้ำหญิงทันที ก่อนที่เธอจะปิดประตูดังปัง
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของหญิงสาวเต็มเปี่ยมไปด้วยความลุกลน โม่ฝานอดไม่ได้ที่จะเอาลำตัวแนบติดกับผนังห้องพลางยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “เธอพักก่อนเถอะ เมื่อคืนยังไม่พออีกหรอ?!”
“หุบปาก!” ซูเยว่ตะคอกเสียงต่ำ ภายในแววตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความแปลกหน้า เหมือนกับว่าเมื่อคืนทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนยังไงอย่างนั้น
ต่างว่ากันว่าผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้หัวใจ แต่ในมุมมองของโม่ฝาน ผู้หญิงต่างหากที่ไร้หัวใจ
ซูเยว่กระชากคอเสื้อของโม่ฝานเอาไว้
“มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากันสิ อดิดาสที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่ตั้ง 50 หยวนเชียวนะ ช่วยรักษาหน่อยได้ไหม?!” โม่ฝานพูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่น เมื่อคืนสภาพตอนที่หญิงสาวคนนี้เมาเหล้าดูงดงามมากๆ แต่ตอนนี้หลังจากที่สร่างเมาแล้ว เธอก็บ้าคลั่งเหมือนแม่สิงโตตัวนึงยังไงอย่างนั้น!
เมื่อเธอได้ยินคำพูดของโม่ฝานแล้ว ทำให้เธอกระตุกยิ้มมุมปากอย่างดูหมิ่น จากนั้นเธอก็ได้หยิบธนบัตร 100 หยวนออกมาฟาดใส่หน้าอกของเขาแล้วพูดว่า “ฉันขอเตือนแกไว้ก่อน ถ้าเกิดแกกล้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกมาละก็ ฉันรับประกันได้เลยว่าแกจะอยู่ไม่สุขแน่!”
“เธอหมายถึงเธอในเมื่อคืนหรอ?!” โม่ฝานกระตุกยิ้มมุมปากอย่างทะเล้น
ฟึ่บบ ใบหน้าของซูเยว่แดงเถือกขึ้นไปถึงกกหูภายในพริบตา
ตุบ!
ซูเยว่ยกเข่าแทงใส่จุดสำคัญบนร่างกายโม่ฝานพอดีเป๊ะ
“ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ระวังฉันจะทำให้แกใช้งานไอ้เจ้านี่ไม่ได้ตลอดชีวิต!”
โม่ฝานโดนกระแทกจนรู้สึกจุกมาก เจ็บจนร่างกายเขาสไลด์ลงมากองอยู่บนพื้น ขดตัวเป็นก้อนอยู่บนพื้นห้องน้ำ
“ให้ตายเถอะ โชคดีที่ฉันเคยฝึกฝนมาก่อน ไม่งั้นครั้งนี้ฉันอาจจะจบเห่แล้วจริงๆ!”
ซูเยว่ทำเสียงหึอย่างเยือกเย็น “ตอนอยู่บริษัทช่วยทำตัวให้มันดีๆหน่อย ไม่งั้นฉันจะมีวิธีอีกหลากหลายวิธีเลยที่สามารถจัดการกับแก!”
หลังจากที่พูดจบเธอก็ได้ออกไปจากห้องน้ำโดยที่ไม่หันหน้ากลับมามองโม่ฝานอีกเลย ไหนบอกว่าจะส่งตัวเองไปห้องรปภไม่ใช่หรอ?!
หัวใจผู้หญิง เดายากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร!
“เห้ออ คำพูดของผู้หญิงเนี่ยนะ เชื่อไม่ได้แม้กระทั่งลมหายใจเดียวกัน!” โม่ฝานมองดูเงาหลังของซูเยว่ที่กำลังเดินจากไปแล้วส่ายหน้ารัวๆ
แต่ว่าเขายังไม่ถึงจริงๆว่าผู้หญิงที่งดงามระดับประเทศในจิยซือหย่ากรุ๊ปจะมีเยอะขนาดนี้ ดูจากสถานการณ์แล้ว ชีวิตต่อจากนี้ของตัวเองต้องไม่สงบแน่นอน
……..
แผนกรปภ ขณะนี้ภายในห้องรปภเล็กๆนั้นคึกคักเป็นอย่างมาก
“พวกนายได้ยินหรือเปล่า วันนี้ไอ้หมอนั่นเท่มากๆเลยล่ะ กล้าแต๊ะอั๋งแม้กระทั่งผู้อำนวยการซูของเรา!”
“ก็ใช่ไง ผู้อำนวยการซูเป็นกุหลาบเปลวไฟที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในบริษัทเรามากๆ อารมณ์ของเธอนั้นร้อนแรงไม่เบาเลยนะ!”
“รปภคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเดือนก่อน ก็โดนกระทืบจนเข้าโรงพยาบาลเพราะเอาแต่มองหน้าผู้อำนวยการซูจนน้ำลายไหลนี่แหละ เหมือนตอนนี้เขายังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลเลย!”
“......”
สาวสวยในบริษัทมีเยอะมากๆ แต่มีเพียงซูเยว่คนเดียวเท่านั้นที่คนอื่นไม่กล้ามอง แม้จะมีความคิดแบบนั้น แต่พวกเขาก็ทำได้แค่เก็บความคิดแบบนั้นไว้ในใจ
ถ้าเกิดใครพูดออกมาแล้วแพร่งพรายไปถึงหูซูเยว่ละก็ การโดนไล่ออกนั่นถือว่าเป็นโทษที่เบามากๆแล้ว หนักหน่อยก็โดนกระทืบจนบาดเจ็บสาหัส
ในขณะที่ทุกคนกำลังสุมหัวกันวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่นั้น ประตูห้องรปภก็ถูกคนอื่นเปิดออกเป็นเสียงดัง ปั้ง
“ชงชาให้ฉันเสร็จหรือยัง?!”
โม่ฝานในตอนนี้กำลังพิงอยู่บนขอบประตูพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
แต่ทว่าโม่ฝานกลับใช้มือจัแขนของเธอเอาไว้ ทำให้ระยะห่างของทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงแค่ประมาณ 5 มิลลิเมตรเท่านั้น
ราวกับสามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้นของฝ่ายตรงข้าม ซูเยว่มองดูชายหนุ่มที่กำลังกดทับอยู่ด้านบนตัวเอง ทำให้จังหวะในการหายใจของเธอยิ่งถี่ขึ้น
โม่ฝานอมยิ้มมุมปาก “งั้นแบบนี้ก็ถือว่าผมผ่านแล้วใช่ไหมครับ?!”
“นาย!” ไฟโกรธที่อยู่ในใจซูเยว่ลุกโชนหนักมาก ก่อนหน้านี้เธอไม่อยากให้โม่ฝานเข้ามาทำงานในบริษัท
แต่ตอนนี้เธอกลับอยากให้ไอ้หมอนี่มาทำงานในบริษัทมากๆ เพราะถ้าเกิดเป็นแบบนี้ต่อไปเธอจะได้มีโอกาสอบรมสั่งสอนเขาดีๆสักตั้ง!
“นาย! ผ่านการทดสอบแล้ว!” ซูเยว่พูดกดเสียงต่ำอย่างโกรธเคือง
มู่ชิงเอ๋อร์ลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้แล้วตำหนิว่า “รีบลุกขึ้นมา แล้วไปรายงานตัวที่ห้องรปภเดี๋ยวนี้!”
“....”
ไอ้สาระเลวนี่ เดิมทีเธอกะจะให้ซูเยว่อบรมสั่งสอนเขาดีๆสักตั้งแล้วค่อยไล่เขาออกไปจากบริษัท ให้เขาเข้าใจว่าระหว่างเขาและตัวเองนั่นแตกต่างกันมากเกินไป
แต่กลับยังไม่ถึงเลยว่าโม่ฝานไม่เพียงสามารถเอาชนะซูเยว่ได้ แถมเขายังแต๊ะอั๋งซูเยว่ไปอีกด้วย
มู่ชิงเอ๋อร์ในตอนนี้สามารถสัมผัสได้ถึงไฟโกรธที่อยู่ในใจซูเยว่ได้
โม่ฝานค่อยๆลุกขึ้นมา เมื่อมองหน้าซูเยว่แล้ว ก็มีภาพเหตุการณ์ที่ร้อนแรงอย่างเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัวเขาอย่างควบคุมไม่ได้
“สีม่วง เหมาะสมกับเธอมาก!” เขาเลียริมฝีปากพลางพูดอย่างทะเล้น
ตอนนี้มู่ชิงเอ๋อร์รีบใช้นิ้วชี้มาตรงสายเสื้อในของตัวเองแล้วย้ำเตือนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “เยว่เยว่ สายเสื้อในตกแล้ว…..”
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วซูเยว่ถึงจะก้มลงไปมองบริเวณไหล่ของตัวเอง ก่อนที่เธอจะพบว่าสายเสื้อในของตัวเองตกลงมาแล้วจริงๆด้วย มากไปกว่านั้นคือพวกผู้ชายที่อยู่ในห้องเริ่มหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปด้วย
ทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้ ต้องรีบบันทึกไว้!
แชว็ก เสียงแฟลชดังขึ้น
“ไอ้สาระเลว ลบให้หมด ไม่งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะทำให้พวกแกรู้ซึ้งถึงคำว่าหายนะไปตลอดชีวิต!” ซูเยว่หันหน้ากลับมาขมวดคิ้วแน่น ภายในแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟโกรธที่ลุกโชน
ผู้สมัครเหล่านั้นต่างหลับตาปี๋ลงไปโดยสัญชาตญาณ และนีบขาทั้งสองข้างเอาไว้แน่นๆ
ถ้าเกิดแววตาสามารถฆ่าคนได้ละก็ ตอนนี้โม่ฝานคงตายเป็นล้านแปดพันครั้งแล้ว
“พอได้แล้ว มัวยืนบื้อทำไม ตอนนี้นายเป็นหนึ่งในรปภของจินซือหย่ากรุ๊ปอย่างเป็นทางการแล้ว รีบไปรายงานตัวเถอะ!” เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ทั้งสองคนนี้ได้ทะเลาะกันอีกครั้ง มู่ชิงเอ๋อร์จึงรีบไล่ให้โม่ฝานไปรายงานตัว
แต่ซูเยว่กลับก้าวเท้ายาวไปตรงหน้าโม่ฝาน “ในเมื่อฉันเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งมัน! ด้วยตัวฉันเอง!”
คำพูดสองคำสุดท้าย เธอแทบจะกัดฟันพูดเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกัดแรงเกินไปหรือเปล่า ทำให้ริมฝีปากของเธอเริ่มมีเลือดไหลซิบออกมา
นี่เธอรู้สึกเกลียดโม่ฝานจนเข้าไส้ไปแล้ว เมื่อคืนทำไมตัวเองถึงได้ขึ้นเตียงกับคนหน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้นะ หลังเมานี่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันพังทลายลงไปได้จริงๆ!
ถึงกลับทำให้เธอต้องขายหน้าต่อสาธารณชน คอยดูเลยนะว่าต่อไปเธอจะสั่งสอนเขายังไง!
“งั้นก็ต้องรบกวนผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลด้วยนะครับ~” โม่ฝานยักไหล่อย่างชิลล์สบายพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ไอ้หมอนี่ยิ่งรู้สึกได้ใจ ซูเยว่ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากจนคันไม้คันมือ เธอใกล้จะอกแตกตายแล้ว
เมื่อเห็นว่าซูเยว่พาโม่ฝานจากไปแล้ว มู่ชิงเอ๋อร์ก็ได้ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้เหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ยังไงอย่างนั้น “ไอ้หมอนั่นนี่ทำให้ฉันสบายใจไม่ได้เลยนะ!”
นึกย้อนไปถึงตอนที่โม่ฝานกระทืบรปภทั้งหมดในบริษัทจนล้มนอนกองอยู่บนพื้น แถมยังเอารองเท้าเหม็นๆยัดเข้าไปในปากพวกเขาอีก วันนี้ถ้าเกิดรปภกลุ่มนั้นรู้ว่าโม่ฝานจะได้เป็นเพื่อนร่วมงานของพวกเขา คาดว่าชีวิตของโม่ฝานที่อยู่ในแผนกรปภก็คงจะไม่ได้ดีไปถึงไหนหรอกมั้ง!
เมื่อคิดแบบนี้ได้ มู่ชิงเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างสะใจ รอพวกรปภคนเก่าๆกีดกันโม่ฝานเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นตัวเองค่อยลงไปช่วยไกล่เกลี่ยแล้วกัน หึ ดูซิว่านายจะเก่งได้ถึงไหนกันเชียว!
……….
เดินออกมาจากห้องประชุม ซูเยว่และโม่ฝานคนนึงเดินอยู่ด้านหน้าคนนึงเดินอยู่ด้านหลัง
แต่ทันใดนั้นเองซูเยว่ก็ได้หยุดฝีเท้าลง ทำให้โม่ฝานเดินชนเข้ากับเธออย่างจัง กลิ่นหอมอ่อนๆได้กระแทกเข้ามาในจมูกอีกครั้ง
“เธอเดินอยู่ดีๆ ทำไมถึงหยุดเดินอย่างกะทันหันแบบนี้ล่ะ” เขาลูบๆจมูกตัวเองพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
ซูเยว่หันหน้ากลับมาลากตัวโม่ฝานแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที
“เห้ยย นี่คือห้องน้ำหญิงนะ!” โม่ฝานอุทานอย่างตะลึง
ทันทีที่สิ้นเสียง โม่ฝานก็ถูกซูเยว่ผลักเข้าไปในห้องน้ำหญิงทันที ก่อนที่เธอจะปิดประตูดังปัง
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของหญิงสาวเต็มเปี่ยมไปด้วยความลุกลน โม่ฝานอดไม่ได้ที่จะเอาลำตัวแนบติดกับผนังห้องพลางยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “เธอพักก่อนเถอะ เมื่อคืนยังไม่พออีกหรอ?!”
“หุบปาก!” ซูเยว่ตะคอกเสียงต่ำ ภายในแววตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความแปลกหน้า เหมือนกับว่าเมื่อคืนทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนยังไงอย่างนั้น
ต่างว่ากันว่าผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้หัวใจ แต่ในมุมมองของโม่ฝาน ผู้หญิงต่างหากที่ไร้หัวใจ
ซูเยว่กระชากคอเสื้อของโม่ฝานเอาไว้
“มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากันสิ อดิดาสที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่ตั้ง 50 หยวนเชียวนะ ช่วยรักษาหน่อยได้ไหม?!” โม่ฝานพูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่น เมื่อคืนสภาพตอนที่หญิงสาวคนนี้เมาเหล้าดูงดงามมากๆ แต่ตอนนี้หลังจากที่สร่างเมาแล้ว เธอก็บ้าคลั่งเหมือนแม่สิงโตตัวนึงยังไงอย่างนั้น!
เมื่อเธอได้ยินคำพูดของโม่ฝานแล้ว ทำให้เธอกระตุกยิ้มมุมปากอย่างดูหมิ่น จากนั้นเธอก็ได้หยิบธนบัตร 100 หยวนออกมาฟาดใส่หน้าอกของเขาแล้วพูดว่า “ฉันขอเตือนแกไว้ก่อน ถ้าเกิดแกกล้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกมาละก็ ฉันรับประกันได้เลยว่าแกจะอยู่ไม่สุขแน่!”
“เธอหมายถึงเธอในเมื่อคืนหรอ?!” โม่ฝานกระตุกยิ้มมุมปากอย่างทะเล้น
ฟึ่บบ ใบหน้าของซูเยว่แดงเถือกขึ้นไปถึงกกหูภายในพริบตา
ตุบ!
ซูเยว่ยกเข่าแทงใส่จุดสำคัญบนร่างกายโม่ฝานพอดีเป๊ะ
“ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ระวังฉันจะทำให้แกใช้งานไอ้เจ้านี่ไม่ได้ตลอดชีวิต!”
โม่ฝานโดนกระแทกจนรู้สึกจุกมาก เจ็บจนร่างกายเขาสไลด์ลงมากองอยู่บนพื้น ขดตัวเป็นก้อนอยู่บนพื้นห้องน้ำ
“ให้ตายเถอะ โชคดีที่ฉันเคยฝึกฝนมาก่อน ไม่งั้นครั้งนี้ฉันอาจจะจบเห่แล้วจริงๆ!”
ซูเยว่ทำเสียงหึอย่างเยือกเย็น “ตอนอยู่บริษัทช่วยทำตัวให้มันดีๆหน่อย ไม่งั้นฉันจะมีวิธีอีกหลากหลายวิธีเลยที่สามารถจัดการกับแก!”
หลังจากที่พูดจบเธอก็ได้ออกไปจากห้องน้ำโดยที่ไม่หันหน้ากลับมามองโม่ฝานอีกเลย ไหนบอกว่าจะส่งตัวเองไปห้องรปภไม่ใช่หรอ?!
หัวใจผู้หญิง เดายากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร!
“เห้ออ คำพูดของผู้หญิงเนี่ยนะ เชื่อไม่ได้แม้กระทั่งลมหายใจเดียวกัน!” โม่ฝานมองดูเงาหลังของซูเยว่ที่กำลังเดินจากไปแล้วส่ายหน้ารัวๆ
แต่ว่าเขายังไม่ถึงจริงๆว่าผู้หญิงที่งดงามระดับประเทศในจิยซือหย่ากรุ๊ปจะมีเยอะขนาดนี้ ดูจากสถานการณ์แล้ว ชีวิตต่อจากนี้ของตัวเองต้องไม่สงบแน่นอน
……..
แผนกรปภ ขณะนี้ภายในห้องรปภเล็กๆนั้นคึกคักเป็นอย่างมาก
“พวกนายได้ยินหรือเปล่า วันนี้ไอ้หมอนั่นเท่มากๆเลยล่ะ กล้าแต๊ะอั๋งแม้กระทั่งผู้อำนวยการซูของเรา!”
“ก็ใช่ไง ผู้อำนวยการซูเป็นกุหลาบเปลวไฟที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในบริษัทเรามากๆ อารมณ์ของเธอนั้นร้อนแรงไม่เบาเลยนะ!”
“รปภคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเดือนก่อน ก็โดนกระทืบจนเข้าโรงพยาบาลเพราะเอาแต่มองหน้าผู้อำนวยการซูจนน้ำลายไหลนี่แหละ เหมือนตอนนี้เขายังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลเลย!”
“......”
สาวสวยในบริษัทมีเยอะมากๆ แต่มีเพียงซูเยว่คนเดียวเท่านั้นที่คนอื่นไม่กล้ามอง แม้จะมีความคิดแบบนั้น แต่พวกเขาก็ทำได้แค่เก็บความคิดแบบนั้นไว้ในใจ
ถ้าเกิดใครพูดออกมาแล้วแพร่งพรายไปถึงหูซูเยว่ละก็ การโดนไล่ออกนั่นถือว่าเป็นโทษที่เบามากๆแล้ว หนักหน่อยก็โดนกระทืบจนบาดเจ็บสาหัส
ในขณะที่ทุกคนกำลังสุมหัวกันวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่นั้น ประตูห้องรปภก็ถูกคนอื่นเปิดออกเป็นเสียงดัง ปั้ง
“ชงชาให้ฉันเสร็จหรือยัง?!”
โม่ฝานในตอนนี้กำลังพิงอยู่บนขอบประตูพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved