บทที่ 8 สาวสวยล้ำค่า
by หงสู่เฉียวเอ้อเหยีย
15:46,Jun 13,2022
ไม่มีสิทธิ์?!
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?! บนโลกใบนี้ยังมีใครที่เธอไม่สามารถตรวจสอบได้อีกหรอ?!" ใบหน้าที่เรียวบางของมู่ชิงเอ๋อร์ดูเยือกเย็นมาก เธอกำลังอ้าปากค้างเล็กน้อย เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเธอในตอนนี้รู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงที่อยู่ทางปลายสายเงียบไปสักพัก "แค่สามารถตรวจสอบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเขาเมื่อ 15 ปีก่อนเท่านั้น ประธานมู่คะ คุณยังจำเด็กอัจฉริยะที่ทำให้คนทั้งโลกต่างรู้สึกตะลึงเมื่อ 10 ปีก่อนคนนั้นได้ไหมคะ!"
"10 ปีก่อน?! เธอหมายถึงเด็กที่สามารถแก้รหัสมอร์สได้ในขณะที่เขายังเป็นเด็กคนนึง และต่อมาเขาก็ถูกมหาวิทยาลัยปักกิ่งรับเข้าเป็นนักศึกษานั่นหรอ?!" มู่ชิงเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ตะลึง
เมื่อหลายปีก่อนเรื่องนี้ทำให้มู่ชิงเอ๋อร์รู้สึกหดหู่เป็นเวลานานมากๆ เธอเข้าเรียนมหาลัยตอนที่เธออายุ 16 ปี แต่เธอกลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนสามารถเข้าเรียนมหาลัยได้ด้วยวัยเพียง 12 ปี อีกทั้งยังเป็นการเข้าเรียนในแบบที่ทางมหาลัยเป็นคนส่งจดหมายเชิญเข้าเรียนอัตโนมัติด้วย
จนกระทั่งถึงตอนนี้ยังไม่มีใครคนไหนที่สามารถทำลายสถิติเขาได้เลย แต่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ข่าวคราวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชายหนุ่มคนนั้นก็เหมือนถูกปิดล็อกไปแล้วยังไงอย่างนั้น ทางสำนักข่าวไม่ได้รายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับเขาอีก ทางโทรทัศน์ทีวีก็ไม่ได้เสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับเขาเช่นกัน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเหมือนจะไม่มีข่าวคราวอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาอีกเลย
เหมือนกับว่าเขาได้หายวับไปจากโลกนี้ยังไงอย่างนั้น
"ต้องจำได้อยู่แล้วสิ ตอนนั้นฉันยังมองว่าผู้ชายคนนั้นเป็นไอดอลแบบอย่างของฉันมาโดยตลอดเลย ฉันพยายามเดินตามรอยเท้าของเขาเพื่อทำเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จ!! เธออย่าบอกฉันนะว่าคนๆนั้นก็คือโม่ฝาน?!" เธอพูดด้วยสภาพจิตใจที่ค่อนข้างตื่นเต้น
การเกิดเป็นมนุษย์ ชาตินี้เราจำเป็นต้องหาคู่ต่อสู้ที่ใกล้เคียงกับเราให้ตัวเอง!!
เป็นคู่ต่อสู้ที่เขาสามารถสร้างความอันตรายให้คุณได้ตลอดเวลา และสามารถกระตุ้นให้คุณสู้ต่อไป!!
แม้ตอนนั้นมู่ชิงเอ๋อร์จะถือว่าเก่งและสมบูรณ์แบบมากๆแล้ว เข้าเรียนมหาลัยด้วยวัยเพียง 16 ปี และเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยวัยเพียง 18 ปี รับมือบริหารบริษัทที่กำลังจะล้มละลาย ไม่เพียงสามารถชุบบริษัทให้กลับมาจากประตูนรกได้ อีกทั้งเธอยังสร้างมูลค่าให้กับบริษัทได้สูงถึงหลักร้อยล้านและกำลังจะจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
มีเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากปลายสาย "ชื่อเดียวกันนามสกุลเดียวกัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าใช่คนที่ประธานมู่จะตรวจสอบหรือเปล่า อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มอัจฉริยะที่หายวับไปจากโลกนี้อย่างกะทันหันนั่น หลังจากที่เข้าเรียนในมหาลัย 1 ปี เขาก็เรียนจบหลักสูตร เข้าร่วมสอบรับปริญญาโดยตรงและสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนเต็มทุกวิชา ต่อมาก็สืบหาเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ไม่ได้อีกเลยค่ะ!!"
"ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลที่เกิดขึ้นตลอด 15 ปีที่ผ่านมานี้อย่างนั้นหรือ งั้นก็หมายความว่ามีคนจงใจปิดบังข้อมูลทั้งหมดนี้ ตลอดช่วง 15 ปีที่ผ่านมานี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?! พวกเขาใช่คนคนเดียวกันจริงๆหรือ?!" มีคำถามมากมายได้ผุดขึ้นมาในหัวมู่ชิงเอ๋อร์อย่างไม่ขาดสาย
……
ณ ไนท์บาร์แห่งหนึ่ง
บาร์เป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการมาตามจีบสาวของเด็กหนุ่ม และเป็นเหมือนสวรรค์ของคนที่ชอบใช้ชีวิตกลางคืน
เพราะการมาสถานที่แบบนี้ เราทุกคนสามารถถอดหน้ากากออกไปได้อย่างสบายใจ สามารถปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมาได้อย่างเต็มที่
ด้วยเหตุนี้แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่คนที่มาเข้าใช้บริการที่นี่ก็ยังคงมีเยอะอยู่เช่นเคย คนที่เดินทางเข้าออกสถานที่แห่งนี้ก็มีมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ท่ามกลางดนตรีเพลงและแสงสีที่รื่นรมย์ คนจำนวนมากตามหาเหยื่อของตัวเองได้แล้วและต่างกำลังเริ่มปฏิบัติการ
แต่ทว่าสีหน้าจำนวนมากของผู้ชายในค่ำคืนนี้กลับห่อเหี่ยวเหมือนมะเขือที่เหี่ยวย่น จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สายตาของทุกคนต่างจ้องมองไปทางตำแหน่งที่นั่งหนึ่งบนบาร์ชงเหล้า
ตรงนั้นมีผู้หญิงคนนึงในชุดเดรสสีแดงเลือดนั่งอยู่ เธอในตอนนี้เหมือนเอลฟ์ที่ออกมาตามหาเลือด เย้ายวนมีเสน่ห์ หน้าตาที่สมบูรณ์แบบนั่น ผิวที่ขาวผ่องดุจหิมะ ดวงตาที่ดูน่าหลงใหล คิ้วที่น่าลุ่มหลง ขนตาที่ยาวงอน ทำให้ผู้ชายทุกคนที่อยู่ในบาร์ต่างรู้สึกทึ่งเป็นอย่างมาก
แม้จะโดนดูดเลือดจริงๆ พวกเขาก็ยินดีที่จะไปลิ้มลอง เพราะการเจอสาวสวยนั้นเจอได้ง่ายมาก แต่การได้ครอบครองสาวเลิศล้ำค่านั่นทำได้ยากมาก!!
แต่วินาทีนี้พวกผู้ชายหื่นกามในวันธรรมดากลับทำได้เพียงได้มองอยู่ไกลๆ ไม่กล้าเดินเข้ามาใกล้
เพียงเพราะข้างกายของหญิงสาวคนนั้นมีวอดก้า 98 ดีกรีวางอยู่ขวดนึง ความสามารถในการดื่มเหล้าของตัวเองมีมากน้อยแค่ไหน พวกเขารู้ดีอยู่แก่ใจมากๆ ข้างกายเธอยังมีเหล้าที่ราคาแพงที่สุดตั้งอยู่ด้วยขวดนึง ไวน์ ชาโต ลาฟีต รอธส์ชิลด์ ปี 1982!!
ไวน์แดงขวดละหลายแสนหยวนตั้งอยู่ตรงหน้า วินาทีนี้ทำให้ความกล้าหาญทั้งหมดของผู้ชายเหล่านั้นหายวับไปกับตา
ณ ตอนนี้ โม่ฝานได้เดินเข้ามาในบาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสายตาของเขาก็ถูกผู้หญิงเดรสแดงคนนั้นดึงดูดไปแล้วเช่นกัน เหตุผลเป็นเพียงเพราะเธอในชุดเดรสสีแดงกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้คนเดียว คนคนหนึ่งที่ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น การที่จะไม่สนใจเธอนั้นจึงเป็นอะไรที่ยากมาก
เดาไม่ออกจริงๆว่าผู้หญิงคนนี้มาดื่มเหล้าที่นี่ หรือมาเพื่อให้ทุกคนรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของเธอกันแน่
และข้างกายเธอก็มีสุนัขซามอยด์อยู่ตัวนึงพอดี แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นสุนัขพันธุ์สูงศักดิ์
หมาพิบูลตัวนั้นก็เริ่มฮีทขึ้นมาแล้วเหมือนกัน โม่ฝานหันหน้ากลับมาแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วพูดว่า "‘เฮียรอง’ ลุย!!"
"ฮ่องง!"
เนื่องจากด้านในนี้แสงไฟสลัวมาก บวกกับเสียงที่วุ่นวาย เพราะฉะนั้นจึงไม่มีคนสังเกตเห็นเลยด้วยซ้ำว่าจะมีหมาตัวหนึ่งเข้ามาในนี้
หลังจากที่เดินไปถึงข้างสระน้ำกลางบาร์ โม่ฝานและหมาก็ได้แยกตัวจากกันไป ต่างไปยุ่งเรื่องของตัวเอง
"กุหลาบโรซ่า!! ดื่มเหล้าต้องใส่น้ำแข็ง รักผมต้องใส่ใจ!!" เขาใช้นิ้วดีดโต๊ะบาร์แล้วหัวเราะเบาๆ
หญิงสาวเดรสแดงที่อยู่ข้างๆกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แม้การยิ้มนี้จะสังเกตเห็นได้ยากมากๆ แต่สุดท้ายมันก็หนีไม่พ้นสายตาของโม่ฝาน
ผู้ชายจำนวนมากต่างเห็นว่ามีคนเดินขึ้นไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว จึงทำให้ด้านล่างฮือฮาขึ้นมาภายในพริบตา
"ลองนับดูซิ ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เท่าไหร่ของวันนี้แล้ว!"
"คนที่ 10 พอดีเลย ฉันเดาว่าไอ้หมอนี่น่าจะทนได้แค่ 2 นาทีเท่านั้นแหละ คนก่อนหน้านี้ยังล้างกระเพาะอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย!!"
"ยุคสมัยนี้ การจะเต๊าะสาวคนหนึ่งนี่ต้องเอาเป็นเอาตายแบบนี้เลยหรอ!!"
"นายดูสภาพส้นตีนอย่างไอ้หมอนั่นดิ แค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปยังไม่มีทางตกหลุมรักมันเลย แต่มันยังคิดที่จะจีบสาวล้ำค่าแบบนี้อีกหรอวะ เทพเจ้าองค์ไหนเป็นคนมอบความมั่นใจแบบนี้ให้มันวะเนี่ย?!!"
"ไม่แน่เทพธิดาอาจจะชอบผู้ชายสไตล์นี้ก็ได้ กินหญ้าอ่อนจนเอียนแล้ว เลยอยากเปลี่ยนมากินพวกเด็กแว้นดู!"
"งั้นฉันก็มีโอกาสดิ?!"
"นายลองเดาดูก่อนว่ามันจะดื่มวอดก้าได้สักกี่แก้วเชียว!!"
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะดื่มวอดก้า 98 ดีกรีได้กี่แก้ว ถึงแม้จะดื่มแค่อึกเดียวก็ทำท้องไส้ก็เสียหายได้เลย ไม่งั้นทั้ง 9 คนก่อนหน้านี้ก็คงไม่ถูกหามตัวไปโรงพยาบาลรัวๆแบบนั้นหรอก
ณ ตอนนี้ หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายโม่ฝานคนนั้นได้ดื่มวอดก้าที่อยู่ในมือคำเดียวหมดแก้ว
"เหล้าไม่ได้ทำให้คนเมาแต่คนเมาเหล้าเอง การได้กลับมาเจอกันใช่ว่าต้องเคยรู้จักกันมาก่อนเสมอไป ต้องโทษเพียงกาลเวลาและโชคชะตาที่เล่นตลก ดื่มเหล้าคนเดียวมันจะไปสนุกอะไร คุณรังเกียจที่จะมีคนมาดื่มเป็นเพื่อนคุณไหมครับ?!"
เมื่อเผชิญหน้ากับคำแขวะแบบนี้ของผู้ชาย เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเหมือนเธอจะไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยแล้วหยีตามองโม่ฝาน "นายจะจีบฉันหรอ?!"
"ถ้าเกิดผมบอกว่าไม่ใช่ คุณจะเชื่อไหม?!" โม่ฝานยิ้มอย่างคนใสซื่อบริสุทธิ์พลางพูด
"ชุดที่นายกำลังใส่อยู่พอดีตัวแถมดูหนักแน่น ระหว่างคิ้วมีความภาคภูมิใจและความระแวดระวังซ่อนอยู่เล็กน้อย หนังตรงนิ้วชี้กระด้าง นายเคยเป็นผู้พิทักษ์มาก่อนใช่ไหม!" หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงหัวเราะเบาๆแล้วพูด
หนังบริเวณนิ้วชี้กระด้าง เป็นสัญลักษณ์ของคนที่ใช้ปืนมาเป็นเวลานาน คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางสังเกตเห็นจุดนี้แน่นอน ในเมื่อผู้หญิงคนนี้สามารถดูออก แสดงว่าเธอเคยเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องด้านนี้
โม่ฝานไม่ได้ตอบกลับคำถามของเธอแต่อย่างไร แต่เป็นการกวาดตามองผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า "หนังช่วงล่างของนิ้วชี้นิ้วกลางรวมไปถึงกลางฝ่ามือล้วนกระด้าง แสดงว่าปกติคุณน่าจะชอบเล่นมีด บนตัวไม่มีกระเป๋าตังค์แสดงให้เห็นว่าถ้าไม่ใช่เพราะบ้านคุณอยู่ใกล้ที่นี่ งั้นคุณก็ต้องเป็นเจ้าของบาร์แห่งนี้แน่นอน เป็นผู้หญิงที่พึ่งพาตัวเองได้ เพราะฉะนั้นผมขอเดาว่าคุณเป็นลูกคนเดียว แถมตอนนี้คนในครอบครัวก็ไม่สนใจคุณแล้ว"
"สวมแหวนไว้ตรงนิ้วชี้ของมือด้านขวา แสดงว่าตอนนี้คุณยังโสดอยู่ บนแหวนสลักคำว่าS Y เซ่า ซ่าน ซู…. สำหรับผู้หญิงสวยๆอย่างคุณแล้ว แซ่ก่อนหน้านี้น่าจะไม่เหมาะสมกับคุณ เพราะฉะนั้นผมขอเดาว่าคุณแซ่ซู!!"
"บนเคสโทรศัพท์มีแต่ดวงดาว แต่เมื่ออ้างอิงจากท้องฟ้าในยามกลางคืน มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ขาดหายไป นั่นก็คือพระจันทร์!! เพราะฉะนั้นคุณชื่อซูเยว่!!"
"....."
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?! บนโลกใบนี้ยังมีใครที่เธอไม่สามารถตรวจสอบได้อีกหรอ?!" ใบหน้าที่เรียวบางของมู่ชิงเอ๋อร์ดูเยือกเย็นมาก เธอกำลังอ้าปากค้างเล็กน้อย เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเธอในตอนนี้รู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงที่อยู่ทางปลายสายเงียบไปสักพัก "แค่สามารถตรวจสอบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเขาเมื่อ 15 ปีก่อนเท่านั้น ประธานมู่คะ คุณยังจำเด็กอัจฉริยะที่ทำให้คนทั้งโลกต่างรู้สึกตะลึงเมื่อ 10 ปีก่อนคนนั้นได้ไหมคะ!"
"10 ปีก่อน?! เธอหมายถึงเด็กที่สามารถแก้รหัสมอร์สได้ในขณะที่เขายังเป็นเด็กคนนึง และต่อมาเขาก็ถูกมหาวิทยาลัยปักกิ่งรับเข้าเป็นนักศึกษานั่นหรอ?!" มู่ชิงเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ตะลึง
เมื่อหลายปีก่อนเรื่องนี้ทำให้มู่ชิงเอ๋อร์รู้สึกหดหู่เป็นเวลานานมากๆ เธอเข้าเรียนมหาลัยตอนที่เธออายุ 16 ปี แต่เธอกลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนสามารถเข้าเรียนมหาลัยได้ด้วยวัยเพียง 12 ปี อีกทั้งยังเป็นการเข้าเรียนในแบบที่ทางมหาลัยเป็นคนส่งจดหมายเชิญเข้าเรียนอัตโนมัติด้วย
จนกระทั่งถึงตอนนี้ยังไม่มีใครคนไหนที่สามารถทำลายสถิติเขาได้เลย แต่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ข่าวคราวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชายหนุ่มคนนั้นก็เหมือนถูกปิดล็อกไปแล้วยังไงอย่างนั้น ทางสำนักข่าวไม่ได้รายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับเขาอีก ทางโทรทัศน์ทีวีก็ไม่ได้เสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับเขาเช่นกัน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเหมือนจะไม่มีข่าวคราวอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาอีกเลย
เหมือนกับว่าเขาได้หายวับไปจากโลกนี้ยังไงอย่างนั้น
"ต้องจำได้อยู่แล้วสิ ตอนนั้นฉันยังมองว่าผู้ชายคนนั้นเป็นไอดอลแบบอย่างของฉันมาโดยตลอดเลย ฉันพยายามเดินตามรอยเท้าของเขาเพื่อทำเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จ!! เธออย่าบอกฉันนะว่าคนๆนั้นก็คือโม่ฝาน?!" เธอพูดด้วยสภาพจิตใจที่ค่อนข้างตื่นเต้น
การเกิดเป็นมนุษย์ ชาตินี้เราจำเป็นต้องหาคู่ต่อสู้ที่ใกล้เคียงกับเราให้ตัวเอง!!
เป็นคู่ต่อสู้ที่เขาสามารถสร้างความอันตรายให้คุณได้ตลอดเวลา และสามารถกระตุ้นให้คุณสู้ต่อไป!!
แม้ตอนนั้นมู่ชิงเอ๋อร์จะถือว่าเก่งและสมบูรณ์แบบมากๆแล้ว เข้าเรียนมหาลัยด้วยวัยเพียง 16 ปี และเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยวัยเพียง 18 ปี รับมือบริหารบริษัทที่กำลังจะล้มละลาย ไม่เพียงสามารถชุบบริษัทให้กลับมาจากประตูนรกได้ อีกทั้งเธอยังสร้างมูลค่าให้กับบริษัทได้สูงถึงหลักร้อยล้านและกำลังจะจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
มีเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากปลายสาย "ชื่อเดียวกันนามสกุลเดียวกัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าใช่คนที่ประธานมู่จะตรวจสอบหรือเปล่า อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มอัจฉริยะที่หายวับไปจากโลกนี้อย่างกะทันหันนั่น หลังจากที่เข้าเรียนในมหาลัย 1 ปี เขาก็เรียนจบหลักสูตร เข้าร่วมสอบรับปริญญาโดยตรงและสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนเต็มทุกวิชา ต่อมาก็สืบหาเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ไม่ได้อีกเลยค่ะ!!"
"ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลที่เกิดขึ้นตลอด 15 ปีที่ผ่านมานี้อย่างนั้นหรือ งั้นก็หมายความว่ามีคนจงใจปิดบังข้อมูลทั้งหมดนี้ ตลอดช่วง 15 ปีที่ผ่านมานี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?! พวกเขาใช่คนคนเดียวกันจริงๆหรือ?!" มีคำถามมากมายได้ผุดขึ้นมาในหัวมู่ชิงเอ๋อร์อย่างไม่ขาดสาย
……
ณ ไนท์บาร์แห่งหนึ่ง
บาร์เป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการมาตามจีบสาวของเด็กหนุ่ม และเป็นเหมือนสวรรค์ของคนที่ชอบใช้ชีวิตกลางคืน
เพราะการมาสถานที่แบบนี้ เราทุกคนสามารถถอดหน้ากากออกไปได้อย่างสบายใจ สามารถปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมาได้อย่างเต็มที่
ด้วยเหตุนี้แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่คนที่มาเข้าใช้บริการที่นี่ก็ยังคงมีเยอะอยู่เช่นเคย คนที่เดินทางเข้าออกสถานที่แห่งนี้ก็มีมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ท่ามกลางดนตรีเพลงและแสงสีที่รื่นรมย์ คนจำนวนมากตามหาเหยื่อของตัวเองได้แล้วและต่างกำลังเริ่มปฏิบัติการ
แต่ทว่าสีหน้าจำนวนมากของผู้ชายในค่ำคืนนี้กลับห่อเหี่ยวเหมือนมะเขือที่เหี่ยวย่น จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สายตาของทุกคนต่างจ้องมองไปทางตำแหน่งที่นั่งหนึ่งบนบาร์ชงเหล้า
ตรงนั้นมีผู้หญิงคนนึงในชุดเดรสสีแดงเลือดนั่งอยู่ เธอในตอนนี้เหมือนเอลฟ์ที่ออกมาตามหาเลือด เย้ายวนมีเสน่ห์ หน้าตาที่สมบูรณ์แบบนั่น ผิวที่ขาวผ่องดุจหิมะ ดวงตาที่ดูน่าหลงใหล คิ้วที่น่าลุ่มหลง ขนตาที่ยาวงอน ทำให้ผู้ชายทุกคนที่อยู่ในบาร์ต่างรู้สึกทึ่งเป็นอย่างมาก
แม้จะโดนดูดเลือดจริงๆ พวกเขาก็ยินดีที่จะไปลิ้มลอง เพราะการเจอสาวสวยนั้นเจอได้ง่ายมาก แต่การได้ครอบครองสาวเลิศล้ำค่านั่นทำได้ยากมาก!!
แต่วินาทีนี้พวกผู้ชายหื่นกามในวันธรรมดากลับทำได้เพียงได้มองอยู่ไกลๆ ไม่กล้าเดินเข้ามาใกล้
เพียงเพราะข้างกายของหญิงสาวคนนั้นมีวอดก้า 98 ดีกรีวางอยู่ขวดนึง ความสามารถในการดื่มเหล้าของตัวเองมีมากน้อยแค่ไหน พวกเขารู้ดีอยู่แก่ใจมากๆ ข้างกายเธอยังมีเหล้าที่ราคาแพงที่สุดตั้งอยู่ด้วยขวดนึง ไวน์ ชาโต ลาฟีต รอธส์ชิลด์ ปี 1982!!
ไวน์แดงขวดละหลายแสนหยวนตั้งอยู่ตรงหน้า วินาทีนี้ทำให้ความกล้าหาญทั้งหมดของผู้ชายเหล่านั้นหายวับไปกับตา
ณ ตอนนี้ โม่ฝานได้เดินเข้ามาในบาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสายตาของเขาก็ถูกผู้หญิงเดรสแดงคนนั้นดึงดูดไปแล้วเช่นกัน เหตุผลเป็นเพียงเพราะเธอในชุดเดรสสีแดงกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้คนเดียว คนคนหนึ่งที่ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น การที่จะไม่สนใจเธอนั้นจึงเป็นอะไรที่ยากมาก
เดาไม่ออกจริงๆว่าผู้หญิงคนนี้มาดื่มเหล้าที่นี่ หรือมาเพื่อให้ทุกคนรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของเธอกันแน่
และข้างกายเธอก็มีสุนัขซามอยด์อยู่ตัวนึงพอดี แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นสุนัขพันธุ์สูงศักดิ์
หมาพิบูลตัวนั้นก็เริ่มฮีทขึ้นมาแล้วเหมือนกัน โม่ฝานหันหน้ากลับมาแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วพูดว่า "‘เฮียรอง’ ลุย!!"
"ฮ่องง!"
เนื่องจากด้านในนี้แสงไฟสลัวมาก บวกกับเสียงที่วุ่นวาย เพราะฉะนั้นจึงไม่มีคนสังเกตเห็นเลยด้วยซ้ำว่าจะมีหมาตัวหนึ่งเข้ามาในนี้
หลังจากที่เดินไปถึงข้างสระน้ำกลางบาร์ โม่ฝานและหมาก็ได้แยกตัวจากกันไป ต่างไปยุ่งเรื่องของตัวเอง
"กุหลาบโรซ่า!! ดื่มเหล้าต้องใส่น้ำแข็ง รักผมต้องใส่ใจ!!" เขาใช้นิ้วดีดโต๊ะบาร์แล้วหัวเราะเบาๆ
หญิงสาวเดรสแดงที่อยู่ข้างๆกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แม้การยิ้มนี้จะสังเกตเห็นได้ยากมากๆ แต่สุดท้ายมันก็หนีไม่พ้นสายตาของโม่ฝาน
ผู้ชายจำนวนมากต่างเห็นว่ามีคนเดินขึ้นไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว จึงทำให้ด้านล่างฮือฮาขึ้นมาภายในพริบตา
"ลองนับดูซิ ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เท่าไหร่ของวันนี้แล้ว!"
"คนที่ 10 พอดีเลย ฉันเดาว่าไอ้หมอนี่น่าจะทนได้แค่ 2 นาทีเท่านั้นแหละ คนก่อนหน้านี้ยังล้างกระเพาะอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย!!"
"ยุคสมัยนี้ การจะเต๊าะสาวคนหนึ่งนี่ต้องเอาเป็นเอาตายแบบนี้เลยหรอ!!"
"นายดูสภาพส้นตีนอย่างไอ้หมอนั่นดิ แค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปยังไม่มีทางตกหลุมรักมันเลย แต่มันยังคิดที่จะจีบสาวล้ำค่าแบบนี้อีกหรอวะ เทพเจ้าองค์ไหนเป็นคนมอบความมั่นใจแบบนี้ให้มันวะเนี่ย?!!"
"ไม่แน่เทพธิดาอาจจะชอบผู้ชายสไตล์นี้ก็ได้ กินหญ้าอ่อนจนเอียนแล้ว เลยอยากเปลี่ยนมากินพวกเด็กแว้นดู!"
"งั้นฉันก็มีโอกาสดิ?!"
"นายลองเดาดูก่อนว่ามันจะดื่มวอดก้าได้สักกี่แก้วเชียว!!"
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะดื่มวอดก้า 98 ดีกรีได้กี่แก้ว ถึงแม้จะดื่มแค่อึกเดียวก็ทำท้องไส้ก็เสียหายได้เลย ไม่งั้นทั้ง 9 คนก่อนหน้านี้ก็คงไม่ถูกหามตัวไปโรงพยาบาลรัวๆแบบนั้นหรอก
ณ ตอนนี้ หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายโม่ฝานคนนั้นได้ดื่มวอดก้าที่อยู่ในมือคำเดียวหมดแก้ว
"เหล้าไม่ได้ทำให้คนเมาแต่คนเมาเหล้าเอง การได้กลับมาเจอกันใช่ว่าต้องเคยรู้จักกันมาก่อนเสมอไป ต้องโทษเพียงกาลเวลาและโชคชะตาที่เล่นตลก ดื่มเหล้าคนเดียวมันจะไปสนุกอะไร คุณรังเกียจที่จะมีคนมาดื่มเป็นเพื่อนคุณไหมครับ?!"
เมื่อเผชิญหน้ากับคำแขวะแบบนี้ของผู้ชาย เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเหมือนเธอจะไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยแล้วหยีตามองโม่ฝาน "นายจะจีบฉันหรอ?!"
"ถ้าเกิดผมบอกว่าไม่ใช่ คุณจะเชื่อไหม?!" โม่ฝานยิ้มอย่างคนใสซื่อบริสุทธิ์พลางพูด
"ชุดที่นายกำลังใส่อยู่พอดีตัวแถมดูหนักแน่น ระหว่างคิ้วมีความภาคภูมิใจและความระแวดระวังซ่อนอยู่เล็กน้อย หนังตรงนิ้วชี้กระด้าง นายเคยเป็นผู้พิทักษ์มาก่อนใช่ไหม!" หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงหัวเราะเบาๆแล้วพูด
หนังบริเวณนิ้วชี้กระด้าง เป็นสัญลักษณ์ของคนที่ใช้ปืนมาเป็นเวลานาน คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางสังเกตเห็นจุดนี้แน่นอน ในเมื่อผู้หญิงคนนี้สามารถดูออก แสดงว่าเธอเคยเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องด้านนี้
โม่ฝานไม่ได้ตอบกลับคำถามของเธอแต่อย่างไร แต่เป็นการกวาดตามองผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า "หนังช่วงล่างของนิ้วชี้นิ้วกลางรวมไปถึงกลางฝ่ามือล้วนกระด้าง แสดงว่าปกติคุณน่าจะชอบเล่นมีด บนตัวไม่มีกระเป๋าตังค์แสดงให้เห็นว่าถ้าไม่ใช่เพราะบ้านคุณอยู่ใกล้ที่นี่ งั้นคุณก็ต้องเป็นเจ้าของบาร์แห่งนี้แน่นอน เป็นผู้หญิงที่พึ่งพาตัวเองได้ เพราะฉะนั้นผมขอเดาว่าคุณเป็นลูกคนเดียว แถมตอนนี้คนในครอบครัวก็ไม่สนใจคุณแล้ว"
"สวมแหวนไว้ตรงนิ้วชี้ของมือด้านขวา แสดงว่าตอนนี้คุณยังโสดอยู่ บนแหวนสลักคำว่าS Y เซ่า ซ่าน ซู…. สำหรับผู้หญิงสวยๆอย่างคุณแล้ว แซ่ก่อนหน้านี้น่าจะไม่เหมาะสมกับคุณ เพราะฉะนั้นผมขอเดาว่าคุณแซ่ซู!!"
"บนเคสโทรศัพท์มีแต่ดวงดาว แต่เมื่ออ้างอิงจากท้องฟ้าในยามกลางคืน มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ขาดหายไป นั่นก็คือพระจันทร์!! เพราะฉะนั้นคุณชื่อซูเยว่!!"
"....."
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved