บทที่ 11 ผู้หญิงทำมาจากน้ำอัดลม

มู่ชิงเอ๋อร์ที่กำลังขับรถอยู่เหมือนเป็นปลาปักเป้าที่รู้สึกหงุดหงิดยังไงอย่างนั้น เธอกำลังทำปากจู๋แล้วพูดว่า “หึ อยากทำให้ฉันตกหลุมรักเขาภายใน 1 เดือนงั้นหนอ ฝันไปเถอะ!!”

“แต่ว่าพี่ให้ไอ้หมอนั่นทำงานในบริษัท มันเหมาะสมจริงหรอ?!” ซ่งซืออวี่หันหน้ากลับมาถามด้วยความสงสัย

แม้เธอจะเป็นเพื่อนสนิทของมู่ชิงเอ๋อร์ แต่เธอที่อยู่ในบริษัทก็ถือว่ามีหน้าที่การงานที่สำคัญมากๆเช่นกัน นั่นก็คือ ผู้อำนวยการฝ่ายดีไซน์!!

โฆษณาจำนวนมากของเครื่องสำอางล้วนเป็นโฆษณาที่เธอออกแบบ ดังนั้นหากจะเอาคำกล่าวที่ว่านมโตสมองเล็กมาเปรียบเทียบกับเธอละก็ คาดว่าคำกล่าวนี้อาจจะไม่เหมาะสมกับเธอเท่าไหร่จริงๆ

“ฉันให้เขามาสมัครงาน ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าฉันรับเขาเข้าทำงาน วันนี้คาดว่าน่าจะมีผู้สมัครมาสมัครงานหลายคนอยู่ แต่ว่าตำแหน่งงานว่างอยู่แค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น เรื่องนี้คงต้องดูที่ความสามารถของเขาอีกทีแล้วล่ะ!!” มู่ชิงเอ๋อร์กระตุกยิ้มมุมปากอย่างมีเสน่ห์

ดูท่าเธอน่าจะจงใจสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเพื่ออยากจะกลั่นแกล้งโม่ฝาน

นี่คือคนกลัวมีชื่อเสียง หมูกลัวอ้วน เพราะทันทีที่บริษัทของเธอได้รับการพัฒนารุ่งโรจน์ขึ้นมาเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นต้องมีคนจำนวนมากที่อยากจะครอบครองทรัพย์สินของบริษัทเธอแน่นอน

คาดว่าทุกคนก็คงคิดว่ามู่ชิงเอ๋อร์เป็นผู้หญิงที่รังแกง่าย เพราะฉะนั้นจึงมีคนมาก่อความวุ่นวายอยู่บ่อยครั้ง

ก่อนหน้านี้ทางบริษัทก็ได้ประกาศรับสมัครงานมาหลายครั้งเช่นกัน ทางบริษัทต้องการรปภที่มีกำลังความสามารถและศักยภาพมากพอที่จะทำให้บริษัทอยู่ในความปลอดภัยได้

……….

ตอนนี้ ภายในส่วนกลางฝ่ายรปภจินซือหย่ากรุ๊ป

เหล่ารปภที่ถูกโม่ฝานอบรมสั่งสอนไปในเมื่อวานนี้ ตอนนี้พวกเขายังคงรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งร่างกายอยู่ แต่ว่าโชคดีที่แผลทั้งหมดล้วนเป็นแผลภายนอก แค่พักผ่อนสักวันสองวันก็หายดีแล้ว

“เฮียเปียว เฮียว่าไอ้ผู้ชายคนเมื่อวานเป็นสามีของท่านซีอีโอจริงๆหรอครับ?!” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อ

ชายร่างใหญ่คนนั้นรีบเอามือปิดปากเขาทันที “พูดเบาๆหน่อย เรื่องบางอย่างอย่าพูดถึงบ่อยๆจะดีกว่า!!”

“หัวหน้า หัวหน้าก็กลัวมันเหมือนกันหรอครับ?! ผมว่ามันก็แค่พวกหน้าตาดีสมองเอ๋อเท่านั้นแหละ ไม่รู้จริงๆว่าท่านซีอีโอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงต้องหาผู้ชายแบบนี้มาเป็นแฟนด้วยเนี่ย!!”

หมดคำจะพูด นี่ช่วยรักษาภาพลักษณ์หน้าตาฉันหน่อยได้ไหม?!

“ฉัน….ฉันกลัวมันเนี่ยนะ?! เป็นไปได้ยังไง ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเห็นว่ามันมีความสัมพันธ์อะไรกับท่านซีอีโอ ฉันกระทืบมันไปตั้งนานแล้ว!!” ชายร่างใหญ่คนนั้นมองหน้าลูกน้องทั้งหมดของตนเองแล้วพูด

ทุกคนต่างกำลังมองหน้าเขาด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพยำเกรง แต่จู่ ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคนกลุ่มนั้นถึงพากันกระแอม

“แกจะกระทืบใครนะ?!”

มีเสียงหยอกล้อของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง

หัวหน้ารปภคนนั้นหัวเราะดังลั่นออกมา “ก็ไอ้หน้าตี๋นั่นไง!!”

“ฉันหรอ?!!” และในตอนนี้เองโม่ฝานก็ได้เดินตรงเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ทำให้เหล่ารปภเงียบกริบลงไปทันที

มีแต่สวรรค์เท่านั้นแหละที่รู้ว่าไอ้หมอนี่จะเข้ามาตอนไหน โดยเฉพาะหัวหน้ารปภคนนั้น ตอนนี้เขายิ้มได้ดูน่าเกลียดกว่าตอนร้องไห้เสียอีก มาตอนไหนไม่ว่า แต่ดันมาตอนที่เขากำลังเก๊กเท่ต่อหน้าลูกน้องทั้งหมดของตัวเองอยู่

“เฮีย….เฮียโม่ วันนี้....วันนี้เฮียมาบริษัทได้ยังไงครับ?!” จิตใจของหัวหน้ารปภห่อเหี่ยวลงไปทันที

เมื่อกี้เขายังพูดจาอวดดีเหมือนตัวเองเก่งมากๆอยู่เลย พูดเหมือนกับว่าถ้าเกิดโม่ฝานอยู่ตรงหน้า เขาก็จะกระทืบโม่ฝานให้เละเป็นขี้ยังไงอย่างนั้น

แต่ทันทีที่โม่ฝานปรากฏตัว เขาก็เหมือนลูกบอลที่ลมแฟ้บไปภายในพริบตา

โม่ฝานกวาดตามองชายร่างใหญ่คนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างกายกำยำ น้ำหนักดูมีประมาณ 100 กว่ากิโลกรัม กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ถือว่าเจริญดีมากๆ แต่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาดูเป็นคนที่ไม่ค่อยภักดีเท่าไหร่นัก

ดังคำกล่าวที่ว่าดูน่าเกรงขามแค่ภายนอก แต่ในความเป็นจริงไม่มีอะไรดีเลย เป็นคนที่ดูดีแต่ไร้ประโยชน์

“นายคือหัวหน้าของที่นี่หรอ? ชื่ออะไร?!!” โม่ฝานทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วถามด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัย

ชายร่างใหญ่คนนั้นยิ้มจนไขมันบนใบหน้าเบียดติดกัน “เฮียโม่ ผมชื่อหวังเปียวครับ เมื่อวานผมเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวคุณไปนิดหน่อย คุณได้โปรดอย่าถือสาผมเลยนะครับ!!”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายไม่ใช่หัวหน้ารปภของที่นี่อีกต่อไปแล้ว!!”

โครมม!!

เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ทำให้ชายร่างใหญ่คนนั้นรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าลงกลางหัวยังไงอย่างนั้น

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย การล้างแค้นจากไอ้หมอนี่มาถึงแล้ว!!

ต้องเป็นเพราะเมื่อกี้ตัวเองนินทาลับหลังเขาแน่นอน ถ้าเกิดเขาไปให้ท่านซีอีโอไล่ตัวเองออก…..

“เฮียโม่ คุณได้โปรดให้อภัยผมด้วยนะครับ ปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ ที่บ้านผมยังมีทั้งเด็กและคนแก่ที่ต้องดูแล ยุคสมัยนี้หางานยากขนาดนี้ การที่จะหางานที่มีสวัสดิการดีๆและงานไม่ค่อยเหนื่อยนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ คุณได้โปรดช่วยมองว่าผมเป็นตดแล้วปล่อยผมไปเถอะนะครับ ได้โปรดอย่าให้ท่านซีอีโอไล่ผมออกเลย….” ตอนนี้หวังเปียวที่มีร่างกายที่ดูหนัก 100 กว่ากิโลกรัมกำลังร้องห่มร้องไห้เหมือนผู้หญิงตัวน้อยที่ถูกรังแกยังไงอย่างนั้น

น้ำตาและน้ำมูกไหลลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน และทั้งหมดนี้ได้ไหลลงไปกองอยู่บนเสื้อผ้าของโม่ฝาน…..

“ใครบอกว่าจะไล่นายออก?! ฉันหมายความว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะมาเป็นรปภของที่นี่ ในส่วนของหัวหน้านั้น ฉันรู้สึกว่าควรจะให้ผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามาเป็น พวกนายว่ายังไง?!” ในระหว่างที่พูดอยู่นั้นเขาได้เอื้อมมือไปคว้าแก้วมา 1 ใบและออกแรงบีบจนแก้วแตกสลาย!!

เพล็ง!!

แก้วแหลกสลายหมด

ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างพากันซี๊ดปาก ถึงแม้จะให้เขาหวังเปียวที่มีน้ำหนัก 100 กว่ากิโลกรัมไปบีบ คาดว่าเขาก็คงไม่มีทางบีบแก้วชาให้แตกจนแหลกสลายแบบนี้ได้แน่นอน

แต่สำหรับโม่ฝานแล้ว เรื่องนี้มันกลับทำได้ง่ายเหมือนการเล่นพ่อแม่ลูกของเด็กๆเ

หวังเปียวในตอนนี้เริ่มรู้สึกมึนงงขึ้นมาแล้ว “คุณ…..คุณจะมาทำงานที่นี่หรอครับ?! และเป็น….รปภ?!”

นี่มันสามีของท่านซีอีโอไม่ใช่หรอ?! ทำไมถึงมาเป็นรปภเล็กๆคนนึงของบริษัทได้ล่ะ?!

ไม่ว่ายังไงก็ควรจัดการให้เขาไปอยู่ในแผนกที่ดูดีกว่านี้หน่อยหรือเปล่า อย่างเช่นฝ่ายบุคคล ฝ่ายผลิตเป็นต้น

เมื่อโม่ฝานได้ยินแบบนี้แล้วเขาจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วด่าว่า “ทำไม?! ไม่ต้อนรับฉันหรอ? ภรรยาฉันปฏิบัติงานอย่างเป็นกลาง เพื่อไม่ให้คนอื่นพูดนินทาลับหลัง เขาเลยจำใจจัดแจงให้ฉันมาอยู่ในแผนกนี้”

“แต่ว่า….ผมได้ยินมาว่าวันนี้ผู้ที่จะมาสมัครเป็นรปภมีเยอะมากๆเลยนะครับ ครั้งนี้ท่าซีอีโอทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อทำการประชาสัมพันธ์เลยนะครับ!!” หวังเปียวฝืนยิ้มพลางพูด

และในตอนนี้เองเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น โม่ฝานหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะพบว่าคนที่โทรเข้ามาคือมู่ชิงเอ๋อร์!

“คุณภรรยา คิดถึงผมแล้วหรอครับ?!”

มู่ชิงเอ๋อร์ที่อยู่ทางปลายสายตวาดเสียงต่ำทันที “บอกไปแล้วว่าตอนที่อยู่ในบริษัทห้ามเรียกฉันว่าภรรยา!!”

“ได้เลยครับ ที่รัก!!”

“......” มู่ชิงเอ๋อร์ที่อยู่ทางปลายสายหงุดหงิดมากจนหายใจหอบ “รีบไสหัวมาเดี๋ยวนี้!! มาสัมภาษณ์งาน!!”

เหล่ารปภที่อยู่รอบๆต่างรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมาก นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่พวกเขาเห็นว่ามีคนกล้าพูดจาหยอกล้อแบบนี้กับท่านซีอีโอ ฟังจากน้ำเสียงสนทนาของทั้งสองคนแล้ว ก็แอบเหมือนคนมีความรักที่ทะเลาะกันอยู่

โม่ฝานปัดมือไปมาหัวเราะอย่างปลงแล้วตอบกลับว่า “ผู้หญิงน่ะทำมาจากน้ำ ซีอีโอทำมาจากน้ำอัดลม ถ้าไม่มีอะไรทำนายต้องเขย่าบ่อยๆ ปล่อยลมที่อัดอยู่ด้านในออกมาให้เธอบ้าง ทำแบบนี้แล้วสุดท้ายผู้หญิงถึงจะหวานกับเรา!!”

“เชี้ยยย!! ลูกพี่เลยนะเนี่ย เฮียโม่ครับต่อไปพวกผมขออยู่แก๊งเดียวกับเฮียนะครับ!!”

“ใช่แล้วครับเฮียโม่ ต่อไปคุณช่วยพาพวกเราขึ้นไปสู่จุดรุ่งโรจน์ของชีวิตด้วยเถอะนะครับ!!”

“ช่วยถ่ายทอดวิชาความรู้อะไรบางอย่างให้ผมหน่อยได้ไหมครับ พวกเราก็อยากมีแฟนเป็นซีอีโอเหมือนกัน!!”

“......”

เหล่ารปภกลุ่มนี้อวยโม่ฝานจนโม่ฝานใกล้จะลอยขึ้นสวรรค์แล้ว แต่เมื่อลองมานึกดูแล้วมันก็จริงเหมือนกัน รปภเป็นตำแหน่งงานที่ถือว่าต่ำที่สุดในบรรดาพนักงานทั้งบริษัท เป็นฝ่ายที่อยู่ต่ำที่สุด และทำในหน้าที่การงานที่คนอื่นไม่อยากทำมากที่สุดและผลตอบรับที่พวกเขาได้รับก็ยังต่ำที่สุดอีกด้วย

อย่าว่าแต่จะได้เจอหน้าท่านซีอีโอเลย แม้แต่การได้ยินเสียงซีอีโอยังเป็นอะไรที่เป็นไปได้ยากมากๆเลย

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

311