บทที่ 17 วิชาเฉียนหลง
by หงสู่เฉียวเอ้อเหยีย
15:48,Jun 13,2022
สถานการณ์ที่นิ่งเงียบในตอนแรกถูกพังทลายลงไป
ประตูออฟฟิศถูกพังจนหลุดไปภายในพริบตา โม่ฝานตีลังกาออกมาได้อย่างสวยงาม
และในตอนนี้เองก็มีกล่องเหล็กสีดำกล่องนึงบินออกมาด้วย ก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปคว้ามาได้อย่างสวยงาม
ซึ่งด้านในก็คือใบชาที่มีมูลค่าแพงหูฉีก ชาต้าหงเผา
ชาแบบนี้มีมูลค่า 500 กว่าหยวนต่อปริมาณสองขีด และเป็นปริมาณที่สามารถชงได้แค่ครั้งเดียว กล่องชาที่กำลังอยู่ในมือโม่ฝานตอนนี้ ถ้าเกิดไม่มีเงินซักสองหมื่นหยวนนี่ไม่สามารถครอบครองมันได้เลยด้วยซ้ำ
“เห้ออ มีปัญหากับผู้หญิงที่ฮอร์โมนไม่ปกติไม่ได้จริงๆ!” โม่ฝานส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา
ทุกคนต่างสูดหายใจเข้าทางปากภายในพริบตา เขาน่าจะเป็นคนแรกและเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กล้าพูดนินทาลับหลังซูเยว่ต่อหน้าสาธารณชน คนที่ฮอร์โมนไม่ปกติอย่างนั้นหรอ
เห็นเพียงซูเยว่ในตอนนี้ได้วิ่งออกมาจากออฟฟิศพร้อมกับแจกันดอกไม้ใบหนึ่งในมือ ทำเอาโม่ฝานตกใจจนต้องรีบเผ่นหนีออกไปจากที่นี่
มีปัญหาด้วยไม่ได้ แต่ฉันก็วิ่งหนีได้จ้า!
ซูเยว่กำแจกันดอกไม้อยู่ในมือ มองดูเงาหลังของโม่ฝานที่วิ่งหนีออกไปแล้วพูดด้วยอารมณ์ที่โกรธเคือง “ไอ้สาระเลว ไอ้หื่น! อย่าได้ตกอยู่ในกำมือของฉันก็แล้วกัน!!”
ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างรู้สึกอึ้งทึ่งเป็นอย่างมาก เหมือนคนในหนังที่ถูกกดสต็อปยังไงอย่างนั้น
แม้ซูเยว่จะเป็นคนที่อารมณ์ร้ายแรง แต่เธอไม่เคยอาละวาดต่อหน้าสาธารณชนมาก่อน เพราะเธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์หน้าตาตัวเองมากๆ
รักนวลสงวนตัวและคีพลุคผู้หญิงเรียบร้อยมาโดยตลอด แต่วันนี้ไอ้หมอนี่กลับสามารถทำให้เธอหมดความอดทนได้อย่างนั้นหรอ?!
“มองอะไร ไม่อยากทำแล้วใช่ไหม งานน่ะ!” ซูเยว่กวาดตามองดูผู้คนรอบๆพลางตวาดอย่างโกรธเคือง
บริเวณทำงานที่ยังเงียบกริบอยู่ในเมื่อกี้นี้ ยุ่งเหยิงขึ้นมาภายในพริบตา
เธอปิดประตูดังปั้ง กำปั้นที่ขาวผ่องนั่นได้ทุบลงบนโต๊ะ : “ไอ้เวร แกคอยดูแล้วกัน!”
ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมู่ชิงเอ๋อร์พูดถึงความหน้าด้านไร้ยางอายของไอ้หมอนั่น ซึ่งตอนนั้นเธอยังไม่เชื่อในคำพูดของมู่ชิงเอ๋อร์ จนกระทั่งถึงตอนนี้เธอถึงจะตระหนักได้ว่าโม่ฝานมันหน้าด้านไร้ยางอายมากขนาดไหน
ช่วงนี้ทางบริษัทกำลังวางแผนทำโปรเจคใหม่ ทำให้เธอไม่ได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม จึงส่งผลให้ฮอร์โมนที่อยู่ในร่างกายเธอแปรปรวนอย่างตอนนี้
เมื่อกี้โม่ฝานบอกกับเธอว่าโรคนี้รักษาได้มากๆ แค่ต้องการใช้เข็มฝังเข็มฝังลงตรงตำแหน่งที่สำคัญของร่างกาย แค่ปล่อยเลือดออกมาก็หายขาดแล้ว
ประเด็นคือไม่ใช่ว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล แต่จุดฝังเข็มทั้งหมดที่โม่ฝานบอกมาล้วนเป็นส่วนล่างทั้งหมด!!
……..
โม่ฝานที่เพิ่งเดินลงไปถึงห้องโถงใหญ่ตรงชั้นแรกได้จามไปทีนึง “ห้าชิ่วว ใครด่าฉันเนี่ย?! แม่นางคนนั้นนี่จริงๆเลย เข้าถึงยากมากๆ ฉันเป็นคนที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์คนนึงเลยนะ ทำไมถึงมาบอกว่าฉันเป็นไอ้หื่นกาม?! ถ้าทำตามที่ฉันบอก แค่ 3 วันก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้แล้ว ทำความดีแต่ไม่ได้ผลดี!”
ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเห็นว่าเมื่อคืนพวกเขามีความสัมพันธ์แบบนั้นเกิดขึ้น โม่ฝานก็ไม่อยากไปมีเรื่องหรือยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่าโชคดีที่เมื่อคืนมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น เพราะวิชาเฉียนหลงที่เฮียโม่ฝึกฝนเป็นวิชาที่สามารถต้านพลังเชิงบวกได้ เมื่อคืนทั้งสองคนคนนึงใช้พลังเชิงลบ คนนึงใช้พลังเชิงบวก เขาเชื่อว่าถึงแม้จะไม่ทำการรักษา หลังจากที่ผ่านไปครึ่งเดือน ร่างกายเธอต้องฟื้นตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน
วิชาเฉียนหลงเป็นวิชาที่อาจารย์เขาถ่ายทอดให้กับเขา และอาจารย์เขาก็เป็นตาแก่ที่หลอกให้เขากลับประเทศเช่นกัน ตอนนั้น หลังจากที่เขาออกจากประเทศจีนแล้ว เขาก็ได้รับการชี้แนะอบรมสั่งสอนจากท่านเช่นกัน แถมอาจารย์เขาได้ใช้วิชาบางอย่างที่พิเศษมากๆ ทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีกว่าที่ผ่านมานี้ถูกปิดบังเหมือนเขาหลุดหายไปจากโลกนี้ยังไงอย่างนั้น
การที่สามารถทำถึงขั้นนี้ได้ แค่คิดก็พอจะรู้แล้วว่าพลังความสามารถของท่านคนนั้นมีมากแค่ไหนกันแน่ ในสายตาของโม่ฝาน ท่านเป็นเหมือนเทพเจ้าองค์หนึ่งที่สามารถควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้ ถ้าท่านต้องการให้ใครตาย ยมบาลก็ช่วยคนคนนั้นไม่ได้
ตาแก่คนนั้นใช้ชีวิตอยู่บนยอดเขาเทพเจ้า ซึ่งภูเขาดังกล่าวอยู่ในแถบหุบเขาคุนหลุน เส้นทางในการเดินขึ้นยอดเขาเทพเจ้านั้นขรุขระมากถึงมากที่สุด เด็กอัจฉริยะผู้ที่ทำให้คนทั้งโลกต่างรู้สึกทึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยภายในค่ำคืนเดียว ซึ่งคืนนั้นเขาถูกนำตัวขึ้นไปบนยอดเขาเทพเจ้าแห่งนี้และได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆจากอาจารย์ของตน
บางทีตาแก่นั่นอาจจะกำลังมองหาลูกศิษย์ที่มีความสามารถเพื่อสืบทอดทักษะของเขา แต่ทว่าตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งถึงตอนนี้ ในหัวใจของโม่ฝานมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือล้างแค้น!!
แค้นที่ล้มล้างตระกูล ความแค้นนี้เป็นความแค้นที่ไม่สามารถให้อภัยซึ่งกันและกัน แม้จะต้องแลกกับทุกสิ่ง แม้จะเหยียบโลกนี้ให้เป็นพื้นเรียบเขาก็ไม่หวั่น!
โม่ฝานยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าห้องโถงใหญ่ของบริษัทพลางสูบบุหรี่คนเดียว กวาดตามองไปยังทิศตะวันออกพลางพูดพึมพำว่า “ตาแก่ ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะไม่ทำให้คุณขายหน้าแน่นอน!”
…….
บนยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีที่ห่างออกไปหลายพันไมล์
ตาแก่คนนึงสวมใส่เสื้อกล้ามที่เก่าและพัง นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง และบนมือข้างซ้ายของเขายังมีพัดที่ทำมาจากไม้ไผ่หนึ่งอัน
แม้สภาพอากาศในตอนนี้จะหนาวเย็นมากๆ แต่บนภูเขาหิมะลูกนี้กลับไม่มีการแบ่งแยก 4 ฤดูเลย อุณหภูมิตลอดทั้งปีล้วนอยู่ต่ำกว่าลบ 20 องศามาโดยตลอด ถ้าเกิดเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาทั่วไป คาดว่าคนคนนั้นคงได้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งบนภูเขาแห่งนี้ไปตั้งนานแล้ว
เขาก็กำลังจ้องมองมาทางทิศเหนือแล้วยิ้มอ่อนเช่นกัน “ไอ้เด็กเมื่อวานซืน อาจารย์พาเข้าสำนัก หากเป็นเรื่องบําเพ็ญเพียรต่างๆข้ายังสามารถช่วยเอ็งได้ แต่เรื่องของโลกภายนอกน่ะ คงต้องดูที่ตัวเอ็งอีกทีแล้วล่ะ ขอให้โชคดีแล้วกัน! แต่พยายามก่อเรื่องให้มันน้อยๆหน่อยก็ดีเหมือนกัน!”
เท้าไม่ได้ย่างออกไปจากที่นี่ แต่กลับสามารถรับรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ได้ และนี่ก็เป็นจุดที่เทพเจ้าของตาแก่ จุดนี้แอบคล้ายฮกหลง จูกัดเหลียงอยู่
………
ณ ภายในแผนกรปภ
เมื่อคนกลุ่มนั้นเห็นว่าโม่ฝานกลับมาแล้ว พวกเขาก็รีบพากันวิ่งกรูขึ้นมาทันที
“เอ๊ะ เฮียโม่ กล่องเหล็กพังๆที่อยู่บนมือเฮียนี่คืออะไรหรอครับ?! เฮียไปเอาใบชาไม่ใช่หรอ อย่าบอกนะครับว่าผู้อำนวยการซูไม่ได้ให้จริงๆ?!” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ในชุดรปภถามอย่างรู้สึกสงสัย
เนื่องจากเมื่อกี้โม่ฝานนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตเล็กน้อย เขายังดึงสติกลับมาไม่ได้ ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องเขาก็ไม่ได้เสียงดังเฮฮาเหมือนก่อน คนจำนวนไม่น้อยจึงคิดว่าเขาน่าจะโดนซูเยว่อบรมสั่งสอนมา
และในตอนนี้เองก็มีชายหนุ่มผมเหลืองที่ทำตัวจองหองนั่งอยู่ตรงมุมห้องแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ดูจากสภาพมันก็รู้แล้วไม่ใช่หรอ คนบางคนน่ะเก๊กจนเหลิง คอยดูเลยเดี๋ยวมันจะได้ตายแบบไม่รู้ตัว! ยังมีหน้าไปขอต้าหงเผากับผู้อำนวยการซูอีก?! แกทำไมไม่ไปขอกับท่านซีอีโอโดยตรงเลยล่ะวะ?! ไอ้พวกคนจนน่ะเรื่องเยอะ!!”
“หลิวหงนายพูดจาให้มันระวังหน่อย อย่ามาทำตัวแปลกประหลาดตรงนี้ ต่อไปเราทุกคนที่อยู่ในห้องล้วนต้องสามัคคีสมานฉันท์กัน!!” ในฐานะที่หวังเปียวเป็นหัวหน้ารปภ เขารีบลุกขึ้นมาตำหนิหลิวหงทันที
ชายหนุ่มผมเหลืองคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “หวังเปียว ถ้าเกิดนายอยากจะเลียตีนคนอื่นก็หาเลียให้ถูกคนด้วยสิวะ นายเชื่อจริงๆหรอว่ามันเป็นสามีของท่านซีอีโอเรา?! ถึงตอนนั้นระวังเลือกผิดฝั่งแล้วทำให้นายสูญเสียหน้าที่การงานนี้ไปก็แล้วกัน!”
“......”
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว โม่ฝานก็รู้สึกปลงมากจริงๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าในแผนกรปภจะยังมีคนปากดีแบบนี้อยู่อีก แถมยังเป็นคนที่กีดกันตัวเองอีกด้วย!
“แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ถ้าเป็นผู้ชายก็พูดให้มันเคลียร์ๆหน่อย จะอ้อมค้อมทำมะเขืออะไรวะ?!” โม่ฝานหัวเราะอย่างเยือกเย็น หากพูดถึงเรื่องขี้เก๊กแล้วละก็ ถ้าเขาบอกว่าเขาเป็นที่ 2 งั้นก็จะไม่มีคนกล้าบอกว่าตัวเองเป็นที่ 1!
เมื่อหวังเปียวเห็นว่าสถานการณ์เริ่มดำเนินการไปในทิศทางที่แย่ เดี๋ยวสักพักถ้าเกิดได้ต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆ เขาเคยเห็นเองกับตาแล้วว่าศักยภาพความสามารถของโม่ฝานน่าสยดสยองมากแค่ไหน ถ้าเกิดไอ้หมอนี่โกรธเกรี้ยวขึ้นมาเมื่อไหร่ ห้องรปภนี้ได้พังทลายลงไปแน่!!
“เฮียโม่ เฮียโม่ คุณใจเย็นๆก่อนนะครับ…..” หวังเปียวใช้มือตบๆไหล่ของโม่ฝานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปพูดกระซิบข้างหูเขาว่า “ไอ้หมอนี่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับรองผู้จัดการฝ่ายบริหารของบริษัทเรานิดหน่อยน่ะ เหมือนจะเป็นหลานชายหรืออะไรของรองผู้จัดการคนนั้นน่ะครับ เมื่อกี้พวกผมได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนชั้น 12 ของคุณหมดแล้ว และทุกคนก็ตื้นตันใจมากๆด้วย แต่พวกผมเป็นคนบ้านนอก ดื่มช้าถุงละครึ่งหยวนก็ได้แล้วครับ!!”
“......”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
เคยได้ยินมาตั้งนานแล้วว่ามีรองผู้จัดการคนหนึ่งในฝ่ายบริหารชอบเผือกเรื่องชาวบ้านมากๆ ไม่มีประโยชน์อะไร วันๆเอาแต่มาเม้าท์มอยในบริษัท แถมยังกล้าเม้าท์แม้กระทั่งซีอีโอ
เป็นแค่ผู้หญิงที่เรียนจบชั้นประถม แต่กลับสามารถดำรงในตำแหน่งรองผู้จัดการได้ แค่คิดก็พอใจเดาความเน่าเฟะทั้งหมดของเรื่องนี้ได้แล้ว มีโอกาส 80% เลยที่เธอน่าจะอาศัยสายสัมพันธ์ทางญาติพี่น้องกับผู้บริหารสักคนในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
ประตูออฟฟิศถูกพังจนหลุดไปภายในพริบตา โม่ฝานตีลังกาออกมาได้อย่างสวยงาม
และในตอนนี้เองก็มีกล่องเหล็กสีดำกล่องนึงบินออกมาด้วย ก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปคว้ามาได้อย่างสวยงาม
ซึ่งด้านในก็คือใบชาที่มีมูลค่าแพงหูฉีก ชาต้าหงเผา
ชาแบบนี้มีมูลค่า 500 กว่าหยวนต่อปริมาณสองขีด และเป็นปริมาณที่สามารถชงได้แค่ครั้งเดียว กล่องชาที่กำลังอยู่ในมือโม่ฝานตอนนี้ ถ้าเกิดไม่มีเงินซักสองหมื่นหยวนนี่ไม่สามารถครอบครองมันได้เลยด้วยซ้ำ
“เห้ออ มีปัญหากับผู้หญิงที่ฮอร์โมนไม่ปกติไม่ได้จริงๆ!” โม่ฝานส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา
ทุกคนต่างสูดหายใจเข้าทางปากภายในพริบตา เขาน่าจะเป็นคนแรกและเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กล้าพูดนินทาลับหลังซูเยว่ต่อหน้าสาธารณชน คนที่ฮอร์โมนไม่ปกติอย่างนั้นหรอ
เห็นเพียงซูเยว่ในตอนนี้ได้วิ่งออกมาจากออฟฟิศพร้อมกับแจกันดอกไม้ใบหนึ่งในมือ ทำเอาโม่ฝานตกใจจนต้องรีบเผ่นหนีออกไปจากที่นี่
มีปัญหาด้วยไม่ได้ แต่ฉันก็วิ่งหนีได้จ้า!
ซูเยว่กำแจกันดอกไม้อยู่ในมือ มองดูเงาหลังของโม่ฝานที่วิ่งหนีออกไปแล้วพูดด้วยอารมณ์ที่โกรธเคือง “ไอ้สาระเลว ไอ้หื่น! อย่าได้ตกอยู่ในกำมือของฉันก็แล้วกัน!!”
ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างรู้สึกอึ้งทึ่งเป็นอย่างมาก เหมือนคนในหนังที่ถูกกดสต็อปยังไงอย่างนั้น
แม้ซูเยว่จะเป็นคนที่อารมณ์ร้ายแรง แต่เธอไม่เคยอาละวาดต่อหน้าสาธารณชนมาก่อน เพราะเธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์หน้าตาตัวเองมากๆ
รักนวลสงวนตัวและคีพลุคผู้หญิงเรียบร้อยมาโดยตลอด แต่วันนี้ไอ้หมอนี่กลับสามารถทำให้เธอหมดความอดทนได้อย่างนั้นหรอ?!
“มองอะไร ไม่อยากทำแล้วใช่ไหม งานน่ะ!” ซูเยว่กวาดตามองดูผู้คนรอบๆพลางตวาดอย่างโกรธเคือง
บริเวณทำงานที่ยังเงียบกริบอยู่ในเมื่อกี้นี้ ยุ่งเหยิงขึ้นมาภายในพริบตา
เธอปิดประตูดังปั้ง กำปั้นที่ขาวผ่องนั่นได้ทุบลงบนโต๊ะ : “ไอ้เวร แกคอยดูแล้วกัน!”
ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมู่ชิงเอ๋อร์พูดถึงความหน้าด้านไร้ยางอายของไอ้หมอนั่น ซึ่งตอนนั้นเธอยังไม่เชื่อในคำพูดของมู่ชิงเอ๋อร์ จนกระทั่งถึงตอนนี้เธอถึงจะตระหนักได้ว่าโม่ฝานมันหน้าด้านไร้ยางอายมากขนาดไหน
ช่วงนี้ทางบริษัทกำลังวางแผนทำโปรเจคใหม่ ทำให้เธอไม่ได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม จึงส่งผลให้ฮอร์โมนที่อยู่ในร่างกายเธอแปรปรวนอย่างตอนนี้
เมื่อกี้โม่ฝานบอกกับเธอว่าโรคนี้รักษาได้มากๆ แค่ต้องการใช้เข็มฝังเข็มฝังลงตรงตำแหน่งที่สำคัญของร่างกาย แค่ปล่อยเลือดออกมาก็หายขาดแล้ว
ประเด็นคือไม่ใช่ว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล แต่จุดฝังเข็มทั้งหมดที่โม่ฝานบอกมาล้วนเป็นส่วนล่างทั้งหมด!!
……..
โม่ฝานที่เพิ่งเดินลงไปถึงห้องโถงใหญ่ตรงชั้นแรกได้จามไปทีนึง “ห้าชิ่วว ใครด่าฉันเนี่ย?! แม่นางคนนั้นนี่จริงๆเลย เข้าถึงยากมากๆ ฉันเป็นคนที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์คนนึงเลยนะ ทำไมถึงมาบอกว่าฉันเป็นไอ้หื่นกาม?! ถ้าทำตามที่ฉันบอก แค่ 3 วันก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้แล้ว ทำความดีแต่ไม่ได้ผลดี!”
ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเห็นว่าเมื่อคืนพวกเขามีความสัมพันธ์แบบนั้นเกิดขึ้น โม่ฝานก็ไม่อยากไปมีเรื่องหรือยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่าโชคดีที่เมื่อคืนมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น เพราะวิชาเฉียนหลงที่เฮียโม่ฝึกฝนเป็นวิชาที่สามารถต้านพลังเชิงบวกได้ เมื่อคืนทั้งสองคนคนนึงใช้พลังเชิงลบ คนนึงใช้พลังเชิงบวก เขาเชื่อว่าถึงแม้จะไม่ทำการรักษา หลังจากที่ผ่านไปครึ่งเดือน ร่างกายเธอต้องฟื้นตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน
วิชาเฉียนหลงเป็นวิชาที่อาจารย์เขาถ่ายทอดให้กับเขา และอาจารย์เขาก็เป็นตาแก่ที่หลอกให้เขากลับประเทศเช่นกัน ตอนนั้น หลังจากที่เขาออกจากประเทศจีนแล้ว เขาก็ได้รับการชี้แนะอบรมสั่งสอนจากท่านเช่นกัน แถมอาจารย์เขาได้ใช้วิชาบางอย่างที่พิเศษมากๆ ทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีกว่าที่ผ่านมานี้ถูกปิดบังเหมือนเขาหลุดหายไปจากโลกนี้ยังไงอย่างนั้น
การที่สามารถทำถึงขั้นนี้ได้ แค่คิดก็พอจะรู้แล้วว่าพลังความสามารถของท่านคนนั้นมีมากแค่ไหนกันแน่ ในสายตาของโม่ฝาน ท่านเป็นเหมือนเทพเจ้าองค์หนึ่งที่สามารถควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้ ถ้าท่านต้องการให้ใครตาย ยมบาลก็ช่วยคนคนนั้นไม่ได้
ตาแก่คนนั้นใช้ชีวิตอยู่บนยอดเขาเทพเจ้า ซึ่งภูเขาดังกล่าวอยู่ในแถบหุบเขาคุนหลุน เส้นทางในการเดินขึ้นยอดเขาเทพเจ้านั้นขรุขระมากถึงมากที่สุด เด็กอัจฉริยะผู้ที่ทำให้คนทั้งโลกต่างรู้สึกทึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยภายในค่ำคืนเดียว ซึ่งคืนนั้นเขาถูกนำตัวขึ้นไปบนยอดเขาเทพเจ้าแห่งนี้และได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆจากอาจารย์ของตน
บางทีตาแก่นั่นอาจจะกำลังมองหาลูกศิษย์ที่มีความสามารถเพื่อสืบทอดทักษะของเขา แต่ทว่าตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งถึงตอนนี้ ในหัวใจของโม่ฝานมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือล้างแค้น!!
แค้นที่ล้มล้างตระกูล ความแค้นนี้เป็นความแค้นที่ไม่สามารถให้อภัยซึ่งกันและกัน แม้จะต้องแลกกับทุกสิ่ง แม้จะเหยียบโลกนี้ให้เป็นพื้นเรียบเขาก็ไม่หวั่น!
โม่ฝานยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าห้องโถงใหญ่ของบริษัทพลางสูบบุหรี่คนเดียว กวาดตามองไปยังทิศตะวันออกพลางพูดพึมพำว่า “ตาแก่ ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะไม่ทำให้คุณขายหน้าแน่นอน!”
…….
บนยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีที่ห่างออกไปหลายพันไมล์
ตาแก่คนนึงสวมใส่เสื้อกล้ามที่เก่าและพัง นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง และบนมือข้างซ้ายของเขายังมีพัดที่ทำมาจากไม้ไผ่หนึ่งอัน
แม้สภาพอากาศในตอนนี้จะหนาวเย็นมากๆ แต่บนภูเขาหิมะลูกนี้กลับไม่มีการแบ่งแยก 4 ฤดูเลย อุณหภูมิตลอดทั้งปีล้วนอยู่ต่ำกว่าลบ 20 องศามาโดยตลอด ถ้าเกิดเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาทั่วไป คาดว่าคนคนนั้นคงได้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งบนภูเขาแห่งนี้ไปตั้งนานแล้ว
เขาก็กำลังจ้องมองมาทางทิศเหนือแล้วยิ้มอ่อนเช่นกัน “ไอ้เด็กเมื่อวานซืน อาจารย์พาเข้าสำนัก หากเป็นเรื่องบําเพ็ญเพียรต่างๆข้ายังสามารถช่วยเอ็งได้ แต่เรื่องของโลกภายนอกน่ะ คงต้องดูที่ตัวเอ็งอีกทีแล้วล่ะ ขอให้โชคดีแล้วกัน! แต่พยายามก่อเรื่องให้มันน้อยๆหน่อยก็ดีเหมือนกัน!”
เท้าไม่ได้ย่างออกไปจากที่นี่ แต่กลับสามารถรับรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ได้ และนี่ก็เป็นจุดที่เทพเจ้าของตาแก่ จุดนี้แอบคล้ายฮกหลง จูกัดเหลียงอยู่
………
ณ ภายในแผนกรปภ
เมื่อคนกลุ่มนั้นเห็นว่าโม่ฝานกลับมาแล้ว พวกเขาก็รีบพากันวิ่งกรูขึ้นมาทันที
“เอ๊ะ เฮียโม่ กล่องเหล็กพังๆที่อยู่บนมือเฮียนี่คืออะไรหรอครับ?! เฮียไปเอาใบชาไม่ใช่หรอ อย่าบอกนะครับว่าผู้อำนวยการซูไม่ได้ให้จริงๆ?!” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ในชุดรปภถามอย่างรู้สึกสงสัย
เนื่องจากเมื่อกี้โม่ฝานนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตเล็กน้อย เขายังดึงสติกลับมาไม่ได้ ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องเขาก็ไม่ได้เสียงดังเฮฮาเหมือนก่อน คนจำนวนไม่น้อยจึงคิดว่าเขาน่าจะโดนซูเยว่อบรมสั่งสอนมา
และในตอนนี้เองก็มีชายหนุ่มผมเหลืองที่ทำตัวจองหองนั่งอยู่ตรงมุมห้องแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ดูจากสภาพมันก็รู้แล้วไม่ใช่หรอ คนบางคนน่ะเก๊กจนเหลิง คอยดูเลยเดี๋ยวมันจะได้ตายแบบไม่รู้ตัว! ยังมีหน้าไปขอต้าหงเผากับผู้อำนวยการซูอีก?! แกทำไมไม่ไปขอกับท่านซีอีโอโดยตรงเลยล่ะวะ?! ไอ้พวกคนจนน่ะเรื่องเยอะ!!”
“หลิวหงนายพูดจาให้มันระวังหน่อย อย่ามาทำตัวแปลกประหลาดตรงนี้ ต่อไปเราทุกคนที่อยู่ในห้องล้วนต้องสามัคคีสมานฉันท์กัน!!” ในฐานะที่หวังเปียวเป็นหัวหน้ารปภ เขารีบลุกขึ้นมาตำหนิหลิวหงทันที
ชายหนุ่มผมเหลืองคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “หวังเปียว ถ้าเกิดนายอยากจะเลียตีนคนอื่นก็หาเลียให้ถูกคนด้วยสิวะ นายเชื่อจริงๆหรอว่ามันเป็นสามีของท่านซีอีโอเรา?! ถึงตอนนั้นระวังเลือกผิดฝั่งแล้วทำให้นายสูญเสียหน้าที่การงานนี้ไปก็แล้วกัน!”
“......”
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว โม่ฝานก็รู้สึกปลงมากจริงๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าในแผนกรปภจะยังมีคนปากดีแบบนี้อยู่อีก แถมยังเป็นคนที่กีดกันตัวเองอีกด้วย!
“แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ถ้าเป็นผู้ชายก็พูดให้มันเคลียร์ๆหน่อย จะอ้อมค้อมทำมะเขืออะไรวะ?!” โม่ฝานหัวเราะอย่างเยือกเย็น หากพูดถึงเรื่องขี้เก๊กแล้วละก็ ถ้าเขาบอกว่าเขาเป็นที่ 2 งั้นก็จะไม่มีคนกล้าบอกว่าตัวเองเป็นที่ 1!
เมื่อหวังเปียวเห็นว่าสถานการณ์เริ่มดำเนินการไปในทิศทางที่แย่ เดี๋ยวสักพักถ้าเกิดได้ต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆ เขาเคยเห็นเองกับตาแล้วว่าศักยภาพความสามารถของโม่ฝานน่าสยดสยองมากแค่ไหน ถ้าเกิดไอ้หมอนี่โกรธเกรี้ยวขึ้นมาเมื่อไหร่ ห้องรปภนี้ได้พังทลายลงไปแน่!!
“เฮียโม่ เฮียโม่ คุณใจเย็นๆก่อนนะครับ…..” หวังเปียวใช้มือตบๆไหล่ของโม่ฝานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปพูดกระซิบข้างหูเขาว่า “ไอ้หมอนี่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับรองผู้จัดการฝ่ายบริหารของบริษัทเรานิดหน่อยน่ะ เหมือนจะเป็นหลานชายหรืออะไรของรองผู้จัดการคนนั้นน่ะครับ เมื่อกี้พวกผมได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนชั้น 12 ของคุณหมดแล้ว และทุกคนก็ตื้นตันใจมากๆด้วย แต่พวกผมเป็นคนบ้านนอก ดื่มช้าถุงละครึ่งหยวนก็ได้แล้วครับ!!”
“......”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
เคยได้ยินมาตั้งนานแล้วว่ามีรองผู้จัดการคนหนึ่งในฝ่ายบริหารชอบเผือกเรื่องชาวบ้านมากๆ ไม่มีประโยชน์อะไร วันๆเอาแต่มาเม้าท์มอยในบริษัท แถมยังกล้าเม้าท์แม้กระทั่งซีอีโอ
เป็นแค่ผู้หญิงที่เรียนจบชั้นประถม แต่กลับสามารถดำรงในตำแหน่งรองผู้จัดการได้ แค่คิดก็พอใจเดาความเน่าเฟะทั้งหมดของเรื่องนี้ได้แล้ว มีโอกาส 80% เลยที่เธอน่าจะอาศัยสายสัมพันธ์ทางญาติพี่น้องกับผู้บริหารสักคนในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved