บทที่ 18 ด้านบนฉันมีคนใหญ่คนโต

ปากคนอย่างเธอน่ะ ไม่ว่าเรื่องใดขอแค่เป็นเรื่องที่เธอรู้ งั้นคาดว่าคนทั้งบริษัทก็น่าจะไม่มีทางไม่รู้แน่นอน

จากสันดานของชายหนุ่มผมเหลืองคนนั้นแล้ว มีโอกาส 80% เลยที่เมื่อก่อนเขาน่าจะเป็นหนุ่มเสเพลที่ไม่เอาการเอางาน และทำตัวจองหองพองขนแบบนี้เพราะเห็นว่าญาติทางบ้านตัวเองเป็นคนใหญ่คนโตของบริษัทนี้ เลยไม่ได้เอาใครไปไว้ในสายตา แม้กระทั่งหัวหน้ารปภอย่างหวังเปียวเขาก็ไม่เคยให้เกียรติให้ความเคารพ

ตอนนี้โม่ฝานถือว่าเข้าใจความเป็นมาสักที ก่อนที่เขาจะยิ้มมุมปากอย่างร้ายๆ “แกหมายความว่าฉันพูดอวดดีอย่างนั้นหรอ?!”

“คำพูดของแกมีคำไหนเป็นความจริงบ้างล่ะ?! เป็นรปภยังต้องการภาพลักษณ์หน้าตาอีกงั้นหรอ ยังจะดื่มชาต้าหงเผาอะไรอีก แกเคยเห็นต้าหงเผาของจริงมาก่อนหรือเปล่า?! เดือนก่อนฉันเพิ่งไปดื่มมาที่บ้านน้าสาวฉัน มีแต่ของบ้านน้าสาวฉันเท่านั้นที่เป็นของแท้ต้นตำรับ มีแต่ผู้จัดการเท่านั้นถึงคู่ควรกับการดื่มต้าหงเผา แกแม่งคิดว่าตัวเองก็คู่ควรอย่างนั้นหรอ?!” รปภหลิวหงคนเอาแต่พูดฉอดๆอย่างดูหมิ่น

“ถ้าเกิดฉันเอามาได้จริงล่ะ?!”

“ถ้าเกิดแกเอามาได้ ฉันก็จะใช้รูจมูกกินมาม่า! แต่ถ้าเกิดแกตอแหล งั้นแกก็ต้องคุกเข่าลงมาเช็ดรองเท้าให้ฉัน!”

“ได้!!”

“.....”

ใช้รูจมูกกินมาม่า แหม่ๆ ภาพฉากนั้นต้องเป็นอะไรที่เร้าใจมากๆแน่นอน!

ราชาแห่งการแก้เผ็ดพวกขี้เก๊ก เรื่องแบบนี้ต้องปล่อยให้เขาจัดการ

ในโซนยุโรป โลกใต้ดินที่ไม่มีคำว่ากฎเกณฑ์และกฎระเบียบ พวกนักเลงอันธพาลใหญ่ๆล้วนโดนโม่ฝานอบรมสั่งสอนจนกลับตัวเป็นคนดีเยอะมากๆแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรปภตัวเล็กๆอย่างนี้เลย

โม่ฝานวางกล่องเหล็กนั่นลงบนโต๊ะ จากนั้นทุกคนก็ได้เดินมามุงดูทันที

เปิดฝากล่องเหล็กออก กลิ่นหอมชาตีขึ้นหน้าอย่างจัง มันเป็นชาที่ถูกเด็ดลงมาจากต้นเป็นเวลานานมากๆแล้ว แต่มันกลับมีกลิ่นหอมที่สดชื่นเหมือนพึ่งถูกเด็ดลงมาจากต้นยังไงอย่างนั้น

“ไปเอาแก้วชามา เดี๋ยววันนี้ฉันจะสอนพวกนายเองว่าอะไรเรียกว่าชาที่แท้จริง! อนาคตจะได้ป้องกันไม่ให้ไปขายขี้หน้าคนอื่นเขาเปล่าๆ!” โม่ฝานยิ้มอ่อน เขากระตุกยิ้มมุมปาก สีหน้าในตอนนี้ของเขาดูมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก

สีหน้าของหลิวหงที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว “ชิ แสร้งเป็นผีเป็นคน มีใครไม่รู้บ้างว่าแกโดนผู้อำนวยการซูไล่ออกมาจากห้อง แกไม่มีความรู้อยู่แก่ใจหน่อยเลยหรอวะ!”

แต่ว่าคนอื่นไม่ได้สนใจหลิวหงที่เหมือนแกะดำเลยด้วยซ้ำ ต่างกำลังดื่มด่ำและเพลิดเพลินกับการชงชาของโม่ฝานอยู่

ใบชา น้ำร้อน กาน้ำชา ได้ลอยขึ้นกลางอากาศพร้อมกัน ภายในเวลาชั่วพริบตาของทั้ง 3 สีนี้ก็ได้รวมเข้าด้วยกัน ใบชาอยู่ในน้ำ น้ำชาอยู่ในกาน้ำชา!!

กระบวนท่าทั้งหมดของเขาดูงดงามเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนกำลังชงชาเลย แต่เป็นการแสดงมายากลอยู่ชัดๆ!

ชาที่ชงได้รอบแรกยังดื่มไม่ได้ เพราะต้องเอาความขมและเศษฝุ่นต่างๆที่อยู่บนใบชาออกมาก่อน

ปกติตอนดื่มชาทุกคนมักจะดื่มตั้งแต่แก้วแรกเลย พวกเขาจะรู้กฎที่มากมายขนาดนี้ได้อย่างไร

“การชงชา ก็ใช้หลักการเดียวกันกับการจีบสาวเช่นกัน ยิ่งชงนานยิ่งมีรสชาติ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนต้องใจเย็นตลอดเวลา เพราะของดีมักจะอยู่ช่วงท้ายๆ”

“คนโบราณได้กล่าวไว้ว่า การชงชาต้องใช้น้ำจากภูเขา น้ำกลางแม่น้ำ น้ำใต้บาดาล ส่วนวันนี้เราใช้น้ำดื่มธรรมดาทั่วไปชงๆไปก่อนแล้วกัน!!”

“.....”

โม่ฝานค่อยๆเทน้ำชาออกมาจากกาน้ำชา กลิ่นหอมนั่นได้ลอยเข้าไปในจมูกของทุกคน

แค่กลิ่นหอมก็สามารถทำให้ร่างกายของพวกเขากระปี้กระเปร่าขึ้นมาได้แล้ว

“แม่เจ้า กลิ่นหอมจากชานี่เหมือนกลิ่นหอมจากฟีโรโมนของผู้หญิงเลย มิน่าล่ะเฮียโม่ถึงบอกว่าการชงชาเหมือนการจีบสาว เฉียบมากเลยนะเนี่ย!”

“มันหอมเกินไปหรือเปล่า ฉันเพิ่งกินข้าวมาอิ่มๆ ทำไมถึงรู้สึกหิวอีกแล้ว!”

“ให้ตายเถอะ อดใจไม่ไหวแล้ว ขอฉันดื่มก่อนแก้วนึง!”

“ฉันก็จะดื่มเหมือนกัน ฉันก็จะดื่ม!”

“......”

รปภกลุ่มนั้นถึงกับวิ่งเบียดกันขึ้นมา หัวหน้ารปภหวังเปียวก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ก่อนที่เขาจะเบียดเข้าไปในกลุ่มคน

“ไอ้เด็กเปรต เหลือให้ฉันด้วย!!”

หลิวหงที่พูดจาจองหองในเมื่อกี้นี้ก็ได้กลิ่นหอมนี้แล้วเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะกลืนน้ำลายรัวๆ

ให้ตายเถอะ!!

ชาสามารถชงให้หอมได้มากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย?!

ไม่ใช่จิตใจฉันไม่มีแน่วแน่เด็ดเดี่ยวมากพอ แต่ว่าชานี้มันหอมมากเกินไปแล้ว!

สุดท้ายหลิวหงก็อดใจไม่ไหว พุ่งตรงเข้าไป “หึ ฉันเคยดื่มชาต้าหงเผามาก่อน อย่าคิดที่จะมาหลอกฉันเชียว เหลือให้ฉันชิมด้วย!”

“.....”

เบียดเข้าไปในกลุ่มคนได้อย่างรวดเร็ว เดิมทีชานี้มีแค่กาน้ำชาเดียวเท่านั้น คนกลุ่มนี้ดื่มแล้วดื่มอีก สุดท้ายพวกเขาถึงขั้นอดไม่ได้ที่อยากจะกัดกินกาน้ำชาไปด้วย

จนกระทั่งหยดสุดท้ายถูกหวังเปียวดื่มลงท้องไป ใบหน้าของทุกคนถึงจะหายตื่นเต้น

“จนกระทั่งถึงวันนี้ฉันถึงรู้ว่าตลอดช่วง 30 กว่าปีที่ผ่านมานี้ ชีวิตของฉันมันไร้คุณค่ามากแค่ไหน!”

“เจ๋งมาก นี่คือต้าหงเผาในตำนานน่ะหรอ เป็นชาเหมือนกัน แต่ทำไมถึงแตกต่างกันได้อย่างสิ้นเชิงแบบนี้ล่ะ?!”

“นี่นายกำลังพูดเพ้อฝันอะไรอยู่! ชาแค่นั้นที่พวกเราเพิ่งดื่มไปเมื่อกี้นี้ คาดว่ามูลค่าของมันน่าจะสองสามพันหยวนอยู่มั้ง!”

“.....”

หลิวหงที่ยังปากดีในเมื่อกี้นี้ วินาทีนี้เขายังคงจมอยู่กับความหอมของกลิ่นชานั่นอยู่

เป็นชาต้าหงเผาเหมือนกัน แต่ทำไมชาที่ตัวเองได้ดื่มในบ้านน้าสาวถึงได้แตกต่างกับชานี้มากขนาดนี้?!

แต่ทว่านี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติเหมือนกัน คนธรรมดาทั่วไปไม่เข้าใจในด้านชาลึกซึ้งอย่างโม่ฝาน พวกเขามักจะโยนใบชาเข้าไปในกาน้ำชาแล้วชงดื่มทันที

ทำแบบนี้เท่ากับการทำลายความหอมของชาไปโดยตรง สาเหตุที่ชาต้าหงเผานี่แพง นั่นก็เป็นเพราะวิธีการชงของมันค่อนข้างจุกจิก เงื่อนไขอุณหภูมิของน้ำที่ใช้สำหรับชงชาต้าหงเผาก็เยอะเช่นกัน

ตอนแรกเริ่มต้องใช้น้ำอุ่นแช่ประมาณ 10 กว่าวินาที รอใบชาค่อยๆขยายออก แบบนี้กลิ่นหอมของชาถึงจะแผร่กระจายออกมาด้วย

เมื่อเปรียบเทียบกับอาจารย์ตัวเองแล้ว ทักษะแค่นี้ของโม่ฝานยังอ่อนมากๆ

บนยอดเขาเทพเจ้ามีต้นไม้เทพอยู่ต้นนึง ซึ่งใบไม้ของต้นไม้แบบนั้นก็จัดอยู่ในพันธุ์ไม้ของชาเช่นเดียวกัน แถมยังเป็นใบชาที่หาพบได้ยากมากๆอีกด้วย แค่ดื่มน้ำที่ต้มมาจากใบไม้ของมัน ก็มีสรรพคุณในการรักษาบาดแผลต่างๆแล้ว

ยังไงเขาก็ใช้ชีวิตอยู่บนยอดเขามาหลายปีเหมือนกัน มองดูตาแก่นั่นดื่มชาทุกวัน ไม่ว่ายังไงเขาก็เรียนรู้ได้บ้างไม่มากก็น้อย

“เฮียโม่ เฮียกำลังหาอะไรอยู่หรอครับ?!” และในตอนนี้เองหวังเปียวก็ได้ขยับเข้าไปใกล้โม่ฝานแล้วถามอย่างรู้สึกสงสัย

เห็นเพียงเขากำลังกวาดตามองดูทั่วห้อง สุดท้ายเขาได้ใช้นิ้วชี้ไปทางกะละมังล้างเท้าที่วางอยู่ตรงมุมห้องยิ้มแล้วพูดว่า “เอามาม่าไปต้มในกะละมังนั่น ให้มันใช้จมูกกินมาม่าให้หมด อย่าให้เหลือแม้กระทั่งน้ำซุป!”

“.....”

ทันใดนั้นเองทำให้สีหน้าของหลิวหงที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนเปลี่ยนไปภายในพริบตา

ใช้กะละมังมาต้มมาม่าก็แล้วไป แต่นี่แม่งยังใช้กะละมังล้างเท้ามาต้มอีก!!

ตอนนี้หวังเปียวก็หัวเราะฮ่าๆอย่างรู้สึกอึดอัดเหมือนกัน ไม่มีใครคาดถึงเลยว่าโม่ฝานจะพูดจริงทำจริง และสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือไม่มีใครเชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะสามารถเอาต้าหงเผามาจากซูเยว่ได้

“เฮียโม่ ช่าง….ช่างมันเถอะครับ….อย่าจริงจังกับคำพูดล้อเล่นเมื่อกี้เลยครับ!” หัวหน้ารปภยิ้มอย่างขมขื่นพลางพูด

หลิวหงก็ยิ้มอย่างน่าสมเพชเช่นกัน “ใช่ๆๆๆ แค่ล้อเล่นกันเท่านั้นเอง…..”

รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าโม่ฝานค่อยๆจางหายไป จากใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มในเมื่อกี้นี้ เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่หม่นหมองและเยือกเย็นเหมือนดวงวิญญาณร้าย

“แกเห็นว่าฉันกำลังล้อเล่นอยู่หรอ?!”

เป็นถึงราชานรกผู้เลื่องลือในยุคสมัยนึง เป็นผู้ที่ทำให้คนทั้งโซนยุโรปต่างหวาดผวา คนแบบนี้จะมาล้อเล่นกับรปภเล็กๆคนหนึ่งอย่างนั้นหรอ?!

“ไอ้….ไอ้หนู น้าสาวฉันเป็นรองผู้จัดการฝ่ายบริหารเชียวนะ ถ้าเกิดแกฉลาดก็ทำตัวให้มันดีๆหน่อย การมารุกรานฉันมันไม่ได้ส่งผลดีอะไรต่อแกหรอกนะ!” หลิวหงกลืนน้ำลายอึกนึง ก่อนที่เขาจะพูดข่มขู่ด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน

เพี๊ยะะ

เขาตบแค่ครั้งเดียว กระถางต้นไม้ที่ตั้งอยู่ข้างๆก็แตกสลายเป็นฝุ่นผงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “พูดมา แกชอบกินมาม่ารสชาติไหน!!”

“......”

ตอนนี้หลิวหงมีความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้แล้วจริงๆ แม่งเอ๊ยทำไมถึงต้องมาเจอกับคนบ้าๆแบบนี้ด้วยเนี่ย

เมื่อกี้ตัวเองวู่วาม ทำไมถึงต้องพนันแบบนี้กับมันด้วยวะเนี่ย!

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

311