บทที่ 1 คุณป้า ฉันไม่คิดจะสู้ต่อไปอีกแล้ว
by จุ้ยชิงเฟิง
19:01,Nov 16,2023
“คุณป้า ฉันไม่คิดจะสู้ต่อไปอีกแล้ว...”
พอหลินฝานได้เรียบเรียงข้อความนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงกดส่งออกไปถึงผู้รับเป็นกลุ่ม
ในดวงตาของเขา ปรากฏขึ้นด้วยสีที่ซับซ้อนเข้มข้น
เป็นเวลาสามปีแล้ว
เพื่อตอบแทนบุญคูณ เขาได้หวนกลับออกมาจากโลกในด้านมืด มาอาศัยอยู่ในบ้านแม่ยายตระกูลไป๋เป็นเวลาสามปีเต็มๆ ในช่วงสามปีนี้ เขาต้องทนรับการเย้ยหยันและดูถูกจากคนรอบข้าง เพราะเขาไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจ ไม่มีงานทำ
ทำงานให้ตระกูลไป๋เหมือนวัวเหมือนควาย เบานิดก็ถูกด่าว่าเอา หนักหน่อยก็ถูกเฆี่ยนตี สำหรับหลินฝานซึ่งเคยผ่านการเป็นอดีตเยี่ยงจักรพรรดิในด้านมืดมาแล้วนั้น ถือว่าเขาทนมามากพอแล้วจริงๆ
และตอนนี้ เขาก็ได้ตัดสินใจอันยากลำบากนี้แล้วในที่สุด
ดิง! ดิง! ดิง!
ในจังหวะนี้ เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น
คุณป้าฝ่ายการค้าโรลิ่น "เสี่ยวฝาน ในที่สุดคุณป้าก็ได้รับข้อความของหนูนี้แล้วจนได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บ่อน้ำมันทั้ง 8 แห่งที่ตั้งอยู่ในเซอเบีย แอฟริกา ภายใต้บริษัทในเครือโกลบอลกรู๊พนั้นจะถูกถ่ายโอนไปเป็นชื่อส่วนตัวของหนู นอกจากนี้ โกลบอลกรู๊พ จะมอบ 51% ของหุ้นให้เป็นชื่อของหนูโดยไม่คิดมูลค่าอีกด้วย
หนูจะขึ้นเป็นประธานคนใหม่และเป็นผู้ถือหุ้นที่แท้จริงของโกลบอลกรู๊พ ทรัพย์สมบัติและบุคลากรทั้งหมดของ โกลบอลกรู๊พ ที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตหัวเซี่ย จะอยู่ในอำนาจการควบคุมดูแลด้วยดุลยพินิจของหนูเต็มที่ โดยไม่ต้องรายงานให้กลุ่มทราบ "
ป้าโรสอันเดอร์กราวด์: "ฝาน ในที่สุดหนูก็ได้ตัดสินใจนี่แล้ว! นรกโลหิตของเรากำลังรอราชาอย่างหนูกลับมา เรารอมานานมากแล้ว ฉันจะแจ้งสาขาชาวจีนทันที และหนูจะได้เป็นราชาแห่งชาวจีนใต้พิภพ!"
ป้าหนี่หวงในโลกแห่งการทหาร: "เด็กน้อย ในที่สุดเจ้าก็รู้แจ้งแถลงไขแล้วสักที! ไปเป็นลูกเขยอาศัยบ้านแม่ยายอยู่ได้ มาที่นี่เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามในโลกแห่งการทหารจะดีกว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กรมการทหารชาวจีนจะมอบตำแหน่งที่นั่งทหารชาวจีนให้หนู! นับแต่บัดนี้ไป หนูจะเป็นท่านหลิน ในโลกแห่งการทหารชาวจีนนี้
"... ..."
เนื้อหาของข้อมูลเหล่านี้น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง แต่หลังจากที่หลินฝานได้อ่านแล้ว เขาก็แค่พยักหน้าโดยไม่แสดงความแปลกใจหรือตื่นเต้นแต่อย่างใด
ตรงกันข้าม ในดวงตาของเขากลับมีร่องรอยของความสับสนยิ่งนัก:
“สามปีแล้ว เดิมทีฉันแค่อยากจะตอบแทนเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ช่วยชีวิตเขาด้วยซาลาเปามาหนึ่งใบ! แต่ว่าความโหดร้ายของความเป็นจริง และความเสแสร้งของผู้คนทำให้ฉันต้องกลับมาเป็นจักรพรรดิในด้านมืดอีกครั้ง!”
หุ!
หลินฝานพ่นควันเป็นวงแหวนเบา ๆ ขณะวนเวียนอยู่นั้น รูปหัวกะโหลกก็ก่อตัวขึ้นในควัน และค่อยๆ จางหายไป
มันทำให้หลินฝานในขณะนี้ดูลึกลับและแปลกประหลาดอย่างมาก
และแล้วในขณะนี้
ขณะที่ก้นบุหรี่ในมือของเขาถูกทิ้งลงบนพื้น ก็มีเสียงตะโกนสาปแช่งลอยมาจากในวิลล่าข้างหลังของเขา:
“หลินฝาน เจ้าไปตายอยู่ที่ไหนวะ รีบมาช่วยเอาน้ำล้างเท้านี้ไปเททิ้งให้ที!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เข้า ร่างกายของหลินฝานก็แข็งทื่อ และรอยยิ้มจอมทะเล้นก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากมุมปากของเขา
ขณะนั้น เขาเหยียบก้นบุหรี่ให้ดับด้วยท่าทางเย็นชา และเดินช้าๆ เข้าไปในวิลล่า
ทันใดนั้นเขาเห็นแม่ยาย สื่นยู่เหมย ของเขาและไป๋อี้ ภรรยาของเขานั่งอยู่บนโซฟา หลังจากแช่เท้าเสร็จแล้ว
เมื่อเห็นหลินฝานเดินเข้ามา แม่ยายสื่นยู่เหมย รู้สึกราวกับว่าเธอเห็นหนูหรือแมว ขนลุกสู้ทั้งตัว ทั้งโกรธและด่าทอว่า:
"หึ! เจ้านี้ช่างไร้ประโยชน์ เจ้ายังขี้เกียจแอบออกไปข้างนอก ไม่ถูพื้น ไม่ซักผ้า ตระกูลไป๋ของเราเลี้ยงเจ้าให้กินด้วยอะไรนี่"
“เร็ว รีบเอาน้ำล้างเท้าของแม่เองไปเททิ้งเสียที!”
สำหรับหลินฝาน เขาคุ้นเคยกับท่าทีที่หยาบคายรุนแรงของแม่ยายสื่นยู่เหมยอยู่แล้ว ใบหน้าของเขาสุขุมอย่างน่าประหลาดใจ เขายกน้ำ 2 อ่างขึ้นมาและกำลังจะเดินไปที่ห้องน้ำ
ไร้ประโยชน์!
ขี้ขลาด!
เมื่อเห็นท่าทางของสามี ไป๋อี้ ภรรยาของเขารู้สึกทนดูไม่ได้ เธอคิดจะช่วยหลินฝานโต้ตอบอะไรบางอย่าง
แต่ก่อนที่คำพูดจะออกมาจากปาก จู่ๆ ข่าวรายการหนึ่งก็ดังขึ้นมาในทีวี
“ขณะนี้จะขอประกาศออกอากาศข่าวสำคัญ:
ตามข่าวล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา บริษัทเครือโกลบอลกรู๊พ ซึ่งควบคุม 70% ของเศรษฐกิจโลกได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าแหล่งน้ำมันทั้ง 8 แห่งที่ได้ซื้อมาจากเซอเบีย แอฟริกาเมื่อเดือนที่ผ่านมา จะถูกถ่ายโอนไปยังเยาวชนชาวจีนคนหนึ่งโดยไม่คิดมูลค่า
นอกจากนี้ 51% ของหุ้นของบริษัทยังมอบให้กับเยาวชนชาวจีนหัวเซี่ยคนนี้เช่นเดียวกันโดยไม่คิดมูลค่าด้วย "
โอ้โห!
หลังจากเห็นข่าวนี้ออกอากาศ ไม่ว่าจะแม่ยายสื่นยู่เหมย หรือตัวภรรยาไป๋อี้ ต่างก็หายใจเข้าทรวงอกอย่างลึก ๆ
แหล่งน้ำมันแปดแห่ง?
นั่นมีมูลค่าตั้งหลายหมื่นล้านเชียว
และที่น่ากลัวที่สุดคือสัดส่วนหุ้น 51% ของบริษัทเครือโกลบอลกรู๊พนั่น คงประเมินด้วยเงินตราไม่ได้อย่างแน่นอน
แม้แต่ในโลกทั้งใบ ก็ยังต้องถือเป็นระดับซูเปอร์บอสอย่างแน่แท้
แม่ยายสื่นยู่เหมย และไป๋อี้ ภรรยาคงนึกไม่ถึงว่าคนหนุ่มชาวจีนประเภทไหนกันแน่ ที่สามารถรับทรัพย์สมบัติมากมายนี้ได้มาฟรี ๆ มันเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
"ข่าวสำคัญ: กองบัญชาการทหารชาวจีน ได้จัดงานแถลงข่าว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะมีการเพิ่มบุคลากรในที่นั่งทหาร! ชื่อ ท่านหลิน และจากนี้ไป การทหารชาวจีนพวกเรา จะมีที่นั่งรวมเป็น 4 ที่นั่ง!"
อะไร!
ข่าวนี้สร้างความตกอกตกใจให้กับแม่ลูกสื่นยู่เหมย อีกครั้ง
ตำแหน่งทางที่นั่งทหารเป็นยศนายพลที่สูงเกียรติที่สุดในประวัติศาสตร์ของการทหารชาวจีน ทุกนายล้วนมีความสามารถสู้รบกับผู้คนนับหมื่น นำทัพรวมพลเป็นหนึ่ง ต่อต้านศัตรูที่ทรงพลังจากภายนอก เขายังเป็นไอดอลเช่นเทพเจ้าอยู่ในหัวใจของชาวจีนทุกคนอีกด้วย
แต่ตอนนี้ มีคนเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของ ท่านหลิน คนนั้น
ณ เวลานี้
ใบหน้าของแม่ยายสื่นยู่เหมย เต็มไปด้วยแรงอิจฉาริษยาที่แผ่กระจายออกมา
"อย่างแรกได้เข้าควบคุมกลุ่มบริษัททางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโกลบอลกรู๊พ และได้กลายเป็นเจ้าโลกคนใหม่! อีกอย่างได้เป็นผู้นำทางทหารรุ่นใหม่ ได้ครอบครองทั้งที่ดิน และยังได้รับความเคารพจากผู้คนนับพัน! มันจะไม่เเย่เช่นนี้ หากคนนั้นไม่ใช่หลินจั่ว และลูกเขยที่ไร้ค่าของฉันก็แซ่หลิน แต่เขาดันเป็นแค่คนขี้แพ้ที่ไม่เอาไหน หากเอาเขาไปเปรียบเทียบกับใครต่อใคร คงจะต้องโมโหตายไปข้าง...”
ในขณะที่พูด ดวงตาของแม่ยายสื่นยู่เหมย ก็จ้องราวกับจะเอาชีวิตไปที่หลินฝานที่กำลังถือน้ำล้างเท้าอยู่ ด้วยความเดือดดาลของเธอก็ยิ่งทำให้ความโกรธแสดงชัดบนใบหน้าขึ้นเรื่อยๆ
“ฮึ่ม! หลินฝาน ดูสิ! เจ้าก็คนเหมือนกัน แซ่เดียวกัน แล้วเจ้าเป็นคนแบบไหนกัน ทำตัวเป็นเศษสวะ! วันๆดีแต่กินแล้วก็นอน ทำตัวเกียจคร้านไม่เอาถ่าน ทำได้แต่รอความตาย ไม่มีประโยชน์อะไรต่อตระกูลไป๋ของฉันสักนิด!”
คำพูดของสื่นยู่เหยมรุนแรงมาก
เมื่อหลินฝานได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากทั้งหมดนั้นแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกโกรธ แต่กลับมีรอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นที่มุมปาก
เขารอคอย หากว่ามีวันหนึ่ง
แม่ยายของตัวเองได้รู้ว่า หลินจั่วที่พูดอยู่ในปากว่าเขารวยหนักรวยหนาคือลูกเขย อยากรู้จริงๆว่าจะทำหน้ายังไง
ตอนนี้!
หลินฝานยิ้มเบาๆ และส่ายหัว จากนั้นเดินไปยังห้องน้ำโดยมีน้ำล้างเท้าอยู่ในมือ
เมื่อมองไปยังแผ่นหลังของหลินฝาน ใบหน้าที่สวยงามของไป๋อี้ แสดงความซับซ้อนและไม่พอใจออกมา
ถึงยังไงพวกเขาก็คือผู้ชายเหมือนกัน
หนุ่มชาวจีนคนนั้นได้ครอบครองโกลบอลกรู๊พยักษ์ใหญ่นั้นแล้ว และหลินจั่วยังทำให้หยานหวงเกรงกลัว จนได้นั่งบัญชาการหนึ่งในสี่กองทัพทหาร
แล้วหลินฝานล่ะ?
เขาก็ยังคงเป็นคนไม่เอาไหน ได้แต่พึ่งพาเธอที่เป็นภรรยา คอยเลี้ยงดูและรอวันตายเท่านั้น
ความแตกต่างระหว่างหนึ่งวันกับหนึ่งสถานที่ ช่างหาข้อเปรียบเทียบไม่ได้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้
ไป๋อี้รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากและตะโกนใส่หลินฝานด้วยความโกรธ:
“หลินฝาน รีบเทน้ำล้างเท้า ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วพาฉันไปงานเลี้ยงรุ่นได้แล้ว!"
งานเลี้ยงรุ่น?
หลินฝานตกใจเล็กน้อย ตั้งแต่แต่งงานมาได้สามปี นี้เป็นครั้งแรกที่ไป๋อี้ขอให้เขาพาไปงานเลี้ยง
"ได้สิ!"
หลินฝานพูดน้ำเสียงเรียบ
สามปี!
เดิมทีเขาต้องการใช้ตัวตนนี้เพื่อตอบแทนไป๋อี้ที่ช่วยชีวิตเขาไว้
แต่ผลที่ได้คือ เขานำความอัปยศอดสูและการเยาะเย้นจากคนอื่นมาสู่เธอ
และตอนนี้!
หลินฝานได้กลายเป็นเจ้าแห่งโลกอีกครั้ง เขาจะทำให้คนที่เคยหัวเราะเยาะเขา หัวเราะเยาะไป๋อี้ต้องหุบปาก ใครก็ตามที่ทำให้ไป๋อี้อับอายต้องคุกเข่าลงต่อหน้า
ในเวลาเดียวกัน หลินฝานได้เข้าไปในห้องน้ำ เพื่อเทน้ำล้างเท้าทิ้ง และเดินเข้าไปในห้องของเขา
ไม่นานเขาก็เปลี่ยนชุดลำลองแล้วออกมา
เมื่อไป๋อี้และสื่นยู่เหมยเห็นเสื้ผ้าของหลินฝาน สองแม่ลูกก็ขมวดคิ้วทันที
“หลินฝาน เจ้าตั้งใจทำให้ไป๋อี้อับอายงั้นหรอ? เสื้อผ้าพวกนี้มันตั้งแต่สามปีที่แล้ว ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว ถ้าเจ้าใส่มันออกไป ตระกูลไป๋ของฉันต้องเสียหน้าอย่างแน่นอน"
“ขยะชิ้นนี้ ช่างน่าขายหน้าเสียจริง!”
ใบหน้าของสื่นยู่เหมยแสดงถึงความรังเกียจ
แม้แต่ไป๋อี้ก็รู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ เธอขมวดคิ้ว และพูดขึ้นว่า:
“หลินฝาน ชุดนี้เก่าเกินไปแล้ว! ไปเปลี่ยนเป็นชุดใหม่เถอะ!”
หืม?
หลินฝานตกใจ เมื่อได้ยินคำบ่นของแม่และลูกสาว จากนั้นก็เหยียดแขนออกและพูดด้วยความสงสัย:
"ฉันคิดว่าชุดนี้เหมาะสมแล้ว! ชุดนี้ใส่สบายที่สุด และฉันก็ไม่ได้ใส่มากนัก เก็บไว้ใส่ในโอกาสสำคัญเท่านั้น!"
อะไรนะ?
คำพูดของหลินฝาน ทำให้สื่นยู่เหมยและไป๋อี้เดือดดาลมากยิ่งขึ้น
สมองของผู้ชายคนนี้ผิดปกติหรือไงกัน?
เขากล้าดียังไงมาบอกว่าเขาเก็บเสื้อผ้าเมื่อสามปีที่แล้ว ไว้ใส่แค่ในโอกาสสำคัญเท่านั้น?
ในขณะนี้ ไป๋อี้โกรธมากจนใบหน้าสวยของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง และเธอก็พูดด้วยความโกรธ:
“เอาเถอะ! จะใส่อะไรก็ใส่ไป! ถ้าไปขายหน้าต่อหน้าเพื่อนเก่าฉัน ก็อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน!"
หลังจากพูดจบ ไป๋อี้ก็ลุกขึ้นยืนด้วยควาทโกรธ เธอหยิบกระเป๋าและเดินออกไปข้างนอก
ขายหน้า?
หลินฝานแตะจมูกของเขาและยกมุมปากขึ้น
เสื้อผ้าชิ้นนี้เป็นผลงานที่ดีของแคทเธอรียน แปลเลน ดีไซเนอร์ชั่นนำของอิตาลี ซึ่งใช้เวลาสามปีในการทำเสื้อผ้าชิ้นนี้
ด้วยดีไซน์เฉพาะตัว เสื้อผ้าชิ้นนี้มีมูลค่าหลายร้อยล้าน
ในตอนแรก มีพวกเศรษฐีนับไม่ถ้วนที่ต้องการจะซื้อมัน จนกระทั่งพวกเขาได้รู้ว่าเสื้อผ้าชิ้นนี้เป็นของขวัญจากแคทเธอรีนถึงเขา พวกเขาทั้งหมดก็ได้ถอยกลับด้วยความกลัวและยอมแพ้ไป
ในขณะนั้น หลินฝานอดไม่ได้ที่ส่ายหัว และเดินตามไป๋อี้ไปที่ประตู:
“ตอนนี้เรากำลังจะไปไหน?”
"คลับเซิ่งซื่อ!” ไป๋อี้เดินออกไป โดยไม่มองหลินฝานด้วยซ้ำ
คลับเซิ่งซื่องั้นเหรอ?
หลินฝานสะดุ้ง ถ้าเขาจำไม่ผิด นี่น่าจะเป็นอุตสาหกรรมเล็กๆ ของหยานหวงในเครือโกลบอลกรู๊พใช่ไหม?
พอหลินฝานได้เรียบเรียงข้อความนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงกดส่งออกไปถึงผู้รับเป็นกลุ่ม
ในดวงตาของเขา ปรากฏขึ้นด้วยสีที่ซับซ้อนเข้มข้น
เป็นเวลาสามปีแล้ว
เพื่อตอบแทนบุญคูณ เขาได้หวนกลับออกมาจากโลกในด้านมืด มาอาศัยอยู่ในบ้านแม่ยายตระกูลไป๋เป็นเวลาสามปีเต็มๆ ในช่วงสามปีนี้ เขาต้องทนรับการเย้ยหยันและดูถูกจากคนรอบข้าง เพราะเขาไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจ ไม่มีงานทำ
ทำงานให้ตระกูลไป๋เหมือนวัวเหมือนควาย เบานิดก็ถูกด่าว่าเอา หนักหน่อยก็ถูกเฆี่ยนตี สำหรับหลินฝานซึ่งเคยผ่านการเป็นอดีตเยี่ยงจักรพรรดิในด้านมืดมาแล้วนั้น ถือว่าเขาทนมามากพอแล้วจริงๆ
และตอนนี้ เขาก็ได้ตัดสินใจอันยากลำบากนี้แล้วในที่สุด
ดิง! ดิง! ดิง!
ในจังหวะนี้ เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น
คุณป้าฝ่ายการค้าโรลิ่น "เสี่ยวฝาน ในที่สุดคุณป้าก็ได้รับข้อความของหนูนี้แล้วจนได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บ่อน้ำมันทั้ง 8 แห่งที่ตั้งอยู่ในเซอเบีย แอฟริกา ภายใต้บริษัทในเครือโกลบอลกรู๊พนั้นจะถูกถ่ายโอนไปเป็นชื่อส่วนตัวของหนู นอกจากนี้ โกลบอลกรู๊พ จะมอบ 51% ของหุ้นให้เป็นชื่อของหนูโดยไม่คิดมูลค่าอีกด้วย
หนูจะขึ้นเป็นประธานคนใหม่และเป็นผู้ถือหุ้นที่แท้จริงของโกลบอลกรู๊พ ทรัพย์สมบัติและบุคลากรทั้งหมดของ โกลบอลกรู๊พ ที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตหัวเซี่ย จะอยู่ในอำนาจการควบคุมดูแลด้วยดุลยพินิจของหนูเต็มที่ โดยไม่ต้องรายงานให้กลุ่มทราบ "
ป้าโรสอันเดอร์กราวด์: "ฝาน ในที่สุดหนูก็ได้ตัดสินใจนี่แล้ว! นรกโลหิตของเรากำลังรอราชาอย่างหนูกลับมา เรารอมานานมากแล้ว ฉันจะแจ้งสาขาชาวจีนทันที และหนูจะได้เป็นราชาแห่งชาวจีนใต้พิภพ!"
ป้าหนี่หวงในโลกแห่งการทหาร: "เด็กน้อย ในที่สุดเจ้าก็รู้แจ้งแถลงไขแล้วสักที! ไปเป็นลูกเขยอาศัยบ้านแม่ยายอยู่ได้ มาที่นี่เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามในโลกแห่งการทหารจะดีกว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กรมการทหารชาวจีนจะมอบตำแหน่งที่นั่งทหารชาวจีนให้หนู! นับแต่บัดนี้ไป หนูจะเป็นท่านหลิน ในโลกแห่งการทหารชาวจีนนี้
"... ..."
เนื้อหาของข้อมูลเหล่านี้น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง แต่หลังจากที่หลินฝานได้อ่านแล้ว เขาก็แค่พยักหน้าโดยไม่แสดงความแปลกใจหรือตื่นเต้นแต่อย่างใด
ตรงกันข้าม ในดวงตาของเขากลับมีร่องรอยของความสับสนยิ่งนัก:
“สามปีแล้ว เดิมทีฉันแค่อยากจะตอบแทนเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ช่วยชีวิตเขาด้วยซาลาเปามาหนึ่งใบ! แต่ว่าความโหดร้ายของความเป็นจริง และความเสแสร้งของผู้คนทำให้ฉันต้องกลับมาเป็นจักรพรรดิในด้านมืดอีกครั้ง!”
หุ!
หลินฝานพ่นควันเป็นวงแหวนเบา ๆ ขณะวนเวียนอยู่นั้น รูปหัวกะโหลกก็ก่อตัวขึ้นในควัน และค่อยๆ จางหายไป
มันทำให้หลินฝานในขณะนี้ดูลึกลับและแปลกประหลาดอย่างมาก
และแล้วในขณะนี้
ขณะที่ก้นบุหรี่ในมือของเขาถูกทิ้งลงบนพื้น ก็มีเสียงตะโกนสาปแช่งลอยมาจากในวิลล่าข้างหลังของเขา:
“หลินฝาน เจ้าไปตายอยู่ที่ไหนวะ รีบมาช่วยเอาน้ำล้างเท้านี้ไปเททิ้งให้ที!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เข้า ร่างกายของหลินฝานก็แข็งทื่อ และรอยยิ้มจอมทะเล้นก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากมุมปากของเขา
ขณะนั้น เขาเหยียบก้นบุหรี่ให้ดับด้วยท่าทางเย็นชา และเดินช้าๆ เข้าไปในวิลล่า
ทันใดนั้นเขาเห็นแม่ยาย สื่นยู่เหมย ของเขาและไป๋อี้ ภรรยาของเขานั่งอยู่บนโซฟา หลังจากแช่เท้าเสร็จแล้ว
เมื่อเห็นหลินฝานเดินเข้ามา แม่ยายสื่นยู่เหมย รู้สึกราวกับว่าเธอเห็นหนูหรือแมว ขนลุกสู้ทั้งตัว ทั้งโกรธและด่าทอว่า:
"หึ! เจ้านี้ช่างไร้ประโยชน์ เจ้ายังขี้เกียจแอบออกไปข้างนอก ไม่ถูพื้น ไม่ซักผ้า ตระกูลไป๋ของเราเลี้ยงเจ้าให้กินด้วยอะไรนี่"
“เร็ว รีบเอาน้ำล้างเท้าของแม่เองไปเททิ้งเสียที!”
สำหรับหลินฝาน เขาคุ้นเคยกับท่าทีที่หยาบคายรุนแรงของแม่ยายสื่นยู่เหมยอยู่แล้ว ใบหน้าของเขาสุขุมอย่างน่าประหลาดใจ เขายกน้ำ 2 อ่างขึ้นมาและกำลังจะเดินไปที่ห้องน้ำ
ไร้ประโยชน์!
ขี้ขลาด!
เมื่อเห็นท่าทางของสามี ไป๋อี้ ภรรยาของเขารู้สึกทนดูไม่ได้ เธอคิดจะช่วยหลินฝานโต้ตอบอะไรบางอย่าง
แต่ก่อนที่คำพูดจะออกมาจากปาก จู่ๆ ข่าวรายการหนึ่งก็ดังขึ้นมาในทีวี
“ขณะนี้จะขอประกาศออกอากาศข่าวสำคัญ:
ตามข่าวล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา บริษัทเครือโกลบอลกรู๊พ ซึ่งควบคุม 70% ของเศรษฐกิจโลกได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าแหล่งน้ำมันทั้ง 8 แห่งที่ได้ซื้อมาจากเซอเบีย แอฟริกาเมื่อเดือนที่ผ่านมา จะถูกถ่ายโอนไปยังเยาวชนชาวจีนคนหนึ่งโดยไม่คิดมูลค่า
นอกจากนี้ 51% ของหุ้นของบริษัทยังมอบให้กับเยาวชนชาวจีนหัวเซี่ยคนนี้เช่นเดียวกันโดยไม่คิดมูลค่าด้วย "
โอ้โห!
หลังจากเห็นข่าวนี้ออกอากาศ ไม่ว่าจะแม่ยายสื่นยู่เหมย หรือตัวภรรยาไป๋อี้ ต่างก็หายใจเข้าทรวงอกอย่างลึก ๆ
แหล่งน้ำมันแปดแห่ง?
นั่นมีมูลค่าตั้งหลายหมื่นล้านเชียว
และที่น่ากลัวที่สุดคือสัดส่วนหุ้น 51% ของบริษัทเครือโกลบอลกรู๊พนั่น คงประเมินด้วยเงินตราไม่ได้อย่างแน่นอน
แม้แต่ในโลกทั้งใบ ก็ยังต้องถือเป็นระดับซูเปอร์บอสอย่างแน่แท้
แม่ยายสื่นยู่เหมย และไป๋อี้ ภรรยาคงนึกไม่ถึงว่าคนหนุ่มชาวจีนประเภทไหนกันแน่ ที่สามารถรับทรัพย์สมบัติมากมายนี้ได้มาฟรี ๆ มันเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
"ข่าวสำคัญ: กองบัญชาการทหารชาวจีน ได้จัดงานแถลงข่าว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะมีการเพิ่มบุคลากรในที่นั่งทหาร! ชื่อ ท่านหลิน และจากนี้ไป การทหารชาวจีนพวกเรา จะมีที่นั่งรวมเป็น 4 ที่นั่ง!"
อะไร!
ข่าวนี้สร้างความตกอกตกใจให้กับแม่ลูกสื่นยู่เหมย อีกครั้ง
ตำแหน่งทางที่นั่งทหารเป็นยศนายพลที่สูงเกียรติที่สุดในประวัติศาสตร์ของการทหารชาวจีน ทุกนายล้วนมีความสามารถสู้รบกับผู้คนนับหมื่น นำทัพรวมพลเป็นหนึ่ง ต่อต้านศัตรูที่ทรงพลังจากภายนอก เขายังเป็นไอดอลเช่นเทพเจ้าอยู่ในหัวใจของชาวจีนทุกคนอีกด้วย
แต่ตอนนี้ มีคนเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของ ท่านหลิน คนนั้น
ณ เวลานี้
ใบหน้าของแม่ยายสื่นยู่เหมย เต็มไปด้วยแรงอิจฉาริษยาที่แผ่กระจายออกมา
"อย่างแรกได้เข้าควบคุมกลุ่มบริษัททางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโกลบอลกรู๊พ และได้กลายเป็นเจ้าโลกคนใหม่! อีกอย่างได้เป็นผู้นำทางทหารรุ่นใหม่ ได้ครอบครองทั้งที่ดิน และยังได้รับความเคารพจากผู้คนนับพัน! มันจะไม่เเย่เช่นนี้ หากคนนั้นไม่ใช่หลินจั่ว และลูกเขยที่ไร้ค่าของฉันก็แซ่หลิน แต่เขาดันเป็นแค่คนขี้แพ้ที่ไม่เอาไหน หากเอาเขาไปเปรียบเทียบกับใครต่อใคร คงจะต้องโมโหตายไปข้าง...”
ในขณะที่พูด ดวงตาของแม่ยายสื่นยู่เหมย ก็จ้องราวกับจะเอาชีวิตไปที่หลินฝานที่กำลังถือน้ำล้างเท้าอยู่ ด้วยความเดือดดาลของเธอก็ยิ่งทำให้ความโกรธแสดงชัดบนใบหน้าขึ้นเรื่อยๆ
“ฮึ่ม! หลินฝาน ดูสิ! เจ้าก็คนเหมือนกัน แซ่เดียวกัน แล้วเจ้าเป็นคนแบบไหนกัน ทำตัวเป็นเศษสวะ! วันๆดีแต่กินแล้วก็นอน ทำตัวเกียจคร้านไม่เอาถ่าน ทำได้แต่รอความตาย ไม่มีประโยชน์อะไรต่อตระกูลไป๋ของฉันสักนิด!”
คำพูดของสื่นยู่เหยมรุนแรงมาก
เมื่อหลินฝานได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากทั้งหมดนั้นแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกโกรธ แต่กลับมีรอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นที่มุมปาก
เขารอคอย หากว่ามีวันหนึ่ง
แม่ยายของตัวเองได้รู้ว่า หลินจั่วที่พูดอยู่ในปากว่าเขารวยหนักรวยหนาคือลูกเขย อยากรู้จริงๆว่าจะทำหน้ายังไง
ตอนนี้!
หลินฝานยิ้มเบาๆ และส่ายหัว จากนั้นเดินไปยังห้องน้ำโดยมีน้ำล้างเท้าอยู่ในมือ
เมื่อมองไปยังแผ่นหลังของหลินฝาน ใบหน้าที่สวยงามของไป๋อี้ แสดงความซับซ้อนและไม่พอใจออกมา
ถึงยังไงพวกเขาก็คือผู้ชายเหมือนกัน
หนุ่มชาวจีนคนนั้นได้ครอบครองโกลบอลกรู๊พยักษ์ใหญ่นั้นแล้ว และหลินจั่วยังทำให้หยานหวงเกรงกลัว จนได้นั่งบัญชาการหนึ่งในสี่กองทัพทหาร
แล้วหลินฝานล่ะ?
เขาก็ยังคงเป็นคนไม่เอาไหน ได้แต่พึ่งพาเธอที่เป็นภรรยา คอยเลี้ยงดูและรอวันตายเท่านั้น
ความแตกต่างระหว่างหนึ่งวันกับหนึ่งสถานที่ ช่างหาข้อเปรียบเทียบไม่ได้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้
ไป๋อี้รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากและตะโกนใส่หลินฝานด้วยความโกรธ:
“หลินฝาน รีบเทน้ำล้างเท้า ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วพาฉันไปงานเลี้ยงรุ่นได้แล้ว!"
งานเลี้ยงรุ่น?
หลินฝานตกใจเล็กน้อย ตั้งแต่แต่งงานมาได้สามปี นี้เป็นครั้งแรกที่ไป๋อี้ขอให้เขาพาไปงานเลี้ยง
"ได้สิ!"
หลินฝานพูดน้ำเสียงเรียบ
สามปี!
เดิมทีเขาต้องการใช้ตัวตนนี้เพื่อตอบแทนไป๋อี้ที่ช่วยชีวิตเขาไว้
แต่ผลที่ได้คือ เขานำความอัปยศอดสูและการเยาะเย้นจากคนอื่นมาสู่เธอ
และตอนนี้!
หลินฝานได้กลายเป็นเจ้าแห่งโลกอีกครั้ง เขาจะทำให้คนที่เคยหัวเราะเยาะเขา หัวเราะเยาะไป๋อี้ต้องหุบปาก ใครก็ตามที่ทำให้ไป๋อี้อับอายต้องคุกเข่าลงต่อหน้า
ในเวลาเดียวกัน หลินฝานได้เข้าไปในห้องน้ำ เพื่อเทน้ำล้างเท้าทิ้ง และเดินเข้าไปในห้องของเขา
ไม่นานเขาก็เปลี่ยนชุดลำลองแล้วออกมา
เมื่อไป๋อี้และสื่นยู่เหมยเห็นเสื้ผ้าของหลินฝาน สองแม่ลูกก็ขมวดคิ้วทันที
“หลินฝาน เจ้าตั้งใจทำให้ไป๋อี้อับอายงั้นหรอ? เสื้อผ้าพวกนี้มันตั้งแต่สามปีที่แล้ว ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว ถ้าเจ้าใส่มันออกไป ตระกูลไป๋ของฉันต้องเสียหน้าอย่างแน่นอน"
“ขยะชิ้นนี้ ช่างน่าขายหน้าเสียจริง!”
ใบหน้าของสื่นยู่เหมยแสดงถึงความรังเกียจ
แม้แต่ไป๋อี้ก็รู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ เธอขมวดคิ้ว และพูดขึ้นว่า:
“หลินฝาน ชุดนี้เก่าเกินไปแล้ว! ไปเปลี่ยนเป็นชุดใหม่เถอะ!”
หืม?
หลินฝานตกใจ เมื่อได้ยินคำบ่นของแม่และลูกสาว จากนั้นก็เหยียดแขนออกและพูดด้วยความสงสัย:
"ฉันคิดว่าชุดนี้เหมาะสมแล้ว! ชุดนี้ใส่สบายที่สุด และฉันก็ไม่ได้ใส่มากนัก เก็บไว้ใส่ในโอกาสสำคัญเท่านั้น!"
อะไรนะ?
คำพูดของหลินฝาน ทำให้สื่นยู่เหมยและไป๋อี้เดือดดาลมากยิ่งขึ้น
สมองของผู้ชายคนนี้ผิดปกติหรือไงกัน?
เขากล้าดียังไงมาบอกว่าเขาเก็บเสื้อผ้าเมื่อสามปีที่แล้ว ไว้ใส่แค่ในโอกาสสำคัญเท่านั้น?
ในขณะนี้ ไป๋อี้โกรธมากจนใบหน้าสวยของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง และเธอก็พูดด้วยความโกรธ:
“เอาเถอะ! จะใส่อะไรก็ใส่ไป! ถ้าไปขายหน้าต่อหน้าเพื่อนเก่าฉัน ก็อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน!"
หลังจากพูดจบ ไป๋อี้ก็ลุกขึ้นยืนด้วยควาทโกรธ เธอหยิบกระเป๋าและเดินออกไปข้างนอก
ขายหน้า?
หลินฝานแตะจมูกของเขาและยกมุมปากขึ้น
เสื้อผ้าชิ้นนี้เป็นผลงานที่ดีของแคทเธอรียน แปลเลน ดีไซเนอร์ชั่นนำของอิตาลี ซึ่งใช้เวลาสามปีในการทำเสื้อผ้าชิ้นนี้
ด้วยดีไซน์เฉพาะตัว เสื้อผ้าชิ้นนี้มีมูลค่าหลายร้อยล้าน
ในตอนแรก มีพวกเศรษฐีนับไม่ถ้วนที่ต้องการจะซื้อมัน จนกระทั่งพวกเขาได้รู้ว่าเสื้อผ้าชิ้นนี้เป็นของขวัญจากแคทเธอรีนถึงเขา พวกเขาทั้งหมดก็ได้ถอยกลับด้วยความกลัวและยอมแพ้ไป
ในขณะนั้น หลินฝานอดไม่ได้ที่ส่ายหัว และเดินตามไป๋อี้ไปที่ประตู:
“ตอนนี้เรากำลังจะไปไหน?”
"คลับเซิ่งซื่อ!” ไป๋อี้เดินออกไป โดยไม่มองหลินฝานด้วยซ้ำ
คลับเซิ่งซื่องั้นเหรอ?
หลินฝานสะดุ้ง ถ้าเขาจำไม่ผิด นี่น่าจะเป็นอุตสาหกรรมเล็กๆ ของหยานหวงในเครือโกลบอลกรู๊พใช่ไหม?
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved