บทที่ 2 บุญคุณสำหรับหมั่นโถวหนึ่งลูก
by จุ้ยชิงเฟิง
19:01,Nov 16,2023
ภายในโรงรถตระกูลไป๋มีรถทั้งหมด 3 คัน
รถเบนซ์ S600 หนึ่งคัน รถมาเซราติหนึ่งคัน และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันเก่าที่หลินฝานขับไปซื้อกับข้าวหนึ่งคัน
ในเวลาปกติ ไป๋อีที่เป็นประธานสาวสวยคนหนึ่งออกจากบ้านเคยชินกับการขับรถเบนซ์ S600 ไม่สูงส่งแต่มีความนัยแฝง
แต่ว่า ขณะที่ไป๋อีกำลังเปิดประตูรถแล้วจะนั่งลงไปยังตำแหน่งคนขับนี่เอง ก็มีมือใหญ่มาขวางไว้ก่อน
หือ?
ไป๋อีอึ้งไป และมองหลินฝานอย่างมีคำถาม
“วันนี้ให้ผมขับเถอะ!” หลินฝานยิ้มจางๆ แล้วไปนั่งตำแหน่งคนขับท่ามกลางสายตาแปลกใจของไป๋อี
“นายขับรถเป็นเหรอ?” ไป๋อีตะลึงงัน
นับตั้งแต่พวกเขาแต่งงานมา 3 ปี เธอยังไม่เคยเห็นหลินฝานขับรถเลย ปกติออกจากบ้านหมอนี่ขับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแทบทั้งสิ้น
ถึงขั้นใบขับขี่ของหลินฝาน เธอก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
เอ่อ……
“อีกเดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง!” หลินฝานไม่ได้อธิบายอะไร ยิ้มน้อยๆให้ แล้วรัดเข็มขัด
เห็นภาพตรงหน้านี้แล้ว แม้ในใจไป๋อียังคงสงสัย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร หันไปนั่งตำแหน่งข้างคนขับ
ไม่รู้เพราะอะไร!
วินาทีนี้ไป๋อีพบว่าหลินฝานเหมือนจะเปลี่ยนไปมาก
เห็นได้ชัดว่าหลินฝานก่อนหน้านี้ได้แต่ก้มหน้ารับปากทำ ขี้ขลาดตาขาว แต่หลินฝานในตอนนี้ยกมุมปากประดับรอยยิ้มแห่งความมั่นใจออกมา ราวกับทุกสรรพสิ่งล้วนอยู่ในการควบคุมของเขา
ว่ากันว่าผู้ชายที่มีความมั่นใจหล่อเหลาที่สุด และขณะนี้ในสายตาไป๋อี หลินฝานในด้านนี้ของเขา ที่จริงก็……เริ่มหล่อขึ้นมาบ้างจริงๆ
เมื่อประตูปิด!
สิ่งที่ทำให้ไป๋อีแปลกใจคือ หลินฝานกลับไม่ได้สตาร์ทรถ แต่ในดวงตาดำของเขาปรากฏความทรงจำที่คิดถึงและความโศกเศร้าที่อธิบายไม่ถูก
“ไป๋อี คุณยังจำร้านซาลาเปาหมั่นโถวไป๋จี้ได้ไหม?”
หือ?
ไป๋อีอึ้งไป
เธอต้องจำได้สิ ตอนเธอยังเด็ก พ่อแม่กับปู่ไม่ลงรอยกัน ครอบครัวพวกเขาสามคนถูกคุณปู่ขับไสไล่ส่งออกไปจากตระกูลไป๋ จึงได้แต่อาศัยเปิดร้านซาลาเปาหมั่นโถวข้างทางประทังชีวิต เธอจะลืมได้ยังไง
แต่ว่าเธอไม่เข้าใจว่าทำไมหลินฝานถึงเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
เห็นท่าทางของไป๋อี ในสมองของหลินฝานก็อดนึกถึงภาพความทรงจำของสาวน้อยที่ไว้หางม้าและน้ำมูกไหล
นั่นคือตอน 10 ปีก่อน
ในตอนที่เขาอายุ 13 ปี อาจารย์ปีศาจคนนั้นออกป้ายคำสั่งให้เขาไปสังหาร ติดตามผู้นำชั่วร้ายโหดเหี้ยมขององค์กรลึกลับที่มาถึงในดินแดนเหยียนหวงหรือประเทศจีน
ศึกในครั้งนั้น!
หลินฝานสามารถโจมตีสังหารนักฆ่ามือฉมังระดับสูง 32 คนจากองค์กรลึกลับจนตาย ท้ายที่สุดในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับผู้นำชั่วร้ายคนนั้น แม้ว่าจะฆ่าฝ่ายตรงข้ามจนตายสำเร็จ แต่ตัวเขาเองกลับบาดเจ็บร้ายแรง อันตรายถึงชีวิต
ตอนนั้นยังเป็นเวลาช่วงเช้าตรู่
บนย่านถนนเมืองเจียงอันเย็นเยียบเหน็บหนาว ไม่มีใครสักคน มีเพียงร้านซาลาเปาหมั่นโถวร้านหนึ่งที่มีแสงไฟสว่างอยู่
นาทีนั้นหลินฝานคลานมาตามทางอยากจะออกไปจากเมือง
เลือดสดๆแดงฉานทำให้เกิดรอยเลือดที่ยาวเป็นสายบนพื้นดินของถนน เขาคิดว่าตัวเองจะต้องตายแล้วจริงๆ
ความหิวกระหาย เจ็บปวด อ่อนล้า กำลังทำลายสติของเขาอย่างต่อเนื่อง
แต่ในตอนที่เขาแทบจะยืนหยัดไม่ไหวแล้ว เด็กสาวคนหนึ่งก็ปรากฏตัวตรงหน้าเขา
นั่นก็คือไป๋อี!
“พี่ชาย พี่หิวแล้วเหรอ? ให้ค่ะ นี่เป็นหมั่นโถวลูกใหญ่ที่เพิ่งออกจากเตาจากบ้านหนู่ค่ะ พี่กินเลย!”
หลินฝานจำได้ขึ้นใจ รอยยิ้มของไป๋อีที่งดงามอ่อนหวานเช่นนี้ราวกับลูกอมหนึ่งเม็ดที่หวานไปถึงกระดูก
ก็เพราะหมั่นโถวลูกนั้น ทำให้หลินฝานตัวน้อยมีแรงกลับมาเล็กน้อย ได้มีชีวิตรอดในช่วงหมดหนทางอย่างมหัศจรรย์
เขาออกจากประเทศจีน!
ทำภารกิจสุดท้ายของอาจารย์สำเร็จลุล่วง ด้วยอายุเพียง 13 ปี จึงกลายเป็นราชาคนใหม่แห่งโลกมืดทั่วโลก!
แต่ว่า!
ไม่ว่าเขาจะมีอำนาจมากมายในต่างประเทศ อุปสรรคใดก็สามารถฝ่าฟันไปได้ กลับยังคงไม่ลืมเลือนไป๋อีตัวน้อย ไม่ลืมเลือนหมั่นโถวเปื้อนเลือดลูกนั้น
“หลินฝาน นายเป็นอะไรไป?” ไป๋อีขมวดคิ้วงามในช่วงเวลานี้
เธอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดอาลัยอาวรณ์คิดถึงที่แผ่ออกมาจากตัวหลินฝาน กลิ่นอายปริศนานั้นทำให้เธอถึงกับสงสัยคนตรงหน้านี้ว่ายังคงเป็นสามีไร้ค่าที่ใช้ชีวิตร่วมกับเธอตลอด 3 ปีมานี้หรือไม่
“ไม่มีอะไร พวกเราไปกันเถอะ!”
หลินฝานหายใจเข้าลึกๆ ล็อกภาพอดีตในสมองไว้แน่น จากนั้นก็สตาร์ทรถแล้วขับออกจากบ้านตระกูลไป๋
บนท้องถนนมีรถทยอยสัญจรไปมาไม่ขาดสาย
แต่ไป๋อีค้นพบว่าทักษะการขับรถของหลินฝานมีความชำนาญสุดๆ ไม่เพียงรถยนต์ทั้งคันไม่โคลงเคลงไม่สั่นสักนิด แม้แต่ความเร็วรถยังเร็วมาก ขับแซงผ่านรถที่ไหลไปไม่หยุดหย่อน
ความแปลกใจในดวงตาของไป๋อีมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
เธอเพิ่งจะเข้าใจว่าสามีที่ไร้ค่าคนนี้ของเธอที่แท้ก็ไม่ได้ไม่มีอะไรดีสักอย่าง
แค่!
เธอไม่รู้เลยสักนิดว่ารถเบนซ์ที่หลินฝานขับ ไม่เพียงนิ่งและรวดเร็ว หลบได้แม้แต่กล้องวงจรไปทีละกล้องทีละกล้องแล้ว
ทุกครั้งที่เข้าสู่ภายในขอบเขตกล้องวงจร!
ป้ายทะเบียนรถเบนซ์ไม่ก็ถูกรถคันหน้าบังเอาไว้ ไม่ก็ถูกคันหลังบังเอาไว้ หรือก็คือเข้ามุมอับของกล้องทั้งสิ้น
ความสามารถส่วนบุคคล!
นี่ก็คือความสามารถส่วนตัวของหลินฝาน ในสามปีมานี้ที่เขาไม่เคยขับรถยนต์มาก่อนก็เพราะว่าปกปิดความสามารถส่วนตัวของเขามาโดยตลอด
แต่ตอนนี้ หลินฝานแค่คิด ก็ในโลกแห่งนี้ล้วนไม่มีกล้องใดๆสามารถถ่ายภาพเขาได้แม้แต่กล้องเดียว
รถเบนซ์แล่นไปด้วยความเร็วท่ามกลางความประหลาดใจของไป๋อี
แต่ว่า!
เมื่อพวกเขาเพิ่งจะหยุดรถที่ไฟแดงทางแยก ในช่วงเวลาที่ไป๋อีกำลังจะเปิดปากถามเรื่องที่หลินฝานไปเรียนขับรถเมื่อไหร่นี้เอง
หูของหลินฝานสั่น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“ระวัง!”
ขณะพูดออกมา!
หลินฝานก็หันพวงมาลัยไปอย่างรวดเร็วจนรถเบนซ์ทั้งคันเกิดเสียงดังเอี๊ยด และแทบในเวลาชั่วอึดใจก็ทะยานไปสู่เลนด้านข้างแล้ว
ในเวลาเดียวนี้!
บึ้น!
แลมโบกินี่คันด้านหลังส่งเสียงดั่งเสียงร้องของสัตว์ป่า พุ่งมาถึงตำแหน่งเดิมที่รถเบนซ์จอดอย่างเร็วและรุนแรงจนเกิดรอบล้อรถเป็นเส้นยาว
อันตรายมาก!
ห่างเพียงสองสามวินาทีเท่านั้น
หากหลินฝานตอบสนองช้ากว่านี้ไปนิดเดียว พวกเขาคงต้องถูกรถแลมโบกินี่คันนั้นชนเข้าอย่างจังแน่
ด้วยแรงพุ่งที่น่าหวาดเสียวของแลมโบกินี่ รถเบนซ์และคนในรถสองคนคงถูกบดเป็นเนื้อ
แต่ในเมื่อเป็นอย่างนี้!
ไป๋อีก็โดนเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ทำเอาตกใจจนหน้าซีดเซียวราวสีกระดาษ เหงื่อเย็นไหลออกมา
ยังไม่หมดแค่นี้
สิ่งที่ทำให้หลินฝานหน้าเปลี่ยนเป็นเหยเกยิ่งกว่าคือแลมโบกินี่คันนั้นมีชายหนุ่มสองคนนั้นอยู่ ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าไม่ชนรถเบนซ์จึงเผยใบหน้าประหลาดใจมากออกมา
ถัดมาทั้งสองคนนั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาให้ทางรถเบนซ์
“โย่ว! นี่ไม่ใช่ไป๋อีประธานคนสวยอันดับหนึ่งในเมืองเจียงเหรอ? เป็นไง? ลงมาเล่นเป็นเพื่อนกับพวกพี่มา!”
“ใช่สิ จิจิ ไม่เสียแรงที่เป็นประธานคนสวยอันดับหนึ่งในเมืองเจียง แม้แต่ใต้ตาก็โคตรสวย! มาเถอะ พวกพี่สองคนจะรับใช้หนูอย่างดี รับรองว่าหนูจะรู้สึกสบาย!”
พูดจาหยาบโลน!
ขณะนี้ ชายหนุ่มวัยรุ่นสองคนจ้องมองไป๋อีที่อยู่ภายในรถเบนซ์ด้วยสีหน้าที่ชั่วร้ายและลามกอนาจาร
“สวีจื๋อเหิง! จางเทียน!”
ส่วนด้านไป๋อีหลังจากที่เห็นวัยรุ่นทั้งสองคนนี้ก็ใบหน้าขาวซีดไปในทันที
เธอรู้ดีว่าสวีจื๋อเหิงเป็นถึงคุณชายใหญ่แห่งบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปที่เป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่ในสามอันดับของเมืองเจียง เป็นลูกหลานไฮโซรุ่นที่สองของตระกูลเจ้าชู้เสเพล
ส่วนจางเทียน ก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของประธานกรรมการบริหารที่มีอำนาจล้นฟ้าในเมืองเจียง
ทั้งสองคนนี้ถูกเรียกว่าเป็นสองพี่น้องเสเพลแห่งเมืองเจียง
ก่อนหน้านี้ พวกเขาสองคนตามจีบเธออย่างลำบากลำบน กลับถูกเธอปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า กลับคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอที่นี่
ไม่เพียงเท่านี้
สายตาสวีจื๋อเหิงหันมองไปยังหลินฝานที่นั่งตำแหน่งคนขับ ก็อดอึ้งเล็กน้อยไม่ได้ ถัดมาก็เผยยิ้มดูแคลนปรากฏออกมาบนใบหน้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า……ไป๋อี คนนี้ก็คือสามีไร้ค่าของคุณสินะ? ยี๋ ได้ข่าวว่าไม่มีความสามารถอะไรสักอย่าง คิดไม่ถึงว่าจะขับรถเป็น ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ ฮ่าฮ่า……”
ในคำพูดของสวีจื๋อเหิงเต็มไปด้วยความเสียดสีเหน็บแนม
ส่วนด้านจางเทียนก็ส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
“ไป๋อี ตกลงคุณชอบเขาที่ตรงไหนกัน? ไม่มีงานทำ ไม่หล่อ ไม่มีความสามารถ! หรือว่าเขาจะใหญ่และทักษะดี? ฮ่าฮ่า……”
ภายในดวงตาของคุณชายใหญ่ทั้งสองเปี่ยมไปด้วยความอิจฉาริษยาและดูถูกเหยียดหยาม
ในสายตาของพวกเขา เทพธิดาดั่งไป๋อี มีเพียงไฮโซอย่างพวกตนเองที่เหมาะสม แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไป๋อีที่เป็นดั่งดอกไม้สดช่อนี้ปักอยู่บนมูลวัวอย่างหลินฝานซะแล้ว
ได้ยินคำพูดสบประมาทแต่ละประโยคแล้ว ดวงตาจองหลินฝานมีประกายเย็นยะเยียบคมกริบปรากฏและหายไป
ไม่ทันให้เขาพูดขึ้น ไป๋อีที่อยู่ด้านข้างก็รีบกล่าวเตือนหลินฝานทันที
“หลินฝาน รีบไป! ไม่ต้องสนใจพวกเขา!”
ไป๋อีหน้าซีดเซียวและเต็มไปด้วยความกังวลบนสีหน้า
เห็นได้ชัดว่าล่วงเกินคุณชายชั่วสองคนนี้ไม่ไหว
เห็นอย่างนี้ หลินฝานจึงได้แต่พยักหน้า กำลังเห็นว่าไฟเขียวแล้วก็เหยียบคันเร่งในชั่วพริบตา รถเบนซ์ถึงพุ่งทะยานขับออกไปข้างหน้า
ทว่าพวกเขาคิดที่จะไป แต่สวีจื๋อเหิงกับจางเทียนในรถแลมโบกินี่จะยอมเลิกลาได้ยังไงกันล่ะ
“เอ๋? อยู่ต่อหน้าข้าแล้วยังคิดจะหนีรึ? โง่เง่า!”
เพิ่งสิ้นเสียง!
สวีจื๋อเหิงยิ้มเยาะขึ้น จากนั้นเหยียบคันเร่งทันที แลมโบกินี่ราวกับลูกศรออกจากคันธนูอย่างไรอย่างนั้น ส่งเสียงดังกระหึ่ม แล้วมุ่งตรงไปยังรถเบนซ์ข้างหน้ารวดเร็วลมกรด
เขาเป็นสมาชิกหลักของเพอร์ฟอร์แมนซ์คาร์เรซซิ่งคลับ ในวงการการแข่งรถมือสมัครเล่นของเมืองเจียงถือว่าเป็นนักแข่งรถไม่ที่หนึ่งก็ที่สอง
โดยบวกกับแลมโบกินี่นำเข้าที่ปรับแต่งคันนี้ คิดจะตามรถเบนซ์ที่เขยไร้ความสามารถขับช่างเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
บึ้น!
แทบในเวลาเพียงชั่วพริบตา แลมโบกินี่ก็เข้าใกล้รถเบนซ์ขึ้นเรื่อยๆ
ร้อยเมตร!
ห้าสิบเมตร!
สามสิบเมตร!
……
รถเบนซ์ S600 หนึ่งคัน รถมาเซราติหนึ่งคัน และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันเก่าที่หลินฝานขับไปซื้อกับข้าวหนึ่งคัน
ในเวลาปกติ ไป๋อีที่เป็นประธานสาวสวยคนหนึ่งออกจากบ้านเคยชินกับการขับรถเบนซ์ S600 ไม่สูงส่งแต่มีความนัยแฝง
แต่ว่า ขณะที่ไป๋อีกำลังเปิดประตูรถแล้วจะนั่งลงไปยังตำแหน่งคนขับนี่เอง ก็มีมือใหญ่มาขวางไว้ก่อน
หือ?
ไป๋อีอึ้งไป และมองหลินฝานอย่างมีคำถาม
“วันนี้ให้ผมขับเถอะ!” หลินฝานยิ้มจางๆ แล้วไปนั่งตำแหน่งคนขับท่ามกลางสายตาแปลกใจของไป๋อี
“นายขับรถเป็นเหรอ?” ไป๋อีตะลึงงัน
นับตั้งแต่พวกเขาแต่งงานมา 3 ปี เธอยังไม่เคยเห็นหลินฝานขับรถเลย ปกติออกจากบ้านหมอนี่ขับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแทบทั้งสิ้น
ถึงขั้นใบขับขี่ของหลินฝาน เธอก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
เอ่อ……
“อีกเดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง!” หลินฝานไม่ได้อธิบายอะไร ยิ้มน้อยๆให้ แล้วรัดเข็มขัด
เห็นภาพตรงหน้านี้แล้ว แม้ในใจไป๋อียังคงสงสัย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร หันไปนั่งตำแหน่งข้างคนขับ
ไม่รู้เพราะอะไร!
วินาทีนี้ไป๋อีพบว่าหลินฝานเหมือนจะเปลี่ยนไปมาก
เห็นได้ชัดว่าหลินฝานก่อนหน้านี้ได้แต่ก้มหน้ารับปากทำ ขี้ขลาดตาขาว แต่หลินฝานในตอนนี้ยกมุมปากประดับรอยยิ้มแห่งความมั่นใจออกมา ราวกับทุกสรรพสิ่งล้วนอยู่ในการควบคุมของเขา
ว่ากันว่าผู้ชายที่มีความมั่นใจหล่อเหลาที่สุด และขณะนี้ในสายตาไป๋อี หลินฝานในด้านนี้ของเขา ที่จริงก็……เริ่มหล่อขึ้นมาบ้างจริงๆ
เมื่อประตูปิด!
สิ่งที่ทำให้ไป๋อีแปลกใจคือ หลินฝานกลับไม่ได้สตาร์ทรถ แต่ในดวงตาดำของเขาปรากฏความทรงจำที่คิดถึงและความโศกเศร้าที่อธิบายไม่ถูก
“ไป๋อี คุณยังจำร้านซาลาเปาหมั่นโถวไป๋จี้ได้ไหม?”
หือ?
ไป๋อีอึ้งไป
เธอต้องจำได้สิ ตอนเธอยังเด็ก พ่อแม่กับปู่ไม่ลงรอยกัน ครอบครัวพวกเขาสามคนถูกคุณปู่ขับไสไล่ส่งออกไปจากตระกูลไป๋ จึงได้แต่อาศัยเปิดร้านซาลาเปาหมั่นโถวข้างทางประทังชีวิต เธอจะลืมได้ยังไง
แต่ว่าเธอไม่เข้าใจว่าทำไมหลินฝานถึงเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
เห็นท่าทางของไป๋อี ในสมองของหลินฝานก็อดนึกถึงภาพความทรงจำของสาวน้อยที่ไว้หางม้าและน้ำมูกไหล
นั่นคือตอน 10 ปีก่อน
ในตอนที่เขาอายุ 13 ปี อาจารย์ปีศาจคนนั้นออกป้ายคำสั่งให้เขาไปสังหาร ติดตามผู้นำชั่วร้ายโหดเหี้ยมขององค์กรลึกลับที่มาถึงในดินแดนเหยียนหวงหรือประเทศจีน
ศึกในครั้งนั้น!
หลินฝานสามารถโจมตีสังหารนักฆ่ามือฉมังระดับสูง 32 คนจากองค์กรลึกลับจนตาย ท้ายที่สุดในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับผู้นำชั่วร้ายคนนั้น แม้ว่าจะฆ่าฝ่ายตรงข้ามจนตายสำเร็จ แต่ตัวเขาเองกลับบาดเจ็บร้ายแรง อันตรายถึงชีวิต
ตอนนั้นยังเป็นเวลาช่วงเช้าตรู่
บนย่านถนนเมืองเจียงอันเย็นเยียบเหน็บหนาว ไม่มีใครสักคน มีเพียงร้านซาลาเปาหมั่นโถวร้านหนึ่งที่มีแสงไฟสว่างอยู่
นาทีนั้นหลินฝานคลานมาตามทางอยากจะออกไปจากเมือง
เลือดสดๆแดงฉานทำให้เกิดรอยเลือดที่ยาวเป็นสายบนพื้นดินของถนน เขาคิดว่าตัวเองจะต้องตายแล้วจริงๆ
ความหิวกระหาย เจ็บปวด อ่อนล้า กำลังทำลายสติของเขาอย่างต่อเนื่อง
แต่ในตอนที่เขาแทบจะยืนหยัดไม่ไหวแล้ว เด็กสาวคนหนึ่งก็ปรากฏตัวตรงหน้าเขา
นั่นก็คือไป๋อี!
“พี่ชาย พี่หิวแล้วเหรอ? ให้ค่ะ นี่เป็นหมั่นโถวลูกใหญ่ที่เพิ่งออกจากเตาจากบ้านหนู่ค่ะ พี่กินเลย!”
หลินฝานจำได้ขึ้นใจ รอยยิ้มของไป๋อีที่งดงามอ่อนหวานเช่นนี้ราวกับลูกอมหนึ่งเม็ดที่หวานไปถึงกระดูก
ก็เพราะหมั่นโถวลูกนั้น ทำให้หลินฝานตัวน้อยมีแรงกลับมาเล็กน้อย ได้มีชีวิตรอดในช่วงหมดหนทางอย่างมหัศจรรย์
เขาออกจากประเทศจีน!
ทำภารกิจสุดท้ายของอาจารย์สำเร็จลุล่วง ด้วยอายุเพียง 13 ปี จึงกลายเป็นราชาคนใหม่แห่งโลกมืดทั่วโลก!
แต่ว่า!
ไม่ว่าเขาจะมีอำนาจมากมายในต่างประเทศ อุปสรรคใดก็สามารถฝ่าฟันไปได้ กลับยังคงไม่ลืมเลือนไป๋อีตัวน้อย ไม่ลืมเลือนหมั่นโถวเปื้อนเลือดลูกนั้น
“หลินฝาน นายเป็นอะไรไป?” ไป๋อีขมวดคิ้วงามในช่วงเวลานี้
เธอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดอาลัยอาวรณ์คิดถึงที่แผ่ออกมาจากตัวหลินฝาน กลิ่นอายปริศนานั้นทำให้เธอถึงกับสงสัยคนตรงหน้านี้ว่ายังคงเป็นสามีไร้ค่าที่ใช้ชีวิตร่วมกับเธอตลอด 3 ปีมานี้หรือไม่
“ไม่มีอะไร พวกเราไปกันเถอะ!”
หลินฝานหายใจเข้าลึกๆ ล็อกภาพอดีตในสมองไว้แน่น จากนั้นก็สตาร์ทรถแล้วขับออกจากบ้านตระกูลไป๋
บนท้องถนนมีรถทยอยสัญจรไปมาไม่ขาดสาย
แต่ไป๋อีค้นพบว่าทักษะการขับรถของหลินฝานมีความชำนาญสุดๆ ไม่เพียงรถยนต์ทั้งคันไม่โคลงเคลงไม่สั่นสักนิด แม้แต่ความเร็วรถยังเร็วมาก ขับแซงผ่านรถที่ไหลไปไม่หยุดหย่อน
ความแปลกใจในดวงตาของไป๋อีมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
เธอเพิ่งจะเข้าใจว่าสามีที่ไร้ค่าคนนี้ของเธอที่แท้ก็ไม่ได้ไม่มีอะไรดีสักอย่าง
แค่!
เธอไม่รู้เลยสักนิดว่ารถเบนซ์ที่หลินฝานขับ ไม่เพียงนิ่งและรวดเร็ว หลบได้แม้แต่กล้องวงจรไปทีละกล้องทีละกล้องแล้ว
ทุกครั้งที่เข้าสู่ภายในขอบเขตกล้องวงจร!
ป้ายทะเบียนรถเบนซ์ไม่ก็ถูกรถคันหน้าบังเอาไว้ ไม่ก็ถูกคันหลังบังเอาไว้ หรือก็คือเข้ามุมอับของกล้องทั้งสิ้น
ความสามารถส่วนบุคคล!
นี่ก็คือความสามารถส่วนตัวของหลินฝาน ในสามปีมานี้ที่เขาไม่เคยขับรถยนต์มาก่อนก็เพราะว่าปกปิดความสามารถส่วนตัวของเขามาโดยตลอด
แต่ตอนนี้ หลินฝานแค่คิด ก็ในโลกแห่งนี้ล้วนไม่มีกล้องใดๆสามารถถ่ายภาพเขาได้แม้แต่กล้องเดียว
รถเบนซ์แล่นไปด้วยความเร็วท่ามกลางความประหลาดใจของไป๋อี
แต่ว่า!
เมื่อพวกเขาเพิ่งจะหยุดรถที่ไฟแดงทางแยก ในช่วงเวลาที่ไป๋อีกำลังจะเปิดปากถามเรื่องที่หลินฝานไปเรียนขับรถเมื่อไหร่นี้เอง
หูของหลินฝานสั่น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“ระวัง!”
ขณะพูดออกมา!
หลินฝานก็หันพวงมาลัยไปอย่างรวดเร็วจนรถเบนซ์ทั้งคันเกิดเสียงดังเอี๊ยด และแทบในเวลาชั่วอึดใจก็ทะยานไปสู่เลนด้านข้างแล้ว
ในเวลาเดียวนี้!
บึ้น!
แลมโบกินี่คันด้านหลังส่งเสียงดั่งเสียงร้องของสัตว์ป่า พุ่งมาถึงตำแหน่งเดิมที่รถเบนซ์จอดอย่างเร็วและรุนแรงจนเกิดรอบล้อรถเป็นเส้นยาว
อันตรายมาก!
ห่างเพียงสองสามวินาทีเท่านั้น
หากหลินฝานตอบสนองช้ากว่านี้ไปนิดเดียว พวกเขาคงต้องถูกรถแลมโบกินี่คันนั้นชนเข้าอย่างจังแน่
ด้วยแรงพุ่งที่น่าหวาดเสียวของแลมโบกินี่ รถเบนซ์และคนในรถสองคนคงถูกบดเป็นเนื้อ
แต่ในเมื่อเป็นอย่างนี้!
ไป๋อีก็โดนเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ทำเอาตกใจจนหน้าซีดเซียวราวสีกระดาษ เหงื่อเย็นไหลออกมา
ยังไม่หมดแค่นี้
สิ่งที่ทำให้หลินฝานหน้าเปลี่ยนเป็นเหยเกยิ่งกว่าคือแลมโบกินี่คันนั้นมีชายหนุ่มสองคนนั้นอยู่ ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าไม่ชนรถเบนซ์จึงเผยใบหน้าประหลาดใจมากออกมา
ถัดมาทั้งสองคนนั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาให้ทางรถเบนซ์
“โย่ว! นี่ไม่ใช่ไป๋อีประธานคนสวยอันดับหนึ่งในเมืองเจียงเหรอ? เป็นไง? ลงมาเล่นเป็นเพื่อนกับพวกพี่มา!”
“ใช่สิ จิจิ ไม่เสียแรงที่เป็นประธานคนสวยอันดับหนึ่งในเมืองเจียง แม้แต่ใต้ตาก็โคตรสวย! มาเถอะ พวกพี่สองคนจะรับใช้หนูอย่างดี รับรองว่าหนูจะรู้สึกสบาย!”
พูดจาหยาบโลน!
ขณะนี้ ชายหนุ่มวัยรุ่นสองคนจ้องมองไป๋อีที่อยู่ภายในรถเบนซ์ด้วยสีหน้าที่ชั่วร้ายและลามกอนาจาร
“สวีจื๋อเหิง! จางเทียน!”
ส่วนด้านไป๋อีหลังจากที่เห็นวัยรุ่นทั้งสองคนนี้ก็ใบหน้าขาวซีดไปในทันที
เธอรู้ดีว่าสวีจื๋อเหิงเป็นถึงคุณชายใหญ่แห่งบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปที่เป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่ในสามอันดับของเมืองเจียง เป็นลูกหลานไฮโซรุ่นที่สองของตระกูลเจ้าชู้เสเพล
ส่วนจางเทียน ก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของประธานกรรมการบริหารที่มีอำนาจล้นฟ้าในเมืองเจียง
ทั้งสองคนนี้ถูกเรียกว่าเป็นสองพี่น้องเสเพลแห่งเมืองเจียง
ก่อนหน้านี้ พวกเขาสองคนตามจีบเธออย่างลำบากลำบน กลับถูกเธอปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า กลับคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอที่นี่
ไม่เพียงเท่านี้
สายตาสวีจื๋อเหิงหันมองไปยังหลินฝานที่นั่งตำแหน่งคนขับ ก็อดอึ้งเล็กน้อยไม่ได้ ถัดมาก็เผยยิ้มดูแคลนปรากฏออกมาบนใบหน้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า……ไป๋อี คนนี้ก็คือสามีไร้ค่าของคุณสินะ? ยี๋ ได้ข่าวว่าไม่มีความสามารถอะไรสักอย่าง คิดไม่ถึงว่าจะขับรถเป็น ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ ฮ่าฮ่า……”
ในคำพูดของสวีจื๋อเหิงเต็มไปด้วยความเสียดสีเหน็บแนม
ส่วนด้านจางเทียนก็ส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
“ไป๋อี ตกลงคุณชอบเขาที่ตรงไหนกัน? ไม่มีงานทำ ไม่หล่อ ไม่มีความสามารถ! หรือว่าเขาจะใหญ่และทักษะดี? ฮ่าฮ่า……”
ภายในดวงตาของคุณชายใหญ่ทั้งสองเปี่ยมไปด้วยความอิจฉาริษยาและดูถูกเหยียดหยาม
ในสายตาของพวกเขา เทพธิดาดั่งไป๋อี มีเพียงไฮโซอย่างพวกตนเองที่เหมาะสม แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไป๋อีที่เป็นดั่งดอกไม้สดช่อนี้ปักอยู่บนมูลวัวอย่างหลินฝานซะแล้ว
ได้ยินคำพูดสบประมาทแต่ละประโยคแล้ว ดวงตาจองหลินฝานมีประกายเย็นยะเยียบคมกริบปรากฏและหายไป
ไม่ทันให้เขาพูดขึ้น ไป๋อีที่อยู่ด้านข้างก็รีบกล่าวเตือนหลินฝานทันที
“หลินฝาน รีบไป! ไม่ต้องสนใจพวกเขา!”
ไป๋อีหน้าซีดเซียวและเต็มไปด้วยความกังวลบนสีหน้า
เห็นได้ชัดว่าล่วงเกินคุณชายชั่วสองคนนี้ไม่ไหว
เห็นอย่างนี้ หลินฝานจึงได้แต่พยักหน้า กำลังเห็นว่าไฟเขียวแล้วก็เหยียบคันเร่งในชั่วพริบตา รถเบนซ์ถึงพุ่งทะยานขับออกไปข้างหน้า
ทว่าพวกเขาคิดที่จะไป แต่สวีจื๋อเหิงกับจางเทียนในรถแลมโบกินี่จะยอมเลิกลาได้ยังไงกันล่ะ
“เอ๋? อยู่ต่อหน้าข้าแล้วยังคิดจะหนีรึ? โง่เง่า!”
เพิ่งสิ้นเสียง!
สวีจื๋อเหิงยิ้มเยาะขึ้น จากนั้นเหยียบคันเร่งทันที แลมโบกินี่ราวกับลูกศรออกจากคันธนูอย่างไรอย่างนั้น ส่งเสียงดังกระหึ่ม แล้วมุ่งตรงไปยังรถเบนซ์ข้างหน้ารวดเร็วลมกรด
เขาเป็นสมาชิกหลักของเพอร์ฟอร์แมนซ์คาร์เรซซิ่งคลับ ในวงการการแข่งรถมือสมัครเล่นของเมืองเจียงถือว่าเป็นนักแข่งรถไม่ที่หนึ่งก็ที่สอง
โดยบวกกับแลมโบกินี่นำเข้าที่ปรับแต่งคันนี้ คิดจะตามรถเบนซ์ที่เขยไร้ความสามารถขับช่างเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
บึ้น!
แทบในเวลาเพียงชั่วพริบตา แลมโบกินี่ก็เข้าใกล้รถเบนซ์ขึ้นเรื่อยๆ
ร้อยเมตร!
ห้าสิบเมตร!
สามสิบเมตร!
……
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved