บทที่ 6 ขอบคุณนะที่ช่วยชีวิตฉันเมื่อสิบปีก่อน !
by จุ้ยชิงเฟิง
19:01,Nov 16,2023
และในตอนนั้นเองสองพี่น้องเสเพลก็ได้นำเหล่าขบวนรถทั้งหลายมุ่งหน้าไปยังพรอสเพอริตี้คลับด้วยความรวดเร็ว !
หลินกวงเหยาที่กำลังเพลิดเพลินกับความประจบสอพอและคำเยินยอของเพื่อนๆที่อยู่ในห้อง :
คนเหล่านี้มองหลิงกวงเหยาราวกับว่าเป็นไอดอลที่พวกเขาเคารพและเชิดชู
“ ฮ่าฮ่า……แล้วก็ยังคงเป็นหัวหน้าของพวกเราที่มีความสามารถ ! คิดไม่ถึงเลยว่าจะสนิทสนมกับสวีจื๋อเหิงอีกด้วย !”
“ ใช่ๆ ! ดูเหมือนว่าหัวหน้าห้องของพวกเราจะได้เลื่อนตำแหน่งในบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปไปอีกขั้นแล้วสินะ ! ยินดีด้วย ! ยินดีด้วย !”
“ หัวหน้าห้อง วันหลังก็ช่วยแนะนำให้พวกเรารู้จักคุณสวีจื๋อเหิงด้วยสิ ! พวกเราเลื่อมใสเขามานานแล้ว !”
“……”
เพื่อนๆต่างก็เอาแต่ประจบประแจงหลินกวงเหยาไม่หยุด
คำพูดเหล่านี้ ทำให้เกียรติอันจอมปลอมของหลินกวงเหยาก็ได้ระเบิดออกมา
“ ฮ่าฮ่า ! ได้สิ !”
หลังจากที่หลินกวงเหยาพูดจบ เขาก็พูดไปยังหลินฝานและไป๋อีว่า :
“ เป็นแขกทั้งนั้นที่มา ! หลินฝาน , ไป๋อีมานั่งก่อนสิ !”
“ ทันใดนั้น เขาพาหลินฝานกับไป๋อีไปนั่ง ”
เพิ่งจะได้นั่งลง !
หลินกวงเหยาก็ส่งสายตาให้คนที่นั่งข้างๆ ซึ่งเขาก็เข้าใจความหมายในทันที และเขาก็พูดด้วยสีหน้าที่ขี้เล่นว่า :
“ หลินฝาน กวงเหยาเขาช่วยนายตั้งเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ? มื้อนี้นายคงต้องเลี้ยงแล้วแหละ !”
“ ใช่ๆ ! หลินฝาน มื้อนี้นายต้องเลี้ยง ! หัวหน้าห้องเราถือว่าช่วยชีวิตนายไว้เลยนะ !”
“……”
เพื่อนที่อยู่รอบๆข้างต่างก็พากันขานรับขึ้นมา
สายตาของคนพวกนี้เต็มไปด้วยความตลกและความซ้ำเติม ราวกับว่าพวกเขากำลังดูการแสดงอยู่
และคำพูดเหล่านั้นก็ทำให้รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของไป๋อีค่อยๆหายไป
เธอรู้ว่าที่นี้จะต้องจ่ายคนละหลักหมื่น แล้วที่นั่งอยู่นี้ก็มีราวๆสิบคนได้ และมื้อนี้ก็คงไม่หยุดที่หลักแสนแน่ๆ
และก่อนที่ตัวเองจะออกมา ก็หยิบแค่บัตรเครดิตที่เป็นค่าขนมออกมาเท่านั้น ซึ่งในบัตรมีแค่ไม่กี่หมื่นเองมันจะไปพอจ่ายได้อย่างไร
จากนั้นไป๋อีก็รีบแสดงสีหน้าให้เขาปฏิเสธทันที !
แต่ถึงอย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าหลินฝานจะไม่เห็น จากนั้นเขาก็ยิ้มมุมปากราวกับว่าไม่ปัญหาแล้วก็พยักหน้าพูดว่า :
“ ไม่มีปัญหา ! คืนนี้ฉันจ่ายเอง !”
ทันทีที่เขาได้รับตำแหน่งประธานบริษัทโกลบอลกรุ๊ปนั้น บัตรเครดิตทุกใบของเขาถูกยกเลิกจากการอายัดแล้ว
นับประสาอะไรกับแค่มื้ออาหารนี้ ต่อให้เขาจะซื้อทั้งประเทศมันก็ถือว่าเป็นที่เรื่อง่ายมาก
ยิ่งไปกว่านั้น พรอสเพอริตี้คลับก็ถือว่าเป็นหนึ่งในทรัพย์สมบัติของเขาอีกด้วย !
ว้าว !
แต่ทว่าทันทีที่หลินฝานพูดออกมานั้นมันก็ทำให้ไป๋อีถึงกับปวดไปทั้งหัว และทันใดนั้นเองคนที่อยู่รอบข้างต่างก็ฮือฮากันขึ้นมาทันที
รับปากแล้ว ?
อีกทั้งยังเด็ดขาดมาก !
แม้กระทั่งเวินเชี่ยนและหลินกวงเหยาก็ถึงกับผงะ ถึงอย่างไรมื้อนี้มันก็หลายแสนเลยนะ ต่อให้เป็นพวกเขาก็ยังจ่ายไม่ไหว ซึ่งทุกครั้งที่มาพวกเขาก็หารกันทั้งนั้น
แต่หลินฝาน……
“ ได้ !”
เวินเชี่ยนกลัวว่าหลินฝานจะเปลี่ยนใจ จากนั้นเธอก็ตะโกนออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยการเสียดสี จากนั้นก็ยื่นเมนูให้ :
“ คุณหลินฝาน วันนี้คุณเป็นเป็นเลี้ยง เชิญสั่งอาหารได้เลยค่ะ !”
ไม่เพียงแต่เวินเชี่ยน แต่รวมไปถึงหลินกวงเหยาและคนอื่นๆต่างก็มองหลินฝานด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ย และพวกเขาก็อยากรู้มากว่าถ้าเขาเห็นราคาอาหารในเมนูแล้วจะเป็นลมไปเลยไหม
และในขณะนั้นมุมปากของไป๋อีก็เต็มไปด้วยความขมขื่น
เธอคิดไม่ถึงเลยหลินฝานจะบุ่มบ่ามตอบรับไปแบบนั้น
แต่ทว่า !
ต่อให้พูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว ในเมื่อหลินฝานรับปากแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ ดังนั้นไป๋อีก็เลยคิดว่าจะให้คนส่งเงินมาให้
แต่คนข้างๆนั้น !
ดูเหมือนว่าหลินฝานจะไม่สังเกตเห็นถึงความวิตกกังวลของไป๋อี
เขาหยิบเมนูมา แล้วก็กวาดสายตามองดูคร่าวๆ จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้สั่งอาหารไปสองสามอย่างพร้อมกับพูดว่า :
“ เอาอันนี้ ! นี้ ! แล้วก็อันนี้ด้วย !”
เอิ่ม ?
เวินเชี่ยนและหลินกวงเหยาถึงกับผงะไป แล้วก็ขมวดคิ้วทันทีเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าเมนูที่หลินฝานสั่งไปนั้นล้วนเป็นอาหารกับแกล้มทั้งนั้น
ซึ่งก็เป็นพวกเมนูที่ราคาถูกที่สุด
“ คุณหลินฝาน ทำไมถึงสั่งแต่เมนูที่มันถูกๆละ ! ถ้าเกิดว่าไม่เงินจ่ายละก็ไม่ต้องเสแสร้งเป็นคนใจใหญ่โตหรอก !” เวินเชี่ยนพูดโดยที่ไม่รักษาน้ำใจเลยสักนิด จากนั้นก็มองหลินฝานด้วยสายตาที่ขยะแขยง
เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของคนที่เหลือต่างก็เคร่งขรึม
“ หลินฝาน นี่นายดูถูกพวกเราอย่างนั้นเหรอ ถึงได้สั่งกับแกล้มที่ถูกที่สุด ?”
“ ใช่ๆ ! เมื่อกี้หัวหน้าห้องเขาช่วยชีวิตนายไว้นะ ! นี่นายตอบแทนเขาแบบนี้หรอ ? ขี้งกเกินไปแล้ว ไป๋อี ผู้ชายแบบนี้คบไม่ได้นะ !”
“ ไอ้ขี้งกเอ้ย ! ไม่มีเงินยังมาตอแหลอีก ไม่ไหวจริงๆ…”
“……”
คำพูดเสียดสีต่างๆนั้นเหมือนกำลังถูกตบหน้าเลย ซึ่งมันทำให้สีหน้าของไป๋อีแดงก่ำ
ในขณะที่เธออยากที่จะเข้าไปแทรกในรอยร้าวนี้
แต่ทว่าเมื่อเธอคิดที่อยากจะห้ามหลินฝานนั้น !
ก็เห็นว่าหลินฝานนั้นเอาเมนูวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็พูดกับพนักงานว่า :
“ นอกจากกับแกล้มที่ฉันสั่ง ที่เหลือมาเพิ่มอีกอย่างละหนึ่ง !”
อะไรนะ !
สั่งมาอย่างละหนึ่งทั้งหมด ?
ว้าว……ว้าว !
ในขณะนั้นเองทุกคนต่างก็ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าวัตถุดิบของอาหารทุกจานของพรอสเพอริตี้คลับล้วนเป็นวัตถุดิบราคาแพงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งนั้น
บวกกับฝีมือของเชฟระดับมิชลินสตาร์ อาหารละจานหลักต่อจานก็เกือบหมื่น แล้วก็อาหารในเมนูทั้งหมดรวมๆกันแล้วก็ไม่ต่ำกว่าแสนหรือหลักล้าน
โว้ๆ!
ซึ่งขณะนั้นเองทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
สำหรับไป๋อีนั้นราวกับถูกฟ้าผ่าเลยทีเดียว ซึ่งมันก็ทำให้เธอหน้าซีดไปเลยทีเดียว
เดิมทีเธอกะว่าจะเป็นคนช่วยหลินฝานจ่ายมื้อนี้ แถมยังคิดไว้แล้วว่าจะให้คนส่งเงินมา แต่กลับไม่คิดไม่ฝันเลยว่าหลินฝานจะสั่งอาหารที่อยู่ในเมนูทั้งหมด
นี่…….
ดวงตาที่งดงามของไป๋อีก็เต็มไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า และเธอก็รู้สึกราวกับกำลังถูกมีดแทงเข้าที่หัวใจ
เธอไม่ได้รู้สึกเสียดายเงิน แต่รู้สึกผิดหวังในตัวหลินฝานมากๆ
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า หลินฝานจะเป็นคนที่ชอบเอาหน้า จนทำเรื่องโง่ๆแบบนี้
“ หลินฝาน ไป๋อีให้เงินใช้นายเยอะเหรอ ?” เวินเชี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย
ไป๋อีที่เธอรู้จักนั้น ปกติเป็นคนที่ประหยัดมาก !
ยิ่งเป็นมื้ออาหารเกือบหลักล้านแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย
แต่ทว่า !
หลินฝานส่ายหัวพร้อมกับหัวเราะ
อืม ?
ทุกคนต่างก็สงสัย และหลินกวงเหยาก็อดไม่ได้ที่จะถาม :
“ แล้วนายจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ?”
ทุกสายตายต่างก็จ้องไปที่หลินฝานอย่างพร้อมเพรียงด้วยความสงสัย
แม้แต่ไป๋อีก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองไปยังหลินฝาน
และภายใต้การจับจ้องของทุกคนนั้น หลินฝานก็หยิบบัตรสีดำออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็หันหน้าไปหาไป๋อีด้วยรอยยิ้ม :
“ ไป๋อี เดี๋ยวคุณใช้บัตรนี้จ่ายนะ ! ต่อจากนี้ไปเธอเป็นเจ้าของบัตรใบนี้ !”
สายตาของทุกคนต่างก็มองไปยังบัตรใบนั้น แล้วก็เห็นว่าบนบัตรใบนั้นไม่มีหมายเลยบัตรเลย มีเพียงแต่รูปหัวกะโหลกเทาขาว
เงียบกริบ !
หลังจากที่ทุกคนเห็นบัตรใบนั้น ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างแปลกประหลาด
หลังจากนั้น !
ก็หัวเราะอย่างขบขัน
“ ฮ่าฮ่าฮ่า……หลินฝาน นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ ? บัตรใบนี้ไม่ใช่บัตรเครดิตสักหน่อย นายจะใช้จ่ายได้อย่างไร ?”
“ ใช่ๆ ! นี่มันคงเป็นบัตรเติมเกมล่ะมั้ง ? แถมยังมีรูปหัวกะโหลกอีก ? นี่นายตอแหลผิดที่แล้วแหละ ตลกเป็นบ้า ฮ่าฮ่า !”
“ เหี้ยเอ้ย ! ที่แท้ก็ไอ้โง่สมองทึ่มที่ขี้โม้นี่เอง ! เสียเวลาชะมัด !”
ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็มองไปที่หลินฝานด้วยความดูถูกเหยียดหยามแล้วก็ความขยะแขยง
พวกเขาสามารถมั่นใจได้เลยว่านี่มันไม่ใช่บัตรเครดิตของธนาคารไหนเลย
ใช้บัตรนี้จ่ายอย่างนั้นหรอ นี่มันล้อเล่นกันหรือเปล่า ?
เสียงหัวเราะเยาะก็ดังไม่หยุด
ส่วนไป๋อีนั้นจากสีหน้าที่ขาวซีดก็กลายเป็นสีหน้าที่แดงก่ำ ราวกับว่าถูกตบหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้น้ำตาไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้
ในขณะนี้เอง ไม่ว่าจะเธอหรือคนที่อยู่ภายในห้อง ต่างก็มองว่าหลินฝานเป็นตอแหล อีกทั้งยังเหมือนคนตอแหลที่ทำตัวโง่ๆ
แกร๊ด !
แต่ทว่าในขณะที่ทุกคนนั้นกำลังจะหัวเราะเยาะหลินฝานต่อนั้น
ประตูห้องก็ถูกเปิด
ทุกคนก็มองไปด้วยความงุนงง เพราะว่าผู้จัดการร้านพรอสเพอริตี้คลับเดินเข้ามาพร้อมกลุ่มพนักงาน
ซึ่งในมือของพนักงานนั้นก็ถือถือถาดไว้ในมือ และบนถาดนั้นก็เต็มไปด้วยเครื่องดื่มนานาชนิด
คนที่อยู่ภายในห้องต่างก็ตกตะลึง
เขาเป็นถึงผู้จัดการของพรอสเพอริตี้คลับเลยนะ
ซึ่งปกติแล้วมีแค่ระดับสวีเทียนหลงเท่านั้นที่มีฐานบรรดาศักดิ์เท่าเขา
“ ผู้……ผู้จัดการหวัง พวกคุณคือ……” ในขณะนั้นเวินเชี่ยนก็ถึงกับตะลึง แล้วก็ถามด้วยความตกใจหลัว
เมื่อได้ยินเช่นนั้น !
ทันใดนั้นเองสีหน้าของผู้จัดการก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแย้ม จากนั้นก็ถามอย่างระมัดระวังว่า :
“ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าใครคือคุณหรอครับ ?”
คุณหวัง ?
ทุกคนต่างก็ตกตะลึง จากนั้นสายตาทุกคู่ก็มองไปยังหลินกวงเหยากับหลินฝาน แต่ท้ายที่สุดสายตาทุกคู่ก็มองไปยังหลินกวงเหยา
เนื่องจากในสายตาของทุกคนนั้นหลินฝานก็แค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ก็แค่นั้น จะสามารถทำให้คนอย่างผู้จัดการหวังปฏิบัติดีด้วยได้อย่างไร ถ้าอย่างนั้นก็เหลือเพียงแต่หลิงกวงเหยา
“ ฉันเอง !” หลินกวงเหยาพูดออกมาอย่างไม่ลังเล
แต่ทว่าทันทีที่เขาพูดจบนั้น !
ก็เห็นว่าผู้จัดการหวังและพนักงานคนอื่นๆต่างก็โค้งคำนับให้เขาทันที :
“ พวกเราในนามของพรอสเพอริตี้คลับ ขอยินดีต้อนรับคุณหลิน !”
“ คุณเซวี่ยนเหมยกุย ได้ขอให้นำไวน์ชั้นดีทั้งหมดในคอลเลกชั่นของร้านเรา มามอบให้กับคุณหลิน !”
“ นอกจากนี้ เธอยังฝากบอกอะไรกับคุณหลินด้วยด้วย !”
หลังจากพูดจบ !
ผู้จัดการหวังก็ไปยังหลินกวงเหยาด้วยความกระตือรือร้นและตื่นเต้น จากนั้นก็โค้งคำนับกับพื้นและพูดว่า :
“ ขอบคุณคุณนะที่ช่วยชีวิตฉันไว้เมื่อสิบปีก่อน ! !”
หลินกวงเหยาที่กำลังเพลิดเพลินกับความประจบสอพอและคำเยินยอของเพื่อนๆที่อยู่ในห้อง :
คนเหล่านี้มองหลิงกวงเหยาราวกับว่าเป็นไอดอลที่พวกเขาเคารพและเชิดชู
“ ฮ่าฮ่า……แล้วก็ยังคงเป็นหัวหน้าของพวกเราที่มีความสามารถ ! คิดไม่ถึงเลยว่าจะสนิทสนมกับสวีจื๋อเหิงอีกด้วย !”
“ ใช่ๆ ! ดูเหมือนว่าหัวหน้าห้องของพวกเราจะได้เลื่อนตำแหน่งในบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปไปอีกขั้นแล้วสินะ ! ยินดีด้วย ! ยินดีด้วย !”
“ หัวหน้าห้อง วันหลังก็ช่วยแนะนำให้พวกเรารู้จักคุณสวีจื๋อเหิงด้วยสิ ! พวกเราเลื่อมใสเขามานานแล้ว !”
“……”
เพื่อนๆต่างก็เอาแต่ประจบประแจงหลินกวงเหยาไม่หยุด
คำพูดเหล่านี้ ทำให้เกียรติอันจอมปลอมของหลินกวงเหยาก็ได้ระเบิดออกมา
“ ฮ่าฮ่า ! ได้สิ !”
หลังจากที่หลินกวงเหยาพูดจบ เขาก็พูดไปยังหลินฝานและไป๋อีว่า :
“ เป็นแขกทั้งนั้นที่มา ! หลินฝาน , ไป๋อีมานั่งก่อนสิ !”
“ ทันใดนั้น เขาพาหลินฝานกับไป๋อีไปนั่ง ”
เพิ่งจะได้นั่งลง !
หลินกวงเหยาก็ส่งสายตาให้คนที่นั่งข้างๆ ซึ่งเขาก็เข้าใจความหมายในทันที และเขาก็พูดด้วยสีหน้าที่ขี้เล่นว่า :
“ หลินฝาน กวงเหยาเขาช่วยนายตั้งเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ? มื้อนี้นายคงต้องเลี้ยงแล้วแหละ !”
“ ใช่ๆ ! หลินฝาน มื้อนี้นายต้องเลี้ยง ! หัวหน้าห้องเราถือว่าช่วยชีวิตนายไว้เลยนะ !”
“……”
เพื่อนที่อยู่รอบๆข้างต่างก็พากันขานรับขึ้นมา
สายตาของคนพวกนี้เต็มไปด้วยความตลกและความซ้ำเติม ราวกับว่าพวกเขากำลังดูการแสดงอยู่
และคำพูดเหล่านั้นก็ทำให้รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของไป๋อีค่อยๆหายไป
เธอรู้ว่าที่นี้จะต้องจ่ายคนละหลักหมื่น แล้วที่นั่งอยู่นี้ก็มีราวๆสิบคนได้ และมื้อนี้ก็คงไม่หยุดที่หลักแสนแน่ๆ
และก่อนที่ตัวเองจะออกมา ก็หยิบแค่บัตรเครดิตที่เป็นค่าขนมออกมาเท่านั้น ซึ่งในบัตรมีแค่ไม่กี่หมื่นเองมันจะไปพอจ่ายได้อย่างไร
จากนั้นไป๋อีก็รีบแสดงสีหน้าให้เขาปฏิเสธทันที !
แต่ถึงอย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าหลินฝานจะไม่เห็น จากนั้นเขาก็ยิ้มมุมปากราวกับว่าไม่ปัญหาแล้วก็พยักหน้าพูดว่า :
“ ไม่มีปัญหา ! คืนนี้ฉันจ่ายเอง !”
ทันทีที่เขาได้รับตำแหน่งประธานบริษัทโกลบอลกรุ๊ปนั้น บัตรเครดิตทุกใบของเขาถูกยกเลิกจากการอายัดแล้ว
นับประสาอะไรกับแค่มื้ออาหารนี้ ต่อให้เขาจะซื้อทั้งประเทศมันก็ถือว่าเป็นที่เรื่อง่ายมาก
ยิ่งไปกว่านั้น พรอสเพอริตี้คลับก็ถือว่าเป็นหนึ่งในทรัพย์สมบัติของเขาอีกด้วย !
ว้าว !
แต่ทว่าทันทีที่หลินฝานพูดออกมานั้นมันก็ทำให้ไป๋อีถึงกับปวดไปทั้งหัว และทันใดนั้นเองคนที่อยู่รอบข้างต่างก็ฮือฮากันขึ้นมาทันที
รับปากแล้ว ?
อีกทั้งยังเด็ดขาดมาก !
แม้กระทั่งเวินเชี่ยนและหลินกวงเหยาก็ถึงกับผงะ ถึงอย่างไรมื้อนี้มันก็หลายแสนเลยนะ ต่อให้เป็นพวกเขาก็ยังจ่ายไม่ไหว ซึ่งทุกครั้งที่มาพวกเขาก็หารกันทั้งนั้น
แต่หลินฝาน……
“ ได้ !”
เวินเชี่ยนกลัวว่าหลินฝานจะเปลี่ยนใจ จากนั้นเธอก็ตะโกนออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยการเสียดสี จากนั้นก็ยื่นเมนูให้ :
“ คุณหลินฝาน วันนี้คุณเป็นเป็นเลี้ยง เชิญสั่งอาหารได้เลยค่ะ !”
ไม่เพียงแต่เวินเชี่ยน แต่รวมไปถึงหลินกวงเหยาและคนอื่นๆต่างก็มองหลินฝานด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ย และพวกเขาก็อยากรู้มากว่าถ้าเขาเห็นราคาอาหารในเมนูแล้วจะเป็นลมไปเลยไหม
และในขณะนั้นมุมปากของไป๋อีก็เต็มไปด้วยความขมขื่น
เธอคิดไม่ถึงเลยหลินฝานจะบุ่มบ่ามตอบรับไปแบบนั้น
แต่ทว่า !
ต่อให้พูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว ในเมื่อหลินฝานรับปากแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ ดังนั้นไป๋อีก็เลยคิดว่าจะให้คนส่งเงินมาให้
แต่คนข้างๆนั้น !
ดูเหมือนว่าหลินฝานจะไม่สังเกตเห็นถึงความวิตกกังวลของไป๋อี
เขาหยิบเมนูมา แล้วก็กวาดสายตามองดูคร่าวๆ จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้สั่งอาหารไปสองสามอย่างพร้อมกับพูดว่า :
“ เอาอันนี้ ! นี้ ! แล้วก็อันนี้ด้วย !”
เอิ่ม ?
เวินเชี่ยนและหลินกวงเหยาถึงกับผงะไป แล้วก็ขมวดคิ้วทันทีเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าเมนูที่หลินฝานสั่งไปนั้นล้วนเป็นอาหารกับแกล้มทั้งนั้น
ซึ่งก็เป็นพวกเมนูที่ราคาถูกที่สุด
“ คุณหลินฝาน ทำไมถึงสั่งแต่เมนูที่มันถูกๆละ ! ถ้าเกิดว่าไม่เงินจ่ายละก็ไม่ต้องเสแสร้งเป็นคนใจใหญ่โตหรอก !” เวินเชี่ยนพูดโดยที่ไม่รักษาน้ำใจเลยสักนิด จากนั้นก็มองหลินฝานด้วยสายตาที่ขยะแขยง
เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของคนที่เหลือต่างก็เคร่งขรึม
“ หลินฝาน นี่นายดูถูกพวกเราอย่างนั้นเหรอ ถึงได้สั่งกับแกล้มที่ถูกที่สุด ?”
“ ใช่ๆ ! เมื่อกี้หัวหน้าห้องเขาช่วยชีวิตนายไว้นะ ! นี่นายตอบแทนเขาแบบนี้หรอ ? ขี้งกเกินไปแล้ว ไป๋อี ผู้ชายแบบนี้คบไม่ได้นะ !”
“ ไอ้ขี้งกเอ้ย ! ไม่มีเงินยังมาตอแหลอีก ไม่ไหวจริงๆ…”
“……”
คำพูดเสียดสีต่างๆนั้นเหมือนกำลังถูกตบหน้าเลย ซึ่งมันทำให้สีหน้าของไป๋อีแดงก่ำ
ในขณะที่เธออยากที่จะเข้าไปแทรกในรอยร้าวนี้
แต่ทว่าเมื่อเธอคิดที่อยากจะห้ามหลินฝานนั้น !
ก็เห็นว่าหลินฝานนั้นเอาเมนูวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็พูดกับพนักงานว่า :
“ นอกจากกับแกล้มที่ฉันสั่ง ที่เหลือมาเพิ่มอีกอย่างละหนึ่ง !”
อะไรนะ !
สั่งมาอย่างละหนึ่งทั้งหมด ?
ว้าว……ว้าว !
ในขณะนั้นเองทุกคนต่างก็ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าวัตถุดิบของอาหารทุกจานของพรอสเพอริตี้คลับล้วนเป็นวัตถุดิบราคาแพงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งนั้น
บวกกับฝีมือของเชฟระดับมิชลินสตาร์ อาหารละจานหลักต่อจานก็เกือบหมื่น แล้วก็อาหารในเมนูทั้งหมดรวมๆกันแล้วก็ไม่ต่ำกว่าแสนหรือหลักล้าน
โว้ๆ!
ซึ่งขณะนั้นเองทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
สำหรับไป๋อีนั้นราวกับถูกฟ้าผ่าเลยทีเดียว ซึ่งมันก็ทำให้เธอหน้าซีดไปเลยทีเดียว
เดิมทีเธอกะว่าจะเป็นคนช่วยหลินฝานจ่ายมื้อนี้ แถมยังคิดไว้แล้วว่าจะให้คนส่งเงินมา แต่กลับไม่คิดไม่ฝันเลยว่าหลินฝานจะสั่งอาหารที่อยู่ในเมนูทั้งหมด
นี่…….
ดวงตาที่งดงามของไป๋อีก็เต็มไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า และเธอก็รู้สึกราวกับกำลังถูกมีดแทงเข้าที่หัวใจ
เธอไม่ได้รู้สึกเสียดายเงิน แต่รู้สึกผิดหวังในตัวหลินฝานมากๆ
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า หลินฝานจะเป็นคนที่ชอบเอาหน้า จนทำเรื่องโง่ๆแบบนี้
“ หลินฝาน ไป๋อีให้เงินใช้นายเยอะเหรอ ?” เวินเชี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย
ไป๋อีที่เธอรู้จักนั้น ปกติเป็นคนที่ประหยัดมาก !
ยิ่งเป็นมื้ออาหารเกือบหลักล้านแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย
แต่ทว่า !
หลินฝานส่ายหัวพร้อมกับหัวเราะ
อืม ?
ทุกคนต่างก็สงสัย และหลินกวงเหยาก็อดไม่ได้ที่จะถาม :
“ แล้วนายจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ?”
ทุกสายตายต่างก็จ้องไปที่หลินฝานอย่างพร้อมเพรียงด้วยความสงสัย
แม้แต่ไป๋อีก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองไปยังหลินฝาน
และภายใต้การจับจ้องของทุกคนนั้น หลินฝานก็หยิบบัตรสีดำออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็หันหน้าไปหาไป๋อีด้วยรอยยิ้ม :
“ ไป๋อี เดี๋ยวคุณใช้บัตรนี้จ่ายนะ ! ต่อจากนี้ไปเธอเป็นเจ้าของบัตรใบนี้ !”
สายตาของทุกคนต่างก็มองไปยังบัตรใบนั้น แล้วก็เห็นว่าบนบัตรใบนั้นไม่มีหมายเลยบัตรเลย มีเพียงแต่รูปหัวกะโหลกเทาขาว
เงียบกริบ !
หลังจากที่ทุกคนเห็นบัตรใบนั้น ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างแปลกประหลาด
หลังจากนั้น !
ก็หัวเราะอย่างขบขัน
“ ฮ่าฮ่าฮ่า……หลินฝาน นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ ? บัตรใบนี้ไม่ใช่บัตรเครดิตสักหน่อย นายจะใช้จ่ายได้อย่างไร ?”
“ ใช่ๆ ! นี่มันคงเป็นบัตรเติมเกมล่ะมั้ง ? แถมยังมีรูปหัวกะโหลกอีก ? นี่นายตอแหลผิดที่แล้วแหละ ตลกเป็นบ้า ฮ่าฮ่า !”
“ เหี้ยเอ้ย ! ที่แท้ก็ไอ้โง่สมองทึ่มที่ขี้โม้นี่เอง ! เสียเวลาชะมัด !”
ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็มองไปที่หลินฝานด้วยความดูถูกเหยียดหยามแล้วก็ความขยะแขยง
พวกเขาสามารถมั่นใจได้เลยว่านี่มันไม่ใช่บัตรเครดิตของธนาคารไหนเลย
ใช้บัตรนี้จ่ายอย่างนั้นหรอ นี่มันล้อเล่นกันหรือเปล่า ?
เสียงหัวเราะเยาะก็ดังไม่หยุด
ส่วนไป๋อีนั้นจากสีหน้าที่ขาวซีดก็กลายเป็นสีหน้าที่แดงก่ำ ราวกับว่าถูกตบหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้น้ำตาไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้
ในขณะนี้เอง ไม่ว่าจะเธอหรือคนที่อยู่ภายในห้อง ต่างก็มองว่าหลินฝานเป็นตอแหล อีกทั้งยังเหมือนคนตอแหลที่ทำตัวโง่ๆ
แกร๊ด !
แต่ทว่าในขณะที่ทุกคนนั้นกำลังจะหัวเราะเยาะหลินฝานต่อนั้น
ประตูห้องก็ถูกเปิด
ทุกคนก็มองไปด้วยความงุนงง เพราะว่าผู้จัดการร้านพรอสเพอริตี้คลับเดินเข้ามาพร้อมกลุ่มพนักงาน
ซึ่งในมือของพนักงานนั้นก็ถือถือถาดไว้ในมือ และบนถาดนั้นก็เต็มไปด้วยเครื่องดื่มนานาชนิด
คนที่อยู่ภายในห้องต่างก็ตกตะลึง
เขาเป็นถึงผู้จัดการของพรอสเพอริตี้คลับเลยนะ
ซึ่งปกติแล้วมีแค่ระดับสวีเทียนหลงเท่านั้นที่มีฐานบรรดาศักดิ์เท่าเขา
“ ผู้……ผู้จัดการหวัง พวกคุณคือ……” ในขณะนั้นเวินเชี่ยนก็ถึงกับตะลึง แล้วก็ถามด้วยความตกใจหลัว
เมื่อได้ยินเช่นนั้น !
ทันใดนั้นเองสีหน้าของผู้จัดการก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแย้ม จากนั้นก็ถามอย่างระมัดระวังว่า :
“ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าใครคือคุณหรอครับ ?”
คุณหวัง ?
ทุกคนต่างก็ตกตะลึง จากนั้นสายตาทุกคู่ก็มองไปยังหลินกวงเหยากับหลินฝาน แต่ท้ายที่สุดสายตาทุกคู่ก็มองไปยังหลินกวงเหยา
เนื่องจากในสายตาของทุกคนนั้นหลินฝานก็แค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ก็แค่นั้น จะสามารถทำให้คนอย่างผู้จัดการหวังปฏิบัติดีด้วยได้อย่างไร ถ้าอย่างนั้นก็เหลือเพียงแต่หลิงกวงเหยา
“ ฉันเอง !” หลินกวงเหยาพูดออกมาอย่างไม่ลังเล
แต่ทว่าทันทีที่เขาพูดจบนั้น !
ก็เห็นว่าผู้จัดการหวังและพนักงานคนอื่นๆต่างก็โค้งคำนับให้เขาทันที :
“ พวกเราในนามของพรอสเพอริตี้คลับ ขอยินดีต้อนรับคุณหลิน !”
“ คุณเซวี่ยนเหมยกุย ได้ขอให้นำไวน์ชั้นดีทั้งหมดในคอลเลกชั่นของร้านเรา มามอบให้กับคุณหลิน !”
“ นอกจากนี้ เธอยังฝากบอกอะไรกับคุณหลินด้วยด้วย !”
หลังจากพูดจบ !
ผู้จัดการหวังก็ไปยังหลินกวงเหยาด้วยความกระตือรือร้นและตื่นเต้น จากนั้นก็โค้งคำนับกับพื้นและพูดว่า :
“ ขอบคุณคุณนะที่ช่วยชีวิตฉันไว้เมื่อสิบปีก่อน ! !”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved