บทที่ 3 คนโรคจิตที่หื่นกามอย่างที่สุด
by อีหูเหล่าเหนี่ยว
10:47,Dec 28,2020
ผมจากที่ไม่เคยคิดมาก่อน หลังจากผมได้พบกับฟางเฟยอีกครั้ง ใจของผมเองมันก็ยังคงเจ็บปวด
ถึงขนาดที่ว่าผมคิดว่าตัวเองควรที่จะหนีออกมาจากสถานที่ที่มีฟางเฟยอยู่
เพียงไม่นาน ผมยกเลิกที่จะทำตามความคิดนั้นไป
ผมไม่อยากที่จะหนีมันอีก มีเพียงแค่เผชิญหน้ายอมรับมันและปล่อยให้มันเป็นไป ถึงจะก้าวข้ามความเจ็บปวดนี้ และเริ่มต้นกับชีวิตใหม่
หรือบางที การเริ่มต้นกับความรักครั้งใหม่ อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
วันที่สอง ผมได้เริ่มหางานโดยการไปยื่นใบสมัครตำแหน่งพนักงานขายไว้ที่บริษัทแห่งหนึ่ง และรอการติดต่อกลับมา
ผมรอข่าวจากบริษัทมาสองวันแล้วก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา เมื่อเข้าวันที่สามผมเริ่มที่จะอยู่ไม่สุข ผมรีบออกจากบ้านมุ่งตรงไปยังบริษัทที่ส่งใบสมัครไว้
คนที่เคยทำงานมาแล้วสามปีอย่างผมรู้ดี หลายๆเรื่องไม่ควรที่จะรอคอยโอกาส แต่ต้องไขว่ขว้าเท่านั้นเราถึงจะมีโอกาส
และยิ่งไปกว่านั้นบริษัทหยู่เฟยนี้ ยังเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงในประเทศที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด
หลังจากตอนที่ผมได้เจอกับพนักงานฝ่ายบุคคลของบริษัทนี้ ถึงได้รู้ว่าสัปดาห์นี้การรับสมัครแผนกพนักงานขายของหยู่เฟยเต็มแล้ว และใบสมัครของผมไม่ได้รับเลือก ฉะนั้นแล้วผมก็หมดสิทธิ์ที่จะได้รับการสัมภาษณ์
เนื่องด้วยความคิดและความจริงใจของผม พนักงานคนนั้นบอกผมว่าประมาณสองสามเดือนหลังจากนี้ หยู่เฟยจะมีสินค้าใหม่ออกมา อาจจะมีการเปิดรับสมัครพนักงานขายอีก เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแนะนำผมกับผู้อำนวยการฝ่ายขาย เพราะเขาคิดว่าคนอย่างผมความสามารถในการทำงานต้องไม่ธรรมดา
แต่ถ้าผมยินยอมและเต็มใจก็สามารถอยู่ที่หยู่เฟยทำแผนกส่งเอกสารพัสดุไปก่อนได้ เพราะเขาสามารถช่วยจัดการให้ผมเข้าทำงานได้ทันที
หลังจากทำงานก็รู้ว่าจริง ๆ แล้วฝ่ายวัสดุก็เป็นแค่งานลูกหาบ ใครใช้ให้ทำอะไรผมก็ต้องทำ ผมเริ่มที่จะลังเลกับงานแห่งนี้
หยู่เฟยเป็นกลุ่มบริษัทรายใหญ่ที่ถือหุ้นมากที่สุดของเครือบริษัทหวนหยู่ที่อยู่เบื้องหลังบริษัทชั้นนำกว่าห้าร้อยแห่งทั่วโลก กล่าวได้ว่าเป็นมหาอำนาจรายใหญ่ที่มีเงินทุนมหาศาล เป็นบริษัทที่ทุกคนใฝ่ฝันและผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
หรือไม่อย่างนั้น ผมก็ทำงานเป็นลูกหาบไปก่อน สองสามเดือนหลังจากนี้ค่อยเปลี่ยนไปสมัครทำแผนกอื่นอีกครั้ง
คิดมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็ไปที่แผนกบุคลากรเพื่อส่งข้อมูล เขายินดีที่จะช่วยจัดการเพื่อให้ผมเข้าทำงานเป็นพนักงานเข็นรถเติมของ และผมก็ได้เข้าทำงานเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง
วันแรกที่ทำงานก่อนอื่นเลยก็ให้ทำความคุ้นเคยกับกฎเกณฑ์ตามขั้นตอนของบริษัท
ผมดันไปได้ยินเพื่อนร่วมงานคุยกันเกี่ยวกับเรื่องฝ่ายการขาย และผมก็เกิดความประหลาดใจขึ้นมาว่าผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทหยู่เฟยเป็นเพียงสาวงามที่อายุยี่สิบห้าปีเท่านั้น
กล่าวกันว่าสาวงามท่านนี้มีชื่อว่าเซี้ยหยุน จบมาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และก็กลับประเทศเพื่อมารับทำงานที่บริษัทหยู่เฟยทันที เริ่มจากนักวางแผนธรรมดาๆ เธอใช้เวลาเพียงสองปีก็ได้ขึ้นตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายขาย มันไม่ง่ายเลย เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและเก่งเพียบพร้อมไปซะทุกอย่างจริง ๆ!
ผมแสนจะสนใจผู้จัดการสาวสวยคนนี้เสียจริง อยากจะเห็นเหลือเกินว่าเธอเป็นผู้หญิงยังไงและผมตั้งตารอที่จะได้เป็นลูกน้องของผู้จัดการสาวสวยคนนี้
วันที่สอง ผมก็มาทำงานปกติ งานที่ผมทำจะต้องมาก่อนเวลาที่ทุกคนทำงานครึ่งชั่วโมง เพราะว่าจะต้องรีบเอาของที่ขาดของแต่ละห้องทำงานไปเติมก่อนที่พวกเขาจะมาทำงานกัน
ผมใส่เครื่องแบบสีฟ้าที่เตะตา ใส่หูฟังและเข็นรถเข็นเพื่อนำขวดน้ำ กระดาษทิชชู่ที่ขาดรวมไปถึงเทน้ำชาเตรียมไว้ให้กับทุกห้องทำงาน
ไม่นาน ก็มาถึงห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายการขาย ที่เล่ากันว่าเป็นห้องทำงานของสาวสวยเซี้ยหยุน เป็นแผนกที่จะมีกลิ่นหอมบาง ๆ อยู่
ที่นี่ไม่ในแผนกการเงิน ผมสามารถที่จะเข้าไปในห้องทำงานนี้ได้ ยิ่งกว่านั้นน้ำยาล้างมือของห้องน้ำของห้องทำงานห้องนี้ก็หมดแล้วด้วย ผมจึงต้องเข้าไปเติม
พึ่งจะเข้าไปในห้องน้ำนั้น หูฟังก็มีเสียงหัวหน้าฝ่ายวัสดุดังขึ้นมา คำดูถูกที่เกี่ยวกับงานลูกจ้างต่ำต้อยทำให้ผมได้แต่ทนฟังไปอย่างเงียบๆ
เพียงไม่นาน หัวหน้าก็พูดจบลง ผมถือเอาน้ำยาล้างมือที่หมดเดินหันออกห้องน้ำ
กำลังที่จะเหยียบก้าวออกจากประตู ทันใดนั้นก็พบว่ามีเงาคนขว้างอยู่ด้านหน้า พอเงยหน้าดู ก็พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม ในมือเธอถือชุดทำงานกระโปร่ง แต่ร่างกายกลับสวมเพียงชุดชั้นในลายลูกไม้
รูปร่างแบบนี้ช่างเพอร์เฟคสุดๆ!
ใบหน้ารูปไข่สวยๆนั้น แววตาโตที่ดูตกใจ คุ้นเคยกันดี!มันเป็นใบหน้าที่สวยงามที่ผมได้จดจำไว้ในคืนนั้น
“เอ่อ...” ผมได้แต่มองไปที่ร่างกายที่น่าดึงดูดของเธอ กลืนน้ำลาย และอดไม่ได้ที่จะครางเสียงต่ำ ๆ อยู่ในลำคอ และไม่สามารถที่จะหยุดคิดได้ คืนนั้น มือของผมยังจับอยู่บนหน้าอกอันอวบอึ๋ม
“นาย!!!”
หญิงสาวรีบเอามือที่ถือกระโปรงขึ้นมาปกปิดร่างกายเอาไว้ ใบหน้าขึ้นสีแดงกล่ำ ดวงตาฉายชัดถึงความโกรธวาวโรจขึ้นมา
“นาย! นายทำไมถึงอยู่ที่นี่ ทำไมถึงอยู่ที่ห้องทำงานของฉัน”
ผมกลับมามีสติ กลับมาขยับอย่างจำใจแล้วพูดว่า “ขอโทษครับขอโทษครับ!ผมพึ่งมาทำงานวันแรก...”
“แล้วทำไมต้องซ่อนอยู่ในห้องน้ำ” เธอโกรธมากอย่างเห็นได้ชัด
“นี้...” ผมชี้ไปที่ขวดน้ำยาล้างมือเปล่า “นี้ไม่ใช่เพราะมาเปลี่ยนน้ำยาล้างมือให้คุณหรือครับ ผมถึงได้มาอยู่ที่นี่”
หญิงสาวเงียบไป กระโปรงของเธอบังไม่มิดช่วงอกที่ยังอยู่ที่สภาพหวาบหวิว
“ออกไป!!!”
“เดี๋ยวก่อน!” หญิงสาวเรียกผมไว้อย่างกะทันหัน
ผมตื่นเต้นดีใจอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ทั้งยังกลับไปอยู่ตรงร่างกายที่มีสิ่งปกปิดที่ไม่สมบูรณ์ ผมมองจ้องเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของเธออย่างเด็ดเดี่ยว
“นายสะกดรอยตามฉันมาหรอ” นำเสียงของหญิงสาวเย็นยะเยือก
ผมงงงัน “ผมสะกดรอยตามอะไรคุณตอนไหนหรือครับ”
หญิงสาวหัวเราะเยาะขึ้นมา ร่างกายของเธอกลับมาดูสง่าและเย้อหยิ่ง สายตามองมาอย่างรังเกียจและพูดว่า “คืนนั้น นายบอกว่าถ้ามีโอกาสเจอกันอีกครั้ง นายจะจีบฉันนิ! ฉันก็ตกลงแล้วด้วยนี่”
“คุณตั้งใจสะกดรอยตามฉัน เข้ามาในบริษัท เพื่อที่จะมาจีบฉัน ฉันเดาถูกหรือเปล่าล่ะ หื้ม”
“อีกอย่าง ทุกคนในบริษัทก็ล้วนรู้ว่าฉันชอบมาเปลี่ยนชุดที่ห้องน้ำบริษัท นายหนะตั้งใจเขามาห้องน้ำในห้องทำงานของฉัน อยากจะมาถ้ำมองฉันใช่มั้ยล่ะ!”
ผมฟังเรื่องที่เธอพูดเสร็จ ผมเงียบสนิทไม่พูดจาตะลึงกับความสามารถเชิงตรรกะของหญิงสาวที่สามารถเสียเหลือเกินนี้ แม้เพียงสักคำก็พูดไม่ออก เขาจ้องมองไปที่เธออย่างว่างเปล่า
หญิงสาวมองเขาที่เอาแต่ยืนเหม่อ ก็คิดว่าตัวเองคิดถูกแล้ว ก็เลยยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “คนที่จีบฉันนะเยอะแล้ว ในหมู่พวกเขาก็มักจะมีแต่พวกคนที่หน้าตาเคร่งขรึมทำเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม แต่ว่าคนหยาบคายไม่รู้จักอับอายแบบนายนี่ฉันพึ่งเคยเจอเป็นครั้งแรกเลยนะ”
“อย่าคิดว่านายเคยช่วยฉันมาก่อน แล้วฉันจะทำกับดีกับคนหยาบคายแบบนาย ฉันยังสงสัยเลย คนจรจัดนั้นใช่นายจ้างมาหรือเปล่า”
ได้ยินแบบนี้ ผมแทบจะล้มลงไปบนพื้น
ผู้หญิงคนนี้เธอเป็นอะไรของเธอ เธอเป็นเชอร์ล็อค โฮล์มส์หรือ ในสายตาเธอผมก็คือคนที่เหลืออดจะทนงั้นสินะ
ผมหยาบคายก็จริง ความคิดไม่ดีก็จริง แต่ผมไม่เคยทำอะไรต่ำช้า แค่คิดยังไม่กล้าที่จะทำ!
คิดมาถึงขั้นนี้ ผมอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดขึ้นมาเองบ้างแล้วเช่นกัน ผมเงยหน้ามองตาเธอแล้วพูดว่า “พี่สาว ไม่รู้อะไรมาก่อน ก็อย่ามาพูดจาใส่ร้ายกัน”
“นายเรียกใครพี่สาว” หญิงสาวจองมองด้วยความโกรธ
ผมไม่ได้สนใจเธอ เพียงพูดต่อว่า “ที่จริงคุณเป็นคนสวยซึ่งมันกระตุ้นความอยากบางอย่างของผมมาก พูดง่าย ๆ ผมอยากนอนกับคุณก็จริง! ”
“แต่... ผมเฉินเทา เป็นคนตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์มากพอ ผมไม่เคยทำอะไรตามอำเภอใจถ้าผมอยากจะนอนกับใครสักคน ผมคงอยากจะไปหาหญิงสาวมากกว่าที่จะใช้วิธีนี้สกปรก ๆ เช่นนี้เพื่อให้ได้นอนกับคุณ”
เมื่อเธอได้ฟังที่ผมกล่าวออกไปจนหมดสิ้น ทันใดนั้นใบหน้าของหญิงสาวก็พลันแดงกล่ำอย่างโกรธเคืองขึ้นมา เธอพร้อมที่จะปาของในมือมายังผม แต่ก็ต้องหยุดความคิดนั้นเพราะอาจจะทำให้ไม่เหลืออะไรปิดบังร่างกายที่เธอเลย
ผมถือโอกาสมองร่างของเธอสองสามครั้งแล้วพูดต่อ “คืนนั้นผมเจอคุณโดยบังเอิญจริง ๆ ที่ผมตามคุณไปก็เพราะคุณสวยจนดึงดูดสายตาใครต่อใคร ผมก็เป็นเพียงอีกคนที่อยากจะหาโอกาสคุยเข้าหาคุณเพื่อที่จะได้พูดคุยสานต่อความสัมพันธ์”
“แต่ว่าผมมาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ไม่ได้เพื่อที่จะมาสวมรอยตามหาคุณแต่อย่างใด ผมพึ่งจะย้ายมาอยู่เมืองปินไห่ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมก็พึ่งจะยื่นเอกสารสมัครงานไว้ที่นี่ คุณไปตรวจสอบที่ฝ่ายบุคคลก็ได้นะครับ”
“เห็นหรือไม่ล่ะครับ” ผมที่แต่งตัวด้วยชุดทำงานสีฟ้า “พนักงานเบื้องหลัง หึ ฝ่ายโลจิสติกส์เชียวอ่อไม่สิครับ พนักงานเข็นรถส่งของ พนักงานจัดเตรียมความเรียบร้อยที่มีเกียรติ!”
พูดจบ ผมก็ไม่สนใจเธอ เปิดประตูของห้องทำงานเธอ ลากรถเข็นออกไปข้างนอก
พอออกไปข้างนอก อยู่ ๆ ผมก็คิดออกไรออก
“ถ้าจะพูดกันจริง ๆ แล้ว หุ่นคุณดีมาก! จนผมอยากจะเอามือไปสัมผัสเชียวล่ะ”
เมื่อได้เห็นสีหน้าแววตากลุ่นโกรธของเธอ ผลก็เดินลากรถเข็นออกไป
‘บ้าที่สุด เขามันบ้าที่สุด’ หญิงสาวได้แต่คิดในใจ
ถึงขนาดที่ว่าผมคิดว่าตัวเองควรที่จะหนีออกมาจากสถานที่ที่มีฟางเฟยอยู่
เพียงไม่นาน ผมยกเลิกที่จะทำตามความคิดนั้นไป
ผมไม่อยากที่จะหนีมันอีก มีเพียงแค่เผชิญหน้ายอมรับมันและปล่อยให้มันเป็นไป ถึงจะก้าวข้ามความเจ็บปวดนี้ และเริ่มต้นกับชีวิตใหม่
หรือบางที การเริ่มต้นกับความรักครั้งใหม่ อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
วันที่สอง ผมได้เริ่มหางานโดยการไปยื่นใบสมัครตำแหน่งพนักงานขายไว้ที่บริษัทแห่งหนึ่ง และรอการติดต่อกลับมา
ผมรอข่าวจากบริษัทมาสองวันแล้วก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา เมื่อเข้าวันที่สามผมเริ่มที่จะอยู่ไม่สุข ผมรีบออกจากบ้านมุ่งตรงไปยังบริษัทที่ส่งใบสมัครไว้
คนที่เคยทำงานมาแล้วสามปีอย่างผมรู้ดี หลายๆเรื่องไม่ควรที่จะรอคอยโอกาส แต่ต้องไขว่ขว้าเท่านั้นเราถึงจะมีโอกาส
และยิ่งไปกว่านั้นบริษัทหยู่เฟยนี้ ยังเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงในประเทศที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด
หลังจากตอนที่ผมได้เจอกับพนักงานฝ่ายบุคคลของบริษัทนี้ ถึงได้รู้ว่าสัปดาห์นี้การรับสมัครแผนกพนักงานขายของหยู่เฟยเต็มแล้ว และใบสมัครของผมไม่ได้รับเลือก ฉะนั้นแล้วผมก็หมดสิทธิ์ที่จะได้รับการสัมภาษณ์
เนื่องด้วยความคิดและความจริงใจของผม พนักงานคนนั้นบอกผมว่าประมาณสองสามเดือนหลังจากนี้ หยู่เฟยจะมีสินค้าใหม่ออกมา อาจจะมีการเปิดรับสมัครพนักงานขายอีก เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแนะนำผมกับผู้อำนวยการฝ่ายขาย เพราะเขาคิดว่าคนอย่างผมความสามารถในการทำงานต้องไม่ธรรมดา
แต่ถ้าผมยินยอมและเต็มใจก็สามารถอยู่ที่หยู่เฟยทำแผนกส่งเอกสารพัสดุไปก่อนได้ เพราะเขาสามารถช่วยจัดการให้ผมเข้าทำงานได้ทันที
หลังจากทำงานก็รู้ว่าจริง ๆ แล้วฝ่ายวัสดุก็เป็นแค่งานลูกหาบ ใครใช้ให้ทำอะไรผมก็ต้องทำ ผมเริ่มที่จะลังเลกับงานแห่งนี้
หยู่เฟยเป็นกลุ่มบริษัทรายใหญ่ที่ถือหุ้นมากที่สุดของเครือบริษัทหวนหยู่ที่อยู่เบื้องหลังบริษัทชั้นนำกว่าห้าร้อยแห่งทั่วโลก กล่าวได้ว่าเป็นมหาอำนาจรายใหญ่ที่มีเงินทุนมหาศาล เป็นบริษัทที่ทุกคนใฝ่ฝันและผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
หรือไม่อย่างนั้น ผมก็ทำงานเป็นลูกหาบไปก่อน สองสามเดือนหลังจากนี้ค่อยเปลี่ยนไปสมัครทำแผนกอื่นอีกครั้ง
คิดมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็ไปที่แผนกบุคลากรเพื่อส่งข้อมูล เขายินดีที่จะช่วยจัดการเพื่อให้ผมเข้าทำงานเป็นพนักงานเข็นรถเติมของ และผมก็ได้เข้าทำงานเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง
วันแรกที่ทำงานก่อนอื่นเลยก็ให้ทำความคุ้นเคยกับกฎเกณฑ์ตามขั้นตอนของบริษัท
ผมดันไปได้ยินเพื่อนร่วมงานคุยกันเกี่ยวกับเรื่องฝ่ายการขาย และผมก็เกิดความประหลาดใจขึ้นมาว่าผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทหยู่เฟยเป็นเพียงสาวงามที่อายุยี่สิบห้าปีเท่านั้น
กล่าวกันว่าสาวงามท่านนี้มีชื่อว่าเซี้ยหยุน จบมาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และก็กลับประเทศเพื่อมารับทำงานที่บริษัทหยู่เฟยทันที เริ่มจากนักวางแผนธรรมดาๆ เธอใช้เวลาเพียงสองปีก็ได้ขึ้นตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายขาย มันไม่ง่ายเลย เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและเก่งเพียบพร้อมไปซะทุกอย่างจริง ๆ!
ผมแสนจะสนใจผู้จัดการสาวสวยคนนี้เสียจริง อยากจะเห็นเหลือเกินว่าเธอเป็นผู้หญิงยังไงและผมตั้งตารอที่จะได้เป็นลูกน้องของผู้จัดการสาวสวยคนนี้
วันที่สอง ผมก็มาทำงานปกติ งานที่ผมทำจะต้องมาก่อนเวลาที่ทุกคนทำงานครึ่งชั่วโมง เพราะว่าจะต้องรีบเอาของที่ขาดของแต่ละห้องทำงานไปเติมก่อนที่พวกเขาจะมาทำงานกัน
ผมใส่เครื่องแบบสีฟ้าที่เตะตา ใส่หูฟังและเข็นรถเข็นเพื่อนำขวดน้ำ กระดาษทิชชู่ที่ขาดรวมไปถึงเทน้ำชาเตรียมไว้ให้กับทุกห้องทำงาน
ไม่นาน ก็มาถึงห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายการขาย ที่เล่ากันว่าเป็นห้องทำงานของสาวสวยเซี้ยหยุน เป็นแผนกที่จะมีกลิ่นหอมบาง ๆ อยู่
ที่นี่ไม่ในแผนกการเงิน ผมสามารถที่จะเข้าไปในห้องทำงานนี้ได้ ยิ่งกว่านั้นน้ำยาล้างมือของห้องน้ำของห้องทำงานห้องนี้ก็หมดแล้วด้วย ผมจึงต้องเข้าไปเติม
พึ่งจะเข้าไปในห้องน้ำนั้น หูฟังก็มีเสียงหัวหน้าฝ่ายวัสดุดังขึ้นมา คำดูถูกที่เกี่ยวกับงานลูกจ้างต่ำต้อยทำให้ผมได้แต่ทนฟังไปอย่างเงียบๆ
เพียงไม่นาน หัวหน้าก็พูดจบลง ผมถือเอาน้ำยาล้างมือที่หมดเดินหันออกห้องน้ำ
กำลังที่จะเหยียบก้าวออกจากประตู ทันใดนั้นก็พบว่ามีเงาคนขว้างอยู่ด้านหน้า พอเงยหน้าดู ก็พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม ในมือเธอถือชุดทำงานกระโปร่ง แต่ร่างกายกลับสวมเพียงชุดชั้นในลายลูกไม้
รูปร่างแบบนี้ช่างเพอร์เฟคสุดๆ!
ใบหน้ารูปไข่สวยๆนั้น แววตาโตที่ดูตกใจ คุ้นเคยกันดี!มันเป็นใบหน้าที่สวยงามที่ผมได้จดจำไว้ในคืนนั้น
“เอ่อ...” ผมได้แต่มองไปที่ร่างกายที่น่าดึงดูดของเธอ กลืนน้ำลาย และอดไม่ได้ที่จะครางเสียงต่ำ ๆ อยู่ในลำคอ และไม่สามารถที่จะหยุดคิดได้ คืนนั้น มือของผมยังจับอยู่บนหน้าอกอันอวบอึ๋ม
“นาย!!!”
หญิงสาวรีบเอามือที่ถือกระโปรงขึ้นมาปกปิดร่างกายเอาไว้ ใบหน้าขึ้นสีแดงกล่ำ ดวงตาฉายชัดถึงความโกรธวาวโรจขึ้นมา
“นาย! นายทำไมถึงอยู่ที่นี่ ทำไมถึงอยู่ที่ห้องทำงานของฉัน”
ผมกลับมามีสติ กลับมาขยับอย่างจำใจแล้วพูดว่า “ขอโทษครับขอโทษครับ!ผมพึ่งมาทำงานวันแรก...”
“แล้วทำไมต้องซ่อนอยู่ในห้องน้ำ” เธอโกรธมากอย่างเห็นได้ชัด
“นี้...” ผมชี้ไปที่ขวดน้ำยาล้างมือเปล่า “นี้ไม่ใช่เพราะมาเปลี่ยนน้ำยาล้างมือให้คุณหรือครับ ผมถึงได้มาอยู่ที่นี่”
หญิงสาวเงียบไป กระโปรงของเธอบังไม่มิดช่วงอกที่ยังอยู่ที่สภาพหวาบหวิว
“ออกไป!!!”
“เดี๋ยวก่อน!” หญิงสาวเรียกผมไว้อย่างกะทันหัน
ผมตื่นเต้นดีใจอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ทั้งยังกลับไปอยู่ตรงร่างกายที่มีสิ่งปกปิดที่ไม่สมบูรณ์ ผมมองจ้องเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของเธออย่างเด็ดเดี่ยว
“นายสะกดรอยตามฉันมาหรอ” นำเสียงของหญิงสาวเย็นยะเยือก
ผมงงงัน “ผมสะกดรอยตามอะไรคุณตอนไหนหรือครับ”
หญิงสาวหัวเราะเยาะขึ้นมา ร่างกายของเธอกลับมาดูสง่าและเย้อหยิ่ง สายตามองมาอย่างรังเกียจและพูดว่า “คืนนั้น นายบอกว่าถ้ามีโอกาสเจอกันอีกครั้ง นายจะจีบฉันนิ! ฉันก็ตกลงแล้วด้วยนี่”
“คุณตั้งใจสะกดรอยตามฉัน เข้ามาในบริษัท เพื่อที่จะมาจีบฉัน ฉันเดาถูกหรือเปล่าล่ะ หื้ม”
“อีกอย่าง ทุกคนในบริษัทก็ล้วนรู้ว่าฉันชอบมาเปลี่ยนชุดที่ห้องน้ำบริษัท นายหนะตั้งใจเขามาห้องน้ำในห้องทำงานของฉัน อยากจะมาถ้ำมองฉันใช่มั้ยล่ะ!”
ผมฟังเรื่องที่เธอพูดเสร็จ ผมเงียบสนิทไม่พูดจาตะลึงกับความสามารถเชิงตรรกะของหญิงสาวที่สามารถเสียเหลือเกินนี้ แม้เพียงสักคำก็พูดไม่ออก เขาจ้องมองไปที่เธออย่างว่างเปล่า
หญิงสาวมองเขาที่เอาแต่ยืนเหม่อ ก็คิดว่าตัวเองคิดถูกแล้ว ก็เลยยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “คนที่จีบฉันนะเยอะแล้ว ในหมู่พวกเขาก็มักจะมีแต่พวกคนที่หน้าตาเคร่งขรึมทำเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม แต่ว่าคนหยาบคายไม่รู้จักอับอายแบบนายนี่ฉันพึ่งเคยเจอเป็นครั้งแรกเลยนะ”
“อย่าคิดว่านายเคยช่วยฉันมาก่อน แล้วฉันจะทำกับดีกับคนหยาบคายแบบนาย ฉันยังสงสัยเลย คนจรจัดนั้นใช่นายจ้างมาหรือเปล่า”
ได้ยินแบบนี้ ผมแทบจะล้มลงไปบนพื้น
ผู้หญิงคนนี้เธอเป็นอะไรของเธอ เธอเป็นเชอร์ล็อค โฮล์มส์หรือ ในสายตาเธอผมก็คือคนที่เหลืออดจะทนงั้นสินะ
ผมหยาบคายก็จริง ความคิดไม่ดีก็จริง แต่ผมไม่เคยทำอะไรต่ำช้า แค่คิดยังไม่กล้าที่จะทำ!
คิดมาถึงขั้นนี้ ผมอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดขึ้นมาเองบ้างแล้วเช่นกัน ผมเงยหน้ามองตาเธอแล้วพูดว่า “พี่สาว ไม่รู้อะไรมาก่อน ก็อย่ามาพูดจาใส่ร้ายกัน”
“นายเรียกใครพี่สาว” หญิงสาวจองมองด้วยความโกรธ
ผมไม่ได้สนใจเธอ เพียงพูดต่อว่า “ที่จริงคุณเป็นคนสวยซึ่งมันกระตุ้นความอยากบางอย่างของผมมาก พูดง่าย ๆ ผมอยากนอนกับคุณก็จริง! ”
“แต่... ผมเฉินเทา เป็นคนตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์มากพอ ผมไม่เคยทำอะไรตามอำเภอใจถ้าผมอยากจะนอนกับใครสักคน ผมคงอยากจะไปหาหญิงสาวมากกว่าที่จะใช้วิธีนี้สกปรก ๆ เช่นนี้เพื่อให้ได้นอนกับคุณ”
เมื่อเธอได้ฟังที่ผมกล่าวออกไปจนหมดสิ้น ทันใดนั้นใบหน้าของหญิงสาวก็พลันแดงกล่ำอย่างโกรธเคืองขึ้นมา เธอพร้อมที่จะปาของในมือมายังผม แต่ก็ต้องหยุดความคิดนั้นเพราะอาจจะทำให้ไม่เหลืออะไรปิดบังร่างกายที่เธอเลย
ผมถือโอกาสมองร่างของเธอสองสามครั้งแล้วพูดต่อ “คืนนั้นผมเจอคุณโดยบังเอิญจริง ๆ ที่ผมตามคุณไปก็เพราะคุณสวยจนดึงดูดสายตาใครต่อใคร ผมก็เป็นเพียงอีกคนที่อยากจะหาโอกาสคุยเข้าหาคุณเพื่อที่จะได้พูดคุยสานต่อความสัมพันธ์”
“แต่ว่าผมมาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ไม่ได้เพื่อที่จะมาสวมรอยตามหาคุณแต่อย่างใด ผมพึ่งจะย้ายมาอยู่เมืองปินไห่ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมก็พึ่งจะยื่นเอกสารสมัครงานไว้ที่นี่ คุณไปตรวจสอบที่ฝ่ายบุคคลก็ได้นะครับ”
“เห็นหรือไม่ล่ะครับ” ผมที่แต่งตัวด้วยชุดทำงานสีฟ้า “พนักงานเบื้องหลัง หึ ฝ่ายโลจิสติกส์เชียวอ่อไม่สิครับ พนักงานเข็นรถส่งของ พนักงานจัดเตรียมความเรียบร้อยที่มีเกียรติ!”
พูดจบ ผมก็ไม่สนใจเธอ เปิดประตูของห้องทำงานเธอ ลากรถเข็นออกไปข้างนอก
พอออกไปข้างนอก อยู่ ๆ ผมก็คิดออกไรออก
“ถ้าจะพูดกันจริง ๆ แล้ว หุ่นคุณดีมาก! จนผมอยากจะเอามือไปสัมผัสเชียวล่ะ”
เมื่อได้เห็นสีหน้าแววตากลุ่นโกรธของเธอ ผลก็เดินลากรถเข็นออกไป
‘บ้าที่สุด เขามันบ้าที่สุด’ หญิงสาวได้แต่คิดในใจ
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved