บทที่ 10 คนที่แสนจะเดียวดาย
by อีหูเหล่าเหนี่ยว
10:49,Dec 28,2020
ผมเดินมาหยุดที่ห้องบันไดหนีไฟ ผมนั่งลงทีบันไดและจุดไฟบุหรี่เพื่อจะสูบมันอีกครั้ง
ผมรู้สึกเหงามาก อาจเป็นเพราะเซี้ยหยุนต้องการจะให้ผมรีบไปจากทีนี้กระมัง มันคล้ายกับสะกิดไปตรงแผลในใจผมพอดิบพอดี เหมือนตอนที่ฟางเฟยคนใจร้ายคนนั้นที่ทิ้งผมไป
ผมไม่โทษเซี้ยหยุนหรอก เพราะผมที่มาปรากฏต่อหน้าเธอก็เป็นเพียงแค่คนหยาบคายและบ้ากามเท่านั้น
เธอมองเห็นแต่ความหยาบคายของผม เธอมองไม่เห็นความอ่อนแอในใจผมและเธอก็คงมองไม่เห็นสิ่งที่ผมปรารถนาในชีวิตและความหวังในเรื่องความรักของผม
หึ ๆ อันที่จริงผมก็หวังในร่างกายเธอมากด้วยเหมือนกัน
คิดถึงตอนนี้ผมก็อดที่จะหัวเราะเยาะไม่ได้เลย หัวเราะอย่างบ้าคลั่งในความเหงาและรู้เดียวดายของตนเองนี้
ผมอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงตอนที่ผมแกล้งเซี้ยหยุนหลังจากได้รับงานของเกมส์อัจฉริยะนั่น
อยากที่จะกดเธอลงใต้หว่างขาผมจริง ๆ และเอาชนะเธอให้ได้!
ใช้ร่างหนา ๆ ของผมกดเธอไว้ด้านล่าง สับสน มัวเมา ไม่เป็นตัวของตัวเอง และหายใจหอบอยู่ใต้ร่างกายของผม ร่ำร้องหาเพียงแต่ผม
“หึ ๆ” ผมยิ้มหัวเราะพร้อมกับโยนก้นบุหรี่ทิ้ง ยืนขึ้นและออกจากบันไดหนีไฟไป
ไปพักผ่อนสักหน่อย แล้วเตรียมที่จะออกไปรับมือกับเสี่ยหูคุนบริษัทเกมส์อัจฉริยะ
ชีวิตของผมไม่ต้องการความกล้าหาญมากนัก เพียงต้องการความสุข ต่อให้จะเป็นความสุขที่ไร้หัวใจ
ผมฟุบตัวนอนลงบนโต๊ะทำงานสักพัก พอถึงเวลาเข้างานตอนบ่าย หลังจากนั้นผมก็ไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างมือล้างหน้า เสี่ยวเป้ยเธอเองก็ได้นั่งลงเตรียมพร้อมทำงานต่อที่โต๊ะทำงานของเธอเองแล้ว
“คุณเฉินเทา” เมื่อเห็นผมกลับมา เสี่ยวเป้ยพูดอย่างเศร้า ๆ ว่า “มีข่าวลือในบริษัทว่าถ้าคุณไม่สามารถทำงานของบริษัทเกมส์อัจฉริยะได้สำเร็จ คุณจะถูกไล่ออกใช่มั้ยคะ”
ผมไม่แปลกใจเลย แน่นอนว่าเซี้ยหยุนจะไม่บอกเรื่องการพนันกับคนอื่น แต่เธอจะต้องบอกให้แผนกการขายให้ไล่ผมออกถ้าหากว่าผมทำตามคำท้าพนันไม่สำเร็จ
ผมยิ้มอย่างสบาย ๆ ตอบกลับไปว่า “ครับ เป็นอะไรไปหรือ”
“ฉันไม่อยากให้คุณถูกไล่ออก ฉันรู้สึกว่าคุณเป็นคนดีค่ะ”
ทำพูดของเสี่ยวเป้ยทำให้ผมอุ่นใจขึ้นมา “หึหึ คุณก็คิดว่าผมจะจัดการกับงานของบริษัทเกมส์อัจฉริยะไม่ได้หรือ”
“ค่ะ” เสี่ยวเป้ยพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “ทุกคนในบริษัทต่างพูดกันว่าคุณไม่สามารถจะจัดการกับงานนั้นให้สำเร็จได้ พวกเขารอที่จะหัวเราะคุณอยู่”
ผมเงยหน้าขึ้นไปมองรอบ ๆ เจอแต่คนรอบข้างที่ก็ต่างชี้มาที่ผมและพูดซุบซิบจับกลุ่มนินทาบางอะไรกันอีกแล้ว
ผมเบื่อที่จะสนใจพวกเขาแล้วหยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นมา ยิ้มให้กับเสี่ยวเป้ยแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ งานของบริษัทเกมส์อัจฉริยะนี่หนีผมไม่พ้นหรอก ผมไปล่ะครับ รอข่าวดีอยู่ที่นี่เถอะ”
พูดจบ ผมก็ไม่สนใจสายตาที่ประหลาดใจของเสี่ยวเป้ยแล้วหันหลังเดินออกนอกประตูไป
ระหว่างทางที่ผมเดินออกจากบริษัท เหมือนว่าทุกคนที่ผมพบจะมองผมด้วยสายตาแปลก ๆ และมีไม่น้อยที่ยิ้มเยาะเย้ยผม
ผมพึ่งจะเดินพ้นออกจากประตูบริษัทและได้พบกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหลายคน ในหมู่พวกเขาก็มีคนที่คุยกับผมตอนที่กินข้าวนั่นอยู่ด้วยอย่างหลิวเทียนหยาง
“เฉินเทา” อยู่ ๆ หลิวเทียนหยางก็เรียกผมด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ผมหันกลับมา มองไปที่เขาอย่างนิ่งเงียบ “รองประธานหลิวเรียกหาผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ”
“เหอะ!” เสียงเย็นชาของหลิวเทียนหยาง “นายต้องการจะไปที่บริษัทเกมส์อัจฉริยะใช่ไหม”
“`ใช่ครับ” ผมพยักหน้า
“นายไปบอกหูคุนแทนผมให้หน่อยว่า เขาอย่าฝันกลางวันนักเลย เป็นแค่คางคกอย่าคิดที่จะมากินเนื้อหงส์เลย”
ขณะที่เขาพูด หลิวเทียนหยางก็มองผมด้วยสายตาดูถูก “แล้วนายก็รีบขนของออกไปเถอะไป!”
ผมก็ยิ้ม ๆ ไม่อยากจะสนใจเขามาก ผมหันหลังเดินออกมา
ไอ้หน้าตี๋เอ้ย อยากจะให้ผมอับอาย นายยังอ่อนไปว่ะครับ
คนที่หยาบกระด้างอย่างผมไม่ต้องการที่จะอธิบายอะไรอยู่แล้ว
เมื่อมาถึงบริษัทเกมส์อัจฉริยะ ก็ต้องพบกับสายตาแย่ ๆ ที่ดูถูกคนของเลขาจางอีกเช่นเคย
ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เลขาจางก็กลอกตาด้วยความรังเกียจแล้วพูดว่า “นายจะมาทำไมอีก ไม่ใช่บอกไปแล้วเหรอว่าให้ประธานเซี้ยมาด้วยตัวเอง”
ผมกลั้นความโกรธและฝืนยิ้มพูดออกไปว่า “เลขาจางครับ รบกวนคุณไปบอกประธานหูว่าประธานเซี้ยของเรามีข้อความที่ฝากให้ผมมาพูดกับเขาครับ”
“มีเรื่องอะไรจะพูดก็พูดกับฉันนี่แหละ” เลขาจางหันหน้าหนีอย่างไม่สนใจที่จะมองผม
“ขอโทษครับ ประธานเซี้ยบอกแล้วว่าคำพูดนี้จะต้องให้ผมพูดกับประธานหูเท่านั้น”
เลขาจางเบะปากแล้วพูดว่า “นายรออยู่ที่นี่แหละ” พูดจบเธอก็หันสะโพกกลม ๆ ของเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของประธานหู
เพียงไม่นาน ประตูห้องทำงานของหูคุณก็เปิดออก เลขาจางออกมาพูดอยู่หน้าประตูพร้อมกวักมือเรียกผมไปด้วยว่า “มานี่ ประธานหูต้องการเจอนาย”
แม่งเอ้ย! ในที่สุดก็จะได้เจอไอ้คนระยำหูคุนคนนี้แล้วสินะ
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เดินเข้าไปที่ห้องทำงานของเสี่ยหูคุน เพียงแวบเดียวที่ผมเห็นหูคุนนั่งดื่มชาอยู่ที่โซฟาอย่างสบายใจ ลักษณะหัวโล้นใหญ่ หูใหญ่ พุงพุ้ย ท่าทางเสี่ยจริง ๆ ด้วยว่ะครับ
“สวัสดีครับประธานหู” ผมยิ้มอย่างมืออาชีพแล้วเดินเข้าไปหาหูคุน
“อ้อ เฉินเทาใช่ไหม มามานั่งก่อนสิ” หูคุนไม่ได้ลุกขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าของเขา แต่กลับชี้ไปที่โซฟาฝั่งตรงข้าม
ผมเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟานั้นอย่างกล้าหาญ
หูคุนล้างแก้วชาและเทน้ำชาให้ผมพร้อมกับพูดว่า “ไอ้หยา! ผมได้ฟังจากที่คุณจางพูดแล้วว่าคุณมาหาผมหลายวันแล้ว แต่ทว่าหลายวันมานี้ผมไม่มีเวลาว่างเลยนี่สิ ผมขอโทษด้วยที่ไม่มีเวลาให้คุณหนะนะ”
ขณะที่พูดนั้นเขาก็ดันแก้วชามาไว้ที่ด้านหน้าของผม “มา ดื่มชาก่อน”
หูคุนทำธุรกิจอยู่ในวงการนี้มานาน ภายนอกก็ดูเป็นคนที่ดูดีเลยทีเดียว ท่าทีที่มีต่อพนักงานเล็ก ๆ อย่างผมแล้วก็ไม่ได้แสดงออกว่ารังเกียจอะไรมากมาย
“อย่างงั้นต้องขอบคุณประธานหูแล้วล่ะครับ ประธานหูครับเชิญสูบบุหรี่” ผมพูดด้วยความสุภาพและไม่รีบหยิบถ้วยน้ำชา แต่ผมหยิบบุหรี่ดี ๆ ที่ซื้อมาล่วงหน้าหนึ่งซองแล้วยื่นให้หูคุน จากนั้นผมจุดไฟให้เขาจากนั้นผมค่อยหยิบน้ำชาขึ้นมาจิบ การที่ผมเชิญเขาสูบบุหรี่เป็นมารยาทของผู้น้อยที่ควรแสดงความเคารพต่อคนที่ตัวคิดว่าอยู่สูงกว่านั้นถูกต้องแล้ว แน่นอนว่าผมแสดงละคร......
ดูเหมือนหูคุนจะพอใจในสิ่งที่ผมทำ สูบบุหรี่ไปหนึ่งทีแล้วมองมาที่ผมพร้อมกับพูดว่า “จากที่คุณจางบอก ประธานเซี้ยของนายมีเรื่องฝากมาบอกฉันรึ”
“ใช่ครับ ประธานหูอย่าพึ่งโกรธนะครับ” ผมพยักหน้า “ประธานเซี้ยตอนนี้ เธอไม่มาพบคุณแน่ และยิ่งไม่ยอมรับคุณด้วย”
พอพูดเสร็จ หน้าของหูคุนก็เศร้าอย่างเห็นได้ชัด
ผมรู้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนอย่างไอ้เสี่ยหูคุนคนนี้ ผมไม่จำเป็นต้องมานั่งเกรงอกเกรงใจหรือลดตัวอะไรมากนักหรอก ถ้าคุณยิ่งถ่อมตัว เขาก็จะยิ่งดูถูกคุณหนะสิ
“หึหึ” ผมยิ้มแล้วพูดว่า “ประธานหู พวกเราไม่พูดเรื่องงานระหว่างสองบริษัทดีกว่านะครับ แต่มาพูดเรื่องประธานหูกับประธานเซี้ยของพวกเราดีกว่า มีคำพูดบางคำที่ประธานหูอาจไม่อยากที่จะได้ยิน แต่ทุกประโยคเป็นความคิดมุมมองของผมเอง ประธานหูโปรดรับฟังเพื่อพิจารณาด้วยครับ”
“พูดสิ” หูคุนทำหน้าเขร่งขรึม
“ถ้าอย่างงั้นผมจะพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าประธานเซี้ยเป็นหญิงสาวที่จบมาจากหมาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงรูปร่างหน้าตาเลย คนที่จีบเธอทุกคนล้วนออกจากภวังค์นี้ไม่ได้ แต่ในหมู่พวกเขา ประธานหูครับ คุณเป็นคนที่มีแนวโน้มน้อยที่สุด”
สีหน้าของหูคุนเปลี่ยนไปแย่ลงกว่าเดิมมาก ๆ ผมก็ไม่สนใจเขาและพูดต่อ “พูดตามหลักแล้ว ผู้หญิงที่มีความสามารถมักจะชอบผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นคง ประธานหูครับ ท่านเป็นคนมีสิ่งนี้นะครับ แต่ว่าประธานหูแสดงออกมามากเกินไป ท่านใจกว้างเกินไป”
“นายหมายความว่าอย่างไร” ใบหน้าของหูคุนดูไม่พอใจ
ผมมองเขาอย่างไม่กลัวและพูดต่อ “ประธานหูหากคุณเอาเรื่องงานพวกนี้มาข่มขู่เธอ ถ้าประธานเซี้ยอย่างไรก็ไม่ยอมมาพบคุณล่ะ คุณก็จะไปเซ็นสัญญากับบริษัทอื่นใช่หรือไม่ครับ แล้วอย่างนี้คุณคิดว่าคนแบบนี้ใจกว้างพอไหม ประธานเซี้ยของเราเป็นคนที่หยิ่งผยอง คุณคิดว่าเธอจะยอมจำนนต่อวิธีการของประธานหูหรือครับ”
“วิธีนี้สามารถเอาชนะผู้หญิงอื่นได้ แต่กลับประธานเซี้ยของเราเธอตรงกันข้ามครับ ผมกล้ารับรองเลยว่าผู้ชายที่เธอชอบจะต้องเป็นผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นคง ความหมายของผมก็คือมีจิตใจกว้างขวาง รวมไปถึงมีความอดทนอีกด้วยนะครับ”
“นอกจากนี้ ประธานหูคอยให้เลขาสาว ๆ สวย ๆ เข้ามาเฝ้าอยู่ที่ประตูของคุณตลอด คุณคิดว่าประธานเซี้ยจะยอมมาหาคุณหรือไม่ครับ”
หลังจากพูดจบผมก็พักดื่มชา ให้เวลาหูคุนได้ไตร่ตรอง
เท่าที่ผมรู้ หูคุนไม่เข้าใจจิตใจของผู้หญิง มีเพียงเงินที่จะทำให้ได้สาว ๆ มาครอบครองก็เท่านั้น ผมคิดว่าเขาไม่ได้โง่ขนาดจะไล่ผมออกไปตอนนี้แน่
ผมรู้สึกเหงามาก อาจเป็นเพราะเซี้ยหยุนต้องการจะให้ผมรีบไปจากทีนี้กระมัง มันคล้ายกับสะกิดไปตรงแผลในใจผมพอดิบพอดี เหมือนตอนที่ฟางเฟยคนใจร้ายคนนั้นที่ทิ้งผมไป
ผมไม่โทษเซี้ยหยุนหรอก เพราะผมที่มาปรากฏต่อหน้าเธอก็เป็นเพียงแค่คนหยาบคายและบ้ากามเท่านั้น
เธอมองเห็นแต่ความหยาบคายของผม เธอมองไม่เห็นความอ่อนแอในใจผมและเธอก็คงมองไม่เห็นสิ่งที่ผมปรารถนาในชีวิตและความหวังในเรื่องความรักของผม
หึ ๆ อันที่จริงผมก็หวังในร่างกายเธอมากด้วยเหมือนกัน
คิดถึงตอนนี้ผมก็อดที่จะหัวเราะเยาะไม่ได้เลย หัวเราะอย่างบ้าคลั่งในความเหงาและรู้เดียวดายของตนเองนี้
ผมอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงตอนที่ผมแกล้งเซี้ยหยุนหลังจากได้รับงานของเกมส์อัจฉริยะนั่น
อยากที่จะกดเธอลงใต้หว่างขาผมจริง ๆ และเอาชนะเธอให้ได้!
ใช้ร่างหนา ๆ ของผมกดเธอไว้ด้านล่าง สับสน มัวเมา ไม่เป็นตัวของตัวเอง และหายใจหอบอยู่ใต้ร่างกายของผม ร่ำร้องหาเพียงแต่ผม
“หึ ๆ” ผมยิ้มหัวเราะพร้อมกับโยนก้นบุหรี่ทิ้ง ยืนขึ้นและออกจากบันไดหนีไฟไป
ไปพักผ่อนสักหน่อย แล้วเตรียมที่จะออกไปรับมือกับเสี่ยหูคุนบริษัทเกมส์อัจฉริยะ
ชีวิตของผมไม่ต้องการความกล้าหาญมากนัก เพียงต้องการความสุข ต่อให้จะเป็นความสุขที่ไร้หัวใจ
ผมฟุบตัวนอนลงบนโต๊ะทำงานสักพัก พอถึงเวลาเข้างานตอนบ่าย หลังจากนั้นผมก็ไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างมือล้างหน้า เสี่ยวเป้ยเธอเองก็ได้นั่งลงเตรียมพร้อมทำงานต่อที่โต๊ะทำงานของเธอเองแล้ว
“คุณเฉินเทา” เมื่อเห็นผมกลับมา เสี่ยวเป้ยพูดอย่างเศร้า ๆ ว่า “มีข่าวลือในบริษัทว่าถ้าคุณไม่สามารถทำงานของบริษัทเกมส์อัจฉริยะได้สำเร็จ คุณจะถูกไล่ออกใช่มั้ยคะ”
ผมไม่แปลกใจเลย แน่นอนว่าเซี้ยหยุนจะไม่บอกเรื่องการพนันกับคนอื่น แต่เธอจะต้องบอกให้แผนกการขายให้ไล่ผมออกถ้าหากว่าผมทำตามคำท้าพนันไม่สำเร็จ
ผมยิ้มอย่างสบาย ๆ ตอบกลับไปว่า “ครับ เป็นอะไรไปหรือ”
“ฉันไม่อยากให้คุณถูกไล่ออก ฉันรู้สึกว่าคุณเป็นคนดีค่ะ”
ทำพูดของเสี่ยวเป้ยทำให้ผมอุ่นใจขึ้นมา “หึหึ คุณก็คิดว่าผมจะจัดการกับงานของบริษัทเกมส์อัจฉริยะไม่ได้หรือ”
“ค่ะ” เสี่ยวเป้ยพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “ทุกคนในบริษัทต่างพูดกันว่าคุณไม่สามารถจะจัดการกับงานนั้นให้สำเร็จได้ พวกเขารอที่จะหัวเราะคุณอยู่”
ผมเงยหน้าขึ้นไปมองรอบ ๆ เจอแต่คนรอบข้างที่ก็ต่างชี้มาที่ผมและพูดซุบซิบจับกลุ่มนินทาบางอะไรกันอีกแล้ว
ผมเบื่อที่จะสนใจพวกเขาแล้วหยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นมา ยิ้มให้กับเสี่ยวเป้ยแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ งานของบริษัทเกมส์อัจฉริยะนี่หนีผมไม่พ้นหรอก ผมไปล่ะครับ รอข่าวดีอยู่ที่นี่เถอะ”
พูดจบ ผมก็ไม่สนใจสายตาที่ประหลาดใจของเสี่ยวเป้ยแล้วหันหลังเดินออกนอกประตูไป
ระหว่างทางที่ผมเดินออกจากบริษัท เหมือนว่าทุกคนที่ผมพบจะมองผมด้วยสายตาแปลก ๆ และมีไม่น้อยที่ยิ้มเยาะเย้ยผม
ผมพึ่งจะเดินพ้นออกจากประตูบริษัทและได้พบกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหลายคน ในหมู่พวกเขาก็มีคนที่คุยกับผมตอนที่กินข้าวนั่นอยู่ด้วยอย่างหลิวเทียนหยาง
“เฉินเทา” อยู่ ๆ หลิวเทียนหยางก็เรียกผมด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ผมหันกลับมา มองไปที่เขาอย่างนิ่งเงียบ “รองประธานหลิวเรียกหาผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ”
“เหอะ!” เสียงเย็นชาของหลิวเทียนหยาง “นายต้องการจะไปที่บริษัทเกมส์อัจฉริยะใช่ไหม”
“`ใช่ครับ” ผมพยักหน้า
“นายไปบอกหูคุนแทนผมให้หน่อยว่า เขาอย่าฝันกลางวันนักเลย เป็นแค่คางคกอย่าคิดที่จะมากินเนื้อหงส์เลย”
ขณะที่เขาพูด หลิวเทียนหยางก็มองผมด้วยสายตาดูถูก “แล้วนายก็รีบขนของออกไปเถอะไป!”
ผมก็ยิ้ม ๆ ไม่อยากจะสนใจเขามาก ผมหันหลังเดินออกมา
ไอ้หน้าตี๋เอ้ย อยากจะให้ผมอับอาย นายยังอ่อนไปว่ะครับ
คนที่หยาบกระด้างอย่างผมไม่ต้องการที่จะอธิบายอะไรอยู่แล้ว
เมื่อมาถึงบริษัทเกมส์อัจฉริยะ ก็ต้องพบกับสายตาแย่ ๆ ที่ดูถูกคนของเลขาจางอีกเช่นเคย
ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เลขาจางก็กลอกตาด้วยความรังเกียจแล้วพูดว่า “นายจะมาทำไมอีก ไม่ใช่บอกไปแล้วเหรอว่าให้ประธานเซี้ยมาด้วยตัวเอง”
ผมกลั้นความโกรธและฝืนยิ้มพูดออกไปว่า “เลขาจางครับ รบกวนคุณไปบอกประธานหูว่าประธานเซี้ยของเรามีข้อความที่ฝากให้ผมมาพูดกับเขาครับ”
“มีเรื่องอะไรจะพูดก็พูดกับฉันนี่แหละ” เลขาจางหันหน้าหนีอย่างไม่สนใจที่จะมองผม
“ขอโทษครับ ประธานเซี้ยบอกแล้วว่าคำพูดนี้จะต้องให้ผมพูดกับประธานหูเท่านั้น”
เลขาจางเบะปากแล้วพูดว่า “นายรออยู่ที่นี่แหละ” พูดจบเธอก็หันสะโพกกลม ๆ ของเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของประธานหู
เพียงไม่นาน ประตูห้องทำงานของหูคุณก็เปิดออก เลขาจางออกมาพูดอยู่หน้าประตูพร้อมกวักมือเรียกผมไปด้วยว่า “มานี่ ประธานหูต้องการเจอนาย”
แม่งเอ้ย! ในที่สุดก็จะได้เจอไอ้คนระยำหูคุนคนนี้แล้วสินะ
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เดินเข้าไปที่ห้องทำงานของเสี่ยหูคุน เพียงแวบเดียวที่ผมเห็นหูคุนนั่งดื่มชาอยู่ที่โซฟาอย่างสบายใจ ลักษณะหัวโล้นใหญ่ หูใหญ่ พุงพุ้ย ท่าทางเสี่ยจริง ๆ ด้วยว่ะครับ
“สวัสดีครับประธานหู” ผมยิ้มอย่างมืออาชีพแล้วเดินเข้าไปหาหูคุน
“อ้อ เฉินเทาใช่ไหม มามานั่งก่อนสิ” หูคุนไม่ได้ลุกขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าของเขา แต่กลับชี้ไปที่โซฟาฝั่งตรงข้าม
ผมเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟานั้นอย่างกล้าหาญ
หูคุนล้างแก้วชาและเทน้ำชาให้ผมพร้อมกับพูดว่า “ไอ้หยา! ผมได้ฟังจากที่คุณจางพูดแล้วว่าคุณมาหาผมหลายวันแล้ว แต่ทว่าหลายวันมานี้ผมไม่มีเวลาว่างเลยนี่สิ ผมขอโทษด้วยที่ไม่มีเวลาให้คุณหนะนะ”
ขณะที่พูดนั้นเขาก็ดันแก้วชามาไว้ที่ด้านหน้าของผม “มา ดื่มชาก่อน”
หูคุนทำธุรกิจอยู่ในวงการนี้มานาน ภายนอกก็ดูเป็นคนที่ดูดีเลยทีเดียว ท่าทีที่มีต่อพนักงานเล็ก ๆ อย่างผมแล้วก็ไม่ได้แสดงออกว่ารังเกียจอะไรมากมาย
“อย่างงั้นต้องขอบคุณประธานหูแล้วล่ะครับ ประธานหูครับเชิญสูบบุหรี่” ผมพูดด้วยความสุภาพและไม่รีบหยิบถ้วยน้ำชา แต่ผมหยิบบุหรี่ดี ๆ ที่ซื้อมาล่วงหน้าหนึ่งซองแล้วยื่นให้หูคุน จากนั้นผมจุดไฟให้เขาจากนั้นผมค่อยหยิบน้ำชาขึ้นมาจิบ การที่ผมเชิญเขาสูบบุหรี่เป็นมารยาทของผู้น้อยที่ควรแสดงความเคารพต่อคนที่ตัวคิดว่าอยู่สูงกว่านั้นถูกต้องแล้ว แน่นอนว่าผมแสดงละคร......
ดูเหมือนหูคุนจะพอใจในสิ่งที่ผมทำ สูบบุหรี่ไปหนึ่งทีแล้วมองมาที่ผมพร้อมกับพูดว่า “จากที่คุณจางบอก ประธานเซี้ยของนายมีเรื่องฝากมาบอกฉันรึ”
“ใช่ครับ ประธานหูอย่าพึ่งโกรธนะครับ” ผมพยักหน้า “ประธานเซี้ยตอนนี้ เธอไม่มาพบคุณแน่ และยิ่งไม่ยอมรับคุณด้วย”
พอพูดเสร็จ หน้าของหูคุนก็เศร้าอย่างเห็นได้ชัด
ผมรู้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนอย่างไอ้เสี่ยหูคุนคนนี้ ผมไม่จำเป็นต้องมานั่งเกรงอกเกรงใจหรือลดตัวอะไรมากนักหรอก ถ้าคุณยิ่งถ่อมตัว เขาก็จะยิ่งดูถูกคุณหนะสิ
“หึหึ” ผมยิ้มแล้วพูดว่า “ประธานหู พวกเราไม่พูดเรื่องงานระหว่างสองบริษัทดีกว่านะครับ แต่มาพูดเรื่องประธานหูกับประธานเซี้ยของพวกเราดีกว่า มีคำพูดบางคำที่ประธานหูอาจไม่อยากที่จะได้ยิน แต่ทุกประโยคเป็นความคิดมุมมองของผมเอง ประธานหูโปรดรับฟังเพื่อพิจารณาด้วยครับ”
“พูดสิ” หูคุนทำหน้าเขร่งขรึม
“ถ้าอย่างงั้นผมจะพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าประธานเซี้ยเป็นหญิงสาวที่จบมาจากหมาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงรูปร่างหน้าตาเลย คนที่จีบเธอทุกคนล้วนออกจากภวังค์นี้ไม่ได้ แต่ในหมู่พวกเขา ประธานหูครับ คุณเป็นคนที่มีแนวโน้มน้อยที่สุด”
สีหน้าของหูคุนเปลี่ยนไปแย่ลงกว่าเดิมมาก ๆ ผมก็ไม่สนใจเขาและพูดต่อ “พูดตามหลักแล้ว ผู้หญิงที่มีความสามารถมักจะชอบผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นคง ประธานหูครับ ท่านเป็นคนมีสิ่งนี้นะครับ แต่ว่าประธานหูแสดงออกมามากเกินไป ท่านใจกว้างเกินไป”
“นายหมายความว่าอย่างไร” ใบหน้าของหูคุนดูไม่พอใจ
ผมมองเขาอย่างไม่กลัวและพูดต่อ “ประธานหูหากคุณเอาเรื่องงานพวกนี้มาข่มขู่เธอ ถ้าประธานเซี้ยอย่างไรก็ไม่ยอมมาพบคุณล่ะ คุณก็จะไปเซ็นสัญญากับบริษัทอื่นใช่หรือไม่ครับ แล้วอย่างนี้คุณคิดว่าคนแบบนี้ใจกว้างพอไหม ประธานเซี้ยของเราเป็นคนที่หยิ่งผยอง คุณคิดว่าเธอจะยอมจำนนต่อวิธีการของประธานหูหรือครับ”
“วิธีนี้สามารถเอาชนะผู้หญิงอื่นได้ แต่กลับประธานเซี้ยของเราเธอตรงกันข้ามครับ ผมกล้ารับรองเลยว่าผู้ชายที่เธอชอบจะต้องเป็นผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นคง ความหมายของผมก็คือมีจิตใจกว้างขวาง รวมไปถึงมีความอดทนอีกด้วยนะครับ”
“นอกจากนี้ ประธานหูคอยให้เลขาสาว ๆ สวย ๆ เข้ามาเฝ้าอยู่ที่ประตูของคุณตลอด คุณคิดว่าประธานเซี้ยจะยอมมาหาคุณหรือไม่ครับ”
หลังจากพูดจบผมก็พักดื่มชา ให้เวลาหูคุนได้ไตร่ตรอง
เท่าที่ผมรู้ หูคุนไม่เข้าใจจิตใจของผู้หญิง มีเพียงเงินที่จะทำให้ได้สาว ๆ มาครอบครองก็เท่านั้น ผมคิดว่าเขาไม่ได้โง่ขนาดจะไล่ผมออกไปตอนนี้แน่
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved