บทที่ 5 เศรษฐีที่โง่เง่า
by อีหูเหล่าเหนี่ยว
10:47,Dec 28,2020
“นาย...นายมันไอ้โรคจิต”
แทบจะไม่ต้องคิดอะไรเลย เซี้ยหยุนพูดทั้งโมโห “ดี! ถ้านายทำไม่สำเร็จ นายก็ไปให้ไกล ๆ ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้านายอีก!”
“คำไหนคำนั้น!” ผมยังคงยิ้มอยู่
“งั้นตอนนี้นายก็ออกไปให้พ้นหน้าฉันเลย!”
เซี้ยหยุนไล่ผมออกจากห้องทำงานของเธอเขาเสียงดัง ผมยิ้มอย่างมีชัยออกมา ท่ามกลางสายตาแปลกประหลาดของคนทั้งแผนก
ผมพบว่าช่างเป็นอะไรที่วิเศษมากที่ได้หยอกเล่นกับเจ้านายผู้หญิงสวย ๆ ในห้องทำงาน เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและวิเศษสุด ๆ ไปเลย!
กลับมาที่แผนกส่งวัสดุไม่นาน ยังไม่ทันที่จะดูข้อมูลในเอกสารนั่น คำสั่งย้ายก็มาถึงแล้ว ผมและเพื่อนพนักงานได้รับมอบหมายงานง่ายๆ ผมเปลี่ยนจากชุดทำงานสีฟ้าเป็นชุดสูท หลังจากนั้นก็กลับไปที่ชั้นเก้า
เช่นเดียวกันกับบริษัทใหญ่ ๆ แผนกการขายของหยู่เฟยได้รับหมอบหมายให้ดูแลสามแผนก แบ่งเป็นฝ่ายการตลาด ฝ่ายการขาย และฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ
ฝ่ายการตลาดรับผิดชอบเรื่องข่าวสาร โครงการ เผยแพร่ ฯลฯ มักจะทำงานอยู่กับโต๊ะ คนแบบผมเป็นประเภทที่ชอบทำงานหน้างานหรือออกไปลุยข้างนอกมากกว่า เป็นธรรมดาที่ผมจะอยากอยู่แผนกการขายนี้
ก่อนอื่นต้องไปรายงานตัวกับหัวหน้าแผนกการขายที่ห้องทำงาน หัวหน้าเป็นคนวัยกลางคนที่ค่อนข้างผอม เขาใช้สายตาแปลก ๆ มองมาที่ผมพร้อมกับพูดแนวต้อนรับและให้กำลังใจผมนิดหน่อย หลังจากเขาพูดจบเขาก็ให้ผู้ช่วยของเขาพาผมไปที่โต๊ะทำงานและให้ทำความคุ้นเคยกับวิธีการทำงาน
ถึงแม้ว่าคนที่ออกไปทำงานส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย แต่ว่าแผนกการขายของหยู่เฟยก็มีไม่น้อยที่เป็นผู้หญิง โดยเฉพาะงานที่เป็นงานขายกับงานเอกสารที่ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานนอกบริษัทหรือไปพบใคร
โต๊ะด้านขวาที่ถัดไปจากโต๊ะทำงานผม เป็นเด็กผู้สาวที่ทั้งสวยทั้งน่ารักนั่งอยู่ หลังจากเห็นผมนั่งลง เธอพูดอย่างใจดีพร้อมกับยิ้มและพยักหน้าว่า “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลัวเสี่ยวเป้ย”
“ผมชื่อเฉินเทาครับ ชื่อของคุณเพราะจังเลยนะครับ” ผมยิ้มเบา ๆ แล้วพยักหน้าให้เขา
“ขอบคุณค่ะ ต่อไปนี้เรียกฉันว่าเสี่ยวเป้ยก็พอค่ะ ใช่สิ! คุณรับผิดชอบดูแลกิจการในพื้นที่นั้นเหรอคะ”
ผมมือหนึ่งเปิดเอกสารที่หนีบอยู่ไปด้วย พูดพร้อมพยักหน้าไปด้วยว่า “ผมก็ไม่รู้มาก่อนว่าหัวหน้าจะให้งานกับผมด้วย” เสี่ยวเป้ยตกใจแล้วพูดกับผมว่า “หางานอะไรเหรอคะ”
“ลองดูข้อมูลในเอกสารแล้วก็จะรู้ครับ” ผมชี้ไปที่ข้อมูลบนโต๊ะ ซึ่งนั้นก็แปลได้ว่าผมกำลังเริ่มที่จะยุ่งแล้วสินะ
สำหรับงานนี้ ผมเตรียมใจไว้แล้วว่ามันจะต้องยากมากหรือไม่ก็กล่าวได้ว่าหยู่เฟยเดิมทีไม่มีโอกาสให้ผมเลยมากกว่า มิฉะนั้นเซี้ยหยุนจะไม่ใช้มันเดิมพันกับผมแน่ ๆ
นี่เป็นเพียงการพนันเท่านั้น! ถ้าผมไม่ได้โชคร้ายมากเกินไป ดวงก็อาจดีพอที่จะชนะการพนันในครั้งนี้...
เห่อเห่อ! ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเทคโนโลยีของหยู่เฟย สาวสวยผู้มีความสามารถอย่างเซี้ยหยุนก็จะได้มาเป็นแฟนของผมแล้วเสียที!
แต่ทว่าโชคที่ว่านั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ เสียเมื่อไหร่ อย่างเซี้ยหยุนหนะหรือจะเอาตัวเองมาเดิมพันเล่น ๆ
แต่! หลังจากที่ผมได้อ่านข้อมูลแล้ว ผมก็อึ้งไปเลย คล้ายถูกสวรรค์เตะผมลงมาจากฟ้าและดูเหมือนว่าผมจะโชคร้ายจริง ๆ ซะแล้ว
นี่เหมือนจะเป็นงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของหยู่เฟยที่จะถูกกำหนดทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว! และมันยังเป็นงานที่ใหญ่มากเสียด้วย!
ลูกค้าคือบริษัทเกมส์อัจฉริยะที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เขามีแผนที่จะขยายสำนักงานใหญ่ไปที่เมืองปินไห่ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ จำนวนมาก และหยู่เฟยเองก็ได้ส่งแผนงานดังกล่าวเสนออีกฝ่ายไปเรียบร้อยแล้ว ราคารวมประมาณห้าร้อยกว่าล้าน!
คำสั่งซื้อหลายร้อยล้านนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกรายการเร่งหารายได้กันจนเลือดตาแทบกระเด็น
ในบรรดาสินค้า ราคาและแบรนด์อื่น ๆ มีข้อได้เปรียบกว่าหยู่เฟยอยู่มาก แต่ดูเหมือนว่าท่านประธานใหญ่ของบริษัทเกมส์อัจฉริยะจะเลือกบริษัทหยู่เฟย
ที่แปลกก็คือลูกค้าไม่เคยซื้อสินค้าของหยู่เฟยมาก่อน บริษัทเกมส์อัจฉริยะนี้ก็ไม่ใช่บริษัทในกลุ่มบริษัทหวนหยู่ แต่ว่าทำไมท่านประธานใหญ่ของพวกเขาถึงได้เลือกที่จะทำสัญญาซื้อขายสินค้าของหยู่เฟยกันล่ะ
มูลค่าตั้งหลายร้อยล้านไม่ใช่น้อย ๆ เลยด้วย และคำสั่งซื้อก็แทบจะพร้อมอยู่แล้ว ทำไมเซี้ยหยุนถึงเอามันมาเดิมพันกับผม
ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้าก็อยู่ที่เมืองปิ่นไห่นี้เอง ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานต่างเมือง นั่นก็แสดงว่าใคร ๆ ก็สามารถทำงานนี้ได้ แน่นอนว่าต้องมีที่อื่นเสนอร่วมลงทุนไปไม่น้อย และผู้จัดการของบริษัทอื่นก็ต้องเคยผ่านงานนี้มาไม่น้อยแน่ แล้วทำไมถึงไม่รับงานนี้กันล่ะ
ไม่แน่ว่า เซี้ยหยุนจะตั้งใจให้ผมชนะ หรือว่าเธอต้องการทำตามคำสัญญาจริง ๆ หรือไม่เธอก็อาจจะหลงรักผม
เป็นไปไม่ได้แน่! ผมกับเธอเดิมที่อยู่คนละโลกอยู่แล้ว ผมไม่เคยเชื่อเรื่องความรักในเทพนิยายแบบเด็ก ๆ ใฝ่ฝัน และยิ่งไม่เชื่อว่าจะมีสิ่งดี ๆ ตกมาจากฟ้าฟรี ๆ โดยที่เราจะไม่เสียอะไร
ฐานะของเธอ ความสามารถของเธอ ทำไมจะต้องมาหลงรักคนอย่างผมเพียงเพราะที่ผมช่วยเธอไว้ ผู้หญิงแบบนี้หนะถือเอาความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว
ใบคำสั่งซื้อนี่ แน่นอนว่าต้องมีปัญหาอะไรรออยู่อย่างแน่นอน!
ขณะที่ผมกำลังสงสัยอยู่นั้น ข้าง ๆ ผมอย่างหลัวเสี่ยวเป้ยก็ตะโกนอย่างคร่ำเครียดที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอว่า “ปวดหัวจะตายแล้ว!”
“เกินอะไรขึ้นหรือ” ผมมองหลัวเสี่ยวเป้ยอย่างไม่เข้าใจเธอมากนัก
เสี่ยวเป้ยแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “เฉินเทา ที่หัวหน้าให้คุณทำงานนั่น ใช่บริษัทเกมส์อัจฉริยะมั้ยคะ”
ผมแปลกใจแต่ก็ตอบกลับไปว่า “ใช่ครับ คุณรู้ได้อย่างไร”
เสี่ยวเป้ยชี้ไปที่หน้าจอของเธอ “หัวหน้าให้ฉันทำคู่กับคุณและช่วยคุณทำงานนี้ให้สำเร็จหนะสิคะ”
“หา...” ใจผมก็สั่นขึ้นมา “คุณเข้าใจงานนี้หรือ”
“อื้ม!” เสี่ยวเป้ยแสยะยิ้มแล้วก็พยักหน้า “คุณพึ่งจะมาทำ บางทีอาจจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานนี้”
พอพูดจบ เสี่ยวเป้ยลากเก้ากี้เข้ามาใกล้ ๆ ผมแล้วพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ฉันจะบอกคุณนะ ถึงแม้ว่าลูกค้าจะเลือกบริษัทของเราแล้วก็จริง ยิ่งกว่านี้คือไม่มีผู้จัดการคนไหนที่สามารถเอาชนะใจเขาได้เลย”
“ขนาดหัวหน้าของพวกเราคุยกับเขามาก่อนแล้วยังไม่สำเร็จเลย นายรู้มั้ยว่าทำไม”
ผมถอนหายใจหนึ่งเฮือก แน่นอนว่าเซี้ยหยุนจะต้องไม่ให้อะไรที่ดีกับผมแน่ ๆ ผมถามสุ่ม ๆ ไปว่า “ตกลงราคาไม่ได้หรือว่าเกี่ยวกับการบริการหลังการขายล่ะครับ”
เสี่ยวเป้ยสายหัวไปมา “ไม่ใช่ทั้งหมดนั้นแหละค่ะ แต่เป็นเพราะประธานของบริษัทเกมอัจฉริยะต้องการให้ประธานเซี้ยเป็นคนไปคุยเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“หื้ม” ผมประหลาดใจ “อย่างงั้นประธานเซี้ยก็เข้าไปคุยก็ได้แล้วนี่ ทำไมจะต้องส่งมาให้พวกเราทำด้วยล่ะครับ”
หลังจากพูดจบ เสี่ยวเป้ยก็ดึงเก้าอี้เข้ามาหาผม ลดระดับเสียงให้เบาลงและพูดว่า “ฉันจะบอกคุณให้นะคะ แม้ว่าลูกค้าจะระบุว่าบริษัทของเราแต่คำสั่งซื้อนี้ก็ไม่ได้รับอนุมัติจากบริษัทคู่ค้าเสียที จนกระทั่งผู้จัดการฝ่ายขายหลาย ๆ คนที่ทำงานนี้มาก่อน แต่ทว่าก็ไม่มีใครสามารถทำงานสำเร็จแม้แต่คนเดียว”
“แม้แต่ผู้อำนวยการฝ่ายขายของเราก็ไปสัมภาษณ์กับประธานของพวกเขามาแล้วนะคะ แต่ก็ทำมันไม่สำเร็จคุณรู้ไหมว่าทำไม”
ภายในใจของผมสั่นอย่างรุนแรง เซี้ยหยุนไม่ได้มอบผลไม้สุกพร้อมทานให้ผมจริง ๆ นั้นแหละผมถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “เพราะตกลงราคาไม่ได้หรือบริการหลังการขายของเราไม่ดีพอล่ะ”
เสี่ยวเป้ยส่ายหัวไปมา "ไม่ใช่หรอกค่ะ! แต่เป็นเพราะว่าประธานของบริษัทเกมส์อัจฉริยะต้องการที่จะคุยกับประธานเซี้ยเพียงคนเดียวหนะสิคะ"
“หือ” ผมประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้นประธานเซี้ยสามารถเข้าไปคุยโดยตรงได้เลยนี่ ทำไมเธอต้องมอบงานลงมาให้เราทำด้วยล่ะ”
ใบหน้าที่บอบบางและสวยงามของของเสี่ยวเป้ยแสดงให้เห็นรอยยิ้มลึกลับซึ่งเป็นลักษณะของการนินทาของผู้หญิงนั่นแหละครับ หลังจากที่เธอขยับเข้าใกล้มากขึ้นอีก เธอก็ลดเสียงลงและพูดว่า “ก็ประธานคนนั้นชอบประธานเซี้ยมาก ๆ และต้องการไล่จีบเธอหนะสิคะ ...... ฮิฮิ!”
“อ้อ” และแล้วผมก็เข้าใจทุกอย่าง
“เหอเหอ” เสี่ยวเป้ยยิ้มแต่กลับแสดงสีหน้าด้านชา “ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะคะ ประธานคนนั้นหนะ อายุสี่สิบกว่าปีได้แล้วล่ะค่ะ แถมยังเคยหย่าร้าง หูกางแล้วก็หัวล้านด้วยนะ! ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นพวกชอบกอบโกยผลประโยชน์ พอเขาได้เข้ามารู้จักกับอุตสาหกรรมเกมส์ที่ทำเงินได้อย่างมหาศาลนั้น เขาเมื่อสองสามปีก่อนก็รีบซื้อบริษัทเกมส์อัจฉริยะด้วยเงินสดเลยนะคะ”
“เมื่อปีที่แล้วเขาบังเอิญไปพบท่านประธานเซี้ยของเราที่งานสังสรรค์ธุรกิจแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้ยินว่าเขายอมย้ายสำนักงานมาที่เมืองปินไห่นี้เลยล่ะค่ะ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เสี่ยวเป้ยก็แสดงความอิจฉาและทำท่าทางเพ้อฝัน โดยเธอกุมใบหน้าของเธอไว้ในมือพร้อมกับพูดออกมาว่า “อา... ถ้ามีผู้ชายสักคนที่สามารถทำเพื่อฉันได้ขนาดนี้ มันจะทำให้ฉันมีความสุขแค่ไหนกันล่ะคะนี่!”
ผมส่ายหัวกับท่าทางของเธอ ผมโน้มตัวอย่างหนักไปพิงด้านหลังของเก้าอี้และถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
อายุสี่สิบกว่าปี หย่าร้าง เป็นพวกเสี่ยพุ่งพุ้ย เศรษฐีที่ประสบความสำเร็จลักษณะนี้แค่กวักมือ ของทุกอย่างบนโลกก็คงมาว่างตรงหน้าเขาได้แน่
แต่เสี่ยนั่นก็ไม่เหมาะกับเซี้ยหยุนอยู่ดี เซี้ยหยุนไม่ใช่แค่สวย เธอยังมีความสามารถมากมาย ไม่แน่ว่าเธออาจจะไม่ยอมรับคนอย่างเสี่ยนั่นก็ได้
ผมก็ไม่ยอมให้เสี่ยนั่นได้เซี้ยหยุนไปหรอก ไม่ยอมเด็ดขาด!
อย่างเธอหนะหรือจะยอมให้ไก่ได้พลอย แน่นอนว่า!
อีกอย่าง เธอคือแฟนในอนาคตของผมต่างหาก!
ตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนมากทีเดียวว่าถึงแม้จะไม่ได้งานนี้ เซี้ยหยุนก็ไม่มีแผนจะไปพบเสี่ยนั่น
สำหรับเสี่ยที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อย้ายสำนักงานใหญ่มาที่ปินไห่นี้ การที่เขาใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าหลายร้อยล้าน แม้แต่หน้าของเซี้ยหยุนก็ไม่ได้พบ อาจจะทำให้เขาโกรธมากและในที่สุดงานนี้ก็จะตกไปอยู่ในมือของบริษัทอื่นอย่างแน่นอน
แสดงว่าที่เซี้ยหยุนให้งานนี้ผมมาทำก็แปลว่าเธอได้ประเมินผลชนะพนันของตัวเองไว้ร้อยเปอร์เซน
บางทีเธออาจจะซ่อนตัวอยู่ในห้องทำงานแล้วหัวเราะอย่างมีชัย
“แม่งเอ้ย!” ผมอดไม่ได้ที่จะสบถออกมากเสียงดัง
“เฉินเทาคุณว่าใครคะ” เสี่ยวเป้ยตกใจ
“อ้อ! ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่สบถว่าไอ้เสี่ยนั่นที่บังอาจมาดูถูกประธานเซี้ยของเราได้ยังไง” ผมหัวเราะแห้ง ๆ
“ใช่ค่ะ! คุณดูสิเสี่ยนั่นทั้งแก่ ทั้งเคยหย่าร้างมากก่อน” เสี่ยวเป้ยเริ่มพูดพล่ามนินทา
ผมแกล้งทำเป็นฟังเธอเล่า แต่ในสมองก็กำลังคิดว่าจะทำงานนี้ให้สำเร็จยังไงดี
ตอนนี้ผมกระโดดลงไปในหลุมที่เซี้ยหยุนขุดแล้ว ฉะนั้นผมจะต้องไม่พ่ายแพ้ให้กับเซี้ยหยุนเด็ดขาด แต่ผมจะทำการเดิมพันนี้ให้สำเร็จและให้เธอยอมขึ้นเตียงกับผมให้ได้เลย
มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของผมเองด้วยครับ! เธอกระตุ้นจิตวิญญาณนักต่อสู้ของผมได้สำเร็จ นิสัยที่ไม่ยอมแพ้ใครและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่าย ๆ
แต่ที่สำคัญก็คือผมจะให้เสี่ยนั่นยินยอมเซ็นสัญญากับบริษัทของเรายังไง
ไม่ใช่แค่งานที่ต้องทำ ผมต้องทำทุกอย่างไม่ให้เสี่ยนั่นได้เซี้ยหยุนไปครอง!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ทันใดนั้นผมก็นั่งยืดตัวตรงอย่างมีชีวิตชีวาขึ้นและพูดกับเสี่ยวเป้ยว่า “น้องเป้ย เรามาเริ่มทำงานนี้กันเถอะ! คุณจะช่วยผมรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเสี่ยนั่นได้มั้ย ยิ่งมีรายละเอียดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ถ้าจะให้ดีก็เอาข้อมูลพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอามาด้วยนะครับ”
“คุณจะลองดูจริง ๆ หรือคะ” เสี่ยวเป้ยมองอึ้ง ๆ มาที่ผม
“ครับ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ สรุปก็คือตอนนี้เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!”
“รับทราบค่ะ ฉันก็อยากจะเห็นว่าเสี่ยนั่นหน้าตาเป็นยังไงเหมือนกัน ฮิฮิ!”
แทบจะไม่ต้องคิดอะไรเลย เซี้ยหยุนพูดทั้งโมโห “ดี! ถ้านายทำไม่สำเร็จ นายก็ไปให้ไกล ๆ ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้านายอีก!”
“คำไหนคำนั้น!” ผมยังคงยิ้มอยู่
“งั้นตอนนี้นายก็ออกไปให้พ้นหน้าฉันเลย!”
เซี้ยหยุนไล่ผมออกจากห้องทำงานของเธอเขาเสียงดัง ผมยิ้มอย่างมีชัยออกมา ท่ามกลางสายตาแปลกประหลาดของคนทั้งแผนก
ผมพบว่าช่างเป็นอะไรที่วิเศษมากที่ได้หยอกเล่นกับเจ้านายผู้หญิงสวย ๆ ในห้องทำงาน เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและวิเศษสุด ๆ ไปเลย!
กลับมาที่แผนกส่งวัสดุไม่นาน ยังไม่ทันที่จะดูข้อมูลในเอกสารนั่น คำสั่งย้ายก็มาถึงแล้ว ผมและเพื่อนพนักงานได้รับมอบหมายงานง่ายๆ ผมเปลี่ยนจากชุดทำงานสีฟ้าเป็นชุดสูท หลังจากนั้นก็กลับไปที่ชั้นเก้า
เช่นเดียวกันกับบริษัทใหญ่ ๆ แผนกการขายของหยู่เฟยได้รับหมอบหมายให้ดูแลสามแผนก แบ่งเป็นฝ่ายการตลาด ฝ่ายการขาย และฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ
ฝ่ายการตลาดรับผิดชอบเรื่องข่าวสาร โครงการ เผยแพร่ ฯลฯ มักจะทำงานอยู่กับโต๊ะ คนแบบผมเป็นประเภทที่ชอบทำงานหน้างานหรือออกไปลุยข้างนอกมากกว่า เป็นธรรมดาที่ผมจะอยากอยู่แผนกการขายนี้
ก่อนอื่นต้องไปรายงานตัวกับหัวหน้าแผนกการขายที่ห้องทำงาน หัวหน้าเป็นคนวัยกลางคนที่ค่อนข้างผอม เขาใช้สายตาแปลก ๆ มองมาที่ผมพร้อมกับพูดแนวต้อนรับและให้กำลังใจผมนิดหน่อย หลังจากเขาพูดจบเขาก็ให้ผู้ช่วยของเขาพาผมไปที่โต๊ะทำงานและให้ทำความคุ้นเคยกับวิธีการทำงาน
ถึงแม้ว่าคนที่ออกไปทำงานส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย แต่ว่าแผนกการขายของหยู่เฟยก็มีไม่น้อยที่เป็นผู้หญิง โดยเฉพาะงานที่เป็นงานขายกับงานเอกสารที่ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานนอกบริษัทหรือไปพบใคร
โต๊ะด้านขวาที่ถัดไปจากโต๊ะทำงานผม เป็นเด็กผู้สาวที่ทั้งสวยทั้งน่ารักนั่งอยู่ หลังจากเห็นผมนั่งลง เธอพูดอย่างใจดีพร้อมกับยิ้มและพยักหน้าว่า “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลัวเสี่ยวเป้ย”
“ผมชื่อเฉินเทาครับ ชื่อของคุณเพราะจังเลยนะครับ” ผมยิ้มเบา ๆ แล้วพยักหน้าให้เขา
“ขอบคุณค่ะ ต่อไปนี้เรียกฉันว่าเสี่ยวเป้ยก็พอค่ะ ใช่สิ! คุณรับผิดชอบดูแลกิจการในพื้นที่นั้นเหรอคะ”
ผมมือหนึ่งเปิดเอกสารที่หนีบอยู่ไปด้วย พูดพร้อมพยักหน้าไปด้วยว่า “ผมก็ไม่รู้มาก่อนว่าหัวหน้าจะให้งานกับผมด้วย” เสี่ยวเป้ยตกใจแล้วพูดกับผมว่า “หางานอะไรเหรอคะ”
“ลองดูข้อมูลในเอกสารแล้วก็จะรู้ครับ” ผมชี้ไปที่ข้อมูลบนโต๊ะ ซึ่งนั้นก็แปลได้ว่าผมกำลังเริ่มที่จะยุ่งแล้วสินะ
สำหรับงานนี้ ผมเตรียมใจไว้แล้วว่ามันจะต้องยากมากหรือไม่ก็กล่าวได้ว่าหยู่เฟยเดิมทีไม่มีโอกาสให้ผมเลยมากกว่า มิฉะนั้นเซี้ยหยุนจะไม่ใช้มันเดิมพันกับผมแน่ ๆ
นี่เป็นเพียงการพนันเท่านั้น! ถ้าผมไม่ได้โชคร้ายมากเกินไป ดวงก็อาจดีพอที่จะชนะการพนันในครั้งนี้...
เห่อเห่อ! ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเทคโนโลยีของหยู่เฟย สาวสวยผู้มีความสามารถอย่างเซี้ยหยุนก็จะได้มาเป็นแฟนของผมแล้วเสียที!
แต่ทว่าโชคที่ว่านั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ เสียเมื่อไหร่ อย่างเซี้ยหยุนหนะหรือจะเอาตัวเองมาเดิมพันเล่น ๆ
แต่! หลังจากที่ผมได้อ่านข้อมูลแล้ว ผมก็อึ้งไปเลย คล้ายถูกสวรรค์เตะผมลงมาจากฟ้าและดูเหมือนว่าผมจะโชคร้ายจริง ๆ ซะแล้ว
นี่เหมือนจะเป็นงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของหยู่เฟยที่จะถูกกำหนดทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว! และมันยังเป็นงานที่ใหญ่มากเสียด้วย!
ลูกค้าคือบริษัทเกมส์อัจฉริยะที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เขามีแผนที่จะขยายสำนักงานใหญ่ไปที่เมืองปินไห่ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ จำนวนมาก และหยู่เฟยเองก็ได้ส่งแผนงานดังกล่าวเสนออีกฝ่ายไปเรียบร้อยแล้ว ราคารวมประมาณห้าร้อยกว่าล้าน!
คำสั่งซื้อหลายร้อยล้านนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกรายการเร่งหารายได้กันจนเลือดตาแทบกระเด็น
ในบรรดาสินค้า ราคาและแบรนด์อื่น ๆ มีข้อได้เปรียบกว่าหยู่เฟยอยู่มาก แต่ดูเหมือนว่าท่านประธานใหญ่ของบริษัทเกมส์อัจฉริยะจะเลือกบริษัทหยู่เฟย
ที่แปลกก็คือลูกค้าไม่เคยซื้อสินค้าของหยู่เฟยมาก่อน บริษัทเกมส์อัจฉริยะนี้ก็ไม่ใช่บริษัทในกลุ่มบริษัทหวนหยู่ แต่ว่าทำไมท่านประธานใหญ่ของพวกเขาถึงได้เลือกที่จะทำสัญญาซื้อขายสินค้าของหยู่เฟยกันล่ะ
มูลค่าตั้งหลายร้อยล้านไม่ใช่น้อย ๆ เลยด้วย และคำสั่งซื้อก็แทบจะพร้อมอยู่แล้ว ทำไมเซี้ยหยุนถึงเอามันมาเดิมพันกับผม
ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้าก็อยู่ที่เมืองปิ่นไห่นี้เอง ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานต่างเมือง นั่นก็แสดงว่าใคร ๆ ก็สามารถทำงานนี้ได้ แน่นอนว่าต้องมีที่อื่นเสนอร่วมลงทุนไปไม่น้อย และผู้จัดการของบริษัทอื่นก็ต้องเคยผ่านงานนี้มาไม่น้อยแน่ แล้วทำไมถึงไม่รับงานนี้กันล่ะ
ไม่แน่ว่า เซี้ยหยุนจะตั้งใจให้ผมชนะ หรือว่าเธอต้องการทำตามคำสัญญาจริง ๆ หรือไม่เธอก็อาจจะหลงรักผม
เป็นไปไม่ได้แน่! ผมกับเธอเดิมที่อยู่คนละโลกอยู่แล้ว ผมไม่เคยเชื่อเรื่องความรักในเทพนิยายแบบเด็ก ๆ ใฝ่ฝัน และยิ่งไม่เชื่อว่าจะมีสิ่งดี ๆ ตกมาจากฟ้าฟรี ๆ โดยที่เราจะไม่เสียอะไร
ฐานะของเธอ ความสามารถของเธอ ทำไมจะต้องมาหลงรักคนอย่างผมเพียงเพราะที่ผมช่วยเธอไว้ ผู้หญิงแบบนี้หนะถือเอาความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว
ใบคำสั่งซื้อนี่ แน่นอนว่าต้องมีปัญหาอะไรรออยู่อย่างแน่นอน!
ขณะที่ผมกำลังสงสัยอยู่นั้น ข้าง ๆ ผมอย่างหลัวเสี่ยวเป้ยก็ตะโกนอย่างคร่ำเครียดที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอว่า “ปวดหัวจะตายแล้ว!”
“เกินอะไรขึ้นหรือ” ผมมองหลัวเสี่ยวเป้ยอย่างไม่เข้าใจเธอมากนัก
เสี่ยวเป้ยแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “เฉินเทา ที่หัวหน้าให้คุณทำงานนั่น ใช่บริษัทเกมส์อัจฉริยะมั้ยคะ”
ผมแปลกใจแต่ก็ตอบกลับไปว่า “ใช่ครับ คุณรู้ได้อย่างไร”
เสี่ยวเป้ยชี้ไปที่หน้าจอของเธอ “หัวหน้าให้ฉันทำคู่กับคุณและช่วยคุณทำงานนี้ให้สำเร็จหนะสิคะ”
“หา...” ใจผมก็สั่นขึ้นมา “คุณเข้าใจงานนี้หรือ”
“อื้ม!” เสี่ยวเป้ยแสยะยิ้มแล้วก็พยักหน้า “คุณพึ่งจะมาทำ บางทีอาจจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานนี้”
พอพูดจบ เสี่ยวเป้ยลากเก้ากี้เข้ามาใกล้ ๆ ผมแล้วพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ฉันจะบอกคุณนะ ถึงแม้ว่าลูกค้าจะเลือกบริษัทของเราแล้วก็จริง ยิ่งกว่านี้คือไม่มีผู้จัดการคนไหนที่สามารถเอาชนะใจเขาได้เลย”
“ขนาดหัวหน้าของพวกเราคุยกับเขามาก่อนแล้วยังไม่สำเร็จเลย นายรู้มั้ยว่าทำไม”
ผมถอนหายใจหนึ่งเฮือก แน่นอนว่าเซี้ยหยุนจะต้องไม่ให้อะไรที่ดีกับผมแน่ ๆ ผมถามสุ่ม ๆ ไปว่า “ตกลงราคาไม่ได้หรือว่าเกี่ยวกับการบริการหลังการขายล่ะครับ”
เสี่ยวเป้ยสายหัวไปมา “ไม่ใช่ทั้งหมดนั้นแหละค่ะ แต่เป็นเพราะประธานของบริษัทเกมอัจฉริยะต้องการให้ประธานเซี้ยเป็นคนไปคุยเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“หื้ม” ผมประหลาดใจ “อย่างงั้นประธานเซี้ยก็เข้าไปคุยก็ได้แล้วนี่ ทำไมจะต้องส่งมาให้พวกเราทำด้วยล่ะครับ”
หลังจากพูดจบ เสี่ยวเป้ยก็ดึงเก้าอี้เข้ามาหาผม ลดระดับเสียงให้เบาลงและพูดว่า “ฉันจะบอกคุณให้นะคะ แม้ว่าลูกค้าจะระบุว่าบริษัทของเราแต่คำสั่งซื้อนี้ก็ไม่ได้รับอนุมัติจากบริษัทคู่ค้าเสียที จนกระทั่งผู้จัดการฝ่ายขายหลาย ๆ คนที่ทำงานนี้มาก่อน แต่ทว่าก็ไม่มีใครสามารถทำงานสำเร็จแม้แต่คนเดียว”
“แม้แต่ผู้อำนวยการฝ่ายขายของเราก็ไปสัมภาษณ์กับประธานของพวกเขามาแล้วนะคะ แต่ก็ทำมันไม่สำเร็จคุณรู้ไหมว่าทำไม”
ภายในใจของผมสั่นอย่างรุนแรง เซี้ยหยุนไม่ได้มอบผลไม้สุกพร้อมทานให้ผมจริง ๆ นั้นแหละผมถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “เพราะตกลงราคาไม่ได้หรือบริการหลังการขายของเราไม่ดีพอล่ะ”
เสี่ยวเป้ยส่ายหัวไปมา "ไม่ใช่หรอกค่ะ! แต่เป็นเพราะว่าประธานของบริษัทเกมส์อัจฉริยะต้องการที่จะคุยกับประธานเซี้ยเพียงคนเดียวหนะสิคะ"
“หือ” ผมประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้นประธานเซี้ยสามารถเข้าไปคุยโดยตรงได้เลยนี่ ทำไมเธอต้องมอบงานลงมาให้เราทำด้วยล่ะ”
ใบหน้าที่บอบบางและสวยงามของของเสี่ยวเป้ยแสดงให้เห็นรอยยิ้มลึกลับซึ่งเป็นลักษณะของการนินทาของผู้หญิงนั่นแหละครับ หลังจากที่เธอขยับเข้าใกล้มากขึ้นอีก เธอก็ลดเสียงลงและพูดว่า “ก็ประธานคนนั้นชอบประธานเซี้ยมาก ๆ และต้องการไล่จีบเธอหนะสิคะ ...... ฮิฮิ!”
“อ้อ” และแล้วผมก็เข้าใจทุกอย่าง
“เหอเหอ” เสี่ยวเป้ยยิ้มแต่กลับแสดงสีหน้าด้านชา “ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะคะ ประธานคนนั้นหนะ อายุสี่สิบกว่าปีได้แล้วล่ะค่ะ แถมยังเคยหย่าร้าง หูกางแล้วก็หัวล้านด้วยนะ! ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นพวกชอบกอบโกยผลประโยชน์ พอเขาได้เข้ามารู้จักกับอุตสาหกรรมเกมส์ที่ทำเงินได้อย่างมหาศาลนั้น เขาเมื่อสองสามปีก่อนก็รีบซื้อบริษัทเกมส์อัจฉริยะด้วยเงินสดเลยนะคะ”
“เมื่อปีที่แล้วเขาบังเอิญไปพบท่านประธานเซี้ยของเราที่งานสังสรรค์ธุรกิจแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้ยินว่าเขายอมย้ายสำนักงานมาที่เมืองปินไห่นี้เลยล่ะค่ะ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เสี่ยวเป้ยก็แสดงความอิจฉาและทำท่าทางเพ้อฝัน โดยเธอกุมใบหน้าของเธอไว้ในมือพร้อมกับพูดออกมาว่า “อา... ถ้ามีผู้ชายสักคนที่สามารถทำเพื่อฉันได้ขนาดนี้ มันจะทำให้ฉันมีความสุขแค่ไหนกันล่ะคะนี่!”
ผมส่ายหัวกับท่าทางของเธอ ผมโน้มตัวอย่างหนักไปพิงด้านหลังของเก้าอี้และถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
อายุสี่สิบกว่าปี หย่าร้าง เป็นพวกเสี่ยพุ่งพุ้ย เศรษฐีที่ประสบความสำเร็จลักษณะนี้แค่กวักมือ ของทุกอย่างบนโลกก็คงมาว่างตรงหน้าเขาได้แน่
แต่เสี่ยนั่นก็ไม่เหมาะกับเซี้ยหยุนอยู่ดี เซี้ยหยุนไม่ใช่แค่สวย เธอยังมีความสามารถมากมาย ไม่แน่ว่าเธออาจจะไม่ยอมรับคนอย่างเสี่ยนั่นก็ได้
ผมก็ไม่ยอมให้เสี่ยนั่นได้เซี้ยหยุนไปหรอก ไม่ยอมเด็ดขาด!
อย่างเธอหนะหรือจะยอมให้ไก่ได้พลอย แน่นอนว่า!
อีกอย่าง เธอคือแฟนในอนาคตของผมต่างหาก!
ตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนมากทีเดียวว่าถึงแม้จะไม่ได้งานนี้ เซี้ยหยุนก็ไม่มีแผนจะไปพบเสี่ยนั่น
สำหรับเสี่ยที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อย้ายสำนักงานใหญ่มาที่ปินไห่นี้ การที่เขาใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าหลายร้อยล้าน แม้แต่หน้าของเซี้ยหยุนก็ไม่ได้พบ อาจจะทำให้เขาโกรธมากและในที่สุดงานนี้ก็จะตกไปอยู่ในมือของบริษัทอื่นอย่างแน่นอน
แสดงว่าที่เซี้ยหยุนให้งานนี้ผมมาทำก็แปลว่าเธอได้ประเมินผลชนะพนันของตัวเองไว้ร้อยเปอร์เซน
บางทีเธออาจจะซ่อนตัวอยู่ในห้องทำงานแล้วหัวเราะอย่างมีชัย
“แม่งเอ้ย!” ผมอดไม่ได้ที่จะสบถออกมากเสียงดัง
“เฉินเทาคุณว่าใครคะ” เสี่ยวเป้ยตกใจ
“อ้อ! ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่สบถว่าไอ้เสี่ยนั่นที่บังอาจมาดูถูกประธานเซี้ยของเราได้ยังไง” ผมหัวเราะแห้ง ๆ
“ใช่ค่ะ! คุณดูสิเสี่ยนั่นทั้งแก่ ทั้งเคยหย่าร้างมากก่อน” เสี่ยวเป้ยเริ่มพูดพล่ามนินทา
ผมแกล้งทำเป็นฟังเธอเล่า แต่ในสมองก็กำลังคิดว่าจะทำงานนี้ให้สำเร็จยังไงดี
ตอนนี้ผมกระโดดลงไปในหลุมที่เซี้ยหยุนขุดแล้ว ฉะนั้นผมจะต้องไม่พ่ายแพ้ให้กับเซี้ยหยุนเด็ดขาด แต่ผมจะทำการเดิมพันนี้ให้สำเร็จและให้เธอยอมขึ้นเตียงกับผมให้ได้เลย
มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของผมเองด้วยครับ! เธอกระตุ้นจิตวิญญาณนักต่อสู้ของผมได้สำเร็จ นิสัยที่ไม่ยอมแพ้ใครและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่าย ๆ
แต่ที่สำคัญก็คือผมจะให้เสี่ยนั่นยินยอมเซ็นสัญญากับบริษัทของเรายังไง
ไม่ใช่แค่งานที่ต้องทำ ผมต้องทำทุกอย่างไม่ให้เสี่ยนั่นได้เซี้ยหยุนไปครอง!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ทันใดนั้นผมก็นั่งยืดตัวตรงอย่างมีชีวิตชีวาขึ้นและพูดกับเสี่ยวเป้ยว่า “น้องเป้ย เรามาเริ่มทำงานนี้กันเถอะ! คุณจะช่วยผมรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเสี่ยนั่นได้มั้ย ยิ่งมีรายละเอียดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ถ้าจะให้ดีก็เอาข้อมูลพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอามาด้วยนะครับ”
“คุณจะลองดูจริง ๆ หรือคะ” เสี่ยวเป้ยมองอึ้ง ๆ มาที่ผม
“ครับ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ สรุปก็คือตอนนี้เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!”
“รับทราบค่ะ ฉันก็อยากจะเห็นว่าเสี่ยนั่นหน้าตาเป็นยังไงเหมือนกัน ฮิฮิ!”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved