บทที่ 4 กดผมด้วยร่างกายของคุณ
by อีหูเหล่าเหนี่ยว
10:47,Dec 28,2020
ผมพึ่งจะทราบว่าหญิงสาวที่ผมช่วยไว้ในคืนนั้นก็คือคนที่ใช้เวลาเพียงสองปีในการก้าวเข้ามาเป็นซีอีโอที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลอย่าง ‘เซี้ยหยุน’
โลกมันแคบขนาดนี้เลยหรือ วันนั้นที่เธอทำให้ผมได้พบกับฟางเฟยอีกครั้ง จนกระทั้งตอนนี้ที่ได้เข้าทำงานในบริษัทเดียวกันกับเธอ ได้เป็นคนที่อยู่ใต้อำนาจงานของตัวเธอเอง
เพื่อนร่วมงานเล่ากันว่าเซี้ยหยุนเป็นคนที่เย็นชาและลึกลับมาก มีแต่คนอยากเข้าหาเธอ อยากจีบเธอ ไม่ว่าจะเป็นลูกชายของกลุ่มผู้บริหาร รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนองค์กร หรือไม่ว่าใครก็ตามไม่เคยจีบเธอติดเลยสักคน ขนาดว่าคนที่จีบเธอแต่ละคนก็หน้าตาหล่อเหลาไม่ธรรมดาเลยสักนิด
ยิ่งไปกว่านั้นคู่ค้าระดับสูงต่างก็เอาอกเอาใจเธอกันถ้วนหน้า ขนาดที่ว่าฝ่ายดูแลบุคลากรยังให้ความอนุเคราะห์เธอเป็นพิเศษ
ทุก ๆ ของมูลที่ผมได้รับฟังมาบ่งชี้ว่า ผมก็คงเป็นได้แค่หมาวัดมองเครื่องบิน ไม่มีอะไรจะให้เธอได้สักอย่าง
ยิ่งกว่านี้ หลายวันก่อนที่สถานีตำรวจชุมชน เธอนัดกับผมไว้แล้วว่าถ้าพรหมลิขิตทำให้เราได้เจอกันอีกครั้ง ผมก็มีโอกาสจะจีบเธอ
แน่นอนว่าผมก็แค่ล้อเล่นเพียงเท่านั้น แต่เธอคงไม่คิดว่าผมจะพูดล้อเล่นกับเธอ ผมอยู่ต่อหน้าเธอก็มักจะแสดงด้านลบออกไป เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมสนใจในเรือนร่างของเธอ
ก็ถือว่าเธอเข้าใจผมผิดก็แล้วกัน และเธอยังไม่เข้าใจว่าผมเป็นไอ้โรคจิตของเธอก็พอ แต่ทว่า ผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปทั้งหมดเช่นเธอ หรืออาจจะเป็นลูกสาวเศรษฐีอย่างเธอหนะหรือ จะมาชายตามองหมาวัดอย่างผม...
ไม่แน่ว่าอาจจะเพราะผมช่วยชีวิตเธอไว้ เธอก็เลยอยากจะให้สินน้ำใจหรือรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอบแทนผมก็เท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผมอาจจะโดนเธอไล่ออกจากบริษัทหยุ่นเฟยก็เป็นได้ ทางที่ดีผมไม่ควรจะเข้าไปอยู่ในสายตาเธอบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงที่จะใช้โอกาสพบเจอเธอ และยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ผมจะไม่เข้าไปหลอกหลอนใจเธอว่าครั้งหนึ่งผมช่วยชีวิตเธอเอาไว้
แต่ว่าผมก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ผมก็แค่หางานใหม่ทำ
วันนั้นทุกอย่างก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร เหมือนกับว่าเรื่องของผมไม่ได้ทำให้เซี้ยหยุนวิตกกังวลหรือลำบากใจ
หลังเลิกงานผมโทรหาพ่อแม่ว่าผมอยู่สุขสบายดี เพราะสองปีมานี้ผมทำให้พวกท่านกังวลใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ตกดึกนอกจากผมจะสะดุ้งตื่นเพราะฝันถึงฟางเฟยแล้ว นอกนั้นก็ถือว่าผมนอนหลับสบายอยู่เหมือนกัน แต่ไม่คิดเลยว่าผมจะฝันถึงเซี้ยหยุนเสียด้วย ทำไมกันล่ะ ผมฝันว่าอยู่ในห้องทำงานของเธอสองต่อสอง เธอเหมือนลูกแกะตัวน้อย ๆ เขินอายเสียจนใบหน้านวลพร่องขึ้นริ้วแดงระเรื่อ แต่ก็ไม่หยุดกล่าวหาผมว่าเป็นพวกผีทะเลโรคจิต
เช้าวันที่สอง ผมมัวแต่ยุ่ง ๆ กับการทำงาน หัวหน้าพนักงานเติมของบอกกับผมว่า ซีอีโอเรียกให้ผมไปพบเธอที่ห้อง
ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่านอกจากเซี้ยหยุนจะไม่ไล่ผมออกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเรียกผมให้ไปพบที่ห้องทำงาน หรือเธออยากจะแกล้งอะไรผม
ผมผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานของเซี้ยหยุน ตาก็เหลือบไปเห็นขาขาวๆของเธอนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา
เมื่อเธอเห็นว่าผมเดินเข้ามาแล้วใบหน้าของเซี้ยหยุนเรียบสนิทไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ เธอชี้ไปที่โซฟาตัวตรงข้ามกับที่เธอนั่งพร้อมกับพูดว่า “ปิดประตูแล้วมานั่งที่โซฟาข้าง ๆ ฉัน”
ผมรีบปิดประตูห้องทำงานแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาข้าง ๆ เธอ ดวงตาผมสะดุดกับหน้าอกของเธอ กวาดตาไปจนถึงขาขาว ๆ ทั้งสองข้างที่พ้นออกมาจากกระโปง เสียดายตรงที่ว่าเธอนั่งหนีบขาชิดเกินไปไม่งั้นผมคงอดไม่ได้ที่จะกวาดตามองบางอย่างที่ลึกเข้าไปอีก
เซี้ยหยุนสังเกตเห็นสายตาที่กวาดมองเรือนร่างของเธอ ใบหน้าของเธอพลันแดงวาบขึ้นมา เธอรีบเอามือมาดึงกระโปรงให้ร่นลงมามากขึ้นอีกหน่อย สายตาของเธอก็มองตำหนิมาที่ผม
“บ้ากาม!”
ผมยิ้มไม่หุบและได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไป ตาก็เหลือบมองใบหน้าที่แดงวาบของเธอ
“ถ้าประธานเซี้ยอยากจะแก้แค้นอะไรผมแค่ไล่ผมออกก็พอนี่ครับ เรียกผมมาแบบนี้ ถ้าคิดจะมาแกล้งอะไรล่ะก็นะ เกรงว่าคุณจะต้องผิดหวังเพราะว่าผมหนะมันพวกหน้าหนาหนะครับ ฮาๆ ๆ”
“เหอะ หน้าไม่อายจริง ๆ” เซี้ยหยุนอดไม่ได้ที่จะพูดใส่หน้าผม
“หึหึ ในสายของของประธานเซี้ยผมมันก็แค่พวกโรคจิตอันธพาล เช่นนี้แล้วทำไมผมต้องแสร้งเป็นสุภาพบุรุษด้วยล่ะครับ หืม”
ได้ยินดังนี้ ใบหน้าของเซี้ยหยุนก็ดูจะอึดอัดเล็กน้อย เธอพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เรื่องเมื่อวานที่จริงแล้วฉันก็เป็นคนผิด ฉันไม่ควรไปดูถูกคนอื่น แต่เธอก็ไม่ควรรอจนฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำถึงได้เดินโพล้งออกมา”
ผมตกใจไปเล็กน้อย เธอไม่ไล่ผมออกออกกลับกันยังจะกล่าวขอโทษผม หญิงสาวคนนี้นอกจะจะสวยและฉลาดมากแล้วนั้น ยังมีจริยธรรมที่สูงมาทีเดียว
ดูเหมือนว่าเธอจะไปตรวจสอบกับฝ่ายบุคคลแล้วแน่ ๆ ว่าผมยื่นใบสมัครงานไว้ที่บริษัทนี้จริง ๆ และไม่ได้สะกดรอยตามเธอมาบริษัทแห่งนี้
“วันนี้ฉันเรียกนายมา เพียงแค่อยากจะถามอะไรนายเล็กน้อยก็เท่านั้น” เซี้ยหยุนพูดต่อ
“เรื่องอะไรหรือครับ”
เซี้ยหยุนยืดตัวขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับถามผมว่า “ก่อนที่คุณจะมาที่ปินไห่นี้ คุณทำงานเป็นพนักงานลูกหาบเติมของแบกของหรือ”
ทำไมต้องมาทำงานเป็นลูกหาบเขาแบบนี้หนะหรือ เหอะ! ก็ไม่ใช่เพราะว่าตำแหน่งงานขายไม่ว่างหรืออย่างไงกัน ดูเหมือนว่าแผนกบุคคลไม่ได้บอกเหตุผมที่ผมเข้ามาทำงานนี้สินะ
ผมก็ขี้เกียจเกินกว่าจะอยากอธิบายให้เธอฟัง ก็เลยแกล้งตอบเธอกลับไปว่า “งานลูกหาบเติมของแบกของมันไม่ดีตรงไหนครับ เอาของไปเติมใส่ตรงนี้ทีตรงนู้นทีเดี๋ยวเดียวก็ได้เงินแล้ว ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไรนี่ครับ”
“หึ้ย!” ทันใดนั้นเซี่ยหยุนก็พูดอย่างดูถูกขึ้นมาว่า “นายนี่มันไม่มีความทะเยอทะยานเอาซะเลย!”
ผมไม่ได้สนใจท่าทีของเธอ ผมตอบกลับเธอไปว่า “คุณเซี้ยหยุนดูถูกงานลูกหาบแบกย้ายของหรือส่งเอกสารพวกนี้หรือครับ ในบรรดางานร้อยแปด งานนี้มันดีที่สุดสำหรับผมแล้ว หรือคุณว่าไม่จริงครับ”
เมื่อเธอฟังผมพูดจบ สีหน้าของเซี้ยหยุนก็ดูเหมือนจะตึงขึ้นมา เธอพูดอย่างแดกดันว่า “ฉันเห็นประวัติส่วนตัวที่นายยื่นสมัครงาน ประสบการณ์ทำงานสามปี ผู้จัดการระดับภูมิภาคอีกสองปี ฉันก็เพียงแค่นึกไม่ถึงว่าคุณจะเปลี่ยนมาทำงานลูกหาบส่งเอกสารหรือแบกของก็เท่านั้น”
เธอพูดต่อว่า “คุณเอาแต่คลั่งไคล้ผู้หญิงจนเสียการเสียงาน ต้องออกจากบริษัทเก่าแล้วย้ายมาที่เมืองปินไห่นี้ไม่ใช่หรือ”
“คนแบบนายนี่ไม่มีน้ำยาแบบนี้มาตลอดเลยหรือเปล่า ก็เลยต้องมาทำงานแบกของส่งของอยู่นี่ไง”
เมื่อผมได้ฟังคำพูดแดกดันที่เธอพูดต่อผมจบ ใจผมแทบจะแหลกสลายไปเดี๋ยวนั้น คิ้วของผมขมวดเข้าหากันเป็นปม ผมพูดกับเธอว่า “ประธานเซี้ยคุณพูดแบบนี้หมายว่ายังไงครับ คุณอยากจะแก้แค้นโดยการไล่ผมออกก็ไม่จำเป็นต้องประชดประชันโดยการเอาอดีตของผมมาพูดก็ได้นี่ครับ ผมชอบทำงานนี้แล้วมันยังไง ถ้าตามที่คุณพูดมา งานพนักงานทำความสะอาดหรือแม้แต่งานลูกหาบแบกของส่งของก็ล้วนเป็นคนไม่มีน้ำยาหรือครับ ”
“ฉันไม่ได้อยากจะแก้แค้นนาย แล้วก็ไม่ได้จะประชดประชันนาย ฉันก็แค่พูดความจริงเท่านั้น”เซี้ยหยุนเอามือทาบไว้ที่หน้าอกของเธอแล้วมองคล้ายดูถูกมาที่ผม
เมื่อผมได้ยินดังนี้แล้วและเมื่อได้เห็นท่าทางเหยียดหยามของเธออีกครั้ง ผมก็รู้สึกทนไม่ไหวและลุกขึ้นยืน
“งั้นผมขอพูดหน่อยนะคุณเซี้ยหยุน ผมไม่รู้ว่าวันนี้ประจำเดือนคุณมาหรือไม่ ถึงได้พูดหักหาญน้ำใจกันได้ขนาดนี้ มันไม่มีคำพูดอื่นที่ดีกว่านี้แล้วใช่ไหมครับ”
“นาย...” เซี้ยหยุนเลือดขึ้นหน้า ลุกขึ้นยืนประชันหน้ากับผม ดวงตาของเธอคล้ายโกรธผมจนไฟลุกวาว เธอพูดกับผมว่า “นายนั้นแหละที่ประจำเดือนมา!”
“คุณเคยเห็นผู้ชายมีประจำเดือนด้วยหรือครับ”
เซี้ยหยุนแทบจะกลั้นหายใจ หลังจากนั้นใบหน้าของเธอก็กลับมาเย็นชาและแสดงท่าทางเย้อหยิ่ง เธอกล่าวเสียงเย็นกับผมว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะว่านายช่วยชีวิตฉันไว้ครั้งหนึ่ง อย่าหวังว่าฉันจะพูดกับนายมากขนาดนี้เลย!”
“งั้นคุณก็ตอบแทนผมตอนนี้เลยก็ได้ครับ” ผมพูดเสียงเย็นชาตอบกลับเธอไป ผมมองไปใบหน้าที่งดงาม หน้าอกหน้าใจที่ไม่ใช่น้อย ๆ นั่น และแถบด้วยขาที่เรียวขาวของเธอ ผมพูดต่อว่า “ตอบแทนด้วยร่างกายคุณมั้ยล่ะครับ”
“หึหึ เฉินเทา นายคิดว่าฉันจะตอบแทนพนักงานย้ายส่งของในบริษัทอย่างนายด้วยการร่วมหลับนอนเหรอ นายหวังมากไปรึเปล่า” เซี้ยหยุนพูดเยาะเย้ยผม
“หื้ม” ผมยิ้มมุมปากด้วยความสงสัยปนขบขัน “แสดงว่าถ้าผมไม่ได้เป็นแค่พนักงานต่ำต้อย คุณจะยอมนอนกับผมหรือครับ...ประธานเซี้ย”
เซี้ยหยุนหมุนวนนิ้วมือของเธอไว้รอบ ๆ หน้าอกและพูดอย่างยั่วยวนว่า “ ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชายอย่างนายมีค่าพอหรือเปล่า ฉัน...เซี้ยหยุนคนนี้ไม่ได้ต้องการคนที่มีอำนาจล้นฟ้า แต่ชายคนรักของฉันควรจะต้องเป็นคนที่มีอุดมการณ์ มีความปรารถนา และทัศนคติเชิงบวกต่อตัวเอง นายคิดว่านายเป็นแบบนั้นได้หรือเปล่าล่ะ”
ได้ยินแบบนี้ผมก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงในท่าทีของเธอ เธอกำลังบอกใบ้ผมหรือ ว่าต้องการให้ผมมีอุดมคติและความทะเยอทะยานต่อตัวเอง แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะยอมรับผม
ผมทนไม่ได้ที่จะนึกถึงเมื่อเช้าวานนี้ที่ผมเห็นเธอสวมใส่อันเดอร์แวร์ชิ้นน้อย ๆ เพียงสามชิ้นบนร่าง ถ้าผมเอาร่างสูง ๆ ของผมกดเธอไว้ใต้ล่างมันจะเจ๋งซักแค่ไหนกันนะ
บ้าจริง! ไอ้นั่นของผมแทบจะระเบิดออกมาข้างนอกเสียให้ได้เลย!
“ประธานเซี้ย! จริง ๆ แล้วลูกหาบเป็นเพียงแค่งานชั่วคราวของผม เมื่อสินค้าใหม่ของบริษัทเปิดตัวออกมา ผมก็จะเข้าไปรับหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายขายแล้วนะครับ” ผมพูดออกอย่างอดใจไม่ไหว
“เหรอ” เซี้ยหยุนยิ้มเยาะผมกลับมา “ฝ่ายการขายของบริษัทก็ต้องผ่านการสัมภาษณ์จากฉัน แล้วนายคิดว่าฉันจะยอมให้นายเข้ามาในแผนกฝ่ายขายเหรอไง”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอให้ประธานเซี้ยสัมภาษณ์ผมตอนนี้เลยได้มั้ยครับ เผื่อว่าจะต้องแก้ไขนิสัยที่ไม่ดี ที่ผมชอบทำตัวเหลวไหลกับประธานเซี้ยมาตลอด ผมจะได้ไม่ทำมันอีกต่อไป”
“ชิ!” เซี้ยหยุนอดไม่ได้ที่จะยิ้มส่ายหัวเดินไปที่โต๊ะทำงานของเธอแล้วหยิบแฟ้มเอกสาร เธอโยนมันลงบนโต๊ะทำงานดัง ‘ปัง!’
“เฉินเทา งั้นนี่คือสิ่งแรกที่คุณจะต้องทำ” เซี้ยหยุนชี้ไปที่แฟ้มเอกสาร “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณสามารถทำงานในแผนกขายได้เลย แล้วก็แน่นอนว่านี่เป็นเพียงงานชั่วคราวของคุณเท่านั้น ถ้าคุณทำงานนี้สำเร็จ ฉันจะถือว่าคุณเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการของฝ่ายแผนกการขายของบริษัทเรา นอกจากนั้นฉันยังจะขอโทษคุณสำหรับสิ่งที่ฉันพูดและทำลงไปในวันนี้ด้วย”
“แต่ว่า...ถ้านายทำงานนี้ไม่สำเร็จ ประทานโทษเถอะ หยู่เฟยไล่นายออกแน่!”
ผมตกตะลึงในทันที! ตอนนี้คนโง่อย่างผมรู้ว่าเธอกำลังขุดหลุมรอให้ผมตกหลุมพราง
การกระทำก่อนหน้านี้เป็นการแกล้งทำทั้งหมด และการที่เธอแกล้วยั่วยวนผมก็เป็นการขุดหลุมพรางขนาดใหญ่ขึ้นมา
เธอก็ยังอยากจะตอบแทนผมนะ แต่ด้วยการกลั่นแกล้งผมยังไงล่ะ ไม่อยากเห็นหน้าผมแต่ก็ไม่อยากเป็นคนเลว ก็เลยใช้วิธีการนี้เพื่อคิดที่จะเล่นงานผม
ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ งานนี้แน่นอนว่าต้องทั้งยุ่งยากและผมมีเปอร์เซ็นสูงที่จะทำไม่สำเร็จ
และแน่นอนว่าหลังจากที่เซี้ยหยุนพูดคำเหล่านี้ออกมา รอยยิ้มแห่งชัยชนะก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
ผมโดนเธอหลอกใช้เข้าแล้วจริง ๆ
ผมอยากจะทั้งโกรธทั้งหัวเราะไปด้วยอีกครั้ง ผมอดไม่ได้ที่จะเดินไปที่โต๊ะของเธอ วางมือลงบนโต๊ะ โน้มร่างกายส่วนบนของผมเข้าหาใบหน้าของเซี้ยหยุนและมองไปที่เธอ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันถึงได้กล้าจะหลอกใช้ผม
เซี้ยหยุนโดนผมทำให้แกล้งตกใจ ไม่นานเธอก็ตั้งสติได้แล้วใช้สายตามองกดดันมาที่ผม
หลังจากที่ผมเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น ผมก็ต้องเป็นฝ่ายตะลึงเสียเอง หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าของ เซี้ยหยุนจากระยะใกล้ เธอไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ แต่ใบหน้าราวกับหยกแกะสลักของเธอ ไม่มีริ้วรอยหรอแผลเป็นอะไรเลย มันทั้งขาวและเรียบเนียนราวกับว่าไข่ที่เพิ่งแกะเปลือกออกมา และยังเผยให้เห็นความแวววาวช่ำน้ำบนใบหน้านั่น
ไม่สามารถควบคุมลมหายใจของตัวเองไม่ให้สะดุดและผมสูญเสียความเป็นตัวเองไปเสียแล้ว
"คุณมองพอหรือยัง" เซี้ยหยุนพูดด้วยเสียงเย็นชา
"ไม่ ผมจะมองมันไปชั่วชีวิต" ผมตอบโดยไม่สนใจอะไร
“นาย......” เซี้ยหยุนหน้าแดงราวกับลูกมะเขือเทศสุกปลั่ง
ผมมองเธออย่างไร้ยางอาย "เฮ้อ...ท่านประธานครับ ผมทำงานนี้แน่นอน แต่ผมต้องการเพิ่มเดิมพันอีกหน่อย"
ผมเลื่อนสายตาลงและมองไปที่ร่างของเธอพร้อมกับรอยยิ้มขี้เล่นบนใบหน้า "ถ้าผมทำงานนี้สำเร็จ คุณจะต้องเป็นแฟนกับผม แล้วตั้งแต่นั้นไปคุณจะใช้ความเป็นเจ้านายมาข่มผมไม่ได้แล้วนะ ทำได้แค่กดร่างกายผมด้วยร่างกายของคุณเท่านั้นนะครับ”
โลกมันแคบขนาดนี้เลยหรือ วันนั้นที่เธอทำให้ผมได้พบกับฟางเฟยอีกครั้ง จนกระทั้งตอนนี้ที่ได้เข้าทำงานในบริษัทเดียวกันกับเธอ ได้เป็นคนที่อยู่ใต้อำนาจงานของตัวเธอเอง
เพื่อนร่วมงานเล่ากันว่าเซี้ยหยุนเป็นคนที่เย็นชาและลึกลับมาก มีแต่คนอยากเข้าหาเธอ อยากจีบเธอ ไม่ว่าจะเป็นลูกชายของกลุ่มผู้บริหาร รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนองค์กร หรือไม่ว่าใครก็ตามไม่เคยจีบเธอติดเลยสักคน ขนาดว่าคนที่จีบเธอแต่ละคนก็หน้าตาหล่อเหลาไม่ธรรมดาเลยสักนิด
ยิ่งไปกว่านั้นคู่ค้าระดับสูงต่างก็เอาอกเอาใจเธอกันถ้วนหน้า ขนาดที่ว่าฝ่ายดูแลบุคลากรยังให้ความอนุเคราะห์เธอเป็นพิเศษ
ทุก ๆ ของมูลที่ผมได้รับฟังมาบ่งชี้ว่า ผมก็คงเป็นได้แค่หมาวัดมองเครื่องบิน ไม่มีอะไรจะให้เธอได้สักอย่าง
ยิ่งกว่านี้ หลายวันก่อนที่สถานีตำรวจชุมชน เธอนัดกับผมไว้แล้วว่าถ้าพรหมลิขิตทำให้เราได้เจอกันอีกครั้ง ผมก็มีโอกาสจะจีบเธอ
แน่นอนว่าผมก็แค่ล้อเล่นเพียงเท่านั้น แต่เธอคงไม่คิดว่าผมจะพูดล้อเล่นกับเธอ ผมอยู่ต่อหน้าเธอก็มักจะแสดงด้านลบออกไป เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมสนใจในเรือนร่างของเธอ
ก็ถือว่าเธอเข้าใจผมผิดก็แล้วกัน และเธอยังไม่เข้าใจว่าผมเป็นไอ้โรคจิตของเธอก็พอ แต่ทว่า ผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปทั้งหมดเช่นเธอ หรืออาจจะเป็นลูกสาวเศรษฐีอย่างเธอหนะหรือ จะมาชายตามองหมาวัดอย่างผม...
ไม่แน่ว่าอาจจะเพราะผมช่วยชีวิตเธอไว้ เธอก็เลยอยากจะให้สินน้ำใจหรือรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอบแทนผมก็เท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผมอาจจะโดนเธอไล่ออกจากบริษัทหยุ่นเฟยก็เป็นได้ ทางที่ดีผมไม่ควรจะเข้าไปอยู่ในสายตาเธอบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงที่จะใช้โอกาสพบเจอเธอ และยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ผมจะไม่เข้าไปหลอกหลอนใจเธอว่าครั้งหนึ่งผมช่วยชีวิตเธอเอาไว้
แต่ว่าผมก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ผมก็แค่หางานใหม่ทำ
วันนั้นทุกอย่างก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร เหมือนกับว่าเรื่องของผมไม่ได้ทำให้เซี้ยหยุนวิตกกังวลหรือลำบากใจ
หลังเลิกงานผมโทรหาพ่อแม่ว่าผมอยู่สุขสบายดี เพราะสองปีมานี้ผมทำให้พวกท่านกังวลใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ตกดึกนอกจากผมจะสะดุ้งตื่นเพราะฝันถึงฟางเฟยแล้ว นอกนั้นก็ถือว่าผมนอนหลับสบายอยู่เหมือนกัน แต่ไม่คิดเลยว่าผมจะฝันถึงเซี้ยหยุนเสียด้วย ทำไมกันล่ะ ผมฝันว่าอยู่ในห้องทำงานของเธอสองต่อสอง เธอเหมือนลูกแกะตัวน้อย ๆ เขินอายเสียจนใบหน้านวลพร่องขึ้นริ้วแดงระเรื่อ แต่ก็ไม่หยุดกล่าวหาผมว่าเป็นพวกผีทะเลโรคจิต
เช้าวันที่สอง ผมมัวแต่ยุ่ง ๆ กับการทำงาน หัวหน้าพนักงานเติมของบอกกับผมว่า ซีอีโอเรียกให้ผมไปพบเธอที่ห้อง
ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่านอกจากเซี้ยหยุนจะไม่ไล่ผมออกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเรียกผมให้ไปพบที่ห้องทำงาน หรือเธออยากจะแกล้งอะไรผม
ผมผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานของเซี้ยหยุน ตาก็เหลือบไปเห็นขาขาวๆของเธอนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา
เมื่อเธอเห็นว่าผมเดินเข้ามาแล้วใบหน้าของเซี้ยหยุนเรียบสนิทไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ เธอชี้ไปที่โซฟาตัวตรงข้ามกับที่เธอนั่งพร้อมกับพูดว่า “ปิดประตูแล้วมานั่งที่โซฟาข้าง ๆ ฉัน”
ผมรีบปิดประตูห้องทำงานแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาข้าง ๆ เธอ ดวงตาผมสะดุดกับหน้าอกของเธอ กวาดตาไปจนถึงขาขาว ๆ ทั้งสองข้างที่พ้นออกมาจากกระโปง เสียดายตรงที่ว่าเธอนั่งหนีบขาชิดเกินไปไม่งั้นผมคงอดไม่ได้ที่จะกวาดตามองบางอย่างที่ลึกเข้าไปอีก
เซี้ยหยุนสังเกตเห็นสายตาที่กวาดมองเรือนร่างของเธอ ใบหน้าของเธอพลันแดงวาบขึ้นมา เธอรีบเอามือมาดึงกระโปรงให้ร่นลงมามากขึ้นอีกหน่อย สายตาของเธอก็มองตำหนิมาที่ผม
“บ้ากาม!”
ผมยิ้มไม่หุบและได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไป ตาก็เหลือบมองใบหน้าที่แดงวาบของเธอ
“ถ้าประธานเซี้ยอยากจะแก้แค้นอะไรผมแค่ไล่ผมออกก็พอนี่ครับ เรียกผมมาแบบนี้ ถ้าคิดจะมาแกล้งอะไรล่ะก็นะ เกรงว่าคุณจะต้องผิดหวังเพราะว่าผมหนะมันพวกหน้าหนาหนะครับ ฮาๆ ๆ”
“เหอะ หน้าไม่อายจริง ๆ” เซี้ยหยุนอดไม่ได้ที่จะพูดใส่หน้าผม
“หึหึ ในสายของของประธานเซี้ยผมมันก็แค่พวกโรคจิตอันธพาล เช่นนี้แล้วทำไมผมต้องแสร้งเป็นสุภาพบุรุษด้วยล่ะครับ หืม”
ได้ยินดังนี้ ใบหน้าของเซี้ยหยุนก็ดูจะอึดอัดเล็กน้อย เธอพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เรื่องเมื่อวานที่จริงแล้วฉันก็เป็นคนผิด ฉันไม่ควรไปดูถูกคนอื่น แต่เธอก็ไม่ควรรอจนฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำถึงได้เดินโพล้งออกมา”
ผมตกใจไปเล็กน้อย เธอไม่ไล่ผมออกออกกลับกันยังจะกล่าวขอโทษผม หญิงสาวคนนี้นอกจะจะสวยและฉลาดมากแล้วนั้น ยังมีจริยธรรมที่สูงมาทีเดียว
ดูเหมือนว่าเธอจะไปตรวจสอบกับฝ่ายบุคคลแล้วแน่ ๆ ว่าผมยื่นใบสมัครงานไว้ที่บริษัทนี้จริง ๆ และไม่ได้สะกดรอยตามเธอมาบริษัทแห่งนี้
“วันนี้ฉันเรียกนายมา เพียงแค่อยากจะถามอะไรนายเล็กน้อยก็เท่านั้น” เซี้ยหยุนพูดต่อ
“เรื่องอะไรหรือครับ”
เซี้ยหยุนยืดตัวขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับถามผมว่า “ก่อนที่คุณจะมาที่ปินไห่นี้ คุณทำงานเป็นพนักงานลูกหาบเติมของแบกของหรือ”
ทำไมต้องมาทำงานเป็นลูกหาบเขาแบบนี้หนะหรือ เหอะ! ก็ไม่ใช่เพราะว่าตำแหน่งงานขายไม่ว่างหรืออย่างไงกัน ดูเหมือนว่าแผนกบุคคลไม่ได้บอกเหตุผมที่ผมเข้ามาทำงานนี้สินะ
ผมก็ขี้เกียจเกินกว่าจะอยากอธิบายให้เธอฟัง ก็เลยแกล้งตอบเธอกลับไปว่า “งานลูกหาบเติมของแบกของมันไม่ดีตรงไหนครับ เอาของไปเติมใส่ตรงนี้ทีตรงนู้นทีเดี๋ยวเดียวก็ได้เงินแล้ว ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไรนี่ครับ”
“หึ้ย!” ทันใดนั้นเซี่ยหยุนก็พูดอย่างดูถูกขึ้นมาว่า “นายนี่มันไม่มีความทะเยอทะยานเอาซะเลย!”
ผมไม่ได้สนใจท่าทีของเธอ ผมตอบกลับเธอไปว่า “คุณเซี้ยหยุนดูถูกงานลูกหาบแบกย้ายของหรือส่งเอกสารพวกนี้หรือครับ ในบรรดางานร้อยแปด งานนี้มันดีที่สุดสำหรับผมแล้ว หรือคุณว่าไม่จริงครับ”
เมื่อเธอฟังผมพูดจบ สีหน้าของเซี้ยหยุนก็ดูเหมือนจะตึงขึ้นมา เธอพูดอย่างแดกดันว่า “ฉันเห็นประวัติส่วนตัวที่นายยื่นสมัครงาน ประสบการณ์ทำงานสามปี ผู้จัดการระดับภูมิภาคอีกสองปี ฉันก็เพียงแค่นึกไม่ถึงว่าคุณจะเปลี่ยนมาทำงานลูกหาบส่งเอกสารหรือแบกของก็เท่านั้น”
เธอพูดต่อว่า “คุณเอาแต่คลั่งไคล้ผู้หญิงจนเสียการเสียงาน ต้องออกจากบริษัทเก่าแล้วย้ายมาที่เมืองปินไห่นี้ไม่ใช่หรือ”
“คนแบบนายนี่ไม่มีน้ำยาแบบนี้มาตลอดเลยหรือเปล่า ก็เลยต้องมาทำงานแบกของส่งของอยู่นี่ไง”
เมื่อผมได้ฟังคำพูดแดกดันที่เธอพูดต่อผมจบ ใจผมแทบจะแหลกสลายไปเดี๋ยวนั้น คิ้วของผมขมวดเข้าหากันเป็นปม ผมพูดกับเธอว่า “ประธานเซี้ยคุณพูดแบบนี้หมายว่ายังไงครับ คุณอยากจะแก้แค้นโดยการไล่ผมออกก็ไม่จำเป็นต้องประชดประชันโดยการเอาอดีตของผมมาพูดก็ได้นี่ครับ ผมชอบทำงานนี้แล้วมันยังไง ถ้าตามที่คุณพูดมา งานพนักงานทำความสะอาดหรือแม้แต่งานลูกหาบแบกของส่งของก็ล้วนเป็นคนไม่มีน้ำยาหรือครับ ”
“ฉันไม่ได้อยากจะแก้แค้นนาย แล้วก็ไม่ได้จะประชดประชันนาย ฉันก็แค่พูดความจริงเท่านั้น”เซี้ยหยุนเอามือทาบไว้ที่หน้าอกของเธอแล้วมองคล้ายดูถูกมาที่ผม
เมื่อผมได้ยินดังนี้แล้วและเมื่อได้เห็นท่าทางเหยียดหยามของเธออีกครั้ง ผมก็รู้สึกทนไม่ไหวและลุกขึ้นยืน
“งั้นผมขอพูดหน่อยนะคุณเซี้ยหยุน ผมไม่รู้ว่าวันนี้ประจำเดือนคุณมาหรือไม่ ถึงได้พูดหักหาญน้ำใจกันได้ขนาดนี้ มันไม่มีคำพูดอื่นที่ดีกว่านี้แล้วใช่ไหมครับ”
“นาย...” เซี้ยหยุนเลือดขึ้นหน้า ลุกขึ้นยืนประชันหน้ากับผม ดวงตาของเธอคล้ายโกรธผมจนไฟลุกวาว เธอพูดกับผมว่า “นายนั้นแหละที่ประจำเดือนมา!”
“คุณเคยเห็นผู้ชายมีประจำเดือนด้วยหรือครับ”
เซี้ยหยุนแทบจะกลั้นหายใจ หลังจากนั้นใบหน้าของเธอก็กลับมาเย็นชาและแสดงท่าทางเย้อหยิ่ง เธอกล่าวเสียงเย็นกับผมว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะว่านายช่วยชีวิตฉันไว้ครั้งหนึ่ง อย่าหวังว่าฉันจะพูดกับนายมากขนาดนี้เลย!”
“งั้นคุณก็ตอบแทนผมตอนนี้เลยก็ได้ครับ” ผมพูดเสียงเย็นชาตอบกลับเธอไป ผมมองไปใบหน้าที่งดงาม หน้าอกหน้าใจที่ไม่ใช่น้อย ๆ นั่น และแถบด้วยขาที่เรียวขาวของเธอ ผมพูดต่อว่า “ตอบแทนด้วยร่างกายคุณมั้ยล่ะครับ”
“หึหึ เฉินเทา นายคิดว่าฉันจะตอบแทนพนักงานย้ายส่งของในบริษัทอย่างนายด้วยการร่วมหลับนอนเหรอ นายหวังมากไปรึเปล่า” เซี้ยหยุนพูดเยาะเย้ยผม
“หื้ม” ผมยิ้มมุมปากด้วยความสงสัยปนขบขัน “แสดงว่าถ้าผมไม่ได้เป็นแค่พนักงานต่ำต้อย คุณจะยอมนอนกับผมหรือครับ...ประธานเซี้ย”
เซี้ยหยุนหมุนวนนิ้วมือของเธอไว้รอบ ๆ หน้าอกและพูดอย่างยั่วยวนว่า “ ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชายอย่างนายมีค่าพอหรือเปล่า ฉัน...เซี้ยหยุนคนนี้ไม่ได้ต้องการคนที่มีอำนาจล้นฟ้า แต่ชายคนรักของฉันควรจะต้องเป็นคนที่มีอุดมการณ์ มีความปรารถนา และทัศนคติเชิงบวกต่อตัวเอง นายคิดว่านายเป็นแบบนั้นได้หรือเปล่าล่ะ”
ได้ยินแบบนี้ผมก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงในท่าทีของเธอ เธอกำลังบอกใบ้ผมหรือ ว่าต้องการให้ผมมีอุดมคติและความทะเยอทะยานต่อตัวเอง แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะยอมรับผม
ผมทนไม่ได้ที่จะนึกถึงเมื่อเช้าวานนี้ที่ผมเห็นเธอสวมใส่อันเดอร์แวร์ชิ้นน้อย ๆ เพียงสามชิ้นบนร่าง ถ้าผมเอาร่างสูง ๆ ของผมกดเธอไว้ใต้ล่างมันจะเจ๋งซักแค่ไหนกันนะ
บ้าจริง! ไอ้นั่นของผมแทบจะระเบิดออกมาข้างนอกเสียให้ได้เลย!
“ประธานเซี้ย! จริง ๆ แล้วลูกหาบเป็นเพียงแค่งานชั่วคราวของผม เมื่อสินค้าใหม่ของบริษัทเปิดตัวออกมา ผมก็จะเข้าไปรับหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายขายแล้วนะครับ” ผมพูดออกอย่างอดใจไม่ไหว
“เหรอ” เซี้ยหยุนยิ้มเยาะผมกลับมา “ฝ่ายการขายของบริษัทก็ต้องผ่านการสัมภาษณ์จากฉัน แล้วนายคิดว่าฉันจะยอมให้นายเข้ามาในแผนกฝ่ายขายเหรอไง”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอให้ประธานเซี้ยสัมภาษณ์ผมตอนนี้เลยได้มั้ยครับ เผื่อว่าจะต้องแก้ไขนิสัยที่ไม่ดี ที่ผมชอบทำตัวเหลวไหลกับประธานเซี้ยมาตลอด ผมจะได้ไม่ทำมันอีกต่อไป”
“ชิ!” เซี้ยหยุนอดไม่ได้ที่จะยิ้มส่ายหัวเดินไปที่โต๊ะทำงานของเธอแล้วหยิบแฟ้มเอกสาร เธอโยนมันลงบนโต๊ะทำงานดัง ‘ปัง!’
“เฉินเทา งั้นนี่คือสิ่งแรกที่คุณจะต้องทำ” เซี้ยหยุนชี้ไปที่แฟ้มเอกสาร “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณสามารถทำงานในแผนกขายได้เลย แล้วก็แน่นอนว่านี่เป็นเพียงงานชั่วคราวของคุณเท่านั้น ถ้าคุณทำงานนี้สำเร็จ ฉันจะถือว่าคุณเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการของฝ่ายแผนกการขายของบริษัทเรา นอกจากนั้นฉันยังจะขอโทษคุณสำหรับสิ่งที่ฉันพูดและทำลงไปในวันนี้ด้วย”
“แต่ว่า...ถ้านายทำงานนี้ไม่สำเร็จ ประทานโทษเถอะ หยู่เฟยไล่นายออกแน่!”
ผมตกตะลึงในทันที! ตอนนี้คนโง่อย่างผมรู้ว่าเธอกำลังขุดหลุมรอให้ผมตกหลุมพราง
การกระทำก่อนหน้านี้เป็นการแกล้งทำทั้งหมด และการที่เธอแกล้วยั่วยวนผมก็เป็นการขุดหลุมพรางขนาดใหญ่ขึ้นมา
เธอก็ยังอยากจะตอบแทนผมนะ แต่ด้วยการกลั่นแกล้งผมยังไงล่ะ ไม่อยากเห็นหน้าผมแต่ก็ไม่อยากเป็นคนเลว ก็เลยใช้วิธีการนี้เพื่อคิดที่จะเล่นงานผม
ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ งานนี้แน่นอนว่าต้องทั้งยุ่งยากและผมมีเปอร์เซ็นสูงที่จะทำไม่สำเร็จ
และแน่นอนว่าหลังจากที่เซี้ยหยุนพูดคำเหล่านี้ออกมา รอยยิ้มแห่งชัยชนะก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
ผมโดนเธอหลอกใช้เข้าแล้วจริง ๆ
ผมอยากจะทั้งโกรธทั้งหัวเราะไปด้วยอีกครั้ง ผมอดไม่ได้ที่จะเดินไปที่โต๊ะของเธอ วางมือลงบนโต๊ะ โน้มร่างกายส่วนบนของผมเข้าหาใบหน้าของเซี้ยหยุนและมองไปที่เธอ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันถึงได้กล้าจะหลอกใช้ผม
เซี้ยหยุนโดนผมทำให้แกล้งตกใจ ไม่นานเธอก็ตั้งสติได้แล้วใช้สายตามองกดดันมาที่ผม
หลังจากที่ผมเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น ผมก็ต้องเป็นฝ่ายตะลึงเสียเอง หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าของ เซี้ยหยุนจากระยะใกล้ เธอไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ แต่ใบหน้าราวกับหยกแกะสลักของเธอ ไม่มีริ้วรอยหรอแผลเป็นอะไรเลย มันทั้งขาวและเรียบเนียนราวกับว่าไข่ที่เพิ่งแกะเปลือกออกมา และยังเผยให้เห็นความแวววาวช่ำน้ำบนใบหน้านั่น
ไม่สามารถควบคุมลมหายใจของตัวเองไม่ให้สะดุดและผมสูญเสียความเป็นตัวเองไปเสียแล้ว
"คุณมองพอหรือยัง" เซี้ยหยุนพูดด้วยเสียงเย็นชา
"ไม่ ผมจะมองมันไปชั่วชีวิต" ผมตอบโดยไม่สนใจอะไร
“นาย......” เซี้ยหยุนหน้าแดงราวกับลูกมะเขือเทศสุกปลั่ง
ผมมองเธออย่างไร้ยางอาย "เฮ้อ...ท่านประธานครับ ผมทำงานนี้แน่นอน แต่ผมต้องการเพิ่มเดิมพันอีกหน่อย"
ผมเลื่อนสายตาลงและมองไปที่ร่างของเธอพร้อมกับรอยยิ้มขี้เล่นบนใบหน้า "ถ้าผมทำงานนี้สำเร็จ คุณจะต้องเป็นแฟนกับผม แล้วตั้งแต่นั้นไปคุณจะใช้ความเป็นเจ้านายมาข่มผมไม่ได้แล้วนะ ทำได้แค่กดร่างกายผมด้วยร่างกายของคุณเท่านั้นนะครับ”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved