บทที่ 13 ใช้ชีวิตเหมือนกับสุนัข

ที่จริงแล้วเขาคิดว่าฉันลืมเขาไม่ได้ ฉันมาอยู่ที่ปินไห่ก็เพราะว่ามาตามหาเขา

พูดง่ายๆก็คือ ฉันตามเขามาอย่างกับสุนัขตามเจ้าของ

“ขอโทษที่ฉันต้องพูดรุนแรงกับคุณ” ฟางเฟยรีบขอโทษฉันด้วยความรู้สึกผิด

เขาพูดอีกว่า :“ฉันอยากให้คุณลาออกจากหยู่เฟยวันนี้เลย งานชิ้นที่คุณตามอยู่นั้นก็ไม่ต้องตามต่อแล้ว คุณไม่สามารถทำมันสำเร็จได้”

“เหอะ ในสายตาของคุณผมไร้ความสามารถขนาดนั้นเลยหรอ” ฉันไม่แก้ตัวแล้วก็ไม่อยากแก้ตัว ฉันเอาแต่นั่งสูบบุหรี่ อย่างน้อยมันก็บรรเทาความเจ็บปวดในใจฉันได้

“ไม่ใช่อย่างงั้น” ฟางเฟยบอก “งานชั้นนี้มีคนเคยตามแล้ว แม้กระทั้งหัวหน้าผ่ายการขายก็เคยตาม แต่ก็ไม่มีใครเคยทำสำเร็จ ฉันไม่อยากเห็นคุณถูกคนในบริษัทหัวเราะเยาะ ถึงได้ให้คุณเลิกตามงานชิ้นนี้”

“คุณไม่ต้องมาสนใจ” ฉันทิ้งบุหรี่ลงกับพื้น แล้วมองหน้าฟางเฟย

“ฟางเฟย ผมจะบอกคุณให้นะว่าผมไม่ได้ตามคุณมาปินไห่ คุณไปถามถันฉวนก็ได้ ผมมาถึงปินไห่แล้วถึงได้รู้ว่าคุณก็อยู่ที่นี่ แล้วก่อนหน้าที่คุณโทรมาหาผม ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณทำงานอยู่ที่หยู่เฟยเหมือนกัน”

“งานชิ้นนี้ผมก็ยังจะตามต่อไป และผมก็มีความสามารถที่จะทำให้มันสำเร็จ”

“ผมยังอยากจะบอกคุณอีกว่า เมื่อก่อนที่ผมขยันทำงานก็เพื่ออยากให้คุณได้มีชีวิตที่ดี ตอนนี้ถึงแม้ว่าคุณจะจากไปแล้ว ผมก็จะใช้ความสามารถที่มีทำงานต่อไป เพื่อที่จะให้ชีวิตที่ดีกับผู้หญิงอีกคนที่ไม่ใช่คุณ”

พูดเสร็จ ฉันก็เดินออกมาจากห้องใต้บันได

ฉันไม่ได้กลับเข้าไปในห้องทำงาน แต่ฉันเดินออกไปจากบริษัท ไปนั่งสูบบุหรี่อยู่ในที่ที่ไม่มีผู้คน

ฉันเกลียดตัวเองที่ยังเสียใจ

ทำไมฉันถึงใช้ชีวิตเหมือนกับสุนัข ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็มีแต่คนสงสาร มีแต่คนดูถูก

แม้กระทั้งผู้หญิงที่เคยรัก ก็ยังดูถูกฉันอย่างนี้

ฉันเคยต่อสู้เพื่อเขา แต่เขากลับไม่เห็นค่า เลือกที่จะทิ้งฉันไป ตอนนี้ฉันต่อสู้เพื่อตัวเอง เขากลับคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอับอาย

เหอะเหอะ ในที่สุดฉันก็เข้าใจประโยคที่ว่า ผู้หญิงที่เขาไม่รักเรา เราก็เป็นแค่สิ่งที่ไร้ตัวตนในสายตาของเขา

ฉันไม่ได้กลับไปทานข้าวกลางวันที่บริษัท แต่นั่งอยู่ตรงนี้จนถึงเวลาเข้างาน อยู่ๆหูคุนก็โทรศัพท์เข้ามา

ตอนแรกฉันคิดว่าหูคุนเป็นคนน่ารังเกียจ แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกว่าหูคุนก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด

อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยดูถูกฉัน เลี้ยงข้าวเลี้ยงเหล้าฉัน แถวยังหาผู้หญิงมาให้ฉันอีก

เมื่อวานเราเที่ยวเล่นกันอย่างสุดโต้ง จนกลายเป็นพี่เป็นน้องกัน คุยกันทุกเรื่อง

และที่สำคัญ เขายังจะมอบหมายงานชิ้นใหญ่ที่ได้เงินเยอะๆให้ฉันทำอีก

ฉันเห็นหูคุนโทรมาก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ฉันรับสาย“สวัสดีครับพี่หู”

“เฉินเทา” นำเสียงของหูคุนดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดี นำเสียงไม่เป็นมิตรเอาซะเลย “นายหรือว่าประธานเซี้ยกันแน่ที่เล่นตลกกับฉัน”

ฉันตกใจ รู้เลยว่าจะต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน

“พี่หูใจเย็นก่อนครับ เกิดอะไรขึ้นครับ”

“ฉันใจเย็นได้ที่ไหนกัน เมื่อกี้ประธานเซี้ยของนายโทรมาหาฉัน บอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับฉัน ให้ฉันเลิกคิดที่จะตามจีบเขา แล้วยังบอกว่าตอนนี้แหล่งสินค้าของหยู่เฟยคลาดแคลนไม่พร้อมที่จะรับสินค้าของฉัน ไหนนายลองบอกซิว่านี้มันเรื่องอะไร”

อะไรกัน ฉันอดไม่ได้ที่จะด่า

แสดงว่าเซี้ยหยุนรู้เรื่องนี้เเล้ว เขาก็เลยทำแบบนี้ โทรไปตัดบทหูคุนแล้วยังเอาแหล่งสินค้าของบริษัทมาเป็นของอ้างอีก

ต้องมีคนคอยแอบจับตามองฉันอยู่ หรือไม่งั้นก็คนใกล้ตัวของหูคุนเอาเรื่องนี้ไปบอกเซี้ยหยุนแน่ๆ

เขาเก่งเรื่องพวกนี้จริงๆ ยังจะมาเล่นเกมสายลับกับฉัน ฉันรู้สึกว่ามันช่างน่าตลกและน่าโมโห

แต่ว่า การเดิมพันครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา ถ้าเกิดว่าเขาแพ้ขึ้นมา จะต้องมาเป็นแฟนฉัน ไม่ระวังอาจจะต้องมาเสียตัวให้กับคนทะลึ่งอย่างฉันได้

เขาคงจะคิดไม่ถึงว่าฉันจะเข้ากับหูคุนได้ดีขนาดนี้ แถมยังสอนหูคุนจีบหญิงอีกตั้งหาก พูดได้ว่าพนักงานขายตัวเล็กๆอย่างฉันสามารถเปลี่ยนแปลงไฮโซอย่างหูคุนได้เลยทีเดียว

สุดท้ายก็เลยรีบโทรไปหาหูคุน คิดจะขัดขวางฉัน

แต่เขาไม่รู้ว่า งานชิ้นนี้ไม่ใช่แค่การเดินพัน

มันคือศักดิ์ศรีของฉันไปแล้ว

เขาไม่ต้องมาเป็นแฟนฉันก็ได้ ฉันลาออกจากหยู่เฟยก็ได้ แต่ฉันจะเสียศักดิ์ศรีไม่ได้

ดังนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามขัดขวางยังไง งานชิ้นนี้ ฉันจะต้องทำให้สำเร็จ

เมื่อฉันกำลังคิดหาวิธีให้หูคุนใจเย็นลง เขาก็พูดว่า:“เพื่อเขาคนเดียว ฉันอุส่าย้ายบริษัทมาอยู่ที่ปินไห่ นายรู้ไหมว่าฉันจ่ายเงินไปเท่าไหร่”

“พี่หู ใจเย็นก่อนครับ”

“เย็นอะไรกัน ฉันชอบเขาตั้งแต่แรกเจอ แต่เขากลับบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับฉัน ยังบอกให้ฉันหยุดความคิดที่มีต่อเขาอีก”

“คนอย่างฉันแค่โปรยเงิน ก็มีผู้หญิงตั้งมากมายที่อยากจะเข้ามา ฉันไม่โอเค ฉันจะต้องไปถามเขาให้รู้เรื่อง”

พูดเสร็จหูคุนก็วางสายไป

ฉันอึ้งไปสักพัก แล้วรีบโทรกลับไป

“นายไม่ต้องโทรมาหาฉัน งานชิ้นนั้นนายก็ไม่ต้องคาดหวังอะไรแล้ว คนอย่างฉันถ้าจะเอาเปรียบใครก็ไม่เอาเปรียบหยู่เฟย”

ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร หูคุนก็วางสายโทรศัพท์

“เหี้ยเอ้ย” ฉันอดไม่ได้ที่จะพูดคำหยาบคาย

วันนี้มันวันอะไรกันเนี่ย ตอนเช้าฟางเฟยพูดจาไม่เข้าหูยังไม่พอ ตอนนี้เซี้ยหยุนยังมาก่อความวุ่นวายอีก

ผู้หญิงสองคนนี้ เป็นอะไรกับฉันนักหนา

หูคุนนี่ก็เหมือนกัน แค่เซี้ยหยุนพูดแค่นี้ถึงกลับโกรธขนาดนี้ เขาต้องชอบเซี้ยหยุนมากแค่ไหนกัน

ทำหยังกับรักมากก็เกรียดมาก ถึงขั้นงานก็ไม่เอาให้หยู่เฟยแล้ว งั้นเมื่อวานที่ฉันทำไปก็เปล่าประโยชน์นะสิ

ไม่ได้ ฉันจะล่มเลิกไม่ได้ มันจะต้องมีโอกาสสิ

หูคุนบอกว่าจะไปถามเซี้ยหยุนให้รู้เรื่อง ตามนิสัยของเขา ถ้าเขาไปจริงๆมันจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ๆ

ฉันจะต้องรีบไปขวางเขาไว้ ถ้าปล่อยไว้จะยิ่งวุ่นววายเข้าไปใหญ่

อีกอย่าง ฉันทนเห็นเซี้ยหยุนโดนหูคุนหลอกไม่ได้หรอก

สู้มาให้ฉันหลอกดีกว่า

จากนั้นฉันก็รีบกลับบริษัท

ฉันรู้ว่าหูคุนไม่มาหาเชี่ยหยุนที่บริษัทหรอก ถึงแม้ว่าเขาจะอารมณ์ร้อนแต่เขาก็ไม่ได้โง่ มาถึงบริษัทก็ไม่มีทางได้เจอเซี้ยหยุนอยู่ดี

อย่ามองว่าเขาเป็นถึงไฮโซ มีบริษัทเกมส์ขนาดใหญ่เป็นของตัวเอง แต่ก็เทียบกับหยู่เฟยไม่ได้ เบื้องหลังของหยู่เฟยยังมีกลุ่มบริษัทหวนหยู่ขนาดยักษ์ใหญ่คอยหนุนหลัง

ระหวางทางเดินกลับบริษัท ฉันก็คิดวิธีรับมือกับเรื่องนี้ พอถึงชึ้นเก้าฉันก็ยังไม่ได้กลับเข้าไปในห้องทำงาน แต่ฉันเลือกที่จะโทรศัพท์เรียกเสี่ยวเป้ยมาคุยด้วยก่อน

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

404