บทที่ 4 ขอโทษคุณผู้ชายท่านนี้ซะ

by จินเหอซี 08:30,Apr 26,2021
"ท่านประธาน ทะ ท่านมาได้อย่างไรครับ……"พอเห็นเหมียวเผิงจวีที่ยืนโมโหอยู่ตรงหน้าประตู เจียงเหว่ยก็ตกใจรีบลุกขึ้นยืน

"หวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นของบ้านนายหรือไง ฉันมาไม่ได้ใช่มั้ย?"

เหมียงเผิงจวีสีหน้าขึงขัง จ้องมองเจียงเหว่ย

"ไม่ๆๆครับ ท่านประธานฟังผมก่อน ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ……"เจียงเหว่ยกลัวจนหน้าซีดหน้าเซียว เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านประธานจะต้องโมโหขนาดนี้

"ถ้าอย่างนั้นนายหมายความว่าอะไร?คุณผู้ชายท่านนี้มาสมัครงานใช่มั้ย เมื่อกี้นายทำท่าทางอะไรลงไป?"

เหมียวเผิงจวีเอ่ยถามเจียงเหว่ยเสียงเข้ม จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าโจวเทียน

ที่อยู่ตรงหน้านี่คือคุณชายแห่งตระกูลโจวสินะ!พระเจ้า คุณชายมาลองใช้ชีวิตแบบชนชั้นล่างอย่างนั้นหรอ?สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาชะมัด……เหมียวเผิงจวีแอบประหลาดใจ

"ขอโทษครับท่านประธาน เมื่อสักครู่ผมทำท่าทางไม่ดี……"เจียงเหม่ยปาดเหงื่อไม่กล้าแม้แต่จะถอนหายใจ

เหมียวเผิงจวีอย่างจะตบเจียงเหว่ยแรงๆสักที ไอ้โง่นี่นิ แกอย่าตายก็อย่าเอาฉันไปเอี่ยวด้วย!ถ้าคุณชายโกรธขึ้นมา ฉันคงได้พับเสื่อกลับบ้านไปเลี้ยงลูก!มองดูสีหน้าเฉยเมยของโจวเทียน เหมียวเผิงจวีก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ตอนแรกเขาอยากจะโค้งคำนับโจวเทียน แต่พ่อบ้านฉินได้บอกเอาไว้ว่า คุณชายไม่ต้องการให้ใครรบกวน เพราะฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตามอย่าเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของคุณชายเด็ดขาด

"คุณผู้ชายครับ ลูกน้องของผมไม่ค่อยรู้เรื่อง ท่านอย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะครับ"

เหมียวเผิงจวียิ้มจนหน้ากลายเป็นซาลาเปา ก้มโค้งเอ่ยกับโจวเทียน

ทันใดนั้นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็พากันอ้าปากตาค้างกันหมด

เหมียวเผิงจวีเป็นถึงใครกัน?

เขาเป็นถึงประธานบริหารของหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลเชียวนะ กลับมาก้มหัวต่อหน้าโจวเทียน……ทำเอาโจวเทียนอึ้งไปเลย เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมียวเผิงจวีถึงได้ไว้หน้าเขาขนาดนี้

เห็นว่าโจวเทียนไม่พูดอะไร ภายในใจของเหมียวเผิงจวีก็หวาดหวั่น

"นายมานี่ ขอโทษคุณผู้ชายท่านนี้ซะ!"

เหมียวเผิงจวีชี้หน้าเจียงเหว่ยพร้อมเอ่ย

อะไรนะ?

ขอโทษไอ้กระจอกนี่?

ภายในใจของเจียงเหว่ยนั้นไม่ยิมยอมมากๆ เพราะถึงอย่างไรก็ตามตัวเองเป็นถึงผู้จัดการ คนมีหน้ามีตา จะต้องมาขอโทษไอ้กระจอกนี่น่ะหรอ

"ท่านประธานครับ มันไม่จำเป็นมั้งครับ"

เจียงเหว่ยเอ่ยอย่างหงุดหงิดใจ

"พูดจาอะไรไร้สาระ!ตำแหน่งผู้จัดการถ้าไม่อยากทำแล้วก็บอกมา!"

เหมียวเผิงจวีโมโหอย่างสุดๆ

เจียงเหว่ยตัวแข็งทันที รีบเดินไปขอโทษต่อหน้าโจวเทียน

"คุณผู้ชายครับต้องขออภัย เมื่อสักครู่ผมพูดอะไรไม่รู้จักคิด"

โจวเทียนไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าเจียงเหว่ย เขานำสายตาไปมองยังเหมียวเผิงจวี ไม่เข้าใจว่าเหมียวเผิงจวีกำลังทำเรื่องบ้าอะไร

พอเหมียวเผิงจวีเห็นว่าโจวเทียนมองมายังตนเอง ใจก็เต้นรัวทันที

ดูเหมือนว่าคุณชายจะไม่ยอมรับคำขอโทษนะนี่!คุณชายมองหน้าเรา หมายความว่าอะไรกันนะ?

เข้าใจแล้ว คุณชายต้องกำลังรอดูว่าเราจะทำอย่างไรแน่ๆ!"เจียงเหว่ย นายโดนเลิกจ้างแล้ว"

เจียงเหว่ยเกือบทรุดลงที่พื้น ตะลึงค้างไปเลย

สวัสดิการของหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนล ดีที่สุดในเมืองนี้ เสียงานนี้ไปส่งผลกระทบต่อเจียงเหว่ยมากๆ

เหมียวเผิงจวีพูดอะไรแล้วไม่คืนคำ เจียงเหว่ยรู้ว่าขอร้องใครก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

ไอ้เวรเฉียนเสี่ยวเฟย !แกพาเทพพระเจ้าที่ไหนมา ถึงได้มาทุบถังข้าวสารฉันแบบนี้

เจียงเหว่ยรู้สึกสำนึกผิด แอบด่าเฉียนเสี่ยวเฟยเอยู่ในใจ ก่อนจะออกไปจากห้องทำงาน

เฉียนเสี่ยวเฟยเองก็รู้สึกตะลึงตาค้างนิดหน่อย ตอนแรกเขาต้องการที่จะเหยีดหยามโจวเทียนต่อหน้าหลี่รั่วเสวี่ยและจางซูยวิ๋น ตอนนี้กลับกันดันทำให้ไอ้โจวเทียนได้หน้า แล้วยังขุดหลุมฝังเจียงเหว่ยอีก

"คุณลุงเหมียวครับ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ผมว่าคงไม่ต้องถึงกับไล่เจียงเหว่ยออกมั้งครับ"

แม้ว่าเฉียนเสี่ยวเฟยจะแสดงออกอย่างสงบ แต่ภายในใจของเขานั้นกลับโหวงๆ

ขนาดพ่อเขาเจอเหมียวเผิงจวียังต้องถ่อมตน นับประสาอะไรกับเขาล่ะ

"เฉียนเสี่ยวเฟย ฉันทำอะไรต้องให้นายมาสอนงั้นหรอ?"

เหมียวเผิงยวีหัวเราะอย่างเย็นชา ไม่แม้แต่จะมองเฉียนเสี่ยวเฟยในสายตา

"ผม……"เฉียนเสี่ยวเฟยรู้สึกเสียหน้า แต่ไม่กล้าที่ถือดีต่อหน้าเหมียวเผิงจวี

"คุณผู้ชายครับ ท่านว่า……แบบนี้ท่านพอใจมั้ยครับ?"

เหมียวเผิงจวียิ้มอย่างเปิดเผยและถามโจวเทียนด้วยความเคารพ

"อืม"

สีหน้าของโจวเทียนยังคงเรียบนิ่ง เพียงแค่ส่งเสียงตอบรับเบาๆ

แต่ว่าสำหรับเหมียวเผิงจวีแล้ว เหมือนกับกินยาเสริมความมั่นใจอย่างไหงอย่างงั้น แค่เพียงคุณชายไม่ตำหนิก็ดีแล้ว

ส่วนจางซูยวิ๋นที่อยู่อีกด้านก็มองอย่างมึนงง ไม่ว่าเธอจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก คนใหญ่คนโตอย่างเหมียวเผิงจวี ทำไมถึงมองอย่างเทิดทูนไอ้ลูกเขยไร้ประโยชน์ของเธอแบบนั้น

สีหน้าหลี่รั่วเสวี่ยเองก็มองด้วยความประหลาดใจ ดวงตาสวยมองไปยังโจวเทียน

หวี่รั่วซือยิ่งกว่าเธอถึงกับเกาหัว พี่เขยขาเป๋ของเธอทำไมถึงมีหน้ามีตาขนาดนี้?

"พอใจแล้วก็เยี่ยมไปเลยครับ ฮี่ฮี่……"เหมียวเผิงจวีถูฝ่ามือใหญ่ด้วยความตื่นเต้น

"ขออนุญาตสอบถามค่ะคุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าท่านต้องการสมัครงานในตำแหน่งไหนคะ?"

ตอนนั้นเอง หลิ่วเยว่เอ๋อร์ก็เดินส่ายสะโพกเข้ามาตรงหน้าโจวเทียน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยเบาๆ

หญิงสาวคนนี้รู้จักฉวยโอกาส เธอรู้ว่าโจวเทียนเป็นลูกชายอภิมหาเศรษฐี ถ้าทำให้โจวเทียนถูกตาต้องใจได้ เธอก็จะสุขสบายไปเลย

"เหอะๆ แต่ไม่ต้องทำความสะอาดห้องน้ำก็โอเคแล้วครับ"

โจวเทียนยิ้มบางๆ

"ดูท่านพูดเข้าสิคะ จากรูปร่างหน้าตาของท่านแล้ว เป็นผู้จัดการยังไม่เกินจริงเลยค่ะ"

หลิ่วเยว่เอ๋อร์ส่งสายตาให้โจวเทียนอย่างทอดสะพาน หลังจากนั้นก็เอ่ยถามเหมียวเผิงจวี "ใช่มั้ยคะ ท่านประธาน?"

"ใช่ๆ ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบุคคลขาดคนพอดีเลย ท่านลองมาทำตำแหน่งนี้เล่นๆดูมั้ยครับ?"

เหมียวเผิงจวีเอ่ยถามโจวเทียนอย่างเป็นกังวล เขาคิดว่าโจวเทียนแค่ว่างๆเบื่อๆเลยมาหางานทำเล่นๆ

"โอ้พระเจ้า ผู้จัดการหรอ?"

จางซูยวิ๋นอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น มองไปยังประธานเหมียวอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา

เธอรู้ว่า ตำแหน่งของรั่วเสวี่ยลูกสาวตัวเองก็เป็นแค่ผู้จัดการเท่านั้น

เหมียวเผิงจวีเห็นแบบนั้นก็เข้าใจผิด คิดว่าจางซูยวิ๋นเข้าใจผิด ก็รีบเอ่ย:"ถ้าให้คุณผู้ชายเป็นผู้จัดการคงดูถูกความสามารถเกินไป ถ้าอย่างนั้นเป็นผู้จัดการใหญ่เลยเป็นไงครับ?"

"ผู้จัดการใหญ่?"

คราวนี้ทั้งจางซูยวิ๋นและลูกสาวทั้งสองคน ต่างพากันส่งเสียงอย่างแปลกใจ

เหมียวเผิงจวีเหงื่อออกเต็มไปหมด คุณชายก็ไม่แสดงท่าทีอะไร แล้วแบบนี้ทำแบบไหนถึงจะดีล่ะ!"หรือไม่ก็ ผมลาออกไม่ทำแล้ว ให้คุณผู้ชายท่านนี้มาเป็นประธานบริหารแทนเป็นไงครับ?"

เหมียวเผิงจวีแสดงสีหน้าขมขื่น เอ่ยปรึกษากับจางซูยวิ๋น

จางซูยวิ๋นเบิกตากว้างเกือบถลน "ท่านประธานคะ ท่านเอ่อ ท่านทานยาผิดมาหรือเปล่าคะ……""คุณผู้หญิง พูดว่ายังไงก็อย่างนั้นเลยครับ"

เหมียวเผิงจวียิ้มอย่างขมขื่น

จางซูยวิ๋นได้ยินดังนั้นก็เกือบเซล้ม เธอสงสัยจริงๆว่าเหมียวเผิงจวีบ้าไปแล้วหรือเปล่า

"ไม่เลวเลยนี่แกน่ะ รู้จักท่านประธานคนใหญ่คนโตด้วย!สมรู้ร่วมคิดกับคนอื่นแล้วเอาความดีเข้าตัวเรอะ?"

จางซูยวิ๋นหันกลับไปยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยถามโจวเทียน

"แม่ครับ ผมไม่รู้จักเขาจริงๆ"

โจวเทียนส่ายหน้า

"พอๆๆ เดี๋ยวนี้รู้จักโกหก กลับบ้านไปฉันจะไปซักแก"

จางซูยวิ๋นส่งเสียงไม่พอใจ

"เฮ้ ถ้านายเป็นประธานมันก็เกินไปหน่อย แต่ถ้าเป็นผู้จัดกการใหญ่ก็ไม่น่ามีปัญหาไรนะ คิกคิก"

ตอนนั้นเองหลี่รั่วซือก็หยอกล้อโจวเทียน

"อย่าพูดมั่วๆหน่า คนเขาล้อเล่นเฉยๆ"

โจวเทียนเอ่ยกับหลี่รั่วซือ

หลี่รั่วเสวี่ยไม่ได้เอ่ยอะไรตั้งแต่ต้น ตอนนี้เธออยากถามโจวเทียนตัวต่อตัว

"คุณผู้ชาย ท่านว่า……"เหมียวเผิงจวียืนอย่างเป็นกังวล ร้อนใจจนเหงื่อออกเต็มไปหมด รอความเห็นจากโจวเทียน

โจวเทียนมองในตาเขา ภายในใจก็เข้าใจทันที

ให้ 9 ใน 10เลย เหมียวเผิงจวีต้องรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาแล้วแน่ๆ ไม่งั้นไม่มีทางทำท่าทางแบบนี้

"ผมกลับไปคิดดูก่อนแล้วกัน"

โจวเทียนเอ่ยตอบกับเหมียวเผิงจวีนิ่งๆ

"ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ ที่นี่รอต้อนรับทุกท่านเสมอ นี่นามบัตรของผมครับ มีเรื่องอะไรโทรหาผมได้ตลอด"

เหมียวเผิงจวีหยิบนามบัตรออกมา ยื่นไปให้โจวเทียนอย่างเคารพ

"มีของฉันด้วยค่ะ"

หลิ่วเยว่เอ๋อร์เองก็หยิบนามบัตรของตัวเองกออกมา นำไปยัดใส่ในมือของโจวเทียน

"อย่าลืมโทรมาหาฉันด้วยนะคะ"

หลิ่วเยว่เอ๋อร์จีบปากจีบคอเอ่ยกับโจวเทียน

"พวกเรากลับบ้าน"

หลี่รั่วเสวี่ยจ้องหน้าหลิ่วเยว่เอ๋อร์ ก่อนจะดึงโจวเทียนเดินออกไป

เหมียวเผิงจวีพาหลิ่วเยว่เอ๋อร์เดินออกมาส่งโจวเทียนจนถึงหน้าบริษัท มองตามจากที่ไกลๆ

ตั้งแต่ต้นจนจบ เหมียวเผิงจวีไม่แม้แต่จะชายตามองเฉียนเสี่ยวเฟยสักนิดเดียว

เฉียวเสี่ยวเฟยเจ็บใจจนกัดฟันกรอด รู้สึกเสียหน้า

ยังสงสัยว่าวันนี้ลมอะไรพัดเหมียวเผิงจวีถึงได้เทิดทูนโจวเทียนขนาดนั้น!"คุณน้า รั่วเสวี่ย รีบขึ้นรถเร็ว เดี๋ยวผมไปส่ง"

เฉียนเสี่ยวเฟยฝืนยิ้มออกมาเอ่ยอย่างกระตือรือร้น

"ไม่ต้องหรอก พวกเราเรียกรถกลับเอง"

หลี่รั่วเสวี่ยเอ่ยตอบอย่างเย็นชา จากนั้นก็ยื่นมือไปโบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง

"รั่วเสวี่ย ถ้าหัวหน้าเธอทำให้เธอลำบากอีก เธอบอกฉันนะ ฉันจัดการได้"

เฉียนเสี่ยวเฟยเอ่ยกับหลี่รั่วเสวี่ย

หลี่รั่วเสวี่ยทำเหมือนไม่ได้ยิน เดินขึ้นรถไปกับโจวเทียน

พอเห็นรถเคลื่อนออกไปไกลแล้ว เฉียนเสี่ยวเฟยก็สบถออกมา"ถุ้ย!นังพวกตัวดี ทำเป็นหยิ่งยโส คอยดูเถอะฉันจะทำให้เธอมาคุกเข่าร้องอ้อนวอน!"

……กลับมาถึงบ้าน ขณะที่โจวเทียนกำลังจะเดินเข้าห้อง ก็ถูกจางซูยวิ๋นเรียกไว้

"โจวเทียน ฉันถามอะไรแกหน่อย แกรู้จักท่านประธานของหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลได้ยังไง?"

"แม่ครับ ผมไม่รู้จักเขาจริงๆ"

"ฉันไม่เชื่อ ถ้าแกไม่รู้จักเขา เขาจะไล่ผู้จัดการเจียงเพื่อแกทำไม?"

จางซูยวิ๋นจ้องหน้าโจวเทียน เหมือนกำลังสอบสวนนักโทษ

"แม่ไม่เชื่อก็ตามใจครับ"

โจวเทียนแบมือสองข้างเหนื่อยการที่จะมาอธิบาย หมุนตัวเดินเข้าห้องตัวเองไปทันที

"แกทำท่าทางอะไรของแก!"

จางซูยวิ๋นโกรธจนกระทืบเท้า

"แม่ หมอนั่นจะไปรู้จักกับท่านประธานคนนั้นได้ไงล่ะ?เขาคงแค่ต้องการรักษาภาพลักษณ์ของบริษัท เลยไล่ผู้จัดการเจียงออก"

หลี่รั่วซือเอ่ยอย่างดูถูก

"แล้วที่ให้ทันเป็นผู้จัดการใหญ่ ไหนจะยกตำแหน่งท่านประธานให้มันอีก จะอธิบายยังไง?"

จางซูยวิ๋นเอ่ยถามหลี่รั่วซืออย่างสงสัย

"นั่นเพราะเขาเป็นคนอารมณ์ขันไงแม่ ล้อไอ้กระจอกนี่เฉยๆ คิกคิก"

หลี่รั่วซือเอ่ยไปหัวเราะไป

"อ๋อ"

จางซูยวิ๋นพยักหน้าอย่างเข้าใจทันที

"รั่วซือ ยังไงเขาก็เป็นพี่เขยเรา ต่อไปพี่ไม่อนุญาตให้เรียกเขาว่าไอ้กระจอกนะ"

หลี่รั่วเสวี่ยเอ่ยกับหลี่รั่วซือ

"ชิ้"

หลี่รั่วซือทำหน้าไม่ใส่ใจอะไร เอนตัวลงบนโซฟาเล่นโทรศัพท์

หลี่รั่วเสวี่ยถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนของเธอกับโจวเทียน

ห้องนอนกว้างขวางพอสมควร มีเตียงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางและมีเตียงแคบ ๆ อยู่ที่มุมห้อง

โจวเทียนนอนอยู่บนเตียงแคบๆนั่น แต่งงานกับหลี่รั่วซือมาสามปี เตียงใหญ่นั่นเป็นที่ต้องห้ามสำหรับเขามาโดยตลอด

"โจวเทียน ฉันพบว่ายิ่งนานวันเข้าฉันยิ่งไม่เข้าใจนาย"

หลี่รั่วเสวี่ยเดินเข้ามาตรงหน้าโจวเทียน

"ทำไมไม่เข้าใจล่ะ?"

โจวเทียนยิ้มบางๆพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง

"ฉันดูออกว่าที่เหมียวเผิงจวีทำตัวนอบน้อมกับนายขนาดนั้น ไม่ใช่การแสดง เพราะตอนนั้นมือของเขาสั่นตลอดเวลา!"

"เหมียวเผิงจวีจะทำอะไรในเมืองเป่ยชวนก็ทำได้อย่างง่ายดาย ทำไมเขาต้องกลัวนายขนาดนั้น?"

"ครอบครัวนายก็แย่ขนาดนั้น ความสามารถอะไรก็ไม่มี สรุปนี่มันอะไรกันแน่?"

หลี่รั่วเสวี่ยสงสัยอย่างมาก เอ่ยถามซักไซ้โจวเทียน

"รั่วเสวี่ย สามปีกว่า นี่เป็นครังแรกที่คุณพูดกับผมมากขนาดนี้"

โจวเทียนมองใบหน้าที่งดงามของรั่วเสวี่ย

หลี่รั่วเสวี่ยชะงักและเธอรู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ถูก

เธอไม่ค่อยเป็นแบบนี้ ไม่เคยอยู่ใกล้ชิดสบสายตากับผู้ชายที่ตัวเองรังเกียจ

เซ้นส์ของผู้หยิงบอกเธอว่า ผู้ชายคนนี้ ชอบเธอมากๆ

ส่วนเธอ ตลอดสามปีมานี้ ไม่เคยทำหน้าที่ของภรรยาเลย

"ต่อไปฉันจะคุยกับนายมากขึ้นแล้วกันนะ"

หลี่รั่วเสวี่ยมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเอ่ยเบาๆ

โจวเทียนได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแสดงอาการ

"รั่วเสวี่ย จริงๆแล้วผมไม่ได้จนเลยสักนิดเดียว ยิ่งไม่ใช่ไอ้กระจอกอะไรเลย!สามีของคุณรวยมากนะ คุณไม่จำเป็นต้องทำเพื่อคนพวก ……""อะไรนะ?"

หลี่รั่วเสวี่ยชะงักไปเลย

แต่ไม่นาน ร่องรอยของความเบื่อหน่ายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ

"โจวเทียน นายอย่ามาขี้โม้ต่อหน้าฉันจะได้มั้ย?ยิ่งนายทำแบบนี้ฉันจะยิ่งดูถูกนาย!"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1672