บทที่ 13 ครั้งจะปล่อยพวกแกไป
by จินเหอซี
08:31,Apr 26,2021
"จะฟังคำพูดของฉันหรือไม่นั้น เดี๋ยวก็รู้เอง"
โจวเทียนนั่งอยู่ตรงนั้นพลางพูดอย่างแนบนิ่งมากๆ ไม่ร้อนไม่รน
เมื่อเห็นสภาพของโจวเทียนในตอนนี้ เฉินถิงก็ยิ่งโมโหมากเข้าไปใหญ่
ในสายตาของเธอ นี่มันเท่ากับฟ้าได้พังทลายลงมาชัดๆ ลูกเขยกระจอกๆอย่างโจวเทียนเนี่ยนะ ทางภัตตาคารจะมีทางเชื่อฟังคำสั่งของเขาได้ยังไง? นี่มันกำลังพูดเรื่องตลกอยู่ไม่ใช่หรอ
"แล้วถ้าไม่สามารถเอาเงินหนึ่งแสนสามหมื่นแปดพันหยวนนั่นกลับมาให้พวกเราได้ แกจะทำยังไง?"
หลัวกังหัวเราะอย่างเยือกเย็นพลางทางโจวเทียน
โจวเทียนยิ้มอ่อนไม่ได้ยินแบบนี้ เขาจ้องมองหลัวกังพลางพูดว่า "ถ้าเกิดพวกเขาไม่สามารถเอาเงินคืนกลับมาให้นายได้ ฉันก็จะทำเหมือนกับที่นายเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ คุกเข่าลงกับพื้นแล้วกลิ้งออกไปจากร้าน"
"หึ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ แกต้องคุกเข่าอยู่ต่อหน้าหลัวกัง จากนั้นค่อยตบหน้าตัวเองสิบครั้ง ตบครั้งนึงแล้วพูดว่าตัวเองเป็นคนน่าสมเพชไปด้วยครั้งนึง" เฉินถิงถลึงตาใส่โจวเทียนพลางพูด
เชี้ย
โหดร้ายมากจริงๆเลยนะ สมแล้วที่แม่นางคนนี้จะมีความคิดแบบนี้ออกมาได้
โจวเทียนขมวดคิ้วลงเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาไม่เข้าใจจริงๆเลยว่า ตัวเองไปทำอะไรให้เฉินถิง ตั้งแต่ที่เริ่มเจอหน้ากันครั้งแรกเธอก็เอาแต่กีดกันตัวเองเลย
เมื่อหลัวกังได้ยินเฉินถิงพูดแบบนี้ เขาก็ได้หัวเราะออกมาอย่างสะใจ
เฉินถิงก็สะใจมากๆเช่นกัน พลางคิดในใจว่าเดี๋ยวก็จะได้ดูอะไรสนุกๆแล้ว
"ได้ แต่พวกเธอก็อย่าลืมคำพูดที่ตัวเองพูดไปเมื่อกี้นี้ล่ะ"
โจวเทียนพูด
"เห้อ พวกเธอกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย ทุกคนต่างเป็นญาติมิตรกัน เหตุใดถึงต้องทำให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นนี้ด้วย"
เฉินเจียงเหอขมวดคิ้ว รู้สึกว่าการกระทำนี้มันไม่ได้เรื่องเลย
"เหล่าเฉินคุณอย่าเข้าไปยุ่งเลย จากที่ฉันดูนะสามีคนนี้ของรั่วเสวี่ยนี่โม้เก่งจริงๆเลย มันเก่งมากไม่ใช่หรอ งั้นพวกเราก็รอดูละกันว่ามันจะเก่งเหมือนที่มันบอกหรือเปล่า"
จางซูเซียงเอามือกอดอก พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
จางซูยวิ๋นและหลี่รั่วเสวี่ยต่างรู้สึกหัวเสียไม่เบาเลย พวกเธอรู้สึกว่าโจวเทียนบ้าไปแล้ว นี่เป็นเกมที่ยังไงก็ต้องแพ้อยู่ดี เดี๋ยวจะอับอายขายขี้หน้าผู้คนมากขนาดไหนละเนี่ย?
หลี่รั่วเสวี่ยกำลังอยากจะเรียกให้โจวเทียนรีบกลับบ้านไปเดี๋ยวนี้ แต่ในตอนนี้เอง พนักงานสาวคนดังกล่าวก็ได้กลับมาอีกครั้ง ด้านหลังของเธอ มีหญิงสาวที่สวมใส่เสื้อสูทที่รัดรูปตามมาอีกด้วย
ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวก็คือถังเสี่ยวนิวในห้องการเงินนั่นเอง ตอนที่โจวเทียนซื้อภัตตาคารแห่งนี้ เธอเคยเห็นโจวเทียนอยู่
ถังเสี่ยวนิวในตอนนี้ยังรู้สึกสงสัยในใจอยู่เลย ไม่รู้ว่าใครกันนะที่ปากเก่งได้ขนาดนี้ กลับจะให้เธอเอาเงินแสนกว่านั่นคืนกลับไปให้ลูกค้าที่มารับประทานอาหาร
แต่หลังจากที่เธอเห็นว่าโจวเทียนอยู่ที่นี่ด้วย เธอก็ตะลึงขึ้นมาอย่างกะทันหัน
"เถ้า….."
ถังเสี่ยวนิวกำลังจะเอ่ยปากพูดคำว่า"เถ้าแก่" ก่อนที่จะเห็นว่าโจวเทียนส่งซิกทางสายตามาให้เธอก่อน เธอจึงรีบหุบปากไป
"นำเงินที่คุณผู้ชายท่านนี้จ่ายไป เอาคืนกลับมาให้เขา"
โจวเทียนชี้ไปทางหลัวกัง พลางพูดกับถังเสี่ยวนิว
"อ้อ ได้ค่ะๆ เดี๋ยวฉันจะไปเอาเงินตอนนี้เลย"
ถังเสี่ยวนิวรีบตอบกลับ ก่อนจะหันหน้าแล้วมุ่งหน้าวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองอย่างรวดเร็ว
นี่มัน!
ผู้คนที่อยู่ในสนามไม่มีใครที่ไม่รู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ต่างๆเลย
จางซูยวิ๋นและหลี่รั่วเสวี่ยหันมาสบตากันครั้งหนึ่ง ต่างรู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อมากๆ
ถังเสี่ยวนิวเชื่อฟังคำสั่งของโจวเทียนมากขนาดนี้เลยหรอ นี่มันเป็นไปได้ยังไง?
เฉินเจียงเหอและจางซูเซียงก็รู้สึกมึนงงไปด้วยเช่นกัน อันที่จริงพวกเขาก็เฝ้าคอยที่จะรอดูอะไรสนุกๆด้วยเช่นกัน เพราะยังไงเมื่อกี้ลูกสาวของพวกเขาและลูกเขยอย่างเป็นทางการของพวกเขาได้เดิมพันกับโจวเทียนไว้
เฉินถิงมองโจวเทียน เมื่อกี้เธอได้เตรียมคำพูดดูถูกเหยียดหยามไว้สำหรับโจวเทียนแล้ว แต่วินาทีนี้เธอได้กลืนคำพูดทั้งหมดลงไปในท้องเรียบร้อยแล้ว อัดอั้นคำพูดพวกนั้นจนรู้สึกทรมานมาก
"นี่มันเป็นไปไม่ได้…..."
หลัวกังเบิกตากว้างทั้งสองข้าง เขาเริ่มลุกลนขึ้นมาแล้ว
ถ้าเกิดถังเสี่ยวนิวเอาเงินคืนให้เขาจริงๆ เขาก็จะต้องกลิ้งออกไปจากร้านแล้วนะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆเขาคงจะอับอายขายขี้หน้าไปทั่วทั้งตระกูลเลย ต่อไปจะให้เขาเจอหน้าผู้คนยังไงต่อ?
โจวเทียนแค่อมยิ้มเล็กน้อย ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างแนบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และในตอนนี้เอง ถังเสี่ยวนิวก็ได้กลับมาพร้อมกับเงิน
"คุณผู้ชายคะ นี่เป็นเงินหนึ่งแสนสามหมื่นแปดพันที่คุณเพิ่งจ่ายไปเมื่อกี้นี้ค่ะ"
ถังเสี่ยวนิวยืนอยู่ด้านหน้าของหลัวกัง พลางพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน
มองดูเงินหนึ่งแสนกว่าที่อยู่ตรงหน้า หลัวกังทั้งรู้สึกเขินทั้งรู้สึกโกรธมากจริงๆ และรู้สึกซาบซึ้งในใจอยู่ด้วยเล็กน้อย
นี่เป็นเงินทองของแท้เลยนะ เป็นเงินที่เขาเพิ่งจ่ายออกไป เมื่อกี้เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมากเลยล่ะ
ในขณะที่กำลังจะยื่นมือออกไปรับอยู่นั้น ถังเสี่ยวนิวกลับไม่ได้เอาเงินให้เขา แค่พูดกับเขาว่า :"รบกวนคุณช่วยทำตามคำท้าที่ได้ให้กับคุณโจวด้วยค่ะ คุกเข่าลงกับพื้นแล้วกลิ้งออกไป เงินทั้งหมดนี้ก็จะเป็นของคุณค่ะ"
"แกแม่งกำลังเหยียดหยามฉัน!"
หลัวกังโมโหจนถลึงตา พลางตะคอกใส่ถังเสี่ยวนิวอย่างดุร้าย
"เหอะๆ คุณเป็นคนบอกเองนะว่าจะกลิ้งออกไปจากที่นี่ เป็นลูกผู้ชายคนนึง จะคืนคำหรอ?"
ถังเสี่ยวนิวพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
ใบหน้าของหลัวกังเริ่มแดงเถือกขึ้นมา "วันนี้คำพูดที่ฉันพูดทั้งหมดเป็นโมฆะ เธอจะทำอะไรฉันได้!"
"ฮ่าๆ ฉันไม่สามารถทำอะไรคุณได้อยู่แล้วค่ะ แต่ว่าเงินก้อนนี้ฉันคงไม่มีทางเอาคืนกลับไปให้คุณแล้วค่ะ"
ถังเสี่ยวนิวหัวเราะดังลั่นออกมาเมื่อได้ยินเช่นนี้
หลัวกังไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรแล้ว เขารู้สึกลังเลใจเป็นอย่างมาก
ถ้าเกิดต้องกลิ้งออกไปจริงๆ มันอับอายขายขี้หน้ามากเกินไปแล้ว แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ หนึ่งแสนกว่าเลยนะ……
สำหรับหลัวกังแล้ว หนึ่งแสนกว่านี้เป็นเงินก้อนใหญ่พอสมควรเลย นี่เป็นเงินเก็บทั้งหมดของเขาในตอนนี้แล้ว
เฉินถิงรู้สึกโมโหมากจนใกล้จะขาดอากาศหายใจ เธอชี้หน้าถังเสี่ยวนิวพลางถาม :"เธอเป็นอะไรกับโจวเทียนกันแน่ ทำไมถึงต้องเชื่อฟังคำพูดของมัน?"
ถังเสี่ยวนิวผงะไปสักพัก ก่อนจะยิ้มพลางตอบกลับ :"เพราะว่าคุณโจวหล่อเหลามากเกินไป ฉันชอบเขามากๆ เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"
"เชี้ย"
เฉินถิงกรอกตามองบนทันที ก่อนจะหันไปพูดกับหลัวกัง :"เราไปกันเถอะ!"
"ถิงถิง หนึ่งแสนสามนั่นไม่เอาแล้วหรอ?"
หลัวกังมองเฉินถิงด้วยสายตาที่ลังเล และยังไม่ลืมมองไปที่เงินที่อยู่บนมือขอถังเสี่ยวนิว เขาไม่อยากเสียเงินก้อนนั้นไปจริงๆนะ
เฉินถิงโมโหโกรธกริ้วขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้ ถลึงตาใส่หลัวกังแล้วพูดว่า :"หรือว่าเพื่อเงินก้อนนั้นนายจะยอมกลิ้งออกไปจริงๆ?"
"ถิงถิง แสนกว่าเลยนะครับ….."
"ได้ งั้นนายกลิ้งออกไปเลย"
หลัวกังโมโหจนเอาเท้าย่ำกับพื้น
หลัวกังจะกลิ้งออกไปไม่ได้เป็นธรรมดาอยู่แล้วสิ ถ้าเกิดเขาทำแบบนั้นจริงๆ ต่อไปจะให้เขาไปพบปะกับผู้คนได้ยังไง?
เพราะฉะนั้นหลัวกังเลือกที่จะไม่พูดอะไร แค่ถลึงตาใส่โจวเทียนทีนึง
เขายิ่งรู้สึกใจคอเหี่ยวแห้งมากเข้าไปใหญ่ ไม่เข้าใจว่าทำไมโจวเทียนถึงได้มีอำนาจอิทธิพลได้มากขนาดนี้ แม้กระทั้งภัตตาคารลี่เจียงอาหารทะเลสดยังเชื่อฟังคำสั่งของเขา
"ทำไม คำพูดที่เคยพูดออกมาไม่เป็นผลแล้วหรอ?"
โจวเทียนหัวเราะอย่างเยือกเย็น พลางมองไปทางหลัวกัง
"โจวเทียน แกอย่ามากเกินไปหน่อยนะ!"
หลัวกังถลึงตาใส่โจวเทียน
"ใช่ๆ เมื่อกี้แค่ล้อเล่นกับแกเท่านั้นแหละ แกคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงหรอ?"
เฉินถิงทำเสียงหึไปทีนึง พลางพูดแถ
"ล้อเล่น? ถ้าเกิดฉันแพ้ พวกแกจะบอกว่านี่เป็นแค่การล้อเล่นมั้ย?"
"เพื่อให้เกียรติรั่วเสวี่ย ครั้งนี้ฉันจะปล่อยพวกแกไป ต่อไปอย่ามาเก๊กต่อหน้าฉันอีก"
"อีกอย่าง เงินหนึ่งแสนกว่าสำหรับฉันแล้ว มันไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย อาหารในมื้อนี้ฉันเป็นคนเลี้ยงเอง"
โจวเทียนชี้หน้าหลัวกัง พลางพูดอย่างเรียบนิ่งมากๆ ก่อนจะหันหลังแล้วมุ่งหน้าเดินออกไปทางประตู
"ถังเสี่ยวนิว เอาเงินคินให้พวกมันด้วย"
ในขณะที่โจวเทียนเดินออกไปถึงหน้าทางออกของภัตตาคาร เขาได้พูดออกมาคำนึงโดยที่ไม่หันกลับไปมองเลย
"ค่ะ!"
ถังเสี่ยวนิวตอบกลับเสียงดัง ก่อนจะคืนเงินให้เฉินถิงและหลัวกัง
มองดูโจวเทียนที่จากไป ผู้คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างเบิกตากว้างอ้าปากค้าง
เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ เฉินถิงถึงจะหันไปพูดกับหลี่รั่วเสวี่ย :"รั่วเสวี่ย นั่นยังเป็นสามีเธออยู่อีกหรอ? พฤติกรรมของเขาในเมื่อกี้นี้เท่จังเลยนะ…..."
หลี่รั่วเสวี่ยยังไม่ได้สติกลับมาจากความช็อค เธอคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่า เรื่องทั้งหมดจะเป็นแบบนี้
โจวเทียนไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้เธอขายหน้า ในทางตรงกันข้าม ยังมาดเท่ได้ขนาดนี้อีก โยนเงินหนึ่งแสนกว่าออกไปโดยที่ไม่กระพริบตาเลย นี่มันมาดเท่เกินไปแล้ว
แต่ทว่า ทำไมถังเสี่ยวนิวถึงเชื่อฟังโจวเทียนได้หละ เงินหนึ่งแสนกว่า บอกไม่เอาก็ไม่เอาเลย
ตอนนี้ในใจของหลี่รั่วเสวี่ยเต็มไปด้วยข้อสงสัย เธออยากไล่ตามโจวเทียนออกไปตอนนี้จริงๆ แล้วไปถามโจวเทียนดีๆว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่
"พี่ถิง พี่ไม่เคยเอาเขาไปไว้ในสายตามาก่อนเลยไม่ใช่หรอ ทำไมตอนนี้ถึงคิดว่าเขาเท่ได้"
หลี่รั่วเสวี่ยพูด
เฉินถิงรู้สึกอึดอัดมากๆ ก่อนหน้านี้เธอเหยียดหยามโจวเทียนไว้มากขนาดนั้น ตอนนี้รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวมากจริงๆ
"ฮ่าๆ หลี่รั่วเสวี่ย ก็ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ว่าเขาเจ๋งขนาดนี้หนิ"
ในระหว่างที่เฉินถิงพูด แววตาของธอเป็นประกายขึ้น ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกอิจฉาหลี่รั่วเสวี่ยขึ้นมาบ้างแล้ว ยิ่งรู้สึกสงสัยในตัวโจวเทียนมากกว่า
หลี่รั่วเสวี่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ เดินออกไปจากภัตตาคารลี่เจียงอาหารทะเลสดพร้อมกันกับทุกคน
"ซูยวิ๋น เดี๋ยวฉันกับเหล่าเฉินขอตัวกลับก่อนนะ"
หลังจากที่ออกมาถึงด้านนอก จางซูเซียงได้บอกลากับจางซูยวิ๋น
"ได้เจ้ ต่อไปมาเที่ยวหาฉันบ่อยๆนะ"
จางซูยวิ๋นหัวเราะยิ้มแย้มพลางพูดอย่างเกรงอกเกรงใจ แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ก็ออกหน้าให้ตัวเองได้สักครั้ง เพิ่มราศีบารมีให้เธอ
"ซูยวิ๋น ต่อไปแกต้องระวังหน่อยแล้วนะ ลูกเขยของแกดูเป็นคนที่ซื่อสัตย์คนนึงเลย แต่ความเป็นจริงแล้วก็เป็นคนเจ้าชู้เหมือนกันนะเนี่ย"
จางซูเซียงพูด
จางซูยวิ๋นชะงักไปสักพักเมื่อได้ยินแบบนี้ "เจ้ เจ้หมายความว่ายังไงอ่ะ?"
"เมื่อกี้แกไม่ได้ยินที่ถังเสี่ยวนิวพูดหรือไง เธอบอกว่าลูกเขยของแกหล่อเหลา เธอชอบผู้ชายอยากลูกเขยแก"
"เจ้ สิ่งที่เจ้จะสื่อคือความสัมพันธ์ระหว่างโจวเทียนและถังเสี่ยวนิวไม่ธรรมดา?"
จางซูยวิ๋นเบิกตากว้างจนกลมโต พลางถามจางซูเซียง
"มันต้องแน่นอนอยู่แล้วสิ ไม่งั้นทำไมถังเสี่ยวนิวถึงเชื่อฟังคำสั่งของโจวเทียนได้หละ? เหอะๆ แกลองไปสืบหาดูดีๆเถอะ ระหว่างพวกมันสองคนต้องมีอะไรกันแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น!" จางซูเซียงพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นอกมั่นใจ
"ไอ้สาระเลวนั่น!"
จางซูยวิ๋นโมโหมากจนกัดฟันแน่น อดไม่ได้ที่จะรีบเข้าไปฉีกโจวเทียนออกเป็นชิ้นๆ
ตอนนี้เมื่อเธอมาลองนึกดูดีๆแล้ว เหมือนเรื่องจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่งั้นคนกระจอกอย่างโจวเทียน จะมีปัญญาอำนาจที่มากล้นขนาดนั้นได้ยังไง? ทำไมทางภัตตาคารถึงยอมคืนเงินเป็นแสนให้?
"ฮ่าๆๆ ทะเลาะกันไปครึ่งวันที่แท้เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้นี่เองหรอ โจวเทียนเป็นพวกผู้ชายหน้าอ่อนหรอเนี่ย มิน่าล่ะทำไมถึงดูเจ๋งได้มากขนาดนี้"
หลัวกังหัวเราะดังลั่น เบะปากพูดพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดูหมิ่น
"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันก็คิดว่ามันจะมีปัญญาจริงๆซะอีก เหอะๆ ที่แท้ก็ไปเป็นเด็กให้คนอื่นนี่เอง! แต่ว่านี่ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกหรอกนะ มันใช้ชีวิตโดยการเกาะผู้หญิงกินตั้งแต่แรกแล้วหนิ"
สภาพของเฉินถิงดูเหมือนกับว่าเข้าใจขึ้นมาได้ทันที ก่อนจะหัวเราะออกมา
หลี่รั่วเสวี่ยนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้ความรู้สึกในใจของเธอได้ยุ่งเหยิงตาลปัตรไปหมดแล้ว
ถึงแม้จะไม่อยากเชื่อคำพูดพวกนี้ แต่ถังเสี่ยวนิวเชื่อฟังโจวเทียนมากขนาดนั้น มันทำให้อดสงสัยไม่ได้จริงๆ
หลังจากที่ส่งพวกเฉินถิงกลับไปแล้ว จางซูยวิ๋นและหลี่รั่วเสวี่ยก็ได้กลับมาบ้าน
หลี่รั่วเสวี่ยไม่ได้ไปตามถามโจวเทียน เพราะเวลาที่ผ่านมาสามปีกว่าแล้ว เธอไม่เคยเป็นภรรยาที่ดีคนหนึ่งมาก่อนเลย ไม่เคยให้โจวเทียนขึ้นมาบนเตียงของเธอมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ถึงแม้โจวเทียนจะคบหากับผู้หญิงคนอื่นด้านนอก เธอก็รู้สึกว่าเธอไม่มีสิทธิ์อะไรไปกล่าวว่าเขา แค่หย่าร้างกันไปก็จบแล้ว
แต่จางซูยวิ๋นกลับไม่อยากปล่อยโจวเทียนไปแบบนี้ หลังจากที่กลับไปถึงบ้านเธอก็ได้ตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที "โจวเทียน แกออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
โจวเทียนกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องนอนตัวเองอยู่เลย เมื่อได้ยินเสียงของจางซูยวิ๋น เขาก็อดไม่ได้ที่จะปวดหัวเล็กน้อย
วันนี้ตอนที่อยู่ในภัตตาคารซีฟู๊ด เขาได้สร้างภาพลักษณ์หน้าตาให้จางซูยวิ๋นแล้วนะ ทำไมตอนนี้เธอยังโกรธได้มากขนาดนี้อีกเนี่ย?
"แม่ครับ แม่เรียกผมหรอครับ"
โจวเทียนเดินออกมาจากห้องนอน
เมื่อจางซูยวิ๋นเห็นว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับโจวเทียน ไฟโกรธที่อยู่ในใจก็ลุกแรงมากยิ่งขึ้น
"แกแสดงต่อเลยนะ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าแกจะแสดงได้ถึงตอนไหน!"
จางซูยวิ๋นชี้โจวเทียนพลางพูดตะโกนอย่าโกรธกริ้ว
"แม่ แม่รู้เรื่องทั้งหมดแล้วหรอครับ?" โจวเทียนถามเสียงแผ่วเบา
"แน่นอนอยู่แล้ว! แกจะยอมสารภาพมาแต่โดยดี หรือว่าจะให้ฉันพูดแทนแก?"
จางซูยวิ๋นบังคับไฟโกรธของตัวเองไว้ เธอก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า โจวเทียนจะยอมรับได้เร็วมากขนาดนี้ว่าตัวเองมีชู้ด้านนอก
โจวเทียนมองไปทางหลี่รั่วเสวี่ยรอบนึง ก่อนจะมองไปทางจางซูเซียง ถอนหายใจแล้วพูดว่า :"แม่ หลี่รั่วเสวี่ย ในเมื่อพวกคุณรู้หมดแล้ว งั้นผมจะขอสารภาพเลยละกัน อันที่จริง ผมเป็นลูกมหาเศรษฐีครับ…..."
โจวเทียนนั่งอยู่ตรงนั้นพลางพูดอย่างแนบนิ่งมากๆ ไม่ร้อนไม่รน
เมื่อเห็นสภาพของโจวเทียนในตอนนี้ เฉินถิงก็ยิ่งโมโหมากเข้าไปใหญ่
ในสายตาของเธอ นี่มันเท่ากับฟ้าได้พังทลายลงมาชัดๆ ลูกเขยกระจอกๆอย่างโจวเทียนเนี่ยนะ ทางภัตตาคารจะมีทางเชื่อฟังคำสั่งของเขาได้ยังไง? นี่มันกำลังพูดเรื่องตลกอยู่ไม่ใช่หรอ
"แล้วถ้าไม่สามารถเอาเงินหนึ่งแสนสามหมื่นแปดพันหยวนนั่นกลับมาให้พวกเราได้ แกจะทำยังไง?"
หลัวกังหัวเราะอย่างเยือกเย็นพลางทางโจวเทียน
โจวเทียนยิ้มอ่อนไม่ได้ยินแบบนี้ เขาจ้องมองหลัวกังพลางพูดว่า "ถ้าเกิดพวกเขาไม่สามารถเอาเงินคืนกลับมาให้นายได้ ฉันก็จะทำเหมือนกับที่นายเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ คุกเข่าลงกับพื้นแล้วกลิ้งออกไปจากร้าน"
"หึ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ แกต้องคุกเข่าอยู่ต่อหน้าหลัวกัง จากนั้นค่อยตบหน้าตัวเองสิบครั้ง ตบครั้งนึงแล้วพูดว่าตัวเองเป็นคนน่าสมเพชไปด้วยครั้งนึง" เฉินถิงถลึงตาใส่โจวเทียนพลางพูด
เชี้ย
โหดร้ายมากจริงๆเลยนะ สมแล้วที่แม่นางคนนี้จะมีความคิดแบบนี้ออกมาได้
โจวเทียนขมวดคิ้วลงเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาไม่เข้าใจจริงๆเลยว่า ตัวเองไปทำอะไรให้เฉินถิง ตั้งแต่ที่เริ่มเจอหน้ากันครั้งแรกเธอก็เอาแต่กีดกันตัวเองเลย
เมื่อหลัวกังได้ยินเฉินถิงพูดแบบนี้ เขาก็ได้หัวเราะออกมาอย่างสะใจ
เฉินถิงก็สะใจมากๆเช่นกัน พลางคิดในใจว่าเดี๋ยวก็จะได้ดูอะไรสนุกๆแล้ว
"ได้ แต่พวกเธอก็อย่าลืมคำพูดที่ตัวเองพูดไปเมื่อกี้นี้ล่ะ"
โจวเทียนพูด
"เห้อ พวกเธอกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย ทุกคนต่างเป็นญาติมิตรกัน เหตุใดถึงต้องทำให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นนี้ด้วย"
เฉินเจียงเหอขมวดคิ้ว รู้สึกว่าการกระทำนี้มันไม่ได้เรื่องเลย
"เหล่าเฉินคุณอย่าเข้าไปยุ่งเลย จากที่ฉันดูนะสามีคนนี้ของรั่วเสวี่ยนี่โม้เก่งจริงๆเลย มันเก่งมากไม่ใช่หรอ งั้นพวกเราก็รอดูละกันว่ามันจะเก่งเหมือนที่มันบอกหรือเปล่า"
จางซูเซียงเอามือกอดอก พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
จางซูยวิ๋นและหลี่รั่วเสวี่ยต่างรู้สึกหัวเสียไม่เบาเลย พวกเธอรู้สึกว่าโจวเทียนบ้าไปแล้ว นี่เป็นเกมที่ยังไงก็ต้องแพ้อยู่ดี เดี๋ยวจะอับอายขายขี้หน้าผู้คนมากขนาดไหนละเนี่ย?
หลี่รั่วเสวี่ยกำลังอยากจะเรียกให้โจวเทียนรีบกลับบ้านไปเดี๋ยวนี้ แต่ในตอนนี้เอง พนักงานสาวคนดังกล่าวก็ได้กลับมาอีกครั้ง ด้านหลังของเธอ มีหญิงสาวที่สวมใส่เสื้อสูทที่รัดรูปตามมาอีกด้วย
ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวก็คือถังเสี่ยวนิวในห้องการเงินนั่นเอง ตอนที่โจวเทียนซื้อภัตตาคารแห่งนี้ เธอเคยเห็นโจวเทียนอยู่
ถังเสี่ยวนิวในตอนนี้ยังรู้สึกสงสัยในใจอยู่เลย ไม่รู้ว่าใครกันนะที่ปากเก่งได้ขนาดนี้ กลับจะให้เธอเอาเงินแสนกว่านั่นคืนกลับไปให้ลูกค้าที่มารับประทานอาหาร
แต่หลังจากที่เธอเห็นว่าโจวเทียนอยู่ที่นี่ด้วย เธอก็ตะลึงขึ้นมาอย่างกะทันหัน
"เถ้า….."
ถังเสี่ยวนิวกำลังจะเอ่ยปากพูดคำว่า"เถ้าแก่" ก่อนที่จะเห็นว่าโจวเทียนส่งซิกทางสายตามาให้เธอก่อน เธอจึงรีบหุบปากไป
"นำเงินที่คุณผู้ชายท่านนี้จ่ายไป เอาคืนกลับมาให้เขา"
โจวเทียนชี้ไปทางหลัวกัง พลางพูดกับถังเสี่ยวนิว
"อ้อ ได้ค่ะๆ เดี๋ยวฉันจะไปเอาเงินตอนนี้เลย"
ถังเสี่ยวนิวรีบตอบกลับ ก่อนจะหันหน้าแล้วมุ่งหน้าวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองอย่างรวดเร็ว
นี่มัน!
ผู้คนที่อยู่ในสนามไม่มีใครที่ไม่รู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ต่างๆเลย
จางซูยวิ๋นและหลี่รั่วเสวี่ยหันมาสบตากันครั้งหนึ่ง ต่างรู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อมากๆ
ถังเสี่ยวนิวเชื่อฟังคำสั่งของโจวเทียนมากขนาดนี้เลยหรอ นี่มันเป็นไปได้ยังไง?
เฉินเจียงเหอและจางซูเซียงก็รู้สึกมึนงงไปด้วยเช่นกัน อันที่จริงพวกเขาก็เฝ้าคอยที่จะรอดูอะไรสนุกๆด้วยเช่นกัน เพราะยังไงเมื่อกี้ลูกสาวของพวกเขาและลูกเขยอย่างเป็นทางการของพวกเขาได้เดิมพันกับโจวเทียนไว้
เฉินถิงมองโจวเทียน เมื่อกี้เธอได้เตรียมคำพูดดูถูกเหยียดหยามไว้สำหรับโจวเทียนแล้ว แต่วินาทีนี้เธอได้กลืนคำพูดทั้งหมดลงไปในท้องเรียบร้อยแล้ว อัดอั้นคำพูดพวกนั้นจนรู้สึกทรมานมาก
"นี่มันเป็นไปไม่ได้…..."
หลัวกังเบิกตากว้างทั้งสองข้าง เขาเริ่มลุกลนขึ้นมาแล้ว
ถ้าเกิดถังเสี่ยวนิวเอาเงินคืนให้เขาจริงๆ เขาก็จะต้องกลิ้งออกไปจากร้านแล้วนะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆเขาคงจะอับอายขายขี้หน้าไปทั่วทั้งตระกูลเลย ต่อไปจะให้เขาเจอหน้าผู้คนยังไงต่อ?
โจวเทียนแค่อมยิ้มเล็กน้อย ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างแนบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และในตอนนี้เอง ถังเสี่ยวนิวก็ได้กลับมาพร้อมกับเงิน
"คุณผู้ชายคะ นี่เป็นเงินหนึ่งแสนสามหมื่นแปดพันที่คุณเพิ่งจ่ายไปเมื่อกี้นี้ค่ะ"
ถังเสี่ยวนิวยืนอยู่ด้านหน้าของหลัวกัง พลางพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน
มองดูเงินหนึ่งแสนกว่าที่อยู่ตรงหน้า หลัวกังทั้งรู้สึกเขินทั้งรู้สึกโกรธมากจริงๆ และรู้สึกซาบซึ้งในใจอยู่ด้วยเล็กน้อย
นี่เป็นเงินทองของแท้เลยนะ เป็นเงินที่เขาเพิ่งจ่ายออกไป เมื่อกี้เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมากเลยล่ะ
ในขณะที่กำลังจะยื่นมือออกไปรับอยู่นั้น ถังเสี่ยวนิวกลับไม่ได้เอาเงินให้เขา แค่พูดกับเขาว่า :"รบกวนคุณช่วยทำตามคำท้าที่ได้ให้กับคุณโจวด้วยค่ะ คุกเข่าลงกับพื้นแล้วกลิ้งออกไป เงินทั้งหมดนี้ก็จะเป็นของคุณค่ะ"
"แกแม่งกำลังเหยียดหยามฉัน!"
หลัวกังโมโหจนถลึงตา พลางตะคอกใส่ถังเสี่ยวนิวอย่างดุร้าย
"เหอะๆ คุณเป็นคนบอกเองนะว่าจะกลิ้งออกไปจากที่นี่ เป็นลูกผู้ชายคนนึง จะคืนคำหรอ?"
ถังเสี่ยวนิวพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
ใบหน้าของหลัวกังเริ่มแดงเถือกขึ้นมา "วันนี้คำพูดที่ฉันพูดทั้งหมดเป็นโมฆะ เธอจะทำอะไรฉันได้!"
"ฮ่าๆ ฉันไม่สามารถทำอะไรคุณได้อยู่แล้วค่ะ แต่ว่าเงินก้อนนี้ฉันคงไม่มีทางเอาคืนกลับไปให้คุณแล้วค่ะ"
ถังเสี่ยวนิวหัวเราะดังลั่นออกมาเมื่อได้ยินเช่นนี้
หลัวกังไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรแล้ว เขารู้สึกลังเลใจเป็นอย่างมาก
ถ้าเกิดต้องกลิ้งออกไปจริงๆ มันอับอายขายขี้หน้ามากเกินไปแล้ว แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ หนึ่งแสนกว่าเลยนะ……
สำหรับหลัวกังแล้ว หนึ่งแสนกว่านี้เป็นเงินก้อนใหญ่พอสมควรเลย นี่เป็นเงินเก็บทั้งหมดของเขาในตอนนี้แล้ว
เฉินถิงรู้สึกโมโหมากจนใกล้จะขาดอากาศหายใจ เธอชี้หน้าถังเสี่ยวนิวพลางถาม :"เธอเป็นอะไรกับโจวเทียนกันแน่ ทำไมถึงต้องเชื่อฟังคำพูดของมัน?"
ถังเสี่ยวนิวผงะไปสักพัก ก่อนจะยิ้มพลางตอบกลับ :"เพราะว่าคุณโจวหล่อเหลามากเกินไป ฉันชอบเขามากๆ เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"
"เชี้ย"
เฉินถิงกรอกตามองบนทันที ก่อนจะหันไปพูดกับหลัวกัง :"เราไปกันเถอะ!"
"ถิงถิง หนึ่งแสนสามนั่นไม่เอาแล้วหรอ?"
หลัวกังมองเฉินถิงด้วยสายตาที่ลังเล และยังไม่ลืมมองไปที่เงินที่อยู่บนมือขอถังเสี่ยวนิว เขาไม่อยากเสียเงินก้อนนั้นไปจริงๆนะ
เฉินถิงโมโหโกรธกริ้วขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้ ถลึงตาใส่หลัวกังแล้วพูดว่า :"หรือว่าเพื่อเงินก้อนนั้นนายจะยอมกลิ้งออกไปจริงๆ?"
"ถิงถิง แสนกว่าเลยนะครับ….."
"ได้ งั้นนายกลิ้งออกไปเลย"
หลัวกังโมโหจนเอาเท้าย่ำกับพื้น
หลัวกังจะกลิ้งออกไปไม่ได้เป็นธรรมดาอยู่แล้วสิ ถ้าเกิดเขาทำแบบนั้นจริงๆ ต่อไปจะให้เขาไปพบปะกับผู้คนได้ยังไง?
เพราะฉะนั้นหลัวกังเลือกที่จะไม่พูดอะไร แค่ถลึงตาใส่โจวเทียนทีนึง
เขายิ่งรู้สึกใจคอเหี่ยวแห้งมากเข้าไปใหญ่ ไม่เข้าใจว่าทำไมโจวเทียนถึงได้มีอำนาจอิทธิพลได้มากขนาดนี้ แม้กระทั้งภัตตาคารลี่เจียงอาหารทะเลสดยังเชื่อฟังคำสั่งของเขา
"ทำไม คำพูดที่เคยพูดออกมาไม่เป็นผลแล้วหรอ?"
โจวเทียนหัวเราะอย่างเยือกเย็น พลางมองไปทางหลัวกัง
"โจวเทียน แกอย่ามากเกินไปหน่อยนะ!"
หลัวกังถลึงตาใส่โจวเทียน
"ใช่ๆ เมื่อกี้แค่ล้อเล่นกับแกเท่านั้นแหละ แกคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงหรอ?"
เฉินถิงทำเสียงหึไปทีนึง พลางพูดแถ
"ล้อเล่น? ถ้าเกิดฉันแพ้ พวกแกจะบอกว่านี่เป็นแค่การล้อเล่นมั้ย?"
"เพื่อให้เกียรติรั่วเสวี่ย ครั้งนี้ฉันจะปล่อยพวกแกไป ต่อไปอย่ามาเก๊กต่อหน้าฉันอีก"
"อีกอย่าง เงินหนึ่งแสนกว่าสำหรับฉันแล้ว มันไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย อาหารในมื้อนี้ฉันเป็นคนเลี้ยงเอง"
โจวเทียนชี้หน้าหลัวกัง พลางพูดอย่างเรียบนิ่งมากๆ ก่อนจะหันหลังแล้วมุ่งหน้าเดินออกไปทางประตู
"ถังเสี่ยวนิว เอาเงินคินให้พวกมันด้วย"
ในขณะที่โจวเทียนเดินออกไปถึงหน้าทางออกของภัตตาคาร เขาได้พูดออกมาคำนึงโดยที่ไม่หันกลับไปมองเลย
"ค่ะ!"
ถังเสี่ยวนิวตอบกลับเสียงดัง ก่อนจะคืนเงินให้เฉินถิงและหลัวกัง
มองดูโจวเทียนที่จากไป ผู้คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างเบิกตากว้างอ้าปากค้าง
เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ เฉินถิงถึงจะหันไปพูดกับหลี่รั่วเสวี่ย :"รั่วเสวี่ย นั่นยังเป็นสามีเธออยู่อีกหรอ? พฤติกรรมของเขาในเมื่อกี้นี้เท่จังเลยนะ…..."
หลี่รั่วเสวี่ยยังไม่ได้สติกลับมาจากความช็อค เธอคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่า เรื่องทั้งหมดจะเป็นแบบนี้
โจวเทียนไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้เธอขายหน้า ในทางตรงกันข้าม ยังมาดเท่ได้ขนาดนี้อีก โยนเงินหนึ่งแสนกว่าออกไปโดยที่ไม่กระพริบตาเลย นี่มันมาดเท่เกินไปแล้ว
แต่ทว่า ทำไมถังเสี่ยวนิวถึงเชื่อฟังโจวเทียนได้หละ เงินหนึ่งแสนกว่า บอกไม่เอาก็ไม่เอาเลย
ตอนนี้ในใจของหลี่รั่วเสวี่ยเต็มไปด้วยข้อสงสัย เธออยากไล่ตามโจวเทียนออกไปตอนนี้จริงๆ แล้วไปถามโจวเทียนดีๆว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่
"พี่ถิง พี่ไม่เคยเอาเขาไปไว้ในสายตามาก่อนเลยไม่ใช่หรอ ทำไมตอนนี้ถึงคิดว่าเขาเท่ได้"
หลี่รั่วเสวี่ยพูด
เฉินถิงรู้สึกอึดอัดมากๆ ก่อนหน้านี้เธอเหยียดหยามโจวเทียนไว้มากขนาดนั้น ตอนนี้รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวมากจริงๆ
"ฮ่าๆ หลี่รั่วเสวี่ย ก็ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ว่าเขาเจ๋งขนาดนี้หนิ"
ในระหว่างที่เฉินถิงพูด แววตาของธอเป็นประกายขึ้น ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกอิจฉาหลี่รั่วเสวี่ยขึ้นมาบ้างแล้ว ยิ่งรู้สึกสงสัยในตัวโจวเทียนมากกว่า
หลี่รั่วเสวี่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ เดินออกไปจากภัตตาคารลี่เจียงอาหารทะเลสดพร้อมกันกับทุกคน
"ซูยวิ๋น เดี๋ยวฉันกับเหล่าเฉินขอตัวกลับก่อนนะ"
หลังจากที่ออกมาถึงด้านนอก จางซูเซียงได้บอกลากับจางซูยวิ๋น
"ได้เจ้ ต่อไปมาเที่ยวหาฉันบ่อยๆนะ"
จางซูยวิ๋นหัวเราะยิ้มแย้มพลางพูดอย่างเกรงอกเกรงใจ แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ก็ออกหน้าให้ตัวเองได้สักครั้ง เพิ่มราศีบารมีให้เธอ
"ซูยวิ๋น ต่อไปแกต้องระวังหน่อยแล้วนะ ลูกเขยของแกดูเป็นคนที่ซื่อสัตย์คนนึงเลย แต่ความเป็นจริงแล้วก็เป็นคนเจ้าชู้เหมือนกันนะเนี่ย"
จางซูเซียงพูด
จางซูยวิ๋นชะงักไปสักพักเมื่อได้ยินแบบนี้ "เจ้ เจ้หมายความว่ายังไงอ่ะ?"
"เมื่อกี้แกไม่ได้ยินที่ถังเสี่ยวนิวพูดหรือไง เธอบอกว่าลูกเขยของแกหล่อเหลา เธอชอบผู้ชายอยากลูกเขยแก"
"เจ้ สิ่งที่เจ้จะสื่อคือความสัมพันธ์ระหว่างโจวเทียนและถังเสี่ยวนิวไม่ธรรมดา?"
จางซูยวิ๋นเบิกตากว้างจนกลมโต พลางถามจางซูเซียง
"มันต้องแน่นอนอยู่แล้วสิ ไม่งั้นทำไมถังเสี่ยวนิวถึงเชื่อฟังคำสั่งของโจวเทียนได้หละ? เหอะๆ แกลองไปสืบหาดูดีๆเถอะ ระหว่างพวกมันสองคนต้องมีอะไรกันแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น!" จางซูเซียงพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นอกมั่นใจ
"ไอ้สาระเลวนั่น!"
จางซูยวิ๋นโมโหมากจนกัดฟันแน่น อดไม่ได้ที่จะรีบเข้าไปฉีกโจวเทียนออกเป็นชิ้นๆ
ตอนนี้เมื่อเธอมาลองนึกดูดีๆแล้ว เหมือนเรื่องจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่งั้นคนกระจอกอย่างโจวเทียน จะมีปัญญาอำนาจที่มากล้นขนาดนั้นได้ยังไง? ทำไมทางภัตตาคารถึงยอมคืนเงินเป็นแสนให้?
"ฮ่าๆๆ ทะเลาะกันไปครึ่งวันที่แท้เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้นี่เองหรอ โจวเทียนเป็นพวกผู้ชายหน้าอ่อนหรอเนี่ย มิน่าล่ะทำไมถึงดูเจ๋งได้มากขนาดนี้"
หลัวกังหัวเราะดังลั่น เบะปากพูดพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดูหมิ่น
"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันก็คิดว่ามันจะมีปัญญาจริงๆซะอีก เหอะๆ ที่แท้ก็ไปเป็นเด็กให้คนอื่นนี่เอง! แต่ว่านี่ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกหรอกนะ มันใช้ชีวิตโดยการเกาะผู้หญิงกินตั้งแต่แรกแล้วหนิ"
สภาพของเฉินถิงดูเหมือนกับว่าเข้าใจขึ้นมาได้ทันที ก่อนจะหัวเราะออกมา
หลี่รั่วเสวี่ยนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้ความรู้สึกในใจของเธอได้ยุ่งเหยิงตาลปัตรไปหมดแล้ว
ถึงแม้จะไม่อยากเชื่อคำพูดพวกนี้ แต่ถังเสี่ยวนิวเชื่อฟังโจวเทียนมากขนาดนั้น มันทำให้อดสงสัยไม่ได้จริงๆ
หลังจากที่ส่งพวกเฉินถิงกลับไปแล้ว จางซูยวิ๋นและหลี่รั่วเสวี่ยก็ได้กลับมาบ้าน
หลี่รั่วเสวี่ยไม่ได้ไปตามถามโจวเทียน เพราะเวลาที่ผ่านมาสามปีกว่าแล้ว เธอไม่เคยเป็นภรรยาที่ดีคนหนึ่งมาก่อนเลย ไม่เคยให้โจวเทียนขึ้นมาบนเตียงของเธอมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ถึงแม้โจวเทียนจะคบหากับผู้หญิงคนอื่นด้านนอก เธอก็รู้สึกว่าเธอไม่มีสิทธิ์อะไรไปกล่าวว่าเขา แค่หย่าร้างกันไปก็จบแล้ว
แต่จางซูยวิ๋นกลับไม่อยากปล่อยโจวเทียนไปแบบนี้ หลังจากที่กลับไปถึงบ้านเธอก็ได้ตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที "โจวเทียน แกออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
โจวเทียนกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องนอนตัวเองอยู่เลย เมื่อได้ยินเสียงของจางซูยวิ๋น เขาก็อดไม่ได้ที่จะปวดหัวเล็กน้อย
วันนี้ตอนที่อยู่ในภัตตาคารซีฟู๊ด เขาได้สร้างภาพลักษณ์หน้าตาให้จางซูยวิ๋นแล้วนะ ทำไมตอนนี้เธอยังโกรธได้มากขนาดนี้อีกเนี่ย?
"แม่ครับ แม่เรียกผมหรอครับ"
โจวเทียนเดินออกมาจากห้องนอน
เมื่อจางซูยวิ๋นเห็นว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับโจวเทียน ไฟโกรธที่อยู่ในใจก็ลุกแรงมากยิ่งขึ้น
"แกแสดงต่อเลยนะ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าแกจะแสดงได้ถึงตอนไหน!"
จางซูยวิ๋นชี้โจวเทียนพลางพูดตะโกนอย่าโกรธกริ้ว
"แม่ แม่รู้เรื่องทั้งหมดแล้วหรอครับ?" โจวเทียนถามเสียงแผ่วเบา
"แน่นอนอยู่แล้ว! แกจะยอมสารภาพมาแต่โดยดี หรือว่าจะให้ฉันพูดแทนแก?"
จางซูยวิ๋นบังคับไฟโกรธของตัวเองไว้ เธอก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า โจวเทียนจะยอมรับได้เร็วมากขนาดนี้ว่าตัวเองมีชู้ด้านนอก
โจวเทียนมองไปทางหลี่รั่วเสวี่ยรอบนึง ก่อนจะมองไปทางจางซูเซียง ถอนหายใจแล้วพูดว่า :"แม่ หลี่รั่วเสวี่ย ในเมื่อพวกคุณรู้หมดแล้ว งั้นผมจะขอสารภาพเลยละกัน อันที่จริง ผมเป็นลูกมหาเศรษฐีครับ…..."
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved