บทที่ 21 ถ้าคุณบอกว่าได้ก็คือได้
by จินเหอซี
08:31,Apr 26,2021
ไม่ใช่แค่คนหนุ่มสาวที่เข้ามาก่อกวนแต่จางซูเซียงก็เข้ามาร่วมด้วย
"ฮ่าฮ่า ทุกคนดูสิเขายังคงเสแสร้งอยู่อีกเหรอ ขอถามหน่อยเถอะว่าเมื่อกี้คุณโทรหาใคร?"
จางซูเซียงเอ่ยถามโจวเทียนอย่างอย่างประชดประชัน
"เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจหรอก พรุ่งนี้ฉันจะให้จางเผิงเข้าไปที่หวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนล"
ไม่มีการแสดงออกใดๆ บนใบหน้าของโจวเทียน เขาหาหมายเลขที่เหมียวเผิงจวีในรายชื่อโทรศัพท์
"ชู่ๆ ฉันจะคอยดูว่าคุณจะทำได้ไหม เรื่องที่แม้แต่หลัวกังที่เป็นหัวหน้าหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลยังทำไม่ได้แล้วคุณจะทำได้หรอ?"
จางซูเซียงหัวเราะเยาะ
"พี่สาวอย่าไปสนใจเลย เขามันก็แค่คนน่ารังเกียจที่ไม่มีปัญญาแล้วยังจะชอบอวดเก่ง ฉันจะรอดูว่าสุดท้ายแล้วเขาจะลงเอยอย่างไร!"
จางซูยวิ๋นจ้องมองโจวเทียนและกล่าวขึ้นอย่างเคืองๆ
"ฮ่าฮ่าอย่าไปห้ามเขาสิ บางทีเขาอาจจะทำได้ก็ได้"
เฉินถิงยิ้มระรื่นและพูดเหน็บแนม
หลัวกังก็ต้องการที่จะพูดถากถางโจวเทียนเช่นกันแต่เมื่อเขาคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างโจวเทียนและนายท่านสี่หลงแล้วเขาก็สูญเสียความกล้าหาญในทันที
โจวเทียนเพิกเฉยต่อคนเหล่านี้และต่อสายหาเหมียวเผิงจวี
"ผู้เฒ่าเหมียวฉันต้องการให้คนคนหนึ่งเข้าไปทำงานในหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนล"
"ได้ครับคุณชายพรุ่งนี้ให้เขามาที่บริษัทได้เลย"
"อืม"
โจวเทียนวางสาย
"ฮ่าฮ่าฮ่า เสร็จแล้วเหรอ?" เฉินถิงหัวเราะหนักจนแทบจะไม่ไหวแล้ว
"เสร็จแล้ว" โจวเทียนเก็บโทรศัพท์
"ทำได้ดีนี่โจวเทียน น่าเสียดายที่คุณไม่ไปเป็นนักแสดงมันดูเหมือนจริงมาก"
เฉินถิงกล่าวต่อว่า "ผู้เฒ่าเหมียวนี่คือใครกัน เหมียวเผิงจวีหรอ? แค่คุณพูดคำเดียวประธานใหญ่อย่างนั้นจะฟังคุณพูดหรอ? คุณยังตลกได้มากกว่านี้อีกไหม?"
ผู้คนในที่นั้นต่างส่งเสียงหัวเราะเมื่อได้ยิน
จางเทามองโจวเทียนอย่างเหยียดหยาม เขาคิดในใจว่านี่มันช่างน่าขายหน้าจริงๆ ที่หลานสาวของเขาหาสามีได้แปลกประหลาดเช่นนี้
แม้ว่าจางเชี้ยนเถียนจะค่อนข้างชอบโจวเทียนมาตลอดแต่ชายชราก็ไม่เชื่อเรื่องนี้และทำได้เพียงนั่งอยู่กับที่และส่ายหัวซ้ำๆ
ในตอนนั้นเองก็มีสายเข้ามาที่โทรศัพท์ของหลี่รั่วเสวี่ย
ทางนั้นยังไม่ได้พูดอะไรสักคำหลี่รั่วเสวี่ยก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดและเดินออกไปที่ทางเดิน
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของหลี่รั่วเสวี่ยดูผิดปกติโจวเทียนจึงเดินตามออกไป
"รั่วเสวี่ยมีอะไรหรือเปล่า?"
"ไม่ใช่เรื่องของนายแค่อย่าให้คนตามมาก็พอ"
หลังจากที่หลี่รั่วเสวี่ยพูดจบเธอก็รีบเดินลงไปชั้นล่างทันที
โจวเทียนรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติเขาจึงกำลังจะเดินตามไป
"อย่าตามมา!"
หลี่รั่วเสวี่ยตะโกน
โจวเทียนไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดติดตาม เขาพบว่าครั้งนี้ภรรยาของเขากังวลมากและเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลี่รั่วเสวี่ยรีบเดินลงไปชั้นล่าง เธอเรียกรถแท็กซี่แล้วรีบออกไป
โจวเทียนทำได้เพียงกลับเข้าไปในห้องแต่ภายในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง
"รั่วเสวี่ยออกไปทำอะไร?"
จางซูยวิ๋นถามโจวเทียน
"เธอไม่ได้บอก"
"ก็จริง มันก็ต้องมีเรื่องที่เธอบอกแกไม่ได้แต่ถึงบอกไปมันก็ไม่มีประโยชน์!" จางซูยวิ๋นพูดประชดประชัน
"นี่น้องเขยอย่าเปลี่ยนเรื่องสิ นายแสดงต่ออีกสิโทรหาประธานเหมียวอีกพวกเราจะได้เรียนรู้ทักษะการแสดง คิกๆ!" เฉินถิงมองโจวเทียนด้วยท่าทางล้อเลียนและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
หนุ่มสาวที่เหลือต่างหัวเราะเยาะและอดใจรอชมการแสดงที่ดี
ถ้าเป็นตอนก่อนที่หลี่รั่วเสวี่ยจะออกไปโจวเทียนจะเพิกเฉยต่อพวกเขาอย่างไรก็ตามก็ถูกหัวเราเยาะเย้ยอยู่ดีเขาจึงมีภูมิคุ้มกันแล้ว
แต่ตอนนี้โจวเทียนกำลังกังวลเกี่ยวกับภรรยาของเขาและการที่คนเหล่านี้หยอกล้อเขาทำให้เขาอารมณ์เสียมาก
"ฉันจะให้เหมียวเผิงจวีมาที่นี่เดี๋ยวนี้และให้เขายอมรับจางเผิงต่อหน้าแล้วพวกคุณคงจะหุบปากได้สักที!"
โจวเทียนมองไปยังคนเหล่านี้ที่ล้อเลียนเขาและกล่าวเสียงดังจากนั้นเขาจึงโทรหาเหมียวเผิงจวีอีกครั้ง
ทันใดนั้นไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งสิ้น
เฉินถิงที่สนุกสนานที่สุดเมื่อครู่นี้ตอนนี้กลับยิ้มไม่ออกและคิดในใจว่าโจวเทียนจะพาประธานเหมียวมาที่นี่ได้จริงหรือ?
แต่เธอก็สะบัดความคิดออกไปอย่างรวดเร็ว คนอย่างเหมียวเผิงจวีน่ะเหรอจะฟังคำสั่งให้ไปไหนมาไหนของเศษสวะอย่างโจวเทียน? เว้นแต่ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นจากทิศตะวันตก!
"ฮ่าฮ่า พวกเรามารอชมละครเรื่องนี้กันเถอะ World International อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ขับรถสิบนาทีก็คงถึง พวกเรารอให้ประธานเหมียวเปิดประตูมาหาโจวเทียนผู้โง่เง่าของพวกเรากัน ฮ่าฮ่าฮ่า..." เฉินถิงยิ้มระรื่น
คน ณ ที่นั้นนอกจากจางเชี้ยนเถียนและจางซูยวิ๋นต่างหัวเราะร่วมไปกับเฉินถิง
โจวเทียนเพิกเฉยต่อพวกเขาโดยยังคงคิดถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของหลี่รั่วเสวี่ยก่อนหน้า
เวลาผ่านไปยังไม่ถึงสิบนาทีเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
"บ้าจริง เขามาจริงๆ เหรอ?"
ใครสักคนอุทาน
เฉินถิงยิ้มและเดินบิดเอวบางของเธอไปเปิดประตู "จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคงเป็นน้องรั่วเสวี่ยที่กลับ..."
ยังไม่ทันพูดจบประโยคปากของเฉินถิงก็อ้าออกเป็นรูปตัวโอด้วยความตะลึง
ที่หน้าประตูปรากฏร่างชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีซึ่งมีเหงื่อออกชุ่มไปทั่วร่างและกำลังหอบหายใจ เห็นได้ชัดว่าเขารีบวิ่งขึ้นมา
เขาคือเหมียวเผิงจวี!
"ขอโทษที่ขัดจังหวะครับ"
เหมียวเผิงจวียิ้มให้เฉินถิงอย่างสุภาพและพยักหน้าจากนั้นจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาโจวเทียน
ทุกคน ณ ที่นั้นนอกจากโจวเทียนต่างตกใจจนคางแทบจะตกถึงพื้นกันอยู่แล้ว
ไม่มีใครไม่รู้จักเหมียวเผิงจวี ประธานคนนี้ออกรายการทีวีบ่อยๆ แถมยังมาพร้อมกับผู้นำคนสำคัญของเมืองทุกครั้ง ...
ไม่รอให้ฝูงชนหายตกใจเหมียวเผิงจวีได้ทำการกระทำที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
เขาโค้งคำนับเบาๆ และพูดกับโจวเทียนอย่างสุภาพว่า "คุณโจวขออภัยครับที่ผมมาช้า"
"อืม"
โจวเทียนเพียงแค่ส่งเสียงอืมออกมาเบาๆ โดยไม่มีการแสดงออกใดๆ บนใบหน้าของเขา
ไม่จริงน่า นี่มันเหนือจินตนาการไปหรือเปล่า!
เหล่าลูกหลานของตระกูลมองดูท่าทางสงบของโจวเทียนในตอนนี้จนลูกตาของพวกเขาแทบจะถลนออกมา
ชายผู้นี้คือประธานของหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลใครก็ตามที่ประจบประแจงเขาได้สำเร็จก็อาจได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นอย่างพรวดพราด
แต่กลับกันกับโจวเทียนดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเหมียวเผิงจวีเลย สรุปแล้วเรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่?
หลังจากที่จางเชี้ยนเถียนเข้าสู่ห้วงความประหลาดใจในที่สุดเขาก็หายเป็นปกติ เขารีบลุกขึ้นและกล่าวกับเหมียวเผิงจวี "ประธานเหมียว เชิญ เชิญนั่งก่อนครับ..."
ในความเป็นจริงแล้วเหมียวเผิงจวีก็กำลังตื่นตระหนก เขารู้ว่าทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับคุณชายดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะรุกรานพวกเขา
และเขาเห็นว่าจางเชี้ยนเถียนนั้นอายุมากแล้วเขาคงจะเป็นบรรพบุรุษของโจวเทียนแล้วเหมียวเผิงจวีจะกล้าหยาบคายกับเขาได้อย่างไร?
"ท่านอาวุโสไม่ต้องเกรงใจผมยืนคุยแบบนี้ดีกว่าครับ"
เหมียวเผิงจวีกล่าวพร้อมยิ้มให้จางเชี้ยนเถียนอย่างสุภาพ
จางเชี้ยนเถียนไม่รู้จะพูดอะไรเพราะอย่างไรแล้วปัญหาเรื่องหน้าที่การงานของหลานชายเขาก็ขึ้นอยู่กับเหมียวเผิงจวี
"ผู้เฒ่าเหมียวนี่คือน้องชายของภรรยาผม รบกวนคุณช่วยหาตำแหน่งงานให้เขาด้วย"
โจวเทียนผายมือไปที่จางเผิงพลางพูดกับเหมียวเผิงจวี
"ได้ครับ ได้เลยครับ"
เหมียวเผิงจวีรีบพยักหน้าก่อนจะเดินไปหาจางเผิงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "พ่อหนุ่มคนนี้หน่วยก้านดีดูมีความสามารถ! มาเป็นรองผู้จัดการทั่วไปแล้วกัน พรุ่งนี้ไปทำงานที่บริษัทได้เลย"
ฟึ่บ
เมื่อจางเทาได้ยินดังนั้นขาของเขาก็อ่อนลงและเขาก็ทรุดลงบนพื้น
จางเทาค่อยๆ ยืนขึ้นอย่างเก้ๆ กังๆ พร้อมกับมองเหมียวเผิงจวีด้วยรอยยิ้ม "ประธานเหมียวอย่าล้อผมเล่นสิครับ ลูกชายของผมเพิ่งเรียนจบเขาจะมีคุณสมบัติเป็นรองประธานได้อย่างไร..."
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เขาเป็นถึงน้องชายภรรยาของคุณโจวเขาต้องมีอนาคตไกลอย่างแน่นอน!" เหมียวเผิงจวีมองจางเทาที่พูดไม่ออกจากนั้นจึงพูดกับโจวเทียนว่า "คุณโจวครับเช่นนั้นผมขอตัวกลับก่อน"
"ไปเถอะ"
โจวเทียนกล่าวนิ่งๆ
เหมียวเผิงจวีจึงหันตัวกลับมาและเดินจากไป
"เมื่อกี้มันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า?" ตอนนี้จางซูเซียงรู้สึกโล่งใจ เธอเอ่ยถามคนรอบข้างราวกับคนปัญญาอ่อน
"แม่ ภาพลวงตาอะไรล่ะแม่แกล้งโง่หรือไง?" เฉินถิงเขย่าตัวจางซูเซียงที่มีสีหน้างุนงง
"โจว โจวเทียนรู้จักเหมียวเผิงจวีได้ยังไงและเหมียวเผิงจวียังเชื่อฟังเขาแบบนั้นอีก..." จางซูเซียงมองโจวเทียนและพูดตะกุกตะกัก
คนอื่นๆ ก็เป็นเช่นเดียวกับจางซูเซียง ไม่มีความรู้สึกอื่นๆ นอกจากตกใจ
โจวเทียนครุ่นคิดในใจว่ากลุ่มคนหัวสูงเหล่านี้หยุดลงได้แล้วใช่ไหม?
ในขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นและโชว์เบอร์ที่ไม่คุ้นเคย
เมื่อโจวเทียนรับสายเสียงกังวลของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นทางโทรศัพท์ "คุณโจวฉันชื่อหลงคุนและฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ!"
โจวเทียนรู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่รู้ว่าหลงคุนได้เบอร์เขามาจากไหน
"เรื่องอะไร?"
"เรื่องของภรรยาของคุณกับน้องสาวภรรยาคุณ คุณรีบลงมาชั้นล่าง ผมอยู่ที่ชั้นล่าง!"
เกิดอะไรขึ้น!?
สมองของโจวเทียนเต็มไปด้วยเสียงผึ้งหึ่งๆ เกิดอะไรขึ้นกับภรรยาและน้องภรรยาของเขา?
เขาไม่มีเวลาถามอะไรมากและรีบวิ่งออกไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นโจวเทียนวิ่งออกไปจางซูเซียงจึงพูดกับเฉินถิง "เสี่ยวถิงดูเหมือนว่าพวกเราทุกคนจะประเมินโจวเทียนต่ำเกินไป ดูแล้วเขาคงไม่ใช่เศษสวะที่ไร้ความสามารถสินะ…"
เฉินถิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะร่าและพูดกับฝูงชนว่า "พวกคุณถูกโจวเทียนหลอกกันหมดแล้วหรอ? ฉันจะบอกพวกคุณให้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง สาวน้อยตระกูลถังที่มั่วสุมอยู่กับโจวเทียนหลงเขามากและหล่อนก็มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเหมียวเผิงจวีเช่นกัน โจวเทียนใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อติดต่อกับเหมียวเผิงจวี"
"หึหึ ถ้าไม่อย่างงั้นเหมียวเผิงจวีจะให้เกียรติเศษสวะอย่างโจวเทียนแบบนี้ทำไมล่ะ? พวกคุณไม่คิดว่ามันเป็นเพราะเหตุผลนี้เหรอ?"
ยิ่งเฉินถิงพูดมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งภูมิใจมากขึ้นเท่านั้น เธอคิดว่าเธอควรจะไปเป็นคนเขียนบทละครที่เดาสุ่มสี่สุ่มห้าได้ขนาดนี้
เมื่อหนุ่มสาวทั้งหลายได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย
จางเชี้ยนเถียนและผู้สูงอายุอีกจำนวนหนึ่งที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเกี่ยวกับคำพูดของเฉินถิงแต่พวกเขาก็คิดว่ามันเป็นไปได้มากที่จะเป็นเช่นนั้น
"ไอ้นี่มันทุเรศเกินไปแล้ว คอยดูนะฉันจะกลับไปถลกหนังมัน!"
จางซูยวิ๋นสบถด้วยความโกรธ
...
โจวเทียนมาถึงชั้นล่างและเห็นหลงคุนรออยู่ที่นั่นแล้ว
"นายท่านสี่หลงเกิดอะไรขึ้น?" โจวเทียนถามหลงคุนด้วยน้ำเสียงทุ้ม
"คุณโจวอย่าหาว่าฉันละลาบละล้วงที่ฉันให้ให้ความสนใจในตัวคุณกับคนรอบตัวคุณ..." หลงคุนมองโจวเทียนด้วยความลำบากใจเล็กน้อย
โจวเทียนชะงักไปครู่หนึ่งแต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะถามถึงเจตนาของหลงคุน "เรื่องนี้ค่อยคุยกันทีหลัง คุณบอกฉันมาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาและน้องภรรยาของฉัน?"
"พวกเธอเข้าไปที่บริษัทของเฉียนจิ้น ฉันกลัวว่ามันจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น"
หลงคุนมองไปที่โจวเทียนและเสริมว่า "ฉันรู้จักคนอย่างเฉียนจิ้นดีเขาเป็นผู้ชายที่อันตรายมาก!"
บ้าเอ้ย!
โจวเทียนร้อนใจมากเมื่อได้ยินเช่นนี้
เขากำลังจะหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาตำรวจแต่หลงคุนก็ห้ามเขาไว้เสียก่อน "คุณโจวฉันช่วยคุณแก้ปัญหานี้ได้"
โจวเทียนไม่สงสัยในความสามารถของหลงคุนแม้แต่น้อย เขาพยักหน้าอย่างแรงและเข้าไปในรถของหลงคุน
รถของหลงคุนคือเบนท์ลีย์คันงาม เขาออกตัวด้วยความเร็วและพุ่งเข้าไปบนถนนก่อนจะมุ่งหน้าไปยังบริษัทของเฉียนจินด้วยความเร็วสูง
ทันใดนั้นออดี้สีดำหลายสิบคันก็ขับตามรถของหลงคุนไป
โจวเทียนตกใจมาก นายท่านสี่หลงพาพรรคพวกมากี่คนกัน...
...
ในเวลาเดียวกันภายในบริษัทเงินกู้เจียเหอ
เฉียนจิ้นเอนกายบนเก้าอี้สำนักงาน เขาถือบุหรี่จีนในมือและมองไปที่คู่พี่น้องสาวทั้งสองตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย
พวกเธอคือหลี่รั่วเสวี่ยและหลี่รั่วซือ
ถัดจากหลี่รั่วซือยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ซึ่งเขาคือกัวเหลียง แฟนหนุ่มของหลี่รั่วซือ
ในตอนนี้จมูกของกัวเหลียงบวมและฟกช้ำ มือขวาของเขาก็หักจากการถูกทุบตีอย่างรุนแรง
ด้านหลังพวกเขาทั้งสามมีลูกน้องของเฉียนจิ้นยืนอยู่สี่คน
เฉียนจิ้นยิ้มกริ่มและมองไปที่หลี่รั่วเสวี่ย "คุณหลี่รั่วเสวี่ยคุณช่างรักน้องสาวของคุณจริงๆ คุณมาที่นี่ทันทีที่ฉันโทรหา ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เลว ไม่เลว แถมยังไม่บอกคนอื่นและไม่เรียกตำรวจด้วย ว่านอนสอนง่ายจริงๆ"
"บอสเฉียนฉันมาตามที่คุณบอกแล้วได้โปรดปล่อยน้องสาวของฉันไป" หลี่รั่วเสวี่ยพูดอย่างใจเย็น
"ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันปล่อยน้องสาวคุณไปได้แต่แฟนของน้องสาวคุณเป็นหนี้ฉันครึ่งล้านและคุณต้องจ่ายเงินคืน" เฉียนจิ้นหัวเราะอย่างสะใจและเมื่อมองไปที่ร่างกายที่ชวนหลงใหลของหลี่รั่วเสวี่ยเขาก็แทบจะน้ำลายไหล
"คุณพูดไร้สาระอะไร กัวเหลียงยืมเงินจากพวกคุณไป 10,000 หยวน มันจะกลายเป็นหลายแสนในเวลาเพียงไม่กี่วันได้ยังไง" หลี่รั่วซือสวนกลับทันที
เพี๊ยะ!
เฉียนจิ้นเดินเข้าไปและตบหลี่รั่วซือจนเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเธอ
"แม่แกสิ แกไม่นับดอกเบี้ยเหรอไง? แกไม่รู้เหรอว่าฉันให้กู้เงินแกคิดว่ามันเป็นการกุศลหรือไง?"
เฉียนจิ้นก่นด่าอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยม
"อย่าตบเธอ ปล่อยเธอไปเดี่ยวนี้!"
หลี่รั่วเสวี่ยร้อนรนและรีบปกป้องหลี่รั่วซือ
เฉียนจิ้นมองไปที่หลี่รั่วเสวี่ยและเลียริมฝีปากที่แห้งแตกของเขา
เฉียนเสี่ยวเฟยเอ๋ยเฉียนเสี่ยวเฟย ผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ลุงคงยังปล่อยให้เธอมาตอนนี้ไม่ได้ ขอให้ฉันได้มีความสุขกับหล่อนเสียก่อน!
เฉียนจิ้นเหลือบมองไปที่ต้นคอขาวของหลี่รั่วเสวี่ยด้วยความโลภ เขาคันไม้คันมือจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว...
"พาพวกมันสองคนไปห้องข้างๆ!"
เฉียนจิ้นสั่งคนของเขาและชี้ไปที่หลี่รั่วซือและกัวเหลียงที่คุกเข่าอยู่บนพื้น
"ครับ!"
ชายทั้งสี่ลากหลี่รั่วซือและกัวเหลียงไปยังห้องข้างๆ
เมื่อเห็นเจตนาไม่ดีของเฉียนจิ้น หลี่รั่วเสวี่ยก็ตื่นตระหนก "แก แกอย่าเข้ามานะ..."
"เฮ้อเฮ้อ เสวี่ยน้อยของฉันเธอช่างสวยจริงๆ!"
เฉียนจิ้นกล่าวพลางจับตัวหลี่รั่วเสวี่ยและลากเธอไปที่โต๊ะทำงาน
"แกจะทำอะไร! ถ้าแกกล้าแตะต้องฉันฉันจะส่งแกเข้าคุกแน่นอน!" หลี่รั่วเสวี่ยตะโกนด้วยความหวาดกลัว
เฉียนจิ้นชี้ไปที่กล้องวิดีโอความละเอียดสูงที่ตั้งอยู่ด้านข้างก่อนจะแสยะยิ้มและพูดว่า "จะฟ้องฉันเหรอ? เอาสิ วิดีโอทั้งหมดถูกบันทึกไว้แล้วคุณต้องการให้คนทั่วประเทศเห็นหุ่นที่ดีของคุณหรือเปล่าล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า! "
เมื่อพูดจบเฉียนจิ้นก็เหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังขย้ำหลี่รั่วเสวี่ยบนโต๊ะทำงาน...
"ฮ่าฮ่า ทุกคนดูสิเขายังคงเสแสร้งอยู่อีกเหรอ ขอถามหน่อยเถอะว่าเมื่อกี้คุณโทรหาใคร?"
จางซูเซียงเอ่ยถามโจวเทียนอย่างอย่างประชดประชัน
"เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจหรอก พรุ่งนี้ฉันจะให้จางเผิงเข้าไปที่หวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนล"
ไม่มีการแสดงออกใดๆ บนใบหน้าของโจวเทียน เขาหาหมายเลขที่เหมียวเผิงจวีในรายชื่อโทรศัพท์
"ชู่ๆ ฉันจะคอยดูว่าคุณจะทำได้ไหม เรื่องที่แม้แต่หลัวกังที่เป็นหัวหน้าหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลยังทำไม่ได้แล้วคุณจะทำได้หรอ?"
จางซูเซียงหัวเราะเยาะ
"พี่สาวอย่าไปสนใจเลย เขามันก็แค่คนน่ารังเกียจที่ไม่มีปัญญาแล้วยังจะชอบอวดเก่ง ฉันจะรอดูว่าสุดท้ายแล้วเขาจะลงเอยอย่างไร!"
จางซูยวิ๋นจ้องมองโจวเทียนและกล่าวขึ้นอย่างเคืองๆ
"ฮ่าฮ่าอย่าไปห้ามเขาสิ บางทีเขาอาจจะทำได้ก็ได้"
เฉินถิงยิ้มระรื่นและพูดเหน็บแนม
หลัวกังก็ต้องการที่จะพูดถากถางโจวเทียนเช่นกันแต่เมื่อเขาคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างโจวเทียนและนายท่านสี่หลงแล้วเขาก็สูญเสียความกล้าหาญในทันที
โจวเทียนเพิกเฉยต่อคนเหล่านี้และต่อสายหาเหมียวเผิงจวี
"ผู้เฒ่าเหมียวฉันต้องการให้คนคนหนึ่งเข้าไปทำงานในหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนล"
"ได้ครับคุณชายพรุ่งนี้ให้เขามาที่บริษัทได้เลย"
"อืม"
โจวเทียนวางสาย
"ฮ่าฮ่าฮ่า เสร็จแล้วเหรอ?" เฉินถิงหัวเราะหนักจนแทบจะไม่ไหวแล้ว
"เสร็จแล้ว" โจวเทียนเก็บโทรศัพท์
"ทำได้ดีนี่โจวเทียน น่าเสียดายที่คุณไม่ไปเป็นนักแสดงมันดูเหมือนจริงมาก"
เฉินถิงกล่าวต่อว่า "ผู้เฒ่าเหมียวนี่คือใครกัน เหมียวเผิงจวีหรอ? แค่คุณพูดคำเดียวประธานใหญ่อย่างนั้นจะฟังคุณพูดหรอ? คุณยังตลกได้มากกว่านี้อีกไหม?"
ผู้คนในที่นั้นต่างส่งเสียงหัวเราะเมื่อได้ยิน
จางเทามองโจวเทียนอย่างเหยียดหยาม เขาคิดในใจว่านี่มันช่างน่าขายหน้าจริงๆ ที่หลานสาวของเขาหาสามีได้แปลกประหลาดเช่นนี้
แม้ว่าจางเชี้ยนเถียนจะค่อนข้างชอบโจวเทียนมาตลอดแต่ชายชราก็ไม่เชื่อเรื่องนี้และทำได้เพียงนั่งอยู่กับที่และส่ายหัวซ้ำๆ
ในตอนนั้นเองก็มีสายเข้ามาที่โทรศัพท์ของหลี่รั่วเสวี่ย
ทางนั้นยังไม่ได้พูดอะไรสักคำหลี่รั่วเสวี่ยก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดและเดินออกไปที่ทางเดิน
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของหลี่รั่วเสวี่ยดูผิดปกติโจวเทียนจึงเดินตามออกไป
"รั่วเสวี่ยมีอะไรหรือเปล่า?"
"ไม่ใช่เรื่องของนายแค่อย่าให้คนตามมาก็พอ"
หลังจากที่หลี่รั่วเสวี่ยพูดจบเธอก็รีบเดินลงไปชั้นล่างทันที
โจวเทียนรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติเขาจึงกำลังจะเดินตามไป
"อย่าตามมา!"
หลี่รั่วเสวี่ยตะโกน
โจวเทียนไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดติดตาม เขาพบว่าครั้งนี้ภรรยาของเขากังวลมากและเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลี่รั่วเสวี่ยรีบเดินลงไปชั้นล่าง เธอเรียกรถแท็กซี่แล้วรีบออกไป
โจวเทียนทำได้เพียงกลับเข้าไปในห้องแต่ภายในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง
"รั่วเสวี่ยออกไปทำอะไร?"
จางซูยวิ๋นถามโจวเทียน
"เธอไม่ได้บอก"
"ก็จริง มันก็ต้องมีเรื่องที่เธอบอกแกไม่ได้แต่ถึงบอกไปมันก็ไม่มีประโยชน์!" จางซูยวิ๋นพูดประชดประชัน
"นี่น้องเขยอย่าเปลี่ยนเรื่องสิ นายแสดงต่ออีกสิโทรหาประธานเหมียวอีกพวกเราจะได้เรียนรู้ทักษะการแสดง คิกๆ!" เฉินถิงมองโจวเทียนด้วยท่าทางล้อเลียนและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
หนุ่มสาวที่เหลือต่างหัวเราะเยาะและอดใจรอชมการแสดงที่ดี
ถ้าเป็นตอนก่อนที่หลี่รั่วเสวี่ยจะออกไปโจวเทียนจะเพิกเฉยต่อพวกเขาอย่างไรก็ตามก็ถูกหัวเราเยาะเย้ยอยู่ดีเขาจึงมีภูมิคุ้มกันแล้ว
แต่ตอนนี้โจวเทียนกำลังกังวลเกี่ยวกับภรรยาของเขาและการที่คนเหล่านี้หยอกล้อเขาทำให้เขาอารมณ์เสียมาก
"ฉันจะให้เหมียวเผิงจวีมาที่นี่เดี๋ยวนี้และให้เขายอมรับจางเผิงต่อหน้าแล้วพวกคุณคงจะหุบปากได้สักที!"
โจวเทียนมองไปยังคนเหล่านี้ที่ล้อเลียนเขาและกล่าวเสียงดังจากนั้นเขาจึงโทรหาเหมียวเผิงจวีอีกครั้ง
ทันใดนั้นไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งสิ้น
เฉินถิงที่สนุกสนานที่สุดเมื่อครู่นี้ตอนนี้กลับยิ้มไม่ออกและคิดในใจว่าโจวเทียนจะพาประธานเหมียวมาที่นี่ได้จริงหรือ?
แต่เธอก็สะบัดความคิดออกไปอย่างรวดเร็ว คนอย่างเหมียวเผิงจวีน่ะเหรอจะฟังคำสั่งให้ไปไหนมาไหนของเศษสวะอย่างโจวเทียน? เว้นแต่ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นจากทิศตะวันตก!
"ฮ่าฮ่า พวกเรามารอชมละครเรื่องนี้กันเถอะ World International อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ขับรถสิบนาทีก็คงถึง พวกเรารอให้ประธานเหมียวเปิดประตูมาหาโจวเทียนผู้โง่เง่าของพวกเรากัน ฮ่าฮ่าฮ่า..." เฉินถิงยิ้มระรื่น
คน ณ ที่นั้นนอกจากจางเชี้ยนเถียนและจางซูยวิ๋นต่างหัวเราะร่วมไปกับเฉินถิง
โจวเทียนเพิกเฉยต่อพวกเขาโดยยังคงคิดถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของหลี่รั่วเสวี่ยก่อนหน้า
เวลาผ่านไปยังไม่ถึงสิบนาทีเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
"บ้าจริง เขามาจริงๆ เหรอ?"
ใครสักคนอุทาน
เฉินถิงยิ้มและเดินบิดเอวบางของเธอไปเปิดประตู "จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคงเป็นน้องรั่วเสวี่ยที่กลับ..."
ยังไม่ทันพูดจบประโยคปากของเฉินถิงก็อ้าออกเป็นรูปตัวโอด้วยความตะลึง
ที่หน้าประตูปรากฏร่างชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีซึ่งมีเหงื่อออกชุ่มไปทั่วร่างและกำลังหอบหายใจ เห็นได้ชัดว่าเขารีบวิ่งขึ้นมา
เขาคือเหมียวเผิงจวี!
"ขอโทษที่ขัดจังหวะครับ"
เหมียวเผิงจวียิ้มให้เฉินถิงอย่างสุภาพและพยักหน้าจากนั้นจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาโจวเทียน
ทุกคน ณ ที่นั้นนอกจากโจวเทียนต่างตกใจจนคางแทบจะตกถึงพื้นกันอยู่แล้ว
ไม่มีใครไม่รู้จักเหมียวเผิงจวี ประธานคนนี้ออกรายการทีวีบ่อยๆ แถมยังมาพร้อมกับผู้นำคนสำคัญของเมืองทุกครั้ง ...
ไม่รอให้ฝูงชนหายตกใจเหมียวเผิงจวีได้ทำการกระทำที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
เขาโค้งคำนับเบาๆ และพูดกับโจวเทียนอย่างสุภาพว่า "คุณโจวขออภัยครับที่ผมมาช้า"
"อืม"
โจวเทียนเพียงแค่ส่งเสียงอืมออกมาเบาๆ โดยไม่มีการแสดงออกใดๆ บนใบหน้าของเขา
ไม่จริงน่า นี่มันเหนือจินตนาการไปหรือเปล่า!
เหล่าลูกหลานของตระกูลมองดูท่าทางสงบของโจวเทียนในตอนนี้จนลูกตาของพวกเขาแทบจะถลนออกมา
ชายผู้นี้คือประธานของหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลใครก็ตามที่ประจบประแจงเขาได้สำเร็จก็อาจได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นอย่างพรวดพราด
แต่กลับกันกับโจวเทียนดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเหมียวเผิงจวีเลย สรุปแล้วเรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่?
หลังจากที่จางเชี้ยนเถียนเข้าสู่ห้วงความประหลาดใจในที่สุดเขาก็หายเป็นปกติ เขารีบลุกขึ้นและกล่าวกับเหมียวเผิงจวี "ประธานเหมียว เชิญ เชิญนั่งก่อนครับ..."
ในความเป็นจริงแล้วเหมียวเผิงจวีก็กำลังตื่นตระหนก เขารู้ว่าทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับคุณชายดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะรุกรานพวกเขา
และเขาเห็นว่าจางเชี้ยนเถียนนั้นอายุมากแล้วเขาคงจะเป็นบรรพบุรุษของโจวเทียนแล้วเหมียวเผิงจวีจะกล้าหยาบคายกับเขาได้อย่างไร?
"ท่านอาวุโสไม่ต้องเกรงใจผมยืนคุยแบบนี้ดีกว่าครับ"
เหมียวเผิงจวีกล่าวพร้อมยิ้มให้จางเชี้ยนเถียนอย่างสุภาพ
จางเชี้ยนเถียนไม่รู้จะพูดอะไรเพราะอย่างไรแล้วปัญหาเรื่องหน้าที่การงานของหลานชายเขาก็ขึ้นอยู่กับเหมียวเผิงจวี
"ผู้เฒ่าเหมียวนี่คือน้องชายของภรรยาผม รบกวนคุณช่วยหาตำแหน่งงานให้เขาด้วย"
โจวเทียนผายมือไปที่จางเผิงพลางพูดกับเหมียวเผิงจวี
"ได้ครับ ได้เลยครับ"
เหมียวเผิงจวีรีบพยักหน้าก่อนจะเดินไปหาจางเผิงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "พ่อหนุ่มคนนี้หน่วยก้านดีดูมีความสามารถ! มาเป็นรองผู้จัดการทั่วไปแล้วกัน พรุ่งนี้ไปทำงานที่บริษัทได้เลย"
ฟึ่บ
เมื่อจางเทาได้ยินดังนั้นขาของเขาก็อ่อนลงและเขาก็ทรุดลงบนพื้น
จางเทาค่อยๆ ยืนขึ้นอย่างเก้ๆ กังๆ พร้อมกับมองเหมียวเผิงจวีด้วยรอยยิ้ม "ประธานเหมียวอย่าล้อผมเล่นสิครับ ลูกชายของผมเพิ่งเรียนจบเขาจะมีคุณสมบัติเป็นรองประธานได้อย่างไร..."
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เขาเป็นถึงน้องชายภรรยาของคุณโจวเขาต้องมีอนาคตไกลอย่างแน่นอน!" เหมียวเผิงจวีมองจางเทาที่พูดไม่ออกจากนั้นจึงพูดกับโจวเทียนว่า "คุณโจวครับเช่นนั้นผมขอตัวกลับก่อน"
"ไปเถอะ"
โจวเทียนกล่าวนิ่งๆ
เหมียวเผิงจวีจึงหันตัวกลับมาและเดินจากไป
"เมื่อกี้มันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า?" ตอนนี้จางซูเซียงรู้สึกโล่งใจ เธอเอ่ยถามคนรอบข้างราวกับคนปัญญาอ่อน
"แม่ ภาพลวงตาอะไรล่ะแม่แกล้งโง่หรือไง?" เฉินถิงเขย่าตัวจางซูเซียงที่มีสีหน้างุนงง
"โจว โจวเทียนรู้จักเหมียวเผิงจวีได้ยังไงและเหมียวเผิงจวียังเชื่อฟังเขาแบบนั้นอีก..." จางซูเซียงมองโจวเทียนและพูดตะกุกตะกัก
คนอื่นๆ ก็เป็นเช่นเดียวกับจางซูเซียง ไม่มีความรู้สึกอื่นๆ นอกจากตกใจ
โจวเทียนครุ่นคิดในใจว่ากลุ่มคนหัวสูงเหล่านี้หยุดลงได้แล้วใช่ไหม?
ในขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นและโชว์เบอร์ที่ไม่คุ้นเคย
เมื่อโจวเทียนรับสายเสียงกังวลของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นทางโทรศัพท์ "คุณโจวฉันชื่อหลงคุนและฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ!"
โจวเทียนรู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่รู้ว่าหลงคุนได้เบอร์เขามาจากไหน
"เรื่องอะไร?"
"เรื่องของภรรยาของคุณกับน้องสาวภรรยาคุณ คุณรีบลงมาชั้นล่าง ผมอยู่ที่ชั้นล่าง!"
เกิดอะไรขึ้น!?
สมองของโจวเทียนเต็มไปด้วยเสียงผึ้งหึ่งๆ เกิดอะไรขึ้นกับภรรยาและน้องภรรยาของเขา?
เขาไม่มีเวลาถามอะไรมากและรีบวิ่งออกไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นโจวเทียนวิ่งออกไปจางซูเซียงจึงพูดกับเฉินถิง "เสี่ยวถิงดูเหมือนว่าพวกเราทุกคนจะประเมินโจวเทียนต่ำเกินไป ดูแล้วเขาคงไม่ใช่เศษสวะที่ไร้ความสามารถสินะ…"
เฉินถิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะร่าและพูดกับฝูงชนว่า "พวกคุณถูกโจวเทียนหลอกกันหมดแล้วหรอ? ฉันจะบอกพวกคุณให้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง สาวน้อยตระกูลถังที่มั่วสุมอยู่กับโจวเทียนหลงเขามากและหล่อนก็มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเหมียวเผิงจวีเช่นกัน โจวเทียนใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อติดต่อกับเหมียวเผิงจวี"
"หึหึ ถ้าไม่อย่างงั้นเหมียวเผิงจวีจะให้เกียรติเศษสวะอย่างโจวเทียนแบบนี้ทำไมล่ะ? พวกคุณไม่คิดว่ามันเป็นเพราะเหตุผลนี้เหรอ?"
ยิ่งเฉินถิงพูดมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งภูมิใจมากขึ้นเท่านั้น เธอคิดว่าเธอควรจะไปเป็นคนเขียนบทละครที่เดาสุ่มสี่สุ่มห้าได้ขนาดนี้
เมื่อหนุ่มสาวทั้งหลายได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย
จางเชี้ยนเถียนและผู้สูงอายุอีกจำนวนหนึ่งที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเกี่ยวกับคำพูดของเฉินถิงแต่พวกเขาก็คิดว่ามันเป็นไปได้มากที่จะเป็นเช่นนั้น
"ไอ้นี่มันทุเรศเกินไปแล้ว คอยดูนะฉันจะกลับไปถลกหนังมัน!"
จางซูยวิ๋นสบถด้วยความโกรธ
...
โจวเทียนมาถึงชั้นล่างและเห็นหลงคุนรออยู่ที่นั่นแล้ว
"นายท่านสี่หลงเกิดอะไรขึ้น?" โจวเทียนถามหลงคุนด้วยน้ำเสียงทุ้ม
"คุณโจวอย่าหาว่าฉันละลาบละล้วงที่ฉันให้ให้ความสนใจในตัวคุณกับคนรอบตัวคุณ..." หลงคุนมองโจวเทียนด้วยความลำบากใจเล็กน้อย
โจวเทียนชะงักไปครู่หนึ่งแต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะถามถึงเจตนาของหลงคุน "เรื่องนี้ค่อยคุยกันทีหลัง คุณบอกฉันมาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาและน้องภรรยาของฉัน?"
"พวกเธอเข้าไปที่บริษัทของเฉียนจิ้น ฉันกลัวว่ามันจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น"
หลงคุนมองไปที่โจวเทียนและเสริมว่า "ฉันรู้จักคนอย่างเฉียนจิ้นดีเขาเป็นผู้ชายที่อันตรายมาก!"
บ้าเอ้ย!
โจวเทียนร้อนใจมากเมื่อได้ยินเช่นนี้
เขากำลังจะหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาตำรวจแต่หลงคุนก็ห้ามเขาไว้เสียก่อน "คุณโจวฉันช่วยคุณแก้ปัญหานี้ได้"
โจวเทียนไม่สงสัยในความสามารถของหลงคุนแม้แต่น้อย เขาพยักหน้าอย่างแรงและเข้าไปในรถของหลงคุน
รถของหลงคุนคือเบนท์ลีย์คันงาม เขาออกตัวด้วยความเร็วและพุ่งเข้าไปบนถนนก่อนจะมุ่งหน้าไปยังบริษัทของเฉียนจินด้วยความเร็วสูง
ทันใดนั้นออดี้สีดำหลายสิบคันก็ขับตามรถของหลงคุนไป
โจวเทียนตกใจมาก นายท่านสี่หลงพาพรรคพวกมากี่คนกัน...
...
ในเวลาเดียวกันภายในบริษัทเงินกู้เจียเหอ
เฉียนจิ้นเอนกายบนเก้าอี้สำนักงาน เขาถือบุหรี่จีนในมือและมองไปที่คู่พี่น้องสาวทั้งสองตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย
พวกเธอคือหลี่รั่วเสวี่ยและหลี่รั่วซือ
ถัดจากหลี่รั่วซือยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ซึ่งเขาคือกัวเหลียง แฟนหนุ่มของหลี่รั่วซือ
ในตอนนี้จมูกของกัวเหลียงบวมและฟกช้ำ มือขวาของเขาก็หักจากการถูกทุบตีอย่างรุนแรง
ด้านหลังพวกเขาทั้งสามมีลูกน้องของเฉียนจิ้นยืนอยู่สี่คน
เฉียนจิ้นยิ้มกริ่มและมองไปที่หลี่รั่วเสวี่ย "คุณหลี่รั่วเสวี่ยคุณช่างรักน้องสาวของคุณจริงๆ คุณมาที่นี่ทันทีที่ฉันโทรหา ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เลว ไม่เลว แถมยังไม่บอกคนอื่นและไม่เรียกตำรวจด้วย ว่านอนสอนง่ายจริงๆ"
"บอสเฉียนฉันมาตามที่คุณบอกแล้วได้โปรดปล่อยน้องสาวของฉันไป" หลี่รั่วเสวี่ยพูดอย่างใจเย็น
"ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันปล่อยน้องสาวคุณไปได้แต่แฟนของน้องสาวคุณเป็นหนี้ฉันครึ่งล้านและคุณต้องจ่ายเงินคืน" เฉียนจิ้นหัวเราะอย่างสะใจและเมื่อมองไปที่ร่างกายที่ชวนหลงใหลของหลี่รั่วเสวี่ยเขาก็แทบจะน้ำลายไหล
"คุณพูดไร้สาระอะไร กัวเหลียงยืมเงินจากพวกคุณไป 10,000 หยวน มันจะกลายเป็นหลายแสนในเวลาเพียงไม่กี่วันได้ยังไง" หลี่รั่วซือสวนกลับทันที
เพี๊ยะ!
เฉียนจิ้นเดินเข้าไปและตบหลี่รั่วซือจนเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเธอ
"แม่แกสิ แกไม่นับดอกเบี้ยเหรอไง? แกไม่รู้เหรอว่าฉันให้กู้เงินแกคิดว่ามันเป็นการกุศลหรือไง?"
เฉียนจิ้นก่นด่าอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยม
"อย่าตบเธอ ปล่อยเธอไปเดี่ยวนี้!"
หลี่รั่วเสวี่ยร้อนรนและรีบปกป้องหลี่รั่วซือ
เฉียนจิ้นมองไปที่หลี่รั่วเสวี่ยและเลียริมฝีปากที่แห้งแตกของเขา
เฉียนเสี่ยวเฟยเอ๋ยเฉียนเสี่ยวเฟย ผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ลุงคงยังปล่อยให้เธอมาตอนนี้ไม่ได้ ขอให้ฉันได้มีความสุขกับหล่อนเสียก่อน!
เฉียนจิ้นเหลือบมองไปที่ต้นคอขาวของหลี่รั่วเสวี่ยด้วยความโลภ เขาคันไม้คันมือจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว...
"พาพวกมันสองคนไปห้องข้างๆ!"
เฉียนจิ้นสั่งคนของเขาและชี้ไปที่หลี่รั่วซือและกัวเหลียงที่คุกเข่าอยู่บนพื้น
"ครับ!"
ชายทั้งสี่ลากหลี่รั่วซือและกัวเหลียงไปยังห้องข้างๆ
เมื่อเห็นเจตนาไม่ดีของเฉียนจิ้น หลี่รั่วเสวี่ยก็ตื่นตระหนก "แก แกอย่าเข้ามานะ..."
"เฮ้อเฮ้อ เสวี่ยน้อยของฉันเธอช่างสวยจริงๆ!"
เฉียนจิ้นกล่าวพลางจับตัวหลี่รั่วเสวี่ยและลากเธอไปที่โต๊ะทำงาน
"แกจะทำอะไร! ถ้าแกกล้าแตะต้องฉันฉันจะส่งแกเข้าคุกแน่นอน!" หลี่รั่วเสวี่ยตะโกนด้วยความหวาดกลัว
เฉียนจิ้นชี้ไปที่กล้องวิดีโอความละเอียดสูงที่ตั้งอยู่ด้านข้างก่อนจะแสยะยิ้มและพูดว่า "จะฟ้องฉันเหรอ? เอาสิ วิดีโอทั้งหมดถูกบันทึกไว้แล้วคุณต้องการให้คนทั่วประเทศเห็นหุ่นที่ดีของคุณหรือเปล่าล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า! "
เมื่อพูดจบเฉียนจิ้นก็เหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังขย้ำหลี่รั่วเสวี่ยบนโต๊ะทำงาน...
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved