บทที่ 21 ถ้าคุณบอกว่าได้ก็คือได้

by จินเหอซี 08:31,Apr 26,2021
ไม่ใช่แค่คนหนุ่มสาวที่เข้ามาก่อกวนแต่จางซูเซียงก็เข้ามาร่วมด้วย

"ฮ่าฮ่า ทุกคนดูสิเขายังคงเสแสร้งอยู่อีกเหรอ ขอถามหน่อยเถอะว่าเมื่อกี้คุณโทรหาใคร?"

จางซูเซียงเอ่ยถามโจวเทียนอย่างอย่างประชดประชัน

"เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจหรอก พรุ่งนี้ฉันจะให้จางเผิงเข้าไปที่หวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนล"

ไม่มีการแสดงออกใดๆ บนใบหน้าของโจวเทียน เขาหาหมายเลขที่เหมียวเผิงจวีในรายชื่อโทรศัพท์

"ชู่ๆ ฉันจะคอยดูว่าคุณจะทำได้ไหม เรื่องที่แม้แต่หลัวกังที่เป็นหัวหน้าหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลยังทำไม่ได้แล้วคุณจะทำได้หรอ?"

จางซูเซียงหัวเราะเยาะ

"พี่สาวอย่าไปสนใจเลย เขามันก็แค่คนน่ารังเกียจที่ไม่มีปัญญาแล้วยังจะชอบอวดเก่ง ฉันจะรอดูว่าสุดท้ายแล้วเขาจะลงเอยอย่างไร!"

จางซูยวิ๋นจ้องมองโจวเทียนและกล่าวขึ้นอย่างเคืองๆ

"ฮ่าฮ่าอย่าไปห้ามเขาสิ บางทีเขาอาจจะทำได้ก็ได้"

เฉินถิงยิ้มระรื่นและพูดเหน็บแนม

หลัวกังก็ต้องการที่จะพูดถากถางโจวเทียนเช่นกันแต่เมื่อเขาคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างโจวเทียนและนายท่านสี่หลงแล้วเขาก็สูญเสียความกล้าหาญในทันที

โจวเทียนเพิกเฉยต่อคนเหล่านี้และต่อสายหาเหมียวเผิงจวี

"ผู้เฒ่าเหมียวฉันต้องการให้คนคนหนึ่งเข้าไปทำงานในหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนล"

"ได้ครับคุณชายพรุ่งนี้ให้เขามาที่บริษัทได้เลย"

"อืม"

โจวเทียนวางสาย

"ฮ่าฮ่าฮ่า เสร็จแล้วเหรอ?" เฉินถิงหัวเราะหนักจนแทบจะไม่ไหวแล้ว

"เสร็จแล้ว" โจวเทียนเก็บโทรศัพท์

"ทำได้ดีนี่โจวเทียน น่าเสียดายที่คุณไม่ไปเป็นนักแสดงมันดูเหมือนจริงมาก"

เฉินถิงกล่าวต่อว่า "ผู้เฒ่าเหมียวนี่คือใครกัน เหมียวเผิงจวีหรอ? แค่คุณพูดคำเดียวประธานใหญ่อย่างนั้นจะฟังคุณพูดหรอ? คุณยังตลกได้มากกว่านี้อีกไหม?"

ผู้คนในที่นั้นต่างส่งเสียงหัวเราะเมื่อได้ยิน

จางเทามองโจวเทียนอย่างเหยียดหยาม เขาคิดในใจว่านี่มันช่างน่าขายหน้าจริงๆ ที่หลานสาวของเขาหาสามีได้แปลกประหลาดเช่นนี้

แม้ว่าจางเชี้ยนเถียนจะค่อนข้างชอบโจวเทียนมาตลอดแต่ชายชราก็ไม่เชื่อเรื่องนี้และทำได้เพียงนั่งอยู่กับที่และส่ายหัวซ้ำๆ

ในตอนนั้นเองก็มีสายเข้ามาที่โทรศัพท์ของหลี่รั่วเสวี่ย

ทางนั้นยังไม่ได้พูดอะไรสักคำหลี่รั่วเสวี่ยก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดและเดินออกไปที่ทางเดิน

เมื่อเห็นว่าสีหน้าของหลี่รั่วเสวี่ยดูผิดปกติโจวเทียนจึงเดินตามออกไป

"รั่วเสวี่ยมีอะไรหรือเปล่า?"

"ไม่ใช่เรื่องของนายแค่อย่าให้คนตามมาก็พอ"

หลังจากที่หลี่รั่วเสวี่ยพูดจบเธอก็รีบเดินลงไปชั้นล่างทันที

โจวเทียนรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติเขาจึงกำลังจะเดินตามไป

"อย่าตามมา!"

หลี่รั่วเสวี่ยตะโกน

โจวเทียนไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดติดตาม เขาพบว่าครั้งนี้ภรรยาของเขากังวลมากและเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

หลี่รั่วเสวี่ยรีบเดินลงไปชั้นล่าง เธอเรียกรถแท็กซี่แล้วรีบออกไป

โจวเทียนทำได้เพียงกลับเข้าไปในห้องแต่ภายในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

"รั่วเสวี่ยออกไปทำอะไร?"

จางซูยวิ๋นถามโจวเทียน

"เธอไม่ได้บอก"

"ก็จริง มันก็ต้องมีเรื่องที่เธอบอกแกไม่ได้แต่ถึงบอกไปมันก็ไม่มีประโยชน์!" จางซูยวิ๋นพูดประชดประชัน

"นี่น้องเขยอย่าเปลี่ยนเรื่องสิ นายแสดงต่ออีกสิโทรหาประธานเหมียวอีกพวกเราจะได้เรียนรู้ทักษะการแสดง คิกๆ!" เฉินถิงมองโจวเทียนด้วยท่าทางล้อเลียนและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

หนุ่มสาวที่เหลือต่างหัวเราะเยาะและอดใจรอชมการแสดงที่ดี

ถ้าเป็นตอนก่อนที่หลี่รั่วเสวี่ยจะออกไปโจวเทียนจะเพิกเฉยต่อพวกเขาอย่างไรก็ตามก็ถูกหัวเราเยาะเย้ยอยู่ดีเขาจึงมีภูมิคุ้มกันแล้ว

แต่ตอนนี้โจวเทียนกำลังกังวลเกี่ยวกับภรรยาของเขาและการที่คนเหล่านี้หยอกล้อเขาทำให้เขาอารมณ์เสียมาก

"ฉันจะให้เหมียวเผิงจวีมาที่นี่เดี๋ยวนี้และให้เขายอมรับจางเผิงต่อหน้าแล้วพวกคุณคงจะหุบปากได้สักที!"

โจวเทียนมองไปยังคนเหล่านี้ที่ล้อเลียนเขาและกล่าวเสียงดังจากนั้นเขาจึงโทรหาเหมียวเผิงจวีอีกครั้ง

ทันใดนั้นไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งสิ้น

เฉินถิงที่สนุกสนานที่สุดเมื่อครู่นี้ตอนนี้กลับยิ้มไม่ออกและคิดในใจว่าโจวเทียนจะพาประธานเหมียวมาที่นี่ได้จริงหรือ?

แต่เธอก็สะบัดความคิดออกไปอย่างรวดเร็ว คนอย่างเหมียวเผิงจวีน่ะเหรอจะฟังคำสั่งให้ไปไหนมาไหนของเศษสวะอย่างโจวเทียน? เว้นแต่ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นจากทิศตะวันตก!

"ฮ่าฮ่า พวกเรามารอชมละครเรื่องนี้กันเถอะ World International อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ขับรถสิบนาทีก็คงถึง พวกเรารอให้ประธานเหมียวเปิดประตูมาหาโจวเทียนผู้โง่เง่าของพวกเรากัน ฮ่าฮ่าฮ่า..." เฉินถิงยิ้มระรื่น

คน ณ ที่นั้นนอกจากจางเชี้ยนเถียนและจางซูยวิ๋นต่างหัวเราะร่วมไปกับเฉินถิง

โจวเทียนเพิกเฉยต่อพวกเขาโดยยังคงคิดถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของหลี่รั่วเสวี่ยก่อนหน้า

เวลาผ่านไปยังไม่ถึงสิบนาทีเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น

"บ้าจริง เขามาจริงๆ เหรอ?"

ใครสักคนอุทาน

เฉินถิงยิ้มและเดินบิดเอวบางของเธอไปเปิดประตู "จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคงเป็นน้องรั่วเสวี่ยที่กลับ..."

ยังไม่ทันพูดจบประโยคปากของเฉินถิงก็อ้าออกเป็นรูปตัวโอด้วยความตะลึง

ที่หน้าประตูปรากฏร่างชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีซึ่งมีเหงื่อออกชุ่มไปทั่วร่างและกำลังหอบหายใจ เห็นได้ชัดว่าเขารีบวิ่งขึ้นมา

เขาคือเหมียวเผิงจวี!

"ขอโทษที่ขัดจังหวะครับ"

เหมียวเผิงจวียิ้มให้เฉินถิงอย่างสุภาพและพยักหน้าจากนั้นจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาโจวเทียน

ทุกคน ณ ที่นั้นนอกจากโจวเทียนต่างตกใจจนคางแทบจะตกถึงพื้นกันอยู่แล้ว

ไม่มีใครไม่รู้จักเหมียวเผิงจวี ประธานคนนี้ออกรายการทีวีบ่อยๆ แถมยังมาพร้อมกับผู้นำคนสำคัญของเมืองทุกครั้ง ...

ไม่รอให้ฝูงชนหายตกใจเหมียวเผิงจวีได้ทำการกระทำที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้น

เขาโค้งคำนับเบาๆ และพูดกับโจวเทียนอย่างสุภาพว่า "คุณโจวขออภัยครับที่ผมมาช้า"

"อืม"

โจวเทียนเพียงแค่ส่งเสียงอืมออกมาเบาๆ โดยไม่มีการแสดงออกใดๆ บนใบหน้าของเขา

ไม่จริงน่า นี่มันเหนือจินตนาการไปหรือเปล่า!

เหล่าลูกหลานของตระกูลมองดูท่าทางสงบของโจวเทียนในตอนนี้จนลูกตาของพวกเขาแทบจะถลนออกมา

ชายผู้นี้คือประธานของหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลใครก็ตามที่ประจบประแจงเขาได้สำเร็จก็อาจได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นอย่างพรวดพราด

แต่กลับกันกับโจวเทียนดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเหมียวเผิงจวีเลย สรุปแล้วเรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่?

หลังจากที่จางเชี้ยนเถียนเข้าสู่ห้วงความประหลาดใจในที่สุดเขาก็หายเป็นปกติ เขารีบลุกขึ้นและกล่าวกับเหมียวเผิงจวี "ประธานเหมียว เชิญ เชิญนั่งก่อนครับ..."

ในความเป็นจริงแล้วเหมียวเผิงจวีก็กำลังตื่นตระหนก เขารู้ว่าทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับคุณชายดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะรุกรานพวกเขา

และเขาเห็นว่าจางเชี้ยนเถียนนั้นอายุมากแล้วเขาคงจะเป็นบรรพบุรุษของโจวเทียนแล้วเหมียวเผิงจวีจะกล้าหยาบคายกับเขาได้อย่างไร?

"ท่านอาวุโสไม่ต้องเกรงใจผมยืนคุยแบบนี้ดีกว่าครับ"

เหมียวเผิงจวีกล่าวพร้อมยิ้มให้จางเชี้ยนเถียนอย่างสุภาพ

จางเชี้ยนเถียนไม่รู้จะพูดอะไรเพราะอย่างไรแล้วปัญหาเรื่องหน้าที่การงานของหลานชายเขาก็ขึ้นอยู่กับเหมียวเผิงจวี

"ผู้เฒ่าเหมียวนี่คือน้องชายของภรรยาผม รบกวนคุณช่วยหาตำแหน่งงานให้เขาด้วย"

โจวเทียนผายมือไปที่จางเผิงพลางพูดกับเหมียวเผิงจวี

"ได้ครับ ได้เลยครับ"

เหมียวเผิงจวีรีบพยักหน้าก่อนจะเดินไปหาจางเผิงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "พ่อหนุ่มคนนี้หน่วยก้านดีดูมีความสามารถ! มาเป็นรองผู้จัดการทั่วไปแล้วกัน พรุ่งนี้ไปทำงานที่บริษัทได้เลย"

ฟึ่บ

เมื่อจางเทาได้ยินดังนั้นขาของเขาก็อ่อนลงและเขาก็ทรุดลงบนพื้น

จางเทาค่อยๆ ยืนขึ้นอย่างเก้ๆ กังๆ พร้อมกับมองเหมียวเผิงจวีด้วยรอยยิ้ม "ประธานเหมียวอย่าล้อผมเล่นสิครับ ลูกชายของผมเพิ่งเรียนจบเขาจะมีคุณสมบัติเป็นรองประธานได้อย่างไร..."

"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เขาเป็นถึงน้องชายภรรยาของคุณโจวเขาต้องมีอนาคตไกลอย่างแน่นอน!" เหมียวเผิงจวีมองจางเทาที่พูดไม่ออกจากนั้นจึงพูดกับโจวเทียนว่า "คุณโจวครับเช่นนั้นผมขอตัวกลับก่อน"

"ไปเถอะ"

โจวเทียนกล่าวนิ่งๆ

เหมียวเผิงจวีจึงหันตัวกลับมาและเดินจากไป

"เมื่อกี้มันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า?" ตอนนี้จางซูเซียงรู้สึกโล่งใจ เธอเอ่ยถามคนรอบข้างราวกับคนปัญญาอ่อน

"แม่ ภาพลวงตาอะไรล่ะแม่แกล้งโง่หรือไง?" เฉินถิงเขย่าตัวจางซูเซียงที่มีสีหน้างุนงง

"โจว โจวเทียนรู้จักเหมียวเผิงจวีได้ยังไงและเหมียวเผิงจวียังเชื่อฟังเขาแบบนั้นอีก..." จางซูเซียงมองโจวเทียนและพูดตะกุกตะกัก

คนอื่นๆ ก็เป็นเช่นเดียวกับจางซูเซียง ไม่มีความรู้สึกอื่นๆ นอกจากตกใจ

โจวเทียนครุ่นคิดในใจว่ากลุ่มคนหัวสูงเหล่านี้หยุดลงได้แล้วใช่ไหม?

ในขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นและโชว์เบอร์ที่ไม่คุ้นเคย

เมื่อโจวเทียนรับสายเสียงกังวลของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นทางโทรศัพท์ "คุณโจวฉันชื่อหลงคุนและฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ!"

โจวเทียนรู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่รู้ว่าหลงคุนได้เบอร์เขามาจากไหน

"เรื่องอะไร?"

"เรื่องของภรรยาของคุณกับน้องสาวภรรยาคุณ คุณรีบลงมาชั้นล่าง ผมอยู่ที่ชั้นล่าง!"

เกิดอะไรขึ้น!?

สมองของโจวเทียนเต็มไปด้วยเสียงผึ้งหึ่งๆ เกิดอะไรขึ้นกับภรรยาและน้องภรรยาของเขา?

เขาไม่มีเวลาถามอะไรมากและรีบวิ่งออกไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นโจวเทียนวิ่งออกไปจางซูเซียงจึงพูดกับเฉินถิง "เสี่ยวถิงดูเหมือนว่าพวกเราทุกคนจะประเมินโจวเทียนต่ำเกินไป ดูแล้วเขาคงไม่ใช่เศษสวะที่ไร้ความสามารถสินะ…"

เฉินถิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะร่าและพูดกับฝูงชนว่า "พวกคุณถูกโจวเทียนหลอกกันหมดแล้วหรอ? ฉันจะบอกพวกคุณให้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง สาวน้อยตระกูลถังที่มั่วสุมอยู่กับโจวเทียนหลงเขามากและหล่อนก็มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเหมียวเผิงจวีเช่นกัน โจวเทียนใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อติดต่อกับเหมียวเผิงจวี"

"หึหึ ถ้าไม่อย่างงั้นเหมียวเผิงจวีจะให้เกียรติเศษสวะอย่างโจวเทียนแบบนี้ทำไมล่ะ? พวกคุณไม่คิดว่ามันเป็นเพราะเหตุผลนี้เหรอ?"

ยิ่งเฉินถิงพูดมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งภูมิใจมากขึ้นเท่านั้น เธอคิดว่าเธอควรจะไปเป็นคนเขียนบทละครที่เดาสุ่มสี่สุ่มห้าได้ขนาดนี้

เมื่อหนุ่มสาวทั้งหลายได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย

จางเชี้ยนเถียนและผู้สูงอายุอีกจำนวนหนึ่งที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเกี่ยวกับคำพูดของเฉินถิงแต่พวกเขาก็คิดว่ามันเป็นไปได้มากที่จะเป็นเช่นนั้น

"ไอ้นี่มันทุเรศเกินไปแล้ว คอยดูนะฉันจะกลับไปถลกหนังมัน!"

จางซูยวิ๋นสบถด้วยความโกรธ

...

โจวเทียนมาถึงชั้นล่างและเห็นหลงคุนรออยู่ที่นั่นแล้ว

"นายท่านสี่หลงเกิดอะไรขึ้น?" โจวเทียนถามหลงคุนด้วยน้ำเสียงทุ้ม

"คุณโจวอย่าหาว่าฉันละลาบละล้วงที่ฉันให้ให้ความสนใจในตัวคุณกับคนรอบตัวคุณ..." หลงคุนมองโจวเทียนด้วยความลำบากใจเล็กน้อย

โจวเทียนชะงักไปครู่หนึ่งแต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะถามถึงเจตนาของหลงคุน "เรื่องนี้ค่อยคุยกันทีหลัง คุณบอกฉันมาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาและน้องภรรยาของฉัน?"

"พวกเธอเข้าไปที่บริษัทของเฉียนจิ้น ฉันกลัวว่ามันจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น"

หลงคุนมองไปที่โจวเทียนและเสริมว่า "ฉันรู้จักคนอย่างเฉียนจิ้นดีเขาเป็นผู้ชายที่อันตรายมาก!"

บ้าเอ้ย!

โจวเทียนร้อนใจมากเมื่อได้ยินเช่นนี้

เขากำลังจะหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาตำรวจแต่หลงคุนก็ห้ามเขาไว้เสียก่อน "คุณโจวฉันช่วยคุณแก้ปัญหานี้ได้"

โจวเทียนไม่สงสัยในความสามารถของหลงคุนแม้แต่น้อย เขาพยักหน้าอย่างแรงและเข้าไปในรถของหลงคุน

รถของหลงคุนคือเบนท์ลีย์คันงาม เขาออกตัวด้วยความเร็วและพุ่งเข้าไปบนถนนก่อนจะมุ่งหน้าไปยังบริษัทของเฉียนจินด้วยความเร็วสูง

ทันใดนั้นออดี้สีดำหลายสิบคันก็ขับตามรถของหลงคุนไป

โจวเทียนตกใจมาก นายท่านสี่หลงพาพรรคพวกมากี่คนกัน...

...

ในเวลาเดียวกันภายในบริษัทเงินกู้เจียเหอ

เฉียนจิ้นเอนกายบนเก้าอี้สำนักงาน เขาถือบุหรี่จีนในมือและมองไปที่คู่พี่น้องสาวทั้งสองตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย

พวกเธอคือหลี่รั่วเสวี่ยและหลี่รั่วซือ

ถัดจากหลี่รั่วซือยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ซึ่งเขาคือกัวเหลียง แฟนหนุ่มของหลี่รั่วซือ

ในตอนนี้จมูกของกัวเหลียงบวมและฟกช้ำ มือขวาของเขาก็หักจากการถูกทุบตีอย่างรุนแรง

ด้านหลังพวกเขาทั้งสามมีลูกน้องของเฉียนจิ้นยืนอยู่สี่คน

เฉียนจิ้นยิ้มกริ่มและมองไปที่หลี่รั่วเสวี่ย "คุณหลี่รั่วเสวี่ยคุณช่างรักน้องสาวของคุณจริงๆ คุณมาที่นี่ทันทีที่ฉันโทรหา ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เลว ไม่เลว แถมยังไม่บอกคนอื่นและไม่เรียกตำรวจด้วย ว่านอนสอนง่ายจริงๆ"

"บอสเฉียนฉันมาตามที่คุณบอกแล้วได้โปรดปล่อยน้องสาวของฉันไป" หลี่รั่วเสวี่ยพูดอย่างใจเย็น

"ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันปล่อยน้องสาวคุณไปได้แต่แฟนของน้องสาวคุณเป็นหนี้ฉันครึ่งล้านและคุณต้องจ่ายเงินคืน" เฉียนจิ้นหัวเราะอย่างสะใจและเมื่อมองไปที่ร่างกายที่ชวนหลงใหลของหลี่รั่วเสวี่ยเขาก็แทบจะน้ำลายไหล

"คุณพูดไร้สาระอะไร กัวเหลียงยืมเงินจากพวกคุณไป 10,000 หยวน มันจะกลายเป็นหลายแสนในเวลาเพียงไม่กี่วันได้ยังไง" หลี่รั่วซือสวนกลับทันที

เพี๊ยะ!

เฉียนจิ้นเดินเข้าไปและตบหลี่รั่วซือจนเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเธอ

"แม่แกสิ แกไม่นับดอกเบี้ยเหรอไง? แกไม่รู้เหรอว่าฉันให้กู้เงินแกคิดว่ามันเป็นการกุศลหรือไง?"

เฉียนจิ้นก่นด่าอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยม

"อย่าตบเธอ ปล่อยเธอไปเดี่ยวนี้!"

หลี่รั่วเสวี่ยร้อนรนและรีบปกป้องหลี่รั่วซือ

เฉียนจิ้นมองไปที่หลี่รั่วเสวี่ยและเลียริมฝีปากที่แห้งแตกของเขา

เฉียนเสี่ยวเฟยเอ๋ยเฉียนเสี่ยวเฟย ผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ลุงคงยังปล่อยให้เธอมาตอนนี้ไม่ได้ ขอให้ฉันได้มีความสุขกับหล่อนเสียก่อน!

เฉียนจิ้นเหลือบมองไปที่ต้นคอขาวของหลี่รั่วเสวี่ยด้วยความโลภ เขาคันไม้คันมือจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว...

"พาพวกมันสองคนไปห้องข้างๆ!"

เฉียนจิ้นสั่งคนของเขาและชี้ไปที่หลี่รั่วซือและกัวเหลียงที่คุกเข่าอยู่บนพื้น

"ครับ!"

ชายทั้งสี่ลากหลี่รั่วซือและกัวเหลียงไปยังห้องข้างๆ

เมื่อเห็นเจตนาไม่ดีของเฉียนจิ้น หลี่รั่วเสวี่ยก็ตื่นตระหนก "แก แกอย่าเข้ามานะ..."

"เฮ้อเฮ้อ เสวี่ยน้อยของฉันเธอช่างสวยจริงๆ!"

เฉียนจิ้นกล่าวพลางจับตัวหลี่รั่วเสวี่ยและลากเธอไปที่โต๊ะทำงาน

"แกจะทำอะไร! ถ้าแกกล้าแตะต้องฉันฉันจะส่งแกเข้าคุกแน่นอน!" หลี่รั่วเสวี่ยตะโกนด้วยความหวาดกลัว

เฉียนจิ้นชี้ไปที่กล้องวิดีโอความละเอียดสูงที่ตั้งอยู่ด้านข้างก่อนจะแสยะยิ้มและพูดว่า "จะฟ้องฉันเหรอ? เอาสิ วิดีโอทั้งหมดถูกบันทึกไว้แล้วคุณต้องการให้คนทั่วประเทศเห็นหุ่นที่ดีของคุณหรือเปล่าล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า! "

เมื่อพูดจบเฉียนจิ้นก็เหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังขย้ำหลี่รั่วเสวี่ยบนโต๊ะทำงาน...

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1672