บทที่ 11 ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
by จินเหอซี
08:31,Apr 26,2021
เป็นคนอย่าหน้าด้านหน้าทน ดูเหมือนโจวเทียนจะได้เรียนรู้คำนี้แล้ว
หลัวกังมองสีหน้าทั้งตกใจและอิจฉาของหลี่รั่วเสวี่ยกับจางชูยวิ๋น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ
ที่เขาโอ้อวดเช่นนั้น ก็เพราะอยากแสร้งทำต่อหน้าสาวสวยอย่างหลี่รั่วเสวี่ยเท่านั้น และตอนนี้ดูเหมือนผลลัพธ์มันจะดีมาก
"หลัวกัง หนูต้องหาโอกาสเชิญคุณชายโจวออกมาให้ได้นะ จะได้ให้พวกเขาได้ทำความรู้จักกัน"
จางชูยวิ๋นพูดกับหลัวกังอย่างตั้งตารอ
"ป้ารองสบายใจได้เลย ไม่มีปัญหา ให้มันเป็นหน้าที่ของผมเถอะ"
หลัวกังหัวเราะอย่างพอใจ และไม่ลืมที่จะหันไปมองหลี่รั่วเสวี่ย
แน่นอนว่าหลี่รั่วเสวี่ยก็ตั้งตารอเช่นกัน
"งั้นดีมากเลย คุณชายโจวคนนี้เป็นคนสำคัญสำหรับครอบครัวเรา ฉันอยากจะขอบคุณเขาต่อหน้ามาตลอด"
ใบหน้าของจางชูยวิ๋นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีความสุขมาก ก่อนมองไปยังโจวเทียนพลางพูดว่า :"อย่าเพิ่งทำกับข้าวนะ เดี๋ยวออกไปกินข้างนอก"
"รับทราบครับ"
โจวเทียนตอบตกลง
"ชูยวิ๋น ลูกเขยของเธอนี่เชื่อฟังดีจริงๆ ฉันว่าดีมากเลยนะ"
ในตอนนี้ เฉินเจียงเหอก็เริ่มพูดขึ้น แต่ในตากลับเต็มไปด้วยร่องรอยการดูถูก
ในความคิดของเขา ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านนั้นดูไม่มีอนาคต
"พี่เขย อย่าเยาะเย้ยเราเลย"
"ไปกันเถอะ ไปกินข้าวนอกบ้านกัน"
จางชูยวิ๋นรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว เรียกให้ทุกคนออกมา
โจวเทียนไม่ต้องการที่จะร่วมวงด้วย เขากะจะกินข้าวที่บ้าน จึงไม่ได้ตามออกไปด้วย
"มาสิ"
หลี่รั่วเสวี่ยมองไปที่โจวเทียนด้วยสายตาหมดความอดทน
ผู้ชายของเรามักไม่ออกหน้าออกตา แล้วเมื่อไหร่จะมีหน้ามีตา
"รั่วเสวี่ย พวกคุณไปเถอะ ผมกินที่บ้านนิดหน่อยก็พอแล้ว"
โจวเทียนบอกกับรั่วเสวี่ย
"นายช่วยเข้าสังคมหน่อยได้มั้ย ที่บ้านมีแขก นายก็ไม่เคยจะออกมารับแขก หรือนายต้อนรับเขา จะให้คนอื่นเขาคิดยังไง?"
หลี่รั่วเสวี่ยถามโจวเทียนด้วยความโกรธ
"ก็ได้ครับ ผมจะไป"
โจวเทียนไม่มีทางออก ทำได้เพียงตามออกไปด้วย
เมื่อเห็นท่าทีไม่เต็มใจของโจวเทียน หลี่รั่วเสวี่ยโกรธจนไม่พูดอะไร เดินนำอยู่ข้างหน้า
เมื่อลงไปถึงข้างล่าง จางชูยวิ๋นชี้ไปยังร้านอาหารที่อยู่ตรงกันข้าม "ร้านอาหารเสฉวนร้านนี้อร่อยมาก พวกเรากินกันที่แหละ"
จางซูเซียงกับเฉินเจียงเหอมองไปที่ร้านอาหารนั้น ทั้งคู่ต่างมีท่าทีไม่พอใจ
ร้านอาหารร้านนี้ไม่ใหญ่โต หน้าร้านก็ดูเล็กจนน่าสงสาร กินอาหารที่นี่ พวกเขารู้สึกต่ำต้อยมาก
เฉินถิงดูออกถึงความในใจของพ่อแม่ตนเอง ก่อนเธอจะพูดว่า :"ป้ารอง ร้านอาหารเล็กๆนี้มันดูโทรมเกินไป เราจะไปกินกันที่ภัตตาคารลี่เจียงซีฟู้ดกันดีกว่า คุณภาพของที่นั้นสูงมาก อาหารทะเลก็มีคุณภาพ บรรยากาศก็ดี"
จางชูยวิ๋นได้ยินเช่นนั้นก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที
แขกมาที่บ้านของเธอ แน่นอนว่าเธอต้องเป็นคนเลี้ยง แต่ภัตตาคารอย่างลี่เจียงซีฟู้ด ราคามันสูงเกินไป
แม้จะสั่งแค่อาหารราคาถูกๆ คนเยอะแบบนี้ รวมๆแล้วก็คงเสียถึงสองสามพันหยวน
จางชูยวิ๋นดูลำบากใจและรู้สึกอาย เพราะด้วยสภาพการเงินครอบครัวของเธอในตอนนี้ มันไม่สามารถใช้จ่ายค่าอาหารแพงขนาดนี้ได้
แต่จะบอกว่าไม่ไปเพราะมันแพงเกินไปก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ยิ่งทำให้เสียหน้า
ทันใดนั้น ทั้งหมดก็ได้มาที่ภัตตาคารลี่เจียงซีฟู้ด
โจวเทียนได้ซื้อภัตตาคารนี้ไว้แล้ว เขายกมันให้โจวหลิงน้องสาวของเขา เขาเห็นกิจการกำลังไปได้ดี โจวเทียนรู้สึกดีใจมาก
หลังจากที่ทุกคนนั่งลง จางชูยวิ๋นได้หยิบเมนู และสั่งอาหารที่ราคาถูกที่สุด
ถึงอย่างนั้น จางชูยวิ๋นก็ยังรู้สึกเจ็บใจไม่น้อย เพราะต้องเสียเงินตั้งสองพันกว่าหยวนเพื่อกินอาหารพวกนี้
"ป้ารอง ทำไมสั่งแต่อาหารถูกๆล่ะคะ ทำแบบนี้ได้ยังไงกันโล่วมากเลยนะคะ"
เฉินถิงขมวดคิ้วเข้ม ก่อนจะพูดกับพนักงานเสิร์ฟว่า :"อาหารที่สั่งไปเมื่อกี้ยกเลิกทั้งหมด แล้วเสิร์ฟเป็นอาหารที่แพงที่สุดในร้านนี้"
"ได้ครับคุณผู้หญิง อาหารที่แพงที่สุดในร้านของเราคือเมนูเซ็ตซีฟู้ดระดับโกลด์ รับครบเช็ตเลยไหมครับ?"
พนักงานเสิร์ฟถามอย่างสุภาพ
"นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ สั่งจริงๆ"
เฉินถิงตอบลวกๆพลางหยิบตลับแป้งขึ้นมาแต่งหน้า
พนักงานเสิร์ฟได้รับออเดอร์ก่อนที่จะเดินจากไป
สีหน้าของจางชูยวิ๋นเต็มไปด้วยความขมขื่นและเกลียดชัง และยังบ่นเฉินถิงในใจ นี่มันยิ่งเป็นการกรีดเค้นเลือดเนื้อป้ารองของเธอไม่ใช่เหรอ?"
หลี่รั่วเสวี่ยเองก็รู้สึกไม่มั่นใจ ถ้าหากราคาแพงเกินไป เธอเองก็จ่ายไม่ไหว
โจวเทียนที่อยู่อีกฝั่งนิ่งมาก ทั้งภัตตาคารล้วนเป็นของเขาทั้งหมด จะกังกลว่าพวกเฉินถิงจะสั่งอะไรทำไม?
"ชูยวิ๋น สิ่งที่สำคัญที่สุดในการออกมากินข้าวข้างนอกคือความสุข อย่ากลัวที่จะใช้เงินสิ"
จะว่าไปแล้ว ลูกเขยฉันก็อยู่ตรงนี้ จะปล่อยให้พวกเธอจ่ายได้ยังไง?"
จางซูเซียงมองไปที่หลัวกัง ว่าที่ลูกเขยของเธออย่างภาคภูมิใจ หัวเราะพลางบอกกับจางชูยอวิน
จางชูยวิ๋นรู้สึกเสียใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น คนอื่นต่างมีลูกเขยที่ดี หันกลับมามองลูกเขยของตนเองที่นั่งอยู่นิ่งๆ ไม่กล้าที่จะผายลมด้วยซ้ำ
ถ้าโจวเทียนมีแววสักหน่อย ป่านนี้ก็คงจะกู้หน้าคืนมาได้บ้าง
จางชูยวิ๋นจ้องไปที่โจวเทียนด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหันไปยิ้มเจื่อนด้วยความอับอาย "พี่สาว พวกพี่เป็นแขก แถมยังเป็นครั้งแรกที่หลัวกังมาบ้านเรา จะให้พวกพี่จ่ายเงินได้ยังไงกัน?"
"ไม่เป็นไรๆ หลัวกังของเรามีเงินเดือนกว่าสองแสน กินข้าวแค่นี้เรื่องเล็กน้อยว่ามั้ย?"
เฉินถิงกล่าวอย่างภูมิใจ ลึกๆเธอแอบดีใจที่คบผู้ชายถูกคน ไม่เหมือนกับหลี่รั่วเสวี่ยที่มีสามีไม่ได้เรื่อง
"ใช่ครับป้ารอง เรากินดื่มแต่ของดีๆก็พอ เงินแค่นี้เล็กน้อย ไม่สำคัญอะไร"
ตอนนี้หลัวกังก็เริ่มสนุกด้วย ราวกับเป็นเศรษฐีคนหนึ่ง
จางชูยวิ๋นไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ตอนนี้เขารู้สึกอิจฉาจางซูเซียง พี่สาวคนโตจริงๆ ที่มีลูกเขยหาเงินเก่งแบบนี้
เมื่อหันกลับไปมองโจวเทียนที่นั่งอยู่อีกฝั่ง จางชูยวิ๋นก็ระเบิดความอัดอั้นทั้งหมดออกมา
"ดูคนอื่นเขาแล้วหันกลับมามองตัวแกเอง! เห้อ พรุ่งนี้แกรีบออกไปหางานทำเลยนะ"
จางชูยวิ๋นจ้องโจวเทียนด้วยความโมโห
หลี่รั่วเสวี่ยเห็นแบบนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เธอคิดไม่ถึงว่าแม่จะดูถูกโจวเทียนต่อหน้าทุกคน
ไม่ว่ายังไงโจวเทียนก็เป็นสามีของเธอ โจวเทียนอับอาย สีหน้าของเธอก็เสียไปด้วย
จางซูเซียงและเฉินเจียงเหอได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
เฉินถิงกับหลัวกังก็ยิ่งหัวเราะเยาะ ความรู้สึกอยู่เหนือคนอื่นแล้วกดคนอื่นให้ต่ำกว่าตนเองนี่มันฟินจริงๆ
สีหน้าของโจวเทียนกลับยังคงเรียบนิ่ง ตอนนี้เขาพูดกับจางชูยอวินว่า :"แม่ มีคนเยอะแยะทำงานให้ผมอยู่ ฉะนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องทำงาน"
"อะไรนะ?"
จางชูยวิ๋นได้ยินก็โมโหทันที พลางชี้หน้าโจวเทียน "แกนี่มันนับวันยิ่งหน้าด้าน แกบอกว่ามีคนทำงานให้แกอยู่ แกกำลังหมายถึงโยว่เสวี่ยเหรอ?
ก็จริงอยู่ที่ไม่กี่ปีมานี้โยว่เสวี่ยทำงานให้แก เลี้ยงคนไร้ประโยชน์อย่างแก!"
"เฮ้ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น….." "นายไม่ได้หมายความอย่างนั้นเหรอ?
"คนอย่างแก ใครจะทำงานให้ แกคิดว่าแกเป็นท่านชายใหญ่เป็นหัวหน้าใหญ่หรือไง?"
จางชูยวิ๋นยิ่งพูดยิ่งโมโห เขาพูดขัดคำพูดของโจวเทียนทันที
โจวเทียนขัดจางชูยวิ๋นไม่ได้ เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย เมื่อกี้เขาไม่ควรจะออกความคิดเห็น
"พอเถอะชูยวิ๋น ก็แค่ออกไปหางานทำ ให้หลัวกังจัดการให้สิ เขาเป็นผู้จัดการสวนน้ำ มอบหมายงานให้โจวเทียนหน่อย แบบนี้ก็แบ่งเบาได้เยอะเลย"
จางซูเซียงพูดเกลี้ยกล่อม
"ใช่ ให้หลัวกังหางานให้ทำก็ไม่มีปัญหาอะไร"
เฉิงเจียงเหอพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
ตอนนี้หลัวกังภาคภูมิใจในตนเองแบบขีดสุด ก่อนจะตบไหล่โจวเทียน พลางหัวเราหึๆพูดว่า :"วางใจได้เลยน้องเขย นายอยากทำงานเมื่อไหร่ก็มาหาฉันได้เลย ฉันจะหางานที่ไม่เหนื่อยมอบหมายให้นาย แบบนี้เป็นไง?"
โจวเทียนมองไปยังใบหน้าอวดดีของหลัวกัง ในใจเขารู้สึกหมดคำจะพูดจริงๆ
จัดการให้น้องแกสิ!
ฉันพูดประโยคเดียวนายก็ต้องไสหัวออกไปแล้ว ยังจะมาทำโอ้อวดเหมือนหมาป่าอวดหางอีก
"ฉันว่าไม่มีความจำเป็น นายจัดการเรื่องของตัวเองเถอะ อย่าให้โดนไล่ออกในสักวันละกัน"
โจวเทียนยิ้มเยือกเย็นพลางมองไปยังหลัวกัง
หลัวกังคิดไม่ถึงว่าโจวเทียนจะพูดแบบนี้กับเขา เขารู้สึกโกรธจนปวดไปถึงตับ นี่กำลังแข่งเขาอยู่งั้นเหรอ
เฉินถิงได้ยินเช่นนั้นก็โมโห พลางจ้องหน้าโจวเทียนพูดว่า :"โจวเทียน แกนี่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี หลัวกังหวังดีอยากหางานให้แกทำ ให้แกมีรายได้ แต่แกยังจะแช่งเขาอีก"
โจวเทียนหัวเราะดังลั่น ขี้เกียจจะถกเถียงกับเธอ
"เสี่ยวถิง กังจื่อ อย่าไปอะไรกับคนอย่างเขาเลย รีบกินเถอะ"
จางชูยวิ๋นกรอกตาใส่โจวเทียน พลางปลอบเฉินถิงกับหลัวกัง
"ทุกคนต่างเป็นญาติกัน จะทะเลาะกันไปทำไม"
ตอนนี้เฉินเจียงเหอก็เริ่มพูดขึ้นด้วย
เซ็ตซีฟู้ดระดับโกลด์ไม่เหมือนกับอาหารบนโต๊ะอื่น มีอาหารทะเลหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ตอนนี้เฉินถิงกับหลัวกังหยุดประชดประชันโจวเทียนแล้ว พวกเขากินซีฟู้ดที่แสนน่าอร่อยตรงหน้าได้ไม่น่าดูเท่าไหร่
"อาหารทะเลนี้เรียกว่าอะไร มันอร่อยมากจริงๆ"
เฉินถิงกินไปด้วยถามไปด้วยด้วยความอยากรู้
พนักงานที่ยืนอยู่ข้างๆรีบพูดแนะนำ "นี่คือเพรียงคอห่าน มีรสชาติอร่อยมาก และยังเป็นอาหารทะเลที่แพงที่สุดในร้านของเราอีกด้วย"
"อร่อยมาก ขอเพรียงคอห่านแบบนี้ให้เราอีกสิบจานเลยนะคะ"
หลัวกังโบกมืออย่างภูมิใจสุดๆ
"ได้ครับ"
พนักงานเสิร์ฟรีบไปแจ้งออเดอร์ทันที
"พี่ถิง อย่าสั่งเยอะขนาดนั้นเลย ตั้งสิบจาน พวกเรากินไม่หมดหรอก"
หลี่รั่วเสวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางพูดโน้มน้าวเฉินถิง
"เหอะๆ กินไม่หมดก็เหลือไว้สิ เงินแค่นี้กังจื่อไม่ถือหรอก ไม่เหมือนคนจนๆบางคน หึ"
เฉินถิงเหลือบมองโจวเทียน
หลี่รั่วเสวี่ยก็แอบส่งซิกให้โถวเทียนไม่ต้องสนใจเฉินถิง
โถวเทียนไม่ได้อยากจะอะไรกับพวกผู้หญิงอยู่แล้ว ตอนนี้เขาจึงตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว
"ชีวิตนี้คงยังไม่เคยกินอาหารอร่อยขนาดนี้ล่ะสิ?
"เหอะๆ ค่อยๆกินเดี๋ยวติดคอ ยังไงซะกังจื่อของเราก็เป็นคนเลี้ยง นายได้กินจนอิ่มแน่นอน"
เฉินถิงมองโจวเทียนด้วยสายตาเยาะเย้ย พลางพูดอย่างไม่รู้ผิดรู้ถูก
กังจื่อของพวกเธอเลี้ยงงั้นเหรอ?
ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
โจวเทียนขำอยู่ในใจ คนอื่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพรียงคอห่านห่านนี้มีความเป็นมายังไง แต่เขากลับรู้ถึงคุณค่าของมันว่าราคาแพงแค่ไหน
หลัวกังมองสีหน้าทั้งตกใจและอิจฉาของหลี่รั่วเสวี่ยกับจางชูยวิ๋น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ
ที่เขาโอ้อวดเช่นนั้น ก็เพราะอยากแสร้งทำต่อหน้าสาวสวยอย่างหลี่รั่วเสวี่ยเท่านั้น และตอนนี้ดูเหมือนผลลัพธ์มันจะดีมาก
"หลัวกัง หนูต้องหาโอกาสเชิญคุณชายโจวออกมาให้ได้นะ จะได้ให้พวกเขาได้ทำความรู้จักกัน"
จางชูยวิ๋นพูดกับหลัวกังอย่างตั้งตารอ
"ป้ารองสบายใจได้เลย ไม่มีปัญหา ให้มันเป็นหน้าที่ของผมเถอะ"
หลัวกังหัวเราะอย่างพอใจ และไม่ลืมที่จะหันไปมองหลี่รั่วเสวี่ย
แน่นอนว่าหลี่รั่วเสวี่ยก็ตั้งตารอเช่นกัน
"งั้นดีมากเลย คุณชายโจวคนนี้เป็นคนสำคัญสำหรับครอบครัวเรา ฉันอยากจะขอบคุณเขาต่อหน้ามาตลอด"
ใบหน้าของจางชูยวิ๋นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีความสุขมาก ก่อนมองไปยังโจวเทียนพลางพูดว่า :"อย่าเพิ่งทำกับข้าวนะ เดี๋ยวออกไปกินข้างนอก"
"รับทราบครับ"
โจวเทียนตอบตกลง
"ชูยวิ๋น ลูกเขยของเธอนี่เชื่อฟังดีจริงๆ ฉันว่าดีมากเลยนะ"
ในตอนนี้ เฉินเจียงเหอก็เริ่มพูดขึ้น แต่ในตากลับเต็มไปด้วยร่องรอยการดูถูก
ในความคิดของเขา ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านนั้นดูไม่มีอนาคต
"พี่เขย อย่าเยาะเย้ยเราเลย"
"ไปกันเถอะ ไปกินข้าวนอกบ้านกัน"
จางชูยวิ๋นรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว เรียกให้ทุกคนออกมา
โจวเทียนไม่ต้องการที่จะร่วมวงด้วย เขากะจะกินข้าวที่บ้าน จึงไม่ได้ตามออกไปด้วย
"มาสิ"
หลี่รั่วเสวี่ยมองไปที่โจวเทียนด้วยสายตาหมดความอดทน
ผู้ชายของเรามักไม่ออกหน้าออกตา แล้วเมื่อไหร่จะมีหน้ามีตา
"รั่วเสวี่ย พวกคุณไปเถอะ ผมกินที่บ้านนิดหน่อยก็พอแล้ว"
โจวเทียนบอกกับรั่วเสวี่ย
"นายช่วยเข้าสังคมหน่อยได้มั้ย ที่บ้านมีแขก นายก็ไม่เคยจะออกมารับแขก หรือนายต้อนรับเขา จะให้คนอื่นเขาคิดยังไง?"
หลี่รั่วเสวี่ยถามโจวเทียนด้วยความโกรธ
"ก็ได้ครับ ผมจะไป"
โจวเทียนไม่มีทางออก ทำได้เพียงตามออกไปด้วย
เมื่อเห็นท่าทีไม่เต็มใจของโจวเทียน หลี่รั่วเสวี่ยโกรธจนไม่พูดอะไร เดินนำอยู่ข้างหน้า
เมื่อลงไปถึงข้างล่าง จางชูยวิ๋นชี้ไปยังร้านอาหารที่อยู่ตรงกันข้าม "ร้านอาหารเสฉวนร้านนี้อร่อยมาก พวกเรากินกันที่แหละ"
จางซูเซียงกับเฉินเจียงเหอมองไปที่ร้านอาหารนั้น ทั้งคู่ต่างมีท่าทีไม่พอใจ
ร้านอาหารร้านนี้ไม่ใหญ่โต หน้าร้านก็ดูเล็กจนน่าสงสาร กินอาหารที่นี่ พวกเขารู้สึกต่ำต้อยมาก
เฉินถิงดูออกถึงความในใจของพ่อแม่ตนเอง ก่อนเธอจะพูดว่า :"ป้ารอง ร้านอาหารเล็กๆนี้มันดูโทรมเกินไป เราจะไปกินกันที่ภัตตาคารลี่เจียงซีฟู้ดกันดีกว่า คุณภาพของที่นั้นสูงมาก อาหารทะเลก็มีคุณภาพ บรรยากาศก็ดี"
จางชูยวิ๋นได้ยินเช่นนั้นก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที
แขกมาที่บ้านของเธอ แน่นอนว่าเธอต้องเป็นคนเลี้ยง แต่ภัตตาคารอย่างลี่เจียงซีฟู้ด ราคามันสูงเกินไป
แม้จะสั่งแค่อาหารราคาถูกๆ คนเยอะแบบนี้ รวมๆแล้วก็คงเสียถึงสองสามพันหยวน
จางชูยวิ๋นดูลำบากใจและรู้สึกอาย เพราะด้วยสภาพการเงินครอบครัวของเธอในตอนนี้ มันไม่สามารถใช้จ่ายค่าอาหารแพงขนาดนี้ได้
แต่จะบอกว่าไม่ไปเพราะมันแพงเกินไปก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ยิ่งทำให้เสียหน้า
ทันใดนั้น ทั้งหมดก็ได้มาที่ภัตตาคารลี่เจียงซีฟู้ด
โจวเทียนได้ซื้อภัตตาคารนี้ไว้แล้ว เขายกมันให้โจวหลิงน้องสาวของเขา เขาเห็นกิจการกำลังไปได้ดี โจวเทียนรู้สึกดีใจมาก
หลังจากที่ทุกคนนั่งลง จางชูยวิ๋นได้หยิบเมนู และสั่งอาหารที่ราคาถูกที่สุด
ถึงอย่างนั้น จางชูยวิ๋นก็ยังรู้สึกเจ็บใจไม่น้อย เพราะต้องเสียเงินตั้งสองพันกว่าหยวนเพื่อกินอาหารพวกนี้
"ป้ารอง ทำไมสั่งแต่อาหารถูกๆล่ะคะ ทำแบบนี้ได้ยังไงกันโล่วมากเลยนะคะ"
เฉินถิงขมวดคิ้วเข้ม ก่อนจะพูดกับพนักงานเสิร์ฟว่า :"อาหารที่สั่งไปเมื่อกี้ยกเลิกทั้งหมด แล้วเสิร์ฟเป็นอาหารที่แพงที่สุดในร้านนี้"
"ได้ครับคุณผู้หญิง อาหารที่แพงที่สุดในร้านของเราคือเมนูเซ็ตซีฟู้ดระดับโกลด์ รับครบเช็ตเลยไหมครับ?"
พนักงานเสิร์ฟถามอย่างสุภาพ
"นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ สั่งจริงๆ"
เฉินถิงตอบลวกๆพลางหยิบตลับแป้งขึ้นมาแต่งหน้า
พนักงานเสิร์ฟได้รับออเดอร์ก่อนที่จะเดินจากไป
สีหน้าของจางชูยวิ๋นเต็มไปด้วยความขมขื่นและเกลียดชัง และยังบ่นเฉินถิงในใจ นี่มันยิ่งเป็นการกรีดเค้นเลือดเนื้อป้ารองของเธอไม่ใช่เหรอ?"
หลี่รั่วเสวี่ยเองก็รู้สึกไม่มั่นใจ ถ้าหากราคาแพงเกินไป เธอเองก็จ่ายไม่ไหว
โจวเทียนที่อยู่อีกฝั่งนิ่งมาก ทั้งภัตตาคารล้วนเป็นของเขาทั้งหมด จะกังกลว่าพวกเฉินถิงจะสั่งอะไรทำไม?
"ชูยวิ๋น สิ่งที่สำคัญที่สุดในการออกมากินข้าวข้างนอกคือความสุข อย่ากลัวที่จะใช้เงินสิ"
จะว่าไปแล้ว ลูกเขยฉันก็อยู่ตรงนี้ จะปล่อยให้พวกเธอจ่ายได้ยังไง?"
จางซูเซียงมองไปที่หลัวกัง ว่าที่ลูกเขยของเธออย่างภาคภูมิใจ หัวเราะพลางบอกกับจางชูยอวิน
จางชูยวิ๋นรู้สึกเสียใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น คนอื่นต่างมีลูกเขยที่ดี หันกลับมามองลูกเขยของตนเองที่นั่งอยู่นิ่งๆ ไม่กล้าที่จะผายลมด้วยซ้ำ
ถ้าโจวเทียนมีแววสักหน่อย ป่านนี้ก็คงจะกู้หน้าคืนมาได้บ้าง
จางชูยวิ๋นจ้องไปที่โจวเทียนด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหันไปยิ้มเจื่อนด้วยความอับอาย "พี่สาว พวกพี่เป็นแขก แถมยังเป็นครั้งแรกที่หลัวกังมาบ้านเรา จะให้พวกพี่จ่ายเงินได้ยังไงกัน?"
"ไม่เป็นไรๆ หลัวกังของเรามีเงินเดือนกว่าสองแสน กินข้าวแค่นี้เรื่องเล็กน้อยว่ามั้ย?"
เฉินถิงกล่าวอย่างภูมิใจ ลึกๆเธอแอบดีใจที่คบผู้ชายถูกคน ไม่เหมือนกับหลี่รั่วเสวี่ยที่มีสามีไม่ได้เรื่อง
"ใช่ครับป้ารอง เรากินดื่มแต่ของดีๆก็พอ เงินแค่นี้เล็กน้อย ไม่สำคัญอะไร"
ตอนนี้หลัวกังก็เริ่มสนุกด้วย ราวกับเป็นเศรษฐีคนหนึ่ง
จางชูยวิ๋นไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ตอนนี้เขารู้สึกอิจฉาจางซูเซียง พี่สาวคนโตจริงๆ ที่มีลูกเขยหาเงินเก่งแบบนี้
เมื่อหันกลับไปมองโจวเทียนที่นั่งอยู่อีกฝั่ง จางชูยวิ๋นก็ระเบิดความอัดอั้นทั้งหมดออกมา
"ดูคนอื่นเขาแล้วหันกลับมามองตัวแกเอง! เห้อ พรุ่งนี้แกรีบออกไปหางานทำเลยนะ"
จางชูยวิ๋นจ้องโจวเทียนด้วยความโมโห
หลี่รั่วเสวี่ยเห็นแบบนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เธอคิดไม่ถึงว่าแม่จะดูถูกโจวเทียนต่อหน้าทุกคน
ไม่ว่ายังไงโจวเทียนก็เป็นสามีของเธอ โจวเทียนอับอาย สีหน้าของเธอก็เสียไปด้วย
จางซูเซียงและเฉินเจียงเหอได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
เฉินถิงกับหลัวกังก็ยิ่งหัวเราะเยาะ ความรู้สึกอยู่เหนือคนอื่นแล้วกดคนอื่นให้ต่ำกว่าตนเองนี่มันฟินจริงๆ
สีหน้าของโจวเทียนกลับยังคงเรียบนิ่ง ตอนนี้เขาพูดกับจางชูยอวินว่า :"แม่ มีคนเยอะแยะทำงานให้ผมอยู่ ฉะนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องทำงาน"
"อะไรนะ?"
จางชูยวิ๋นได้ยินก็โมโหทันที พลางชี้หน้าโจวเทียน "แกนี่มันนับวันยิ่งหน้าด้าน แกบอกว่ามีคนทำงานให้แกอยู่ แกกำลังหมายถึงโยว่เสวี่ยเหรอ?
ก็จริงอยู่ที่ไม่กี่ปีมานี้โยว่เสวี่ยทำงานให้แก เลี้ยงคนไร้ประโยชน์อย่างแก!"
"เฮ้ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น….." "นายไม่ได้หมายความอย่างนั้นเหรอ?
"คนอย่างแก ใครจะทำงานให้ แกคิดว่าแกเป็นท่านชายใหญ่เป็นหัวหน้าใหญ่หรือไง?"
จางชูยวิ๋นยิ่งพูดยิ่งโมโห เขาพูดขัดคำพูดของโจวเทียนทันที
โจวเทียนขัดจางชูยวิ๋นไม่ได้ เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย เมื่อกี้เขาไม่ควรจะออกความคิดเห็น
"พอเถอะชูยวิ๋น ก็แค่ออกไปหางานทำ ให้หลัวกังจัดการให้สิ เขาเป็นผู้จัดการสวนน้ำ มอบหมายงานให้โจวเทียนหน่อย แบบนี้ก็แบ่งเบาได้เยอะเลย"
จางซูเซียงพูดเกลี้ยกล่อม
"ใช่ ให้หลัวกังหางานให้ทำก็ไม่มีปัญหาอะไร"
เฉิงเจียงเหอพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
ตอนนี้หลัวกังภาคภูมิใจในตนเองแบบขีดสุด ก่อนจะตบไหล่โจวเทียน พลางหัวเราหึๆพูดว่า :"วางใจได้เลยน้องเขย นายอยากทำงานเมื่อไหร่ก็มาหาฉันได้เลย ฉันจะหางานที่ไม่เหนื่อยมอบหมายให้นาย แบบนี้เป็นไง?"
โจวเทียนมองไปยังใบหน้าอวดดีของหลัวกัง ในใจเขารู้สึกหมดคำจะพูดจริงๆ
จัดการให้น้องแกสิ!
ฉันพูดประโยคเดียวนายก็ต้องไสหัวออกไปแล้ว ยังจะมาทำโอ้อวดเหมือนหมาป่าอวดหางอีก
"ฉันว่าไม่มีความจำเป็น นายจัดการเรื่องของตัวเองเถอะ อย่าให้โดนไล่ออกในสักวันละกัน"
โจวเทียนยิ้มเยือกเย็นพลางมองไปยังหลัวกัง
หลัวกังคิดไม่ถึงว่าโจวเทียนจะพูดแบบนี้กับเขา เขารู้สึกโกรธจนปวดไปถึงตับ นี่กำลังแข่งเขาอยู่งั้นเหรอ
เฉินถิงได้ยินเช่นนั้นก็โมโห พลางจ้องหน้าโจวเทียนพูดว่า :"โจวเทียน แกนี่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี หลัวกังหวังดีอยากหางานให้แกทำ ให้แกมีรายได้ แต่แกยังจะแช่งเขาอีก"
โจวเทียนหัวเราะดังลั่น ขี้เกียจจะถกเถียงกับเธอ
"เสี่ยวถิง กังจื่อ อย่าไปอะไรกับคนอย่างเขาเลย รีบกินเถอะ"
จางชูยวิ๋นกรอกตาใส่โจวเทียน พลางปลอบเฉินถิงกับหลัวกัง
"ทุกคนต่างเป็นญาติกัน จะทะเลาะกันไปทำไม"
ตอนนี้เฉินเจียงเหอก็เริ่มพูดขึ้นด้วย
เซ็ตซีฟู้ดระดับโกลด์ไม่เหมือนกับอาหารบนโต๊ะอื่น มีอาหารทะเลหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ตอนนี้เฉินถิงกับหลัวกังหยุดประชดประชันโจวเทียนแล้ว พวกเขากินซีฟู้ดที่แสนน่าอร่อยตรงหน้าได้ไม่น่าดูเท่าไหร่
"อาหารทะเลนี้เรียกว่าอะไร มันอร่อยมากจริงๆ"
เฉินถิงกินไปด้วยถามไปด้วยด้วยความอยากรู้
พนักงานที่ยืนอยู่ข้างๆรีบพูดแนะนำ "นี่คือเพรียงคอห่าน มีรสชาติอร่อยมาก และยังเป็นอาหารทะเลที่แพงที่สุดในร้านของเราอีกด้วย"
"อร่อยมาก ขอเพรียงคอห่านแบบนี้ให้เราอีกสิบจานเลยนะคะ"
หลัวกังโบกมืออย่างภูมิใจสุดๆ
"ได้ครับ"
พนักงานเสิร์ฟรีบไปแจ้งออเดอร์ทันที
"พี่ถิง อย่าสั่งเยอะขนาดนั้นเลย ตั้งสิบจาน พวกเรากินไม่หมดหรอก"
หลี่รั่วเสวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางพูดโน้มน้าวเฉินถิง
"เหอะๆ กินไม่หมดก็เหลือไว้สิ เงินแค่นี้กังจื่อไม่ถือหรอก ไม่เหมือนคนจนๆบางคน หึ"
เฉินถิงเหลือบมองโจวเทียน
หลี่รั่วเสวี่ยก็แอบส่งซิกให้โถวเทียนไม่ต้องสนใจเฉินถิง
โถวเทียนไม่ได้อยากจะอะไรกับพวกผู้หญิงอยู่แล้ว ตอนนี้เขาจึงตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว
"ชีวิตนี้คงยังไม่เคยกินอาหารอร่อยขนาดนี้ล่ะสิ?
"เหอะๆ ค่อยๆกินเดี๋ยวติดคอ ยังไงซะกังจื่อของเราก็เป็นคนเลี้ยง นายได้กินจนอิ่มแน่นอน"
เฉินถิงมองโจวเทียนด้วยสายตาเยาะเย้ย พลางพูดอย่างไม่รู้ผิดรู้ถูก
กังจื่อของพวกเธอเลี้ยงงั้นเหรอ?
ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
โจวเทียนขำอยู่ในใจ คนอื่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพรียงคอห่านห่านนี้มีความเป็นมายังไง แต่เขากลับรู้ถึงคุณค่าของมันว่าราคาแพงแค่ไหน
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved