บทที่ 15 แกเป็นเบื้องล่างของใคร

by จินเหอซี 08:31,Apr 26,2021
แม้หลิ่วเยว่เอ๋อร์จะเป็นคนที่เคยเจอโลกกว้างมาพอสมควรแล้ว แต่นักเลงเถื่อนอย่างเซียวซานที่กระทำแต่เรื่องชั่วๆตรงหน้านี้ เมื่อเธอเห็นแล้วในใจก็อดไม่ได้ที่จะลุกลนอยู่ดี

"ลู่เหยาฉิน แกพาคนแบบนี้มาแผนกโครงการของเราได้ยังไง แกนี่มันโอหังมากเกินไปแล้วนะ!"

หลิ่วเยว่เอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอนเล็กน้อย

ลู่เหยาฉินดูออกว่าหลิ่วเยว่เอ๋อร์เริ่มลุกลนแล้ว ตัวเองรู้สึกสะใจมากๆ

ผลลัพธ์ที่ต้องการก็คือแบบนี้นี่แหละ

"หึหึ หลิ่วเยว่เอ๋อร์ แกกลัวแล้วใช่ไหมล่ะ? ถ้าฉลาดก็รีบคุกเข่าลงกราบขอโทษฉันซะ ถ้าโชคดีหน่อยฉันอาจจะปล่อยให้แกรอดออกไปได้สักครั้ง"

ลู่เหยาฉินโอบเอวของเซียวซานไว้ พลางพูดข่มขู่หลิ่วเยว่เอ๋อร์

หลิ่วเยว่เอ๋อร์รู้สึกโกรธมากๆ แต่กลับไม่กล้าทำอะไรลู่เหยาฉินเลย เธอก็ดูออกแล้วเช่นกันว่า เซียวซานผู้นี้เป็นคนที่ดีต่อลู่เหยาฉินมากๆคนนึงเลย

ตอนนี้ถ้าเกิดมีเรื่องกับลู่เหยาฉิน ไม่แน่เซียวซานอาจจะลงมือทำร้ายเธอได้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะซวยแล้ว

โจวเทียนมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมา

ดูจากสถานการณ์แล้ววิธีการในการจ้างคนของเหมียวเผิงจวีก็ยังประมาทไปอยู่ดี คุณภาพพฤติกรรมของพนักงานที่อยู่เบื้องล่างนี้นี่มันอะไรยังไงกันเนี่ย?

"แกมาจากที่ไหน ที่นี่เป็นที่ที่แกสามารถมาได้หรอ?"

โจวเทียนถามเซียวซานด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง

เซียวซานนำความสนใจทั้งหมดเพ่งเล็งไปบนตัวหลิ่วเยว่เอ๋อร์ เพราะคนสวยอย่างหลิ่วเยว่เอ๋อร์มันดึงดูดสายตามากจริงๆ

เพราะฉะนั้นเขาไม่ได้เอาโจวเทียนไปไว้ในสายตาเลยด้วยซ้ำ แค่คิดว่าโจวเทียนเป็นคนงานที่มาทำงานอยู่ที่นี่

"โอ๊ะ เด็กน้อยแกนี่กล้าหาญใช้ได้เลยนะ กล้าพูดจาแบบนี้กับนายท่านสาม?"

เซียวซานหยีตาลง ปนไปด้วยพลังออร่าที่ดูน่าเกรงขาม พลางมุ่งหน้าเดินเข้าไปหาโจวเทียน

หัวใจของหลิ่วเยว่เอ๋อร์แทบจะฉุดขึ้นไปถึงลูกกระเดือกเลย คุณชายเป็นคนสูงส่งที่ร่ำรวยคนนึงเลยนะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ เธอจะรับผิดชอบไหวหรอ?

เพราะฉะนั้นเธอจึงรีบเข้าไปแทรกตรงกลางระหว่างโจวเทียนและเซียวซาน ก่อนจะหันไปพูดกับเซียวซาน :"มีเรื่องอะไรแกมาหาฉันนี่ ฉันเป็นคนตบลู่เหยาฉินเอง"

"เหอะๆ ผมเซียวซานไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน ตอนนี้ฉันแค่อยากจัดการไอ้เด็กเมื่อวานซืนนี่"

เซียวซานหัวเราะเหอะๆอย่างดุร้าย พลางมองโจวเทียน แล้วโบกมือไปมา :"เด็กน้อย อย่าหลบอยู่ด้านหลังผู้หญิงสิ ออกมาเร็ว"

โจวเทียนรู้สึกหมดคำจะพูดมากๆ ดูจากท่าแล้วเมื่อลานกว้างขึ้นนึกว่านกประเภทไหนก็บินเต็มไปหมด ดูๆแล้วเหมือนเซียวซานนี่ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในเส้นทางนี้ต่อไปแล้ว

เมื่อคิดแบบนี้ได้ โจวเทียนจึงเดินเข้าไปตรงหน้าเซียวซาน

"ผู้ช่วยหลิ่วครับ คุณรู้จักไอ้หมอนี่ด้วยหรอ?"

เซียวซานหยีตาพลางถามหลิ่วเยว่เอ๋อร์ แต่ว่าภายในรอยยิ้มกับคนไปด้วยความดุร้าย

หลิ่วเยว่เอ๋อร์ดูออกว่า เซียวซานใกล้จะลงมือแล้ว คนประเภทนี้เมื่อลงมือก็จะเอาถึงตายให้ได้เลย คุณชายจะต้านทานไหวได้ยังไง?

"เซียวซาน ฉันขอเตือนแกว่าอย่ามาสร้างปัญหาที่นี่ ไม่งั้นประธานเหมียวของเราต้องไม่พอใจแน่นอน"

หลิ่วเยว่เอ๋อร์พูด

เซียวซานหัวเราะดังลั่นทีนึงก่อนจะพูด :"แน่นอนอยู่แล้ว ยังไงผมก็ต้องให้เกียรติเหมียวเผิงจวีอยู่ เพราะฉะนั้นแล้วผมไม่ทำอะไรคุณหรอกครับ แต่ไอ้เด็กนี่ยังไงผมก็ต้องจัดการมัน ผมคิดว่าประธานเหมียวเผิงจวีคงจะไม่แตกหักกับผมเพียงเพราะไอ้หมอนี่คนเดียวหรอนะ?"

จะไม่แตกหักกับแก? ถ้าแกกล้าแตะต้องแม้แต่ปลายเล็บของคุณชาย ประธานเหมียวจะไม่ฆ่าแกหรอ!

หลิ่วเยว่เอ๋อร์แอบด่าเซียวซานในใจว่าเป็นคนตาถั่ว และในตอนนี้เองเธอได้เดินเข้าไปตรงหน้าโจวเทียน ก่อนจะเข้าไปกระซิบอยู่ข้างหูของโจวเทียน :"คุณชายคะ คุณรีบไปจากที่นี่เถอะค่ะ ไอ้เซียวซานนี่ไม่ใช่คนที่จะไปมีปัญหาได้ง่ายๆ มันเป็นเบื้องล่างของหลงคุนเลยนะคะ…..."

หลิ่วเยว่เอ๋อร์พูดกระซิบข้างหูโจวเทียน ทำให้เซียวซานอิจฉาเป็นอย่างมาก ณ ตอนนี้เขายิ่งอยากจัดการโจวเทียนมากเข้าไปใหญ่แล้ว

เป็นเบื้องล่างของหลงคุน?

เมื่อโจวเทียนได้ยินหลิ่วเยว่เอ๋อร์พูดแบบนี้ เขาก็รู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมาทันที

หลงคุนเป็นผู้ที่เก่งกาจมากที่สุดในอำนาจใต้ดินของเมืองเป่ยชวนเลยนะ ที่แท้เซียวซานก็เป็นเบื้องล่างของหลงคุนนี่เอง มิน่าล่ะถึงได้จองหองมากขนาดนี้

ในเมื่อเป็นลูกน้องของหลงคุน เงินทุกอย่างก็จะจัดการง่ายแล้วล่ะ ตัวเองมีความสัมพันธ์กับหลงคุนอยู่นะ

"หลิ่วเยว่เอ๋อร์ แกกำลังพูดซุบซิบอะไรอยู่นั่นน่ะ? แกตบฉันทีนึง ตอนนี้ฉันจะตบแกคืนสิบที!"

ในระหว่างที่ลู่เหยาฉินกำลังพูดอยู่นั้น ก่อนจะมองหน้าเดินเข้าไปหาหลิ่วเยว่เอ๋อร์

เซียวซานรีบเข้ามาห้ามลู่เหยาฉินไว้ "ที่รักอย่าเพิ่งทำอะไรเลย ผมได้ทำการรับเหมาพื้นที่บริเวณนี้ ถ้าคุณไปทำร้ายเธอจริงๆ จะให้ผมทำงานอยู่ที่นี่ต่อได้ยังไง?"

"ที่คุณทำงานอยู่ที่นี่เพราะหลัวกังเป็นคนจัดการ มันไปเกี่ยวอะไรกับนาง? วันนี้ไม่ว่ายังไงฉันก็จะต้องตบมันกลับไปให้ได้ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นให้หลัวกังมาเจรจาต่อรองให้ก็จบแล้ว"

ลู่เหยาฉินพูดไปด้วย พลางจะเดินเข้าไปตบหลิ่วเยว่เอ๋อร์

เซียวซานยังคงมีสติอยู่ เขารู้ว่าผู้ช่วยของประธานกรรมการหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่ใช่คนที่จะสามารถทำอะไรก็ได้นะ ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดไป เหมียวเผิงจวีโกรธกริ้วขึ้นมาละก็ ต้องไม่ให้เขาทำงานที่นี่ต่อแน่นอน

เพราะฉะนั้นเซียวซานจึงเข้าไปหยุดห้ามลู่เหยาฉินไว้ ไม่ให้เธอทำอะไรบุ่มบ่าม

"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน เหยาฉินถูกตบไปทีนึง แกเป็นคนมาชดใช้แทนละก็นะ แกจะเป็นคนตบตัวแกเอง หรือว่าจะให้ฉันเป็นคนตบ?"

เซียวซานเดินมาถึงตรงหน้าโจวเทียนอย่างอวดดีมากๆ พลางถามอย่างมีเลศนัย

โจวเทียนยิ้มอ่อน พลางพูดกับเซียวซาน :"ได้ยินมาว่าแกเป็นเบื้องล่างของหลงคุน ใช่ไหม?"

ทันใดนั้นเอง เซียวซานก็ชะงักไปสักพัก

แต่เร็วมาก เซียวซานก็ได้เบิกตากว้างขึ้นมา "แกกล้าเรียกชื่อจริงของนายท่านสี่แห่งตระกูลหลงของเราได้ยังไง แกเบื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อแล้วใช่ไหม?"

"ตอนนี้จะลองโทรหาหลงคุนเลย ถามสิว่าเขารู้จักโจวเทียนหรือเปล่า?"

โจวเทียนพูด

"ฮ่าๆ ไอ้ตัวตลกนี่ อย่างแกเนี่ยนะ นายท่านสี่จะรู้จักแก?"

ลู่เหยาฉินกุมหน้าท้องตัวเองแล้วหัวเราะดังลั่นขึ้นมา มองโจวเทียนด้วยสายตาที่หยอกล้อ เธอรู้สึกว่าโจวเทียนตลกเป็นบ้าเลย

โจวเทียนไม่ได้ไปสนใจเธอ ถ้าจ้องมองไปทางเซียวซานอย่างเดียว

เซียวซานกลับไม่ได้พูดอะไร เขารู้สึกเกรงกลัวลูกพี่หลงคุนจากก้นบึ้งของจิตใจจริงๆ ถ้าเกิดโจวเทียนรู้จักกับหลงคุนจริงๆละก็ งั้นเขาก็จะซวยแล้วล่ะ

เรื่องแบบนี้ถึงแม้จะรู้ว่าโอกาสที่จะเป็นไปได้มีอยู่น้อยมาก แต่ก็ไม่ยอมปักใจเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดที่ตัวเองได้ยินจะเป็นเรื่องเท็จ เซียวซานไม่กล้าประมาท เขาจึงโทรหาหลงคุน

"ลูกพี่ครับ ที่นี่มีคนคนนึงที่ชื่อโจวเทียน มันบอกว่ามันรู้จักลูกพี่…..."

"ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน?"

"ผมอยู่ในแผนกโครงการสวนน้ำในชานเมืองทางทิศตะวันตกครับ"

"แกรอฉันอยู่ที่นั่นเลย ถ้าเกิดกล้าทำอะไรคุณโจวละก็ ฉันลอกหนังแกออกมาแน่!"

หลังจากที่พูดจบ หลงคุนก็ได้ตัดสายโทรศัพท์ไปเลย

เซียวซานเข่าอ่อน เกือบจะล้มลงไปกับพื้นเลย

เขาจ้องมองโจวเทียนที่ใบหน้าเรียบนิ่งอย่างเหม่อลอย รู้สึกว่าตัวเองได้ก่อปัญหาที่ใหญ่โตมหาศาลไปแล้ว

ตำแหน่งและตัวตนของหลงคุนเป็นคนยังไง? หลังจากที่ได้ยินชื่อของโจวเทียนแล้วก็รีบมาเลย คนที่ชื่อโจวเทียนนี้นี่มันคือใครกันแน่?

เซียวซานไม่กล้าไปจินตนาการต่อ เขาให้ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูประจบสอพลอ พลางพูดกับโจวเทียนว่า :"เฮียโจวครับ ต้องโทษผมที่มีตาแต่หามีแววไม่ คุณเป็นคนใหญ่คนโต อย่าถือสากับผมเลยนะครับ"

นี่มันอะไรยังไงกันเนี่ย?

ลู่เหยาฉินยืนผงะอยู่กับที่ไปเลย เธอคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่เซียวซานโทรหาหลงคุนแล้ว พฤติกรรมของเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงที่มากขนาดนี้

"ที่รักคะ ไอ้หมอนี่เป็นแค่คนงานกระจอกๆคนเดียวเท่านั้น น้องสาวมันกำลังทำงานให้ฉัน ทำไมคุณถึงต้องเชิดชูมันมากขณะนี้ด้วย?"

ลู่เหยาฉินถามเซียวซานอย่างไม่สบอารมณ์

"แกจะไปเข้าใจมะเขืออะไร หุบปากไปเลยนะ!"

เซียวซานตะคอกใส่ลู่เหยาฉินอย่างดุร้าย

ทำให้ลู่เหยาฉินตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย

"เซียวซาน เมื่อกี้แกเป็นคนบอกเองนะว่าจะจัดการฉัน"

โจวเทียนมองดูเซียวซาน พลางพูดขึ้นมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน

เซียวซานตกใจกลัวจนสีหน้าขาวซีดไปข้างหน้าแล้ว เดี๋ยวสักพักหลงคุนก็จะมาถึงแล้ว ถ้าไม่ได้รับคำให้อภัยจากโจวเทียนให้เร็วกว่านี้ เดี๋ยวเขาต้องซวยแน่นอน

"เฮียโจวครับ ก็ผมไม่รู้อ่ะครับว่าคุณเป็นเพื่อนของนายท่านสี่ ถ้าผมรู้ ตีผมให้ตายผมก็ไม่กล้าพูดแบบนั้นนะครับ"

เซียวซานก้มหน้าก้มตัวให้ความเคารพอยู่ต่อหน้าโจวเทียน

เมื่อเห็นว่าเซียวซานเริ่มกลัวแล้ว ลู่เหยาฉินในตอนนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป

ที่พึ่งพาของเธอคือเซียวซาน เมื่อเห็นว่าเซียวซานทำตัวเหมือนเป็นหลานอยู่ต่อหน้าโจวเทียน เธอจะไปกล้าพูดอะไรอีก

ดูไม่ออกจริงๆเลยนะว่าไอ้หมอนี่จะรู้จักกับคุณชายสี่แห่งตระกูลหลงด้วย……

ลู่เหยาฉินรู้สึกข่มขืนในใจ

หลิ่วเยว่เอ๋อร์ก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าโจวเทียนจะรู้จักกับหลงคุนด้วย อีกอย่างดูจากภายนอกแล้ว เหมือนความสัมพันธ์ของทั้งสองจะดีมากๆด้วยเช่นกัน นี่จึงทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจมากๆ

โจวเทียนไม่ได้สนใจเซียวซานและลู่เหยาฉินอีกต่อไป สำหรับตัวละครเล็กๆน้อยๆแบบนี้ โจวเทียนเบื่อที่จะไปเสวนากับพวกเขา

มองไปทางโจวหลิงที่อยู่ข้างกายตัวเอง สภาพของสาวน้อยยังคงดูผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โจวเทียนจึงบอกกับเธอว่า :"น้องสาว น้องกลับไปก่อนเถอะครับ"

"พี่คะ พี่จะปลอดภัยใช่ไหมคะ?"

โจวหลิงมองไปทางเซียวซานที่ดูดุร้าย พลางถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเล็กน้อย

"พี่ไม่เป็นไรครับ น้องไปก่อนเถอะ"

โจวเทียนยิ้มกริ่ม

โจวหลิงไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อตั้งแต่แรกแล้ว เซียวซานโหดร้ายขนาดนั้น ลู่เหยาฉินก็ใจดำขนาดนั้นอีกด้วย เธอแค่อยากรีบออกไปจากที่นี่ให้ได้ไวที่สุด

ทันทีที่เธอเดินออกไปจากห้องดังกล่าวนี้ ด้านนอกก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา

โจวเทียนหันกลับไปมอง คนดังกล่าวไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือแฟนหนุ่มของเฉินถิง หลัวกังนั่นเอง

หลัวกังในตอนนี้เสื้อผ้าหน้าผมคลุกไปด้วยฝุ่น ใบหน้าเหมือนไปเจอเรื่องซวยๆอะไรมา พลางเดินพลางบ่น

"เชี้ย แค่ทำความสะอาดเก็บกวาดทำไมถึงช้าขนาดนี้ ยังมีเวลาไปทำเรื่องอีกไหมเนี่ย?"

หลังจากที่หลัวกังเพิ่งเข้ามาก็เริ่มอาละวาดเลย ต่อที่อยู่ในภัตตาคารซีฟู้ดก็ถูกโจวเทียนทำให้อับอายขายขี้หน้าไปหมด เฉินถิงก็ทะเลาะกับเขาอีก นี่จะทำให้จิตใจของเขาย่ำแย่ถึงขีดสุด

หลังจากที่หลัวกังเข้ามาถึงในห้อง เขาก็เห็นโจวเทียนทันที ก่อนที่จะเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ไอ้หมอนี่ก็อยู่ด้วยหรอ? แม่งเอ้ย กำลังหาตัวมันอยู่พอดีเลย!

"ลู่เหยาฉินเธอทำงานยังไงเนี่ย ทำไมคนแบบไหนก็พาเข้ามาด้วย? เธอคิดว่าแผนกโครงการของเราเป็นตลาดสดหรือไง?"

หลัวกังชี้โจวเทียน พลางถามหาความรับผิดชอบจากลู่เหยาฉิน

"เฮียหลัว ฉันไม่ได้เป็นคนหใ้มันเข้ามานะคะ"

ลู่เหยาฉินพูดอย่างละอายใจ

หลัวกังไม่ได้ไปสนใจลู่เหยาฉิน ตอนนี้เองเขาก้าวเดินขึ้นไปตรงหน้าโจวเทียน ก่อนจะชี้หน้าโจวเทียน "แกไสหัวออกไปเลยนะ! ที่นี่ไม่ต้อนรับแก"

หลิ่วเยว่เอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆตกใจจนสะดุ้งทีนึง และรู้สึกเห็นใจหลัวกังในขณะผู้นี้เดียวกัน

บอดี้สแลมเป็นคนให้ความกล้าเขาหรอ? กล้าพูดจาแบบนี้กับคุณชายด้วยหรอเนี่ย!

โจวเทียนเห็นสภาพที่ดูน่าเวทนาของหลัวกังแล้ว ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่เป็นการหัวเราะออกมาแทน "ฮ่าๆ แกแน่ใจหรอว่าจะให้ฉันไสหัวไป แต่ไม่ใช่แกไสหัวออกไป?"

"แม่งเอ้ย วันนี้ตอนที่อยู่ในภัตตาคารซีฟู้ด ติดตรงที่เรื่องภาพลักษณ์หน้าตาฉันเลยไม่ได้จัดการแก ตอนนี้มาถึงที่นี่แล้วแกยังกร่างได้อีกหรอ?"

หลัวกังด่าทอโจวเทียน ก่อนจะหันกลับไปพูดกับเซียวซาน :"เฮียสามครับ ไล่ไอ้หมอนี่ออกไป ถ้ามันไม่เชื่อฟัง ก็ทุบตีมันซะ!"

เซียวซานที่ได้ยินเช่นนี้ใบหน้าก็เขียวก่ำขึ้นมาทันที ถ้าเกิดไม่ได้โทรหาหลงคุน ตอนนี้เขาคงจะเข้าไปโจมตีโจวเทียนโดยที่ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยแล้วล่ะ เพราะการที่เขาสามารถมาทำงานที่นี่ได้ นั่นก็เป็นเพราะหลัวกังเป็นคนจัดการมอบหมายให้

แต่โจวเทียนเป็นเพื่อนของหลงคุน เซียวซานจะกล้าทำแบบนั้นได้ยังไง

"หลัวกัง นายสงบสติอารมณ์ลงก่อนเถอะ…..."

เซียวซานตักเตือนหลัวกังเสียงเบา

"เฮียสามครับ นี่ไม่เหมือนกับพฤติกรรมของเฮียเลยนะครับ เฮียไม่กล้าทำอะไรไอ้หมอนี่หรอ? ก็ได้ เดี๋ยวผมลงมือเอง"

หลัวกังหัวเราะอย่างดุร้ายทีนึง ก่อนจะเดินเข้ามากระชากผมของโจวเทียน

"แกชอบลงไม้ลงมือมากๆเลยสินะ?"

และในตอนนี้เอง บริเวณประตูก็มีเสียงของผู้ชายที่ดังก้องเสียงนึงดังขึ้นมา

ทันทีที่เสียงดังกล่าวได้จบลง ผู้ชายคนดังกล่าวก้าวเดินขึ้นมาก้าวใหญ่ ยื่นมือออกมากระชากผมของหลัวกัง

"นายท่านสี่ครับ คุณมาแล้วหรอครับ"

เซียวซานเข้าไปต้อนรับอย่างให้เกียรติเคารพ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้แล้ว แค่หายใจแรงยังไม่กล้าเลย

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1672