บทที่ 9 ชื่นชมคุณชายโจว

by จินเหอซี 08:31,Apr 26,2021
ชายคนที่เดินเข้ามานี้แต่งกายดูดี ดูจากท่าทางแล้วน่าจะอายุประมาณ 30 กว่าๆ

พอโจวเทียนเห็นก็นึกออกทันที ชายคนนี้เขาเพิ่งเจอเมื่อวาน

ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเจ้าของร้านทองคนนั้น

"คุณผู้ชายจำผมได้มั้ยครับ?"

เถ้าแก่ร้านทองมองหน้าโจวเทียนพร้อมกับยิ้มอย่างสุภาพ

"จำได้แน่นอน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ?"

โจวเทียนเอ่ยถามอย่างสงสัย

"นี่เป็นร้านอาหารของผมครับ"

เถ้าแก่ร้านทองยิ้มจากนั้นก็เอ่ย:"ขอแนะนำตัวสักหน่อยนะครับ ผมชื่อหลงคุน เพื่อนในวงการเดียวกันมักเรียกผมว่า นายท่านสี่แห่งตระกูลหลง "

หลงคุน?

โจวเทียนรู้สึกคุ้นหูชื่อนี้มาก

ในเมืองเป่ยชวนมีแก๊งอำนาจใต้ดินหลายกลุ่ม แต่ถ้าพูดถึงกลุ่มที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ก็ต้องเป็น หลงคุน นายท่านสี่แห่งตระกูลหลง

หลี่รั่วเสวี่ยพอได้ยินหลงคุนแนะนำตัวเองก็ตกตะลึงอ้าปากค้าง

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิง แต่ว่าก็อาศัยอยู่ในเมืองเป่ยชวนตั้งแต่เล็ก ทำไมจะไม่เคยได้ยินชื่อก็ทำเอาคนต่างเกรงกลัวอย่างนายท่านสี่แห่งตระกูลหลงล่ะ?

"ที่แท้ก็คือนายท่านสี่แห่งตระกูลหลง"

โจวเทียนมองหน้าหลงคุนพลางเอ่ย

"มิบังอาจหรอกครับ เรียกผมว่าหลงสี่ก็พอครับ แล้วคุณผู้ชายล่ะครับแซ่ว่าอะไร?"

หลงคุนถามโจวเทียนอย่างนอบน้อม

"ผมแซ่โจว"

"……"

หลงคุนอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง

เป็นดังคาดไว้จริงๆด้วย

ชายท่านนี้เป็นคนของตระกูลโจวจริงๆ

หลงคุนหันไปถลึงตาใส่ชายสวมแว่นตาอย่างอาฆาต เขาอยากจะฆ่าไอ้เวรนี่จริงๆ!

มีตาหามีแววไม่ ฉันกำลังจะได้ผูกมิตรกับคุณผู้ชายจากตระกูลโจวท่านนี้ ไอ้นี่ดันมาลงไม้ลงมือกับคุณเขา แบบนี้ก็ทำแผนฉันพังหมดน่ะสิ?

"ไอ้แว่นมานี่!"

หลงคุนโบกมือเรียกชายสวมแว่นตา

ชายสวมแว่นตาถูกตบจนมึนงงไปหมด เขากลัวหลงคุนมากๆ

"เถ้าแก่……"

ป้าบ ป้าบ ป้าบ ป้าบ!

หลงคุนตบซ้ายตบขวาไปมา ตบชายสวมแว่นอย่างกับหมูกับหมา

"แกต้อนรับแขกแบบนี้น่ะหรอ?"

หลงคุนตะคอกถาม

"เถ้าแก่ครับ เขาไม่ได้มาใช้บริการร้านเรานะครับ"

ชายสวมแว่นเหลือบมองโจวเทียน เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมเถ้าแก่ต้องโมโหเขาเพราะไอ้ยาจกนี่ขนาดนี้

"คุกเข่าลง!"

หลงคุนโมโหยิ่งกว่าเดิม ตวาดใส่ชายสวมแว่นตา

ฟุ่บ

ชายสวมแว่นตาคุกเข่าลงตรงหน้าของหลงคุน เหมือนปฏิกิริยาโต้ตอบธรรมดา

"คุกเข่าให้คุณโจวต่างหาก!"

หลงคุนเตะชายสวมแว่นเต็มๆ

ชาวสวมแว่นตาโดนอัดจนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว คุกเข่าอยู่ใต้เท้าของโจวเทียนด้วยสีหน้าขมขื่น

"คุณโจวครับ เป็นเพราะผมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ท่านได้โปรดยกโทษให้ผมสักครั้งเถิดนะครับ……"

ชายสวมแว่นร้องอ้อนวอน

เขารู้ว่าตัวเองหาเรื่องโจวเทียนเต็มๆ เมื่อครู่นี้เพื่อเอาใจคุณชายเฉียน เขาถึงได้รังแกโจวเทียนไปไม่น้อยเลย

จริงๆมันก็ไม่ได้จริงจังอะไร โจวเทียนเห็นชาวสวมแว่นตานี่เป็นแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่อยากทำให้มันลำบากอีก

โจวเทียนมองหลงคุนภายในใจก็เกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก

เมื่อวานหลงคุนส่งคนมามอบสร้อยคอเพชร วันนี้ยังมาช่วยเหลือเขาแบบนี้ หมอนี่มีแผนอะไรกันแน่?

คงต้องรอโอกาสหน้าค่อยถามหลงคุน

ตอนนี้โจวเทียนเพียงแค่อยากจะสั่งสอนเฉียนเสี่ยวเฟยสักหน่อย ถึงแม้ว่าเมื่อครู่เขาจะถีบมันไปแล้ว แต่ก็ยังไม่หายโมโห

"คุณชายเฉียนล่ะ?"

โจวเทียนมองหาทั่วทุกสารทิศ แต่ทันใดนั้นกลับพบว่าไร้เงาของเฉียนเสี่ยวเฟยแล้ว

"เมื่อกี้วิ่งหนีไปแล้วครับ"

รปภ.คนหนึ่งเอ่ยตอบอย่างรแวง

ไอ้เวรนี่!

โจวเทียนหมดคำจะพูด

แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้เลยคือ เฉียนเสี่ยเฟยผู้หยิ่งผยองมาโดยตลอด ก็ยังเกรงกลัวหลงคุน พอเห็นหลงคุนออกมาเฉียนเสี่ยวเฟยก็หลบหนีไปเลย

"คุณโจวครับ ถ้าต้องการความช่วยเหลือจากผม บอกมาได้เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ"

หลงคุนเอ่ยกับโจวเทียนพร้อมกับยิ้มบางๆ

"ไม่จำเป็นแล้วล่ะครับ"

โจวเทียนเอ่ยกับหลงคุนหลังจากนั้นก็หันมามองหลี่รั่วเสวี่ย"พวกเรากลับบ้านกัน"

"อ่า……โอเค……"

หลี่รั่วเสวี่ยยังคงตะลึงไม่หาย พยักหน้าก่อนจะเดินออกจากร้านอาหารไปพร้อมกับโจวเทียน

พอขึ้นรถมา หลี่รั่วเสวี่ยก็ลอบมองหน้าโจวเทียน จิตใจยังคงไม่สงบนิ่ง

นี่ยังใช่สามีกระจอกๆในความทรงจำของฉันมั้ยนะ?

นายท่านสี่แห่งตระกูลหลงผู้ยิ่งใหญ่ กลับทำตัวสุภาพนอบน้อมต่อหน้าเขา ไม่เข้าใจเสียจริงๆ

พอนึกย้อนกลับไปถึงท่าทางของเมียวเผิงจวีที่ปฏิบัตรต่อโจวเทียนตอนที่อยู่หวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนล พอหลี่รั่วเสวี่ยเอาสองเรื่องนี้มารวมกัน ก็รู้สึกว่ามันไม่ใชเรื่องบังเอิญ

หรือว่าจริงๆแล้วโจวเทียน จะมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นจริงๆ?

"คิดอะไรอยู่?"

โจวเทียนขับรถไปพลางมองหน้าหลี่รั่วเสวี่ยนิ่งๆ

"ไม่มีอะไร โจวเทียน นายควรจะถามฉันไม่ใช่หรอว่าทำไมฉันถึงอยู่กับเฉียนเสี่ยวเฟย?"

หลี่รั่วเสวี่ยมองหน้าโจวเทียน

"คุณก็คงมีเรื่องลำบากใจของตัวเอง"

โจวเทียนพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สายตามองทางข้างหน้า

หลี่รั่วเสวี่ยรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา ไม่ว่าจะยังไงผู้ชายคนนี้ก็คอยให้อภัยเธอได้เสมอ ผู้ชายแบบนี้หายากจริงๆ

ไม่เอ่ยถามใดๆ แถมยังเชื่อเธออย่างไม่มีเงื่อนไข

มันทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งใจมาก

"แม่บอกว่า เฉียนเสี่ยวเฟยไปหาเจ้านายของฉัน ช่วยฉันไว้ แถมยังซื้อสร้อยเพชรตั้งแปดหมื่นกว่าให้แม่ แม่เลยให้ฉันออกมาทานข้าวกับเขาเพื่อเป็นการขอบคุณ"

หลี่รั่วเสวี่ยถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับเอ่ยอธิบายให้โจวเทียนฟัง

พอโจวเทียนได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะโมโห

ไอ้เฉียนเสี่ยวเฟยช่างไร้ยางอาย แย่งความดีความชอบไปหมด ทำไมบนโลกนี้ถึงมีคนหน้าด้านขนาดนี้ได้!

"คุณคิดว่าเรื่องพวกนี้เฉียนเสี่ยวเฟยเป็นคนทำจริงๆหรอ?"

โจวเทียนเอ่ยถามหลี่รั่วเสวี่ย

หลี่รั่วเสวี่ยชะงัก"ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใครล่ะ?"

"ผมเอง"

โจวเทียนเอ่ยตอบอย่างจริงจัง

"เฮ้อ……"

หลี่รั่วเสวี่ยถอนหายใจ เบ้หน้ามองไปนอกหน้าต่างรถ

ความรู้สึกดีๆและความรู้สึกดีๆที่เมื่อกี้มีต่อโจวเทียน ถูกประโยคนี้ของโจวเทียนลำลายไปหมด

"ผมจริงๆ คุณกับแม่คิดไปเอง เข้าใจผิดแล้ว"

โจวเทียนเอ่ยอธิบายให้หลี่รั่วเสวี่ย

"นายเกิดมาในครอบครัวยากจนฉันก็ไม่ได้ว่า นายไม่ทำงานฉันก็รับได้ แต่นายได้โปรดอย่าทำเหมือนฉันเป็นคนโง่ได้มั้ย?"

เห็นได้ชัดว่าหลี่รั่วเสวี่ยโมโหแล้ว

นี่คือคุณชายของคุณ

โจวเทียนจึงไม่พูดอะไรอีกเลย

เขาเองก็ไม่โทษหลี่รั่วเสวี่ย ใครใช้ให้ตัวเองสวมรอยเป็นคนยากจนมาตั้งหลายปีขนาดนี้?

ใครจะไปเชื่อว่าไอ้กระจอกจะมีหน้ามีตาขนาดพูดแล้วมีผลกับจางหย่าลี่ ใครจะยิ่งไปเชื่อว่าเขาจะสามารถซื้อสร้อยเพชรกว่าแปดหมื่นหยวนไหว

ยังไงมันก็หลอกไม่ได้ สักวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วความจริงจะปรากฏเอง โจวเทียนเลือกที่จะปล่อยมันเป็นไปตามธรรมชาติ

……

เช้าวันใหม่อีกครั้ง โจวเทียนมาส่งหลี่รั่วเสวี่ยที่บริษัทก็ขับรถกลับบ้าน

พอจะเที่ยง โจวเทียนก็รีบเข้าครัวไปเตรียมอาหาร จางซูยวิ๋นที่ออกไปข้างนอกก็กลับเข้ามา

"นี่ แกรีบไปรับรั่วเสวี่ยกลับมาเร็ว!"

จางซูยวิ๋นเดินมาพูดกับโจวเทียนด้วยสีหน้าตื่นเต้น

"แม่ครับ รั่วเสวี่ยทำงานอยู่นะ"

"ฉันไม่รู้หรือไงว่ารั่วเสวี่ยทำงานอยู่?ฉันบอกให้แกไปก็ไปซะ มัวแต่พล่ามอยู่ได้"

ถึงแม้ว่าจางซูยวิ๋นจะต่อว่า แต่ว่าตอนนี้เธออารมณ์ดีสุดๆ ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ได้

โจวเทียนไม่ต่อล้อต่อเถียง ถอดผ้ากันเปื้อนออกไปทันที

พอมาถึงบริษัทก็รับหลี่รั่วเสวี่ยกลับบ้าน โจวเทียนพบว่าจางซูยวิ๋นเหมือนแม่หม้ายที่ได้ลูก ดีใจผิดปกติ

"แม่คะ มีเรื่องอะไรหรอ?"

หลี่รั่วเสวี่ยเอ่ยถามจางวูยวิ๋นอย่างแปลกใจ

"รั่วเสวี่ย เรายังไม่ได้ยินข่าวอีกหรอ?ชานเมืองฝั่งตะวันตกจะสร้างสวนน้ำอีกแล้ว สร้างตรงข้ามกับวิลล่าจิ่นซิ่วเลย ลงทุนเป็นพันล้านเลยนะ!"

"จริงหรอคะ!?"

หลี่รั่วเสวี่ยพอได้ยินข่าวนี้ก็ตะลึงไปเลย

แต่หลังจากนั้น เธอก็รุ้สึกทั้งดีใจแและเสียใจ

ที่ดีใจก็เพราะว่า การลงทุนสวนน้ำหาศาลขนาดนี้ ต้องทำให้ชานเมืองฝั่งตะวันตกเจริญขึ้นมาแน่ๆ อสังหาริมทรัพย์วิลล่าจิ่นซิ่นที่รกร้างก็ต้องฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีกครั้ง!

ที่นั่นเป็นเหมือนเลือดเนื้อของพ่อเธอเลยนะ ความปรารถนาของพ่อคือสร้างวิลล่าจิ่นซิ่วให้เสร็จสมบูรณ์

แต่ที่น่าเสียใจก็คือ พ่อของเธออยู่ไม่ถึงวันนี้……

"จริงแท้แน่นอน!รั่วเสวี่ยแม่จะบอกอะไรเราให้นะ ตอนนี้เมืองเป่ยชวนเรากำลังฮือฮากันมาก ได้ยินมาว่าเป็นคุณชายตระกูลโจวที่มาลงทุน!หวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลน่ะเป็นธุรกิจของตระกูลโจว คุณชายโจวท่านนั้นสั่งให้เหมียวเผิงจวีรีบดำเนินการสร้างสวนน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด……"

จางซูยวิ๋นยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น เอ่ยอย่างชื่นชม:"คุณชายตระกูลโจวท่านนั้น เป็นดาวนำโชคของครอบครัวของเราจริงๆ เฮ้อ ถ้าฉันมีลูกเขยแบบนั้นคงจะดีมาก"

"แม่คะ แบบนี้มันเยี่ยมสุดๆไปเลย โครงการวิลล่าจิ่นซิ่วของพ่อในที่สุดก็จะได้กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการของทุกคน ดวงวิญญาณของพ่อจะต้องปลื้มใจมากแน่ๆ"

ภายในดวงตาของหลี่รั่วเสวี่ยมีน้ำตา คัดจมูก

"ใช่น่ะสิ พวกเราควรขอบคุณคุณชายตระกูลโจวสุดๆ เขาสมกับเป็นเศรษฐีจริงๆ !แต่ไม่รู้เหมือนกันนะว่าคุณชายตระกูลโจวหน้าตาเป็นยังไง……"

จางซูยวิ๋นครุ่นคิดด้วยสีหน้าคาดหวัง

โจวเทียนได้ยินแบบนี้ ก็ยืนนิ่งๆอยู่ด้านข้าง

จะไม่ให้นิ่งได้ยังไง ก็เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เขาสั่งให้เหมียวเผิงจวีไปทำเมื่อคืนนี้

"แกมัวแต่มองอะไร?ยังไม่ไปทำกับข้าวอีก!ตอนเที่ยงผัดกับข้าวเพิ่มสักสองอย่างนะ ฉลองกันสักหน่อย"

จางซูยวิ๋นกลอกตามองโจวเทียน

"ครัย"

โจวเทียนชินแล้ว ตอบรับแล้วเดินเข้าห้องครัวไป

"แม่คะ อย่าใจร้ายกับโจวเทียนขนาดนั้นสิ หลายปีมานี้เขาทั้งทำงานหนักทั้งโดนต่อว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ทำงานอะไรแต่เขาก็ลำบากนะคะ"

หลี่รั่วเสวี่ยกล่าว

"ไม่ต้องพูดแล้ว!แม่ไม่เคยเห็นผู้ชายที่ไหนอยู่แต่ในครัว ไม่ทำมาหากินสักกะอย่าง!เหอะ เราดูคุณชายโจวเขาสิ ลงทุนเป็นพันล้าน ทั้งเด็ดเดี่ยวทั้งผลงานยิ่งใหญ่ขนาดไหน!แล้วลองดูไอ้โจวเทียน คนเขาแซ่โจวมันก็แซ่โจวเหมือนกัน กลับต่างกันขนาดนี้!"

จางซูยวิ๋นยิ่งพูดยิ่งโมโห จ้องมองไปทางห้องครัว

"พอเถอะค่ะแม่ วันนี้อารมณ์ดีๆไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้"

"ก็ได้ ตอนนี้เราต้องมาหาวิธีกันแล้วล่ะ จะต้องสร้างวิลล่าจิ่นซิ่นขึ้นมาให้ได้ ถ้าชานเมืองฝั่งตะวันตกเจริญขึ้นมาล่ะก็ มูลค่าอสังหาริมทรัพย์นี้ต้องสูงลิบลิ่วแน่ พวกเราจะรวยแล้วลูก!"

จางซูยวิ๋นเอ่ยอย่างตื่นเต้น

"แต่ว่าพ่อไม่อยู่แล้ว เราจะเอาเงินจากไหนมาสร้างวิลล่าจิ่นซิ่วล่ะคะ……"

หลี่รั่วเสวี่ยถอนหายใจพลางขมวดคิ้ว

จางซูยวิ๋นยิ้มก่อนจะเอ่ย:"ยังลูกโง่ เราลืมไปแล้วหรอว่าเรามีคุณชายเฉียน ตระกูลเฉียนมีเงิน……"

"แม่คะ เฉียนเสี่ยวเฟยมีแผนอะไรในใจแม่ไม่รู้หรือไง ทำไมแม่ต้องเอาลูกสาวไปขายด้วย!"

หลี่รั่วเสวี่ยลุกขึ้นยืนเอ่ยอย่างโมโห

"ฮ่าฮ่า แม่ต้องรู้สิ ถ้าเราตกลงปลงใจกับคุณชายเฉียน ก็คือว่าได้บ้านสามีดี เราก็จะมีเงินทุนมั่นคง แบบนี้มันก็ดีทั้งคู่ไม่ใช่หรอ ?"

จางซูยวิ๋นเอ่ยยิ้มๆ

"จางซูยวิ๋น คุณนี่ฉลาดจริงๆเลยนะครับ "

ตอนนั้นเอง โจวเทียนก็ถอดผ้ากันเปื้อนเดินออกมาจากห้องครัว

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1672