บทที่ 5 หน้าด้านไร้ยางอาย
by จินเหอซี
08:30,Apr 26,2021
โม้?
โจวเทียนกระพริบตาสองสามที ก่อนจะกลืนคำพูดลงไป
ภาพลักษณ์จนๆของตัวเองมันฝังแน่นไปแล้ว ต่อให้พูดเรื่องจริงก็คงไม่มีใครเชื่อ
หลี่รั่วเสวี่ยเห็นว่าโจวเทียนไม่พูดอะไร ก็ยิ่งมั่นใจในคำตัดสินของตัวเอง
งั้นก็ไม่สนใจโจวเทียนเลยแล้วกัน เดินกลับไปยังเตียงนอนของตัวเองพร้อมกับเอนตัวพักผ่อน
ตลอดทั้งคืนจึงไร้เสียงพูดคุย
เช้าวันที่สอง โจวเทียนและหลี่รั่วเสวี่ยออกจากบ้านไปพร้อมกัน
โจวเทียนจะเป็นคนไปรับไปส่งหลี่รั่วเสวี่ยทั้งเข้างานและเลิกงานทุกวัน
"ขับกลับช้าๆนะ"
พอมาถึงหน้าบริษัท หลี่รั่วเสวี่ยก็เดินลงจากรถพร้อมกับเอ่ยกำชับ
"โอเคครับ"
โจวเทียนเอ่ยตอบรับ
ขณะที่กำลังจะขับรถออกไป ก็เห็นรถออดี้สีแดงขับเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าทางเข้าบริษัท
จากนั้นหญิงสาวผมสั้นอายุราวๆสามสิบกว่า สวมใส่ชุดยูนิฟอร์ม ดูท่าทางเป็นสาวฉลาดมีความสามารถ เดินลงมาจากรถ
"เจ๋งนี่หลี่รั่วเสวี่ย นับว่าๆยิ่งเจ๋งกว่าฉันอีก มีคนขับรถประจำตัวเสียด้วยหรอ!"
สาวผมสั้นยิ้มเยาะ พร้อมกับเอ่ยกับหลี่รั่วเสวี่ยด้วยวาจาแปลกๆ
หลี่รั่วเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะปวดหัว หญิงสาวผมสั้นคนนี้คือหัวหน้าของเธอเอง รองผู้จัดการฝ่ายการตลาด จางหย่าลี่
"ผู้จัดการจางคะ สามีมาส่งดิฉันค่ะ ไม่ใช่คนขับรถ"
หลี่รั่วเสวี่ยเอ่ย
จางหย่าลี่พอเห็นหน้าหลี่รั่วเสวี่ยก็รู้สึกไม่พอใจ
เพราะหลี่รั่วเสวี่ยสวยมากจริงๆ หุ่นเพรียวเรียวระหง จางหย่าลี่อิจฉาจนทนแทบไม่ไหว
"หึหึ ฉันนึกว่าเธอไปอ่อยผู้ชายที่ไหนมาอีก ที่แท้ก็เป็นสามีไร้ประโยชน์ของเธออะนะ"
จางหย่าลี่ยิ้มเยาะ ก่อนจะกวาดตามองโจวเทียนที่อยู่ในรถ
โจวเทียนอยู่บนรถได้ยินอย่างชัดเจนเต็มสองรูหู เขาหมดคำจะพูดจริงๆ
แม้กระทั่งคนที่บริษัทของรั่วเสวี่ยยังเรียกเขาว่าไอ้ไร้ประโยชน์ เขาเองก็จนปัญญาจริงๆ
"จางหย่าลี่ คุณกรุณาพูดจาให้เกียรติผู้อื่นหน่อย!"
หลี่รั่วเสวี่ยเอ่ยเสียงดัง
"เอ้ะ หล่อนลืมตัวหรือเปล่า ฉันเป็นหัวหน้าเธอนะ ฉันต้องให้เกียรติหล่อนด้วยหรอ?"
จางหย่าลี่มองหลี่รั่วเสวี่ยอย่างโมโห
หลี่รั่วเสวี่ยโกรธจนใจสั่น อ้าปากเล็กๆนั่นสุดท้ายก็อดทนเอาไว้
เธอรู้ว่าจางหย่าลี่จงใจกลั่นแกล้งเธอ ผู้หญิงคนนี้แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ชอบหน้าเธอ ต้องการบีบให้เธอออกจากบริษัท
หากแข็งข้อกับจางหย่าลี่ ก็สามารถทำให้เธอตกงานได้
"ถ้าต่อไปยังรังแกภรรยาของฉันอีก เธอจะต้องเสียใจ"
ตอนนั้นเอง โจวเทียนก็เดินลงมาจากรถจ้องหน้าจางหย่าลี่
"ฮ่าฮ่า ตลกจริงจริ๊งง ไอ้ไร้ประโยชน์อย่านายกล้าโผล่หัวมาปกป้องเมียด้วยหรอ?"
จางหย่าลี่เบ้ปากก่อนจะมองหน้าหลี่รั่วเสวี่ยพร้อมกับยิ้ม:"หลี่รั่วเสวี่ย สามีหล่อนไม่รู้จักมารยาทขนาดนี้ ทำไมเธอไม่สอนเสียหน่อยล่ะ?ต่อไปอย่าพาหมอนั่นออกมาให้ขายหน้าเลย"
พูดจบเธอก็เดินบิดสะโพกเข้าบริษัทไป
หลี่รั่วเสวี่ยถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง
เมื่อครู่ที่โจวเทียนออกโรงแทนเธอ เธอรู้สึกสะเทือนใจมาก
ไม่ว่าผู้ชายคนนี้จะแย่อย่างไร แต่อย่างน้อยภายในใจของเขาก็ยังมีเธอ
"ไม่มีอะไรแล้วนายกลับไปเถอะ"
หลี่รั่วเสวี่ยหันไปมองโจวเทียนพร้อมกับเอ่ย
"ลาออกจากงานนี้มั้ย อย่าทนอยู่รองรับอารมณ์ของคนพวกนั้นเลย"
โจวเทียนเอ่ย
"เหอะๆ"
หลี่รั่วเสวี่ยยิ้มอย่างขมขื่นครู่หนึ่ง"นายไม่ทำงาน ถ้าฉันลาออก แล้วบ้านเราจะเอาอะไรกินล่ะ?"
พูดจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
แต่ว่าโจวเทียนเห็นอย่างชัดเจน ภายในดวงตาของหลี่รั่วเสวี่ยนั้นมีน้ำตาคลอเบ้า ที่เธอเงยหน้าก็เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
พอเห็นหลี่รั่วเสวี่ยหมุนตัวเดินเข้าบริษัทไป โจวเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร
ตลอดหลายมีมานี้มันไม่ง่ายเลยสำหรับภรรยาเขา……พอนึกถึงเรื่องที่หลี่เสวี่ยอยู่บริษัทต้องมารองรับอารมณ์ขนาดนี้ โจวเทียนก็อดไม่ได้ที่จะโมโห
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา พร้อมกับโทรหาเหมียวเผิงจวี
"ฮัลโหล ผมเอง โจวเทียน"
"คุณชายหรอครับ ในที่สุดท่านก็โทรมาหาผม"
ที่ปลายสายมีเสียงตื่นเต้นของเหมียวเผิงจวีดังออกมา
โจวเทียนใจเต้น เป็นดังที่เขาคิดไว้ เหมียวเผิงจวีรู้ฐานะของเขามานานแล้ว
"คุณรู้ทุกอย่างเลยหรอ?"
"ใช่ครับคุณชาย พ่อบ้านฉิวอธิบายกับผมหมดแล้ว คุณชายครับจริงๆแล้วหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นธุรกิจของตระกูลทาน ผมเป็นแค่คนรับใช้ของตระกูลท่าน……"นี่มัน……โจวเทียนรู้สึกแปลกใจมาก
"โอเค ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว คุณช่วยอะไรผมหน่อย"
"ว่ามาเลยครับคุณชาย"
"คุณรู้จักบริษัทเยวี่ยนต๋ามั้ย?"
โจวเทียนเอ่ย
"รู้จักครับ เป็นแค่บริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งเท่านั้นเอง บริษัทนี้หาเรื่องคุณชายหรือครับ?คุณชายวางใจได้เลยครับ พวกเราจะทำให้บริษัทนี้ล้มละลายภายในไม่กี่นาที!"
เหมียวเผิงจวีเอ่ยอย่างโมโหมาก
"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ ภรรยาของผมทำงานอยู่ที่นั่น หัวหน้าของเธอชื่อว่าจางหย่าลี่ ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจมาก คุณช่วยหาวิธีเตือนเธอหน่อย ทำให้เธอไม่มารังแกภรรยาผมอีก"
"ไม่มีปัญหาครับคุณชาย ผมจะโทรหาประธานของเยวี่ยนต๋าเดี๋ยวนี้เลย"
เหมียวเผิงจวีเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
โจวเทียนว่าสายก็วางใจขึ้นเยอะ
เหมียวเผิงจวีลงมือเองน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ต่อไปภรรยาเขาก็จะไม่โดยนังแพศยานั่นรังแกอีก
พอคิดมาถึงตรงนี้ โจวเทียนก็เดินขึ้นรถมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน
ทันใดนั้น ระหว่างทางเขาก็เห็นรถBMWคันคุ้นตา ผ่านตาไป
นั่นมันรถของเฉียนเสี่ยวเฟยคันนั้นนี่?
โจวเทียนใจเต้นก็จะนำรถไปจอดทันที
แถวนี้มีร้านทอง มองทะลุประตูกระจกไปโจวเทียนก็เห็นเฉียนเสี่ยวเฟย
พอนึกได้ว่าเฉียนเสี่ยวเฟยนั้นคิดไม่ซื่อกับหลี่รั่วเสวี่ย โจวเทียนก็รู้สึกไม่สบายใจ
สิ่งที่ทำให้โจวเทียนประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ที่ด้านข้างของเฉียนเสี่ยวเฟยดันเป็นแม่ภรรยาของเขาจางซูยวิ๋น!ในเวลานี้จางซูยวิ๋นกำลังก้มมองดูในตู้ ชี้นิ้วไปที่เครื่องประดับต่างๆในตู้และคุยกับพนักงานของร้าน
ทันใดนั้นโจวเทียนก็พอจะเข้าใจคร่าวๆ
ไอ้เฉียนเสี่ยวเฟยนี่มีแผนจริงๆสินะ คิดจะซื้อเครื่องประดับเอาใจจางซูยวิ๋น?
โจวเทียนทนนิ่งต่อไปไม่ไหว ลงจากรถค่อยๆเดินเข้าไปในร้าน
ร้านทองนี้โด่งดังมาก มีลูกค้าไม่น้อย โจวเทียนหลบอยู่ด้านหลังพวกลูกค้าแอบมอง
"คุณน้าครับ กำไลข้อมือทองฝังหยกเส้นนี้เหมาะกับคุณน้ามากๆเลยครับ"
เฉียนเสี่ยวเฟยยิ้มประจบจางซูยวิ๋น
จางซูยวิ๋นมีความสุขมากที่ได้ยินเช่นนั้น พอลองสวมสร้อยข้อมือแล้วเธอก็ไม่สามารถวางมันลงได้
"เสี่ยวเฟยจ้ะ สร้อยข้อมือดีมากเลย แต่มันแพงเกินไปหรือ้ปล่าตั้ง8,800หยวนแหน่ะ!"
จางซูยวิ๋นเอ่ย
"หึหึ เรื่องเงินเล็กน้อยครับคุณน้า ขอแค่คุณน้าชอบ เราก็ซื้อเลย"
"ถ้าอย่างนั้นน้าต้องขอบคุณเราแล้วล่ะ"
จางซูยวิ๋นมีความสุขยนหุบยิ้มไม่ได้ "เห้อ เรานี่ช่างเป็นเด็กที่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆเลยนะ แถมยังรู้จักกตัญญูต่อผู้ใหญ่ ถ้ารั่วเสวี่ยแต่งงานกับเราไปตั้งแต่แรกคงดีมาก!"
"คุณน้าครับ ผมรอได้!ขอเพียงแค่รั่วเสวี่ยยอมเปลี่ยนใจ หย่ากับโจวเทียน ผมก็จะรีบไปขอเธอทันที!"
เฉียนเสี่ยวเฟยเอ่ยสาบาน
จางซูยวิ๋นใจเต้นทันที ภายในใจก็คิดว่าเฉียนเสี่ยวเฟยดีกว่าไอ้กระจอกโจวเทียนเป็นร้อยเท่า ซื้อกำไลข้อมือเส้นละ8,800ให้เธอภายในพริบตาเดียว ลูกเขยแบบนี้จะไปหามาได้จากที่ไหน?
"ได้สิ!กลับไปน้าจะไปโน้มน้าวรั่วเสวี่ย"
โจวเทียนที่ยืนฟังอยู่อีกด้าน ก็โกรธหลายๆอย่างรวมกัน
แม่ภรรยาเขานี่น้า ถ้าหากเธอรู้ว่าบ้านเขามีทรัพย์สมบัติเป็นล้านล้าน ร่ำรวยที่สุดในประเทศ เธอยังจะพูดแบบนี้อยู่มั้ย?
"ใช่สิ เมื่อครู่รั่วเสวี่ยโทรหาน้า บอกว่าหัวหน้าขอโทษเธอแล้ว และสัญญาว่าเธอจะไม่ทำให้รั่วเสวี่ยเดือดร้อนอีก! น้าฟังออกว่ารั่วเสวี่ยมีความสุขมาก"
จางซูยวิ๋นชื่นชมสร้อยคอทองคำบริสุทธิ์พร้อมเพชรในตู้ เอ่ยกับเฉียนเสี่ยวเฟยอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"หรอครับ?"
เฉียนเสี่ยวเฟยแปลกใจมาก
เขาสัญญาว่าจะช่วยหลี่รั่วเสวี่ยจัดการเรื่องนี้ แต่เจ้าหน้าของหลี่รั่วเสวี่ยเป็นใครเขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ไม่มีทางจัดการเรื่องนี้สำเร็จ
"เรื่องนี้ต้องขอบคุณเรานะ!รอให้รั่วเสวี่ยเลิกงาน น้าจะให้ลูกสาวชวนเราออกไปกินข้าวข้างนอก ขอบคุณเราเป็นการส่วนตัวสักหน่อย"
จางซูยวิ๋นยิ้มอย่างใจดีและขยิบตาให้เฉียนเสี่ยวเฟย แสดงความนัยว่าให้เขาคว้าโอกาสนี้ไว้
เฉียนเสี่ยวเฟยตื่นเต้นมากเขรอโอกาสนี้มานาน!"คุณน้าเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ ผมรักรั่วเสวี่ยขนาดนี้ ช่วยเธอแค่นี้เป็นเรื่องที่ควรทำครับ"
เฉียนเสี่ยวเฟยหน้าไม่อาย เล่นไปตามน้ำ ยกว่าเป็นความดีความชอบของตัวเอง
โจวเทียนเห็นเฉียนเสี่ยวเฟยไร้ยางอายขนาดนี้ เขาก็รู้สึกขยะแขยง
เขาข่มความโกรธต่อไป ต้องการจะฟังพวกเขาแอบพูดอะไรลับหลัง
"เสี่ยวเฟยจ้ะ เราว่าน้าใส่สร้อยเส้นนี้สวยมั้ย?"
จางซูยวิ๋นปรารถนาจนอดที่จะห้ามใจ ชี้ไปยังสร้อยทองคำเพชรในตู้
เฉียนเสี่ยวเฟยพอเห็นราคาก็ลำบากใจ
สร้อยคอเพชรเส้นนี้มูลค่า86,000หยวน!แม้ว่าครอบครัวของเขาจะร่ำรวยเปิดบริษัท แต่เงินในกระเป๋าต่อเดือนของเขาก็อยู่ที่ประมาณ 20,000 หยวนเท่านั้น ถ้าซื้อของมูลค่ากว่า 80,000 หยวน เขาต้องเจ็บตัวมากแน่ๆ
"คุณน้าครับ มันเอ่อ……"เฉียนเสี่ยวเฟยแสดงสีหน้าลำบากใจ
จางซูยวิ๋นพอเห็นท่าทางลังเลของเฉียนเสี่ยวเฟยก็รีบยิ้มออกมา ฮ่าฮ่า เราซื้อสร้อยข้อมือให้น้าแล้ว ตั้งแปดพันกว่าหยวนแหน่ะ!หึ ไม่เหมือนไอ้ลูกเขยกระจอกนั่น ดูท่า88หยวนก็คงไม่มีปัญญาซื้อ"
"น้าแค่ถามไปอย่างนั้นแหละจ้ะ เราไม่ต้องซื้อหรอก สร้อยเส้นนี้แพงไปจริงๆ"
โจวเทียนทนฟังต่อไปไม่ไหวจริงๆ ตอนนั้นเขาจึงเดินเขาไปทันที
มองหน้าเฉียนเสี่ยเฟยที่ทำหน้าประหลาดใจพลางเอ่ย:"แค่แปดหมื่นกว่า ก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่นี่ แค่นี้นายก็จ่ายไม่ไหวหรอ ยังมัวทำตัวเกะกะอะไรที่นี่อีกล่ะ?"
โจวเทียนกระพริบตาสองสามที ก่อนจะกลืนคำพูดลงไป
ภาพลักษณ์จนๆของตัวเองมันฝังแน่นไปแล้ว ต่อให้พูดเรื่องจริงก็คงไม่มีใครเชื่อ
หลี่รั่วเสวี่ยเห็นว่าโจวเทียนไม่พูดอะไร ก็ยิ่งมั่นใจในคำตัดสินของตัวเอง
งั้นก็ไม่สนใจโจวเทียนเลยแล้วกัน เดินกลับไปยังเตียงนอนของตัวเองพร้อมกับเอนตัวพักผ่อน
ตลอดทั้งคืนจึงไร้เสียงพูดคุย
เช้าวันที่สอง โจวเทียนและหลี่รั่วเสวี่ยออกจากบ้านไปพร้อมกัน
โจวเทียนจะเป็นคนไปรับไปส่งหลี่รั่วเสวี่ยทั้งเข้างานและเลิกงานทุกวัน
"ขับกลับช้าๆนะ"
พอมาถึงหน้าบริษัท หลี่รั่วเสวี่ยก็เดินลงจากรถพร้อมกับเอ่ยกำชับ
"โอเคครับ"
โจวเทียนเอ่ยตอบรับ
ขณะที่กำลังจะขับรถออกไป ก็เห็นรถออดี้สีแดงขับเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าทางเข้าบริษัท
จากนั้นหญิงสาวผมสั้นอายุราวๆสามสิบกว่า สวมใส่ชุดยูนิฟอร์ม ดูท่าทางเป็นสาวฉลาดมีความสามารถ เดินลงมาจากรถ
"เจ๋งนี่หลี่รั่วเสวี่ย นับว่าๆยิ่งเจ๋งกว่าฉันอีก มีคนขับรถประจำตัวเสียด้วยหรอ!"
สาวผมสั้นยิ้มเยาะ พร้อมกับเอ่ยกับหลี่รั่วเสวี่ยด้วยวาจาแปลกๆ
หลี่รั่วเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะปวดหัว หญิงสาวผมสั้นคนนี้คือหัวหน้าของเธอเอง รองผู้จัดการฝ่ายการตลาด จางหย่าลี่
"ผู้จัดการจางคะ สามีมาส่งดิฉันค่ะ ไม่ใช่คนขับรถ"
หลี่รั่วเสวี่ยเอ่ย
จางหย่าลี่พอเห็นหน้าหลี่รั่วเสวี่ยก็รู้สึกไม่พอใจ
เพราะหลี่รั่วเสวี่ยสวยมากจริงๆ หุ่นเพรียวเรียวระหง จางหย่าลี่อิจฉาจนทนแทบไม่ไหว
"หึหึ ฉันนึกว่าเธอไปอ่อยผู้ชายที่ไหนมาอีก ที่แท้ก็เป็นสามีไร้ประโยชน์ของเธออะนะ"
จางหย่าลี่ยิ้มเยาะ ก่อนจะกวาดตามองโจวเทียนที่อยู่ในรถ
โจวเทียนอยู่บนรถได้ยินอย่างชัดเจนเต็มสองรูหู เขาหมดคำจะพูดจริงๆ
แม้กระทั่งคนที่บริษัทของรั่วเสวี่ยยังเรียกเขาว่าไอ้ไร้ประโยชน์ เขาเองก็จนปัญญาจริงๆ
"จางหย่าลี่ คุณกรุณาพูดจาให้เกียรติผู้อื่นหน่อย!"
หลี่รั่วเสวี่ยเอ่ยเสียงดัง
"เอ้ะ หล่อนลืมตัวหรือเปล่า ฉันเป็นหัวหน้าเธอนะ ฉันต้องให้เกียรติหล่อนด้วยหรอ?"
จางหย่าลี่มองหลี่รั่วเสวี่ยอย่างโมโห
หลี่รั่วเสวี่ยโกรธจนใจสั่น อ้าปากเล็กๆนั่นสุดท้ายก็อดทนเอาไว้
เธอรู้ว่าจางหย่าลี่จงใจกลั่นแกล้งเธอ ผู้หญิงคนนี้แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ชอบหน้าเธอ ต้องการบีบให้เธอออกจากบริษัท
หากแข็งข้อกับจางหย่าลี่ ก็สามารถทำให้เธอตกงานได้
"ถ้าต่อไปยังรังแกภรรยาของฉันอีก เธอจะต้องเสียใจ"
ตอนนั้นเอง โจวเทียนก็เดินลงมาจากรถจ้องหน้าจางหย่าลี่
"ฮ่าฮ่า ตลกจริงจริ๊งง ไอ้ไร้ประโยชน์อย่านายกล้าโผล่หัวมาปกป้องเมียด้วยหรอ?"
จางหย่าลี่เบ้ปากก่อนจะมองหน้าหลี่รั่วเสวี่ยพร้อมกับยิ้ม:"หลี่รั่วเสวี่ย สามีหล่อนไม่รู้จักมารยาทขนาดนี้ ทำไมเธอไม่สอนเสียหน่อยล่ะ?ต่อไปอย่าพาหมอนั่นออกมาให้ขายหน้าเลย"
พูดจบเธอก็เดินบิดสะโพกเข้าบริษัทไป
หลี่รั่วเสวี่ยถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง
เมื่อครู่ที่โจวเทียนออกโรงแทนเธอ เธอรู้สึกสะเทือนใจมาก
ไม่ว่าผู้ชายคนนี้จะแย่อย่างไร แต่อย่างน้อยภายในใจของเขาก็ยังมีเธอ
"ไม่มีอะไรแล้วนายกลับไปเถอะ"
หลี่รั่วเสวี่ยหันไปมองโจวเทียนพร้อมกับเอ่ย
"ลาออกจากงานนี้มั้ย อย่าทนอยู่รองรับอารมณ์ของคนพวกนั้นเลย"
โจวเทียนเอ่ย
"เหอะๆ"
หลี่รั่วเสวี่ยยิ้มอย่างขมขื่นครู่หนึ่ง"นายไม่ทำงาน ถ้าฉันลาออก แล้วบ้านเราจะเอาอะไรกินล่ะ?"
พูดจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
แต่ว่าโจวเทียนเห็นอย่างชัดเจน ภายในดวงตาของหลี่รั่วเสวี่ยนั้นมีน้ำตาคลอเบ้า ที่เธอเงยหน้าก็เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
พอเห็นหลี่รั่วเสวี่ยหมุนตัวเดินเข้าบริษัทไป โจวเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร
ตลอดหลายมีมานี้มันไม่ง่ายเลยสำหรับภรรยาเขา……พอนึกถึงเรื่องที่หลี่เสวี่ยอยู่บริษัทต้องมารองรับอารมณ์ขนาดนี้ โจวเทียนก็อดไม่ได้ที่จะโมโห
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา พร้อมกับโทรหาเหมียวเผิงจวี
"ฮัลโหล ผมเอง โจวเทียน"
"คุณชายหรอครับ ในที่สุดท่านก็โทรมาหาผม"
ที่ปลายสายมีเสียงตื่นเต้นของเหมียวเผิงจวีดังออกมา
โจวเทียนใจเต้น เป็นดังที่เขาคิดไว้ เหมียวเผิงจวีรู้ฐานะของเขามานานแล้ว
"คุณรู้ทุกอย่างเลยหรอ?"
"ใช่ครับคุณชาย พ่อบ้านฉิวอธิบายกับผมหมดแล้ว คุณชายครับจริงๆแล้วหวนยวี๋อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นธุรกิจของตระกูลทาน ผมเป็นแค่คนรับใช้ของตระกูลท่าน……"นี่มัน……โจวเทียนรู้สึกแปลกใจมาก
"โอเค ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว คุณช่วยอะไรผมหน่อย"
"ว่ามาเลยครับคุณชาย"
"คุณรู้จักบริษัทเยวี่ยนต๋ามั้ย?"
โจวเทียนเอ่ย
"รู้จักครับ เป็นแค่บริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งเท่านั้นเอง บริษัทนี้หาเรื่องคุณชายหรือครับ?คุณชายวางใจได้เลยครับ พวกเราจะทำให้บริษัทนี้ล้มละลายภายในไม่กี่นาที!"
เหมียวเผิงจวีเอ่ยอย่างโมโหมาก
"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ ภรรยาของผมทำงานอยู่ที่นั่น หัวหน้าของเธอชื่อว่าจางหย่าลี่ ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจมาก คุณช่วยหาวิธีเตือนเธอหน่อย ทำให้เธอไม่มารังแกภรรยาผมอีก"
"ไม่มีปัญหาครับคุณชาย ผมจะโทรหาประธานของเยวี่ยนต๋าเดี๋ยวนี้เลย"
เหมียวเผิงจวีเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
โจวเทียนว่าสายก็วางใจขึ้นเยอะ
เหมียวเผิงจวีลงมือเองน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ต่อไปภรรยาเขาก็จะไม่โดยนังแพศยานั่นรังแกอีก
พอคิดมาถึงตรงนี้ โจวเทียนก็เดินขึ้นรถมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน
ทันใดนั้น ระหว่างทางเขาก็เห็นรถBMWคันคุ้นตา ผ่านตาไป
นั่นมันรถของเฉียนเสี่ยวเฟยคันนั้นนี่?
โจวเทียนใจเต้นก็จะนำรถไปจอดทันที
แถวนี้มีร้านทอง มองทะลุประตูกระจกไปโจวเทียนก็เห็นเฉียนเสี่ยวเฟย
พอนึกได้ว่าเฉียนเสี่ยวเฟยนั้นคิดไม่ซื่อกับหลี่รั่วเสวี่ย โจวเทียนก็รู้สึกไม่สบายใจ
สิ่งที่ทำให้โจวเทียนประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ที่ด้านข้างของเฉียนเสี่ยวเฟยดันเป็นแม่ภรรยาของเขาจางซูยวิ๋น!ในเวลานี้จางซูยวิ๋นกำลังก้มมองดูในตู้ ชี้นิ้วไปที่เครื่องประดับต่างๆในตู้และคุยกับพนักงานของร้าน
ทันใดนั้นโจวเทียนก็พอจะเข้าใจคร่าวๆ
ไอ้เฉียนเสี่ยวเฟยนี่มีแผนจริงๆสินะ คิดจะซื้อเครื่องประดับเอาใจจางซูยวิ๋น?
โจวเทียนทนนิ่งต่อไปไม่ไหว ลงจากรถค่อยๆเดินเข้าไปในร้าน
ร้านทองนี้โด่งดังมาก มีลูกค้าไม่น้อย โจวเทียนหลบอยู่ด้านหลังพวกลูกค้าแอบมอง
"คุณน้าครับ กำไลข้อมือทองฝังหยกเส้นนี้เหมาะกับคุณน้ามากๆเลยครับ"
เฉียนเสี่ยวเฟยยิ้มประจบจางซูยวิ๋น
จางซูยวิ๋นมีความสุขมากที่ได้ยินเช่นนั้น พอลองสวมสร้อยข้อมือแล้วเธอก็ไม่สามารถวางมันลงได้
"เสี่ยวเฟยจ้ะ สร้อยข้อมือดีมากเลย แต่มันแพงเกินไปหรือ้ปล่าตั้ง8,800หยวนแหน่ะ!"
จางซูยวิ๋นเอ่ย
"หึหึ เรื่องเงินเล็กน้อยครับคุณน้า ขอแค่คุณน้าชอบ เราก็ซื้อเลย"
"ถ้าอย่างนั้นน้าต้องขอบคุณเราแล้วล่ะ"
จางซูยวิ๋นมีความสุขยนหุบยิ้มไม่ได้ "เห้อ เรานี่ช่างเป็นเด็กที่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆเลยนะ แถมยังรู้จักกตัญญูต่อผู้ใหญ่ ถ้ารั่วเสวี่ยแต่งงานกับเราไปตั้งแต่แรกคงดีมาก!"
"คุณน้าครับ ผมรอได้!ขอเพียงแค่รั่วเสวี่ยยอมเปลี่ยนใจ หย่ากับโจวเทียน ผมก็จะรีบไปขอเธอทันที!"
เฉียนเสี่ยวเฟยเอ่ยสาบาน
จางซูยวิ๋นใจเต้นทันที ภายในใจก็คิดว่าเฉียนเสี่ยวเฟยดีกว่าไอ้กระจอกโจวเทียนเป็นร้อยเท่า ซื้อกำไลข้อมือเส้นละ8,800ให้เธอภายในพริบตาเดียว ลูกเขยแบบนี้จะไปหามาได้จากที่ไหน?
"ได้สิ!กลับไปน้าจะไปโน้มน้าวรั่วเสวี่ย"
โจวเทียนที่ยืนฟังอยู่อีกด้าน ก็โกรธหลายๆอย่างรวมกัน
แม่ภรรยาเขานี่น้า ถ้าหากเธอรู้ว่าบ้านเขามีทรัพย์สมบัติเป็นล้านล้าน ร่ำรวยที่สุดในประเทศ เธอยังจะพูดแบบนี้อยู่มั้ย?
"ใช่สิ เมื่อครู่รั่วเสวี่ยโทรหาน้า บอกว่าหัวหน้าขอโทษเธอแล้ว และสัญญาว่าเธอจะไม่ทำให้รั่วเสวี่ยเดือดร้อนอีก! น้าฟังออกว่ารั่วเสวี่ยมีความสุขมาก"
จางซูยวิ๋นชื่นชมสร้อยคอทองคำบริสุทธิ์พร้อมเพชรในตู้ เอ่ยกับเฉียนเสี่ยวเฟยอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"หรอครับ?"
เฉียนเสี่ยวเฟยแปลกใจมาก
เขาสัญญาว่าจะช่วยหลี่รั่วเสวี่ยจัดการเรื่องนี้ แต่เจ้าหน้าของหลี่รั่วเสวี่ยเป็นใครเขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ไม่มีทางจัดการเรื่องนี้สำเร็จ
"เรื่องนี้ต้องขอบคุณเรานะ!รอให้รั่วเสวี่ยเลิกงาน น้าจะให้ลูกสาวชวนเราออกไปกินข้าวข้างนอก ขอบคุณเราเป็นการส่วนตัวสักหน่อย"
จางซูยวิ๋นยิ้มอย่างใจดีและขยิบตาให้เฉียนเสี่ยวเฟย แสดงความนัยว่าให้เขาคว้าโอกาสนี้ไว้
เฉียนเสี่ยวเฟยตื่นเต้นมากเขรอโอกาสนี้มานาน!"คุณน้าเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ ผมรักรั่วเสวี่ยขนาดนี้ ช่วยเธอแค่นี้เป็นเรื่องที่ควรทำครับ"
เฉียนเสี่ยวเฟยหน้าไม่อาย เล่นไปตามน้ำ ยกว่าเป็นความดีความชอบของตัวเอง
โจวเทียนเห็นเฉียนเสี่ยวเฟยไร้ยางอายขนาดนี้ เขาก็รู้สึกขยะแขยง
เขาข่มความโกรธต่อไป ต้องการจะฟังพวกเขาแอบพูดอะไรลับหลัง
"เสี่ยวเฟยจ้ะ เราว่าน้าใส่สร้อยเส้นนี้สวยมั้ย?"
จางซูยวิ๋นปรารถนาจนอดที่จะห้ามใจ ชี้ไปยังสร้อยทองคำเพชรในตู้
เฉียนเสี่ยวเฟยพอเห็นราคาก็ลำบากใจ
สร้อยคอเพชรเส้นนี้มูลค่า86,000หยวน!แม้ว่าครอบครัวของเขาจะร่ำรวยเปิดบริษัท แต่เงินในกระเป๋าต่อเดือนของเขาก็อยู่ที่ประมาณ 20,000 หยวนเท่านั้น ถ้าซื้อของมูลค่ากว่า 80,000 หยวน เขาต้องเจ็บตัวมากแน่ๆ
"คุณน้าครับ มันเอ่อ……"เฉียนเสี่ยวเฟยแสดงสีหน้าลำบากใจ
จางซูยวิ๋นพอเห็นท่าทางลังเลของเฉียนเสี่ยวเฟยก็รีบยิ้มออกมา ฮ่าฮ่า เราซื้อสร้อยข้อมือให้น้าแล้ว ตั้งแปดพันกว่าหยวนแหน่ะ!หึ ไม่เหมือนไอ้ลูกเขยกระจอกนั่น ดูท่า88หยวนก็คงไม่มีปัญญาซื้อ"
"น้าแค่ถามไปอย่างนั้นแหละจ้ะ เราไม่ต้องซื้อหรอก สร้อยเส้นนี้แพงไปจริงๆ"
โจวเทียนทนฟังต่อไปไม่ไหวจริงๆ ตอนนั้นเขาจึงเดินเขาไปทันที
มองหน้าเฉียนเสี่ยเฟยที่ทำหน้าประหลาดใจพลางเอ่ย:"แค่แปดหมื่นกว่า ก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่นี่ แค่นี้นายก็จ่ายไม่ไหวหรอ ยังมัวทำตัวเกะกะอะไรที่นี่อีกล่ะ?"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved