บทที่ 6 ผมไม่สนใจคำพูดไร้สาระ

"ตาเฒ่า มัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น รีบออกมาเร็ว!"

หลิวหมิงหลานลากชู่หยวนฟงมา ดีใจจนออกหน้าออกตา เคลียคอ ตะโกนพูดกับโจวเลี่ยที่กำลังดื่มเหล้าในห้อง: "ออกมาดูเร็วว่าใครมา!"

ชู่หยวนฟงลูบจมูก สิบปีมาแล้ว แม่เลี้ยงของเขานบุคลิกยังคงเหมือนเดิม

"แม่เลี้ยงจริงๆ เลย คุณยังไม่เลิกอีกหรอ วันปกติคุณไม่ให้ผมดื่มเหล้า วันนี้วันหมั้นของลูกสาว ยังจะมายุ่งกับผมอีกหรอ?" ทันใดนั้นเสียงที่หยาบคายดังมาจากในห้อง

"แม้ว่าราชาเทวดาจะอยู่ที่นี่ตอนนี้ ก็อย่าคิดว่าจะขวางผมได้..."

จากนั้นก็มีชายหน้าคล้ำๆ ก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกับไปป์ในปากของเขา เขาจ้องมองด้วยสายตาพยัคฆ์ ให้ความรู้สึกไม่เป็นมิตรกับใครทั้งนั้น

ชู่หยวนฟงพูดออกเสียงออกมา: "พ่อ"

โจวเลี่ยเงยหน้ามามองชู่ฟง ทั้นใดนั้นร่างกายเขาก็สั่น...

ปัง!

ทันใดนัน้ไปป์ในมือของเขาก็ตกลงบนพื้น

เขาบีบขาของเขาด้วยความไม่เชื่อ จากนั้นก็เดินหาชู่หยุนเฟิง ราวกับว่ามีเรื่องมากมายที่จะพูด แต่สุดท้ายแล้วก็ตะโกนออกไป

"กลับมาแล้วรึ?"

เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย

"กลับมาแล้ว" ชู่หยวนฟงตอบ

โจวเลี่ยกัมหมัดแน่น ต่อยไปที่อกของชู่ฟงอย่างแรง น้ำตาคลอ: "แข็งแรง สูงขึ้นด้วย"

"ไม่เสียเวลาที่เป็นทหารมาหลายปี"

หลิวหมิงหลานพูดอย่างไม่พอใจ: "พูดอะไรไปเรื่อยหน่ะ เสี่ยงเฟิงยังผอมอยู่เลย คุณดู ลำบากขนาดไหนเนี่ย"

โจวเลี่ยเอาแต่หัวเราะ แขนที่แข็งแรงของเขาโอบไหล่ของชู่ฟงโดยไม่รู้ตัว แต่ก็พบว่าเด็กหน้าโง่ตอนนั้น สูงขึ้นมาหลายเท่าเลย

โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว!

"ปะ ดื่มเหล้ากันหน่อย"

"โอเค"

ชู่หยวนฟงเดินเข้าไปในห้องกับโจวเลี่ย รักพ่อมากมาย ไม่พูดแต่ก็รู้สึกได้

ไม่ได้แสดงการกระทำใดๆ แค่ดื่มเหล้าหนึ่งชามก็เพียงพอแล้ว

เพื่อนบ้านแถวๆ นั้นต่างก็สนใจกับเรื่องที่ชู่หยวนฟงกลับมา จึงพากันคุยแต่เรื่องของชู่หยวนฟง

"ลูกเลี้ยงของตาโจวนั่นหน่ะ ออกจากบ้านไปเป็นทหารสิบปีก่อน ทำไมถึงกลับมา?"

"จะเพราะอะไรหล่ะ ก็อยู่ในกรมไม่รอดไง ดูชุดโทรมๆ นั่นสิ น่าสิ้นหวังจริงๆ"

"เห็นธาตุแท้ตั้งแต่เล็กๆ แล้ว ฉันเคยพูดแล้วว่า เจ้าเด็กนี่ไม่ได้เรื่องหรอก"

"เคยได้ยินมาว่าเขาเคยแอบคบกับอิ๋งอิ๋งตอนเด็ก ตาโจวนี่ก็ตั้งใจจับคู่พวกเขา แต่โชคดีที่อิ๋งอิ๋งไม่ได้แต่งานกับเขาสะก่อน ไม่งั้นเธอก็เสียอนาคตเปล่า

"ฮ่าๆ คู่หมั้นของอิ๋งอิ๋งคือชายหนุ่มที่ร่ำรวยจากตระกูลใหญ่ ซึ่งเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ แค่เจ้าเด็กยากจนคนนี้ ไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ของเธอ"

"ก็ใช่หน่ะสิ แล้วบ้านโจวสองคนนั้นก็เอาเขาเป็นลูก ใครจะไปสนใจ!"

คนรอบๆ พากันพูดไม่หยุด

จู่ๆ บรรยากาศงานเลี้ยงที่ปกติรื่นเริ่งและมีชีวิตชีวาก็เริ่มแปลกๆ ไป

ชู่หยวนฟงผ่านความยากลำบากจะเป็นจะตายมาหลายปี เห็นธาตุแท้ของมนุษย์มานานแล้ว เขาไม่ได้แคร์คำพูดดูถูกเสียดสีพวกนี้สักนิด

ในทางกลับกันหลิวหมิงหลานที่ค่อนข้างเป็นคนตรงๆ และน่ากลัวอย่างมาก เธอจึงด่าผู้คนเหล่านั้นที่พูดพล่อยๆ ออกมา ใครกล้าพูดคำพูดพวกนั้นออกมาอีก เธอจะเอาน้ำล้างเท้าสาดใส่หน้า!

โจวเลี่ย เฮอะ! จับมือของชู่ฟง และตั้งใจตะโกนไปที่ผู้คนยืนอยู่: "ไป ลุก ไปนั่งหัวโต๊ะกับพ่อ"

"พวกเรามาดื่มกันให้สนุกเถอะ!"

"พ่อ!"

โจวอิ๋งที่เป็นลูกของเขาทั้งสองหน้าแดง ขมวดคิ้วไม่พอใจ

ตรงหัวโต๊ะ มีผู้สูงศักดิ์อยู่สองสามคน พาชู่หยุนเฟิงเข้ามานั่ง หมายความว่าอะไร?

นี่ไม่เท่ากับว่าทำให้ตัวเองอับอายหรอ

เธอนั่งลงด้วยความโมโห ทักทายแขกรอบๆ ทุกคนอย่างมีชีวิตชีวา ยกเว้นชู่ฟงที่เธอไม่สนใจ

ราวกับว่าเขาเป็นแค่อากาศ

"อ๋า เจ้าบ่าวมาแล้ว"

"ยินดีด้วย ขอให้อยู่ด้วยกันนานๆ"

"ช่างเป็นคู่สร้างคู่สมจริงๆ"

ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงแสดงความยินดีจากฝูงชนขึ้น ซุนหมิงซวนเจ้าบ่าวรูปหล่อใส่ชุดสูทและรองเท้าหนังที่จับไปที่แขนของโจวอิ๋ง กำลังดื่มเหล้าเฉลิมฉลง แสดงความขอบคุณและทักทาย

ในเวลาแปปเดียวก็สามารถหาเจ้าบ่าวได้แล้ว

โดยเฉพาะโจวอิ๋งที่สามารถหาลูกเขยที่หล่อเหลาอย่างซุนหมิงซวนได้ ญาติหลายๆ คนพากันอิจฉาตาร้อน พากันโทษโชคชะตาของตัวเองไม่ดี ไม่โชคดีแบบนั้น

"ฉันขอแนะนำให้รู้จักคู่หมั้นของฉันคนนี้ ซุนหมิงซวน" โจวอิ๋งเดินมายังชู่หยวนฟง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งเหมือนกับหงส์ขาวที่สูงศักดิ์

"เขา คือลูกบุญธรรมของพ่อฉัน ชู่หยนฟง"

ชู่หยวนฟงเสียหน้าเล็กน้อย เด็กน้อยที่แต่ก่อนรูปลักษณ์ไม่ได้ต่างจากเขามา ตอนนี้ต้องเรียกเขาอย่างไม่เต็มใจว่า: "พี่"

"โอ้?"

ซุนหมิงซวนได้สติกลับคืนมา มองชุ่หยุนเฟิงหัวจรดเท้า เขาก็เคยได้ยินคำพูดที่ไม่ดีมาบ้างว่าโจวอิ๋งและเขาเคยเป็นคู่รักกันในวัยเด็ก อีกทั้งโจวเลี่ยยังไม่ชอบเขา

เจ้านี่ มีสิทธิ์อะไรอยากมาเป็นคู่แข่งของตัวเอง?

"เคยได้ยินอิ๋งอิ๋งพูดถึงคุณอยู่ ผมดีใจที่คุณมางานหมั้นของพวกเราได้"

ซุนหมิงซวนยิ้มอย่างไม่เต็มใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีชีวิตชีวา แต่ภายในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความไม่จริงจัง:

"ซุนหมิงซวน เป็นทายาของบริษัทซุนกรุ๊ป ตอนนี้เป็นรองประธานของบริษัท เงินเดือนก็ ล้านแปด แต่ในไม่ช้าเดี๋ยวผมก็รับช่วงต่อจากพ่อแม่แล้ว อิ๋งอิ๋งจะแต่งงานกับผม และผมจะให้ความสุขกับเธอได้อย่างแน่นอน"

เขาพูดสาบานพร้อมกับโอบเอวของเธอ ทำท่าทางเหมือนตัวเองได้รับชัยชนะ:

"ได้ยินว่าคุณเพิ่งกลับมาจากรับใช้ทหารหรอ? ได้เลื่อนตำแหน่งหรือเปล่า? โอ้ เหมือนว่าจะไม่ ไม่งั้นคุณคงไม่คงไม่ถูกปลดออกมาหรอก"

"เด็กคนนี้ เหมือนคนโตมาแบบไม่มีประสบการณ์และไม่ได้มีความสามารถ ยากที่จะมีอนาคตที่ก้าวไกล..."

โจวเลี่ยกระแทกแก้วเหล้าบนโต๊ะ และพูดอย่างไม่พอใจ: "คุณไม่พูดก็ไม่มีใครว่าว่าเป็นใบ้หรอกนะ"

บริษัทขนาดกลางที่ค่อนไปทางเล็กที่มีมูลค่าไม่เท่าไหร่ ยังมาทำหน้ามั่นอกมั่นใจ คิดว่าเป็นบริษัทซุนกรุ๊ปอะไรกัน?

ไม่มีอะไรมากไปกว่าการจงใจพูดให้ตัวเองดูสูง เพื่อจะเหยียบชูหยุนเฟิงหรอก

สายตาของเขาไม่ผิด แค่มองนิดเดียวก็เห็นถึงความคดโกงในจิตใจของซุนหมิงหยวนได้อย่างรวดเร็ว

"ชู่หยวนฟงเป็นลูกของผม เขาจะเป็นไง ก็ไม่ต้องการให้พวกคุณมาชี้ทางหรือพูดอะไรใส่"

"พ่อตา ผมก็แค่อยากเทคแคร์ชู่หยวนฟงเป็นปกติก็เท่านั้น ไม่ต้องวู่วามไป" ซุนหมิงซวนหัวเราะแบบไม่ได้ใส่ใจ เขามองดูถููกชู่เฟิง และพูด:

"ชู่หยนฟง ทุกคนก็เป็นคนกันเอง พูดอะไรนิดหน่อย คุณคงไม่ได้ใส่ใจหรอกเนอะ ใช่ไหม?"

แต่ในเวลานี้ ชู่หยวนฟงกำลังใส่หูฟัง เขาเหลือบๆ ตามอง: "พูดอะไรนะ?"

มุมปากของซุนหมิงซวนกระตุกจะพูดว่าไอเด็กนี้...

โจวอิ๋งพูดด้วยความไม่พอใจ: "ชู่หยวนฟง คุณนี่ไม่มีมารยาทเอาสะเลย หมิงซวนใส่ใจคุณถึงพูดเรื่องพวกนี้กับคุณ เะอกลับไม่ฟังงั้นหรอ?"

"ต้องขอโทษด้วย ชินกับที่ทำงานหน่ะ" ชู่หยวนฟงยังคงสงบ เขายืดอก: "ผมไม่ได้สนใจคำพูดไร้สาระพวกนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว"

"เปลืองเวลาชีวิต"

"คุณ..." ซุนหมิงซวนโกรธจนหน้าแดง วางตัวเป็นบอสที่เพอร์เฟคอย่างตัวเอง เจาโง่นี่มันทำไมมองไม่ออก?

นี่มันอะไรกัน!

ทว่าโจวอิ๋งกลับกัดฟันแน่น เธอเกลียดชู่หยวนฟงแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนนี้

แต่โจวเลี่ยดีใจอย่างมาก หัวเราะออกมา: "ช่างเป็นเด็กที่ดี มา ดื่มกับพ่ออีกสักหน่อย"

"พ่อ ดื่ม!"

ชู่หยวนฟงไม่ได้สนใจสักนิด และดื่มกับโจมเลี่ยอย่างหนำใจ ทั้งยังเอาซุนหมิงซวนวางไว้นอกสายตาอย่างสมบูรณ์ ทำให้เขารู้สึกถึงความอับอาย

ในเวลานี้ โจวอิ๋งจับมือของซุนหมิงซวน พูดอย่างอ่อนโยน: "คุณเป็นลูกเขยของตระกูลโจว อย่ามีเรื่องกับพ่อเลย"

ความหมายก้คือ แม้ว่าโจวเลี่ยจะของชู่หยวนฟง แต่ก็ไร้ประโยชน์

คนที่ได้ความดีความชอบ ไม่ใช่ซุนหมิงซวนหรอ?

ซุนหมิงซวนรู้สึกดีขึ้นมาทันใด เขายิ้ม: "ก็ใช่สิ พ่อก็แค่อารมณ์ไม่ดีง่าย ผมชินแล้ว"

เขาเหลือบมองไปที่ชู่หยวนฟงและหัวเราะเยาะอย่างร้ายกาจ!

เขาไม่กล้าทำอะไรกับโจวเลี่ย แต่กับเจ้าชู่หยุนเฟิงคนนี้...

กล้าทำให้ตัวเองอับอายต่อหน้าผู้คนหรอ? ดูสิว่าวันนี้จะจัดการคุณให้น่วมยังไง!

หลังจากดื่มมาสามรอบและกินอาหารมาอย่างเอร็ดอร่อย แขกผู้มีเกียรติรอบๆ ก็ดื่มยินดีให้กับซุนหมิงซวน เพื่อเอาใจเต่าทองที่มีภูมิหลังที่ดีตัวนี้

ซุนหมิงซวนก็ค่อนข้างภูมิใจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหางาน ยืมเงิน หรือแม้กระทั้งการเสนองานให้ ก็สามารถช่วยเหลือได้ ทำให้เค้าเป็นที่ชอบใจของหลายๆ คน

โจวอิ๋งรู้สึกภาคภูมิใจและตื่นเต้นมากขึ้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกโชคดีที่เธอไม่ได้ตาบอดและได้แต่งงานกับเด็กชายที่น่าสงสารชุ่หยุนเฟิง

แล้ววันไหนจะมีวันที่เฉิดฉายแบบนี้

ในเวลานี้ หลิวหมิงหลานที่มีเรื่องหนักอึ้งในใจ จู่ๆ ก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา: "หมิงซวน ตระกูลของคุณมีบริษัทใหญ่โต กิจการกว้างขวาง แน่นอนต้องการคนเชื่อใจมาช่วยเหลืองานหน่ะสิ"

"ชู่หยวนฟงเพิ่งจะปลดประจำการกลับมา ตอนนี้ยังไม่มีงาน เอางี้ไหม เธอช่วยจัดการหน่อย?"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

463