บทที่ 14 ในที่สุดคุณพ่อก็กลับมา

เวลาเจ็ดโมงเช้าดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเป็นชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้าทางเข้าโรงเรียนอนุบาลก็คึกคักไปด้วยฝูงชน

เป็นไปตามที่คาดชู่หยวนฟงที่ซึ่งอยู่อีกฝั่งตรงข้ามถนนเห็นสาวสวยเล็กใหญ่ซูมู่ชิงสองแม่ลูกสาว

ซูมู่ชิงยังคงเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและมีเสน่ห์เหมือนตอนพบกันครั้งแรก โต๋โต๋จับมือของแม่เธอไว้สวมชุดกระโปรงสวยงามพร้อมกับกำไลหยกในมือดูแล้วน่ารักมีชีวิตชีวาเรากับตุ๊กตาที่ผู้คนต่างให้ความรักกับมัน

ชู่หยวนฟงที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึงสองแม่ลูกทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นและอยากจะรีบวิ่งเข้าไปกอดลูกสาวตัวน้อยของเธอไว้ในอ้อมกอด

แต่แล้วในความเป็นจริงเขากลับไม่มีความกล้าพอที่จะก้าวออกไป

สิบปีที่อยู่ในกองทัพในชีวิตของชู่หยวนฟงไม่เคยมีคำว่าถอยแต่เมื่อเขาเผชิญหน้ากับสองแม่ลูกมันกลับทำให้เขารู้สึกลังเล

“เมื่อกี้ฉันยังโทษอ๋องชู่ไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกผู้ชายไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อคนแล้วฉันล่ะมันจะต่างอะไรกัน….”

ในใจชู่หยวนฟงรู้สึกสับสนมึนงงไปหมดและด้วยประสบการณ์ที่เขาเคยผ่านมาทำให้เขาได้เข้าใจว่าสองแม่ลูกต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่มีใครดูแลมานานถึงห้าปี จึงทำให้เขารู้สึกผิดไม่กล้าที่จะเข้าไปยอมรับกับพวกเธอ

ห้าปีที่ไม่เคยสนใจหรือแยแสแต่มาวันนี้ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันหากเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็คงจะยอมรับไม่ได้ในทันที?

ยิ่งให้ความสำคัญมันยิ่งทำให้เขารู้สึกขี้ขลาดขึ้น

เขากลัวว่าเมื่อเปิดเผยฐานะที่แท้จริงจะทำให้ต้องสูญเสียซูมู่ชิงและโต๋โต๋จากคนรักกลายเป็นศัตรูที่ไม่มีวันได้พบกัน

เหมือนกับเขาและอ๋องชู๋เช่นเดียวกับตระกูลชู่ในเมืองหลวง

ชู่หยวนฟงจุดบุหรี่ขึ้นสูตรพร้อมกับพ่นควันออกมาแล้วมองดูสองแม่ลูกจะที่อยู่ห่างไม่ไกล จากนั้นความสับสนยุ่งเหยิงในใจของเขาก็หายไปหมดและใบหน้าของเขามีรอยยิ้มผุด….ขึ้น

เขามองดูลูกๆของคนอื่นที่อยู่ในโรงเรียนอนุบาลแล้วใบหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “ดูยังไงก็ลูกสาวของฉันน่ารักที่สุดสวยที่สุดพวกตัวตลกพวกนี้เทียบกับลูกสาวสุดที่รักของฉันไม่ได้”

จากนั้นไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “เจ้าเด็กผู้ชายพวกนี้ก็ไม่ไหวแต่ละคนดูปัญญาอ่อนไม่มีความรู้ ไม่มีคนไหนเลยที่ดูแล้วเข้าตาอนาคตลูกสุดที่รักของฉันจะต้องไม่แต่งงานกับเจ้าตัวเหม็นพวกนี้….”

“อืม ฉันจำเป็นต้องจับตาดูให้ดีเพราะการมีความรักในวัยเด็กมันเป็นปัญหาใหญ่….”

ชู่หยวนฟงคิดหนักใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

“ฮัดชิ้ว!”

โต๋โต๋ที่อยู่ไม่ไกลจามขึ้นเธอกระพริบตากลมโตที่ไร้เดียงสาของเธอตอนนี้เธอไม่มีทางที่จะจินตนาการได้เลยว่าเธอที่เป็นเด็กอายุสี่ขวบจะถูกชู่หยวนฟงพ่อของเธอจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว

“คุณแม่หนูเป็นหวัดอีกแล้วไม่ไปเรียนได้หรือเปล่า” โต๋โต๋ทำหน้าตาน่าสงสาร

“ไม่ได้!” ซูมู่ชิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด

“อืมก็ได้ได้” เจ้าตัวน้อยรู้สึกผิดหวังทันที

แน่นอนว่านี่เป็นปัญหาหนึ่งสำหรับการเข้าเรียนห้ามต่อรองเด็ดขาด ซูมู่ชิงนั่งยองลงไปจากนั้นใช้กระดาษทิชชูเช็ดหน้าของโต๋โต๋อย่างรักใคร่พร้อมกับพูดบ่น “จะโทษใครได้ล่ะ?ใครบอกให้หนูกลางค่ำกลางคืนไม่นอนเอาแต่ไปนั่งอยู่หน้าประตูบ้าน”

“ก็...ก็หนูรอคุณพ่อกลับมานี่นา ถ้าเกิดเขากลับมาแล้วหาบ้านไม่เจอหาโต๋โต๋ไม่เจอจะทำยังไง?”

โต๋โต๋พูดพร้อมกับทำหน้าจริงจังน้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความคาดหวัง “คุณแม่คุณลุงแปลกประหลาดบอกว่าคุณพ่อจะกลับมาแล้วจริงหรือเปล่า? เขาไม่ได้โกหกหนูใช่หรือเปล่า...”

ซูมู่ชิงรู้สึกปวดใจแปลบเธอพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงขอเพียงแค่หนูเชื่อฟังแม่นอนพักผ่อนเยอะๆและเรียนดีๆคนพ่อก็จะรีบกลับมาเองแหละ”

“เย้!”

เด็กหญิงตัวน้อยกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจพร้อมกับดวงตาของเธอที่โค้งงอเป็นเสี้ยว “คุณพ่อจะกลับมาแล้วโต๋โต๋มีพ่อแล้ว….”

“โต๋โต๋วิ่งช้าๆระวังจะหกล้มเอานะ!”

ซูมู่ชิงพูดด้วยความเป็นห่วง

เธอกระโดดเด้งเด้งไปตลอดทางนี่แหละนะเด็กที่มีชีวิตชีวาและความน่ารักเธอจะไปคิดถึงเรื่องอื่นได้อย่างไรและในขณะนั้นเองก็มีรถBMWขับตรงเข้ามา

ดิดิดี้! !

เสียงแตรดังแสบแก้วไม่หยุด รถขับเข้ามาด้วยความเร็วและเบรคไม่อยู่กำลังจะพุ่งชนโต๋โต๋….

ชู่หยวนฟงที่อยู่ตรงข้ามถนนเมื่อเห็นภาพนี้ก็รีบพุ่งเข้าไปอย่างไม่กลัวอันตราย!

“โต๋โต๋!” ซูมู่ชิงตกใจจนหน้าซีดขาว เธอร้องอุทานออกมาจากนั้นโยนกระเป๋าทิ้งแล้ววิ่งเข้าไปอย่างไม่คิดชีวิต

แต่ความเร็วของคนเหรอจะเทียบกับความเร็วของรถยนต์ได้!

เสียงเบรคที่ดังแสบแก้วหูกับเสียงแตรที่ดังไม่หยุดทำให้โต๋โต๋ตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า เธอยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ผู้คนรอบข้างต่างก็ถูกภาพนี้ดึงดูดสายตามองไปภาพที่อยู่ตรงหน้ามีทั้งรู้สึกตกใจสงสารและประหลาดใจและเสียดาย

เป็นเด็กที่ดีอะไรขนาดนี้น่าเสียดาย!

เป็นอุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนอีกแล้ว ในระยะทางที่ไกลขนาดนี้อย่าว่าแต่เด็กเลยแม้แต่ผู้ใหญ่ก็คงต้องถูกชนจนร่างแยกออกเป็นเจ็ดแปดส่วนถึงแม้พระเจ้าจะมาก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

“โต๋โต๋” ซูมู่ชิงล้มทั้งยืนเธอกรีดร้องอย่างแทบขาดใจจากนั้นเธอไม่สามารถทนรับกับภัยอันตรายที่อยู่ตรงหน้าจนสลบไป

และในช่วงวินาทีหัวเลี้ยวหัวต่อนี่เองมีเงาสายหนึ่งพุ่งเข้ามาราวกลับสายฟ้า ชู่หยวนฟงก้าวออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับร่างกายที่กำยำของเขาขวางอยู่ตรงกลางระหว่างรถBMWที่เสียการควบคุมกับโต๋โต๋และอุ้มเธอที่กำลังตื่นตระหนกขึ้น

“เขา...เขาช่างเป็นคนดีจริงๆแต่น่าเสียดายถึงแม้เขาจะช่วยเด็กได้แต่ตัวเองก็ต้องถูกรถชนตายอยู่ดี”

ฝูงชนต่างพากันถอนหายใจและจินตนาการถึงภาพที่หน้าสลดที่ชู่หยวนฟงถูกรถชนจนกระเด็น

แต่วินาทีต่อมาทุกคนต่างพากันมองตาค้างพร้อมกับสูดหายใจที่เย็นวาบเข้าไป...

เห็นเพียงชู่หยวนฟงที่มือซ้ายอุ้มโต๋โต๋หันกลับมามองรถBMWที่สูญเสียการควบคุมจากนั้นใช้มือขวาของเขากดลงไปที่กระโปรงรถของรถBMW

“หลบไป!”

จิจิจิ….

รถBMWที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วราวกับว่าชนเข้ากับภูเขาลูกใหญ่ท้ายรถของมันยกขึ้นเกือบจะครึ่งเมตร ส่วนหน้าของรถบีบอัดเข้าด้วยกัน ชู่หยวนฟงออกแรงเหวี่ยงทำให้รถBMWลอยกระเด็นไปหลายสิบเมตร ยางล้อเสียดสีกับพื้นถนนอย่างรุนแรง มีควันดำพวยพุ่งออกมาและหยุดลงในที่สุด

หมอ…..หมอนี่เป็นยอดมนุษย์?

รถยนต์ที่พอจะชนวัวจนกระเด็นแต่เขากับใช้มือเดียวเหวี่ยงมันออกไป?

ทุกคนต่างมองตาค้างและเต็มไปด้วยความโกลาหล

“โต๋โต๋เป็นยังไงบ้างไม่เป็นอะไรใช่หรือเปล่า?”

ตอนนี้ชู่หยวนฟงไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจคำพูดของผู้คนรอบข้าง เขามองลูกสาวของตัวเองที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยใบหน้าที่เป็นห่วงจนหัวใจของเขาแทบจะหลุดออกมา

“ลูกรักอย่าทำให้ฉันตกใจนะ...”

ดวงตาของชู่หยวนฟงแดงก่ำเขาสาบานถ้าหากลูกสาวของเขาเป็นอะไรไปเขาจะต้องให้คนขับต้องชดใช้อย่างสาสมแน่นอน

โต๋โต๋ที่อยู่ในอ้อมแขนถึงแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ก็ตกใจสุดขีดทำให้ใบหน้าของเธอซีดขาว จู่ๆเธอก็ตะโกนออกมายังไม่ได้สติ

“คุณพ่อ...”

ชู่หยวนฟงตัวสั่นไปทั้งตัววินาทีนี้หัวใจของเขาสั่นจนแทบจะหลุดออกมา “เธอ...เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?”

“คุณพ่อให้คุณพ่อหรือเปล่า?” โต๋โต๋ที่อยู่ในอาการสับสนมึนงงมือเล็กๆคู่นั้นของเธอยื่นไปจับแก้มของชู่หยวนฟงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง “คุณแม่เคยบอกว่าถ้าโต๋โต๋อยู่ในอันตราย โต๋โต๋ต้องการคนปกป้องคุณพ่อก็จะปรากฏตัวออกมา คุณพ่อเป็นยอดมนุษย์เป็นฮีโร่คุณแม่ไม่ได้โกหกโต๋โต๋…..”

เด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ในอาการตกใจสุดขีดมือเล็กๆของเธอกอดคอของชู่หยวนฟงแน่น ใบหน้าที่ซีดเขาของเธอกับเต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัยและความสุข รอยยิ้มของเธอดูน่ารักเป็นพิเศษ

“ในที่สุดคุณพ่อก็กลับมาแล้ว โต๋โต๋คิดถึงพ่อ….”

“อย่าจากโต๋โต๋ไปได้หรือเปล่า โต๋โต๋ต้องการให้พ่อปกป้อง”

วินาทีนี้น้ำตาของชู่หยวนฟงแทบล้นทะลักออกมาจนห้ามไม่อยู่ เขาจับมือน้อยๆที่เย็นเฉียบของลูกสาวไว้แน่นแล้วหอมแก้มเธอ “ลูกรักพ่อกลับมาแล้ว”

“พ่อขอสัญญาว่าพ่อจะไม่มีวันอยากหนูไปอีกไปอีก ไม่มีวัน”

“ดี...ดี……...”

โต๋โต๋ที่อยู่ในอ้อมแขนพูดพล่ามเหมือนหมีโคล่ากอดชู่หยวนฟงไว้แน่น หัวเล็กๆของเธอพิงลงบนหน้าอกของชู่หยวนฟงแล้วหลับไป

รอยยิ้มบนใบหน้าที่ซีดขาวของเธอดูใสซื่อบริสุทธิ์เต็มไปด้วยความสุข

วันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุดหนึ่งวัน มีความสุขจนเหมือนกับว่ากำลังฝันหวานอยู่

“ถ้าหากว่านี่เป็นความฝัน โต๋โต๋ก็หวังว่าคุณปู่พระอาทิตย์จะตื่นช้าหน่อย ตื่นช้าอีกนิดนึง...”

“ถ้าคุณปู่พระอาทิตย์ตื่นแล้วคุณพ่อก็ต้องจากโต๋โต๋ไป...”

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

463